1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
31
นิทรรศการ "L'Art de Marsi"
ภาพจากปกหนังสือพระประวัติและผลงานของ มจ.มารศี สุขุมพันธุ์ บริพัตร Air - Johann Sebastian Bach อัพบล็อกช้าอีกตามเคย ไปชมนิทรรศการภาพวาดของ มจ.มารศีสุขุมพันธ์ บริพัตร ตั้งแต่สองเดือนที่แล้ว เพิ่งจะมาอัพตอนงานหมดไปแล้ว มัวแต่อัพเรื่องอื่นเพราะเย็นใจ (อีกแล้ว) ว่างานยังจัดอีกเป็นเดือน พอเริ่มเขียนบล็อกก็เข้าเวบดูข้อมูล เหลือเวลาอีกไม่กี่วันนิทรรศการจะหมดเขตแล้ว โอ้ย ตูจะเขียนบล็อกทันมั้ยล่ะเนี่ย รูปก็ยังไม่ได้จัดการ พยายามหาเวลาเขียนบล็อก แต่ก็เสร็จไม่ทัน นิทรรศการหมดไปตั้งแต่วันที่ ๒๖ ก.พ. ไม่เคยรู้จัก มจ.มารศีฯ มาก่อนเลย แต่ได้อ่านพระประวัติและชมผลงานของท่านในนสพ.แล้วทึ่งจัดเลยค่ะ เป็นผู้หญิงเก่งขั้นอัจฉริยะ นอกจากพระอัจฉริยภาพด้านศิลปะอันเยี่ยมยอดแล้ว ยังมีพระอัจฉริยภาพในด้านภาษา วรรณกรรม ประวัติศาสตร์ ดนตรี การสื่อสารมวลชนด้วย ชมภาพวาดที่จัดแสดงแล้วรู้สึกแปลกหูแปลกตาเพราะไม่ค่อยคุ้นกับภาพแนวนี้เท่าไหร่ ดูแล้วก็ไม่น่าเชื่อว่า ทรงศึกษาด้านการวาดภาพด้วยพระองค์เอง ทรงศึกษาอย่างจริงจังต่อเนื่องจนมีผลงานงดงามมากมายและเป็นที่รู้จักในระดับสากล อัพบล็อกช้าเลยใส่รูปกับข้อมูลเต็ม ๆ เผื่อคนที่ชอบงานศิลปะแนวนี้แล้วไม่มีโอกาสได้ไปชม เพราะงั้นบล็อกนี้ยาวโลดดดดเหมืียนเคย อิ อิอ่านพระประวัติของท่านหญิงได้ที่นี่ค่ะ พระประวัติหม่อมเจ้ามารศีฯ บล็อกเสพงานศิลป์อันล่าสุดเสพงานศิลป์ ๒๘ ภาพจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ที่มีความโดดเด่น งดงาม และมีเอกลักษณ์สูงในทางศิลปะแนวเซอร์เรียลลิสต์-แฟนตาสติก ของหม่อมเจ้ามารศี สุขุมพันธุ์ บริพัตร พระธิดาพระองค์เดียวในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต และหม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร ได้นำมาจัดแสดงให้ชาวไทยและผู้รักในงานศิลปะได้ชื่นชมในประเทศไทยอีกครั้ง ในนิทรรศการ "L'art de Marsi" ณ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ งานจัดที่นี่แหละค่ะ เข้าประตูมาก็เห็นกระดานแผ่นใหญ่ติดภาพวาดและข้อมูล อีกด้านเป็นโปสเตอร์งาน ดอกไม้ประดิษฐ์สองกระถาง ขนาดใหญ่แล้วก็สวยมาก ตั้งไว้ตรงประตูด้านข้าง ชั้นล่างมีภาพจัดแสดงอยู่ไม่กี่ภาพ "Dream of the Grand Palace" (1996) W 120 x H 150 cm. Royal Collection "Siriyalay Fantasy" (1997) ขนาด ๑๒o x ๑๕o ซม. ลายพระหัตถ์ของท่านหญิง
นับเป็นภาพเขียนที่หาชมได้ยาก เพราะหม่อมเจ้ามารศีฯ ทรงเป็นศิลปินไทยในต่างแดน ทรงมีพระอัจฉริยภาพทั้งด้านวรรณคดี ประวัติศาสตร์และดนตรี เมื่อมีพระชันษาเพียง ๒๓ ปี ทรงได้รับปริญญาเอกสาขาอักษรศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซอร์บอน ณ กรุงปารีส ๕ ปีต่อมาทรงได้ปริญญาเอกใบที่สอง สาขาเอกประวัติศาสตร์ศิลปะจากมหาวิทยาลัยแห่งมาดริด ประเทศสเปน จากนั้นทรงศึกษาด้านการวาดภาพด้วยพระองค์เองอย่างจริงจังต่อเนื่อง