มกราคม 2568
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
7 มกราคม 2568

: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - ชั่วขณะสุดท้ายแห่งชีวิต :


: ชั่วขณะสุดท้ายแห่งชีวิต :
เขียน : ทะไลลามะ
แปล : ธารา รินศานต์







“ความตาย” เป็นคำที่ดูไกลตัวสำหรับคนอายุยังน้อย คนที่มีร่างกายแข็งแรง
แต่มันก็ไม่ใช่หลักประกันว่าทุกคนจะต้องตายตอนสูงวัย หรือต้องเจ็บป่วย
ต้องประสบอุบัติเหตุจึงจะตาย

การตระหนักรู้ว่าถึงวันหนึ่งเราทุกคนก็ต้องตาย
เป็นการสลายความนึกคิดผิด ๆ ที่เรามักคิดว่า
“ยังหรอก...ยังไม่ถึงเวลาตายของฉันหรอก”
“โอ๊ย...ยังมีเวลาอีกเยอะ”
“ความตายเป็นเรื่องไกลตัว”
ฯลฯ
ลมหายใจ --- จึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่าความหมายอย่างยิ่ง

“ชั่วขณะสุดท้ายแห่งชีวิต” ก็เป็นสิ่งที่เราควรฝึกใคร่ครวญถึง
เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับความตายไว้บ้าง
นั่นย่อมหมายถึงความไม่ประมาทในการใช้ชีวิต

แนวคิดของคนทิเบตเชื่อในการกลับชาติมาเกิด เชื่อในการเวียนว่ายตายเกิด
การปฏิบัติทางจิตวิญญาณของนักบวชวัชรยานก็มีการสอนการฝึกในเรื่องความตายด้วยเช่นกัน
แต่เป็นความตายที่แจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับสภาพจิตใจในระดับต่าง ๆ
โดยมีคัมภีร์ที่สำคัญ คือ คัมภีร์มรณศาสตร์ ซึ่งเขียนโดยปันเชนลามะองค์แรก

ท่านทะไลลามะได้อรรถาธิบายโศลกทั้ง 17 บทในคัมภีร์เล่มนี้โดยละเอียด
แต่ที่สุดแล้วเราจะศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับความตายมากเพียงใด
ก็ไม่สำคัญเท่ากับวันที่เราต้องเผชิญหน้ากับความตายและความสูญเสีย
ทั้งที่เกิดขึ้นกับคนที่เรารู้จัก คนที่เรารัก หรือแม้แต่กับตัวเราเอง

แทนที่จะหวาดกลัวความตาย
เราสามารถใช้ความตายเป็นบทเรียนและบททดสอบจิตในเวลาเดียวกันได้
หากเรายอมรับว่า “ความตาย” คือ ส่วนหนึ่งของ “ชีวิต”
“ชีวิต” คือส่วนหนึ่งของ “ความตาย”

“มรณานุสติ” นับเป็นบทเรียนที่สำคัญที่สุดบทหนึ่ง
ซึ่งเราทุกคนต้องผ่านพบเพื่อเผชิญหน้ากับความตายโดยไม่อาจหลบเลี่ยง
กลัวหรือไม่กลัว ก็ต้องตาย
ตายไม่กลัว กลัวไม่ตาย
สุดท้ายเราทุกคนต้องตาย
แต่ความหมายในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่
คือทุกสิ่งที่เราทำและหลงเหลือไว้ในคนจดจำ
จดจำเพื่อลืมเลือนไป....ตลอดกาล

























Create Date : 07 มกราคม 2568
Last Update : 7 มกราคม 2568 5:15:25 น. 14 comments
Counter : 504 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtanjira, คุณอุ้มสี, คุณmariabamboo, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณmultiple, คุณทนายอ้วน, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณThe Kop Civil, คุณปัญญา Dh, คุณmcayenne94, คุณnewyorknurse, คุณกะริโตะคุง, คุณปรศุราม, คุณnonnoiGiwGiw, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน


 
พี่อุ้มตั้งแต่หน้าปก
ไปจนถึงเนื้อในเลยจ้า
เล่มนี้


โดย: อุ้มสี วันที่: 7 มกราคม 2568 เวลา:6:35:39 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะก๋า

สำหรับพี่ ถ้าถึงเวลาพี่พร้อมจะจากไปค่ะ
เหมือนไม่มีอะไรให้ห่วงแล้ว ....

อากาศกลับมาเย็นอีกนะคะ ฝุ่นก็เยอะ
เมื่อวานตอนเย็นพี่รู้สึกว่า เหมือนจะไม่ค่อยดีค่ะ
เช้านี้เลยจัดเต็มกับเสื้อผ้า ผ้าพันคอ


พี่น่าจะมาก่อนคุณหอมกรไหมคะเช้านี้


โดย: tanjira วันที่: 7 มกราคม 2568 เวลา:6:37:05 น.  

