กราบพระขอพรวันปีใหม่ ๒๕๖๒ เริ่มบล็อกแรกของปีด้วยเรื่องที่เป็นมงคล ปีใหม่ปีนี้ได้ไปกราบพระขอพรที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เห็นข่าวกรมศิลปากรอัญเชิญพระพุทธรูปองค์สำคัญของประเทศออกมาให้ประชาชนได้สักการะเพื่อเป็นมงคลกับชีวิต ที่จริงงานนี้จัดมาหลายปีแล้ว แต่เราเพิ่งจะได้ไปตอนปีใหม่เป็นครั้งแรก เสียดาย ลืมกล้องไปด้วย ใช้มือถือเก็บภาพมาได้ไม่กี่ภาพ แต่จำได้ว่าเคยไปชมนิทรรศการเมื่อนานมาแล้ว แวะเข้าไปถ่ายภาพในพระที่นั่งองค์นี้ ไว้หาภาพเจอแล้วค่อยอัพภาพลงบล็อกให้ชมค่ะ บล็อกนี้ได้ภาพและข้อมูลจากเวบของกรมศิลปากรและอีกสองสามเวบ และจากหนังสือที่ซื้อมาตอนไปกราบพระ หอบบุญมาฝากเพื่อน ๆ เป็นของขวัญปีใหม่ ท่านใดอยากจะรับสิริมงคลเหมือนเราก็แวะไปได้ งานจัดถึงปลายเดือนนี้ ปีใหม่นี้ขอให้เพื่อน ๆ ทุกท่านมีความสุขมาก ๆ ไม่เจ็บไม่จน ได้พบแต่ส่ิงดีงาม และโชคดีตลอดทั้งปี สุขสันต์วันปีใหม่อีกรอบจ้า  ทุกปีของช่วงเวลาส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ กรมศิลปากรอัญเชิญพระพุทธรูปองค์สำคัญ พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน พระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ให้ประชาชนได้สักการะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ในครั้งนี้อัญเชิญพระพุทธรูปรัตนชาติ(แก้ว) “นพปฏิมารัตนมารวิชัย” ๙ องค์ ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งฯ ดังกล่าว โดยมีพระพุทธสิหิงค์เป็นประธาน “นพปฏิมารัตนมารวิชัย” หมายถึง พระแก้วปางมารวิชัย ตามข้อมูลเอกสารพระพุทธรูปรัตนชาติทั้ง ๙ องค์นี้ล้วนเป็นพระพุทธรูปแก้วมงคลโบราณ วรรณะต่าง ๆ ในปางมารวิชัย ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ พระพุทธรูปที่ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดีที่พระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส หรือโบสถ์พระแก้ววังหน้า (ขุดค้น ๒๕๐๗) และพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) มาแต่เดิมอีก ๗ องค์ ในสมัยโบราณมักเรียกรัตนชาติเหล่านี้ว่า “แก้ว” เปรียบดุจพระรัตนตรัยอันประกอบด้วยแก้วทั้งสาม ทั้งยังเป็นอัญมณีสูงค่าอันหาได้ยาก ถือว่ามีค่ามากดุจแก้วสารพัดนึก แม้จะมีขนาดเล็กแต่มีค่ากว่าพระพุทธรูปที่หล่อด้วยโลหะ แต่ละสีจะมีชื่อและความหมายที่แตกต่างกันออกไป อีกพระพุทธรูปรัตนชาติทั้ง ๙ องค์ ยังแสดงปางมารวิชัย อันเป็นภาวะที่มั่นคงไม่ไหวติงต่อภยันอันตรายทั้งปวง “นพปฏิมารัตนมารวิชัย” หมายถึง พระแก้วปางมารวิชัย ๙ องค์ ในสมัยโบราณมักเรียกรัตนชาติเหล่านี้ว่า “แก้ว” เปรียบดุจพระรัตนตรัยอันประกอบด้วยแก้วทั้งสาม ทั้งยังเป็นอัญมณีสูงค่าอันหาได้ยาก ถือว่ามีค่ามากดุจแก้วสารพัดนึก ซึ่งแต่ละสีจะมีชื่อและความหมายที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ พระพุทธรูปทั้ง ๙ องค์ยังแสดงปางมารวิชัย อันเป็นภาวะที่มั่นคงไม่ไหวติงต่อภยันอันตรายทั้งปวง ประกอบด้วย พระพุทธรูปรัตนชาติมงคลโบราณ ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ พระพุทธรูปรัตนชาติ ที่ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดีที่พระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส หรือโบสถ์พระแก้ววังหน้า เมื่อพุทธศักราช ๒๕๐๗ และพระพุทธรูปรัตนชาติศักดิ์สิทธิ์ ที่ได้ประดิษฐานอยู่ในพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) มาแต่เดิมอีก ๗ องค์ ประชาชนสามารถเข้าสักการะพระพุทธรูป ณ วังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน “นพปฏิมารัตนมารวิชัย” พระพุทธรูปรัตนชาติทั้ง ๙ องค์ อัญเชิญประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ โดยมีพระพุทธสิหิงค์เป็นประธาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครเปิดให้ประชาชนสักการะเพื่อประทานพรให้เกิดสวัสดิมงคลในการเริ่มต้นสู่ศักราชใหม่ เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๑ ถึงวันอาทิตย์ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๒ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ น. ณพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ต่อเนื่องเป็นเวลา ๑ เดือน พระพุทธสิหิงค์  ปางสมาธิ ศิลปะสุโขทัย-ล้านนา ประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๐ – ๒๑ วัสดุทำด้วย สำริด กะไหล่ทอง ขนาด สูงพร้อมฐาน ๑๓๔ ซม. หน้าตักกว้าง ๖๓ ซม. องค์พระสูง ๗๙ ซม. สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท (วังหน้ารัชกาลที่ ๑) ทรงอัญเชิญมาจากเมืองเชียงใหม่ประมาณ พ.ศ. ๒๓๓๘ ปัจจุบันประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในสมัยโบราณมักเรียกรัตนชาติเหล่านี้ว่า “แก้ว” เปรียบดุจพระรัตนตรัยอันประกอบด้วยแก้วทั้งสาม ทั้งยังเป็นอัญมณีสูงค่าอันหาได้ยาก ถือว่ามีค่ามากดุจแก้วสารพัดนึก แม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็มีค่ากว่าพระพุทธรูปที่หล่อด้วยโลหะ ซึ่งแต่ละสีจะมีชื่อและความหมายที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้พระพุทธรูปรัตนชาติทั้ง ๙ องค์ ยังแสดงปางมารวิชัย อันเป็นภาวะที่มั่นคงไม่ไหวติงต่อภยันอันตรายทั้งปวง “นพปฏิมารัตนมารวิชัย” หมายถึง พระแก้วปางมารวิชัย ทั้ง ๙ องค์ ๑. พระแก้วขาวน้ำค้าง ให้คุณด้านอยู่เย็นเป็นสุข สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๔ – ๒๕ วัสดุทำด้วย หินผลึกใส เจ้าพรหมสุรธาดา เจ้านครเมืองน่าน ทูลเกล้าฯ ถวาย พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๗ โปรดเกล้าฯ พระราชทานให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พระพุทธรูปแสดงปางมารวิชัย ๔ องค์ ผินพระพักตร์ออกไปทั้ง ๔ ทิศ ประทับนั่งล้อมรอบพระเจดีย์ ทั้งหมดสลักจากแก้วผลึกใสก้อนเดียวกัน พระพุทธรูปมีพระพักตร์รูปไข่ ครองจีวรห่มเฉียง ชายผ้าสังฆาฏิยาวจรดพระนาภี ขัดสมาธิราบบนฐานหน้ากระดาน รอบรับด้วยฐานเงินกลมสลักลวดลายบัวคว่ำบัวหงาย ตามคติความเชื่อโบราณ เรียกหินผลึกใสว่า แก้วน้ำค้าง เนื่องจากเนื้อหินมีความใสสะอาด บริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งเจือปนดุจน้ำค้างยามรุ่งอรุณ คุณสมบัติของแก้วน้ำค้างนั้น เชื่อว่าจะนำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้ ๒. พระแก้วกาบมรกตอ่อน สมัยรัตนโกสินทร์พุทธศตวรรษที่ ๒๔-๒๕ วัสดุทำด้วย มาลาไคต์ ขนาด สูง ๑๖ ซม. หน้าตักกว้าง ๑๐.