:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องทรายแก้ว ::
:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องทรายแก้ว ::
จากประสบการณ์เคยทำมา งานเลขา+ธุรการประสานงาน ตั้งแต่เรียนจบตำแหน่งเดิมนี้แต่เปลี่ยนออฟฟิศ มาหลายแห่งมากค่ะ ล่าสุดทำ เลขา/ประสานงาน จะครบทดลองงานงานสิ้นเดือนนี้
(รู้สึกเราทำเป็นจากประสบการณ์ แต่ทำไประยะหนึ่ง เบื่อ เป็นงานเอกสาร 90 % + ประสานงานภายในภายนอก การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆน้อย การพัฒนาในเนื้องานที่รับผิดชอบมีไม่มากนักค่ะ เราได้เรียนรู้ใหม่ๆ 2 อย่างคือ เรื่องคน การปรับตัว วิธีการทำงานของคนที่เราได้พบมาต่อยอดความรู้ ทักษะเรา และรู้จักธุรกิจขององค์กรที่เราทำอยู่)
1. เราจะเรียนรู้ตนเองผ่านอะไรว่าเราถนัด รักและชอบอาชีพใด
2. การเปลี่ยนแปลงงานทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดีกับตนเองค่ะ
อย่างไรจึงเรียกว่าอดทน และสู้งาน ไม่เลือกงาน
3. ในเมื่อเราเคยทำงานนี้แต่รู้สึกไม่ใช่งานที่เราชอบ จะตั้งคำถามใดกับตัวเราเอง เพื่อให้เกิดปัญญาในการแก้ไข ปรับปรุง เรียนรู้ตนเองได้ 4. หากเราคิดเปลี่ยนหน้าที่งาน แต่อยู่ในองค์กรเดิม ขณะองค์กรต้องหาคนมาแทน จะเป็นการเห็นแก่ตัวไหมค่ะ
5. ก่อนที่จะขอเปลี่ยนหน้าที่งาน เราควรคิดด้านใดให้รอบคอบที่สุดคะ
คำถามโดย : saaikaew (Green_Marble ) วันที่ : 27 มีนาคม 2555 เวลา : 11:24:01 น.
สวัสดีครับน้องทรายแก้ว
พี่ก๋าเองผ่านประสบการณ์การทำงานมาน้อยมาก ในชีวิต....ทำงานแค่สองที่เท่านั้นเอง ที่แรกเป็นสถาปนิกเพียงเดือนเดียว จากนั้นมาทำงานกับที่ร้านซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว
พี่ก๋าขอตอบในมุมมองของคนเป็นเจ้านายนะครับ เพราะตลอดการทำงานสิบกว่าปีที่ผ่านมา พี่ก๋าผ่านลูกน้องในทุกรูปแบบ จำนวนเป็นร้อยคนครับ
1. เราจะเรียนรู้ตนเองผ่านอะไร ว่าเราถนัด รักและชอบอาชีพใด
- การงานในความรู้สึกของพี่ก๋ามีอยู่สองแบบ คืองานที่ “ทำเพื่อเงิน” กับ งานที่ “ทำเพื่องาน” จะเป็นแบบไหนก็ไม่ผิดนะครับ คนเรามีความจำเป็น มีความรับผิดชอบในชีวิตที่ต่างกัน บางครั้งถึงไม่ใช่งานที่ชอบ แต่เงินเดือนดีก็ควรทำ เมื่อทำ...ให้ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อหาประสบการณ์และพัฒนาตัวเอง บางทีการได้ทำงานที่เราไม่ชอบหรือไม่ถนัด กลับเป็นเรื่องดีเสียอีก
เพราะจะได้ทำให้เรารู้จริงๆว่าตัวเราต้องการทำงานแบบใด
2. การเปลี่ยนแปลงงาน ทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดีกับตนเองค่ะ
อย่างไรจึงเรียกว่าอดทน และสู้งาน ไม่เลือกงาน
- เวลารับลูกน้องเข้าทำงาน
พี่ก๋าไม่ได้ดูวุฒิการศึกษาหรือดูเกรดเลยครับ ดูประสบการณ์การทำงาน และดูว่าเปลี่ยนงานบ่อยมากแค่ไหน ส่วนใหญ่จะชอบรับพนักงานที่ไม่เปลี่ยนงานบ่อย บางครั้งข้อมูลนี้ชี้วัดว่าพนักงานคนนี้มีความอดทนต่อการทำงานมากน้อยเพียงใด
เรื่องการสู้งาน ขยัน อดทน เป็นเรื่องเดียวกันเลย เหมือนกับที่พี่ก๋าเคยเล่าไว้ในบล็อกว่า ถ้าใครสักคนมีอาชีพกวาดขยะ แล้วเขาตื่นเช้าขึ้นมาทุกวัน ตั้งใจกวาดถนนอย่างดีที่สุด คนคนนี้ไม่มีทางหยุดอยู่แค่คนกวาดถนนหรอกครับ เขาอาจกลายเป็นเจ้าของร้านขายของที่รวยเป็นร้อยล้านก็ได้ นั่นคือ วิธีคิด และวิธีการทำงานแบบมืออาชีพครับ
3. ในเมื่อเราเคยทำงานนี้แต่รู้สึกไม่ใช่งานที่เราชอบ จะตั้งคำถามใดกับตัวเราเอง เพื่อให้เกิดปัญญาในการแก้ไข ปรับปรุง เรียนรู้ตนเองได้