 
กลับชาติมาเกิดนะใช่ แต่ไม่จำเป็น
ต้องได้เกิดเป็นคนอีกนะคุณก๋า
เวลาที่คุณธัญมาเม้นท์นี่น่าจะยัง
ไม่ได้เปิดคอมพ์ มาช้ากว่ากันแน่ๆจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 7 มกราคม 2568 เวลา:7:07:06 น.  

 
ช่วงหลังมานี่ อาจารย์เต๊ะ ไปวัดบ่อยมาก
ทั้งจัดงานให้คนในครอบครัว ทั้งงานศพเพื่อนฝูง
เพื่อนร่วมงาน บางคนก็อายุยังน้อยก็มาจากไปซะแล้ว

สำหรับอาจารย์เต๊ะ นี่เวลาที่ต้องตัดสินใจเรื่องความตายให้คนในครอบครัวนี่ มันแสนจะยาก
เพราะเวลาอยู่ในห้องฉุกเฉิน หมอจะมาถามไว้ก่อนว่า
จะให้ใส่ท่อช่วยหายใจมั้ย จะปั๊มหัวใจขึ้นมามั้ย
มันจะทรมาณจิตใจมาก สำหรับคนที่ต้องตัดสินใจนะครับ

ทางที่ดีถ้าเป็นไปได้ ถ้ารู้ตัวว่าป่วยหนัก เราควรจะต้องบอกจุดประสงค์ไว้กับญาติๆก่อนเลยจะดีที่สุดนะครับ

เช้านี้ กทม อากาศเย็นสบายดี
ขอแบบนี้ไปซักเดือนก็จะเยี่ยมเลยนะครับ



โดย: multiple วันที่: 7 มกราคม 2568 เวลา:8:16:34 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ครับคุณก๋า


ขอให้คุณก๋า และครอบครัว มีความสุข สุขภาพแข็งแรงนะครับ


ช่วงก่อนปีใหม่มัวแต่วุ่นวายกับหลานสาวครับ นางมีสอบมิดเทอม เกิดอยากจะติววิชากันบอลก็ต้องไปหาสรุปวิชาต่างๆในเนทมาติว แต่วิทย์ - คณิต ลงเรียนออนไลน์ไว้ให้แล้วครับ



เมื่อเทอมที่แล้วนางฟลุ๊คสอบได้เกรด 4 ครับ ... นางบอกว่า "ซวยจริงๆ เทอมนี้หนูก็เลยต้องสอบให้ได้ 4 อีก " ฮ่าๆๆๆ



พอสอบเสร็จนางก็มีกีฬาสีครับ นางเป็น staff เชียร์ มีซ้อมหลังเลิกเรียนจนถึงมืดๆเลยครับ เสาร์ - อาทิตย์ ก็มีซ้อมทั้งวันเลยครับ


หลังปีใหม่นางไปเข้าค่ายลูกเสือที่สระบุรี ต้องเตรียมของกันโกลาหลมาครับ ซื้ิอ ผ้าถุง ไฟฉายเล็กๆ จิปาถะ .... ที่ขาดไม่ได้คือขนมถุงใหญ่ๆ ฮ่าๆๆๆๆ


ช่วงปีใหม่บอลรื้อสวนหน้าบ้าน บ่อบัว เพื่อทำเป็นที่วางกล้วยไม้แบบเป็นเรื่องเป็นราวครับ สงสารกล้วยไม้ โดนแดดจัดๆบ้าง โดนลมบ้าง แห้งตายไปหลายต้นครับ


เลยไปซื้อชั้นสแตนเลสวางต้นไม้แบบ 4 ชั้น มา 2 ขนาดครับ ช่วยกันกับคนข้างๆ รื้ออิฐบ่อบัว แล้วโรยก้อนหิน ตั้งชั้นวางต้นไม้ กางสแลน หมดเวลาหยุดปีใหม่ไป 3 วันครับ ฮ่าๆๆๆ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 7 มกราคม 2568 เวลา:8:34:18 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ พี่ก๋า

แดงเดือด เดือดจริงๆนะคะ
ทีมเพื่อนนี่เค้าไม่ยอมเราจริงๆ 555
เราก็เล่นผิดฟอร์มไปหน่อย ไม่ไล่บอลกันเลย

แปดริ้วอากาศยังเย็นต่อเนื่องค่ะ



โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 7 มกราคม 2568 เวลา:9:30:51 น.  

