กุมภาพันธ์ 2551
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
16 กุมภาพันธ์ 2551

คำถามจากพี่พจมารร้าย.....







พูดเรื่องพนักงาน....

พี่ก็คล้ายๆกันแหละ แต่ส่วนใหญ่พี่จะออกแนวบ่นๆๆมากกว่า 555
เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยบ่นแล้วล่ะ
บางที เปลี่ยนที่ตัวเราง่ายกว่าเปลี่ยนคนอื่นเยอะ

เดี๋ยวนี้แทบจะไม่อารมณ์เสียกับใครเลย

เหลือแต่ลูกนี่แหละ ไม่รู้เป็นไง พยาย้าม พยายามจะใจเย็น
แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ
ปรี๊ดแตกใส่ลูกประจำเลย
แทนที่จะเป็นตัวอย่างดีๆให้ลูก
ดันกลายเป็นว่า ส่งต่อนิสัยเสียๆให้ลูกแทนซะงั้น เฮ้อ..

อีชั้นควรจะทำยังไงดีคะคุณ นี่คือคำถามที่ต้องการคำตอบนะเคอะ


คำถามโดย : พจมารร้าย
วันที่ : 11 กุมภาพันธ์ 2551
เวลา : 8:07:37 น.










*********************************



สวัสดีครับพี่พจ


คำถามของพี่ทำให้ผมนึกถึงเรื่องของเด็กหนุ่มคนหนึ่งครับ....


เมื่อหลายปีก่อนเด็กหนุ่มคนนี้เพิ่งจบการศึกษามาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศ
เขามีความมุ่งมั่นใฝ่ฝันในชีวิตหลายอย่างที่ตั้งใจไว้

หนึ่งในนั้นคือ การเป็นครูอย่างที่หวังไว้
อีกหนึ่งคือการเป็นสถาปนิก อย่างที่ตัวเองได้ร่ำเรียนวิชาความรู้มาถึง 7 ปีเต็ม

เขาทำงานเป็นสถาปนิกได้เดือนเดียว
พ่อของเขาเรียกตัวให้มาช่วยงานที่ร้าน
จากครู สถาปนิก เขาต้องกลายมาเป็นพ่อค้าแบบใจจำยอม....

เขาเริ่มสับสน.....









.....................................


การทำงานไม่ใช่เรื่องยาก
แต่การทำงานกับคนต่างหากที่เป็นเรื่องยาก

การบริหารงานไม่ใช่เรื่องยาก
แต่การบริหารความรู้สึกของคนทำงานนั่นต่างหากที่เป็นที่สุดของการทำงาน

เด็กหนุ่มเริ่มท้อ เหนื่อยหน่าย เบื่อ เซ็ง
เมื่อพบว่างานที่เขาทำอยู่ ไม่สนุก น่าเบื่อ เจอแต่คนหลากหลายประเภท
คนดี คนเลว คนฉกฉวย คนเอาเปรียบ
เล่ห์เหลี่ยมคูทางการค้า นั่นเป็นตำรานอกมหาวิทยาลัยที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต

เขา...ผู้ซึ่งเคยเชื่อมั่นในความถูกต้องของตัวเองมาตลอด
กลับต้องได้รับบทเรียนมากมายจากคนที่มีอำนาจมากกว่า

อีกทั้งยังความคาดหวังที่มีต่อลูกน้องตัวเอง
ไม่มีใครทำได้อย่างใจเขาเลย
เขากลายเป็นคนหงุดหงิด เจ้าอารมณ์ และฉุนเฉียวง่าย
เครียด โกรธรุนแรง และตั้งใจทำงานมากจนไม่คิดถึงเรื่องการพักผ่อนใดใด

ชีวิตมีแต่งาน งาน งาน งาน และงาน









.......................................


แต่ปัญหาที่ทำร้ายเขามากที่สุด
คือ การทำงานกับพ่อของตัวเอง
พ่อของเขาจบ ป.4 --- เป็นเถ้าแก่มาตั้งแต่อายุ 16 ปี
แน่นอน....เขารู้ดีว่าพ่อมีประสบการณ์มากกว่า
แต่เขาเองก็เชื่อมั่นในสิ่งตัวเองรู้เช่นกัน
ร่องรอยของความแตกต่างระหว่าง อายุ ความคิด และความเชื่อ
เริ่มก่อตัวตั้งเค้ารุนแรงขึ้นในใจ

หลายครั้งที่เขาคิดว่าเขาทำถูก
แต่กลับถูกพ่อด่าอย่างรุนแรง
คำว่า “พ่อ” ในธรรมเนียมจีน นั่นหมายความว่า
ทุกสิ่งที่พ่อคิด พ่อเชื่อ พ่อพูด --- มันจะต้อง “ถูก” อย่างเดียวเท่านั้น.....
ทุกคนในบ้านและร้านมีหน้าที่ปฏิบัติตามและรับฟัง
แม้จะรู้ดีว่าพ่อเป็นคนปากร้ายแต่ใจดี

แต่เมื่อสะสมมากเข้า....

วันหนึ่ง...มันระเบิดออกมา
กลายเป็นอารมณ์อันคับแค้นใจ น้อยใจ เบื่อ หน่าย เซ็ง ฯลฯ

วันนั้นเป็นวันที่เขาจำได้ดีว่า เขาต่อยกำแพงอย่างแรงจนมือแทบหัก
เตะเก้าอี้ล้มระเนระนาด ร้องไห้เหมือนคนบ้า
จนพี่ชายต้องจับเขาขึ้นรถ
ขับรถจากเชียงใหม่ไปลำพูน
เขาร้อง ร้อง ร้อง ร้อง และร้องไห้โดยไม่พูดอะไร

รอจนสงบลง.....พี่ชายเขาจึงชวนเขาคุย
เด็กหนุ่มคนนั้นยังสะอึกสะอื้นตลอดเวลา.....


ในที่สุดเมื่อพี่ชายตีรถกลับมาเชียงใหม่
ประโยคนั้นดังก้องในหูของเขา...


“พ่อเขาเป็นอย่างนี้มาทั้งชีวิต มึงจะไปเปลี่ยนเค้าได้ยังไง”








........................................




หลายปีต่อมากับการทำงานในร้าน
เด็กหนุ่มเปลี่ยนวิธีคิดในการทำงาน
เขาเริ่มเข้าใจพ่อมากขึ้น
เขารู้และเข้าใจว่าพ่อโตมาแบบต้องปากกัดตีนถีบ
ต้องสู้ชีวิต ต้องใช้บาดแผลริ้วรอยในชีวิตมากมายเพื่อแลกกับประสบการณ์

พ่อเป็นปลาที่เติบโตในสระกว้างและน้ำเชี่ยว
ส่วนเขาถูกเลี้ยงดูแบบประคบประหงมแบบปลาในกระชัง

เมื่อมองไปที่จุดสุดท้ายกับทุกสิ่งที่พ่อทำ
เขารู้ว่าพ่อทำทุกอย่างก็เพื่อทุกคนในครอบครัว

“ความรัก” ที่ไม่เคยแสดงออกด้วยถ้อยคำ
ทำให้เขารู้ว่าพ่อตัวเองเก่งแค่ไหนที่จบเพียง ป.4
แต่สามารถส่งเสียลูก 4 คนให้จบทั้งปริญญาตรีและปริญญาโท

การทำงานหนักตลอดชีวิตก็เพื่อหวังว่าลูกและเมียจะสุขสบายในบั้นปลายของชีวิต









..............................................



เด็กหนุ่มต้องใช้เวลาหลายปี
กว่าจะซึมซับความรู้สึกตรงนี้....
กว่าจะรู้ว่าพ่อตัวเองแม้จะเป็นคนเจ้าอารมณ์ แต่ไม่เคยเอาเปรียบใคร
กว่าจะรู้ว่าในสนามการค้า เค้าไม่ได้สู้กันด้วย “ระดับการศึกษา”
แต่สู้กันด้วย “ไหวพริบและการตัดสินใจ”

ที่เขาไม่ชอบไม่ใช่ “งาน”
ไม่ใช่ “พ่อ”
แต่เขาเกลียดตัวเอง....เขาไม่เข้าใจตัวเอง

เขามัวแต่เสียเวลาหลายปีตั้งคำถามกับชีวิตว่า

“ทำไมพ่อไม่เคยเข้าใจเขาบ้าง ?”

แทนที่จะตั้งคำถามว่า

“แล้วเขาเคยเข้าใจพ่อบ้างหรือเปล่า ?”


ในขณะที่เขาตั้งแง่และคาดหวังสูงกับพนักงาน
เขาเคยถามตัวเองบ้างไหมว่าพนักงานต้องการอะไรจากเขาบ้าง










....................................................



พี่พจครับ


ผมไม่เคยกังขาต่อความรักที่พ่อแม่มีต่อลูกเลย
แต่ผมคิดว่ามีลูกไม่กี่คนที่มองเห็นความดีตรงนี้….

ลูกไม่ค่อยนึกถึงความห่วงใยที่ปนเปื้อนอยู่ในถ้อยคำบ่นด่า

ลูกไม่ค่อยใส่ใจความหวังดี ที่อยู่ในคราบของความเข้มงวด

ลูกมองเลยผ่านความรัก เพราะอยากเห็นแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการ

กว่าจะเข้าใจ กว่าจะรู้ความหวังดีนี้ บางคนต้องใช้เวลาเกือบค่อนชีวิต
เพื่อให้อภัยในสิ่งที่พ่อแม่เคยทำให้เรารู้สึกไม่พอใจ
หรือคล้ายสร้างรอยบาดแผลเจ็บช้ำไว้ในความรู้สึกจนยากที่จะให้อภัยและลืมเลือน









.............................



วันนี้ผมกำลังจะเป็นพ่อคนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ผมยังไม่รู้ว่าผมจะเลี้ยงดูลูกของผมแบบไหน

แต่ผมจะบอกเค้า-สอนเค้า....
ว่าจงอย่าเป็นแบบ “เด็กหนุ่ม” คนนี้

จงมองให้เห็นความรัก ความปรารถนาดีของพ่อแม่ให้มากเข้าไว้
ทำดีที่สุดต่อบุพการี เพราะท่านแก่ตัวร่วงโรยลงไปทุกที
อะไรที่ทำให้ท่านมีความสุขจงทำอย่างไม่ต้องรั้งรอ
ไม่มีประโยชน์ที่จะเอาอาหารที่ดีที่สุดโลกไปวางไว้หน้าโลง ในวันที่ท่านไม่อยู่
ไม่มีประโยชน์ที่จะซื้อเสื้อผ้าที่ราคาแพงไปให้ ในวันที่ชีวิตของท่านไม่ต้องการความสวยงาม


จงเป็น “ลูกที่ดี” และเรียนรู้ที่เข้าใจคนอื่น.....

ผมไม่รู้ลูกผมจะเป็นคนรวยหรือจะคนเก่งหรือไม่
แต่ผมรู้ว่าลูกผมจะเป็นคนดี

และที่สำคัญ.....
ลูกผมไม่ควรเดินตามรอยเท้าของเด็กหนุ่มคนนั้น....
เด็กหนุ่มผู้ต้องการให้คนทั้งโลกมาเข้าใจตัวเอง
โดยไม่เคยคิดเข้าใจคนอื่นบ้าง......

ผมรู้จักเด็กหนุ่มคนนั้นดี....
เพราะเด็กหนุ่มคนนั้น คือ ตัวผมเองครับ


กรณ.

