กุมภาพันธ์ 2551
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
1 กุมภาพันธ์ 2551

คำถามจากคนเกือบหล่อ......








สวัสดีครับพี่ก๋าราณี



....ผมไม่เคยอ่านคอลัมน์ของพี่หรอกครับ
แต่พี่ที่รู้จักกันเขาอ่านประจำ เขาเลยแนะนำให้ผมอ่าน
พี่พยูนศักดิ์ไงครับ พี่ก๋าราณีคงรู้จักดี
เห็นพี่พยูนศักดิ์บอกว่าเป็นแฟนประจำคอลัมน์พี่เลยครับ

....เมื่อสัปดาห์ก่อนผมมีปัญหาคิดไม่ตก มันเหมือนอกถูกภูเขาทับ
ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร พี่พยูนศักดิ์เลยแนะนำให้ผมเขียนจดหมายมาปรึกษาพี่ก๋าราณี
พี่พยูนศักดิ์เขาบอกว่าพี่ก๋าราณีเป็นคนแสนรู้ รู้ทุกเรื่อง

เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะครับ

.....เรื่องของผมมีอยู่ว่าเมื่อปลายปีก่อน
ผมเดินทางไปต่างจังหวัดแถบอีสานใต้อ่ะครับ
ผมเห็นรถบรรทุกหมู กับบรรทุกควายเพื่อเข้าโรงฆ่าสัตว์
พวกมันคงรู้ชะตากรรมดีว่าอีกไม่นานพวกมันคงต้องตาย
ผมเห็นน้ำตาควายไหลอาบสองแก้มที่เต็มไปด้วยขนของมัน
กับแววตาเศร้าที่มันมองมา ทำให้ผมรู้สึกสลดใจมากเลยครับ

แต่เรื่องมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นครับ


มันอยู่ตรงที่ว่า หลายๆคนบอกผมว่า
การกินสัตว์ใหญ่ บาปมากกว่าการกินสัตว์เล็กๆ
ผมไม่เข้าใจครับว่าทำไม

ในเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ใหญ่หรือสัตว์เล็ก
ต่างก็มีชีวิตหนึ่งเหมือนกัน ต่างก็รัก และอยากมีชีวิตอยู่จนตราบสิ้นอายุขัยเท่าเทียมกัน
แล้วเอาอะไรมาเป็นตัวชี้วัด ว่าชีวิตใครมีค่ามากกว่ากัน
ลองนึกดูนะครับ หากเราฆ่าควาย ๑ ตัว เท่ากับเราฆ่า ๑ ชีวิต
แต่ ๑ ชีวิตที่เสียไปของควาย นำไปทำอาหารให้คนอิ่มได้เป็นร้อยคน
กับการฆ่ากุ้ง ๑ ชีวิต ไม่สามารถทำให้คนอิ่มได้ในการสละ ๑ ชีวิตของมัน
คนต้องกินกุ้งมากกว่า ๑ ชีวิต

อย่างงี้จะถือว่าบาปมากกว่ามั้ยครับ

.....หวังว่าพี่ก๋าราณีจะให้ความกระจ่างนะครับ



ด้วยความเคารพอย่างสูง

บิ๊กยองจุน


คำถามโดย : บิ๊กยองจุน (big-lor )
วันที่ : 25 มกราคม 2551
เวลา : 13:55:01 น.








****************************


หวัดดีครับคนหน้าตาไม่ดี


ตกลงเป็น “บิ๊กยองจุน” หรือว่าเป็น “บิ๊กล่องจุ๊น”
สายตาผมไม่ดีครับ ช่วงนี้ดูรูปสาวๆมากไปหน่อย 5555

ฝากบอกพี่พยูนศักดิ์ของคุณด้วยว่า “แสนรู้” แถวบ้านผมใช้กับแมวน้ำครับ 55555
หล่อและหน้าตาดีแบบผมใช้คำว่า “ฉลาดจนหางกระดิก” จะเข้าท่ากว่า 55555+++







........................................



คำถาม : การกินสัตว์ใหญ่ บาปมากกว่าการกินสัตว์เล็กๆ
ผมไม่เข้าใจครับว่าทำไม


ครั้งหนึ่งมีคนถามผมว่า ฆ่าคนเลวบาปไหม ?
บีแอลว่าบาปมั้ยครับ

---- ถ้าไม่บาป
ฆ่าด้วยปืน กับ ฆ่าด้วยมีด
วิธีไหนบาปกว่ากัน ?


เราใช้ “ขนาด” ของร่างกาย
มาวัดคุณค่าของชีวิตไม่ได้นะครับ

เราจะบอกว่าเพราะเราเป็นคน ชีวิตของเราถึงมีค่ากว่ากวางป่า
หรือเพราะช้างตัวใหญ่กว่าเรา ช้างถึงมีคุณค่ากว่า

คิดแบบนี้แมลงสาปคงน้อยใจแย่
ยิ่งยุง...คงยิ่งน้อยใจเข้าไปใหญ่
เพราะฉันตัวเล็ก เลยตายได้ง่ายๆ
เพราะเป็นบาปเวรขนาดเล็กอย่างนั้นหรือ....







.....................................


โลกนี้อยู่ได้ด้วยระบบ “นิเวศวิทยา” ใช่มั้ยครับ
สัตว์ใหญ่กินสัตว์เล็ก สัตว์เล็กกินแมลง
แมลงกินพืช คนกินพืช

ลองหลับตาแล้วนึกดูว่าถ้าเราบอกว่า
คนไม่ควรกินวัวเพราะเป็นสัตว์ใหญ่
อะไรจะเกิดขึ้นครับ
วัวจะล้นโลก หญ้าจะไม่พอกิน เมื่อไม่มีหญ้า
แมลงก็อยู่ไม่ได้.....

บางครั้งก็เป็นเรื่องจำเป็นที่เราต้อง “ฆ่า” เพื่อความอยู่รอด
และดำรงเผ่าพันธุ์....
ในขณะที่เราเป็นผู้ล่า เราเองก็ถูกล่าเช่นกัน
นี่คือสัจธรรมของชีวิต

และสุดท้าย.....ไม่ว่าคน สัตว์ สิ่งของ
ล้วนต้องตาย สูญสลายไป
ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง








...............................................



ขออธิบายคำว่า “บาป” ในความคิดของผมนะครับ
ผมคิดว่าคำนี้หมายถึงการก่อบาปเวรขึ้นภายในจิตใจตัวเองครับ
บาปเวร เกิดจากการ “คิดซ้ำๆ”...แล้วนำไปสู่ “การพูดซ้ำๆ”
“พูดซ้ำๆ” นำไปสู่ “การกระทำ”

บาปเวรมันเกิดตรงการกระทำนี่เอง

เพราะฉะนั้น....ไม่อยากสร้างบาปเวร หรือเบียดเบียนใคร
ก็ดูแลรักษาความคิดตัวเองให้ดี อย่าเห็นผิดเป็นชอบ

จะลบล้างเจ้ากรรมนายเวร
ก็รักษาที่ใจเรานี่แหละครับ ไม่ต้องไปนั่งเสก นั่งบริกรรมคาถาหรอกครับ
พระที่แท้จริง...ผมว่าอยู่ที่ในหัวใจของเราครับ









.......................................




