มกราคม 2568
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
8 มกราคม 2568

: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - แก่นคำสอน อาทรี ซกเชน :

: แก่นคำสอน อาทรี ซกเชน :
เขียน : ดรู เกียลวา ยุงดรุง
แปล : ศุทธนา วิจิตรานนท์









“ซกเชน” ในภาษาธิเบต
หมายถึง ความสมบูรณ์อันประเสริฐของสมาธิ
หมายถึง จิตเดิมแท้
หมายถึง วิธีปฏิบัติอันนำไปสู่การเข้าถึงพุทธภาวะที่สมบูรณ์
หมายถึง สภาวะจิตเดิมแท้ ; สภาวะจิตตื่นรู้
หมายถึง การปฏิบัติธรรมเพื่อพบกับปัญญาญาณในตน



“อาทรี ซกเชน”
เป็นสายธรรมซกเชนของพุทธเพิน
ใช้อักษรธิเบต “อา” ในการนิมิตเจริญสมาธิภาวนา


หนทางแห่ง “อาทรี ซกเชน” คือ

1. นำกระแสจิตที่ยังไม่สุกงอมไปสู่ความสุกงอม
2.นำกระแสจิตที่สุกงอมไปสู่ความหลุดพ้น
3.นำกระแสจิตที่หลุดพ้นแล้วไปสู่พุทธภาวะ

หนทางทั้งหมดอยู่ที่การทำภาวนาสมาธิ และวิปัสสนาปัญญา

“อาทรี ซกเชน” เป็นแนวทางการฝึกฝนตนเพื่อนำไปสู่หนทางแห่งการพ้นทุกข์
ถูกคิดค้น ทดลองขึ้นโดยคุรุผู้มีปัญญาชาวธิเบต ถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านการสอนศิษย์
แบบปากเปล่าและจิตสู่จิต ในภายหลังจึงมีผู้รวบรวมหลักธรรมคำสอนเล่านี้ให้เป็นหมวดหมู่
เรียงลำดับขั้นตอน แจงแจงรายละเอียดเอาไว้ ให้เป็นแนวทางที่ศิษย์และคนรุ่นหลัง
จะได้ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติธรรม

“การเวียนว่ายตายเกิด” ยังคงเป็นปริศนาลึกลับดำมืดของคนทุกชาติศาสนา
“การเวียนว่ายตายเกิด” ยังคงเป็นต้นธารแห่งความทุกข์
“การเวียนว่ายตายเกิด” คือ ต้นทางแห่งการเกิด และปลายทางแห่งความตาย

ทุกชีวิตที่เกิดมาล้วนไม่อาจหลบเลี่ยงชะตากรรมของตน
สุขทุกข์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตก่อเกิดความสั่นไหวในใจ
ทุกข์อันเกิดจากการปรุงแต่งของจิตหรือความคิด
ทำอย่างไรจึงจะกำราบจิตอันแส่ส่ายนี้ได้
ทำอย่างไรจึงจะรับมือกับกิเลสซึ่งคอยยั่วเย้าในหลงผิด
ทำอย่างไรจึงจะจัดการกับอวิชชาที่ผ่านเข้ามาเพื่อลากเราเข้าสู่หนทางที่ผิดพลาดหมองมัว
ทำอย่างไรจะพ้นไปจากการยึดติดในตัวตนซึ่งเป็นโซ่ตรวนหน่วงเหนี่ยวเราไว้กับชาติภพ
ทำอย่างไรจึงจะไม่เกิดอีก ; ไม่เกิด - ไม่ตาย ; ไม่ตาย - ไม่เกิด



“อาทรี ซกเชน”
คือ คู่มือในการปฏิบัติธรรมอย่างมีรูปแบบและขั้นตอน
ตั้งแต่ในระดับผู้เริ่มต้น ผู้ฝึกฝนตน และไปจนถึงขั้นผู้รู้แจ้ง
รายละเอียดภายในคัมภีร์ได้ทำให้เราพบกับแนวทางที่จะใช้ฝึกฝนตน
จนถึงวาระที่สิ่งที่ควรกำจัดก็ได้รับการกำจัดไปจนหมดสิ้น
สิ่งที่ควรตระหนักรู้ก็ได้ตระหนักรู้จนหมดสิ้น