(ก๋าราณี ผู้เข้าใจชีวิตหลังผ่านความเจ็บปวดในชีวิต)







Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2551 7:27:23 น. 80 comments
Counter : 829 Pageviews.  

 


...เจิมก่อน...


โดย: Nok_Noah วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:28:07 น.  

 


โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:33:06 น.  

 
ที่ 2 ก็ยังดี emo


โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:33:51 น.  

 


พี่ก๋าคะ...

นกเป็นเทพไม่ได้อ่ะค่ะ แหะ แหะ ตั้ง 45 วินาทีแน่ะ อิอิ


emo



จงเป็น “ลูกที่ดี” และเรียนรู้ที่เข้าใจคนอื่น.....
พี่ก๋าทราบไหม...ประโยคนี้ แม่นกคอยจะพร่ำสอนบ่อยๆ
โดยเฉพาะ การเข้าใจคนอื่น..
หากเราต้องการให้เขาเข้าใจเรา เราก็ควรจะเข้าใจเขาก่อน
หากทำได้แบบนี้ ..
การทะเลาะเบาะแว้ง การยึดตนเป็นที่ตั้ง ก้จะค่อยๆ ลดหรือหายไป
ใช้ความพยายามอยู่ค่ะ..ที่จะเข้าใจคนอื่น
แม้จะเข้าใจได้ไม่มาก ไม่หมด แต่ดีกว่าที่จะไม่เข้าใจอะไรเลย

หลังจากอ่านคำตอบของก๋าศิราณีแล้ว..
นกเชื่อว่า...ถึงวันนี้ พี่ก๋าเป็นลูกที่ดี และก็จะเป็นพ่อที่ดีต่อไป
อันเป็นเพราะผลมาจากความเข้าใจ ใช่มั้ยคะ

emoemo



โดย: Nok_Noah วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:35:46 น.  

 
แวะมาอีกรอบค่ะ นอนไม่หลับง่ะ


โดย: Prettymaew วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:38:24 น.  

 


โดย: อาจารย์บ้านนอก วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:40:32 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณครูก๋า emo

อ่านแล้วก็อยากเข้าใจชีวิตมากขึ้นค่ะ แต่ก็มีเรื่องเข้ามาให้เรียนรู้เสมอ emo

มีความสุขมาก ๆ นะคะคุณครูก๋าและคุณภรรยาคนสวย emo


โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:49:53 น.  

 
ได้อ่านเต็มๆเลยวันนี้
หลังจากปะติปะต่อมาหลายครั้ง แหะ แหะ
ลุ้นครับว่าพี่จะเลี้ยงลูกแบบไหน
หลังจากเคยผ่านประสบการณ์แบบนี้

มันชวนให้ผมคิอถึง คนรุ่นต่างๆ ที่มีความแตกต่างกัน
ก็คงมาจากสาเหตุนี้เอง

ผมเชื่อว่าปัญหาทุกอย่าง เริ่มจากครอบครัวนี่แหละ
ถ้าโชคดี ก็คิดได้ตอนโต
ถ้าโชคไม่ดี ก็คิดไม่ได้จนวันตาย

อ่อ ช่วงนี้กำลังต่อสู้กับอนาคตอ่ะพี่
ไว้จะมาเล่าให้ฟังครับ แหะ แหะ


โดย: TzOzOzN วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:51:55 น.  

 
พี่น้องครับ


วันนี้จะหายตัวไปสักครึ่งวันนะครับ
ไปทำงานข้างนอกครับ

กลับมาจะตามมาอ่านเม้นท์ทุกอันเลยครับ

มีความสุขมากๆทุกคนเลยนะครับ


emoemoemo


โดย: ก. วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:59:23 น.  

 
พ่อเป็นปลาที่เติบโตในสระกว้างและน้ำเชี่ยว
ส่วนเขาถูกเลี้ยงดูแบบประคบประหงมแบบปลาในกระชัง


กว่าจะรู้ว่าพ่อตัวเองแม้จะเป็นคนเจ้าอารมณ์ แต่ไม่เคยเอาเปรียบใคร
กว่าจะรู้ว่าในสนามการค้า เค้าไม่ได้สู้กันด้วย “ระดับการศึกษา”
แต่สู้กันด้วย “ไหวพริบและการตัดสินใจ”


ในขณะที่เขาตั้งแง่และคาดหวังสูงกับพนักงาน
เขาเคยถามตัวเองบ้างไหมว่าพนักงานต้องการอะไรจากเขาบ้าง
^
^
วันนี้โดนใจพี่หมีมากมายแม้ตัวเองจะไม่มีลูก

และไม่เคยคาดหวังกับหลาน แต่เมื่อส่งเสียเขาเรียนก็อดห่วงใยในอนาคตเขาไม่ได้

พี่และคุณแม่พี่โต้แย้งกันหลายครั้งเรื่องโรงเรียนของหลาน พี่ก็แพ้น้ำตาของคุณแม่พี่ทุกครั้ง

คุณแม่พี่ไม่เข้าใจว่าเกรด3 กว่าๆของโรงเรียนแถวบ้านสู้โรงเรียนประจำจังหวัดไม่ได้

อยากให้หลานอยู่กับคุณย่ามากกว่าที่จะให้มาอยู่กับป้า

กับลูกน้องก็เหมือนกันอย่างที่พี่เคยคุยกับคุณก๋าค่ะว่า

ถ้าทำได้ดีอย่างที่เราต้องการทั้งหมดเขาก็คงเปิดร้านเองไปแล้ว

สวัสดีเช้าวันที่อากาศน่านอนสุดๆ จะออกไปหาคุณแม่ค่ะ

เลยแวะมาเยี่ยมคุณก๋ษแต่เช้าหลังจากไปบ้านลูกสาวตามหลังคุณก๋าemoemo


โดย: หมีสีชมพู วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:08:21 น.  

 
เดียวมาอ่านต่อเจ้า

มาชมก่อนว่า ช่วงนี่มีแต่รูปน่ารักๆ อิิอิ

เป็นคิกขุไปแล้ว สงสัยเพราะเตรียมรับมือก๋าน้อย อิอิ


โดย: thaispicy วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:12:37 น.  

 
กรณ.นะกรณ. ทำชั้นเสียน้ำตาแต่เช้าเลย อายเค้ามั้ยน่ะ


อ่านเรื่องกรณ.กับคุณพ่อแล้วเหมือนอ่านเรื่องของพี่กับแม่พี่ไม่มีผิด

เพียงแต่วันที่รู้สึกแย่ที่สุด คนที่ให้สติกับพี่คือสามี

ช่างเป็นลูกเขยที่เข้าใจแม่ยาย มากกว่าลูกสาวเข้าใจแม่ตัวเองซะอีก

เพราะเหตุนี้แหละ ยิ่งนานวัน พี่ถึงยิ่งรักตาแก่คนนี้มากขึ้นทุกที

และเพราะเหตุนี้แหละ เมื่อวานตอนที่อ่านเนื้อเพลง"เดินเคียงกัน" พี่ก็นั่งน้ำตาไหลจนลูกน้องมองหน้า เหอๆๆ

ส่วนเรื่องลูก พี่ก็กำลังพยายามอยู่นะ พยายามจะใจเย็นให้ถึงที่สุด

หมายความว่า ถ้าเริ่มจะปรี๊ดอีกเมื่อไหร่ จะส่งต่อให้พ่อเค้าแทน 555

ขอบคุณสำหรับคำตอบนะเคอะ

ก๋าน้อยต้องเติบโตเป็นคนดีแน่นอน ฟันธง โช๊ะ!!!




โดย: พจมารร้าย วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:14:06 น.  

 
อ่ะโห..ซึ้ง

ปล..พี่ชายเอาไปปล่อยที่ลำพูนเลยหรอค่ะ..ใจร้ายเนอะ..แค่น้องชายสะบัดงวง สะบัดงา นิดส์เดียวเอง..


โดย: ชมพู่น้อย วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:20:34 น.  

 
หวัดดียามเช้าอากาศดี..
อย่าว่าแต่เช๊ยงใหม่เลยคุณจู้จี..(ชอบจิรงๆชื่อนี้)
กรุงเทพก็เย็นๆน่ะวันนี้..ตื่นมาแสนสดชื่น..เหมาะมากๆวันนี้เพราะจะมีปาร์ตี้เลี้ยงรุ่นกันที่บ้าน..


โดย: tai (taibangplee ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:42:33 น.  

 
ตามมาดูคำถามเจ๊เมย์คนสวย อิอิ เจ๊ชอบปรี๊ดใส่ลูกเหรอ เหอ เหอ emoemoemoemoemo


โดย: หนุ่มน้อยแห่งลุ่มแม่น้ำบางปะกง วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:03:03 น.  

 
ยินดีด้วยครับที่ในที่สุดความเข้าใจกันก็เกิดขึ้นถึงแม้ว่าจะใช้เวลานานหน่อยก็ตาม...

ขอเสริมว่าเรื่องนี้เกิดได้จากปัจจัยความแตกต่างทั้งหลายอย่างที่คุณก๋ากล่าวไปแล้ว...

ประเด็นนึงที่ขอเสริมคือเรื่องของการชื่นชมและการยอมรับนับถือในความคิดและความสามารถของอืกฝ่ายครับ....

คุณพจคิดว่ายอมเปลี่ยนตัวเองดีกว่าเพื่อลูกน้อง...
เพราะว่าไม่สามารถชื่นชมความสามารถของลูกน้องได้
แต่ยังไม่สามารถยอมให้คุณลูกได้....
เพราะว่าไม่สามารถชื่นชมกับความสามารถของลูกได้
คุณก๋าคิดว่าเกลียดตัวเองดีกว่าในตอนแรก...
เพราะว่าไม่สามารถชื่นชมกับความสามารถของคุณพ่อได้
แต่สุดท้ายก็เข้าใจคุณพ่อ...
เพราะว่าสามารถชื่นชมกับความสามารถของคุณพ่อได้

เจ้านายและพ่อแม่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือหวังดีและหวังจะให้ลูกน้องและลูกน้อยประสพความสำเร็จ...

ตัวอุปสรรคหรือ เรียกใหม่ว่า" กำแพง" เมื่อถูกทลายลงวันใด
จะทำให้ศัตรูทางความคิดสองฝ่ายกลายเป็นฝ่ายเดียวกัน เมื่อนั้นจะทำให้สามารถชื่นชมกับความสามารถของอีกฝ่ายได้

ตำแหน่งหน้าที่ๆ แตกต่าง ประสพการณ์ที่แตกต่าง กำแพงระหว่างวัยที่ขวางกั้น การสื่อสารที่ไม่ตรงช่องสัญญาณกัน ล้วนแล้วแต่เป็นอุปสรรคต่อการบรรลุวัตถุประสงค์เดียวกัน

ตัวแปรตัวเดียวครับที่แก้ไขปัญหาคือการใช้ เวลาคลุกคลีกันของทั้งสองฝ่ายที่ต้องใช้ภาษาโทนเดียวกัน
เพื่อกลับไปยอมรับความชื่นชมความสามารถกันและกัน หากิจกรรมที่ไม่จำเจทำ ไปเที่ยวไกลๆ ที่ไม่เคยไป ไปผจญภัยที่ไหม่ๆ อาจทำให้เข้าใจกันได้ครับ

ตัวอย่าง หากมีเรื่องราวใหญ่โตเกิดขึ้นที่คุณพ่อคุณก๋าแก้ไม่ได้หรือคุณพจน์แก้ไม่ได้เกิดขื้น...
คุณก๋าหรือลูกน้องคุณพจหรือลูกคุณพจน์แก้ไขให้ได้ ความชื่นชมความสามารถของฝ่ายตรงข้ามจะเกิดขึ้นทันที
ทำลายกำแพงลงทันที...