ควายหนึ่งตัว
กับกุ้งหนึ่งตัว

เมื่อถูกฆ่าแล้วกลายเป็นอาหาร
ผมว่าเราคงไม่ต้องนั่งสงสัยแล้วว่า
คุณค่าของสัตว์ชนิดใดมีคุณค่ากว่ากัน
(ส่วนใหญ่ผมคิดว่าคนจะคิดแค่ว่าเนื้ออะไรอร่อยกว่ากันมากกว่า 5555)


แต่ขอให้รู้ว่า.....
ถึงที่สุดแล้ว เราต่างต้องเบียดเบียนกันเพื่อยังชีพ
ไม่ใช่ฆ่ากันเพื่อแสวงหาอำนาจหรือเงินทอง
ฆ่ากันเพราะความเจ็บแค้น หรือฆ่ากันเพราะความหมั่นไส้

ซึ่งถ้าคิดแบบนั้น---- แม้แต่ชีวิตของคนผู้เรียกตนเองว่าสัตว์ประเสริฐ
ผมว่าเรายังเทียบกับชีวิตกุ้งที่เราเคี้ยวกร้วมๆอยู่ในปากไม่ได้เลยครับ



กรณ.

(ก๋าราณี ผู้ไม่กินปลานอกจากปาท่องโก๋และปลากระป๋อง)






 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2551
70 comments
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2551 7:17:04 น.
Counter : 1028 Pageviews.

 

 

โดย: เพลงเสือโคร่ง 1 กุมภาพันธ์ 2551 7:17:24 น.  

 

นึกว่าเปลี่ยนหน้าแล้วจะตามมะทันล่ะดิ

เทพ...เทพ ...

 

โดย: เพลงเสือโคร่ง 1 กุมภาพันธ์ 2551 7:18:01 น.  

 

พี่จำไม่ได้
อาจจะผิด
เหมือนพระพุทธเจ้าทรงอธิบายไว้เหมือนกัน

 

โดย: เพลงเสือโคร่ง 1 กุมภาพันธ์ 2551 7:19:49 น.  

 

บล็อกนี้โนคอมเม้นต์emo

แบบว่า ไม่ฆ่า แต่อยากกินอ่ะ


ป.ล.เห็นด้วยกับบีแอล กรณ.ช่างแสนรู้(เหมือนแมวน้ำ)จริงๆ กร๊ากกก

 

โดย: นางเอกบ้านทรายทอง (พจมารร้าย ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 7:36:40 น.  

 

อืม...อันนี้ไม่รู้นะ
แต่เสี้ยวก็มีคำถามแบบนี้เหมือนกัน
เสี้ยวทานมังสวิรัติมาประมาณ 5 ปีได้
จะมีก็ปีนี้ที่หลุดๆไปบ้าง
แต่ว่าก็คงจะทานมังสวิรัติไปตลอดชีวิต
เท่าที่จะทำได้
ตอนแรกก็งดทานเพียงสัตว์ใหญ่เหมือนกัน
แต่พวกสัตว์เล็กๆล่ะ ก็อย่าไปกินมันเลย

เสี้ยวเชื่อว่าคนเราอยู่ได้โดยไม่ต้องเบียดเบียนสัตว์
เพราะชีวิตของตัวเองเดี๋ยวนี้
เราไม่ได้กินเนื้อสัตว์เพื่อความอยู่รอดอีกต่อไป
ไม่มีเราก็อยู่ได้ เราก็เลือกไม่กินดีกว่า
พอไม่กินเนื้อสัตว์ ก็รู้สึกว่าตัวเบาเลย

เป็นความเห็นส่วนตัวค่ะ

ด้วยความเคารพ

 

โดย: gluhp 1 กุมภาพันธ์ 2551 7:36:58 น.  

 

แปลกแฮะ วันนี้เงียบ ๆ เรา refresh หลายรอบละ

 

โดย: Skyman (Analayo ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 7:48:11 น.  

 

อุตส่าห์มาแต่เช้าแล้วน่ะ

 

โดย: แม่น้องรัน (runch ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 7:51:04 น.  

 

โลกนี้อยู่ได้ด้วยระบบ “นิเวศวิทยา” ใช่มั้ยครับ
^
^
ไม่ใช่ครับ โลกนี้อยู่ได้ด้วย "ความรัก" ต่างหาก 555
emo

ลุงก๋าไปอ่าน tag แล้วยัง ต้องไปอ่านนะ ย้ำๆๆๆๆ

 

โดย: D*U*A*N (thisisduan ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 7:53:26 น.  

 

โอว...แต่ถ้าอัพระหว่างวัน

พี่กิ๋วขอลา

แบ่งให้คนอื่นเจิมมั่ง อิอิ



emoemo
.....................................................................................................



วันนี้กระติบข้าวขึ้นโต๊ะ

พร้อมหมูปิ้ง กินกะแครอทต้ม เข้ากันซะจริง

ปล. พี่กะเฮียกินมังสวิรัติให้เซบบี้ เข้าปีที่ 3 แล้ว
พี่น่ะเกลียดตัวกินไข่

ประเภทว่าน้ำแกง น้ำซุปกิน

แถมเวลากลับเมืองไทย
ก็ไปปล่อยผีทีนึง

แต่เฮียเข้มมาก ไม่แตะเลย

สองคนเราไม่กินเนื้อวัวมาสิบกว่าปีแล้ว
ตอนไปออกเดท พี่สั่งอาหาร
ที่ไม่มีเนื่อวัว
เค้าดีใจนึกว่าเอาใจเค้า

แท้ที่จริง เพื่อปากและท้องของพี่เอง

 

โดย: เพลงเสือโคร่ง 1 กุมภาพันธ์ 2551 7:59:01 น.  

 


มาทักทายตอนเช้าค่า




 

โดย: อ้วนกลม 1 กุมภาพันธ์ 2551 8:03:45 น.  

 

emoemo

 

โดย: คนไม่เจียม.. 1 กุมภาพันธ์ 2551 8:05:03 น.  

 

ท่านแม่ของแม่น้องรันไม่ยอมทำกุ้งแพให้กิน ท่านแม่ว่า "แพนึงตั้งหลายชีวิต บาปกรรมจิงๆ"
แล้วท่านแม่ก็ปลูกฝังให้ลูกๆกินแต่สัตว์ใหญ่

จนมาวันนี้...
หมอบอกว่าแม่น้องรันขาดแคลเซียม

กินๆไปเหอะ....
แต่กินแบบยึดหลักสารอาหารตามความจำเป็นต่อร่างกาย
ไม่ใช่การล้างพลาญชีวิตเดรัญฉาน เพียงเพื่อสนองความฟุ้งเฟ้อ
ฆ่าทั้งตัว กินตัวเดียวอันเดียว
ฆ่าทั้งตัว กินแต่คลีบ
หรือแม้แต่ ยกบ้านเค้ามา กินอวดร่ำอวดรวย จนเค้ากะอักเลือด ก็ยังเอาทั้งบ้านทั้งเลือดเค้ามาอีก

กินตามความจำเป็น อย่างสำนึกในบุญคุณดีกว่า
ชอบบทสวดก่อนอาหารกลางวัน ที่ รร.เจ้ารันมากเรย emo

 

โดย: แม่น้องรัน (runch ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 8:05:20 น.  

