มกราคม 2568
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
11 มกราคม 2568

: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - ชัมบาลา :


: ชัมบาลา :
เขียน : เชอเกียม ตรุงปะ
แปล : พจนา จันทรสันติ







ผมอ่านหนังสือของท่านเชอเกียม ตรุงปะ อยู่หลายเล่ม
และเกือบทุกเล่มผมอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจในเนื้อหา
แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ผมจะไม่อ่านแนวความคิดและหลักคำสอนของท่าน
หนังสือบางเล่มไม่จำเป็นต้องอ่านแล้วเข้าใจทั้งหมด
เพราะในความไม่เข้าใจ อาจนำเราไปสู่ความเข้าใจอะไรบางอย่างซึ่งอยู่นอกเหตุเหนือผลได้


“ชัมบาลา” หรือ “หนทางอันศักดิ์สิทธิ์ของนักรบ”
เป็นหนังสือเล่มสุดท้ายก่อนที่ท่านเชอเกียม ตรุงปะจะเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 47 ปี
เนื้อหาพูดถึงความจริงแท้แห่งชีวิตและความดีงามซึ่งอยู่ในตัวคนทุกคน
ซึ่งเราทุกคนสามารถฝึกฝนตนให้อยู่บนหนทางแห่ง “นักรบ” นี้ได้

คำว่า “นักรบ” อาจฟังดูแล้วเหมือนการเข้าสู่สงคราม
แต่ขณะที่ผมอ่านหนังสือเล่มนี้ไปเรื่อย ๆ
ผมกลับรู้สึกว่าเราสามารถทดแทนคำว่า “นักรบ” ด้วยคำว่า “ผู้กล้า” ได้ด้วยเช่นกัน

เราทุกคนสามารถเป็น “ผู้กล้า” ซึ่งเต็มไปด้วยความนอบน้อมถ่อมตน
มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการฝึกจิตอย่างมีชีวิตชีวา
เพื่อนำพาชีวิตตนเองไปสู่ความหลุดพ้นจากความกลัวทั้งปวง
ความกลัวซึ่งกักขังเราไว้ภายใต้กรอบความคิด ความเชื่อ ประเพณี และวัฒนธรรมบางอย่าง
ที่อาจครอบงำจิตของเราไว้โดยไม่รู้ตัว


“ชัมบาลา” เป็นชื่อของอาณาจักรโบราณในธิเบต
บางคนเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้มีอยู่จริง และอีกหลายคนเชื่อว่านั่นเป็นเพียงอุปมาอุปไมย
เพื่อให้ “ชัมบาลา” เป็นหมุดหมายทางใจ นำทางผู้ฝึกฝนตนทั้งหลาย
ให้มุ่งเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันเป็นนิรันดร์


ผมอ่านหนังสือเล่มนี้ 2 หรือ 3 รอบไม่แน่ใจ
แต่ทุกครั้งก็อ่านอย่างตั้งใจเสมอไม่ว่าจะอ่านแล้วเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็ตามที

ผมเชื่อว่าในตัวเราทุกคนมี ”ความกล้า”
เราทุกคนสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็น “คนกล้าหาญ” ได้
เหมือนที่ท่านเชอเกียม ตรุงปะเขียนไว้ว่า


“ก้าวแรกแห่งการประจักษ์แจ้งในความดีงามพื้นฐาน
ก็คือ การแลเห็นคุณค่าในสิ่งที่เรามีอยู่
ต่อจากนั้นเราก็จะต้องแลให้ชัดเจนกว้างไกลออกไป
ว่าเรากำลังเป็นอะไรอยู่ อยู่ตรงไหน เราเป็นใคร
เมื่อไหร่และทำอะไรในฐานะมนุษย์
เพื่อว่าเราจะได้เป็นเจ้าของความดีงามรากฐานอย่างแท้จริง
ที่จริงมิใช่หมายถึงการครอบครอง
หากแต่เป็นการหยั่งเห็นถึงคุณค่าของมัน”