ขอให้ว่าที่คุณพ่อประสบความสำเร็จดังตั้งใจนะครับ ใช้เวลากับเค้าเยอะๆ พยายามอย่าให้เกิดกำแพงที่ต้องให้ตามมาทลายอย่างยากลำบากตอนหลัง
โชคดีครับ...




โดย: Flying Dragon of WDC วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:06:40 น.  

 
อ่านแล้วได้ข้อคิดหลายอย่างเลยค่า
ตอนเด็กๆ หมูก็ทำให้แม่เสียน้ำตาบ่อยครั้ง ทำให้พ่อปวดหัวเป็นประจำ
ก็ได้แค่คิดว่าผู้ใหญ่ไม่เข้าใจ แม่ไม่รัก พ่อไม่ห่วง
แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย การที่เขาดุหรือสั่งสอน
นั้นเป็นเพราะเค้ารักและหวังดีกับเราอย่างถึงที่สุด

เคยได้ยินใครๆ หลายคนพูดว่า เราจะเข้าใจความรู้สึกของแม่
ก็ต่อเมื่อเราได้เป็นแม่คน หมูยังไม่มีลูกนะค่ะ
แต่หมูมีหน้าที่ต้องเลี้ยงดูลูกน้องในร้าน ทำให้เข้าใจเลยว่า
การที่เราจะดูแลใครซักคนมันยากมากๆ

การไม่ให้เขาไปเที่ยว เขาหาว่าเราจุกจิก
การสอนให้เขาประหยัด กลายเป็นว่าเราขี้งก
และอะไรอีกหลายๆ อย่างที่เด็กคนนี้ไม่เข้าใจ

ว่าแล้วโทรศัพท์ไปหาแม่ดีกว่า "แม่จ๋า หนูรักแม่จัง"


โดย: หมูอ้วน (pigarea ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:23:53 น.  

 
55555555 เจอมาเหมือนกันเรย emo
ผิดกันตรงที่ ของแม่น้องรันผู้บัญชาการเป็น ท่านแม่ ไม่ใช่ท่านพ่ออย่างกะก๋า
ท่านแม่หัวดื้อสุดๆ ชอบคิดว่าตัวเองถูกเสมอ (ไม่รู้เหมือนใคร) emo
แม่น้องรันเบื่อเลยแยกตัวไปเปิดร้านเอง emo

ปลา-กด-ว่า เจ๊งอ่ะ emo


โดย: แม่น้องรัน (runch ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:43:41 น.  

 
ปัญหาที่ถามวันนี้คล้ายๆกับเรื่องของพี่ ยกเว้นเรื่องลูกเรื่องเดียว ที่ไม่เหมือน กับลูกน้องพี่ไปเข้มงวด บ่น เขามาก เพราะเราอยากให้ทุกอย่างออกมาดี บางสิ่งบางอย่างเขาไม่ได้อย่างพี่ทำก็ต้องค่อยๆฝึก ค่อยๆสอนกันไป เดี๋ยวนี้ยังเย็นขึ้นเยอะ ถ้าพี่ปรี๊ดขึ้นมาพี่จะไม่พูด พอเย็นลงจะบอกเขาดีๆ
ส่วนเรื่องแม่ ตอนนี้กำลังมีปัญหากันอยู่ อย่างที่คุณบอกเปลี่ยนตัวเขาไม่ได้เพราะเขาเป็นอย่างงี้มาตลอดชีวิต แต่เราต้องเปลี่ยนตัวเรา

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าแก่ไปฉันจะไม่ทำตัวยังงั้น ไม่งั้นมีหวังลูกหลานหายหมด

ช่วงนี้รู้สึกแย่จัง น้ำตาจะไหลอีกแล้ว


โดย: kai (aitai ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:45:33 น.  

 
วันนี้เราลองแวะเข้ามาอ่าน
เราชอบความคิดของคุณนะ
ยินดีกับ ว่าที่คุณพ่อ-คุณแม่คนใหม่


โดย: pumorg วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:46:03 น.  

 
สวัสดีค่าอ้ายก๋า....

วันนี้เตยมาเล่นแต่เช้า...เพราะว่าโดนปลุก 555

เดี๋ยวแอบไปฟังเพลงอ้ายก๋าก่อนเน้อ....

คิๆๆ

ชะแว๊บบบบบบบบบบบบ


โดย: น้องหนามเตย (Tourlek_Taklom ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:46:43 น.  

 
วันนี้ตัวแม่อ้วนไม่ปรี๊ดแตกกะลูกแน่ๆ เพราะให้กำลังใจเขาไปสอบเข้า ป.1 อิอิ


โดย: แม่อ้วนคนสวย วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:50:16 น.  

 
emoemo

ปล. ยาวมากกกกกกกกกกกกกเดี๋ยวมาอ่านใหม่ค่ะ


โดย: คนไม่เจียม.. วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:50:35 น.  

 
แต่ถ้ามันเป็นคนดีแต่ดื้กับพ่อแม่
คงจะโดนเตะ้ก้านคอแน่นอน 55555
^
^
ลูกพี่ก็เป็นเด็กดีแบบนั้นแหละ

แต่พี่ก็ไม่เคยเตะก้านคอลูกนะ


โดย: พจมารร้าย วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:02:56 น.  

 
คุณพจคิดว่ายอมเปลี่ยนตัวเองดีกว่าเพื่อลูกน้อง...
เพราะว่าไม่สามารถชื่นชมความสามารถของลูกน้องได้
แต่ยังไม่สามารถยอมให้คุณลูกได้....
เพราะว่าไม่สามารถชื่นชมกับความสามารถของลูกได้
^
^
อ่านเม้นต์ของคุณ Flying Dragon แล้วอึ้ง แทงใจดำไงไม่รู้อ่ะ

นั่นสิคะ ทำไมเราปรับตัวเองเพื่อคนอื่นได้ แต่กับลูก ซึ่งเรารักมากที่สุด เราถึงทำไม่ค่อยได้

ดีดี.อยู่หนายยยยยยยยยยยยยย

พี่สาวน้องดี.ทำยังไง เวลาอารมณ์เสียกับน้องๆ

ตอบพี่หน่อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย



โดย: พจมารร้าย วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:07:30 น.  

 
แวะเข้ามาอ่านค่ะ


โดย: opleee วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:16:45 น.  

 



พี่พจคะ...
เช้านี้มีเวลาเข้าบล็อกนิดหน่อยค่ะ
เข้าบล็อกพี่โตสก่อน
ไปเมาท์ซ๊ายาววววอย่างคิดถึง

ตอนแรกตั้งใจว่าจะวางเฉยกับบล็อกนี้ในช่วงเช้า
เพราะจะทำงานแว๊ววว

แต่พอเห็นว่าเป็นคำถามของใคร
นู๋เลยวางเฉยไม่ได้
ขอแจ๋นิสสสสสนึงemo

เห็นพี่พจบ่นเรื่องลูก
นึกถึงเรื่องเมื่อวาน

เมื่อวานดี.ต้องไปธุระกับพี่สาวและพี่เขย
ก็ไปรับน้องทั้งสองคนที่โรงเรียนก่อน
ก็รับน้องมาที่ยูเนี่ยนมอลล์ ตรงข้ามเซนทรัล ลาดพร้าว
เพื่อนดี.เปิดร้านขายเสื้อผ้าอยู่
ก็มาทิ้งน้องไว้ที่ร้านเพื่อน
มีเพื่อนหลายคนมารออยู่
เพราะหลังจากเสร็จธุระ ก็จะยกพลเข้ารังกัน

ดี.กับพี่ต้องไปธุระต่อที่คาร์ฟู บางแคร์
อยู่คนละมุมเมืองกันเลย
ต้องใช้เวลาในการเดินทาง

น้องสองคนพอลงจากรถได้ วิ่งหน้าเริ่ดไปที่ร้านเพื่อนดี.
แล้วบอกว่านู๋ไปเล่นเกมนะ
แล้วสองคนพี่น้องก็ขึ้นไปบนห้าง เล่นเกม

ดี.โทรไปหาเพื่อนถามว่าน้องไปถึงร้านหรือยัง
เพื่อนบอกว่ามันไปเล่นเกมแล้ว

พี่สาวดี.หงุดหงิดทันที อารมณ์ประมาณเสียรู้ลูก เพราะ...

ก่อนจะลงจากรถก็ไม่บอกว่าจะไปเล่นเกม
ทำเป็นเนียนๆไปบอกเพื่อนดี.ว่าไปเล่นเกมนะ
ประหนึ่งว่าแม่อนุญาตมาแล้ว

แล้วพี่สาวดี.ก็โทรไปว่าลูกสาวว่าอย่าทำอย่างนี้อีก
นอกจากจะไม่ขออนุญาตแล้วก็ยังมีแผนการ
ทำเฉยเฉย เนียนเนียน
แบบนี้มันน่าทุบๆๆๆๆ

พี่พจกับพี่สาวดี.น่าจะประมาณกัน
มีเรื่องกับลูกไม่เว้นแต่ละวัน

ที่พี่พจบอกว่า...
“ปรี๊ดแตกใส่ลูกประจำเลย
แทนที่จะเป็นตัวอย่างดีๆให้ลูก
ดันกลายเป็นว่า ส่งต่อนิสัยเสียๆให้ลูกแทนซะงั้น เฮ้อ..”

ดี.ว่าอาการเดียวกันเลย
พี่ดี.บอกว่าเหมือนเป็นศัตรูกับลูกเลย
แล้วก็โยง....
พวกแกแหละ...เลี้ยงน้องกันยังไง
นิสัยเสียเหมือนกันหมด

เลยซวยไปตามๆกัน

ดี.กับน้องสนิทกันค่อนข้างมาก
มีอะไรก็คุยกัน เบื่อแม่ก็มาเล่า

แต่ลึกลึกตอนนี้
ดี.รู้สึกว่าน้องดื้อ เป็นตัวของตัวเองสูง
ดี.พลอยเครียดไปด้วย เพราะน้องก็มาบ่นแม่ พี่ก็มาบ่นลูก
แล้วที่มากไปกว่านั้น จะมีคำลงท้าย...
“เหมือนแกแหละ...เหมือนกันเลย”

โหยยยยย

คนสวยซวยประจำ

.................................
ช่วงนี้....
ศึกษาเรื่องเด็กๆเยอะ
ดีดีมีลูกสาวแล้วคนนึง

ที่พี่พจไปบอกไว้ที่บล็อกนั้นว่า...
ดีดีแอบมีลูกสาวแถวนี้
นู๋ไม่ได้แอบนะ
ออกจะเปิดเผย
แต่พี่พจไม่รู้เอง.
.
.
.
เอ่อ....พี่ก๋าคะ
นู๋คุยกับพี่พจนะบล็อกนี้
ไม่เกี่ยวกับพี่



emo







โดย: ดีดี (มัชชาร ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:23:45 น.  

