มกราคม 2568
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
10 มกราคม 2568

: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - เมตตาภาวนา คำสอนว่าด้วยรัก :


: เมตตาภาวนา คำสอนว่าด้วยรัก :
เขียน : ติช นัท ฮันห์
แปล : ธารา รินศานต์








ความสุขเกิดจากความรักที่แท้จริง
ความรักที่แท้จริง คือ ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
ทางเถรวาทเรียกสิ่งนี้ว่า “พรหมวิหาร 4”
แต่ในสายมหายานอาจสรุปแนวคิดได้เป็น

1. เราปรารถนาจะเห็นผู้อื่นมีความสุข เบิกบานใจ
2. เราปรารถนาจะเห็นผู้อื่นพ้นทุกข์
3. อยู่เป็นสุขในปัจจุบันขณะ และแบ่งปันความสุขความยินดีให้กับคนรอบตัว
4. รักโดยไม่เห็นแก่ตัว ไม่แบ่งแยกเขา-เรา รักโดยไม่ลำเอียงหรือมีอคติ

‘ความรัก’ ซึ่งขาด ‘ความเข้าใจ’ ย่อมไม่ใช่ความรักที่แท้จริง
เราจะรักได้อย่างแท้จริง เมื่อจิตใจของเราเต็มเปี่ยมไปด้วย ‘ความเมตตา’
คุณประโยชน์ของ ‘ความเมตตา’ นั้น หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ได้ให้นิยามไว้ว่า



“ถึงจะรวบรวมกุศลทั้งมวลบรรดามีในโลก
ก็ยังไม่อาจเทียบเท่าได้กับการปฏิบัติเมตตาภาวนา
การสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม สร้างพระพุทธรูป หล่อระฆัง
หรืองานสังเคราะห์สังคมอื่นใด
ก็ยังได้บุญไม่ถึง 1 ใน 16 ส่วนของการปฏิบัติเมตตาภาวนา
แม้เราจะเอาแสงจากดวงดาราทั้งหลายมารวมกัน
ก็ยังไม่อาจสว่างไสวได้เทียมเท่ากับแสงจันทร์
ในทำนองเดียวกัน การปฏิบัติเมตตาภาวนา
ก็ยิ่งใหญ่กว่าการทำกุศลอื่น ๆ ทั้งปวงมารวมกันเสียอีก”



ผู้คนมักจะคิดว่า ‘ความทุกข์’ ของตนเองนั้นมาจากผู้อื่น มาจากพ่อแม่พี่น้อง เพื่อนฝูง
หรือแม้แต่คนซึ่งเราเกลียดชังคลั่งแค้น แต่แท้จริงแล้ว ทุกข์ทั้งมวลเกิดขึ้นจากความคิดที่เห็นผิด
เกิดจากความคิดที่ไร้สติกำกับ จนสร้างความโกรธ เกลียด ความทุกข์ทรมาน ความกลัว
และความว้าวุ่นใจทั้งปวง

มีเพียงการใช้ ‘กุญแจแห่งความเข้าใจ’ ไขประตูของความรักเข้าไปเท่านั้น
เราจึงจะได้เรียนรู้ถึงการยอมรับตัวเองและผู้อื่น
การที่เราไม่สามารถยอมรับผู้อื่นได้ นั่นเป็นเพราะเราก็ยังไม่สามารถยอมรับตัวเองได้นั่นเอง
ผมชอบตัวอย่างที่หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ เล่าไว้ในหนังสือ



“ถ้าเธอรักใครสักคนจริง ๆ เธอต้องดำรงอยู่อย่างแท้จริงเพื่อคนผู้นั้น
เด็กชายวัยสิบขวบคนหนึ่งที่ข้าพเจ้ารู้จัก ถูกพ่อถามว่าอยากได้อะไรในวันเกิด
เจ้าหนูก็ตอบไปว่า “พ่อครับ ผมอยากได้พ่อนั่นแหละ”
พ่อของเจ้าหนูนั้นยุ่งมาก จนไม่มีเวลาให้กับครอบครัวตัวเอง
ลูกชายรู้ว่าของขวัญล้ำค่าที่สุดที่พ่อน่าจะมอบให้ได้ ก็คือ การที่พ่อได้มีเวลาอยู่ด้วยจริง ๆ”



