Group Blog
All Blog
|
หมายเลข 26 ทนายอ้วน กิจกรรมการประกวดทำอาหาร "Dinner for Two" : Spices up our love 06.00 น. เช้านี้อัษทศ ตื่นแต่เช้า อารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะว่าวันนี้หวานใจของเค้าจะมากิน supper ที่บ้านแล็วก็จะออกไปดูหนังรอบดึกกัน อัษทศ กับหวานใจของเค้าเพิ่งจะคบกันได้ไม่กี่ปี เรื่องมันเริ่มขึ้นตั้งแต่อัษทศเรียนอยู่ที่เมืองนอกด้วยซ้ำไป จริงๆแล้วหวานใจของเค้าเพื่อนเป็นของเพิ่อนของเพื่อนของเค้าอีกที ไปเที่ยวอเมริกากับเพื่อนๆ แล้วอัษทศก็มาเป็นไกด์จำเป็นให้ ตอนแรกๆ อัษทศรู้สึกว่าน่าเบื่อมากๆต้องมาทำอะไรๆที่ไม่ชอบ แต่ว่าพอได้เห็นหน้าหวานใจของเค้าความน่าเบื่อก็หายเป็นปลิดทิ้ง อัษทศเป็นไกด์จำเป็นด้วยความสดใสตั้งแต่นั้นมา หวานใจของอัษทศ และอัษทศก็คบกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งอัษทศกลับมาเมืองไทย แล้ววันนี้หวานใจของเค้าจะมากินข้าวที่บ้านของอัษทศ พออาบน้ำอาบท่าเลร็จแล้วอัษทศก็ออกไปตลาดนัดใกล้ๆบ้าน อัษทศชอบที่จะไปตลาดนัดมากกว่าจะไปซื้อของสดตามห้างเพราะสามารถเลือกซื้อของได้ตามสบายไม่ต้องเลือกเอาจากของที่ปึกผนึกเรียบร้อยแล้ว แล้วยังได้เจอของแปลกๆ สำหรับลองเมนูใหม่ๆด้วย อัษทศจดมาเป็นลิสต์เรียบรอยว่าจะต้องซื้ออะไรบ้างทำให้ไม่เสียเวลาเดินหานาน และร้านผักเจ้าประจำที่อัษทศชอบมาซื้อก็เป็นร้านที่ใหญ่มาก มีของเยอะ ทำให้อัษทศซื้อเสร็จได้ในเวลาไม่นาน เขาซิ้อ ถั่วแขก พริกหวานสีเหลือง เขียว แดง สะระแหน่ ต้นหอม ผักชีฝรั่ง มะเขือเทศ อัษทศ เดินไปร้านที่ขายของแห้งเพื่อไปซื้อหอมแขก เท่านี้ก็เสร็จเรียนร้อย เค้าไม่ลืมที่จะซื้อปลาท่องโก๋เจ้าประจำมากินเป็นอาหารเช้าด้วย เมื่อกลับมาถึงบ้านอัษทศทบทวนอีกครั้งว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง เมนูอย่างแรกที่จะทานกันเป็นเมนูฟิวชั่นอิตาเลียนปนผสมกับเมนูขึ้นชื่อของภาคเหนือ Bruschetta น้ำพริกอ่อง เป็นเมนู starter ที่รสจัดนิดนึง หวานใจของ อัษทศชอบทานรสจัด อัษทศคิดว่าเมนูนี้ต้องถูกใจหวานใจเค้าแน่ๆ เมนูที่สองจะกินเป็นสลัดก็ได้ อีสาน 2 น้ำ เมนูนี้ก็เป็นเมนูฟิวชั่นอีกเมนูนึงที่อัษทศคิดขึ้นเอง เป็นการนำเอาของทะเลทั้งหลายมาปรุงเป็นอาหารแบบน้ำตกของอีสาน รสชาติแซ่บๆเปรี้ยวๆของจานนี้จะเป็นตัวเชื่อม starter กับ Main course เข้าด้วยกัน และสุดท้าย Main course Pork chop คลุกฝุ่น แสร้งว่าส้มตำสาลี่ เมนูที่อัษทศคิดใหม่เพื่อหวานใจของเค้า หวานใจของเค้าไม่ทานเนื้อ อัษทศคิดว่าการเอา