 

สวัสดีตอนเช้าค่ะ

เคยได้ยินประโยคนี้ไหมคะ บาปอยู่ที่คนทำ กรรมอยู่ที่คนกิน สรุปคนกินรับกรรมรึป่าวไม่รู้

เมื่อก่อนตอนเด็กๆอยู่บ้านแม่บุญธรรม ทุกๆตรุษจีนพ่อจะเชือดไก่ที่เลี้ยงไว้มาไหว้เจ้า เราเป็นเด็กเห็นไก่ที่โดนเชือดดิ้นกระแด่วๆยังไม่ตายหัวเราะชอบใจ พอเริ่มเป็นสาวพ่อเชือดไก่อีกคราวนี้นั่งร้องไห้เลย สงสารมัน เพราะมันคือไก่ที่เราเลี้ยงมันมา ตั้งแต่เป็นลูกเจี๊ยบ สรุปปีนั้นเราไม่กินไก่ตัวที่ไหว้เจ้า ก็เลยต้องเลิกเลี้ยงไก่ แล้วไปซื้อมาไหว้แทน อย่างน้อยก็ไม่เห็นตอนมันโดนฆ่า แต่ถามว่าบาปไหม เราก็คิดว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นอาหาร แต่ตอนนั้นเหมือนเขาเป็นสัตว์เลี้ยงของเรา แล้วเราฆ่ามันเองเลยรูสึกบาปในใจ

แต่กับยุงกับมดเรายอมบาปถ้ามากัดเรา ก็เราอยู่เฉยๆแล้วมากัดฉันทำไม เราก็ต้องป้องกันตัวเองใช่ป่าว อิๆ

วันนี้มีเพื่อนจะมาจัดวันเกิดที่ร้าน เลยต้องตื่นเช้าเพื่อไปซื้อของเตรียมให้เขา ไปละemoemo

 

โดย: kai (aitai ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 8:10:58 น.  

 

^
^
^



emoemoemo

 

โดย: ไม่น่าเชื่อ... (คนไม่เจียม.. ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 8:15:23 น.  

 

โดนคุณ aitai ปาด emoemo

 

โดย: คนไม่เจียม.. 1 กุมภาพันธ์ 2551 8:15:54 น.  

 

ห่างหายไปนานเลยค่ะพี่ก๋า
มาวันนี้แอบมาอ่านก่อนไปทำงาน

ส่วนเรื่องอื่นๆค่อยตามไปอ่านทีหลังนะคะ
"แสนรู้" ใช้กับแมวน้ำ
แล้ว "ฉลาดจนหางกระดิก" ใช้กับอะไรคะพี่ก๋า

55555555555555555555555555555+

มีความสุขทั้งวันค่ะ ไปทำงานแล้วน้า สายแล้วววววจ้า

 

โดย: นู๋เปิ้น ฝนริน IP: 61.19.66.168 1 กุมภาพันธ์ 2551 8:19:14 น.  

 

ประกาศ ประกาศ..


เดี๋ยวจะต้องออกไปทำงานข้างนอกเกือบทั้งวัน
กลับมาแล้วจะตามไปหาที่บล็อกนะครับ

รักนะ จุ๊บๆ 555555

โดโม อาริงาโตะ โกซัยมัส


 

โดย: ก. วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 8:32:52 น.  

 

ตารางคะแนนวันแรก


 

โดย: Skyman (Analayo ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 8:34:15 น.  

 

emoกติกา เหอ ๆ ๆ เอาเป็นว่า เดือนกุมพาปีนี้ เฮียก๋า พร้อมกับพี่โย อาสาเปิดลีกเจิมที่ Blog นี้ครับ

กติกาคือ

1. Blog ตอนเข้า ใครได้เจิม ได้ 3 คะแนน, อันดับสอง 2 คะแนน, อันดับสาม 1 คะแนน
2. คิดเวลาเอาไว้เป็นประตูได้-เสียด้วยนะฮะ เผื่อคะแนนเท่ากัน
3. ถ้าเฮียก๋า up blog ระหว่างวัน ใครมาเจิม จะเพิ่มคะแนนพิเศษให้คือ ใครได้เจิม ได้ 5 คะแนน, อันดับสอง 4 คะแนน, อันดับสาม 3 คะแนน
4. ถ้าเอ๊ยก๋าไม่ up blog ในตอนเช้า ก็ถือว่าวันนั้นไม่มีการคิดคะแนน แต่ถ้ามา up เวลาอื่น ก็คือคะแนนพิเศษนะจ๊ะ
5. ใครก็ตามที่ยอมรับว่าพี่โยน่ารักกว่าเฮียก๋า รับไปเลย 100 คะแนนฟรี

ข้อ 5 ล้อเล่นนะ

เอาขำ ๆ ครับ ....... แล้วสิ้นเดือนก็จะรู้ว่า ใครเทพกว่ากัน .... ไปทวงเฮียก๋าเอาเองเด้อ

เปิดฤดูกาลพรุ่งนี้ emo

 

โดย: Skyman (Analayo ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 8:38:43 น.  

 

ผิด ...... เปิดวันนี้แว้วววววว ..... วันนี้พี่กิ๋วขึ้นนำจ่าฝูงครับ

ผู้ชนะ เฮียก๋ามีของรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ มอบให้นะคร๊าบบบบบบ emo

 

โดย: Skyman (Analayo ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 8:40:01 น.  

 

โห...พี่โย

ตารางอย่างเทพ
สวยมากๆ...

สถิติละเอียดยิบๆ

...
...
...

emo ชาติที่แล้วเกิดเป็นนักสถิติครับเฮีย

 

โดย: Skyman (Analayo ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 8:41:17 น.  

 

อ่านคำตอบแล้วสบายใจ

สามารถกินต่อไปได้

เพราะขาดเนื้อเหมือนขาดใจค่ะ

 

โดย: หยุ่ยยุ้ย 1 กุมภาพันธ์ 2551 8:55:59 น.  

 

emo สวัสดีคุณพี่...บล๊อกคุณพี่นี่ผมยอมพ่ายแพ้...ไม่ขอเจิม..
ไม่ขอเป็นแม้ที่สอง..ที่สาม...เอาเป็นว่า...
เป็นแค่ผู้สังเกตุการพอ...





ไอ้เรื่องบาปน้อยบาปมากนี่ผมก็งง
เพราะมีพี่คนนึงเขาไม่กินเนื้อวัว
เขาบอกกินสัตว์ใหญ่มันบาป
แต่พี่แกซัดโฮกกุ้งหอยปูปลามื้อนึงหลายสิบชีวิต
อย่างงี้ไม่บาปกว่าเรอะ....???????....



ส่วนไอ้กระผม...เป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยประเสริฐเท่าไหร่
ก็จะขอกินอะไรก็ได้ที่ชะตามันถึงฆาต
และถ้ามันอยู่มันจะทำให้พื้นที่สีเขียวของโลกลดลง
(เพราะมันเป็นสัตว์กินพืชเราต้องเร่งกำจัด)


ว่าป่ะคุณพี่...


emoemoemoemo

 

โดย: big-lor 1 กุมภาพันธ์ 2551 8:58:36 น.  

 




กำลังจะอ่านเรื่องของคนเกือบหล่อ
ระหว่างนี้...
พี่ก๋าไปบ้านพี่ตรีก่อนเลย...ดีดีชวนไปปาร์ตี้





 

โดย: ^^น้องสาวสองสะพาย แถมสายเดี่ยว^^ (มัชชาร ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 9:04:27 น.  

 



เพราะสุขภาพใจแข็งแรงดี
แต่สุขภาพกายกระเสาะกระแสะอ่ะ 55555

^
^
^



อย่าเป็นอะไรไปนะพี่...
เด๋วพุงยุบ



emo



 

โดย: d__d (มัชชาร ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 9:09:59 น.  

