คำถามจากพี่ลำเดือน....
เต่าดื้อตัวหนึ่งอยู่ใต้น้ำและโดนหินทับ.... ได้ฟังเรื่องของศิษย์วัดเซ็นแล้วตั้งคำถามขึ้นว่า.... เราต้องรู้รอบ รอบรู้ มีสติตลอดเลยหรือไรจึงจะทำการสิ่งใดได้
“แล้วร่มของเธอวางอยู่ตรงที่ใด ด้านซ้ายหรือด้านขวาของรองเท้าเธอ”
v v
"ข้าพเจ้ารู้ว่ามันอยู่ใกล้กัน และเมื่อกลับออกไปข้าพเจ้าสามารถสวมใส่เพื่อกันกรวดหินแหลมคม และกางเพื่อกั้นเพื่อลมกันฝนได้นั้น ไม่เพียงพออีกหรือ..."
หากวันนี้คนที่พร้อมเพียง 99% ถอยออกไปจากหน้าที่ซึ่งตัวเองมีความตั้งมั่น เพียงเพราะ 1% ที่ขาดหายไป
และต่อมามีคนที่มีความรู้มีสติกึ่งเดียว เข้ามาทำหน้าที่เพียงเพราะต้องการแสวงหาประโยชน์ นั่นดีกว่าหรืออย่างไร...ท่านอาจารย์
เต่าดื้อลาไปจิบกาแฟก่อนนะลุงก๋า โดยลึกๆแล้วข้าพเจ้ามีนิสัยชอบตั้งคำถามเท่านั้น มิได้กังขาในคำตอบของท่านอาจารย์หรอกขอรับ
คำถามโดย : D*U*A*N ( thisisduan ) วันที่ : 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา : 8:09:46 น.
***************************
หวัดดีครับพี่ลำเดือน....
ขออนุญาตฉายนิทานเรื่องเดิมอีกรอบ เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหา.....
................................
ครั้งหนึ่ง.....ศิษย์วัดเซ็นผู้ซึ่งฝึกฝนตัวเองอย่างหนักเป็นเวลา 20 ปี เขามั่นใจในสิ่งที่ตัวเองรู้และศึกษามาอย่างเต็มที่ จึงตัดสินใจเดินไปหาอาจารย์ที่วัด เพื่อขออำลาจากวัดแห่งนี้ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดใหญ่ในเมืองหลวง
เมื่อไปถึงวัด.... เขาถอดรองเท้าและวางร่มไว้ที่หน้าประตู จากนั้นเดินเข้าไปขอพูดคุยกับอาจารย์เฒ่า
“อาจารย์ครับ...หลายสิบปีที่ผ่านมา ผมได้ศึกษาวิชาความรู้อย่างหนักและเคร่งครัด บัดนี้ผมเชื่อมั่นในความรู้ของผมแล้วครับ เมื่อวันก่อนขุนนางจากวังในเมืองหลวงได้มาติดต่อ เพื่อให้ผมไปเป็นเจ้าอาวาสที่อารามหลวงแห่งนั้น ผมจึงเข้ามาขอลาอาจารย์เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ครับ” เขากล่าวกับอาจารย์อย่างนอบน้อม
“เจ้ามั่นใจในสิ่งที่เจ้ารู้แน่แล้วหรือ ?” อาจารย์เฒ่าถามด้วยเสียงอันแผ่วเบา “กระผมมั่นใจมากขอรับ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ....
อาจารย์เฒ่าเงียบไปชั่วขณะ.... ก่อนถามเขาต่อว่า “ตอนที่เจ้าเดินเข้ามายังอาราม เจ้าถอดรองเท้าของเจ้าและวางร่ม ข้าอยากรู้ว่าเจ้าวางร่มไว้ด้านซ้ายหรือด้านขวาของรองเท้า”
ศิษย์ผู้เชื่อมั่นในความรู้ของตน พลันเหงื่อแตกทั่วร่าง ทั้งที่อยู่ในช่วงอากาศหนาวเหน็บ โดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยคำใดอีก เขาก้มตัวค้อมรับการสั่งสอนจากอาจารย์โดยศิโรราบ และศึกษาต่ออยู่ในวัดแห่งนี้อีกหลายสิบปี...
……………………………………….
