สิงหาคม 2556
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
17 สิงหาคม 2556

:: ก๋าราณีตอบคำถามพี่ตาล ::






:: ก๋าราณีตอบคำถามพี่ตาล ::





ถ้าเช่นนั้นความหมายของคำว่าสมาธิของคุณก๋า
คือ การจดจ่อกับการงานตรงหน้าใช่หรือเปล่าค่ะ

ดังนั้นการทำสมาธิ
ไม่จำเป็นต้องนั่งกำหนดลมหายใจ


ที่ถามเพราะพี่ก็ไม่ชอบนั่งสมาธิ
พี่คิดว่าการทำงานฝีมือที่รัก ก็น่าจะเป็นการฝึกสมาธิ


แต่เคยอ่านเจอ


การทำงานจะได้สมาธิ
มีความสุขสงบภายในจิตจริง
แต่ปัญญาไม่เกิด

ไม่ได้พัฒนาปัญญาในทางธรรม

ไม่ได้พิจารณาการเกิดดับของจิตในตัวตน


คุณก๋ามีความคิดเห็นอย่างไรค่ะ





คำถามโดย : ตาลเหลือง



















คำถามที่ผมมักถูกถามอยู่เสมอ
คือ ปฏิบัติธรรมด้วยวิธีใด ชอบไปวัดไหน
หรือเป็นลูกศิษย์ของครูบาอาจารย์ท่านใด
เดินจงกลม และนั่งสมาธิหรือไม่ ?


พอผมตอบว่าไม่เคยไปปฏิบัติธรรมที่วัดไหนเลย
ไม่ได้เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อองค์ใด
ไม่เคยตื่นตี 4 มาเดินจงกลม ไม่ได้นั่งสมาธิ

เต็มที่ก็สวดมนต์ก่อนนอนกับลูกชาย
ผมสอนหมิงหมิงสวดมนต์ก่อนนอนวันละหกบท
เริ่มพูดได้ก็สอนให้สวดตามทุกคืน
เป็นบทสวดมนตร์สั้นๆ ที่ผมชอบและคิดว่าความหมายดี



เมื่อตอบออกไปเช่นนี้
ดูว่าคนฟังมีทีท่าประหลาดใจ สงสัย
ไม่แน่ใจในแนวทางที่ผมปฏิบัติอยู่












ผมสนใจธรรมะ
ผมศึกษาธรรมะ
ผมปฏิบัติธรรมะ


“ธรรมะ” ที่แท้จริงคือสิ่งใด ?

หลายคนคงมีนิยามความหมายที่แตกต่างกันออกไป
“ธรรมะ” ที่ผมรับรู้ คือ ธรรมะที่เป็น “ธรรมชาติ”

“ธรรมชาติ” จึงเป็นครูที่แท้จริงของผม


(เหมือนที่ผมเคยเล่าไปแล้วว่า
ครูที่แท้จริงของผมคือภูเขาที่กุ้ยโจวประเทศจีน)



“สมาธิ” ของผมจึงเป็นการทำให้ “จิต” ของตนเองนิ่ง

“จิต” ในความหมายของผมคือ “ความคิด”

ปกติความคิดของเราจะฟุ้งซ่านมาก
เพราะช่องทางการรับรู้ของเรามีหลายทาง
ทั้งทางหู ตา จมูก ลิ้น กาย และ ใจ

ทั้งหมดที่เรารับรู้ จะถูกนำมาปรุงแต่งและคิดๆๆๆๆๆ
ที่สมอง....จากนั้นข้อมูลจะถูกแปรสภาพใน “ความคิด” ของเรา
ดี ชอบ โกรธ เกลียด รัก หวงแหน ริษยา อาฆาต ฯลฯ


อารมณ์เหล่านี้ คือ กิเลส
หรือตัวกระตุ้นให้เราทำสิ่งต่างๆไปตามอำนาจของ “ความคิด”

ไม่มีกิเลสก็ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นมนุษย์จะไม่ทำหน้าที่
ไม่ทำงาน ไม่คิด ไม่สร้างสรรค์ และไม่ทำลาย


“สมาธิ” ไม่ได้มีหน้าที่ขจัดกิเลส
แต่เป็นตัวช่วยทำให้ความคิดของเรานิ่ง
เมื่อนิ่ง.... “ปัญญา” จะแยกแยะถูกผิดดีชั่ว

ขั้นตอนที่จิตหรือความคิดสามารถแยกแยะถูกผิดดีชั่ว
ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดนั้น
ผมเรียกว่าช่วง “วิปัสสนา”