 

ยกมือเป็นพวกไม่กินสัตว์ใหญ่ด้วยคนค่ะ รู้สึกเหมือนว่าลดบาปไปหนึ่งประเภท

เล็กลงมาหวดเรียบกินดะค่ะ 55

 

โดย: thaispicy 1 กุมภาพันธ์ 2551 9:11:13 น.  

 

สุข(ศูกร์)สวัสดีครับ

ฟ้องหนี้ - พี่น้อง

ก๋า ครับ อิ อิ

 

โดย: คนสาธารณะ 1 กุมภาพันธ์ 2551 9:13:17 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่ก๋า
อะไรที่เราหลีกเลี่ยงได้ก็ควรทำน่ะค่ะ
ปานเลิกทานเนื้อวัวมาสิบกว่าปีแล้ว
เพราะว่าอะไรหรือ
สงสารค่ะ ความสงสารมันทำให้ปานเลิก
ทั้งที่ก่อนหน้านั้นจะชอบค่ะชอบมาก ๆ
สาเหตุมาจากที่วันนั้นนั่งรถจะกลับบ้าน
รถที่ปานนั่งจอดติดไฟแดงเทียบข้างกับรถที่บรรทุก
ที่เต็มไปด้วยเนื้อวัวที่ถูกชำแหละแล้ว
มีทั้งห้วและขาที่โดนแยกส่วน ห้อยอยู่
สังเกตุเห็นว่าเนื้อที่ชำแหละแล้วมันเต้นยิบๆ
บอกไม่ถูกอะค่ะ เหมือนกับเวลาเราบาดเจ็บมากๆน่ะค่ะ
ตั้งแต่นั้นมาปานไม่เคยคิดที่จะกินมันอีกเลย
อันนี้มันเป็นความรู้สึกส่วนตัวน่ะค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นหมูหรืออะไรที่พอจะหลีกเลี่ยงได้ก็จะเลี่ยง
มันรู้สึกดีน่ะค่ะ emoemo

 

โดย: pranfun 1 กุมภาพันธ์ 2551 9:14:40 น.  

 

สุข(ศุกร์)สวัสดี

ฟ้องหนี้ - พี่น้อง

ก๋า ครับ อิ อิ


 

โดย: คนสาธารณะ 1 กุมภาพันธ์ 2551 9:17:03 น.  

 



(ก๋าราณี ผู้ไม่กินปลานอกจากปาท่องโก๋และปลากระป๋อง)

^
^
^

ถึงว่า...ทำไมพุงถึงยื่นออกมาทุ๊กกกกวัน



emo

 

โดย: d__d (มัชชาร ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 9:20:08 น.  

 

หวัดดีค่ะ แวะมาทักทายค่ะ
กิ๊ฟว่าไม่ว่าสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ต่างก็รักชีวิตเหมือนกันนะคะ
แต่ว่า มนุษย์เราเองก็ต้องดำเนินชีวิตไปด้วยอาหารเช่นกัน
แบบว่ากิ๊ฟไม่ค่อยกินผักอ่ะ 555+

กิ๊ฟคิดว่ามันเป็นระบบนิเวศนะคะ ที่ทุกอย่างต้องเกื้อกูลกัน
ขอบคุณนะคะที่แวะไปเยี่ยมกิ๊ฟที่บล๊อค . . . .

 

โดย: นู๋กิ๊ฟ&นู๋เปิ้ล 1 กุมภาพันธ์ 2551 9:40:15 น.  

 




ดี.ไม่หม่ำพี่ควาย

ไม่ทานมานานมากแล้ว
เพราะที่บ้านไม่ทานกัน
ก็เลยไม่มีคนทำ และสุดท้ายคือไม่ทาน
เหตุผลคือ...พอไม่ทานนานๆ
กระเพาะก็เริ่มต่อต้าน แค่ได้กลิ่นก็เริ่มเหม็นแล้วค่ะ
อันนั้นคือเหตุผลที่เป็นไปเองโดยปริยาย
ที่บ้านไม่ทาน ก็ไม่ทานเท่านั้นเอง

อีกเหตุผลหนึ่งก็รู้สึกว่าเป็นสัตว์ใหญ่นี่แหละค่ะ
มองสบตาพี่ควายแล้วหลงรัก
แล้วจะไปเชือดเนื้อ เถือหนังคนที่เรารักมากินได้อย่างไร
มองตากันแล้วซึ้งๆ แถมทำตาปริบๆใส่เรา
พอถูกนำขึ้นรถไปฆ่า ดั๊นนนน น้ำตาคลอซะอีก
โห....พี่ควายช่างน่าสงสาร
น้องดีดีไม่มีวันที่จะทำร้ายพี่อีกต่อไป

ส่วนน้องกุ้ง...
หม่ำตัวเล็กๆอิ่มซ๊าที่ไหน
หม่ำแต่ละที ไม่เคยคร่าชีวิตน้องกุ้งน้อยกว่า ๑๐ ตัวเลย

เหตุที่หม่ำน้องกุ้งได้โดยไม่คิดอะไร
สาเหตุคงมาจากที่น้องตัวเล็ก ตอนถูกฆ่าคงไม่เจ็บมากนัก
ก็ไม่เห็นน้องกุ้งจะร้องสักที
น้องไม่ได้ร้องครวญครางเหมือนพี่ควาย
กว่าพี่ควายจะตายร้องเสียงดังอยู่นาน
และความนานนั้น
มันสะกิดต่อมสงสารขึ้นมาในจิตใจ...จะไปหม่ำพี่ควายได้ยังไง
มันบาปเกินไปล่ะที่ทำอย่างนั้น...

เพราะฉะนั้น...
น้องกุ้งควรจะมีพัฒนาการ
จะต้องมีการปรับเปลี่ยนพันธุกรรม
น้องกุ้งจะต้องฝึกพูด ฝึกร้องครวญคราง
อ่ะน๊าน้องกุ้ง...
เริ่มได้ตั้งแต่รุ่นนี้...
ฝึกไปเรื่อยๆๆๆๆๆ
อีกร้อยปีแสง ลูกหลานของน้องกุ้ง
ก็จะเปล่งเสียงได้เช่นเดียวกับพี่ควายแน่ๆ

และเมื่อถึงวันที่น้องกุ้งร้องขอชีวิตได้
วันนั้นน้องกุ้งจะเริ่มเป็นสัตว์เล็ก
ที่มีคุณค่าชีวิตไม่ต่างจากสัตว์ใหญ่

…………

จะว่าไปแล้ว...
พี่ดีดีก็มีอคติกับน้องกุ้งด้วยล่ะ
น้องกุ้งเคยมาแย่งแฟนพี่ดีดี
ชาตินี้พี่ดีดีไม่มีวันให้อภัย
พี่ดีดีจะกินน้องกุ้งต่อไปให้หายแค้น
emo

น้องกุ้งอบวุ้นเส้น ลั้นลา




 

โดย: d__d (มัชชาร ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 10:00:43 น.  

 

แหม.. มาช้าอดได้แต้มเลยนะเนี่ย..
.. รางวัลคุณก๋าราณีจะเป็นอะไรหนอ .. อยากรู้จัง คงไม่ใช่ปาท่องโก๋หรอกนะ

 

โดย: เอื้อมดาว 1 กุมภาพันธ์ 2551 10:26:33 น.  

 

ลืมถามว่า
มาดามเป็นไงมั่ง
คงหายปวดหัวแล้วนะ

 

โดย: เพลงเสือโคร่ง 1 กุมภาพันธ์ 2551 10:28:56 น.  