หลังจากอ่านหนังสือ “ชัมบาลา” จบ
ผมลองเขียนบทกวีบทหนึ่งขึ้นมาตามความเข้าใจของตนเอง
คือบทกวีนี้ครับ








: หนทางศักดิ์สิทธิ์ของผู้กล้า :


อย่ากลัวความจริงในตัวเอง
เพราะความกลัว จะก่อให้เกิดความเห็นแก่ตัวในตัวเรา
ถ้าเธอไม่ยึดมั่นในเหตุผล เธอจะกลายเป็นคนที่ทำอะไรตามใจ
เอาแต่ความถูกใจ โดยไม่คิดถึงความถูกต้อง
ทำอะไรไม่สนใจครรลองที่คล้องจองกับธรรมชาติซึ่งต้องเป็นไป

จงปลดเปลือกที่หุ้มห่อตัวเองออก
จงลอกเปลือกแล้วเลือกแก่นแกนของชีวิต
จงค้นพบจิตเดิมแท้ซึ่งอยู่ในตน
จงทำลายความสับสนให้สิ้นไป

รากฐานของความดีงาม คือ ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในทุกขณะ
จงค้นพบความดีงามอันแท้จริง จงทิ้งสิ่งลวงตาลวงใจไปให้สิ้น
ฟังแล้วเธอจะได้ยิน ได้ยินเสียงที่เธอไม่เคยได้ยินในตัวเอง

ในการดำรงอยู่โดยไม่หลอกตัวเอง
ปัญหาและปัญญากลายเป็นสิ่งเดียวกัน
ชีวิตกลายเป็นการเดินทางอันไร้จุดจบ
หนทางกว้างใหญ่หายไปในความไม่สิ้นสุด
การหยุดนิ่งอย่างเงียบสงบ ทำให้เธอได้พบความจริงแท้
สิ่งนี้ดำรงอยู่กับลมหายใจ
ความคิดกลับสู่ลมหายใจ
จิตกลับสู่ลมหายใจ
ชีวิตกลับสู่ลมหายใจ

หนทางนี้เริ่มต้นที่ตัวเราเอง
หนทางนั้นเริ่มต้นที่ตัวเธอเอง

เพราะความหวาดกลัวไม่อาจเปลี่ยนแปลงฤดูกาลได้
ความคาดหวังไม่อาจเปลี่ยนกลางวันหรือกลางคืนได้
ธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไปตามความจริง
ไม่ได้เปลี่ยนไปตามใจอยากของใคร

จนกว่าจะพบว่าในดวงใจของเธอนั้นว่างเปล่า
นั่นคือ ความรักปราศจากเงื่อนไข
นั่นคือ ความเศร้าที่หลั่งไหลมาจากหัวใจ
นั่นคือ ชีวิตซึ่งซุกซ่อนอยู่ด้านใน
คือทุกสิ่งที่วางอยู่บนความจริงแห่งความว่าง
คือความว่างที่วางอยู่บนความจริง
และปราศจากสิ่งซึ่งเรียกว่าความเห็นแก่ตัว

เธอต้องพบกับความกลัวเสียก่อน
จึงจะก้าวข้ามผ่านความกลัวนั้นได้
ความเขลาขลาด คือการไม่ยอมรับในการมีอยู่ของความกลัว
ความกลัวจึงเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ
เมื่อยอมรับว่ากลัว หนทางแห่งการข้ามพ้นความกลัวก็อยู่ตรงนั้น
ชั่วขณะที่ก้าวข้ามผ่านความกลัว
ความกลัวจะแปรเปลี่ยนเป็นความกล้า
ความกล้าได้เข้ามาแทนที่ความกลัว
เมื่อสิ้นความกลัว ความกลัวทั้งหมดก็สิ้นสุดลง

ผู้ชนะจึงไม่มีสิ่งใดให้พิชิต
ไม่มีทุกข์ใด ปัญหาใดให้ข้ามผ่าน
ดับสิ้นทั้งพรุ่งนี้ทั้งวันวาน
ปัจจุบันกาล คือ พริบตาเดียวแห่งเสี้ยวชีวิต !