“สมาธิ” จึงเป็นเหมือนการนำเอา “แก้วใบหนึ่ง”
ตักน้ำจากสายน้ำที่เชี่ยวกรากและขุ่นข้นขึ้นมาพักไว้
เมื่อวางไว้นานพอ
น้ำที่ขุ่นข้นสกปรกจะค่อยๆตกตะกอนนอนก้น
สิ่งที่อยู่ก้นแก้วคือโคลน
ส่วนสิ่งที่อยู่ด้านบนคือ น้ำ

สมาธิ คือ การทำน้ำให้ใส
แต่เมื่อก้นแก้วยังมีโคลนอยู่
แก้วถูกเขย่าเมื่อใด น้ำในแก้วก็ขุ่นข้นขึ้นอีกครั้ง....


เหมือนจิตที่ไม่เคยผ่านการฝึกฝน
ถูกยั่วเย้ากระตุ้นเพียงนิด
จิตก็เตลิดไปไกลจนเกินควบคุม













เราสามารถทำ “สมาธิ” หรือ ทำให้จิตนิ่งได้
ด้วยกิจกรรมทุกสิ่งที่เราทำด้วยใจจดจ่อ
การทำสมาธิที่ดีจะทำให้จิตเราว่างจากความคิด
และทำทุกอย่างชนิดที่ลืมตัวเองไปเลย

ผมไม่นั่งสมาธิเพราะรู้สภาพ “จริต” ของตนเอง
ว่าไม่ชอบอะไรที่นิ่งๆ เงียบๆ
แต่ชอบความฉับพลันทันใด การเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่อง
ผมจึงเลือกฝึกสมาธิด้วยการวาดภาพพู่กันเดียว


ถ้าใครก็ตามหั่นผักอย่างสวยงามละเอียดลออ
จิตตอนนั้นก็เป็นสมาธิ
ถ้าจิตวอกแวกอาจโดนมีดบาดได้โดยง่าย


ใครที่นั่งแกะสลักผักสองสามชั่วโมงได้โดยไม่เบื่อ
นั่งทำบัญชีอย่างเพลิดเพลินจนลืมกินข้าว
วาดภาพอย่างมีความสุขชนิดไม่สนใจสิ่งต่างรอบตัว
ฯลฯ


จิตแบบนี้เป็นสมาธิแล้วในระดับหนึ่ง.....
















ถามว่ามี “สมาธิ” แต่ “ปัญญา” ไม่เกิด
นั่นเพราะไม่ได้พัฒนาปัญญาในทางธรรมใช่หรือไม่ ?



เมื่อมีสมาธิแล้ว....
จึงจำเป็นต้องมีขั้นตอนในการปฏิบัติธรรมลำดับต่อมา
คือ การฝึก “วิปัสสนา”

“วิปัสสนา” แปลว่า การทำความจริงให้กระจ่าง




อะไรคือความจริงอันกระจ่าง ?


ต้องย้อนไปยังจุดเริ่มต้น
นั่นคือ ต้องรู้ถึงการเกิดขึ้นของ “จิต”
หรือ “ความคิด” หรือ “ตัวตน”

ต้องเรียนรู้ให้ได้ว่า “จิต” นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร


ต้องแยกให้ได้ว่า “จิตเดิมแท้” นั้น
เกิดมาจากผู้สร้างที่มีชื่อว่า “ธรรมชาติ”
จะเรียก “ผู้สร้าง” ว่าอย่างไรก็ได้...
พระเจ้า เต๋า พระแม่องค์ธรรม สุญญตา ธรรมชาติ ฯลฯ


ส่วนสิ่งที่ “ธรรมชาติ” สร้างขึ้น
เราเรียกว่า “สิ่งที่ถูกสร้าง”


ในทางธรรมจึงเรียกขานผู้สร้างว่า “โลกกุตรธรรม”
และเรียกสิ่งที่ถูกสร้างว่าเป็น “โลกธรรม”




มนุษย์ สัตว์ สิ่งของ ฯลฯ
เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยธรรมชาติ
ตามเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดขึ้น มีลักษณะจำเพาะ
มีหน้าที่จำแนกแตกต่างกันออกไป


สิ่งที่ทำให้คน สัตว์ สิ่งของแตกต่างกัน
คือ “คุณภาพของจิต” หรือคุณภาพของความคิดนั่นเอง

มนุษย์จึงเป็นสัตว์ที่มีโอกาสเข้าถึง “ความจริงแห่งชีวิต” ได้มากที่สุด
เพราะมี “สติปัญญา” ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด



“ปัญญาที่แท้จริง” จึงเกิดมาพร้อมๆกับการเกิดขึ้นของตัวเรา
มนุษย์มีความเท่าเทียมกันในสภาวะเดิมก่อนการเกิด
เท่าเทียมกันเมื่อได้เกิดมาแล้ว จนถึงช่วงที่กายสังขารดับไป

ความเท่าเทียมกัน..ในการเกิด แก่ เจ็บ ตาย
และพลัดพรากจากสิ่งของหรือบุคคลอันเป็นที่รัก

ไม่ว่าจะเกิดมาเป็นใคร สถานะทางสังคมสูงต่ำ รวยหรือจน
ไม่อาจมีใครหนีพ้น “ความเท่าเทียมแห่งสัจธรรม” นี้ได้




สิ่งที่ทำให้เราแตกต่าง
จึงมีเพียงสิ่งเดียว นั่นคือ “จิต”



“จิต” นี้จึงเปรียบเสมือน “ดวงอาทิตย์”
ดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงสว่างออกมา
และเปล่งแสงเท่ากัน
แต่ที่เรามองเห็นว่าแสงสว่างไม่เท่ากันในแต่ละคน
นั่นเป็นเพราะ “สิ่งที่มาบดบัง” แสงสว่างแห่งปัญญา

สิ่งนั้นเรียกว่า ความหลงผิด กิเลส อุปทาน ตัณหา อวิชชา ฯลฯ


ทั้งหมดเป็นสภาวะที่ตีบตัน หม่นทึบ เศร้าหมอง ฯลฯ
เป็นสภาวะของจิตด้านลบที่คอยบดบังความคิดด้านบวก
ทำให้หลงผิดคิดร้าย ทำให้คิดและทำในสิ่งที่ฝืนหลักการของธรรมชาติ



ทุกคนมี “จิตเดิมแท้” ที่ส่องสว่างเท่าเทียมกัน
แต่กิเลส อุปทาน อวิชชา ฯลฯ ที่บดบังอยู่
เท่าให้คนเราเปล่งแสงสว่างออกมามากน้อยไม่เท่าเทียมกัน


คนฉลาดจึงไม่ใช่คนที่เรียนเก่ง หรือรู้เยอะ
แต่คนฉลาดที่แท้จริง คือ คนที่รู้จักตัวเอง
รู้จักแยกแยะดีชั่ว รู้จักการปฏิบัติตน
เพื่อให้เป็นคนที่ทำทุกอย่างตามสภาพความเป็นจริงแห่งสัจธรรม
ธรรมชาติสร้างทำอะไร มีคุณสมบัติแบบใด
เราก็น้อมนำคุณสมบัตินั้นมาไว้ที่ตัว
แล้วเพียรปฏิบัติเพื่อให้เกิดความเคยชินอันเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ
หรือเข้าสู่สภาวะอันเป็นหนึ่งเดียวกับ “ผู้สร้าง” นั่นเอง



“วิปัสสนา” จึงไม่ได้หมายความถึงการแสวงหา “ปัญญา”
ที่เป็นความรู้ซึ่งอยู่ในตำรา อยู่ในครูบาอาจารย์
หรือหมายถึงความรู้ที่อยู่ภายนอกตัว

แต่ “ปัญญา” หรือ “วิชชา” หรือ “ความรู้แจ้ง” นั้น
มีมาแต่เดิมและอยู่ในตัวเราตลอดเวลา

แต่สิ่งที่ทำให้เราไม่รู้ว่าเรามีสิ่งนี้อยู่ในตัว
ก็คือ ความหลงผิด อวิชชา ตัณหา กิเลสที่มีมากเกินไป













การจะทำให้เกิด “ปัญญา” ในตน
จึงมิใช่การเพิ่มแสงสว่างให้ดวงอาทิตย์
แต่เป็นการนำสิ่งที่บดบังดวงอาทิตย์ออกไป


ทำอย่างไรจึงจะไล่เมฆหมอกร้ายที่บดบังดวงอาทิตย์ให้ห่างออกไป ?

ทำอย่างไรจึงจะไม่ให้กิเลส ตัณหามาครอบงำชีวิตมากเกินไป ?