๕ ซม. ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดีในพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๐๗ พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์นี้ทำจากหิมมาลาไคต์ มีสีเขียวฟ้า พระพักตร์กลมเรียว พระเนตรเหลือบลงต่ำ พระขนงโก่งลง ปลายพระนาสิกงุ้ม พระโอษฐ์หนา พระกรรณทั้งสองข้างยาวจรดพระอังสา ครองจีวรห่มเฉียง ชายสังฆาฏิยาวจรดพระนาภี พระวรกายมีรอยถลอก ประทับนั่งขัดสมาธิราบอยู่บนฐานหน้ากระดาน สำหรับพระพุทธรูปปางมารวิชัยมักนิยมวาดเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถของวัดต่าง ๆ ตำแหน่งมักจะอยู่ตรงข้ามกับพระประธานภายในพระอุโบสถ ซึ่งทำให้ระลึกถึงพุทธประวัติตอนที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะตรัสรู้ ซึ่งต้องใช้เวลาและความอดทนในการบำเพ็ญเพียรเป็นอย่างมาก ต้องต่อสู้กับเหล่าหมู่มารที่มาผจญจนต้องเรียกแม่พระธรณีออกมาเป็นพยาน และบีบน้ำออกจากมวยผมเพื่อขับไล่หมู่มารเหล่านั้นออกไป ดังจะเห็นได้จากลักษณะทางประติมาณวิทยาที่มักจะทำนิ้วพระหัตถ์ชี้ลงพระธรณีเสมอ ในเรื่องคติความเชื่อของหิมมาลาไคต์ ซึ่งมีสีเขียวฟ้าที่ใช้สร้างพระพุทธรูปองค์นี้ เชื่อกันว่าผู้ที่ได้สักการบูชาจะนำมาซึ่งความโชคดี เนื่องจากหินชนิดนี้เป็นหินที่เป็นสิริมงคล ช่วยสนับสนุนในเรื่องของหน้าที่การงาน การติตต่อสื่อสารกับผู้คน ช่วยให้การเจรจาราบรื่น นอกจากนี้ ยังดีต่อสุขภาพด้วย ๓. พระแก้วน้ำค้าง ให้คุณด้านอยู่เย็นเป็นสุข สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๔ วัสดุทำด้วย หินผลึกใส ฐานบุทองลงยา สูงพร้อมฐาน ๑๘.๘ ซม. ตักกว้าง ๖.๘ ซม. เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  มาแต่เดิม เก็บรักษาอยู่ในห้องโลหศิลป์ พระที่นั่งปัจฉิมาภิมุข พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์นี้แกะจากหินสีขาว ซึ่งจะมีทั้งสีขาวขุ่นและแบบแก้วใส ที่เรียกว่า "แก้วน้ำค้าง" มีพุทธลักษณะคล้ายพระพุทธรูปสมัยเชียงแสน กล่าวคือ พระพักตร์เรียวยาวรูปไข่ พระเนตรเหลือบต่ำ พระขนงโก่งคล้ายปีกกา พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์บาง อมยิ้ม พระรัศมีเป็นรูปดอกบัวตูมสูงคล้ายเปลว พระศกเป็นต่อมกลม มีไรพระศก พระพุทธรูปครองจีวรห่มเฉียง ชายสังฆาฏิเป็นแฉกยาวเกือบจรดพระนาภี ประทับนั่งขัดสมาธิราบบนฐานบัวหงายซ้อนกลีบใหญ่บุทองคำ มีกลีบเล็กแซม ฐานด้านล่างเป็นสิงห์ มีฐานเขียงรองรับ ซึ่งที่ฐานบุทองคำมีลวดลายลงยา ด้านหน้ามีผ้าทิพย์ ส่วนพระเศียรครอบทองคำ เป็นพระเกศา อุษณีษะและพระรัศมี ที่ฐานด้านหลังมีห่วงสำหรับปักฉัตร ทองที่บุฐานด้านหน้าฉีกหายไป