Create Date : 11 มกราคม 2568
Last Update : 11 มกราคม 2568 5:44:29 น. 12 comments
Counter : 404 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณmultiple, คุณหอมกร, คุณกะริโตะคุง, คุณtanjira, คุณปรศุราม, คุณอุ้มสี, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณโอพีย์, คุณnonnoiGiwGiw, คุณmcayenne94, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณทนายอ้วน, คุณสองแผ่นดิน


 
ดูแล้ว จัดเป็นหนึ่งในหนังสือ เข้าใจยากกก เล่มนึง ของคุณก๋าเลยนะครับ ฮ่าๆๆ
เดี๋ยวนี้ อาจารย์เต๊ะ พยายามใช้ชชีวิตให้ง่ายเข้าไว้
ปัญหาไหน พยายามแก้แล้ว ยังไม่ได้ ก็ปล่อยวาง ปล่อยให้มันผ่านไป
สรุปว่า ปล่อยไปแยะมากกว่าไม่ปล่อย ฮ่าๆๆๆ

วันนี้วันเด็ก คุณก๋าจะพาหมิงหมิงไปเที่ยวไหนละครับ อิอิ



โดย: multiple วันที่: 11 มกราคม 2568 เวลา:7:47:14 น.  

 
เป็นอีกเช้าวันนึงที่คุณธัญ
ไม่ได้เข้ามาเม้นท์แต่เช้าคุณก๋า



โดย: หอมกร วันที่: 11 มกราคม 2568 เวลา:7:50:33 น.  

 
สวัสดีครับ
ซัมบาลา...อ่านทีแรก เอ๊ะ ทำไมมันเหมือนชื่อเพลงเชียร์ในงานกีฬาสีสมัยมัธยม

แต่อ่านไปก็ อ่อออ ผู้กล้าที่เขาว่านี่ก็หมายถึง คนที่กล้าที่จะคิดดีทำดีไม่ใช้อารมณ์ ยึดมั่นเหตุผล ใช้ปัญญาเผชิญกับความกลัวและปัญหาที่ผ่านเข้ามา...

แต่ผมรู้สึกว่า ไม่ว่าจะมองยังไงปัญหากับปัญญามันไม่ใช่สิ่งเดียวกันแต่เหมือนเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกันที่สามารถหักล้างกันได้มากกว่าครับ


โดย: กะริโตะคุง วันที่: 11 มกราคม 2568 เวลา:8:29:23 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะก๋า

อย่างอาจารย์เต๊ะบอกค่ะ จัดเป็นหนังสือที่เข้าใจยากอีกเล่มค่ะ
ขนาดก๋าเขียนบทกวีใหม่ ก็เหมือนจะเข้าใจง่ายขึ้น
แต่ก็ยังยากอยู่นะคะ .....

.......

หมิงเป็นไงบ้างคะ? ส่วนพี่ยังไอช่วงกลางคืนอยู่ค่ะ
มาดามต้องไปหาปรึกษาหมอล่ะค่ะ อาจเป็นวัยทอง
ตอนพี่ พี่สงสัยว่าวัยทองที่ชอบร้องไห้นั่นนี่โน่น
แต่เอาเข้าจริงดันเป็นซึมเศร้าเริ่มต้นซะงั้น
อาการของพี่ไม่ได้อยากตายนะคะ
เพียงแค่เบื่อหน่าย หงุดหงิด น้อยอกน้อยใจกับคนในบ้าน
นอนไม่หลับ น้ำหนักลด กินไม่ได้
ก็คิดว่าเลือดจะไปลมจะมาประมาณนี้ 555

มาดามน่าจะเป็นแบบเลือดจะไปลมจะมา
หรือวัยทองแหละค่ะ ....