แค่เรานำกิเลส ตัณหา อวิชชาออกไปจากจิตหรือความคิดของเราได้
“ปัญญา” หรือ “จิตเดิมแท้” ก็จะทำงานและเปล่งแสงสว่างของมันได้

แล้วใครจะทำให้เราได้เล่า
ถ้าไม่ใช่ตัวเราเอง















มนุษย์จำต้องมีกิเลส มีแรงขับบางอย่าง
เพื่อคอยกระตุ้นเตือนให้เซลล์ต่างๆในร่างกายเราทำงาน
ต้องมีแรงขับทางเพศเพื่อกระตุ้นให้เกิดความรัก
ความอยากที่จะผสมพันธุ์หรือสืบต่อเผ่าพงศ์
มีแรงกระตุ้นในการอยากประสบความสำเร็จ
เพื่อจะสร้างและพัฒนาสิ่งต่างๆ


นั่นเป็นเรื่องธรรมชาติ


เราไม่จำเป็นต้องปฏิบัติธรรมเพื่อมุ่งฆ่ากิเลส
หรือขจัดความอยากได้ใคร่มีให้หมดไปจากชีวิต

แต่ปัญญาของเราที่ผ่านการฝึกฝน
จะทำให้เรามีสติกำกับและเรียนรู้ที่จะแยกแยะว่า
สิ่งใดควรมีมากน้อย สิ่งใดควรรับมาและปล่อยไป
เพื่อไม่ให้ชีวิตเสียสมดุลจนเกินไป



ผมไม่คิดว่าการตัดตัวเองออกจากโลก
จะทำให้เราเข้าใจชีวิต

การอยู่กับโลกและธรรมชาติอย่างเข้าใจต่างหาก
ที่เป็นหนทางอันแท้จริงในการทำให้เราเรียนรู้ที่จะมีชีวิตที่สมดุล
มีความสุข เข้าใจความทุกข์
และอยู่ร่วมกับทุกๆความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างเข้าใจและรู้ทัน



อยู่กับความจริงแห่งโลกได้อย่างเข้าใจ
รู้การได้มาและการเสียไป
ทำหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุด

และสุดท้ายเมื่อจะต้องจากไป
จะจากไปอย่างไรให้เรียบง่ายและสวยงาม


ใครอยากเวียนว่ายตายเกิดก็เกิดตายกันต่อไป

ส่วนใครที่เหนื่อยหน่ายกับการเวียนว่ายไปตามสังสาระ
ก็มีหนทางนิพพานให้ค้นพบ


ทางที่จะปฏิบัติมีมากมายหลายสาย
ขอเพียงให้เลือกทางที่ถูกต้อง ดีงามและถูกทิศถูกทาง
เดินช้าเดินเร็ว เดินใกล้เดินไกลไม่สำคัญ


ขอให้เดินเรื่อยๆ
อย่าหยุดเดิน

สักวัน....

การจะหลอมรวมตนเองเข้ากับธรรมชาติผู้เป็นผู้สร้าง
คงไม่ได้เป็นทางที่ยากลำบากแสนจนเกินไป.




















 

Create Date : 17 สิงหาคม 2556
42 comments
Last Update : 17 สิงหาคม 2556 6:12:43 น.
Counter : 1858 Pageviews.

 

ได้เจิมมมมมมมมมมมมมมม หรือเปล่า

 

โดย: เนินน้ำ 17 สิงหาคม 2556 6:37:11 น.  

 

เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่ได้เจิมบล็อกคุณก๋า 555
จะบอกว่าพี่ไม่ประหลาดใจสงสัยนะคะ
เพราะพี่ก็ไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของครูบาอาจารย์ท่านใด
ไม่เคยเดินจงกลม และนั่งสมาธิ
พี่เชื่อว่าทุกสิ่งอยู่ที่ใจเราเองรี่ล่ะค่ะ
คุณก๋าตอบคำถามได้ดี ตรงใจมาก
ยัดเยียดให้หนึ่งโหวตนะคะสำหรับวันนี้ อิอิ..
สุขสันต์วันหยุดค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

 

โดย: เนินน้ำ 17 สิงหาคม 2556 6:40:37 น.  

 








 

โดย: กะว่าก๋า 17 สิงหาคม 2556 6:59:46 น.  

 

เรื่องนี้ เราเคยคุยกันหลายครั้งแ้ล้วเนาะ อย่างน้อยๆ ที่พี่เคยข้่องใจ คาใจ... ก็มีแนวคิดสนับสนุนว่าน่าจะไม่หลงทาง


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Sweety-around-the-world Travel Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 17 สิงหาคม 2556 7:01:42 น.  