ดังท่านบรมครูริเทรอได้กล่าวคำสอนอันล้ำค่าเอาไว้ว่า


“โดยทั่วไปแล้ว ในการที่สรรพสัตว์ทั้งหลายจักได้เข้าถึง ‘พุทธภาวะ’
นั้นมีความจำเป็นที่จะต้องบำเพ็ญสมาธิ
ในการทำสมาธินั้นก็จำเป็นที่จะต้องตระหนักถึงทรรศนะ
ในการตระหนักถึงทรรศนะ
ก็มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการชี้นำหนทางให้เข้าใจแก่นคำสอน
แต่เพียงการชี้นำหนทางอาจไม่เพียงพอ
จำเป็นที่จะต้องปฏิบัติภาวนาสมาธิ
แต่เพียงการปฏิบัติภาวนาสมาธิก็ยังไม่เพียงพอ
จำเป็นที่จะต้องนำประสบการณ์นั้นเข้าไปในกระแสจิต
แต่เพียงการนำประสบการณ์เข้าไปในกระแสจิตก็ยังไม่เพียงพอ
จำเป็นที่สัญญาณของความก้าวหน้าในการปฏิบัติจะปรากฏขึ้น
แต่เพียงสัญญาณปรากฏขึ้นก็ยังไม่เพียงพอ
จำเป็นที่จะต้องปรากฏเป็นผล
แต่เพียงการปรากฏเป็นผลก็ยังไม่เพียงพอ
จำเป็นที่จะต้องยังประโยชน์ต่อสรรพสัตว์
อย่างไม่มีประมาณในการประพฤติปฏิบัติตน”


เราปฏิบัติธรรมไปทำไม ?
ก็เพื่อจะได้พ้นไปจากทวิภาวะ
ไร้สิ่งที่ถูกรู้และผู้รู้
ไร้สิ่งที่ถูกเห็นและผู้เห็น
ปราศจากความคิด
ไร้เหตุไร้ผลเพื่อใช้ในการรับรู้
ว่างจากการมีอยู่ทั้งปวง
‘ตัวตน’ เป็นเพียงเงาสะท้อนของการมีอยู่ในชั่วขณะ
ชีวิตปรากฏขึ้นคล้ายภาพฝันลวงตา
ปรากฏการณ์แห่งการตื่นรู้เท่านั้น
ที่จะทำให้ภาพมายานี้หายไป !!!!









































Create Date : 08 มกราคม 2568
Last Update : 8 มกราคม 2568 5:21:43 น. 16 comments
Counter : 567 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณtuk-tuk@korat, คุณtanjira, คุณmultiple, คุณhaiku, คุณThe Kop Civil, คุณnonnoiGiwGiw, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณอุ้มสี, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณปรศุราม, คุณRananrin, คุณปัญญา Dh, คุณnewyorknurse, คุณกะริโตะคุง, คุณสองแผ่นดิน


 
เป็นหนังสือแนวพวกนักคิดอีกแล้วคุณก๋า
วันนี้น่าจะมาก่อนคุณธัญแน่ๆ จ้า



โดย: หอมกร วันที่: 8 มกราคม 2568 เวลา:6:44:34 น.  

 
คนที่ทำใจ๋ได้แล้วก็บอกวิธีทำใจ๋ได้เข้าใจ๋ได้ดี
คนที่ยังคิดไม่ตก อ่านจ่ะใดก็ไม่น่าทำใจ๋ได้เนาะเจ้า


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 8 มกราคม 2568 เวลา:8:35:16 น.  

 
สวัสดีค่ะก๋า

เล่มนี้แนวอ่านแล้วเข้าใจยากอยู่นะคะ

วันนี้แถวบ้านพี่มีงานแต่ง ญกับญ ด้วยนะคะ
พ่ออายุ80กว่าเข้าใจลูกนี่ก็โอเคนะคะ

วันนี้มาสายกว่าคุณหอมกรค่ะ


โดย: tanjira วันที่: 8 มกราคม 2568 เวลา:8:55:27 น.  

 
จิตเดิมแท้ ของ อาจารย์เต๊ะ น่าจะยังไม่สุกงอมแน่
แม้ร่างกายจะใกล้งอมแล้วนะครับ ฮ่าๆๆ
ถ้าเปรียบความรู้ด้านนี้ อาจารย์เต๊ะ ก้เหมือนเด็ก ป 2 เลยละครับ

เช้านี้ กทม ก็ยังเย็นสบายต่อไป
แล้วก็แนวคิดเรื่องสมุดเบาใจ นี่ดีมากเลยเชียวครับ
คนที่อยู่ข้างหลัง ญาติมิตรจะได้ไม่ต้องมาถกเถียงกันอีก
เดี๋ยว อาจารย์เต๊ะ ก็คงต้องเริ่มเขียนไว้บ้างแล้วละครับ ฮ่าๆๆ



โดย: multiple วันที่: 8 มกราคม 2568 เวลา:8:58:45 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า

ไม่ได้เข้ามาคุยด้วยนานเลย สบายดีนะคะ
ถึงจะไม่ได้คุย แต่แวะมากดโหวตให้ตลอด
คอมออกอาการป่วยหนัก แต่ยังพอไปไหวอยู่
ปีนี้เลยไม่ได้ตระเวนสวัสดีใหม่เพื่อนบล็อกเลย
วันนี้คอมใช้ได้ เลยแวะมาสวัสดีปีใหม่กับคุุณก่าย้อนหลัง
มีความสุขมาก ๆ ไม่เจ็บไม่จนและโชคดีตลอดปีค่า


โดย: haiku วันที่: 8 มกราคม 2568 เวลา:9:45:20 น.  