 


ม๊าอ่านไปน้ำตาไหลพรากเลยนะค่ะเนี้ย

คนๆนั้นคือคุณก๋าของมาดามใช่ไหมค่ะ
ที่คุณก๋าบอกกับคุณพจมานนะค่ะ คุณก๋าค่ะ ม๊าในฐานะของแม่คนหนึ่ง
ดีใจมาก ที่เด็กผู้ชายคนนั้น เข้าใจธรรมะอย่างถ่องแท้
แบบไม่รู้ตัวหรือไม่ได้ตั้งใจอะไรก็ตามแต่เถอะนะ
แต่นั้นคือจุดสุดยอดแห่งคุณธรรมประจำใจแล้วล่ะค่ะ

ชนะใดไม่ยิ่งใหญ่เท่าชนะใจตนเอง
อีกไม่กี่วัน คุณก๋าจะเป็นพ่อคนแล้ว สิ่งที่หนักอึ่งคือตำแหน่งของพ่อนะค่ะ
หาใช่การที่ต้องทำงานอย่างจำเจนั้นไม่
รายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องเข้ามาให้คุณก๋ากะมาดาม
ช่วยกันเลยล่ะค่ะ..........

คุณป๋าของม๊าผ่านมาแล้วค่ะ


โดย: นางมารร้ายจีจี้ วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:26:25 น.  

 
อ่านแล้วซาบซึ้งค่ะ

เข้าใจคนอื่นๆให้มากขึ้น

ไม่ควรหวังให้คนอื่นมาเข้าใจตนเอง

ดีจังเลย emo


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:29:48 น.  

 



สวัสดียามเช้าค่ะพี่ก๋า
ดี.มัวมาแต่หมกมุ่นอยู่ที่บล็อกพี่
กลับไปรัง
ถึงเห็นว่าพี่แวะไป

ทำงานอย่างมีความสุขนะคะ
ดี.ก็ต้องตั้งสติทำงานแร้วววว


บ่ายๆค่อยแวะมาใหม่





โดย: ดีดี (มัชชาร ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:30:28 น.  

 
ปล่อยให้หนูชมมีความสุขกับการเข้าใจผิดของตัวเองเหอะคะ..

แหม..เล็กๆน้อยๆ ก็ไม่ได้..emo


โดย: ชมพู่น้อย วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:46:05 น.  

 


แวะเข้ามาบอกอีกเรื่องนะค่ะคุณก๋ากะมาดาม

เรื่องแมวกับนกของม๊านั้นเรียบร้อยแล้วนะค่ะ

พอดีเจ้านายของเขาเป็นเพื่อนรักของม๊าเองล่ะคะ

แล้วนกก็ไม่ได้ตาย เขาเพียงแต่ต้องการเรียกเงิน

อะไรทำนองนั้น คล้ายๆเบล็คเมล์นะค่ะ เลวดีเหมือนกันนะค่ะ

แต่ก็ไม่ไว้ใจแมวให้ออกไปหรอกค่ะ เป็นห่วงนะ

ไว้ม๊ามีเรื่องปัญหาคาใจสิ่งใดแล้วจะเข้ามาถามใหม่นะค่ะ

อย่าลืมซื้อน้ำมะพร้าวเผาให้มาดามทานเยอะๆนะค่ะ

นมวัวตราหมีสีขาวค่ะ ถ้าเป็นสีเหลืองกับสีฟ้าจะทำให้

ตัวเด็กเป็นไขเวลาคลอดได้นะค่ะ

อิอิ ไม่ค่อยมีใครคุยกับม๊าหรอกค่ะ เพราะเราแก่แย้ว

คุยแต่เรื่องลูกๆ ก็เลยคุยกะคุณก๋าราณีและมาดามนี้ล่ะ
หนุกดี


โดย: นางมารร้ายจีจี้ วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:47:52 น.  

 
ดีดี.อยู่หนายยยยยยยยยยยยยย

พี่สาวน้องดี.ทำยังไง เวลาอารมณ์เสียกับน้องๆ

ตอบพี่หน่อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

^
^
^

ดี.เพิ่งเห็น
วันหลังต้องจุดธูปเรียกดี.นะพี่พจ
จะได้เห็นเร็วๆ

พี่สาวดี.เค้าจะเป็นคนพูดอะไรตรงๆ
ที่จริงในกลุ่มของดี.จะเป็นเหมือนกันหมด
จะพูดตรงๆ ไม่ค่อยรักษาน้ำใจ

เวลามีปัญหากับลูก พี่เค้าจะพูดเลยว่าเค้าคิดยังไง
ความคิดของเค้า
บางทีคนฟังจะเฮ้ยยย ใช้อำนาจนี่หว่า
พอใครแย้ง ก็จะแบบ...
แล้วแกจะมีปัญหาอะไรกับฉันล่ะ
ใครๆเลยไม่อยากเถียงด้วย

เค้าเป็นคนที่พูดแล้ว เราต้องฟังค่ะ
มักจะมีมุมที่ไม่เหมือนคนอื่น
กับน้อง...
เค้าก็จะพูดๆๆๆในสิ่งที่คิด
รู้ว่าลูกไม่ชอบก็จะพูด
ตบโต๊ะปัง
เงียบกันทั้งหมด
เค้าเป็นอย่างนี้

แต่โดยภาพรวม ที่เค้าพูดน่ะฟังขึ้น
น้องดี.เอง พอทะเลาะกับแม่
พวกดี.เคยแอบถาม
คิดยังไงกับสิ่งที่แม่พูด
น้องก็ว่าถูกของแม่แหละ
แต่แม่ชอบใช้สิทธิ์ของความเป็นแม่
หนูเป็นลูกก็แพ้อยู่ดี

พี่ดี.เค้าจะเป็นที่ปรึกษาของลูกได้ดีนะคะ
นอกจากความเจ้าอารมณ์ที่เห็นอยู่
แต่ถ้าต้องปรึกษากันก็เห็นว่าทำได้ดี

น้องดี.เวลางอแงเค้าก็ประสาเขา
แต่พอเค้ามีเรื่องจริงจัง
เขาจะไปหาแม่ แล้วจะบอกว่า...
"แม่...หนูมีเรื่องจะคุย"

ถ้ามาแนวนี้ พี่เค้าจะฟัง และให้ความเห็น
เป็นที่ปรึกษา
แต่ถ้าเป็นเรื่องปกติ
ก็จะทะเลาะกัน

ตัวดี.เองก็เหมือนกัน
เวลาที่ไม่ไหวก็จะแบบ...
ขอคุยหน่อย
แล้วก็จะนั่งคุยกัน มีอะไรดี.ก็พูด
แล้วก็จะได้คำแนะนำ

มีคนที่ดี.เคยคบว่าดี.
บอกว่าดีดีน่ะฟังแต่พี่ คิดเองไม่เป็น
ชอบยืมจมูกคนอื่นหายใจ

ที่จริง
จะไปว่าพี่ดี.ก็ไม่ได้
เพราะสิ่งที่พี่พูดมันใช่ แล้วเผอิญดี.เชื่อ
พอเชื่อแล้วมันทำให้ชีวิตเราไม่ผิดพลาด
ดี.ว่ามันก็ดีอยู่แล้ว
.
.
.
จมูกนู๋ก็มี...
จะยืมคนอื่นทำไมเนอะ








โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:52:45 น.  

 
หวัดดีคับอ้ายก๋า
แวะมาอ่าน ยังไม่มีคำถามครับ
ถ้าเกิดว่าแอบ ๆ มีอยู่ในใจ
ก็ต้องหาคำตอบของตัวเองก่อน
ไม่เจอจริง ๆ ค่อยถามคนอื่นอ่ะ อิอิ...

วันนี้มาบ้านนี้นานหน่อยครับ
เพราะแวะไปดูรูปวัดสวย ๆ บางวัดผมไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อ บางที่ก็เคยไปแล้ว

ผมชอบวัด บางทีไปไหน ๆ นั่งรถผ่านวัดที่ไม่รู้จัก
มักจะชะเง้อมองจนลับตา เสียดายที่ไม่ได้แวะดู
โดยเฉพาะวัดเก่า ๆ

วันนี้ยังดูไม่ครบครับ วันหลังจะแวะมาใหม่

ชอบเจดีย์วัดหล่ายหิน มาก แนวดีครับ
หลายแนวเลย ทั้งพอเพียง สร้างสรรค์ ศรัทธา

เจดีย์เก่าที่วัดถ้ำเชียงดาวก็สวยมากครับ
เคยไปแค่ครั้งเดียว ตอนนั้นยังเด็กมาก
ไม่ได้ใส่ใจเรื่องศิลปะ เพราะยังไม่ผ่านกระบวนการศึกษาน่ะครับ

ขอบคุณที่นำมาให้ชม คราวหลังจะตามดูให้ครบทุกวัดครับ


โดย: Nagano วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:02:58 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ก๋า ซักวันบีคงจะมีคำถามมาให้พี่ก๋าตอบให้บ้างนะคะ ถ้าเป็นเรื่องธรรมะ ศาสนา ได้ใช่มั๊ยคะ ^_^

จะบอกว่าวันนี้อ่าน blog พี่ก๋าแล้วน้ำตาไหล แห่ะ ๆ เขียนได้ดีเหมือนเดิมนะคะ

สำหรับบีเวลามีคำถามหรือมีเรื่องที่จะต้องเป็นประเด็นให้เกิดปัญหากันขึ้นมา จะชอบคิดในแง่ตัวเราความคิดของเรา เสร็จแล้วหันกลับไปคิดในแง่ตัวเขา ด้วยเสมอ เอาตัวเองไปวางในจุดของเขาว่า ถ้าเราเป็นเขา เราจะทำยังไงนะ เราจะคิดอย่างไงนะ จะทำแบบเดียวกันนั้นมั๊ยนะ จนบางคนอาจคิดว่าเหมือนเป็นโรคจิตไปแล้ว เพราะแม้แต่ดูหนัง ดูละคร เราก็จะอินเอาตัวเราเข้าไปอยู่ในหนัง หรือในเนื้อเรื่องด้วยเสมอ และนั่งคิดทุกสเต๊บว่า ถ้าเราเจอเหตุการณ์แบบนี้เราจะทำยังไงนะ จะทำแบบเขามั๊ยนะ อะไรทั้งหลายแหล่ *-*

แต่ข้อดีของมันคือ ทำให้เราได้เปิดความคิด มุมมองใหม่ ๆ เปิดประสบการณ์และจินตนาการอยู่เสมอ การเข้าถึงใจเขา-ในเรา เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใช้เวลาสั่งสมกันมาทั้งชีวิตจริง ๆ ในด้านการบริการธุรกิจ และการซื้อใจคน การผูกมิตรกับคน การบริหารคนด้วยพระคุณ มากกว่าพระเดช ในบางครั้ง การใช้พระเดช ในบางเรื่องที่สมควรบ้าง ทุกอย่างต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และศึกษาค่ะ ^_^

อ่านแล้วนึกถึงคุณพ่อจังเลย ถึงท่านจะเสียมาได้ปีกว่าแล้ว แต่คำสั่งสอนของท่านบียังคงเอามาใช้ในชีวิต ใช้ในการทำงาน การบริการคน ได้จนทุกวันนี้ เป็นความรู้ที่ต้องสอนกันมารุ่น ต่อ รุ่น อย่างแท้จริง

บีจะทึ่งเสมอในสิ่งที่คุณพ่อทำ เมื่อตอนที่บียังเด็ก ๆ ว่าทำไมนะพ่อฉันถึงทำได้ไปซะทุกอย่าง แต่ลูกสาวอย่างฉัน กลับไม่เก่ง ไม่ประสาประสาอะไรซะเลย แต่แม้ตอนเรียนพละ เล่นกีฬาก็ไม่เคยเก่ง ไม่เคยได้ มาบ่นให้พ่อฟัง พ่อบีพูดแค่ประโยคเดียวค่ะว่า "ถ้าคนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้" ทำให้บีมีกำลังใจและความพยายามฝึกฝนจนทำได้ และทุกวันนี้ในทุก ๆ อย่าง เวลาท้อแท้ ก็เป็นพลังใจให้บีสู้ต่อได้เสมอ