 

ก่อนอื่นขอตอบเรื่องการกิน กับ บาป ก่อนนะคะ
เอ็มคิดว่าน่าจะเป็นที่เจตนาเป็นหลักค่ะ การกินทุกวันนี้ของเอ็ม เป็นการกินเพื่อยังชีพเพื่อประทังชีวิตให้อยู่รอด ไม่ได้เป็นไปเพื่อความเพลิดเลิน (ข้อนี้ทำได้มั่งไม่ได้มั่ง) ไม่ได้เป็นไปเพื่อบำเรอกามคุณ
การที่ชีวิตใดๆ ก็ตาม ต้องจบลงเพราะยังชีพมนุษย์ เอ็มว่าบาปทั้งหมดล่ะค่ะ เอ็มไม่ได้ตัดสินว่า ชีวิตใหญ่ จะมีความรู้สึกรักตัวเองมากกว่าชีวิตเล็กนะคะ
แต่คุณค่าของชีวิตใหญ่อาจจะทำคุณกับโลกได้มากกว่า หรือไม่ก็ มีชีวิตที่ยืนยาวได้มากกว่า หมายถึงพวกกุ้งหอยปูปลาชีวิตเขาสั้นน่ะค่ะ น่าจะบาปน้อยกว่าการทานเนื้อช้าง เพราะเขาสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกนาน อีกทั้งยังเป็นสัตว์ที่สามารถรับใช้คนได้ด้วย (ซึ่งดี๋ยวนี้รูปแบบการใช้งานช้าง คงไม่ใช่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้สังคมเกษตรกรรมเหมือนแต่ก่อนแล้ว)
ทีนี้มาถึงเรื่องเนื้อวัว จากที่บอกว่ากินเนื้อชนิดไหน ในความรู้สึกเอ็มก็บาปหมด แต่บาปไม่เท่ากัน เพราะเอ็มจะรู้สึกผิดค่ะ ที่กินนมของเขาแล้ว แล้วก็ดันไปกินเนื้อเขาอีก ยายของเอ็มบอกว่า กินนมเขาเขาก็เป็นแม่นมเราแล้ว เพราะเรื่องนี้ทำให้ไม่นึกอยากกินเนื้อเขาน่ะค่ะ
ยกตัวอย่างอีกเรื่อง หากปลวกขึ้นบ้าน เราจะทำอย่างไร ถ้าเป็นเอ็มเอ็มเลือกกำจัดปลวกค่ะ เพราะเราต้องเลือกระหว่างรักษาทรัพย์ กับรักษาศีล
อีกอย่าง เอ็มว่าปลวกนั้นนำโทษมาให้ เอ็มไม่ค่อยนับว่าปลวกเป็นสัตว์มีคุณนะคะ ถึงแม้ว่าเขาอาจจะมีคุณอย่างอื่นที่เอ็มมองไม่เห็น แล้วบอกตรงๆ ที่ฆ่าเขา เราก็รู้สึกบาป เพราะรู้อยู่ว่า ทุกชีวิตย่อมรักชีวิตตนเท่าเทียมกัน

เอาแค่นี้ก่อนดีกว่า พูดเยอะไปแล้ว

ต่อมาเป็นเรื่องของหนังสือทวาร 6 ที่คุณก๋าต้องการนะคะ เอ็มคัดมาให้อ่านนิดหน่อย แต่ว่ายังไม่มีเวลาพอที่จะเปิดอ่านเรื่องความแตกต่างของความอดทนระหว่างหญิงและชาย เพราะงานค่อนข้างยุ่งค่ะ แต่ติดใจอยากรู้อยู่เหมือนกัน ถ้ามีเวลาจะหามาตอบทันทีเลย

จากหนังสือ "ทวาร 6 ศาสตร์แห่งการรู้ทันตนเอง"
จิตของมนุษย์มีความว่างเป็นพื้นฐาน แต่เพราะมีทวารทั้งหก เปิดรับ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธรรมารมณ์ เข้ามาก่อกวน ทำให้ความว่างของจิตเสียไป หากเราสกัด หรือตามทันทวารทั้งหกนี้ จิตก็จะว่าง

บทที่ 1 เปิดทวาร มนุษย์เหมือนสวมชุดเกราะ แต่มีจุดอ่อนอยู่หกแห่ง คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ สิ่งที่เข้ามากระทบ คือ แสง เสียง กลิ่น มีความไวสูงมาก แต่จิตก็มีความไวสูงกว่าแสงหลายเท่า วิธีที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้ทำร้ายเราไม่ได้ คือต้องรู้จักฝึกสติ หรือฝึกจิตให้ไวพอ

บทที่ 2 ตา ตาเป็นทวารที่หลอกเราอยู่ตลอดเวลา ที่จริงตาเป็นเพียงประตูทางเข้า ส่วนที่รับรู้ภาพและทำให้เกิดความรู้สึกคือจิต

บทที่ 3 หู เป็นอวัยวะที่ใช้ในการดักคลื่นเสียง แต่เสียงทั้งหลายล้วนเป็นมายาไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงสภาวะการอัด-ขยายของอากาศ ส่วนเรื่องการแปลความหมายนั้น เป็นเรื่องของสมอง

บทที่ 4 จมูก ทั้งตา หู จมูก และลิ้น ภายในมีท่อเชื่อมถึงกันได้ทั้งหมด ดังนั้นเมื่อผัสสะที่เกิดขึ้นกับเวทนาเหล่านี้จะสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน

บทที่ 5 ลิ้น ลิ้นเป็นกล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดภายในร่างกายมนุษย์ นอกจากจะใช้รับรสแล้ว ยังเป็นอวัยวะที่ทำให้เกิดการพูดด้วย ลิ้นเป็นทวารที่ตอบสนองช้าที่สุด แต่ก็ทำให้คนเลิกจากการติดในรสได้ยากที่สุดเช่นกัน ลิ้นจึงเป็นหนึ่งในสามของกิเลสอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์คือ กิน กาม เกียรติ

บทที่ 6 กาย สัมผัสทางกายจะกระตุ้นกิเลสตัณหา ยิ่งกว่าสุขเวทนาทางอื่น กาย เป็นทวารที่ตัดผัสสะได้ยากที่สุด เพราะถึงจะบรรลุอรหันต์แล้ว แต่ก็ยังต้องผจญกับความทุกข์ทรมานของร่างกายอยู่ดี เช่นจากอุบัติเหตุ หรือการเจ็บป่วย

บทที่ 7 ใจ ใจเป็นทวารที่สำคัญที่สุด และยังคงอยู่กับเราแม้ว่า ทวารอื่นๆ จะใช้ไม่ได้แล้ว ใจไม่ใช่สมอง และมีความไวกว่าสมองมาก จิตกับใจไม่ใช่ส่วนเดียวกัน จิตที่อวิชชาย่อมตกอยู่ใต้อิทธิพลของใจ แต่เมื่อใดที่ฝึกจิตได้จนหลุดพ้นแล้ว จิตย่อมเป็นนายของทวารทั้งหกอยู่ตลอดเวลา

บทที่ 8 ปิดทวาร ใช้กรรมออกไปเท่านั้น

บทที่ 9 เคล็ดลับแห่งการรู้ทันตนเอง อ่านแล้วรู้ทันตนเอง ไได้เช่นนี้แล้ว ตัวกูของกูก็จะดับ ไม่มีทุกข์ใดๆ เหลืออยู่อีกเลย

 

โดย: เอ็มมี่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 10:44:06 น.  