- ต้องลองนั่งถามตัวเองดูจริงว่าที่เราไม่ชอบอยู่นั้น เราไม่ชอบ “งาน” หรือ เราไม่ชอบ “คน” เพราะบางคนงานไม่มีอะไรยาก
แต่ไปยากกับการปรับตัวให้เข้ากับเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน เหมือนที่ร้านพี่ก๋า มีพนักงานบางคนที่เก่งมาก มีความสามารถหลากหลาย แต่นิสัยเห็นแก่ตัว ไม่ชอบช่วยเหลือใคร สุดท้ายต้องลาออกไปเพราะทำงานร่วมกับใครไม่ได้
พี่ก๋าเชื่อว่าต่อให้งานยากแค่ไหน ถ้ามีความพยายามเราสามารถเรียนรู้ได้ แต่ถ้าพื้นฐานนิสัยมีปัญหาแล้วไม่คิดปรับปรุงตัว อันนี้ยากมากครับกับการประสบความสำเร็จในการทำงาน
ที่สุดแล้วพี่ก๋าคิดว่าเราจะชอบงานหรือไม่นั้น อยู่ที่ทัศนคติในตัวเราล้วนๆเลยครับ
พี่ก๋าเคยไม่ชอบงานที่ตัวเองทำอยู่ตั้ง 4-5 ปี สุดท้ายแล้วพอพี่ก๋าเปลี่ยนทัศนคติที่มีกับตัวเอง
งานก็งานเดิม คนก็คนกลุ่มเดิม แต่พอเรามองเขาในมุมใหม่ ในมุมที่เขาเป็นได้ ไม่ใช่มุมที่เราอยากให้เขาเป็น
งานที่เคยน่าเบื่อ กลับเป็นงานที่ทำได้โดยไม่ต้องฝืนใจเหมือนเก่า
ได้มองเห็นข้อดีของงาน ที่เราไม่เคยมองเห็น
นี่เป็นเรื่องของทัศนคติที่เรามีกับตัวเราเองล้วนๆเลยครับ
4. หากเราคิดเปลี่ยนหน้าที่งาน แต่อยู่ในองค์กรเดิม ขณะองค์กรต้องหาคนมาแทน จะเป็นการเห็นแก่ตัวไหมค่ะ
- ถ้าเป็นการเปลี่ยนที่มีเหตุผลและทำให้เนื้องานมีประสิทธิภาพมากขึ้น พี่ก๋าไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องของความเห็นแก่ตัวเลยนะครับ กลับกันถ้าเราฝืนทำโดยที่เราไม่ถนัดหรือไม่ชอบ อันนี้อาจส่งผลเสียต่องานและองค์กรได้มากกว่า ถ้าหัวหน้างานเป็นคนที่รับฟังเหตุผล ลองเดินเข้าไปพูดคุยดูนะครับ บอกเหตุผลของเราไปว่าทำไมเราถึงคิดเปลี่ยนงานที่ทำอยู่
แล้วมันจะทำให้องค์กรได้ประโยชน์อะไรบ้าง
5. ก่อนที่จะขอเปลี่ยนหน้าที่งาน เราควรคิดด้านใดให้รอบคอบที่สุดคะ
- เหมือนกับที่พี่ก๋าตอบไปในข้อ 3 ขอให้ถามตัวเองดีดีทุกครั้งที่คิดเปลี่ยนงานว่า เรามีปัญหากับงาน หรือเรามีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน หรือที่สุดแล้วเรามีปัญหากับทัศนคติของตัวเอง
ถ้ามีปัญหากับงาน แก้ไม่ยากครับ ไปเพิ่มเติมความชำนาญด้านทักษะการงาน หมั่นฝึกฝน ขยัน อดทน ไม่เก่ง...วันหนึ่งก็ต้องเก่ง
ถ้ามีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ให้ดูทีละกรณีว่าเป็นเพราะเราหรือเป็นเพราะเขา แก้ไขได้ไหม ถ้าไม่ได้ จะทำอย่างไร
ที่น่ากลัวที่สุด คือ ข้อสามนี่ล่ะครับ ถ้าเรามีปัญหากับทัศนคติของตัวเอง อันนี้แก้ยากมาก เหมือนคนเหงาที่อยู่ท่ามกลางคนนับล้านก็ยังเหงา ต่อให้ทุกอย่างดีหมดทั้งบริษัท เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน งานที่ทำ แต่ถ้าใจเรามีปัญหาเสียแล้ว ต่อให้งานเราดีแค่ไหน เราก็มองไม่เห็นคุณค่าในงานที่เราทำอยู่ครับ
ลองค่อยๆค้นหาคำตอบในใจของน้องดูนะครับ ว่าเราอยากเปลี่ยนงานเพราะอะไร เพราะงาน เพราะคน หรือเพราะตัวเราเอง
อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง ถ้านั่นเป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า เพื่อการเติบโตทางความคิดและตัวตน
ขอให้น้องทรายแก้วประสบความสำเร็จในการทำงานอย่างมีความสุขนะครับ
Create Date : 10 ตุลาคม 2555 |
|
77 comments |
Last Update : 10 ตุลาคม 2555 5:36:01 น. |
Counter : 2301 Pageviews. |
|
|
ในการทำงานเปิ้นคิดเสมอว่า คนทุกคนแตกต่างกัน
เราไม่สามารถเปลี่ยนเขาได้
แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเราเรียนรู้ที่จะยอมรับในตัวเขา
เปลี่ยนเขาไม่ได้ เราก็แค่เปลี่ยนตัวเอง