บีทึ่งที่ทำไมนะ ลูกน้องทั้งโรงงานนับร้อย นับพันคน ถึงรักพ่อของบีมากมายได้ขนาดนี้ ถึงแม้เวลาทำงานพ่อฉันจะอารมณ์ร้าย ฉุนเฉียว สั่งอะไรต้องได้เสมอ จริงจังกับงานด่าลูกน้อง แต่ทำไมทุกคนยังรัก พ่อสอนว่า คนเราทำงานใช้แต่พระเดชอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องใช้พระคุณด้วย ควบคู่กันไป เพราะเวลาปรกติ พ่อฉันจะทักทายทุกคนตั้งแต่ยามหน้าประตู แม่บ้าน พนักงานทุกระดับชั้นอย่างสนิทสนมไม่คือถือตัวว่าเป็นผู้บริหารระดับใหญ่โตเลยแม้แต่น้อย ถามสารทุกข์สุขดิบเป็นประจำ เสมือนลูกน้องทุกคนคือญาติสนิท มีอะไรก็มาเล่าสู่กันฟังได้เหมือนเพื่อน มีปัญหา มีเรื่องทุกข์ใจมาเล่า มาขอความช่วยเหลือ แม้แต่เรื่องเงิน พ่อก็ให้ความช่วยเหลือตลอด และทุกคนไม่เคยเว้น เวลาไปเที่ยวไหนมันมีของฝากติดไม้ติดมือไปแจกที่ทำงานเต็มรถไปหมด เวลามาหาบี มาเยี่ยมอาม่าที่เยาวราช จะซื้อข้าว ซื้ออาหารที่หลายสิบถุง *-* นี่คือพระคุณและเทคนิคซื้อใจที่พ่อบีใช้เสมอค่ะ ทำให้ทุกคนรักใคร่และอยู่ด้วยกันมาได้หลาบสิบปีที่บีเรียนรู้มาจากพ่อ ทำแบบนี้มาเป็นเวลากว่า 50 ปี แม้แต่งานศพลูกน้องทุกคนไปร่วมงานคับคั่งทุกวัน แม้แต่คนที่ออกไปแล้ว เพื่อนฝูงเก่าแก่ มาช่วยงานทุกอย่างทุกวันโดยไม่มีใครบ่นแม้แต่น้อย ฉันตะลึงมาก ไม่คิดเลยว่าคนจะเยอะได้ขนาดนี้ ต้องเพิ่มเต๊นท์จนล้นวัดไปหมด

ทุกวันนี้บียังก้าวตามคุณพ่อได้ไม่ถึงครึ่งเลยค่ะ แต่บีก็จะพยายามต่อไป แต่ทีมงานของบีทุกคน และมิตรสหายทุกคน บีรักและรู้สึกดีด้วยเสมือนญาติเสมอ ^_^ รวมทั้งพี่ก๋าด้วยนะคะ

แห่ะ ๆ ยุ่งหลายวันไม่ได้เข้ามาอ่าน แต่บีไล่อ่านหมดแล้วนะคะ ช่วงสองวันนี้ก็อาจต้องวุ่นวายเคลียร์งานอีกแล้ว เพราะมีโครงการจะไปบวชค่ะ อิอิ ^_^ มีอะไรให้ทำอีกเยอะแยะเลย พรุ่งนี้เรียกประชุมใหญ่อีกรอบก่อนไปด้วยค่ะ

เดี๋ยวว่าง ๆ แวะมาใหม่นะคะพี่ก๋า ฝากสวัสดีมาดามด้วยค่ะ รักษาสุขภาพมาก ๆ นะคะ


โดย: Beee (Beee_bu ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:39:01 น.  

 
ขอบคุณทุกคนมากมาย


โดย: yoja วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:51:40 น.  

 
ร้องไห้เลยนิ...
เป็นเพราะเข้าใจในความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกแล้ว
ว่ามันยิ่งใหญ่กว่าความรักของใครอื่น
แม้จะมีการตำหนิ
แต่ไม่เคยไร้ความปรารถนาดี
เชื่อมั่นได้ว่าพ่อแม่ร้อยละ99 เป็นแบบนั้น

เข้าใจตัวเองก่อน แล้วพยายามเข้าใจคนอื่น
สิ่งสุดท้ายคือความเข้าใจซึ่งกันและกัน
เราจะรักกัน โลกจะรักกัน

หนูรู้สึกว่าพี่ก๋าคือพ่ออีกคนหนึ่งของหนู
ไม่ใช่หนูคิดว่าพ่อหนูไม่ดี
พ่อหนูดีกับหนูที่สุดในโลก
หนูเข้าใจพ่อ พ่อเข้าใจหนู
แต่หลายสิ่งหลายอย่าง
หลายความคิดที่ถูกหล่อหลอมมาจนเป็นตัวหนู
น้อยส่วนเหลือเกินที่มาจากพ่อ
เป็นเพราะเราเข้าใจ แต่ไม่ค่อยมีเวลาได้คุยกัน
พ่อต้องทำงาน
หนูต้องเติมเต็มส่วนที่เป็นความคิดที่สำคัญ
ต่อการดำรงชีวิตของหนูด้วยตัวเองทั้งนั้น
หนูก้เลยคิดว่าพ่อสร้างหนู แต่ไม่ได้บ่มเพาะความเป็นหนู
หนูว่าตัวเองไม่ใช่ลูกที่ดีนัก
เพราะหนูมีแนวทางไม่เหมือนพ่อ
และมั่นใจว่าไม่มีทางจะเป็นแบบนั้นแน่ๆ
หนูไม่ได้ดื้อด้านหรือต่อต้านอะไร
หนูอยากเรียนจบเร็วๆ อยากให้พ่อเลิกทำงานซะ
อยากให้พ่อเห็นในความสำเร็จของหนู
และอยากให้พ่อเข้าใจ
ว่าสิ่งที่หนูทำมันดีกว่าที่พ่อคิด
การเรียนรู้ชีวิตกับละครมันดีกว่าการเรียนกฎหมาย
เพราะมันเป็นตัวหนู
หนูสร้างและเรียนรู้ความเป็นจริงของชีวิตจากละครได้
ไม่รู้ทำไม...
หนูถึงเชื่อมั่นในความรู้สึกและคำพูดของพี่นัก
คงเป็นเพราะว่ามันปลุกเร้า
และดึงความรู้สึกส่วนลึกของหนูออกมาได้
หนูเกือบจะเชื่อทุกสิ่งที่พี่พูด
แค่เกือบนะคะ แค่เกือบ
...

หนูเชื่อว่าน้องต้องเป็นเด็กที่มีความสุขที่สุดในโลก
เพราะมีพ่อที่เข้าใจอย่างพี่
อ้าวว
แทบจะเขียนบล๊อกใหม่ของตัวเองเลยนะเนี่ย
แหะๆๆๆ


โดย: บัวลอย (newzapg ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:01:24 น.  

 
สวัสดีค่ะครูก๋า มาอ่านเรื่องดี ๆ ค่ะemo


โดย: แป๋วภูเก็ต วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:02:06 น.  

 
หวัดดีจ้าน้องก๋าสุดหล่อ พูดอีกก็ถูกอีกจ้า เห็นด้วยจ้า...emoemoemoemoemoemoemoemo


โดย: หนุ่มน้อยแห่งลุ่มแม่น้ำบางปะกง วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:18:05 น.  

 
ตอบได้เฉียบ


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:20:16 น.  

 
มีแต่ลูกแมว เลยไม่กล้าตอบคะ ^_^


โดย: sawkitty วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:17:38 น.  

 


ม๊าว่าจะไปหาคุณพจที่บล็อคอยู่พอดี
มาเจอตรงนี้ ก็ว่ากันตรงนี้เลยดีกว่านะค่ะ

สมัยก่อน ป๋าทำธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯ ก็ต้องทำงานร่วม
กับลูกน้องเยอะพอสมควร รวมทั้งม๊าด้วยนะค่ะคุณพจ

สำหรับตัวของม๊าเองนะค่ะ หากเวลาที่เกิดปัญหาขึ้น
กับลูกน้องแล้วเราเกิดปรี๊ดขึ้นมา
ม๊าจะพยายามเดินหนีลูกทันทีเลยค่ะ ป๋าจะรู้และคอยรับ
ช่วงต่อ ก็มีบ้างนะค่ะที่หลบลูกไม่ทัน แต่ก็จะพยายามยั้งใจ
ประมาณว่า ถ้าหากว่าม๊าลืมตัวก็จะพยายามหลับตาทันที
จะได้ไม่ต้องเห็นอะไรนะค่ะ

ม๊าเองไม่ได้เป็นคุณแม่ที่ใจเย็นเลยนะค่ะ
แต่ความรักลูก ทำให้ม๊ากลายเป็นคนใจเย็นอารมณ์ขัน
เพราะจะได้ชวนเขาเล่นเขาหัวเราะนะค่ะ

คุณพจค่ะ ในฐานะที่เป็นแม่คนหนึ่ง เคยผ่านชีวิตมาอย่าง
ละหุเช่นกันค่ะ ตรงนี้อาจต้องมีเวลาให้กับตัวเองบ้างแล้วล่ะ
คุณพจเคยถามใจตัวเองบ้างไหมค่ะ ว่าลึกๆของเราต้องการ
อะไรหรือสิ่งใดอยู่ในขณะนี้

เวลาในขวดแก้วของลูกผ่านไปแล้วก็ผ่านไปเลยนะค่ะ
ม๊าเกิดมาไม่เคยได้รับสิ่งดีๆ ที่จะเก็บไว้ในขวดแก้วได้เลย
แต่พอมามีลูก เม็ดทรายทุกเม็ด ม๊าจะหวงแหนแทนเขาง
ทั้งหมด อย่าปล่อยให้เวลาในขวดแก้วของเด็กๆ ขาดหาย
ไปนะค่ะ สายน้ำไม่เคยไหลย้อนกลับ

เราทำงานไปเพื่ออะไรล่ะค่ะ ถ้าหากถามเด็กๆว่าระหว่าง
ฐานะทางบ้านดีขึ้น กับปล่อยให้ฐานะทางบ้านค่อยๆเป็นไป
ตามกาลเวลา แล้วหันหน้ามาดูแววตาใสๆของเขาดูสักนิด
ดีไหมค่ะ อย่าโกรธม๊านะค่ะ ม๊าไม่ได้รักคุณพจหรอกนะเนี้ย
แต่ม๊ารักลูกคุณพจ รักเด็กๆ เพราะว่าม๊ารักและเข้าใจปุยนุ่น
ของม๊านะค่ะ

ก่อนนั้นหากวันไหนที่ออฟฟิตของม๊าในสมัยนั้นเกิดปัญหา
ม๊าจะรู้สึกได้ว่า สติแตก สภาวะจิตก็รุมร้อน ตรงนี้จะสะท้อน
กลับไปที่ลูกทันที ในกรณีที่ลูกอยู่ด้วย บัดนี้ม๊าตัดเขี้ยวเล็บ
ทิ้งไปในทะเลอันดามันจนหมดแล้ว ปล่อยให้ชีวิตดำเนินไปตาม
วิถีของชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง ที่เอาหมูอ้วนเป็นตัวยืนพื้น
ม๊าเคยขาดหายทุกสิ่งทุกอย่างไปในตอนเด็กๆ แต่นั้นไม่ใช่
ว่าลูกของเราจะต้องเป็นเหมือนเรานะค่ะ

อย่าโกรธม๊าที่อาจพูดจารุนแรงไปนะค่ะ ตอนนี้หากเรายังต้อง
ดำเนินชีวิต อยู่บนเส้นทางธุรกิจ ตรงนี้ม๊าขอชี้แนะให้คุณพจ
ดังนี้นะค่ะ หากเวลาที่เรารู้สึกไม่ดีหรือแย่.............
พยายามหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับเด็กๆ คอยหาตัวกันชน
เช่นพี่เลี้ยงน้องมาเพิ่มตรงนี้จะดีกว่า ยอมเสียเงินเพิ่ม
ดีกว่าเราต้องเสียใจทุกครั้งเวลาที่เกิดลงอารมณ์กับลูก

ม๊าดูร้ายมากเกินไปหรือเปล่าค่ะเนี้ย
ไม่ตามไปที่บล็อคคุณพจแระ งอน อิอิ


โดย: นางมารร้ายจีจี้ วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:22:23 น.  

