ตั้งแต่สมัยเด็กๆ จนถึงซัก ม. 3 ปิดเทอมเมื่อไหร่เป็นอันต้องระเห็จไปอยู่สวนที่บ้านที่ระยองกับคุณลุง
คุณลุง (ผมเรียกคุณลุงว่า "หลวงลุง" เพราะท่านบวชเป็นพระอยู่พรรษานึงตอนที่ผมกำลังหัดพูดพอดี ก็เลยเรียกหลวงลุงมาจนติดปาก) เป็นทหารบก แต่ว่า early retire ออกไปทำสวนที่ซื้อเอาไว้ก่อนที่จะ early ครับ
ช่วงปิดเทอมเป็นช่วงที่ผลไม้ต่างๆ ทั้งทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง กำลังออกลูกเล็กๆพอดี ต้องดูแลทะนุถนอมมากๆครับ คุณลุงจะจัดตารางรดน้ำต้นไม้ในช่วงเช้าของทุกๆวันในพื้นที่ต่างๆกันไป ตอนเด็กก็แค่ไปยืนคุยด้วยเท่านั้นแต่พอตอนโตๆแล้วก็มีหน้าทีรดน้ำทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ด้วย
การลากสายรดน้ำนี่ไม่ได้ง่ายเลยครับ คิดดูนะครับสายยางขนาด เส้นผ่านศูนย์กลางซัก 1 1/2 - 2 นิ้ว แล้วน้ำที่รดเนี่ยเป็นน้ำที่ปั๊มขึ้นมาจากบ่อบาดาล เพราะฉะนั้นสายยางจะหนักมากๆๆ รดน้ำทุเรียนต้นนึงต้องประมาณ 5-7 นาทีให้ทั่วโคนทุเรียนจนชุ่ม เพราะไม่ได้รดทุกวันครับ รดวันนึงแล้วเว้นไป 3 วัน ในระหว่างนี้ก็ไปรดแปลงอื่นๆครับ จะใช้เวลาในช่วงเช้าตั้งแต่ 7 โมง ไปจนถึง 10 โมงกว่าๆ ก็เสร็จงานครับ เริ่มรดน้ำตอนบ่ายอีกที่ก็บ่ายๆ ครับ เสร็จงานตอนเย็นๆ ก้อกินข้าวกินปลา เข้านอนครับ
วันไหนที่ไม่มีเวรรดน้ำก็จะต้อง ถากหญ้า หรือไม่ก็ทำอะไรต่ออะไรไปตามเรื่อง ถ้าไม่มีอะไรทำก็ไปทะเล สวนที่บ้านอยู่ใกล้แหลมแม่พิมพ์มากๆครับ
พอเริ่มโตก็มีภาระจะต้องเรียพิเศษเพื่อเตรียมตัวสอบเอ็นทรานซ์ ก็เลยไม่ได้ไปอยู่สวนกับลุงเลย
เมื่อก่อนก็กินทุเรียนนะครับ .... แต่พอได้กลิ่นทุเรียนเน่า เปลือกทุเรียนเน่า ก้อเลยเลือกครับ กลิ่นมันสุดจะพรรณาจริงๆ เคยได้กลิ่มผลไม้อะไรที่เน่าแล้วจะกลิ่นแรงเท่านี้
อีกอย่าง... ทุเรียนที่สุกมากๆก็จะต้องเอาไปแปรรูปอย่างอื่นคือเอามาทำทุเรียนกวน วิธีการคือเม็ดออกจนหมดแล้วขยำๆๆๆๆๆๆ เป็นเนื้อเละ ..... นึกภาพก็อยากจะอ๊อก .... ยิ่งกลิ่นนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ ฉุนที่สุด ... เวลากวนก็หนักหนาสาหัสมากๆครับ
ตอนแรกๆก็ไม่เท่าไหร่พอทุเรียนเริ่มเดือด ก็ใส่น้ำตาลลงไป .. ทีนี้แหละครับกระเด็นสุดๆ ประมาณว่าต้องเอาผ้ามาปูตรงหน้าตักเลยครับ ผ่านไป 3 ชั่วโมง .... ทุเรียนเริ่มงวดทีนี้ก็เหนียวมากๆๆๆต้องออกแรง 2 แขนเลยครับ กวนอยู่อย่างนี้ไปอีก 2 ชั่วโมงกว่าทีนี้ต้องเปลี่ยนให้ผู้ชายที่ข้อแข็งๆมากวนครับ เพราะทุเรียนจะเป็นก้อนเหนียวติดกระทะกวนยากมาก แล้วต้องกวนเร็วๆอย่างนี้ไปอีกชั่วโมงกว่าๆ จนน้ำมันออกมาเคลือบทุเรียนกวน แล้วไม่ติดกระทะอีกต่อไปถึงจะใช้ได้ครับ ศิริรวม 6-7 ชั่วโมงอ่ะครับต่อทุเรียนกวน 5 กิโลนะครับ