pork chop มาหมักกับพริกญี่ปุ่นและข้าวคั่วเพื่อความหอมและให้มีรสเป็นเผ็ดนิดๆ ทานกับส้มตำสาลี่รสหวานๆ เปรี้ยวๆ คงเป็นมื้อค่ำที่ไม่หนักท้องจนเกินไปด้วย เค้าเอาผักทุกอย่างออกมาล้างให้สะอาด ผึ่งให้แห้งเตรียมเอาไว้ แล้ว เค้าเริ่มหมัก pork chop คลุกฝุ่น โดยการเอา pork chop ที่ซื้อมาจากห้างใหญ่เมื่อวานนี้ออกมา เตรียมพริกป่นญี่ปุ่น ข้าวคั่วเอาไว้ เอา pork chop มาทุบๆ จริงๆแล้วควรจะทุบด้วยค้อนทุบเนื้อแต่ว่าไม่ว่าค้อนทุบเนื้อหายไปไหน เค้าจึงเอาสากมาทุบแทน ฮ่าๆๆๆ ทุบเบาๆ ให้เนื้อของ pork chop แผ่ออกเล็กน้อย การทุบเนื้อนี่จะทำให้เนื้อสุกเท่าๆกันในเวลาไม่นานและจะช่วยทำให้เนื้อนุ่มขึ้นอีกด้วย เขาเอา pork chop ลงหมักกับ พริกป่นญี่ปุ่น ข้าวคั่ว แล้วปรุงรสด้วย มิริน โชยุ และน้ำตาลเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้าเนื้อ แล้วแช่ตู้เย็นเอาไว้จนกว่าจะถึงเวลา เฮ้อ... เสร็จแล้ว.... กินกาแฟดีกว่าเดี๋ยวปลาท่องโก๋เย็นหมด ------------------------------------------------------------------ จนกระทั่งบ่ายแก่ๆ หลังจากที่ได้อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว อัษทศถึงได้เดินกลับเข้ามาในครัวอีกครั้ง เค้าอยากให้มื้อนี้เป็นมื้อพิเศษสำหรับหวานใจของเค้า แต่เค้าไม่อยากทำอาหารยากๆ ขั้นตอนมากมายเค้าจะได้มีเวลาอยู่กับหวานใจเค้าเยอะๆ ครับ เค้าเดินกลับเข้ามาในครัว เหลือบมมองเวลานิดนึง เหลือเวลาอีก ชั่วโมงกว่าๆ กว่าหวานใจเค้าจะมา เค้าเริ่มลงมือทำ Bruschetta น้ำพริกอ่อง เค้าเตรียมเครื่องปรุงทุกอย่างให้พร้อมมี น้ำพริกทำน้ำเงี้ยวสำเร็จรูปที่ได้มาจากเชียงใหม่เมื่อตอนที่ขึ้นไปเที่ยวกับขวัญใจของเค้า หมูสับ แล้วก็มะเขือเทศหั่นลูกเต๋า เค้าหยิบครกออกมาจากตู้ ใช้ผ้าเช็ดให้สะอาด แล้วใส่เนื้อหมูสับกับ น้ำพริกทำน้ำเงี้ยวสำเร็จรูป แล้วโขลกเบาๆ ให้น้ำพริกกับหมูสับเข้ากันแล้วใส่มะเขือเทศหั่นลูกเต๋าลงไป ทีนี้อัษทศใช้สากบดเบาๆ ให้มะเขือเทศแค่ช้ำๆ แล้วให้น้ำพริกเข้ากันกับมะเขือเทศเท่านั้นพอครับ แล้วตักใส่ถ้วยพักไว้ อัษทศตั้งกระทะบนไฟแรงๆ ใส่น้ำมันลงไป 2-3 ช้อนโต๊ะ พอน้ำมันร้อนก็ใส่น้ำพริกที่ตำเอาไว้ลงผัด ผัดไปผัดมา เค้าพยายามไม่ให้หมูเกาะกันเป็นก้อนๆ พอหมูสุกทั่วดี ก็ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำมะขามเปียก ชิมรสดูให้รสหวานนำหน้ารสเผ็ดแล้วมีรสเปรี้ยวนิดๆเท่านั้น อัษทศรู้ว่ารสชาติของน้ำพริกอ่องยังไม่เข้าที่เท่าไหร่ ยังต้องผัดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะ เที้ยม เค้านึกขำ .... ครั้งแรกที่ได้ยินคำนี้จากปากของคุณลุงของเค้าเมื่อตอนเค้าป็นเด็กกำลังหัดทำกับข้าว มันแปลว่าอะไรเหรอคับลุง... ไอ้คำว่าเที้ยมเนี่ยะ อัษทศขำ มันไม่มีคำแปลหรอกทศ มันเป็นลักษณะของการผัดอาหารที่ได้สุกที่แล้วแต่ไม่แห้งจนเกินไปยังมีน้ำเล็กน้อย ลุงอธิบาย คุณลุงผู้ล่วงลับของเค้าคนนี้เป็น idol ในการทำกับข้าวของอัษทศเลยทีเดียว คุณลุงเป็นทหารแต่ทำกับข้าวอร่อยมากจนมีหน้าที่ทำกับข้าวให้ทั้งครอบครัวกินทุกวันๆ เมนูที่ขึ้นชื่อก็มี ผัดกระเพราเนื้อ มัสมั่น พะแนง และน้ำสลัดน้ำข้น น้ำพริกของอัษทศกำลังจะได้ที่ อัษทศหันไปเตรียมจานเพื่อเอามาใส่น้ำพริกที่ผัดเสร็จแล้ว นี่ไง เที้ยมแล้ว ฮ่าๆๆๆ อัษทศพูดขำๆกับตัวเอง พลางตักน้ำพริกอ่องที่ผัดจนได้ที่ใส่จานเตรียมเอาไว้ทาบน Bruschtta อัษทศหันไปมองนาฬิกาอีกทีนึงบอกเวลา 16.00 น. พอดี ทำน้ำตกเลยดีกว่า เดี๋ยวจะได้ตำส้มตำ พอดีแหละ อัษทศรำพึงกับตัวเอง แล้วเค้าก็เริ่มลงมือทำเมนู อีสาน 2 น้ำ เค้าหยิบปลาหมึกที่ลอกเปลือกจนหมดแล้วหั่นขวางๆ เนื้อปลาเก๋าแล่ กุ้งปอกเปลือกผ่าหลัง กรรเชียงปูต้ม และหอยแลงภู่นิวซีแลนด์ออกมาเตรียมไว้ แล้วก็หันไปเตรียมผัก ซึ่งมีหอมแขกซอยตามยาวบางๆ ต้นหอมซอยละเอียดๆ ผักชีฝรั่งซอยละเอียดๆ พริกหวานซอยตามยาว เตรียมหั่นมะนาวเอาไว้ และเตรียมข้าวคั่วบดใหม่กับพริกป่นหอมๆเอาไว้ เค้าเอาน้ำใส่หม้อแล้วตั้งไฟให้เดือดพล่าน แล้วใส่หอยแลงภู่นิวซีแลนด์ลงไปลวกก่อนเป็นอันดับแรก ลงไปก่อนเลยนะ ตัวใหญ่มากๆ เดี๋ยวไม่สุกท้องจะเสีย อัษทศพูดราวกับว่าเคยท้องเสียเพราะหอยแลงภู่นิวซีแลนด์มาแล้ว พอลวกหอยแลงภู่นิวซีแลนด์ไปแล้ว 2-3 นาที เค้าก็ใส่กุ้ง เนื้อปลาเก๋าแล่ และกรรเชียงปูต้มลงไปลวกให้สุก ถึงแม้กรรเชียงปูจะผ่านการต้มมาแล้วแต่อัษทศก็ไม่ไว้ใจ เค้าเอามาลวกอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าวันนี้จะไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้น สุดท้ายเค้าใส่ปลาหมึกลงไปลวก พอน้ำกลับมาเดือดอีกครั้งก็ปิดไฟตักขึ้นเพราะกลัวว่าปลาหมึกจะเหนี่ยวจนเกินไป เค้าใช้ทัพพีที่เป็นรูๆ ตักอาหารทะเลขึ้นมาใส่ชามผสม จากนั้นใส่ข้าวคั่ว พริกป่นลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วบีบมะนาวลงไป 2-3 ชิ้น อัษทศกลืนน้ำลาย เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ปลายจมูก มันเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่เค้าเข้าครัวปรุงอาหารรสจัด