 
ก็รู้ว่าแม่รักเรานะ และเราก็รักแม่นะ แต่ทำไมเค้าเป็นคนที่ทำให้เราได้หงุดหงิดตลอดเวลา... นี่เป็นคำถามที่รู้สึกและเกิดขึ้นกะเพื่อนๆ หนูด้วยนะพี่ ซึ่งพอพูดขึ้นมา เพื่อนๆ ก็เห็นด้วย ว่านั่นสิ จิงด้วย เออว่ะ ทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น ... ตอนนี้ก็พอเค้าใจแล้น ... พ่อแม่จะจุกจิก จะถามนั่นถามนี่เหมือนจับผิด จะบังคับ จะ ...ฯลฯ เพราะเค้าห่วง เค้าหวังดี เค้ารัก เค้าอยากรู้ความเป็นไปในชีวิตเรา เค้า ..ฯลฯ

จะลองเอาไปคิด ไปปรับกะตัวเองดูบ้างฮะ ...
พี่ก๋าเป็นที่ปรึกษาปัญหาชีวิตเหรอนี่ ... งั้นหนูก็มาปรึกษาปัญหาผิดเรื่องซะแล้วอ่ะเซ่ะ
(ดันมาปรึกษาเรื่องน้ำประปาหลังมอไม่ไหลอ่ะ แป่ววววว)


โดย: Ultramarine (heart_of_andaman ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:33:27 น.  

 
รุ้งอ่านแต่แรกรุ้งก็รู้แล้วค่ะ
ว่าเด็กหนุ่มคนนั้น พี่ก๋า ชัวร์
บางครั้ง เราก็อยากทำตามใจตัวเอง
แต่บางที ก็ต้องทำตามคนที่เรารักค่ะพี่ก๋า
คุณพ่อ เค้าก็คงอยากให้พี่ก๋าสานต่อ..
อีกหน่อย พี่ก๋า อาจอยากให้น้องก๋าน้อย สานต่อ..
เหมือนกันเจ้าค่ะ


โดย: ซานาโกะจัง วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:44:46 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณครูก๋า

ถ้านับพ.ศ. ครูเป็นรุ่นพี่หวาน 1 ปี
และที่สำคัญ ครูเป็นศิษย์พี่ของหวานที่ ร.พ.หัวเฉียว
แต่...ประสบการณ์ของครู มากมายมหาศาลกว่าเยอะ
หวานจึงเรียกครู ว่า ครู ได้อย่างเต็มปาก.




>>>จากเรื่องภาพที่บ้านของมาดาม<<<

หาาาาาา.......

ครูก็มองไม่เห็นเหรอคะ
เอาใหม่ค่ะ เอาใหม่.......

ตรงภาพที่ 10 นะคะครู
เบื้องหน้าเราเลยจะเป็นลำธารเล็กๆ ใช่ป่าวคะ
มองตาลำธารนั้นไป จนถึงตรงทางโค้งของลำธาร
ก็จะเป็นต้นไม้ ที่ใหญ่ที่สุดในภาพ

มองตามลำต้นขึ้นไปอีก เยื้องๆ มาทางด้านขวา
จนถึงส่วนสูงสุดของลำต้น (ก่อนที่จะถึงกิ่งและใบนะคะ)


นั่นล่ะค่ะครู....เห็นยังคะ
มีตา จมูก ปาก ครบเลย ชัดมากๆ

เขากำลังหลับตาพักผ่อนอยู่จริงๆ

555หรือหวานจะหลุดโลกไปแล้วคะนี่


เห็นหรือไม่เห็น ครูอย่าหลอกหวานนะ
จะได้รู้ว่าตัวเองเพี้ยนไปแล้วแค่ไหน


โดย: ~Baan_Ohana~ วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:54:46 น.  

 
ขอบคุณที่ให้กำลังใจค่ะ ยังงัยพี่ก็ยังต้องสู้ต่อแหละ

ถึงจะเหนื่อย จะท้อแค่ไหน เพราะพี่ก็ยังมีห่วงของพี่อยู่ข้างหลัง เพียงแต่ช่วงนี้รู้สึกเหนื่อยๆใจน่ะ

ขอบคุณค่ะ


โดย: kai (aitai ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:00:56 น.  

 
ลืมไปค่ะว่า...
จริงๆ แล้ว พ่อก้ไม่ได้ทำในสิ่งที่พ่อชอบเหมือนกัน
น้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
และรักที่จะทำมันจริงๆ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้
เราย่อมต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุด
แม้ว่ามีแรงเสียดทานมากเท่าไรก้ตาม
พ่อทำในสิ่งที่ไม่ชอบได้
เพื่อคนที่อยู่ข้างหลัง
บางครั้งการให้เวลากับสิ่งที่ไม่ต้องการ
เราอาจได้พบในวันหนึ่งก้ได้เนาะ
ว่ามันคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตก้าวไปข้างหน้าได้
ทดลองอยู่กับความเจ็บปวดทรมานบ้าง
ความสุขจะได้มีค่ามากขึ้น...

หึๆๆๆ
พี่ก๋ามีลูกสาวคนโตตั้งแต่อายุ 15 แล้ว
หนูจริงจังนะเนี่ย
ฝากจุ๊บๆ คุณน้องที่น่ารักและคุณแม่ด้วยนะคะ


โดย: บัวลอย (newzapg ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:05:54 น.  

 
จริงๆนะ เราต้องถามตัวเองว่าเราเข้าใจเขาหรือเปล่า


มากกว่าที่จะถามเขาว่า


ทำไมไม่เข้าใจเราบ้าง

เป็ดคิดว่า การที่เราเปลี่ยนทัศนคติได้ ทำให้โลกมีความสุขขึ้นเยอะ ไม่เป็นคนบ้าอำนาจ ก้าวร้าว หลงตัวเอง

บางทีการประสบความสำเร็จในชีวิต มันก็ดาบสองคมชัดๆเนอะก๋าเนอะ

ถ้าเราไม่เตือนตัวเอง ใครจะกล้สเตือนเรา ไปๆแล้ว เราก็คงเหมือนกิ้งก่าตัวหนึ่ง ยืนผงาดลำพองตัวเอง

ไม่ได้มีคุณค่าอะไรสักเท่าไหร่เลย

ชอบๆๆ ชอบแนวคิด

เลี้ยงลูกดีดีนะ เลี้ยงให้เป็นคนดีจริงๆนะ

เพราะพี่จะไปขอมาเป็นเขย


โดย: be-oct4 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:07:05 น.  

 


ขับรถสวนทางกันนิดหน่อย อิอิ

เรื่องนมนั้น ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะตอนม๊าท้องหมูอ้วน
ม๊าแพ้นมวัวทุกชนิดเลย ทานได้แต่นมถั่วเหลืองเช่นกัน
แต่ตรงนี้ ต้องเข้าใจนิดหนึ่งว่า เด็กแรกคลอดจะน้ำหนักตัว
น้อยกว่าเด็กทั่วไปเล็กน้อยแต่จะยังคงอยู่ในเกณฑ์มาตราฐาน
ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะนมถั่วเหลืองมีไขมันน้อยมากเป็นผลดี
ก็ได้นะค่ะ แต่จะมีผลดีอีกเรื่องก็คือ
น้องออกมาผิวพรรณจะเนียนสวยมากๆเลยค่ะ เป็นผลดี
ไปจนโตเลยทีเดียว
สำหรับท้องลายนั้น ป้องกันยากพอสมควรนะค่ะ
หากเรารู้สึกคันยิบยับที่ท้อง อย่า หยุด และต้องยั้ง
ที่จะเกาหรือถูทันที สำหรับม๊าจะใช้การอาบน้ำบ่อยๆ
แล้วทาครีมช่วยค่ะ
ที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงอาหารทุกชนิดทีทำให้ท้องอืดค่ะ
เพราะตรงนั้นจะยิ่งทำให้ท้องเราขยายเข้าออกเกินความ
จำเป็นไป ตรงนี้ทำให้ผิวที่ช่องท้องยืดหยุ่นตามไปด้วย
ก็จะลายในที่สุดนะค่ะ

ขอบคุณนะค่ะที่ชมว่าม๊าตอบคุณพจดีนะค่ะ
ม๊ากับคุณพจเป็นคุณแม่เหมือนกัน ม๊ารักลูกอย่างไร
ม๊าก็เชื่อเหลือเกินว่าคุณพจก็คงรักอย่างนั้น อีกหน่อย
มาดามจะตามพวกเรามาติดๆ อิอิ


โดย: นางมารร้ายจีจี้ วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:10:19 น.  

 
สวัสดีคะคุณก๋า
เมื่อเช้าเข้ามาทักทายก่อนไปสอนคะ
ยังไม่ได้อ่านคำตอบของวันนี้
อ่านคำตอบคุณก๋าวันนี้ทำให้นึกถึงเหตุการณ์สมัยก่อน
ที่เรามักจะรำคาญเวลาแม่บ่นแม่ถามโน่นถามนี่ซ้ำซาก
ปัจจุบันอัมต้องรับผิดชอบน้องชายหนึ่งคนคะ
เวลาโทรไปอัมก็จะถามโน่นนี่ สอนให้ตั้งใจเรียน
ให้ประหยัด ฯลฯ
น้องชายบอกว่าเจ๊ขี้บ่นจัง
ถามโน่นถามนี่อยู่ได้ รำคาญ
เราเลยได้รับรู้ความรู้สึกของแม่
ว่าที่แม่ทำไปเพราะรักเรา เป็นห่วงเรา
ได้แต่หวังคะว่าน้องชายจะคิดได้แบบเรา

มีความสุขมากๆนะคะคุณก๋า มาดาม
และก๋าน้อยลูกที่ดีในอนาคต
เมื่อคืนเตรียมสอนดึกมาก
เมื่อเช้ามีสอนเช้าอีก
ขอตัวไปนอนเอาแรงก่อนคะ

emo


โดย: กาแฟเย็น (อาจารย์บ้านนอก ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:11:49 น.  

 
ปล. อีกนิดนะค่ะ

ควรเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ ให้มาดามฟังก่อนนอนนะค่ะ
ตรงนั้นจะช่วยให้มาดามและก๋าน้อยได้รับสมาธิไปด้วยในตัว

ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่ นะค่ะ อิอิ


โดย: นางมารร้ายจีจี้ วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:13:37 น.  