 
อย่างที่คุณก๋าเคยคุยไว้ ของผมตอนวิ่งมาราธอนเวลาเหนื่อยมาก ๆ จิตต้องตั้งมั่นมากจริง ๆ ครับ ไม่งั้นไม่ไหวแน่ ๆ
เมื่อคืนลีกคัพนัดแรกอาร์เซน่อลแพ้ไปซะแล้วครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 8 มกราคม 2568 เวลา:9:48:28 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

"แก่นคำสอน อาทรี ซกเชน" ชื่อ เจ้าของ แนวทางการปฏิบัติธรรมเพื่อให้หลุดพ้น จากการเวียนว่ายตายเกิด(อาทรี) ชื่อ ซกเชนยังไม่เคยได้ยินชื่อนี้ จากบล็อกเธอนะ บล็อกนี้ได้ทราบประวัติของ นักปราชญ์หรือเจ้าของ แนวปฏิบัติธรรม อาทรี ได้คำศัพท์ ภาษาธิเบต ด้วย
หนังสือเล่มนี้ มีจุดประสงค์เหมือนเล่มอื่น ๆ ที่ได้รีวิวไปแล้ว ก็คือ วางแนวทางให้ผู้ปฏิบัติไปสู่การหลุดพ้นจากการเวียนว่าย
ตายเกิด คือ นิพพานนั่นเอง และเน้นที่ "จิต" เช่นกัน ถ้าเรา
สามารถทำจิตของเราตั้งอยู่ในทางที่ดี ที่ชอบ ย่อมนำทางเราไปสู่
ความสำเร็จในสิ่งที่เราต้องการได้ แน่นอน จ้ะ
โหวดหมวด แนะนำหนังสือ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 8 มกราคม 2568 เวลา:10:32:05 น.  

 
เล่มนี้น่าสนใจจ้า


โดย: อุ้มสี วันที่: 8 มกราคม 2568 เวลา:10:32:52 น.  

 
สวัสดีครับคุณไฮกุ

ขอให้คุณไฮกุมีความสุข สุขภาพแข็งแรงเช่นกันนะครับ
ขอให้เป็นปีที่ดีครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มกราคม 2568 เวลา:11:36:29 น.  

 
สวัสดีค่ะ


โดย: นาฬิกาสีชมพู วันที่: 8 มกราคม 2568 เวลา:13:45:05 น.  

 
สวัสดีครับ


โดย: ปัญญา Dh วันที่: 8 มกราคม 2568 เวลา:14:39:44 น.  

 
สวัสดีครับ
สาธุครับ

สิ่งที่ควรทำคือการนำความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติ...


โดย: กะริโตะคุง วันที่: 8 มกราคม 2568 เวลา:15:58:12 น.  

 
กิเลสทั้งปวง คือ ทุกข์

อันนี้น้องรู้ซึ่งค่ะพี่ มีช่วงนึง
น้องอินกับคำของท่านพุทสทาสที่ว่า

"มีความรักในสิ่งใด สิ่งนั้นแหละ มันกัดหัวใจ"

จากนั้นก็ปลงได้เยอะเลยพี่
แล้วเราก็เลือกตัดอะไรหลายๆ อย่างได้
เพราะประโยคนี้เลยพี่



โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 8 มกราคม 2568 เวลา:17:06:31 น.  

 
อ่านเข้าใจยาก แต่อันนี้น่าสนใจ จงอย่าหลงทางในปรากฏการณ์ แม้เพียงชั่วขณะเดียว


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 8 มกราคม 2568 เวลา:22:00:53 น.  

 
อย่างกรณีคุยโม้เรื่องพุทธะ มันก็มีคนที่เชื่อและหลอกตัวเอง แต่ในกรณีแบบนี้นึกถึงพระพระที่อวดอุตริมากกว่า


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 8 มกราคม 2568 เวลา:22:57:51 น.  

 
จิตเดิมแท้ จิตที่หลุดพ้น ไม่กลับมาอีกแล้ว

ค่าฝุ่นสูงขึ้นทุกวัน หยุดวิ่ง 1 สัปดาห์ จนจิตสบายไม่อยากกลับไปวิ่ง ให้เหนื่อยกาย 55



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 8 มกราคม 2568 เวลา:23:06:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 395 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]