เช้านี้พี่ตื่นเช้านะคะ แต่ไม่ได้เข้าบล็อก
เลยเป็นที่สงสัยห้กับคุณหอมกรค่ะ


โดย: tanjira วันที่: 11 มกราคม 2568 เวลา:8:49:24 น.  

 
เล่มนี้น่าสนใจจ๊ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 11 มกราคม 2568 เวลา:10:11:05 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ พี่ก๋า

วันนี้ลมแรงเลยค่าาา แรงกว่าเมื่อวาน
แล้วเขาใหญ่จะดับไฟป่าได้อย่างไร ถ้าลมแรงแบบนี้

วันนี้หงส์เตะเร็วค่ะ 19.15 เจอน้องลีก2
เอ็นดูน้องๆดีใจได้มาเจอหงส์


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 11 มกราคม 2568 เวลา:11:56:11 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

"ชัมบาลา" แปลว่า หนทางอันศักดิ์สิทธิ์ของนักรบ เป็นหนังสือแนะนำอีกเล่มหนึ่ง ที่ให้ข้อคิด ในเรื่องของ ความกล้า ซึ่งจะ
เกิดขึ้นได้ ต้องไล่ความกลัวออกไปได้ก่อน ความกล้าจึงจะเกิดขึ้น
นับว่า หนังสือเล่มนี้ ก็ให้ข้อคิดดี ๆ น่าเสียดาย ที่คนเขียนอายุสั้น
มาก เพียง 47 ปีเท่านั้น ไม่งั้นคงมีผลงานฝากไว้ในบรรณพิภพอีกมากหลายเล่ม แน่นอน

โหวดหมวด แนะนำหนังสือ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 11 มกราคม 2568 เวลา:12:08:06 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า

ชอบที่ว่า อย่ากลัวความจริงในตัวเอง นะครับ
แต่หากเป็นในมุมมองที่ว่า ความไม่มั่นใจในตัวเอง
จึงทำให้ไม่กล้าแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 11 มกราคม 2568 เวลา:13:31:01 น.  

 
ปลายทางกลับว่างเปล่าปราศจากผู้คน
ไม่มีเรื่องราวใด หนทางเป็นเพียงภาพมายา
ชีวิตเป็นเพียงมายา
นักรบ เป็น คำเรียกที่เหมาะสม การต่อสู้
กับกิเลสที่เคยมี ความซื่อสัตย์และจริงแท้จึงจะผ่านไปได้
การหลุดจากมายาอย่างถาวร น่าสนใจมากกว่าใดๆในโลก
ตัวหนังสือที่ถ่ายทอด ไม่อาจเทียบการสัมผัสตัวจริงของครผุอาจารย์
บางท่านถ่ายทอดให้ด้วยพลังงาน บางรูปถ่ายทอดให้ด้วยปัญญา
หนทางยังมี รีบขวนขวายเดินก่อนหนทางจะเลือนหายไปค่ะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 11 มกราคม 2568 เวลา:17:36:30 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า


ตอนนี้ที่บ้านอากาศเย็นอีกแล้วครับ แต่ PM สูงมากครับ เลยไม่รู้ว่าไอ้ที่แพ้อากาศทุกๆวันนี่มาจากอะไร ฮ่าๆๆๆ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 11 มกราคม 2568 เวลา:20:08:20 น.  

 
ความกลัวมันน่ากลัวจริงๆ ครับ มันทำให้เราทำอะไรไม่ได้เลย ผมยังมีความกลัวในหลายๆ เรื่อง ผมอยากมีความกล้าเหมือนสมัยตัดสินใจไปเรียนภาษาจีนจริงๆ ไม่รู้ตอนนั้นเอามาความกล้ามาจากไหน


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 มกราคม 2568 เวลา:23:08:40 น.  

 
ชัมบาลา มาทำเป็นภาพยนตร์ด้วยครับ

วันนี้ ค่าฝุ่นไม่เกิน วิ่งครับ คืนนี้เย็นกว่าเมื่อวานครับ



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 11 มกราคม 2568 เวลา:23:23:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 395 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]