 



มาอ่านก๋าราณีครับ

บล็อคนี้มีสัตว์ตายเพียบเลย ไม่ว่าจะเป็น หมู ช้าง ควาย กุ้ง ไก่ ยุง ฯลฯ

สงสัยในบล็อคนี้ต้องเกิดโรคระบาดขึ้นแน่ ๆ เลย ไม่แจ้งกองควบคุมโรคติดต่อสัตว์ กรมปศุสัตว์ ดีกว่า ให้เอา D.D.T. มาฉีดในบล็อค

อิอิ

ปล. วันนี้ผมไม่ได้อัพบล็อคใหม่ ปล่อยให้คุณสงัดเริงร่าต่ออีกวันครับ ... อิอิ

emo

 

โดย: อาคุงกล่อง คล้องสายเดียว เดี๋ยวขำกลิ้ง (อาคุงกล่อง ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 11:07:53 น.  

 

อ่านจบเเระ เด๋ว จะไปบวช


 

โดย: ตาอ้วนชวนคุย 1 กุมภาพันธ์ 2551 11:12:15 น.  

 

ผมคิดว่าคำนี้หมายถึงการก่อบาปเวรขึ้นภายในจิตใจตัวเองครับ
บาปเวร เกิดจากการ “คิดซ้ำๆ”...แล้วนำไปสู่ “การพูดซ้ำๆ”
“พูดซ้ำๆ” นำไปสู่ “การกระทำ”



emo
ถะ...ถูกกกต้องงงง..

 

โดย: treehouse 1 กุมภาพันธ์ 2551 11:23:46 น.  

 

เฮ้อ.. ใส่ emo ผิดอีกละ..

 

โดย: treehouse 1 กุมภาพันธ์ 2551 11:26:42 น.  

 

ยังไม่ได้อ่านเลยครับ.....อาจารย์ ก๋า อยู่ไหม หรือว่าไป
ข้างนอกแล้ว...แล้วที่บอกว่าจะแจกเลขเด็ดไหนอะ

หลอกกันนีน่า...อาจารย์ ก๋า ไม่หน้าทำกันemoเป็นซะอย่างงั้น

ไม่เป็นไร Add เก็บไว้ก่อนเด๊ยวค่อยยกพวกไปปิดบ้าน

ถึงอยู่เชียงไหม่ก็จะไปครับ....

เอาอมยิ้มไปก่อนและกัน...emo


 

โดย: BaVo316 1 กุมภาพันธ์ 2551 11:32:48 น.  

 

หมู๋นี้เฮียยุ่ง ๆ ... น่าแปลกใจ เพราะปกติเฮียมาตอบ Blog ได้ทั้งวันemo

 

โดย: Skyman (Analayo ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 11:34:11 น.  

 

แค่ไม่กินสัตว์ใหญ่เพราะคิดว่าบาป แต่ทุกวันยังหมั่นนินทาคน หรือทำอะไรไม่เข้าท่า นาว่ามันก็บาปพอกันค่ะ

สัตว์ที่พระเจ้าสร้างมาเพื่อเป็นอาหาร มันก็คืออาหาร ไม่ว่าจะตัวเล็กหรือตัวใหญ่ บาปหรือไม่อยู่ที่ใจเราคิดค่ะ

ไม่กินสัตว์เพราะบาปเพราะมันมีชีวิต
เหอๆ งั้นกินผักก็บาปล่ะเพราะมันก็มีชีวิตตามวัฏจักรของมัน ก็แค่อยู่กันคนละสปีชี่ส์เท่านั้นเอง

 

โดย: มัยดีนาห์ 1 กุมภาพันธ์ 2551 11:38:09 น.  

 

ไม่รู้หนูบัวสับสนหรือคิดไปเองนะคะว่า แสนรู้ กับฉลาดจน
หางกระดิก เนี่ย มันไม่ได้ห่างไกลกันเท่าหร่ายเลย 555
ออกจะใกล้เคียงจนเกือบเป็นพันธุ์เดียวกันด้วยซ้ำ
เอ หรือว่า ฉลาดจนหางกระดิกเนี่ย เค้าใช้กับกระต่ายคะ

มีความสุขมาก ๆ นะคะ

 

โดย: บัวริมบึง 1 กุมภาพันธ์ 2551 11:58:35 น.  

 


สวัสดีครับพี่ก๋าราณี
ผมก็มีคำถามข้องใจเหมือนกันคับ
ในฐานะที่เรากินเนื้อสัตว์เกือบทุกชนิดไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ไม่ว่าบาปมากหรือน้อย แม้ไม่ได้ฆ่าเองก็มีส่วนส่งเสริมให้ฆ่า
เราจะทำอย่างไรให้หายบาปได้ไม๊คับ สงสัยจริง ๆ
ไม่งั้นเราก็คงต้องเป็นคนบาปอย่างงี้ตลอดปีตลอดชาติเลยซีคับ

นี่เป็นคำถามจากคนเกือบไม่หล่อ ^_^

 

โดย: รายารีย์ IP: 125.25.78.177 1 กุมภาพันธ์ 2551 12:06:58 น.  

 

เป็ดจังก็ไม่ทานเนื้อวัวมายี่สิบปีแล้วค่ะ
หมูก็ไม่ค่อยทานแล้วเหมือนกัน
เป็ดไก่สัตว์ปีกนี่แทบไม่แตะ
เพราะถือว่าเป็นพวกเดียวกัน

ชีวิตเน้นไปทางกินปลา (พยูน) เป็นส่วนมาก

ชอบๆๆๆๆ

ฉลาดจนหางกระดิก

 

โดย: ณ หนามบิน (be-oct4 ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 12:08:49 น.  

 

emoพี่น้องคนไม่หล่อ ถาม-ตอบกันเองอีกละ อิอิemo

 

โดย: pataramin 1 กุมภาพันธ์ 2551 12:29:42 น.  

 

สวัสดีวันหุ้นเขียวได้ใจพี่หมีค่ะคุณก๋า

แต่เขียวมากๆอย่างนี้พี่หมีทำตัวไม่ถูก ได้แต่นั่งมองพอร์ตตัวเองเขียวๆๆๆๆ

จะขายก็เสียดายปันผล แต่จะเล่นรอบก็หัวใจไม่แข็งแรง

555+++สรุปแล้วนั่งดูเด็กๆทำงานประจำไปก่อนดีกว่า ได้เงินแน่ๆ

ยังติดค้างบทความของคุณก๋าไม่ได้อ่านอยู่หลายเรื่อง ถ้าคืนนี้พี่หมีไม่สลบไปเสียก่อนต้องมาลุยอ่านให้ได้

เช้าเดี๋ยวนี้ยังลุกไปใส่บาตรที่วัดอโศไม่ไหวเล๊ยยย ใจน่ะยังสู้แต่สังขารไม่ค่อยจะอำนวย

ขอให้คุณก๋า คุณภรรยา และน้องก๋าน้อยมีความสุขมากๆนะคะemoemo

ป.ล. คิดถึงลูกสาวจังemoemo

 

โดย: หมีสีชมพู 1 กุมภาพันธ์ 2551 13:04:01 น.  