กระทั่งทรงมีผลงานเป็นที่รู้จักในระดับสากล แสดงภาพเขียนในยุโรปเสมอ โดยเฉพาะในฝรั่งเศส ดินแดนแห่งศิลปะ ขึ้นมาบนชั้นสองก็เจอป้ายบิ๊กบึ้มอันนี้ ส่วนนี้เป็นพระประวัติและผลงาน นิทรรศการเดี่ยวที่เคยจัดแสดง นิทรศการกลุ่มที่เคยจัดแสดง "สมเด็จฯ ท่านทรงใช้ให้เขียนรูปพระปราสาทต่าง ๆ ที่วังหลวง ตอนแรกฉันก็กลัวจะทำไม่สำเร็จ ก็กราบทูลท่านว่า ถ้าเผื่อต้องพระประสงค์อะไรที่ realistic จริง ๆ หม่อมฉันทำไม่ได้ หม่อมฉันไม่มีความชำนาญทางด้านสถาปัตยกรรมไทย ถ้าหม่อมฉันทำ เกรงว่าจะจับฉ่าย เอาอันนั้นมาใส่อันนี้ ไม่ realistic จะเป็นแบบฝัน ๆ ท่านรับสั่งว่าอยากได้อย่างนั้น"
แม้หม่อมเจ้ามารศีฯ ประทับและวาดภาพอยู่ที่ต่างแดน แต่ทรงรักประเทศไทย ภาพจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ของท่านหญิง ทางมูลนิธิหม่อมเจ้าหญิงมารศี สุขุมพันธุ์ บริพัตร ทำหน้าที่ดูแลรักษาและจัดแสดงเพื่อส่งเสริมการศึกษาด้านศิลปะ โดยเมื่อปี ๒๕๕๓ เคยนำภาพเขียนฝีพระหัตถ์ที่ลุ่มลึกมาให้คนไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรก ส่วนนิทรรศการล่าสุดนี้มูลนิธิฯ ร่วมกับหอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จัดขึ้นในวโรกาส ๘o พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในการนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์ไปทรงเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ นี้ ด้านนี้เป็นพระรูปและพระประวัติ
ที่น่าสนใจ นิทรรศการนำเสนอพัฒนาการของภาพเขียนตามลำดับเวลาผ่านเนื้อหาหลักในงานศิลปะของท่านหญิง ได้แก่ หินและดอกไม้ สัตว์ที่มีจริงและในจินตนาการ สถาปัตยกรรมและสิ่งประดับ สะท้อนอิทธิพลของคติยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาในยุโรป และคติแนวเหนือจริง ผสานรูปแบบการตกแต่งและแก่นเรื่องตามประเพณีตะวันออกไกล ทั้งจินตนาการและสัญลักษณ์ประกอบขึ้นเป็นภาพ ส่วนที่จัดแสดงผลงานภาพวาด "Crazy horse alone" ขนาด ๗๕ x ๙๔ ซม. "L'Univers Pétunia" (2003) ขนาด ๑๓๔ x ๒oo ซม.
ความพิเศษในนิทรรศการคือ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นำภาพส่วนพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่ท่านหญิงทรงวาดถวายตามพระราชเสาวนีย์มาจัดแสดงด้วย เป็นที่ทราบกันทรงใกล้ชิดกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ ตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ และประทับอยู่สวิตเซอร์แลนด์ ทรงวาดภาพถวายหลายภาพ อาทิ ภาพชุด ๔ ฤดูกาลที่งามยิ่ง ปัจจุบัน ม.จ.มารศีฯ พระชันษา ๘๒ ปี ทรงประทับอยู่ที่พระตำหนักในเมือง Annot ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสนักดนตรี : ท่านหญิงมารศีทรงโปรดดนตรีของบาคยิ่งนัก ทรงตั้งสาขาขององค์การระหว่างประเทศ เป็นองค์กรที่ไม่หวังผลกำไร ชื่อ "เชอแนส มูสิกาล" (เยาวชนนักดนตรี) "Le Mariage mystique du Prince Noui-Noui à Vellara" (2003) ขนาด ๑๓๔ x ๒oo ซม. "La Belle à la cour de la bête" (1995) ขนาด ๑๓o x ๑๙๕ ซม.