 
ช่างเป็นคำถามที่ แทงคาใจดำจังเลย ต้องตามไปขอบคุณคุณพจและคุณก๋า ผู้ตอบด้วย พอดีคิดเมื่อเช้านี่ว่า เมื่อก่อนทำงานเป็นทั้งหัวหน้าและลูกน้อง แต่มาวันนี้เป็นหัวหน้าอย่างเดียวพอเจอลูกน้องสมัยนี้ช่างยากเย็นเหลือเกินที่จะให้ดั่งใจเรา ปิ๊ดมากๆๆเลยคะ คิดอยู่ว่าจะไล่ออกซะเลยดีมั้ย ก็ทำแล้วนะคะเปลี่ยนตัวเองแบบคุณพจ แต่ทำไมต้องมาเจอแบบนี้อีก หรือเราดีกับเขาเกินไป แต่ก็รู้สึกดีกับคุณก๋า นะคะที่ ใช้ประสบการณ์ ของตัวเอง ช่วยให้เข้าใจหลายแง่มุมคะ รับรองได้เลยคะ ว่าน้องก๋าน้อยเป็นคนดีเพราะมีคุณพ่อ และคุณแม่ที่พร้อม และเปี่ยมด้วยประสบการณ์ ไม่ได้มีแค่ความรักอย่างเดียวที่จะมอบให้ ขอบคุณนะคะ คำตอบที่ดีมากๆมีความสุข ทั้งครอบครัว ให้มาดาม แข็งแรงๆ นะคะ


โดย: ซอมพอแสด IP: 125.25.166.137 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:23:24 น.  

 
กร๊ากกก
ข้าวเกรียบกุ้งบีคืออาราย เกิดไม่ทัน
เหอๆๆ
งั้นคงเป็นชาติก่อนละม้างคะพี่กิจ
แน่ๆ เลย

แง๊วววว
หนูไปทำงานก่อนนะคะคุณพ่อ


โดย: บัวลอย (newzapg ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:23:48 น.  

 
โอ้ ถ้าขอแค่นั้นก็มิมีปัญหาจ๊ะน้องยูน

เพราะเป็ดเตรียมไว้ให้มากกว่านั้น อย่างนี้ต้องเอาออกจากคลังที่สะสมไว้ครึ่งหนึ่งเลยนะนี่

ตกลง เซ็นสัญญา

จิ๊กๆๆๆๆ

ฮ่าๆๆๆๆๆ



โดย: be-oct4 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:42:59 น.  

 
สวัสดีครับคุณซอมพอแสด

ขอบคุณมากครับคุณซอมพอแสดสำหรับคำชม
ผมจะดูแลโลก ด้วยการดูแลลูกของผมให้ดีที่สุดครับ

อิอิอิ


emoemoemo


โดย: ก. วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:44:34 น.  

 
พี่ก๋าคะ...วันนี้คำตอบกินใจสุด ๆ ไปเลยค่ะ
ได้ใจไปทั้งดวงเลยนะ



แทนที่เราจะเรียกร้องให้พ่อกับแม่มาเข้าใจเราตลอดเวลา
เราควรจะถามเขาเหมือนกันว่า เราเข้าใจเขาบ้างหรือเปล่า
พี่ก๋าบรรลุได้ไวมาก ๆ เลยนะคะ กับการที่พี่ชายถามพี่อย่างนั้น
น้องชายปอยก็เตือนสติปอยหลาย ๆ ครั้งด้วยเหมือนกัน
ว่า "เจ๊เข้าใจแม่เหอะ ว่าแม่ก็เป็นอย่างนั้นมาแต่ไหนแต่ไร"
อ่านแล้วนึกถึงตัวเองเหมือนกันเด๊ะเลยค่ะพี่
แต่ว่าทำไม...ปอยเองก็ยังไม่เข้าใจเขา ไม่ได้พยายามเลยด้วย
คอยแต่จะเรียกร้องว่าทำไมเขาต้องเข้มงวดมากขนาดนั้น

ตอนนี้เริ่มจะหาจุดสมดุลได้แล้วเหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้ว่า
เป็นเพราะเขาเองเป็นฝ่ายปรับเขาหาซะมากกว่าหรือเปล่า
การเปลี่ยนแปลงตัวเองของแม่ การลดอัตตาของแม่
เป็นเรื่องที่ดูเหมือนไม่มีทางเกิดขึ้นกับแม่ปอยได้เลย
แต่แล้วในที่สุด...แม่ก็เป็นฝ่ายมายอมลงให้ปอย
ทั้งหมดก็เพราะความรักที่แม่มีต่อลูกทั้งนั้น

แล้วลูกสาวคนนี้ล่ะ...ทำอะไรเพื่อแม่บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้




คิดถึงแม่ค่ะพี่ก๋า..............................................

.
.

รู้สึกว่าบลอคพี่วันนี้เรียกน้ำตาได้หลายคนแล้วนะคะ

สุขสันต์วันหยุดค่ะพี่ก๋า มาดามและคุณพ่อพี่ก๋าด้วย


emoemoemo

ป.ล. เด็กหนุ่มคนนั้นท่าทางจะหน้าตาดีนะคะ


โดย: นางสาวดุ่บดั่บ วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:51:03 น.  

 
เฮ้อ เศร้า
ตกยุค
เกิดไม่ทันยุคโบราณ
เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หนูชอบกินคอร์นพัฟมากกว่า


โดย: บัวลอย (newzapg ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:52:43 น.  

 
พี่ก๋าไม่ใช่คนหน้าเลือด
แต่พี่ก๋าหิวเงิน 5555
จะหาเงินส่งลูกเรียน Harward


^
^
^
วันไหนนู๋มีลูกมั่ง
จะใช้วิธีเดียวกัน
เด๋ว
ขอเวลาหาพ่อของลูกก่อน







คิดค่าเช่าพื้นที่คุย 3 แสน
จะให้พี่ก๋าเก็บกับใคร
^
^
^

คิดกับพี่พจเลยค่ะพี่
เรียกนู๋เหมียว เหมียว แล้วหายไปเลย
.
.
.
ปกตินู๋น่ะต้องจุดธูปเรียก
นี่เห็นว่าเป็นพี่พจ
เรียกเหมียว เหมียว เหมียว แล้วดีดีก็มา
แต่พี่พจหายไปเลย
พี่คิดเพิ่มไปอีกสัก 2 แสนก็ได้
แล้วมาแบ่งกะนู๋




นู๋ไม่ได้หน้าเลือด
นู๋ซ้อมไว้ก่อน
เวลามีลูกจะได้คล่อง












โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:55:49 น.  

 
เรื่องมาก emo


โดย: แม่น้องรัน (runch ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:01:45 น.  

 
มาอ่านจดหมายรักจากน้องดี.กับม๊าจีจี้

อ่านเรื่องพี่สาวน้องดี.กับลูกๆแล้ว สงสัยจะสไตล์เดียวกับพี่จริงๆด้วย

งั้นพี่ก็ไม่ได้ร้ายผิดปกติสินะ ใช่เปล่า^^

บอกตามตรงว่าเรื่องลูก เป็นเรื่องเดียวที่ทำพี่ปวดหัวและหงุดหงิดได้ต่อเนี่องที่สุด

พยายามจัดการความคิดของตัวเองอยู่เหมือนกัน
แต่คนที่มีลูกอายุแถวๆสิบขวบขึ้นไปนี่ คงรู้ว่ามันสาหัสพอสมควรเลยนะ ที่จะใจเย็นอยู่ได้ตลอดเวลา

เมื่อก่อน พี่จะค่อนข้างมีปัญหากับทุกๆเรื่อง ทั้งเรื่องแม่ เรื่องงาน เรื่องสามี ฯลฯ หาความพอใจอะไรได้ยากมากๆ
แต่ตอนนี้ ดีขึ้นเยอะแล้วล่ะ(คิดว่านะ)

ความสัมพันธ์กับแม่ ตอนนี้ดีมากๆ แม่ยังบ่น ยังไม่ค่อยเข้าใจกับวิธีคิด และวิธีทำงานของพี่อยู่เหมือนนเดิม
แต่พี่ไม่หงุดหงิดกับเสียงบ่นของแม่เหมือนเมื่อก่อน เพราะสามารถเข้าใจได้ว่า นั่นคือการแสดงออกของความรักในรูปแบบของเค้า
แต่เวลาที่เค้าบ่นมากๆ บางทีก็จะแกล้งแหย่ว่า "เหนื่อยมั้ยแม่ ที่พูดๆมาเนี่ย 555"

เรื่องงาน เรื่องลูกน้อง ไม่มีปัญหามานานแล้ว

เรื่องสามี สบายหายห่วง เค้าทนเราได้ทุกสถานการณ์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะงี่เง่าขนาดไหน(พยายามประพฤติตัวเป็นภรรยาที่น่ารักอยู่นะ)

เหลือแต่เรื่องยัยสองลิงนี่แหละ ที่มีความสามารถจริงๆ
ทำให้แม่ตบะแตกอยู่ได้ทุกวัน 555

เดี๋ยวขอเวลาพี่ตั้งสตินานๆหน่อยนะ

พี่จะเป็นคุณแม่ใจดีให้ดู


โดย: พจมารร้าย วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:14:27 น.  

 
emoกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

เม้นต์เสร็จเจอคนหน้าเลือดสองคนถือเตารีดเตรียมจะทำมิดีมิร้าย

ปั่นจักรยานหนีดีกว่าemo


โดย: พจมารร้าย วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:18:18 น.  

 
emo

^
^
^
เตะบอลสะกัดรถจักรยาน


โดย: มัชชาร วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:34:20 น.  

 
emo

^
^
^

คนถีบลงมาท่านี้
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก






โดย: มัชชาร วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:36:04 น.  

 
ตอบม๊าคนดีของน้องปุยนุ่นค่ะ

ขอบคุณมากๆค่ะม๊า ที่ช่วยตอบและช่วยเตือนสติ

หนูก็พยายม เอ๊ย..พยายามมากๆนะคะ แหะๆ แบบว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ไหนไม่รู้อ่ะค่ะ


หนูไม่เครียดเรื่องธุรกิจหรอกค่ะ ทำแบบสบายๆ เรื่อยๆ ไม่ได้หงุดหงิดเรื่องงานแล้วอารมณ์เสียกับลูกหรอกค่ะ

แต่อาจจะมีหงุดหงิดเรื่องลูก แล้วไปอารมณ์เสียกับพ่อเค้า แบบว่าสอนลูกยังไงให้เป็นเด็กดื้อแบบนี้อ่ะค่ะ

แต่ที่เครียดเรื่องลูก ส่วนใหญ่จะเป็นเวลาที่เค้าทะเลาะกันมากกว่าค่ะ

แบบว่าวันนึง เค้าสามารถทะเลาะกันได้เป็นสิบครั้งเลยนะคะ ทะเลาะได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเครื่องบินรบ ไม่ว่าเรื่องเกี่ยงกันอาบน้ำ(ทั้งที่ตกลงกันไว้ดิบดีแล้ว) เรื่องแย่งของเล่นกัน (ทั้งที่ซื้อให้ทั้งคู่ โดยที่เค้าเป็นคนตัดสินใจเลือกเองทั้งสองคน) และสารพัดเรื่องมากมายจาระไนไม่หมด เฮ้อ...