 

สวัสดียามเช้าวันเสาร์ ^^
ขอให้มีความสุขกับช่วงเวลาวันหยุดพักผ่อน.
- Happy Morning - คะ. ( ^◡^)/




เม้นท์ 1 ลากยาวแท้ 555
ชอบภาพประกอบมากเลยคะ
สถานที่ ที่เชียงใหม่หรือป่ะคะ คุณก๋า

 

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา 17 สิงหาคม 2556 7:43:15 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ก๋า
มาอ่านธรรมะยามเช้าค่ะ แต่อ่านผ่านๆ เดี๋ยวค่อยมาเก็บรายละเอียดทีหลัง ต้องไปทำงานแล้ว

คิดอยู่ค่ะ ว่าน่าจะเป็นไข้เลือดออก ดีนะคะตรวจเจอก่อน ส่วนใหญ่ผู้ใหญ่จะไม่สนใจ ปล่อยให้เป็นหนักไม่ยอมไปหาหมอ จนอาการแย่ซะก่อน

ช่วงนี้น่าจะระบาดกันถ้วนหน้าค่ะ ที่บ้านก็เป็นกันเยอะเหมือนกัน

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: ประกายพรึก 17 สิงหาคม 2556 7:46:28 น.  

 


สวัสดีค่ะ น้องก๋า

ตอบได้กระจ่างแจ้งดี ขอบคุณค่ะ

วันนี้โหวดบล็อกเมื่อวาน แต่บล็อกนี้
ต้องโหวดค่ะ ดีมากๆค่ะ

newyorknurse

 

โดย: newyorknurse 17 สิงหาคม 2556 8:20:54 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับ

 

โดย: **mp5** 17 สิงหาคม 2556 8:33:18 น.  

 

ตอบชัดเจนมากค่ะ ไม่ขอเม้นท์อะไร
ใช่เลย ....ขอไลค์ด้วย

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
กะว่าก๋า Dharma Blog

ชอบมากที่เปรียบเทียบ" สมาธิ คือ การทำน้ำให้ใส"
ขอบคุณค่ะ

ปล. คืนนี้ ช่อง 9 มีถ่ายทอดสดด้วย ที่บ้านยังไม่ได้ติด CTH
ใช้ทรู อันเดิม และหัวค่ำนี้คงไม่ได้ลุ้น เพราะไปชมคอนเสิร์ตค่ะ ฝากลุ้นๆให้ชนะด้วยนะคร้าคุณก๋า(นัดแรกเปิดฤดูกาล)

 

โดย: tui/Laksi 17 สิงหาคม 2556 8:40:22 น.  

 

ลืมชมว่า ภาพสวยมาก ชอบทุกภาพเลยค่ะ

 

โดย: tui/Laksi 17 สิงหาคม 2556 8:41:18 น.  

 

ทางที่จะปฏิบัติมีมากมายหลายสาย
ขอเพียงให้เลือกทางที่ถูกต้อง ดีงามและถูกทิศถูกทาง
เดินช้าเดินเร็ว เดินใกล้เดินไกลไม่สำคัญ


ขอให้เดินเรื่อยๆ
อย่าหยุดเดิน

ชอบค่ะ

สวัสดียามสายค่ะคุณก๋า


 

โดย: mambymam 17 สิงหาคม 2556 8:59:06 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องก๋า วันนี้พี่กิ่งมาคำตอบที่ให้พี่ตาลยาวมาก แต่พี่กิ่งอ่านจนจบอ่านแล้วชอบที่น้องก๋าตอบพี่ตาลได้ดีทั้งๆที่ไม่ได้เป็นศิษย์เกจิอาจารย์ท่านใด พี่กิ่งเป็นศิษย์มีครูมีพระอาจารย์เป็นครูอบรมสมาธิถ้าให้ตอบคำถามนร่พี่กิ่งก็อาจจะตอบได้ไม่ดีเท่าน้องก๋าเลย น้องก๋าสามารถยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจนทำให้อ่านแล้วเข้าใจง่าย พี่กิ่งโหวต ข้อคิดและธรรมมะให้นะคะพร้อมอีก 1 ไลท์จ้า


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาปอมซ่า Literature Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

มีความสุขกับน้องหมิงหมิงและมาดามวันเสาร์จ้า


 

โดย: กิ่งฟ้า 17 สิงหาคม 2556 9:02:08 น.  

 

สวัสดียามเช้าวันหยุดค่าพี่ก๋า

ภาพปากอบสวยมั่กๆเลยอ่ะค่า

"คนฉลาดจึงไม่ใช่คนที่เรียนเก่ง หรือรู้เยอะ
แต่คนฉลาดที่แท้จริง คือ คนที่รู้จักตัวเอง
รู้จักแยกแยะดีชั่ว รู้จักการปฏิบัติตน"

************************

ยกสองมือสิบนิ้วเห็นด้วยยยยยยยยยยยยยยย

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Lagata Novella Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



 

โดย: พริ้วไหวไปตามลม 17 สิงหาคม 2556 9:10:08 น.  