ตอนไปอยู่ที่สวนระยองได้ไปทานอาหารพื้นบ้านตามงานต่างๆ เกิดไปติดใจยำวุ้นเส้นของคนระยองครับ มันหวานๆ มันๆ อร่อยมาก ที่แปลกที่สุดคือใส่เนื้อแตงกวาฝานบางๆด้วยครับ ติดใจเอากลับมาทำเองที่บ้านอีกหลายๆครั้ง จนกลายเป็นเมนูประจำบ้านไปเลยครับ
ยำวุ้นเส้น
ส่วนผสมก็มี
วุ้นเส้นแห้ง
หมูสับ
หอมแดงซอย
อันนี้พิเศษหน่อยครับ พริกหวานซอยตามยาว
มะเขือเทศ วันนี้ใช้มะเขือเทศราชินีครับ
คึ่นฉ่ายหั่นเป็นท่อนๆ
ต้นหอมหั่นเป็นท่อนๆ
ถั่วบดหยาบๆ วันนี้ผมใช้เม็ดมะม่วงหิมพานต์บดครับ อิอิอิ
ที่ขาดไม่ได้เลยคือเนื้อแตงกวาฝานบางๆ แล้วก็พริก แล้วก็ กระเทียม
แล้วก็มะนาวครับ
ก่อนอื่นต้องตำพริกกับกระเทียมก่อนครับ ตำพอหยาบๆครับ
แล้วก็รวนหมูสับเตรียมเอาไว้ เวลารวมใส่น้ำลงไปหน่อยนะครับ รวมเสร็จก็พักไว้ให้เย็นๆหน่อย
จากนั้นก็ต้มน้ำให้เดือดเพื่อเอาไปลวกวุ้นเส้น ใส่น้ำเดือดลงไปในวุ้นเส้นแห้งแล้วรอสักพัก ชิมดูนะครับว่าสุกหรือยัง พอวุ้นเส้นสุกดีก้อกรองเอาแต่วุ้นเส้นตัดซะบ้างครับ จะได้ทานง่ายๆ ใส่พริก กระเทียมตำลงไป
ใส่หมูสับลงไปแล้วปรุงรสด้วย น้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาวครับ ปรุงให้รสเข้มๆ ก่อนนะครับ เพราะนอกจากวุ้นเส้นมันจะดูดรสไปบ้างแล้ว เดี๋ยวเราจะใส่ถั่วบดด้วยครับ ตอนนี้ต้องใช้ความกล้ามากหน่อยครับ เพราะว้านเส้นก็ร้อน หมูก็ร้อน ต้องใช้มือคลุกครับ มันถึงจะเข้าเนื้อ อิอิอิ พอคลุกจนเข้ากันดีก้อใส่หอมแดงซอย
ตามด้วยพริกหวานซอยตามยาว มะเขือเทศ ใส่เนื้อแตงกวาฝานลงไป แล้วคลุกให้เข้ากัน
ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์บด คึ่นฉ่าย ต้มหอมหั่นท่อน แล้วคลุกให้เข้ากันอีกที่นึงก็เสร็จครับ
ตักใส่จานครับ
เมนูนี้รสออกเปรี้ยวๆ มันๆ ไม่ค่อยเผ็ดเท่าไหร่ กินแทนข้าวได้เลยครับ
นอกจากที่ระยองแล้วไม่เคยเห็นยำวุ้นเส้นอย่างนี้ที่ไหนอีกเลย เอาไว้จะเอาเมนูยำวุ้นเส้นแบบแปลกๆ มาฝากอีกครับ
คิดถึงระยองจังเลย ตอนนี้คุณลุงเสียไปแล้ววววว สวนก็ให้คนสวนเค้าทำไป คงไม่ได้ไปอีกแล้ว
ครัวทนายอ้วน............... Home ......... for food lovers.
อิอิ ตามไปทุกที่เลยเรา ก็ชอบยำวุ้นเส้นมากๆค่ะ
มารับปิ่นโตอีกรอบนะคะ เย้ยยย รอบดึก อิอิ