งานเปิดนิทรรศการครั้งที่ ๒ ในไทยนี้ อาทิตยา กุลโมไนย ที่ปรึกษามูลนิธิหม่อมเจ้าหญิงมารศีฯ และผู้ซ่อมแซมภาพเขียนฝีพระหัตถ์ นำสื่อมวลชนชื่นชมผลงาน โดยเปิดให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับศิลปินและแนวคิด ที่ปรึกษามูลนิธิฯ กล่าวว่า ท่านหญิงมารศีฯ ทรงเริ่มศึกษาการวาดภาพด้วยพระองค์เองขณะพระชันษา ๓o ปี ไปชื่นชมงานศิลป์ตามพิพิธภัณฑ์ และมีพระสหายเป็นศิลปินแนวเซอร์เรียลลิสต์เยอะ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และเทคนิค ก่อนหน้านั้นเป็นอาจารย์พิเศษสอนประวติศาสตร์ศิลปะ และเป็นผู้สื่อข่าวประจำสำนักข่าวอาชองช์ ฟรองซ์-แพรส งานช่วงแรกทรงวาดก้อนหิน และพัฒนามาวาดดอกไม้นานาพรรณผสมผสานรูปภาพคน จัดองค์ประกอบแบบฝัน ๆ เป็นคาแรคเตอร์ของท่าน และทรงให้เวลาในการสร้างผลงานบนผืนผ้าใบแต่ละชิ้น ชุดดอกไม้แสดงให้เห็นว่าทรงฝึกฝนอย่างหนัก ดึงคาแรคเตอร์ดอกไม้แต่ละชนิด ตกแต่งสร้างองค์ประกอบภาพที่น่าสนใจ เมื่อทักษะเพิ่มมีการจัดวางสถาปัตยกรรม แต่คล้ายจิตรกรรมไทย ใส่เรื่องวรรณคดีด้วย เมื่อเจนจัดองค์ประกอบแล้วนำเสนอแก่นเรื่องด้วยปรัชญาที่ลึกซึ้ง "La Bal" ( 1991) ขนาด ๑๓๔ x ๑๙๙ ซม. "L'Embarquement pour Cythère" (2001) ขนาด ๑๓๔ x ๒oo ซม. "L'etreinte" (1984) ขนาด ๖๓ x ๗๖ ซม.
"ทรงสนพระทัยวาดภาพมากและพัฒนาต่อเนื่องตลอดพระชนม์ชีพ ทรงประทับอยู่ฝรั่งเศส ดินแดนที่ศิลปะแนวเหนือจริงเริ่มขึ้น เป็นยุคก่อตั้งศิลปะเซอร์เรียลลิสต์หลังสงครามโลก ด้วยพื้นฐานด้านวรรณคดี ดนตรี จึงมีความพอดีกับงานศิลปะแนวนี้ แต่ไม่ใช่เซอร์เรียลที่เกิดจากการต่อต้านชนชั้นกลาง ทรงใช้เซอร์เรียลตอบสนองแนวคิดปรัชญาชีวิต ทรงตั้งใจเรียนรู้ด้วยพระองค์เอง เป็นแบบอย่างให้ศิลปินรุ่นใหม่ การเป็นศิลปินไทยในฝรั่งเศสไม่ใช่เรื่องง่าย" อาทิตยากล่าวภาพถ่ายสตูดิโอทรงงานที่ฝรั่งเศสของท่านหญิง มีตู้ใส่อุปกรณ์วาดภาพและขาตั้งที่ทรงใช้วาดภาพมาจัดแสดงด้วย "Daphne" ภาพเขียนสุดท้ายของท่านหญิงที่ยังทรงวาดไม่เสร็จ ด้วยทรงประชวร
เมื่อเดินผ่านผลงานศิลปะที่เรียงตามลำดับเวลากระทั่งมาถึงห้องจัดแสดงของใช้จริงในสตูดิโอที่พระตำหนัก ม.จ.มารศีฯ ทรงประทับที่ฝรั่งเศส ซึ่งนำภาพเขียนสุดท้ายที่ท่านหญิงยังไม่วาดเสร็จ ด้วยทรงประชวร เมื่อปี ๒๕๔๗ มาจัดแสดงประกอบ โดยมูลนิธิฯ ให้ชื่อผลงานว่า "Daphne" ที่ปรึกษามูลนิธิฯ เล่าถึงบรรยากาศการสร้างสรรค์งานว่า ทรงเลี้ยงนกในสตูดิโอ บินไปมาอย่างอิสระ และเปิดดนตรีคลาสสิก ฮัมเพลงตาม มีความสุขกับการเขียนภาพและร้องเพลง ในพระตำหนักทรงเลี้ยงทั้งสุนัข แมว นกแก้ว กระต่าย กระทั่งสุนัขจรจัด หรือหมูป่าที่เข้ามาเองทรงนำมาประกอบภาพ ทรงวาดปีละภาพ ละเอียด ทำเองทุกขั้นตอน ไม่ใช้ผ้าใบสำเร็จรูป ขึงแคนวาสเอง ภาพจึงมีหลายขนาดมาก ส่วนภาพสุดท้ายเราให้ชื่อว่า "Daphne" หมายถึงดอกราชพฤกษ์ เป็นตัวแทนศิลปะและกวีตะวันตก นักหนังสือพิมพ์ : ท่านหญิงทรงติดตามรายงานข่าว อันหลากหลายด้วยพระปรีชาสามารถยิ่งในฐานะผู้สื่อข่าว ประจำสำนักข่าวอาซองซ์ ฟรองซ์-แพรส (เอเอฟพี) ผู้ดำเนินรายการวิทยุ : ท่านหญิงมารศีทรงดำเนินรายการวิทยุเป็นภาษาอังกฤษ สัปดาห์ละสองครั้งที่ สถานีวิทยุกรุงเทพฯ ทรงตรัสเป็นภาษาฝรั่งเศสและอังกฤษได้คล่องเสมอด้วยภาษาไทย
ด้านการซ่อมแซมภาพเขียนนั้น ผู้เชี่ยวชาญได้ให้ความรู้ด้วยว่า ผลงานมีปัญหาเปื้อนมูลนก ต่างจากทั่วไปที่เสื่อมสภาพจากฝุ่น เชื้อรา ควันไฟ หรือระยะเวลาของภาพ ทางมูลนิธิฯ มีหน้าที่ดูแลรักษา จึงได้ติดต่อสตูดิโอระดับมาตรฐานที่ฝรั่งเศสจะดำเนินการอนุรักษ์เช่นไรก่อนซ่อม มีการศึกษาวิจัยเฉพาะ ทำงานเป็นทีม แบ่งเป็นผู้ชำนาญด้านเคมีประวัติศาสตร์ และทักษะ สรุปขั้นตอนผลงานของท่านหญิงได้ ทำความสะอาดภาพด้วยน้ำยาเคมีเพื่อให้ภาพมีค่ากรดด่างเป็นกลาง ก่อนใช้เทคนิคภูมิปัญญาโบราณนำหัวหอมใหญ่มาฝานและฝนๆ ด้านหน้าผ้าใบ ซึ่งประกอบด้วยสารกว่า ๓oo ชนิด ที่มีคุณสมบัติดึงความสกปรกของภาพ ผลจะได้สีเหมือนผลงานที่วาดเสร็จใหม่ ๆ ก่อนจะใช้แปรงขนสัตว์ปัดแล้วใช้สีซ่อมภาพเพื่อปิดรอยชำรุดหรือกะเทาะ ต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้แข็งแกร่ง พื้นผิวเสมอกัน ใช้เวลาซ่อมแซม ๖ เดือนต่อ ๑ ภาพ ขณะนี้ทางมูลนิธิฯ เก็บรักษาภาพฝีพระหัตถ์ทั้งหมด ๑o๗ ภาพ ศิลปินเครื่องดินเผาเซรามิก : ที่วิทยาลัยศิลปะในกรุงเทพฯ ในแต่ละปี ท่านหญิงจะทรงแสดงผลงานศิลปะเซรามิกบางชิ้นที่ทรงสร้างสรรค์อย่างน่าทึ่ง
นิทรรศการ "L'art de Marsi" แสดงภาพเขียนที่รวบรวมผลงานอันทรงคุณค่าของหม่อมเจ้ามารศีฯ ศิลปินไทยในต่างแดนที่หาชมได้ยากยิ่งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๘ มกราคม - ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ เวลา ๑o.oo - ๑๙.oo น. ณ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ กรุงเทพฯ (หอศิลป์ฯ หยุดวันพุธ) โทร.o๒-๒๘๑-๕๓๖o-๑ เวบไซต์ของหม่องเจ้ามารศีฯmarsifoundation.org "Autoportrait" พระรูป ภาพและข้อมูลจาก หนังสือ "Marsi"thaipost.net matichon.co.th marsifoundation.org เฟซบุคนิทรรศการ L'art de Marsi บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะค่ะบีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ Free TextEditor
Create Date : 05 มีนาคม 2556
Last Update : 1 มีนาคม 2559 23:47:34 น.