 

ตุ้งว่าความรู้สึกผิดบาป มันมาจากความสงสารมากกว่าค่ะ มาจากความรู้สึกในใจเรา

เราเห็นควายกำลังจะถูกเชือด น้ำตามันไหล เราเลยสงสาร มองตามัน เราเห็นประกายในแววตา เราก็เลยสงสาร

แต่กุ้ง รึอย่างอื่น ตามันนิ่งๆ มองแล้วก็ไม่รู้ว่ามันคิดอะไร

เพราะงั้น ที่เราคิดว่าบาป มันก็เพราะความรู้สึกจากใจเรานี่แหล่ะค่ะ

แต่ก็อย่างที่พี่ก๋าฯ ว่า เมื่อกลายมาเป็นของกินแล้ว เราคงไม่มานั่งคิดว่า บาปรึไม่บาป รู้แต่ว่ามันกินได้ แล้ว อร่อย ก็แค่นั้นแหล่ะ

ตุ้งองก็เคยคิดนะคะ อยากเวลาดูสารคดี ลูกกวางน่ารัก ตาใสแป๋ว แต่โดนเสือ ไม่ก็สิงโตกิน แรกๆ ก็สงสารหรอก

แต่ชีวิตมันเป็นวัฏจักร ถ้าสิงโตไม่ล่า มันก็อดตายเหมือนกัน บางทีก็ล่าเพื่อให้ลูกๆ อีกหลายตัวกินประทังชีวิต

ถ้ากวางเยอะเกินไป หญ้าคงหมดทุ่ง

แต่ที่ไม่ชอบเลย ก็พวกที่สรรหากินจนเกินขนาดหน่ะค่ะ ไม่ได้กินเพื่ออยู่ แต่อยู่เพื่อกิน กินมันจนไม่รุ้ว่าอะไรเป็นอะไร

 

โดย: กวางตุ้งหวาน 1 กุมภาพันธ์ 2551 13:08:28 น.  

 

กินหมดค่ะ ทั้งสัตว์เล็กและสัตว์ใหญ่
(แต่ยกเว้นแมลงทุกชนิดนะคะ .. กลัวขาขน ๆ ของมันค่ะ)
คิดว่าเป็นสัตว์เลี้ยงโลกค่ะ

แต่มีเพื่อนที่เคร่งครัดในการหม่ำ
เคยสอนเราไว้ว่า
เวลาสัตว์กลัวมาก ๆ .. เช่นเวลาก่อนเขาตาย
เขาจะหลั่งสารชนิดหนึ่งออกมา
โดยสารนั้นจะมีปริมาณที่แปรผันตามขนาดตัวของเขา
สารที่ว่านั้นเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง
เขาจึงแนะนำเราว่า .. ไม่ควรกินสัตว์ใหญ่ ด้วยเหตุนี้ค่ะ
ไม่ใช่เรื่องบาปบุญคุณโทษใด ๆ

ป.ล. คุณบีจะว่าอะไรมั้ย .. ถ้าเราชอบหม่ำเป็ดอ่ะ

 

โดย: BFBMOM 1 กุมภาพันธ์ 2551 13:33:10 น.  

 

ขอชี้แจงเรื่องบาปด้วยสติปัญญาอันน้อยนิดครับ

ที่ว่าทำไมกินสัตว์ใหญ่แล้วบาป
นั่นเพราะว่าโดยธรรมชาติสัตว์ใหญ่จะมีสนติปัญญามากกว่าสัตว์เล็กตามลำดับ
โดยคร่าวๆ ไม่ทั้งหมดนะครับ

ถ้าว่าเราฆ่ามดกับฆ่าหมูอะไรบาปปกว่ากัน
ฆ่าหมูแน่นอนครับ
ทำไมว่าบาปกว่า
วัดจากขนาดร่างกายรึเปล่า
ไม่ใช่ครับ
วัดจากระดับประสาทสัมผัสที่มันรับรู้ได้

มดบี้มันก็ไปแล้ว ตัวเองยังไม่รู้เรื่องไรเลย
แต่หมูมันคิดเป็นรู้สึกได้ครับ

และนอกจากนี้บาปไม่เพียงเกิดจากฝ่ายถูกกระทำ
ยังรวมไปถึงผู้กระทำด้วย
ถ้าการฆ่าสัตว์ครั้งนั้นมีเจตนาเพื่อดำรงชีวิต
ก็บาปกึ่งหนึ่ง
ถ้าฆ่าเพื่อสนองอยากก็บาปเต็มๆ

และแน่นอนครับฆ่าด้วยอะไรไม่สำคัญ
ฆ่าด้วยเจตนาอะไรสำคัญกว่า

สรุปแบบสั้นๆว่า
กรรม = เจตนาผู้กระทำ + ผู้ถูกกระทำ

รบกวนผู้รู้ชี้แนะด้วยครับ

 

โดย: ชัช (กู่ฉิน ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 13:51:54 น.  

 

ไม่ได้เข้าบล็อกนี้มานาน กลายเป็นบล็อกตอบปัญหาธรรมะไปเสียแล้ว


คิดไปคิดมา..


ผักก็มีชีวิต การที่เราไปตัดเขามา ไม่ใช่เราไปตัดลมหายใจเขาหรอกเหรอ..........


 

โดย: กระจ้อน 1 กุมภาพันธ์ 2551 13:59:40 น.  

 

โห.. มีแต่เม้นส์ยาวๆ
เดี๋ยวเจ้าบ้านกลับมามีมึน

 

โดย: แม่น้องรัน (runch ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 14:02:36 น.  

 

* เดี๋ยว ฝนหลั่ง ฝั่งล้น............ทำนบ
ค่ำ พลบแลง แพลงรบ............เปลี่ยนบ้าง
ดำ จบแสง แจงสบ.................สีมืด
เขียว ต่างเปลี่ยน เตียนป้าง.......เปิดฟ้าเปลี่ยนสี

********
บางตอน

สวัสดิ์ได้ตอนบี้ - สวัสดีตอนบ่าย

ครับพี่น้องก๋า คร๊าบบบ

 

โดย: คนสาธารณะ 1 กุมภาพันธ์ 2551 14:06:01 น.  

 

emoemo


โอยยยยยย....กว่าจะฝ่าฟันเข้ามาเม้นทได้
เหนื่อย
แฟนคลับตรึม
ทั้งสาวน้อยสาวเหลือน้อย
สาวใหญ่สาวใหม่..เพิ่งเป็นสาว
แล้วก็เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นสาว


แหม..มากมาย...มากมาย...


emoemoemo

 

โดย: big-lor 1 กุมภาพันธ์ 2551 14:27:32 น.  

 

^
คนข้างบนเค้าอิจฉาใช่ป่ะ?

มาฮาโหญ๋ก่อนคะ เย็นมาอ่าน

 

โดย: เป๋อน้อย 1 กุมภาพันธ์ 2551 14:47:07 น.  

 

ขอบคุณมากที่อ่านอย่างละเอียดละออ..
ขอบคุณจริงๆ

 

โดย: tai (taibangplee ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 14:55:46 น.  

 

emo OK ครับพี่ก๋า ว่าง ๆ ก็หาน้ำขิงจินเจนมาดื่มแก้ "ร้อนใน" บ้างนะครับ เห็นเขาโฆษณาว่าทำจาก "ขิงแก่แท้ ๆ" ครับพี่

emoemo

 

โดย: Skyman (Analayo ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 15:06:17 น.  

 

อาจารย์กลับมาหรือยังครับ...คริ คริ

emo

 

โดย: BaVo316 1 กุมภาพันธ์ 2551 15:10:59 น.  

 

น้องกุ้งร้องได้นะน้องดี
วันก่อนพี่หยิกแขนน้องกุ้งไปสองที
ร้องไห้ลั่นเลย 55555

^
^
^

อย่าทำแบบนี้อีกนะ
น้องกุ้งช้ำแล้วหม่ำไม่อาหย่อย







 

โดย: ^^ (มัชชาร ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 15:15:03 น.  