พระแก้วหรือพระพุทธรูปที่แกะขึ้นจากหินสีต่าง ๆ เป็นพระบูชาขนาดเล็กที่นิยมบูชากันมากและหายาก เนื่องจากหาวัตถุที่นำมาแกะและช่างที่มีฝีมือในการแกะหายาก เชื่อกันว่าผู้ที่ได้สักการะบูชาพระแก้ว เป็นมงคลแก่ผู้บูชา ทั้งด้านโชคลาภ แก้ว แหวน เงินทอง รวมทั้งทำให้อยู่เย็นเป็นสุข ๓. พระแก้วน้ำค้าง ให้คุณด้านอยู่เย็นเป็นสุข สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๔ วัสดุทำด้วย หินผลึกใส ฐานบุทองลงยา สูงพร้อมฐาน ๑๗.๖ ซม. ตักกว้าง ๖.๙ ซม. เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  มาแต่เดิม เก็บรักษาอยู่ในห้องโลหศิลป์ พระที่นั่งปัจฉิมาภิมุข พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พระพุทธรูปสลักจากแก้วผลึกก้อนเดียวกัน พระเกศาทำจากทองคำครอบพระเศียรไว้ พระพักตรูปไข่ ครองจีวรห่มเฉียง ชายผ้าสังฆาฏิยาวจรดพระนาภี แสดงปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบบนหน้ากระดาน รองรับด้วยฐานทองคำลงยา ตามคติความเชื่อโบราณ เรียกหินผลึกใสว่า แก้วน้ำค้าง เนื่องจากเนื้อหินมีความใสสะอาด บริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งเจือปนดุจน้ำค้างยามรุ่งอรุณ คุณสมบัติของแก้วน้ำค้างนั้น เชื่อว่าจะนำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้ พระพุทธรูปแสดงปางมารวิชัยด้วยการนั่งขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ซ้ายวางบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาวางบนพระชานุ (เข่า) เบื้องขวา พระหัตถ์ทั้งห้าชี้ลงพื้นดิน แสดงถึงเหตุการณ์สำคัญในพุทธประวัติ กล่าวคือ ก่อนที่พระโพธิสัตว์จะตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณนั้น เย็นวันหนึ่งพระองค์ประทับใต้ต้นมหาโพธิ์และทำสมาธิกำหนดจิตเจริญภาวนา โดยตั้งมั่นว่า จะไม่ลุกไปไหนจนกว่าจะบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ แต่จิตของพระองค์จะมุ่งไปในทางโลกุตตรธรรม กลับประหวัดถึงโลกิยสุขเมื่อครั้งครองเรือน การผจญในโลกิยสุขของพระโพธิสัตว์จึงเปรียบได้กับการผจญของมารในใจ โดยมีพระยาวสวัตดีมารเป็นสัญญลักษณ์เข้าขัดขวาง พระยามารขี่ช้างชื่อ คิรีเมขลา นำทัพเหล่ามารเข้ามารบกวนเพื่อให้พระองค์เกรงกลัวจะได้ลุกหนีไป แต่พระองค์ยังคงประทับนิ่งไม่หวั่นไหว เมื่อพระยามารกับกองทัพเข้าทำร้าย พระองค์จึงทรงรำลึกถึงบารมี ๓๐ ทัศ จากการบำเพ็ญบารมีที่สั่งสมมาทุกชาติ โดยชี้แม่พระธรณีเป็นพยาน แม่พระธรณีจึงผุดขึ้นมาจากพื้นดิน แล้วบิดมวยผมซึ่งสะสมบุญบารมีในรูปหยดน้ำจนเกิดกระแสน้ำพัดพาเหล่ามารไปสิ้น และในรุ่งอรุน้นเองที่พระโพธิสัตว์ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า ๕. พระแก้วกาบมรกต ให้คุณด้านปลอดภัย แคล้วคลาด และยศตำแหน่ง สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๔ วัสดุทำด้วย หินมาลาไคต์ สูงพร้อมฐาน ๑๗.๕ ซม. หน้าตักกว้าง ๖.