วันนั้นผมไม่ได้เล่าตอนจบของนิทานเรื่องนี้ เพราะอยากให้ทุกคนลองจินตนาการตอนจบของนิทานเรื่องนี้
มันมีเหตุผลค้างคาใจว่า ทำไมกับแค่จำไม่ได้ว่าวางร่วมไว้ด้านไหนของรองเท้า ถึงทำให้ศิษย์วัดคนนี้ไม่กล้าเดินออกจากวัด เพื่อไปเป็นเจ้าอาวาส แต่กลับตัดสินใจฝึกฝนตัวเองต่อในวัดในอีกหลายสิบปี.....
บางคนอาจคิดว่า ถ้าเป็นตัวเรา --- ในวันนั้นฉันจะเดามั่วไปเลย เพราะมันมีแค่สองคำตอบเอง แค่ “วางอยู่ด้านซ้าย” หรือไม่ก็ “วางอยู่ด้านขวา”....
เชื่อมั้ยครับ.....ว่าสำหรับบางคน ไม่ใช่แค่ “เดา” แต่ถึงขั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองไม่ได้ถือร่มมา แถมยังใส่รองเท้าสลับข้างอีกด้วย......
.........................................
ชีวิตคือการเรียนรู้ และเรียนรู้ตลอดชีวิต
อย่าบอกว่าเราเก่ง เพียงแค่อ่านหนังสือมากกว่าคนอื่นไม่กี่เล่ม อย่าบอกว่าเราคือสุดยอดของสาขาวิชา เพียงเพราะเราได้ปริญญาเอก อย่าคิดว่าเราเป็นผู้รอบรู้ เพียงเพราะใครบางคนแปะป้ายให้เราว่าเป็น “ผู้เชี่ยวชาญ”
ความมั่นใจในตัวเองแบบนั้นทำเราโง่ลงทุกขณะ และมองคนอื่นว่าด้อยกว่าตัวเราตลอดเวลา.....
....................................
เรื่องบางเรื่องในชีวิตเราใช้ความเชื่อมั่นและสติแค่ 99 % ไม่ได้นะครับ
หลับตาแล้วจินตนาการดูว่าถ้าเครื่องบินลำนี้สมบูรณ์เพียง 99 % อะไรจะเกิดขึ้น......
คิดดูว่าถ้าโลกเกิดมหาตภัยร้ายแรง.... 1 % ที่เราดูว่ามันน้อยนิด อาจหมายถึงจำนวนคนรอดตายมหาศาล
หลายๆเรื่องในชีวิต เราเรียนรู้ได้ ลองผิดลองถูกได้ รู้ 50 % แล้วเรียนรู้ไปเรื่อยๆได้ เหมือนสะสมชั่วโมงบิน
แต่หลายเรื่องในชีวิต เช่น วินาทีแห่งความเป็นความตาย การตัดสินใจในเรื่องของอนาคต การดูแลความรู้สึกและความสัมพันธ์ของคนที่เรารัก ผมคิดว่าบางที.....99 % ก็ยังน้อยไป มันต้อง 100 % เต็ม หรือไม่ก็ต้องทำให้เกิน 100 นะครับ
...................................................
เต่าดื้อมั้ย ?
ผมว่าเต่าไม่ดื้อหรอก เต่าที่รู้ว่าตัวเองดื้อ ส่วนใหญ่เป็นเต่าฉลาด เพียงแต่อาจยังไม่รู้วิธีรับมือกับอารมณ์ที่ทำให้เต่าหงุดหงิด และกำลังหาทางออกจากอารมณ์ด้านลบแบบนั้น โดยไม่สูญเสียความเชื่อมั่นในวิธีคิดของตัวเต่าเอง
อยากให้เต่าลองสนใจ “สติ” บางทีเต่าจะรู้ว่าเรื่องเล็กๆอย่าง “ร่มและรองเท้า” ก็สำคัญไม่แพ้การบริหารประเทศชาติ หรือการขับเครื่องบินเลยเชียว
กรณ.
(ก๋าราณี ใครเรียกพยูนมีแช่ง 5555)
*******************************
ฝากการ์ตูนให้เต่าดื้ออ่านเล่นๆ อิอิอิ
รูปเล็กเกินไป โปรดคลิ๊กที่รูป มันจะขยายเป็นรูปใหญ่ครับ จะดูและอ่านได้สบายตากว่า
Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2551 |
|
51 comments |
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2551 7:18:51 น. |
Counter : 1151 Pageviews. |
|
|
เจิมมั้งจิ
อิอิ