 



สวัสดีคะพี่ก๋า

วันหยุดนี้...พาครอบครัวไปแ่อ่วไหนบ้างค่ะ
วันนี้อากาศดีนะ ไม่รู้ว่ามีแดดหรือเปล่า...
ดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะ มีแต่คนป่วยเยอะแยะเชียว

 

โดย: Pikake 17 สิงหาคม 2556 10:24:22 น.  

 

พี่ก๋าไม่ได้ลบภาพนะครับ
กระเช้าใหญ่บิ๊กบึ้มดีครับ 555
...
555 ไม่ไหวจะฮาตรงบึ๊กบึ้มนี่แหละค่ะ แต่มันก็ใหญ่เจรงๆ อ่านะคะ อิอิ!!
...
และสุดท้ายเมื่อจะต้องจากไป
จะจากไปอย่างไรให้เรียบง่ายและสวยงาม
...

มีความสุขมากมากนะคะ
จากนส.บิ๊กบึ้ม 555 (นึกถุงภาพน้องยังแอบขำอยู่เลย คนที่มาเม้นท์ต่อๆ คงจะ ว๊าย!! มันคิดได้ 555 ญ่ายจุจายกันไปเลย)

 

โดย: white in the dark 17 สิงหาคม 2556 10:30:43 น.  

 

สวัสดีตอนสาย
มาอ่านคำตอบ คุณตาล

 

โดย: ยายเก๋า (ชมพร ) 17 สิงหาคม 2556 11:20:24 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า

ขอบคุณค่ะ ที่ตอบคำถามได้กระจ่าง ดังนั้นเมื่อพี่มีวิธี ที่ถูกจริตของพี่แล้ว ที่เหลือคือ หมั่นฝึกฝน ตามดู ตามระลึกรู้
เท่าทัน กิเลส ทั้งหลาย เพื่อให้จิตเดิมแท้ที่ กระจ่างด้วยปัญญา ได้ฉายแสง ใช่มั๊ยค่ะ

ชัดเจนและ ทำให้พี่ มั่นใจ ในทางเดินที่เลือกค่ะ

เหตุเพราะ เป็นคนนั่งสมาธิหลับตา ไม่ได้ แต่ถ้านั่งทอดอารมณ์ เฉย ๆ ฟังเสียงนก เสียงใบไม้ไหวภายในบ้านนั่งแช่ได้นานค่ะ อย่างเมื่อเช้าก่อนออกมาร้าน พี่ก็นั่งเฉยๆ ไม่อ่านหนังสือ ไม่ทำงานฝีมือ นั่งอยู่พักหนึ่งค่ะ สงบ โปร่งโล่งดี แต่ถ้าพี่เหลิม อยู่ มักคิดว่าพี่เหงา พี่ ก็จะมาชวนคุย(ทำเอาเสียสมาธิ555)



 

โดย: ตาลเหลือง 17 สิงหาคม 2556 11:39:58 น.  

 

วันนี้พอได้ค่ะคุณต๋า แต่ยังหนาวๆร้อนๆ
เป็นหลายวันน่าดู เบื่ออากาศจริงๆ
แปรปรวนมากค่ะ แย่

 

โดย: mambymam 17 สิงหาคม 2556 11:53:08 น.  

 

แวะทักทายค่ะ
ยังไม่ได้อ่านเลื่อนมาเม้นก่อนค่ะ
บล็อกคุณก๋าต้องใช้เวลาในการอ่าน
เพื่อจะได้คิดตามทุกตัวอักษรน่ะค่ะ ^^

 

โดย: ugly princess 17 สิงหาคม 2556 11:56:44 น.  

 

เพิ่งรู้ว่าผมก็เป็นคนมีสมาธิสูง เพราะผมเล่นเฟสค่อนวันค่อนคืนต่อเนื่องได้ เหอะๆๆๆ

มีสมาธิกับเฟสสูงซะจนคุมสมาธิไปทำเรื่อยอื่นไม่ค่อยได้เลย ฮา

 

โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 17 สิงหาคม 2556 15:01:06 น.  

 


สวัสดีวันหยุดค่ะน้องก๋า

 

โดย: Calla Lily 17 สิงหาคม 2556 15:05:18 น.  