‘การภาวนาเมตตา’ ของพุทธสายมหายาน หรือ เซนแบบเวียดนามที่หลวงปู่สอน
จึงมีความคล้ายคลึงกันมากกับ ‘บทแผ่เมตตาให้ตนเอง’ และ ‘บทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์’
ซึ่งเราส่วนใหญ่ต่างคุ้นเคยและสวดกันได้ เพียงแต่ในการภาวนาที่หลวงปู่สอนนั้น
ท่านก็จะสร้างชุดคำสวดภาวนาขึ้นมาในรูปแบบซึ่งต่างกันออกไปกับทางพุทธเถรวาท

แต่ที่สุดแล้ว....เราต้องนอมนำ ‘บทภาวนา’ เหล่านั้นให้อยู่ภายในใจของเรา
และต้องหมั่นปฏิบัติฝึกฝน จนเกิดผลแห่งความเปลี่ยนแปลงในจิตตน

ทุกครั้งที่เกิดความรู้สึกโกรธ เป็นทุกข์ กลัว เศร้าใจ กังวลใจ ฯลฯ
เราควรรีบกลับมาอยู่กับ ‘ลมหายใจ’ ของตนเอง
การกลับมาสู่ลมหายใจ คือ การฝึกฝนการ ‘รู้สึกตัว’
เมื่อรู้สึกตัวได้เร็ว อารมณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบ
ก็จะถูกรับรู้และมองเห็นอย่างทันท่วงที

เมื่อเห็นและรู้แจ้งในอารมณ์ที่เกิดขึ้น การปรุงแต่งและการยึดติดในอารมณ์นั้น
ก็จะค่อย ๆ ลดน้อยถอยลง จนคลายและหายไปในที่สุด
นี่คือ หนทางแห่งการพ้นทุกข์อย่างแท้จริง

หลวงปู่ติช นัท ฮันห์จึงให้ความสำคัญกับการฝึกฝนตน เพื่อการรู้สึกตนอย่างยิ่ง
เราสามารถสร้างบทภาวนาขึ้นใหม่ด้วยตัวเอง เพื่อให้อภัยกับคนที่เราเคยเกลียดโกรธ
และฝึกส่งมอบความปรารถนาดีมีเมตตาให้กับสรรพสิ่งทั้งมวล
โดยเราสามารถฝึกสตินี้ในทุกขณะ ไม่ว่าจะ ยืน เดิน นั่ง นอน จิบน้ำชา กวาดลานบ้าน
หรือแม้แต่การเดินอย่างมีสติ เพื่อนำไปสู่ความสงบงามของชีวิตในทุกขณะ

หนังสือเล่มนี้จึงมีแนวทางในการสร้างบทสวดภาวนาที่หลากหลาย
และเราสามารถนำไปปรับใช้ให้ตรงกับความรู้สึกนึกคิดของตนเอง

เมื่อเราเข้าใจและทำได้
เมื่อนั้นเราย่อมเข้าใจในรัก
และรักของเราจะเปี่ยมไปด้วยความเมตตา
ซึ่งนั่น คือ หนทางอันงดงามที่สุดของชีวิต






























Create Date : 10 มกราคม 2568
Last Update : 10 มกราคม 2568 5:23:44 น. 15 comments
Counter : 518 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnonnoiGiwGiw, คุณหอมกร, คุณtanjira, คุณmultiple, คุณThe Kop Civil, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณnewyorknurse, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณกะริโตะคุง, คุณmcayenne94, คุณปรศุราม, คุณNior Heavens Five, คุณสองแผ่นดิน, คุณปัญญา Dh


 
น้องตื่นตีสี่อีกแล้วจร้าา แล้วก้อทำทุกอย่างเสร็จตอนตีห้าครึ่ง ทั้งกุ้งย่าง เนื้อเสียบไม้ย่าง ปลาหมึกย่าง หน่อไม้ฝรั่งย่าง ไข่ดาว บลาๆ เพื่อนบ้านหิวแต่เช้าแน่


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:6:08:18 น.  