จากนั้นเค้าก็ใส่ผักที่หั่นเตรียมไว้ลงไปมี หอมแขกซอยตามยาวบางๆ ต้นหอมซอยละเอียดๆ ผักชีฝรั่งซอยละเอียดๆ พริกหวานซอยตามยาว และใบสะระแหน่ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสดูอีกที่ พอเห็นว่าใช้ได้แล้วและไม่เผ็ดมากนักก็ตักใส่จาน จานนี้รสจัดแต่ว่าไม่เผ็ดมากนัก เค้าไม่อยากทำให้เผ็ดจนเกินไปเพราะค่ำนี้ยังต้องไปดูหนังกันต่ออีก จานนี้ออกเปรี้ยวนำ ทานแล้วจะได้ค่อนข้างสดชื่น แถมอาหารทะเลก็ไม่หนักท้องจนเกินไป เป็นจาน salad หรือจะเป็น starter ได้อย่างดีเลย อัษทศทนไม่ไหวเลยหยิบปลาหมึกมาชิมอีกชิ้นหนึง.... อื้มมม.... รสดีจริงๆเลย ใครทำเนียะ.... ฮ่าๆๆ อัษทศพูดกับตัวเองเบาๆแล้วหัวเราะ อัษทศตักใส่ ตกแต่งให้สวยงาม แล้วโรยใบสะระแหน่อีกครั้งหนึ่ง แล้วเอาไปวางเตรียมเอาไว้ แล้วหันไปเตรียมอบ Pork chop คลุกฝุ่น เค้าเตรียมตะไคร้ทุบหยาบๆ หั่นเป็นท่อนๆ ข่าหั่นเป็นแว่นๆแล้วทุบพอแหลก และใบมะกรูดเอาไว้ ผสมทุกอย่างลงในโถอบ แล้ววาง pork chop ที่หมักเอาไว้ตั้งแต่เช้าบนสมุนไพรที่เตรียมไว้ ราดน้ำมันมะกอกลงบน pork chop ให้ทั่ว อบไฟ 180 C เค้าตั้งเวลาเอาไว้ 25 นาที อัษทศรีบเดินออกไปจัดจานและสถานที่ เค้าเลือกเป็นสนามหญ้าหน้าบ้านใต้ต้นลีลาวดีที่หวานใจเค้าชอบไปปูเสื่อนอนเล่นทุกครั้งที่มาบ้านของอัษทศ แล้วเดินกลับเข้ามาในครัว เปิดฝาอบดูอีกที เลยถือโอกาสกลับ pork chopซะเลย แล้วเตรียมจัดการทำเมนูสุดท้าย แสร้งว่าส้มตำสาลี่ เค้าเตรียมหั่นสาลี่ให้เป็นแท่งๆขนาดใหญ่กว่าไม้ขีดหน่อยนึง แช่น้ำผสมน้ำแข็งเอาไว้จะได้ไม่ดำ เตรียมเด็ดองุ่นไร้เมล็ดสีดำ และพริกหวานซอยตามยาว เค้าหั่นถั่วแขกเป็นท่อนๆขนาด 1 นิ้ว ผ่าครึ่งมะเขือเทศสีดา เตรียมกุ้งแห้ง มะม่วงหิมพานต์คั่วบดหยาบๆ พริก กระเทียม และมะนาวเอาไว้ เค้ามองนาฬิกาอีกครั้งรำพึงกับตัวเองเบาๆ อุ๊ย.. ใกล้เวลาแล้ว ตำเลยดีกว่า เค้าใส่พริก กระเทียมลงในครก ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป 1 ทัพพี ใส่กุ้งแห้งลงไปแล้วออกแรงตำจนน้ำตาลปี๊บละลาย บีบน้ำมะนาวลงไป 2-3 ชิ้น แล้วใส่น้ำปลา จากนั้นใช้ช้อนคนๆจนเข้ากันดี ชิมรสดู พอเห็นว่าได้ที่แล้วจึงใส่ถั่วแขก และมะเขือเทศผ่าครึ่งลงไปใช้สากบดๆให่ถั่วแขกและมะเขือเทศช้ำๆเท่านั้น จากนั้นใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์คั่วบดหยาบๆ พริกหวานซอยตามยาว ใช้ทัพพีคลุกให้เข้ากัน ใส่สาลี่กับองุ่นดำลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันเป็นอันเสร็จ เค้าหันไปดู pork chop