๕ ซม. เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  มาแต่เดิม พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์นี้ทำมาจากหินมาลาไคต์ พระพักตร์กลมมน พระเนตรเหลือบลงต่ำ พระขนงโก่งลง ปลายพระนาสิกมีรอยบิ่น พระโอษฐ์บางและยิ้ม พระกรรณซ้ายหักบิ่นเล็กน้อย ครองจีวรห่มเฉียง ชายสังฆาฏิเป็นแฉกยาวจรดพระนาภี ประทับนั่งขัดสมาธิราบอยู่บนฐานบัวหงายคั่นกลางด้วยฐานหน้ากระดานรองรับด้วยเท้าสิงห์ ด้านหน้ามีผ้าทิพย์ ลักษณะของฐานบุด้วยทองคำลงยา พระวรกายมีรอยชำรุดเนื้อหินถลอกหลายจุด บริเวณพระอังสาซ้ายและขวา ตลอดจนพระศอมีร้อยแตกร้าวและมีการซ่อมแซมไว้ ด้านบนพระเศียรครอบทองคำ พระรัศมีด้านบนลงยา ในด้านคติความเชื่อของหินมาลาไคต์ที่ใช้สร้างพระพุทธรูปองค์นี้ เชื่อกันว่าผู้ที่สักการบูชาจะให้คุณด้านความแคล้วคลาดปลอดภัย และยศตำแหน่ง ตลอดจนช่วยขจัดสิ่งร้าย ๆ รอบตัว ซึ่งหินสีเขียวนี้สามารถใช้เป็นเครื่องรางในการเดินทาง ให้ปกป้องคุ้มครองจากส่ิงไม่ดีที่จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งโดยปกติแล้วเรามักจะเริ่มต้นรับศักราชใหม่ด้วยการสักการะพระพุทธรูปเพื่อรับสิ่งที่ดีที่เป็นมงคลทั้งต่อตนเองและครอบครัวอยู่แล้ว และหากได้สักการะพระพุทธรูปองค์นี้ก็จะยิ่งเป็นการสร้างความมั่นใจให้ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง ๖. พระแก้วน้ำหาย ให้คุณด้านอยู่เย็นเป็นสุข สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๔ วัสดุทำด้วย หินผลึกใสสีเขียว ฐานบุเงิน เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  มาแต่เดิม พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์นี้แกะจากหินสีขาวแบบแก้วใสเจือสีเขียวทีเรียกว่า "แก้วปากเขียว" มีพุทธลักษณะคล้ายพระพุทธรูปสมัยเชียงแสน กล่าวคือ พระพักตร์เรียวยาวรูปไข่ พระเนตรเหลือบลงต่ำ พระขนงโก่งคล้ายปีกกา ปลายพระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์บาง อมยิ้ม พระรัศมีเป็นรูปดอกบัวตูมหักต่อไว้ พระศกเป็นต่อมกลม มีไรพระศก พระพุทธรูปครองจีวรห่มเฉียง ชายสังฆาฏิเป็นแฉกยาวเกือบจรดพระนาภี พระอังสาขวาบิ่น ประทับนั่งขัดสมาธิราบอยู่บนฐานสูงบุเงิน ทำลวดลายบัวคว่ำบัวหงาย มีกลีบเล็กและเกสรบัวแซม ส่วนพระเศียรครอบทองคำ เป็นพระเกศา อุษณีษะและพระรัศมี พระแก้ว หรือพระพุทธรูปที่แกะขึ้นจากหินสีต่าง ๆ เป็นพระบูชาขนาดเล็กที่นิยมบูชากันมากและหายาก เนื่องจากวัตถุที่นำมาแกะและช่างที่มีฝีมือในการแกะหาได้ยาก เชื่อกันว่าผู้ที่ได้สักการะบูชาพระแก้วปวก เป็นมงคลแก่ผู้บูชา ทั้งด้านโชคลาภ แก้ว แหวน เงินทอง โดดเด่นด้านเมตตามหานิยม เหมาะสำหรับผู้ที่ทำการค้าขาย ผู้ที่ต้องติดต่อกับบุคคลอื่น ๆ ช่วยให้เกิดความสำเร็จ รวมทั้งด้านอยู่เย็นเป็นสุขและคุ้มครองป้องกันภัย ๗. พระแก้วบุษย์น้ำทอง สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๔ วัสดุทำด้วย บุษราคัม เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  มาแต่เดิม พระพุทธรูปสลักจากบุษราคัม พระพักตร์รูปไข่ ครองจีวรห่มเฉียง ชายผ้าสังฆาฏิยาวจรดพระนาภี แสดงปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบบนฐานหน้ากระดาน