39 comments
Counter : 9277 Pageviews.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 มีนาคม 2556 เวลา:23:21:24 น.
โดย: tui/Laksi วันที่: 6 มีนาคม 2556 เวลา:0:16:55 น.
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 6 มีนาคม 2556 เวลา:4:25:15 น.
โดย: sawkitty วันที่: 6 มีนาคม 2556 เวลา:7:22:09 น.
โดย: find me pr วันที่: 6 มีนาคม 2556 เวลา:9:01:29 น.
โดย: Calla Lily วันที่: 6 มีนาคม 2556 เวลา:10:55:36 น.
โดย: ณ มน IP: 110.77.229.159 วันที่: 6 มีนาคม 2556 เวลา:11:37:02 น.
โดย: find me pr วันที่: 6 มีนาคม 2556 เวลา:12:22:45 น.
โดย: เกศสุริยง วันที่: 7 มีนาคม 2556 เวลา:0:43:20 น.
โดย: AppleWi วันที่: 7 มีนาคม 2556 เวลา:17:11:40 น.
โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 7 มีนาคม 2556 เวลา:18:17:54 น.
โดย: haiku วันที่: 7 มีนาคม 2556 เวลา:21:53:31 น.
โดย: JewNid วันที่: 8 มีนาคม 2556 เวลา:10:10:50 น.
โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 8 มีนาคม 2556 เวลา:14:11:43 น.
โดย: Letalia วันที่: 8 มีนาคม 2556 เวลา:14:22:46 น.
โดย: เกศสุริยง วันที่: 8 มีนาคม 2556 เวลา:17:34:45 น.
โดย: sawkitty วันที่: 8 มีนาคม 2556 เวลา:19:17:23 น.
โดย: หมุยจุ๋ย วันที่: 8 มีนาคม 2556 เวลา:19:19:00 น.
โดย: ญามี่ วันที่: 8 มีนาคม 2556 เวลา:19:31:50 น.
โดย: โสมรัศมี วันที่: 8 มีนาคม 2556 เวลา:20:01:13 น.
โดย: โสมรัศมี วันที่: 8 มีนาคม 2556 เวลา:20:04:21 น.
โดย: โสมรัศมี วันที่: 8 มีนาคม 2556 เวลา:20:07:30 น.
โดย: pantawan วันที่: 8 มีนาคม 2556 เวลา:23:21:15 น.
โดย: fonrin วันที่: 9 มีนาคม 2556 เวลา:6:48:25 น.
โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 9 มีนาคม 2556 เวลา:8:51:13 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 9 มีนาคม 2556 เวลา:19:54:49 น.
โดย: เกศสุริยง วันที่: 10 มีนาคม 2556 เวลา:9:25:58 น.
โดย: chinging วันที่: 10 มีนาคม 2556 เวลา:10:12:16 น.
โดย: haiku วันที่: 10 มีนาคม 2556 เวลา:20:24:14 น.
โดย: pure green coffee IP: 192.99.5.126 วันที่: 15 พฤษภาคม 2557 เวลา:13:37:14 น.
บอกตามตรง ไม่รู้จักท่านเลยค่ะ..
แต่อ่านจากประวัติแล้ว น่าทึ่งท่านมากๆนะค่ะ..
ขอบคุณที่นำสิ่งดีดีมาให้เรียนรู้นะค่ะ..
มีความสุขมากๆนะค่ะ