ที่อบไว้เปิดฝาอบออกมากลิ่นข้าวคั่วหอมกรุ่น พอเห็นว่าสุกดีแล้วจึงตักออกมาพักเอาไว้ จัดการปิ้งขนมปังเนื้อหยาบๆ กับเครื่องปิ้งขนมปัง พอเหลืองดีเอาออกมาถูด้วยกระเทียมให้ทั่ว แล้วน้ำพริกอ่องที่ผัดเอาไว้ทาบนขนมปังให้ทั่วกลิ่นของขนมปังปิ้งใหม่ๆหอมกรุ่น กลิ่นของน้ำพริกอ่องที่โดนความร้อนจากขนมปังยั่วยวนให้ชิมมากๆ เค้าเสิร์ฟ Bruschetta น้ำพริกอ่อง แค่ชิ้นเดียวก็น่าจะพอ ถ้าไม่พอสามารถทำได้ใหม่ไม่ยากเลย ขนมปังกรอบนอก นุ่มใน ทาด้วยน้ำพริกอ่องเผ็ดๆ เปรี้ยว ชวนให้อยากรู้ว่าจานต่อไปจะเป็นอะไร จะเป็นของเผ็ด หรือจะเป็นของเปรี้ยว หรือจะเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ อัษทศยิ้มด้วยความภูมิใจ อัษทศหันกลับมาจัดจาน Pork chop คลุกฝุ่น แสร้งว่าส้มตำสาลี่ เค้าตักแสร้งว่าส้มตำสาลี่ที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆใส่ถ้วยเล็กๆ แล้ววางเอาไว้ข้างๆ วาง Pork chop คลุกฝุ่น ที่อบเสร็จใหม่และวางพักเอาไว้ลงบนจานตกแต่งจานด้วยใบสลัดเล็กน้อย เค้าคิดว่าเมนูแสร้งว่าส้มตำสาลี่ที่มีรสเปรี้ยวๆ หวานๆ จะต้องเข้ากันดีมันเนื้อหมูที่มีรสเผ็ดนิดๆ จากพริกญี่ปุ่นที่หมักแน่ๆ เพราะเมนูเนื้อหมูอบมักจะเข้ากันได้ดีกับผลไม้ที่มีรสหวานๆ เปรี้ยวอยู่แล้ว ปิ๊นๆๆ .... ปิ้นๆๆ เสียงแตรรถดังขึ้น อัษทศชะโงกดูมาจากในครัว พอเห็นว่าเป็นหวานใจของเค้าก็ยิ้มด้วยความพอใจที่อาหารุกอย่างเสร็จลงตามเวลา เค้ารีบถอดผ้ากันเปื้อนแล้วออกไปต้อนรับที่หน้าบ้าน อัษทศยืนอยู่ที่หน้าบ้านในขณะที่หวานใจของเค้ากำลังเปิดประตูรถออกมา . ทำกับข้าวเพิ่งเสร็จเลยครับ อัษทศรีบบอก อ้าว เสร็วแล้วเหรอครับ ผมว่าจะมาช่วยทศทำอยู่พอดีเลย ร่างสูงๆก้าวยาวๆ เข้าไปหาอัษทศ คิดถึงจังครับทศ บดี กระซิบข้างหูอัษทศ แล้วถือโอกาสหอมแก้มอัษทศทีนึง ........... อ้าววววว ......... ผมไม่ได้บอกเหรอครับ ว่าหวานใจของอัษทศเป็นชายหนุ่ม ..... อิอิอิ ครัวทนายอ้วน.................................. สูตรรัก ..... รสอร่อย เอิ๊กๆอิจฉาคุณบดีจัง มีคนทำกับข้าวอร่อยๆให้กิน ^_^
โดย: Madam_Hatyai วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:8:14:15 น.
อาหารเย็นเซ็ทนี้ เริ่ดสะแมนแตนค่ะคุณพี่ทนาย
โดย: หน่อย(โตเหมี่ยว) IP: 112.142.21.43 วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:8:41:24 น.
เค้าอิจฉานะตั๊วววววววววววววววววววววววววว
โดย: ปู้ IP: 112.142.224.153 วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:9:01:27 น.