 
ผมเหมือนว่าจะทำใจได้เรื่องความตาย แต่พอเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวทำใจยากมาก ๆ ครับ เมื่อวานลูกชายของเพื่อนรุ่นเดียวกันเพิ่งเสียไป กำลังเรียนชั้นประถมอยู่เลยครับ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว พ่อซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันกับผมก็เสียชีวิตไปก่อนแล้ว


โดย: The Kop Civil วันที่: 7 มกราคม 2568 เวลา:10:16:45 น.  

 
สวัสดีครับ คุณก๋า


โดย: ปัญญา Dh วันที่: 7 มกราคม 2568 เวลา:11:33:19 น.  

 
มรณานุสติ เป็นสิ่งที่ดีมากค่ะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 7 มกราคม 2568 เวลา:11:58:45 น.  

 
สวัสดีครับ
ผมว่าที่คนทั่วไปกลัวความตายก็เพราะว่า เราไม่รู้ว่าตายแล้วชีวิตหลังความตายจะเป็นยังไง ถ้าธรรมชาติบอกเราว่าตายแล้ววิญญาณเราจะลอยไปสู่ภพใหม่ในดาวหนึ่งที่อยู่กาแลคซี่ M71a ห่างออกไปจากโลก 37 ล้านพาเสค...อะไรแบบนี้ เราก็อาจจะไม่กลัวและเตรียมตัวหรืออาจจะตัดสินใจไปสู่ภพใหม่ (การฆ่าตัวตายก็อาจจะถูกมองในอีกมุมนึงไปเลย)

...ผมก็พูดไปเรื่อยอ่ะเนอะ คนที่ตายไปแล้วเขาก็ไม่เคยมาบอกว่าตายแล้วเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขา


โดย: กะริโตะคุง วันที่: 7 มกราคม 2568 เวลา:14:18:15 น.  

 
เมื่อคืนน้องยังซ้อมตายอยู่เลยพี่ คือ นอนตั้งแต่สองทุ่ม
แล้วมันตื่นมาตี 1 ครึ่ง คันพี่ ช่วงนี้ยังหาสาเหตุไม่ได้
ว่าแพ้อะไร หรือว่าผิวแห้ง มันชอบกัน พอเกาจุดนึง มันก็ลามไปจุดอื่น
ต้องเอายาแก้แพ้มานั่งทาแล้วคือ มันยุบยิบๆ ไปหมด
นอนไม่ได้ ต้องพยายามไม่เกาเพราะยิ่งเกามันยิ่งคัน

เลยนอนซ้อมตาย แบบตายไปแล้ว วิญญาณออกจากร่าง
จะเกาไม่ได้ 55555 ร่างกายไม่ใช่ของเรา
แล้วก็ปล่อยให้มันคันไป สุดท้ายมันก็หลับได้ต่อจริงๆ
ตื่นมา หายคัน เฮ้ออออ ขำก็ขำ เซ็งก็เซ็ง


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 7 มกราคม 2568 เวลา:14:50:04 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

"ชั่วขณะสุดท้ายแห่งชีวิต" หัวข้อนี้ ศาสนาพุทธได้กล่าวไว้
ว่าชั่วขณะสุดท้ายของชีวิตก่อนจะสิ้นลมหายใจ (ตาย) เป็นช่วงเวลา
สำคัญมากที่สุด เพราะถ้าเราคิดถึงสิ่งใด เราก็จะไปเกิดเป็นสิ่งนั้น ๆ จึงมีการกล่าวว่า ก่อนสิ้นลม ต้องคิดถึงสิ่งดี ๆ ที่เราทำไว้ อย่าคิดถึงสิ่งที่ไ่ดี เพื่อเราจะไปเกิดในภพภูมิที่ดี จริงไม่จริงก็ไม่มีใครรู้เนาะ (ยังไม่เคยตาย)

แต่อย่างไรก็ตาม หมั่นทำความดี ละเว้นความชั่ว และเชื่อว่า
ทุกคนต้องตายแน่นอน ตายช้าตายเร็ว เราก็ไม่มีโอกาสได้รู้ชะตา
ชีวิตของเรา ก็ควรเตรียมตัวให้ดีไว้ ถ้ามันเป็นจริง จะได้ตายดี
ไม่ทุกข์ทรมาน แน่นอน

โหวดหมวด แนะนำหนังสือ



โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 7 มกราคม 2568 เวลา:17:00:34 น.  

 
ความตายเนี่ยะยุติธรรมที่สุดแล้วครับ เท่าเทียมกันด้วย ไม่ว่าใครก็ต้องตาย


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 7 มกราคม 2568 เวลา:22:19:07 น.  

 
เกิดแก่เจ็บตาย
มีสติก่อนตาย

ค่าฝุ่นเกิน ยกเว้นภาคใต้ หยุดวิ่งต่อไป




โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 7 มกราคม 2568 เวลา:23:18:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 395 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]