 
วันนี้มาก่อนคุณธัญอีกวัน
ช่วงนี้เธอดูเพลียๆ นะคุณก๋า



โดย: หอมกร วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:7:07:34 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะก๋า

เรามักจะคิดว่า ความทุกข์ของเรามาจากผู้อื่น

ทำให้พี่คิดถึงตอนที่ไปพบจิตแพทย์เลยค่ะ
หมอจะถามว่าเราเป็นยังไง?
พี่ก็บอกว่าทำไมรู้สึกน้อยอกน้อยใจกับคำพูดเล็กๆน้อยๆของคนรอบตัว
ร้องไห้ได้ง่าย รู้สึกหดหุ่ เบื่อหน่าย ....
เรามักโทษว่าเพราะสิ่งแวดล้อมที่เราอยู่ ทำให้เราไม่มีความสุข
เพราะดูครอบครัวเราไม่ค่อยสนใจใส่ใจกันเท่าที่เราอยากให้เป็น

สุดท้ายมันก็วกมาที่เรานั่นแหละค่ะ เพราะตัวเรานั่นเอง
โอเคสารเคมีในสมองก็ส่วนนึง และความคิดเราเองนั่นก็ส่วนนึง

พี่ก็เลยทั้งกินยา ทั้งปรับความคิดความรู้สึกของตัวเองมาเรื่อยๆ
ถึงวันนี้กินยาน้อยลง ความรู้สึกน้อยใจกับคำพูดไม่มีแล้วค่ะ

พยายามปล่อยทุกอย่างไปและคิดว่า พ่อแม่ก็แก่แล้ว
จะให้มารักใคร่กันเหมือนเมื่อก่อนก็ไม่ใช่
ส่วนพี่น้องใครจะสนใจพ่อแม่มากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่พวกเขาเลย
เราไปกำหนดกฏเกณฑ์ใครไม่ได้ ....

พยายามเข้าใจให้ได้มากที่สุดล่ะค่ะ

ช่วงนี้พี่ตื่นสาย เมื่อคืนก็ไอเยอะอยู่ค่ะ
ก็จะเพลียๆแบบคุณหอมกรบอกนั่นแหละค่ะ

ปล.ขอบคุณที่ก๋าบอกว่าพี่ถ่ายรูปสวย
กว่าจะได้ที่มาลงก็ถ่ายไปเยอะมากค่ะ


โดย: tanjira วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:7:42:56 น.  

 
ทุกสิ่งรอบตัวเรา ก็สามารถเป็นครู สอนเราได้หมดเลยนะครับ
ถ้าเรารู้จักคิด พิจารณา

วันนี้อากาศก็ยังเย็นสบาย น่าไปขี่จักรยานซักรอบ
แต่เดี๋ยวให้คนออกไปทำงานก่อน สายๆรถว่างดีครับ



โดย: multiple วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:8:27:07 น.  

 
แวะมาอ่านอีกรอบคุณก๋า



โดย: หอมกร วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:10:18:30 น.  

 
พรหมวิหาร 4 เอามาปฏบัติในการอยู่ร่วมกัน ผมว่าอยู่กันสงบสุขและมีความสุขเลยครับ
ช่วงนี้แถวบ้านผมค่าฝุ่นขึ้นตัวแดงทุกวัน ผมไม่ได้ตื่นมาออกกำลังกายเลยครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:10:39:29 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ พี่ก๋า

นอกจากอากาศยังเย็นอยู่ วันนี้มีลมพัดตลอดค่ะ
และมีฝุ่น PM2.5 ลอยไปลอยมาค่ะ 5555
ชีวิตคนเรานี่ต้องสู้ตลอดนะคะ

ข่าวบอกว่า ช่วง 12-16 อากาศจะเย็นลงอีกนะคะ




โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:11:35:50 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

"เมตตาภาวนา คำสอนว่าด้วยรัก" หนังสือเล่มนี้ เน้นเรื่อง
ของความรัก (รักที่บริสุทธิ์ รักที่ดี รักที่อยากให้คนที่เรารักเป็นสุข)
นี่แหละ เป็นความรักที่ไม่มีพิษภัย ความรักแบบนี้ ต้องคู่กับคำว่า
เมตตา เท่านั้น จ้ะ
โหวดหมวด แนะนำหนังสือ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:12:46:59 น.  