ร่วมแจมด้วย เป็น Dinner for Three ได้ไม๊ รึผิดกฎ
โดย: sun_ice IP: 125.27.127.21 วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:9:06:34 น.
ตามมาอิจฉา......คุณหวานใจได้หม่ำของกินอลังการณ์.......คริๆ
โดย: สาววิเศษ วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:9:10:04 น.
โอ้ยอิจฉา ตาร้อน คนที่ได้แฟนทำกับข้าวเก่งๆ อ่ะ การทำกับข้าวเปนงานที่เหนื่อยมากๆ แต่ก้อคงมีความสุขสำหรับคนรักทำกับข้าว
โดย: กรุ๊ปบีราศีสิงห์ IP: 125.27.215.139 วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:9:12:20 น.
โอ เมนูนี้ทำเอาน้ำลายสอเลยคะ เป็นส่วนผสมที่ลงตัว สี
สวยน่าทานมากๆ เลยคะ โดย: 2times4t วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:9:13:46 น.
เทคะแนนความคิดสสร้างสรรค์ให้อย่างท่วมท้นเลยค่ะ ช่างคิดช่างทำจริงน้าคุณอัษทศ (ชื่อเก๋มากเลยค่ะ)
โดย: adrenaline (AdrenalineRush ) วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:9:42:21 น.
บรรยายเรื่องราวได้น่ารักจังค่ะ ขำ ๆ ... อยากได้ปาท่องโก๋ ด้วยแน่ะ ... ไม่น่าบรรยายถึงเบี่ยงเบนความสนใจ 55+
ทุกเมนู น่าอร่อยมากเลยค่ะ แต่ติดใส่ bruschetta ส่น้ำพริกอ่อนนี่แหละ กับพล่า หรือ ลาบ ทะเลนี่แหละ เห็นแล้วเปรี้ยวปาก โดย: Tristy วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:10:08:40 น.
สุดยอดคะ ผสมผสานได้อย่างน่าทานมากคะ
โดย: แม่อ้วนใจดีที่สุด วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:12:27:23 น.
หลังหม่ำดินเนอร์สุดแซ่บแล้ว
เรื่องราวมันเป็นยังไงต่อคะ อัษทศจ๋า เค้าอยากรู้ โดย: blog..ชั้นเอง วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:12:31:15 น.
โย้วววว
สุโค่ยมากๆเลยค่ะ เต็มที่และน่าทานมากๆ โดย: vekalover วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:13:05:32 น.
โดย: kobnon วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:13:42:04 น.
โอ้!แม่เจ้านี่อาหารชาติไหนเนี่ยแกงโฮ๊ะสักถ้วยมั้ยพี่ มันน่านักทุกอย่างล้วนลงตัวขอโหวตคะ ขอโหวต
โดย: koykapong วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:15:28:08 น.
โดย: genio วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:15:44:31 น.
ผลัดกันป้อน
ผลัดกันชิม น่าอิจฉาเจงๆ โดย: นักเลงบึงกุ่ม IP: 125.25.148.183 วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:15:49:18 น.
น่าทานมากค่ะ เห็นคู่แข่งแล้วหนาวเลย เป็นกำลังใจให้นะคะ
โดย: Arinchaya วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:18:09:06 น.
ความหวานของอัษทศน้ำตาลเรียกพี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เป็นกำลังใจให้ได้รับคะแนนโหวตอย่างล้นหลามเลยนะคะ โดย: ปูขาเก เซมารู วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:20:04:13 น.
หวานซ้า...อิจฉาอัษทศเจงๆ อาหารน่าสนใจ และน่ากินที่ สุดเลย โดยเฉพาะส้มตำสาลี่ แซ่บแน่ๆเลย เป็นกำลังใจให้ นะจ้ะ อัษทศจ๋า ^_^ โดย: ต้มตุ๋นอุ่นนึ่งทอด IP: 124.120.25.185 วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:20:54:39 น.
เข้สมาเชียร์ และเป็นกำลังใจค่า อาหารน่าทานที่ซู๊ดดดค่า
โดย: Ann Arbor วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:21:31:24 น.
เป็นกำลังใจให้พี่ ทนายอ้วน เช่นกันค่ะ สู้ๆนะคะ ^^
โดย: NokJbz วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:21:34:25 น.