 

จริงครับ ขอให้เดินเรื่อยๆ อย่าหยุด มันต้องมีโอกาสถึง

เห็นแล้วผมนึกถึงคำพูดเก่าที่ธงชัย ใจดีพูดไว้ว่า ตีลูกกอล์ฟให้ถึงดวงจันทร์ถึงพลาด ก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว


ผมยังไม่ได้ติด CTH เลย (ตอนนี้ดูท่าทีไปก่อนน่ะ) เดี๋ยวหาดูในเน็ตเอา ไม่รู้จะมีมั้ยเหมือนกัน

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 17 สิงหาคม 2556 15:58:29 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่ก๋า สบายดีนะคะ

ช่วงนี้ไม่ได้เข้าบล็อกเลยค่ะ แต่ยังไม่ได้ทิ้งไปไหนนะคะ

ไว้จะกลับมาแบบเต็มตัวค่ะ รักษาสุขภาพนะคะ

 

โดย: maitip@kettip 17 สิงหาคม 2556 16:09:59 น.  

 


น้องก๋าตอบได้ดี ได้ความรู้ดีมากค่ะ โหวตให้ค่ะ

กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: พรไม้หอม 17 สิงหาคม 2556 17:14:12 น.  

 

กิเลสเป็นของคู่กายค่ะ

 

โดย: maistyle 17 สิงหาคม 2556 17:15:57 น.  

 

สวัสดียามเย็นๆ หลังมื้ออาหารค่ะพี่๋า วันนี้อากาศดีกว่าเมื่อวานเยอะเลย

 

โดย: sawkitty 17 สิงหาคม 2556 18:45:19 น.  

 



คิดถุงๆๆๆๆๆๆ

 

โดย: d__d (มัชชาร ) 17 สิงหาคม 2556 19:19:26 น.  

 

แวะมาทักทายน้องก๋าช่วงเข้าวันหยุดค่ะ
ตอนนี้ก็ค่ำบ้านเราแล้ว
มีความสุขกับวันหยุดที่เหลือและทุกวันค่ะ

 

โดย: แอ๋น anigia IP: 71.220.124.193 17 สิงหาคม 2556 20:32:35 น.  

 

โหวตไดอาริสต์ให้นะคะ

ชอบที่เปรียบเทียบเรื่องแก้ว น้ำ โคลนมากเลยค่ะ ชัดดี

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 17 สิงหาคม 2556 20:40:57 น.  

 

สวัสดีครับคุณก๋า

เรื่องสมาธินี่ สำหรับ อ.เต๊ะ จะเกิดก็ต่อเมื่อสบายใจ ไม่มีเรื่องกังวล ถ้ามีเรื่องมากวนใจ ยังไงก็ไม่เกิดครับ
สงสัยต้องฝึกอีกนานละครับ แหะๆ

 

โดย: multiple 17 สิงหาคม 2556 21:18:12 น.  

 

ทักทายสวัสดีกับคุณก๋ายามค่ำคืนดึกๆ ครับ

blog นี้ อ่านตอนแรกๆ กับคำถาม และ คำตอบของคุณก๋า
เข้าใจว่าจะตอบกันสั้นๆ จบใน 5-10 บรรทัด

เล่นเอาผิดคาดไปเลย

เรื่องที่คุณก๋าตอบมา อ่านกันได้เพลินๆ ครบถ้วนเลยครับ

 

โดย: ถปรร 17 สิงหาคม 2556 22:35:32 น.  

 

อนุโมทนาสาธุคะ

 

โดย: เพื่อนธรรม IP: 118.173.74.154 17 สิงหาคม 2556 22:35:57 น.  

 

ผมไม่คิดว่าการตัดตัวเองออกจากโลก
จะทำให้เราเข้าใจชีวิต

ชอบที่สุดตรงนี้ค่ะ

 

โดย: ~ ริมน้ำ_voUฟ้า ~ (rimnam_kobfa ) 17 สิงหาคม 2556 22:59:44 น.  

 

สวัสดีครับคุณเพื่อนธรรม


ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันนะครับ



 

โดย: กะว่าก๋า 17 สิงหาคม 2556 23:24:32 น.  

 

กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

แวะมาเยึ่ยมและโหวตให้น้องก๋าค่ะ

 

โดย: ดอยสะเก็ด 17 สิงหาคม 2556 23:54:27 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า

แวะมารายงานตัวค่า หายศีรษะไปเกือบครึ่งเดือน พองานซาก็รีบอัพบล็อกใหม่ พออัพเสร็จก็แจ้นมาหาเลย คุณก๋าสบายดีนะคะ ขอบคุณที่แวะไปปัดกวาดบล็อกให้ค่า


วัดในบล็อกสวยจังค่ะ เป็นวัดที่ไหนเหรอคะ


โหวตหมวดธรรมะให้ค่า

 

โดย: haiku 17 สิงหาคม 2556 23:55:08 น.  