 
เราต้องแก้ปัญหาโดยการย้อยคอมออกมานอกห้องค่ะพี่ 55


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:14:48:48 น.  

 
สวัสดีครับพี่ก๋า

แหม่ ขึ้นต้นมาเรื่องความรัก แล้วคิดว่านี่เป็นเดือนกุมพา วาเลนไทด์ซะอีก
แต่ความรักมันก็ควรสำคัญทุกเดือน ไม่ใช่แค่เดือนกุมพาอ่ะนะครับ ^^

พรหมวิหาร 4 นี่เคยเรียน ตอนเรียนก็ตั้งใจอยู่ แต่ไม่เข้าใจ
เพิ่งมาเข้าใจเอาตอนโตนี่แหละครับ ตอนที่ความรักเราเป็นผู้ใหญ่แล้ว

แล้วใช่เลยครับ ความทุกข์ทั้งหมดเกิดที่ตัวเราเอง ความคิดเราเอง
ไม่คิดไม่เอามาใส่ใจก็ไม่ทุกข์ เหมือนไอ่ที่ผมบอกเรื่องความอยากมีของผมอ่ะครับ 5555

“การรู้ว่าตัวเองไม่รู้ คือก้าวแรกของการรู้” ผมชอบประโยคนี้มากครับ
I Know that I know nothing แต่ผมน่าจะได้ยินมาจากโสแกรติสอ่ะครับ

จริงครับ ความรักที่ขาดความเข้าใจ มันไม่ใช่ความรัก
เสียดายที่สุดท้ายก็ยังไม่เข้าใจ 555555

ช่วงนี้สมองผมยังไม่กลับมาโหมดทำงานเลยครับ หาเรื่องแต่จะหนีเที่ยวอยากเดียว 5555
แถมอยู่ๆ ก็ไปสารภาพกับลูกค้ามา “เบื่อ” ซะด้วยครับ 555555


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:17:36:45 น.  

 
สวัสดีครับ
เหมือนการเจริญภาวนาเลยนะครับ
รับรู้ มีสติ กำหนดลมหายใจเข้า-ออก กำหนดจิต พิจารณาความคิด อารมณ์ เหมือนเคยฝึกตอนเข้าค่ายพุทธบุตรสมัยมัธยม


โดย: กะริโตะคุง วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:18:47:45 น.  

 
การพ้นจากความทุกข์ ไม่ยาก มีทางเข้ามาได้หลายทาง
อยู่ที่ความศรัทธา ที่จะพ้นไปจากความทุกข์รึเปล่าเท่านั้น

หลายคนได้แต่อ่าน แต่ไม่เคยนำเข้ามาสู่ใจเลย
ย่อมเปล่าประโยชน์

บางคนกลับไม่เคยอ่าน
ทุกเรื่องราวอยู่ในธรรมชาติ ถ้าเราเห็นธรรมชาติอย่างถ่องแท้ชัดแจ้ง
เฝ้าดูเฝ้าสอนตนเอง สักวันความจริงของธรรมชาติจะปรากฎ
ความทุกข์เบาบางลงไปค่ะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:19:28:53 น.  

 
สวัสดีครับพี่ก๋า
หลายๆอย่างบางทีที่ทำให้เป็นทุกข์ เพราะเกิดจากการขาดความเข้าใจ
ถ้าเกิดความเข้าใจได้อะไรก็ราบรื่นขึ้นครับ


โดย: Nior Heavens Five วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:21:34:05 น.  

 
แต่ละอันอ่านแล้วได้ข้อคิดดี ผมชอบอันแรกนะ ถ้าไม่รู้ว่าไม่รู้อะไรนี่แย่แล้วล่ะครับ มันไปต่อได้ยากจริงๆ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:23:54:29 น.  

 
บทสวดมนต์ นะโมพุทธายะ จำมาจากหนังสือบทสวดมนต์รวมหลายๆอย่าง สวดแล้วคลายโกรธ โมโห
นะ เมตตา
โม กรุณา
พุท ปราณี
ธา ยินดี
ยะ เอ็นดู



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 10 มกราคม 2568 เวลา:23:56:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 395 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]