รองรับด้วยฐานทองคำลงยา ตามคติความเชื่อโบราณ เรียกหินสีเหลืองใสว่า แก้ววิฑูรน้ำผึ้ง เนื่องจากเนื้อหินมีสีสะอาดดุจน้ำผึ้งเดือนห้า คุณสมบัติของแก้ววิฑูรย์น้ำผึ้งนั้น เชื่อว่าจะให้คุณด้านความเมตตามหานิยม และป้องกันอัคคีภัย ๘. พระแก้วจันทรกานต์ ให้คุณด้านโชคลาภ และการติดต่อค้าขาย สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๔ วัสดุทำด้วย แก้วไพฑูรย์ เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  มาแต่เดิม พระพุทธรูปสลักจากหินสีขาวนวล พระพักตร์รูปไข่ ครองจีวรห่มเฉียง ชายผ้าสังฆาฏิยาวจรดพระนาภี แสดงปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบบนฐานหน้ากระดาน รองรับด้วยฐานทองคำลงยา ตามคติความเชื่อโบราณ เรียกหินสีขาวนวลว่า แก้วจันทรกานต์ เนื่องจากเนื้อหินมีสีขาวนวลดุจดวงจันทร์ คุณสมบัติของแก้วจันทรกานต์นั้น เชื่อว่าจะให้คุณด้านโชคลาภ และการติดต่อค้าขาย ๙. พระแก้วสุริยะประภา ให้คุณด้านโชคลาภทวีคูณ ชื่อเสียงและอำนาจ สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๔ วัสดุทำจาก บุษราคัม เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  มาแต่เดิม พระพุทธรูปสลักจากหินผลึกสีเหลืองส้ม พระพักตร์รูปไข่ ครองจีวรห่มเฉียง ชายผ้าสังฆาฏิยาว จรดพระนาภี แสดงปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบบนฐานหน้ากระดาน รองรับด้วยฐานทองคำลงยา ตามความเชื่อคติโบราณ เรียกหินผลึกสีเหลืองส้มว่า แก้ววิฑูรน้ำผึ้ง เนื่องจากหินมีความสีสะอาดดุจนำ้ผึ้งเดือนห้า คุณสมบัติของแก้ววิฑูรย์น้ำผึ้งแบบนี้ เชื่อว่าจะให้คุณด้านโชคลาภทวีคูณ ชื่อเสียงและอำนาจ ภาพและข้อมูลจาก finearts.go.th mgronline.com siamrath.co.th หนังสือ "พระพุทธรูป ณ วังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน นพปฏิมารัตนมารวิชัย ภาพจาก mgronline.com ภาพจาก mgronline.com ภาพจาก naewna.com หนังสือที่ซื้อมาตอนที่ไปกราบพระ ราคาแค่ ๘๐ บาทเองค่ะ บีจีจาก nuwallpaperhd.info กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii Free TextEditor   Create Date : 03 มกราคม 2562 0 comments Last Update : 3 มกราคม 2562 23:47:44 น. Counter : 3219 Pageviews. Share Tweet

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณSweet_pills, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณสองแผ่นดิน, คุณALDI, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเริงฤดีนะ, คุณnewyorknurse, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณtuk-tuk@korat, คุณTui Laksi, คุณInsignia_Museum, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณmcayenne94, คุณอุ้มสี, คุณ**mp5**, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณKavanich96, คุณหอมกร, คุณkae+aoe, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณญามี่, คุณThe Kop Civil, คุณJinnyTent, คุณRinsa Yoyolive, คุณไวน์กับสายน้ำ