 

จะสัตว์เล็กหรือใหญ่ ฆ่าแล้วก็เป็นบาปทั้งนั้นแหละ ขอแต่อย่าจงใจฆ่าเพื่อเอามาบริโภคหรือสรรค์หาสัตว์แปลกๆมาเป็นเมนูขึ้นโต๊ะแล้วกัน เรากินเจมาหลายปีแล้วแต่ก็ไม่นึกตำหนิคนที่กินเนื้อ ที่จริงก็ยังชอบกินเนื้ออยู่แต่ก็อดได้ ถือเป็นการฝึกจิตของเราเองอย่างนึงเหมือนกันค่ะ

 

โดย: haiku 1 กุมภาพันธ์ 2551 15:53:40 น.  

 

หวัดดีตอนเย็นค่ะ
พอดีว่ากิ๊ฟมะกินเนื้ออ่ะค่ะ


เดี๋ยวนี้ตั้งแต่มาฝึกงานเนี่ย
กิ๊ฟต้องมากินข้าวพร้อมพี่ที่ห้องทำงาน
แล้วพี่เขาคนหนึ่งไม่ทานอาหารทะเล
คนหนึ่งไม่ทานหมู
กะกิ๊ฟไม่ทานเนื้อ
เลยไม่รู้ว่าจะทานอะไรกันนอกจากไก่อ่ะค่ะ
กินแต่ไก่กะไข่
จนตัวกลมเป็นไป หน้าเป็นไก่ล่ะ
อิอิอิอิอิ

 

โดย: นู๋กิ๊ฟ&นู๋เปิ้ล 1 กุมภาพันธ์ 2551 16:02:20 น.  

 

emoโอ้วววว...โนววววว...

ม่ายยยย...ไม่จริง...emoง๊ากกกกก ง๊ากๆๆๆๆemoฝันสลายอีกแล้ว..

แง้...ไม่ถูกหวยซะที..emoแงๆๆๆemoemoemo

 

โดย: pataramin 1 กุมภาพันธ์ 2551 16:03:33 น.  

 

คุณรายารีย์ครับ

ผมรับคำถามของคุณไว้ตอบอีกทีนึง
ขอบคุณสำหรับคำถามครับ

อีกประมาณ ไม่เกิน 5 วัน
เรามาคุยกันนะครับ

ขอบคุณครับ

 

โดย: ก. วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) 1 กุมภาพันธ์ 2551 16:56:44 น.  

 


Have a nice day ja

v
v
v
v

pi karani

 

โดย: pi kan IP: 217.228.137.116 1 กุมภาพันธ์ 2551 17:22:02 น.  

 


 

โดย: pi kan IP: 217.228.137.116 1 กุมภาพันธ์ 2551 17:26:58 น.  

 

 

โดย: BongKet 1 กุมภาพันธ์ 2551 18:09:02 น.  

 


เฉพาะวัวกับกุ้งใช่ป่ะ

กินปลาไม่บาปใช่อ่ะป่ะ อาจารย์ก๋า
งั้นขอกินปลาต่อนะคร้าบบ
ขาดปลาเหมือนขาดใจ

(เรื่องกินสำคัญยิ่งชีพ)

 

โดย: nang_sida 1 กุมภาพันธ์ 2551 18:35:05 น.  

 

ยังยืนยัน

...สมองอร่อย emo

 

โดย: เป๋อน้อย 1 กุมภาพันธ์ 2551 18:51:22 น.  

 

Umm...raerng nii pood yak mak mai kha

jing jing kaer kui kub hlai hlai kon raerng nii kha

praol kaer kin jay pra-marn 1 pee

mai dai kin jay praol kid tung bab boon koon tod

tae tee laerk tan naur sud...praol mai yak tan

prak mak kha

ton nun'

mee tae kon mar wa'...bang krung tung kub

kra-hnae...kra-hnar

ngong pai puk naung laer kha

bang tee kor mai kao jai naa kaa

wa' karn tee raol yak tee ja tum a rai nun'

tar mun tak tang jak kon saun yai

kor klai pen kon prak

don wa' saerd see

yang kub wa' raol pai tum a rai pid

kae mai dai tan naer sud tua nun' ang kha

laew por ton nii yak tan

laer klub mar tan

tae kor tan noi long

kon kor yung tam mar lor eek

sud son jing jing kon raol

huer...ma-nut

 

โดย: CSULB@FineArt 2 กุมภาพันธ์ 2551 7:25:21 น.  

 

เคยได้ยินมาตลอดว่า "You are what you eat."
หรือว่า "กินอะไรก็เป็นอย่างนั้น" น่าจะใช้กับเรื่องนี้

จากการเปรียบเทียบที่ว่า เนื้อสัตว์ก็คือซากศพ กินเนื้อสัตว์ก็เหมือนกินซากศพ
เมื่อเรากิน...เราจะเป็นอะไร??

มังสวิรัติคือการละลดงดเว้นเนื้อสัตว์ทุกประเภท
และบริโภคแต่ผัก ถั่ว แป้งเท่านั้น
การบำบัดรักษาโรคต่าง ๆ วิธีการหนึ่งที่เป็นวิธีธรรมชาติ
ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีการรับประทานมังสวิรัติรวมเข้าด้วย
และดูเหมือนจะเป็นวิธีการรักษาที่เยียวยาอาการได้มาก
และเริ่มเป็นที่นิยมและแพร่หลายมากขึ้นในปัจจุบัน

พูดเรื่องบาป บุญ ไม่ค่อยเชี่ยวชาญและถนัดมากนัก
แต่เรื่องอาหารมังสวิรัติ ทราบแน่ ๆ ว่ายังไงก็เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
ปีนึง ๆ ปอยเองพยายามจะทานมังสวิรัติหรือว่าเจให้ได้บ้าง อาทิตย์นึงหรือ 10 วัน
ถ้าไม่ใช่ช่วงเจก็จะเป็นช่วงวันเกิดตัวเอง และพยายามขยายให้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ
ยอมรับว่าคนเราปัจจุบันนี้กินเนื้อเพราะความอยากมากกว่าความต้องการของร่างกาย

แม้ว่าจะยังไม่สามารถทานมังสวิรัติตลอดได้ก็ตามนะคะ
แต่เป็นคนนึงที่เชื่อในการทานมังสวิรัติ ว่าดีกว่าแน่ ๆ
เมื่อยังไม่สามารถชำระร่างกายให้บริสุทธิ์แท้ ๆ ได้
ก็ทำได้แค่เพียงทำใจให้บริสุทธิ์ ไม่เบียดเบียนใครเพิ่มขึ้น
ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้สัตว์ที่กินไปแต่ละวัน

แล้วสักวันในอนาคต...จะทานมังสวิรัติให้จงได้

สวัสดีย้อนหลังนะคะพี่ก๋า ช่วงนี้เนทที่คูเวตไม่ค่อยดี
สายเคเบิ้ลใต้น้ำที่อียิปต์ล่มน่ะค่ะ อากาศที่ที่ไม่ดีนักช่วงนี้
บางวันก็เข้าได้ บางวันก็เข้าไม่ได้เลย
อย่างเมื่อวานเข้าอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง
วันนี้ก็ลอคอินไม่ได้ ยังดีที่เข้าบลอคพี่ได้ ไม่งั้นมีลงแดง
ฮ่า ๆ

 

โดย: นางสาวดุ่บดั่บ IP: 78.89.75.143 2 กุมภาพันธ์ 2551 12:49:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]