แต่ก็พยายามอยู่ค่ะ (พูดแบบนี้มาหลายปีแระ ยังเหมือนเดิม)

ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่ก่อนจะทนไม่ไหว ก็จะพยายามเดินหนี แล้วส่งไม้ต่อให้พ่อเค้าแทน(ซึ่งพ่อเค้าก็ไม่ได้ใจเย็นกว่าแม่ซักเท่าไหร่เลย)

แต่บางที(บ๊อย บ่อย)ก็อดไมได้อ่ะค่ะ วี้ดบึ้มออกไปแล้วค่อยรู้สึกตัวทุกทีเลย

ป.ล. หนูเพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าที่ม๊าแวะไปหาหนูที่บล็อกบ่อยๆ เพราะม๊ารักลูกหนู ไม่ได้รักแม่เค้า

งอนดีกว่า


โดย: พจมารร้าย วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:37:50 น.  

 
emo


^
^
^

คนเตะบอล ลั๊ลลลลลา






โดย: มัชชาร วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:37:57 น.  

 
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย ตกจักรยาน บาดเจ็บemo

ดีดี.ใจร้ายemo


โดย: พจมารร้าย วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:39:48 น.  

 



emo
emo
emo



ป้าพจ!!!!มาแทรกนู๋มัยเนี่ย






โดย: มัชชาร วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:44:35 น.  

 
ท่านทั้งสามครับ
พี่พจ น้องดี คุณม๊า

เดี๋ยวเตรียมรับบิลจากกะก๋า
ค่าเช่าพื้นที่สนทนาประสาผู้หญิง ผู้หญิง

คนละ อ่า....
เอ่อ.... แสนเจ็ดละกันนะครับ

หุหุหุหุ


emoemoemoemo


โดย: ก. วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:47:21 น.  

 
emo
emo
emo


พี่ก๋าก็เป็นไปด้วย!!!!!!!!











โดย: มัชชาร วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:50:13 น.  

 
เอ่อ...คุณก๋าคะ

อีชั้นไม่ได้ถามฟรีๆนะคะ คิดค่าคำถามด้วยค่ะ เพราะเวลาของอีชั้นเป็นเงินเป็นทองค่ะ

ค่าคำถาม(ซึ่งทำให้บล็อกของคุณคึกคักมากมาย)

อีชั้นคิดแค่ สี่แสนห้าเท่านั้นเองค่ะ หักค่าเช่าพื้นที่แล้ว ส่วนที่เหลือไม่ต้องส่งมานะคะ

เก็บไว้เป็นทุนการศึกษาของก๋าน้อยเถอะค่ะ

บอกเค้าด้วยนะคะ ว่าจากป้าพจ

ป.ล. ตกลงจะให้เรียนปักกิ่งหรือฮาวาร์ดล่ะคะคุณ


โดย: พจมารร้าย วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:53:56 น.  

 
โอวว์...ว้าว

ตกลงเราไม่เพี้ยนแล้ว

ผี เผอ อะไร.......หวานไม่กลัวหรอกค่ะครู
เพราะว่า โกหก...อิ อิ

จริงๆ แล้วกลัวอย่างแรง
เอาแค่ความมืดก็พอนะคะ
ยังไม่ต้องมีอะไรโผล่ออกมา
แค่นั้นก็ไม่ไหวแล้ว

จินตนาล้ำเลิศ
ไม่มีก็สามารถให้มันมีได้

เอ่อ...ตกลงความคิดของตัวเอง น่ากลัวกว่าค่ะ


.......................................


ดอกลิลลี่ + หน้าคน
อยากดูค่ะครู
ถ้าจะกรุณา แปะให้ดูหน่อยนะคะ
เม้นท์ที่บล็อกหวานก็ได้ค่ะ
หรือ แล้วแต่ครูจะเห็นสมควร

***แต่หวานเห็นสมควร ว่าอยากดู***




.......................................



แล้วคราวต่อไป
ครูอย่าลืมไปถ่ายภาพที่ต้นไม้ต้นเดิมนะคะ
ว่าเขาจะตื่นหรือยัง


...ความบังเอิญ ที่ธรรมชาติรังสรรค์ ให้ชวนติดตาม...


โดย: ~Baan_Ohana~ วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:55:15 น.  

 
หวัดดีจ้า

เป็นชีวิตที่ต้องต่อสู่
กับความสรู้สึก....

ดีแล้วหล่ะที่คิดแบบนี้

แต่ก่อนพี่ก็เป็นแแบบนี้เหมือนกัน
ทำไมพ่อแม่ไม่เข้าใจเรา....

แต่พเอเราโตขึ้น
ชีวิตประสบกับอะไรหลายอย่าง
ทำให้เราเรียนรู้ชีวติมากขึ้น
ทำให้เราเข้าใจ....

ทำจิตใจให้สดชื่น ชีวิตจะได้ยืนยาว

ช่วงนี้พี่นอนไม่ค่อยจะหลับ
ถ้าฟังเสียงของกะว่าก๋า
แล้วทำให้ง่วงนอน....

งั้นอยากจะฟังทุกคืนเลย

วันนี้แถวบ้านแดดจ้า
แต่อากาศแค่ 1 องศา
หนาวจนต้องอยู่บ้าน


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:17:42 น.  

 
ไม่มี...
ไม่หนี...
ไม่จ่าย...



มีไรมั้ย


โดย: พจมารร้าย วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:20:42 น.  

 
แค่เพิ่มอีโมตัวเดียว ขี้ๆเรย ขอบอก

emoemoemo


โดย: แม่น้องรัน (runch ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:35:34 น.  

 



อ่านเรื่องพี่สาวน้องดี.กับลูกๆแล้ว สงสัยจะสไตล์เดียวกับพี่จริงๆด้วย

งั้นพี่ก็ไม่ได้ร้ายผิดปกติสินะ ใช่เปล่า^^

บอกตามตรงว่าเรื่องลูก เป็นเรื่องเดียวที่ทำพี่ปวดหัวและหงุดหงิดได้ต่อเนี่องที่สุด

พยายามจัดการความคิดของตัวเองอยู่เหมือนกัน
แต่คนที่มีลูกอายุแถวๆสิบขวบขึ้นไปนี่ คงรู้ว่ามันสาหัสพอสมควรเลยนะ ที่จะใจเย็นอยู่ได้ตลอดเวลา

^
^
^

ข้อความต่อจากนี้ไป นู๋พิมพ์ตามพี่พูดนะคะ
เอ่อ....นู๋ไม่รับผิดชอบอะไรนะ


“ปริ๊ดดดดใส่ลูก ใครคิดว่าผิดปกติก็บ้าแล้ว ชั้นไม่ได้เป็นอรหันต์นะแก ชั้นแค่หันซ๊ายหันขวาหาไม้เรียว แล้วซัดซะป๊าบบบบ”

กร๊ากกกกก<<-------------- อันนี้นู๋

“ไม่ต้องใจเย็นหรอก ใจร้ายไปเลย ไม่ต้องไปเอาใจมันมาใส่ใจตัวเองมากนัก เอาใจเรามาใส่ใจเราให้มากที่สุด เราเป็นคนหาเงิน เราเหนื่อย แล้วต้องมาทุกข์เพราะลูกอีก มันไม่ถูก เราต้องถามตัวเราเองก่อนว่าเราต้องการอะไร จะให้ลูกไปทางไหน เรายังตัดสินใจเองได้ ทำไปเลย ไม่ต้องปล่อยให้ตัวเองหงุดหงิด ทำไงก็ได้ให้ตัวเองสบายใจก่อน แล้วความรู้สึกของลูกว่ากันทีหลัง...อะไรก็ได้ที่เราสบายใจทำไปก่อนเลย...ลูกนะไม่ใช่แม่....กับแม่ชั้นยังไม่ค่อยฟังเร้ยยยยย”

เฮ้ยยยยย พิมพ์ไม่ทัน<<----------------- อันนี้นู๋
มาพิมพ์เองเลยมา <<------------ นู๋อีก


“น้องกับลูก ไม่ได้ดั่งใจสักคน.....”


เอ่อ
.
.
.
พี่คะ ชักนอกเรื่อง
นู๋ขอยุติการถ่ายทอดสดก่อนนะคะ






โดย: เจ้าของล็อกอินเค้ามาแจมด้วย (มัชชาร ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:48:07 น.  

 
อ่านจบล่ะ เหมือนจะบ่นเป็นตาแก่เลย

emoemo


โดย: คนไม่เจียม.. วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:06:30 น.  

 
ในฐานะ ลูก ที่ทะเลาะกับพ่อแม่บ่อยเหมือนกัน
ในฐานะ ลูก ที่ต้องสูญเสียแม่ไปอย่างไม่มีวันกลับ
ในฐานะ ลูก ที่พยายามทุกอย่างเพื่อสร้างความภูมิใจให้แก่พ่อแม่
เมื่อตอนเด็ก ได้ยินประโยคที่ว่า ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูก
แล้วก็เกิดกังขาว่า จริงเหรอ บัดนี้หลังจากเจอะเจอเรื่องราว
ต่าง ๆ มากมายทั้งร้ายและดี มันก็ให้คำตอบได้ว่า รัก ที่พ่อแม่มีให้นั้น
อาจไม่เหมือนรักของพ่อแม่คนอื่น เพราะสิ่งที่เขาต้องการคือ
สอนให้เราเดินให้ได้ด้วยตัวเอง โดยเขาจะคอยดูอยู่ห่าง ๆ
ไม่ได้สร้างทางที่โรยกลีบกุหลาบให้ แต่สร้างมีดไม้ไว้คอย
แหวกกิ่งหนามนั้นให้
ทุกวันนี้ เลยไม่ทะเลาะด้วยแล้ว คิดซะว่า พ่อด่าแต่หวังดี
ดีกว่าคนอื่นพูดหวานหูเหลือเกิน แต่ถือมีดไว้คอยแทงยามเผลอ
อ่านบล๊อคพี่ก๋าแล้ว ซึ้งนะเนี่ย 55555
น้องก๋าน้อย ต้องเป็นเด็กดีแน่นอนเลยค่ะ

มีความสุขมาก ๆ นะคะ


โดย: บัวริมบึง วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:21:58 น.  

 
มาร่วมลงชื่อ ขอบคุณที่ทำบล๊อกดีๆให้อ่าน


emo


โดย: treehouse วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:07:04 น.  

 
พี่ก๋าคะ ไม่รู้ว่าตุ้งจำสับสนรึเปล่า แต่ก็คิดว่าเคยอ่านเรื่องราวของหนุ่มคนนี้มาก่อนครั้งนึงแล้ว จำได้ว่าพี่ก๋าเคยเขียนแต่ไม่ได้ยาวขนาดนี้

มาวันนี้อ่านอีกครั้ง แต่ขอบอว่า หลังอ่านแล้ว ความชื่นชมในตัวหนุ่มคนนั้นไม่ได้ลดน้อยลงจากเดิมเลย กลับมากขึ้นด้วยซ้ำ

เราต้องการให้คนอื่นเข้าใจเรา แต่หลายครั้งที่เราลืมคิดไปว่า เราก็ต้องเข้าใจคนอื่นเช่นกัน

เด็กหนุ่ม (โอ๊ะ ไม่เด็กแล้วสินะ เพราะจะเป็นคุณพ่อแล้วนี่นา ) ทำให้ตุ้งได้คิดหลายๆ อย่างจริงๆ ค่ะ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ค่ะพี่ก๋า emo


โดย: กวางตุ้งหวาน วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:02:56 น.  

 
หากันจนเจอแย้วววววว

อิอิ



อืม.. ยังไม่มีลูกค่ะอ้ายก๋า แต่ถ้ามีก็ขออย่าให้เป็นเหมือนตัวเองเหมือนกัน เพราะดื้อมากๆ 55

แต่ความฉลาดนี่อยากให้เหมือนค่ะ หุหุ



โดย: thaispicy วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:41:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]