ตามมาเชียร์สุดใจขาดดิ้นให้อัษทศ (ของพี่ ) ด้วยจ๊ะ เริ่ดมากๆ ทุกเมนูเลย ถ้าหวานใจพี่ทำให้กินอย่างนี้ แม่รักตายเลย 555........... สู้ๆ เค้าน้าตั๊วววว............. โดย: ปลา ปู อยู่ทะเล IP: 110.168.94.182 วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:9:32:53 น.
น่ากิน ชอบๆๆๆ ตามมาชมค้าา
โดย: AlexisBakery IP: 58.181.144.19 วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:15:17:46 น.
พี่บอล....
น่าหม่ำมากๆเลยค่ะ เชียร์พี่บอลครับ สู้ ๆ โหวตที่ไหนอะคะ เดี๋ยวน้องจะรีบวิ่งไปโหวตค่ะ โดย: นู๋ยู้ฮู้ วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:16:59:01 น.
มาบ้านนี้ฮาได้อีกจ้า
ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจดีๆ ไว้แล้วแวะเยี่ยมกันได้บ่อยๆ จ้าพี่ทนาย ปล. ไม่ใช่น้อยเลยนะคะ น่ารักดีค่า โดย: บ้านหวานเย็น วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:20:00:33 น.
ดาวจ๋าคนซนเข้ามาขอบคุณ
สำหรับคะแนนโหวต ที่ทำให้ดาวจ๋าได้เป็นนางงาม ถึง 3 ตำแหน่งค่ะ ขอบคุณมากๆๆๆๆนะคะ ดูคะแนนและผลโหวตตามลิงก์นี้ค่ะ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=dailydelicious&month=06-2010&date=15&group=15&gblog=7 ความจริงแล้ว ดาวจ๋าไม่ได้เก่งอะไรมากมายในงานเบเกอรี่เลย แต่มิตรภาพที่ดีมีค่ามากกว่ารางวัลที่ได้รับมากมายนัก ....คิดเหมือนดาวจ๋ามะคะ? ขอให้มีความสุขมากๆๆนะคะ โดย: satineesh วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:21:44:10 น.
ดูน่าทานและละลานตามากๆเลยค่ะ ชอบวิธีการเล่าเรื่องด้วย ชักอยากรู้ตอนต่อไปของความรักของคุณอัษทศและคุณบดีซะแร้ววว
โดย: Beebie วันที่: 17 มิถุนายน 2553 เวลา:3:17:33 น.
กริสสสสสสสสสสสสสสสสสส
กระชากได้ใจอย่างแรง นี่ถ้าไ่ม่ติดจอ กระโดดเข้าไปหม่ำแล้วจิง ๆ นะเนี่ย แต่แหมมม อ่านบล็อคนี้แล้ว น่ารักดี เขียนแบบเล่าเรื่อง สู้ ๆ นะคะ หม่อนเชียร์อยู่เน้อ โดย: ซามอ วันที่: 17 มิถุนายน 2553 เวลา:7:12:54 น.
เมนูอลังการ หลากหลายมากเลยค่ะ
เป็นกำลังใจนะคะ โดย: แม่่อุด้งอินดี้ วันที่: 17 มิถุนายน 2553 เวลา:11:53:09 น.
โอ้โหแซ็บๆๆๆๆค่ะ เหมือนได้อ่านนิยายไปด้วย สนุกมากเลยค่ะ
โดย: กระแต (pp_parich ) วันที่: 17 มิถุนายน 2553 เวลา:19:01:16 น.
ทำเยอะมากเลย ทานหมดรึป่าวค่ะ
ถ้าไม่หมดขอแจมด้วยคนนะค่ะ โดย: วัช (huh ) วันที่: 19 มิถุนายน 2553 เวลา:20:48:29 น.
เข้ามาหลายรอบแล้วคะ แต่คอมเม้นเราหายไปไหน หุหุ
คุณทนายอ้วนทำอาหารเก่งและยังสร้างสรรค์สุด ๆ อิจฉาคนอยู่ไกล้ ๆ ที่ได้ทานอาหาร เซ็ทนี้จัง...เจอกันที่บล็อคคุณปูนะคะ โดย: เขมิศราสุดสวย วันที่: 20 มิถุนายน 2553 เวลา:5:44:54 น.
|
ทนายอ้วน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?] Friends Blog
|