 

คิดเหมือนพี่เลย....แต่พี่ไม่สามารถตอบได้เก่งขนาดนี้อึ้งและทึ่งในคำตอบคุณกะว่าก๋ามาก...พี่เข้าวัดก็ได้ก็ปฎิบัติได้เหมือนคนอื่นๆทำกัน. หรือไม่ได้เข้าวัดพี่ก็ชอบทำในสิ่งที่ดีและถูกต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน. เมื่อก่อนเคยลองนั่งสมาธิเพื่อสงบจิตที่ฟุ้งซ่านของตัวเอง. ปัจจุบันไม่ได้นั่งอาจเป็นผลจากที่เคยนั่งคราวนั้นที่ทำให้รู้ว่าหากเราหยุดความคิดที่มันฟุ้งในเรื่องราวต่างๆให้สงบเราก็จะเกิดสมาธิและปัญญาทุกวันนี้จะคิดแต่สิ่งที่ดีๆทำให้ใจเป็นสุข. การเคลื่อนไหวรอบๆตัวเราก็จะไม่ทำร้ายเราเหมือนก่อน. ใจเราก็มีความสุขแม้ในเวลาที่มีทุกข์และปัญหาอยู่ตรงหน้าเราก็ตาม

เลยรู้ด้วยตัวเองว่าคนธรรมดาอย่างเราแม้ไม่ได้เข้าวัดปฎิบัติเหมือนคนที่ปฎิบัติที่วัดแต่เราก็เป็นคนดีปฎิบัติชอบได้เหมือนกัน. อย่างที่คุณเขียนมาตรงใจมากๆ. แต่ก็นับถือคนที่ปฎิบัติดีและชอบด้วยการไปวัดมากค่ะเพราะมีขั้นตอนมากมายที่ต้องผ่านการฝึกฝนและปฎิบัติมากมายที่พี่เองอดทนไม่พอ

อีกอย่างแวดวงคนเข้าวัดเข้าวารอบตัวพี่มักทำให้พี่งงกะการปฎิบัติตัวในแง่ความคิด. รัก. โลภ. โกรธ. หลง. ท่ีพี่คิดว่าเค้าน่าจะปล่อยวางได้. คิดแต่สิ่งดีต่อตนเองแาะคนอื่นๆ. มองโลกในแง่บวก. หลายๆคนทำให้พี่งงว่าเค้าเข้าวัดจริงหรือ


เอาเป็นว่าพี่พยักหน้าทุกสิ่งที่คุณเขียนมาค่ะ....เยี่ยม....


 

โดย: พี่ภัทร IP: 125.24.38.49 18 สิงหาคม 2556 0:56:47 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
แวะมาอ่านธรรมะรอบดึกค่ะพี่ก๋า ตามมาเก็บรายละเอียด เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างเพราะชักจะง่วง

ดีจังนะคะที่ร่างกายแข็งแรง บางคนเป็นอาทิตย์กว่าจะหาย
แต่ก็ต้องระวังเป็นซ้ำนะคะพี่ก๋า กลางวันระวังยุงกัดด้วย ระวังหมิงหมิงด้วยค่ะ ยิ่งมีเคยมีเชื้อแบบนี้ยิ่งเสี่ยงค่ะ

รักษาสุขภาพและแข็งแรงเร็วๆ นะคะ
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: ประกายพรึก 18 สิงหาคม 2556 1:01:47 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

อ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆกลับมาเยอะเลยครับ
ขอบคุณสำหรับบทความชิ้นนี้ครับพี่ก๋า

 

โดย: Don't try this at home. 18 สิงหาคม 2556 1:16:10 น.  

 

ไปเที่ยวกลับมาแล้วค่า แต่บล๊อคเป็นไรไม่รู้
โฆษณาขึ้นเพียบเต็มหน้าเลยค่ะ รอคนมาช่วยดูค่า

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: schnuggy 18 สิงหาคม 2556 1:26:59 น.  

 

สวัสดีค่า พี่ก๋า ^^
เป็นคำถามที่ดีมากเลยค่ะ
เคยได้ยินคนพูดแบบนี้ด้วย
แต่คำตอบของพี่ก๋า ละเอียดและเข้าใจง่ายด้วยค่ะ

ขอบคุณมากๆนะคะ ^^

 

โดย: lovereason 18 สิงหาคม 2556 1:44:25 น.  

 

แวะมาโหวดค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog


>
newyorknurse

 

โดย: newyorknurse 18 สิงหาคม 2556 2:12:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]