วันภาษาไทยแห่งชาติ
คำเตือน Blog นี้ค่อนข้างยาว และเนื้อหาค่อนข้างมาก
"สาหวัดเดทูกโคนที่ข้าวมาอ่าล วานเน้เปงวังภาสาทายเห่งชาด"
รู้สึกอย่างไรบ้างกับประโยคข้างต้น ถ้ารู้สึกปวดหัวก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะขนาดผมเองยังต้องใช้เวลาตั้งนานในการเขียนประโยคข้างต้นขึ้นมา ซึ่งอ่านยาก และรู้สึกทุเรศตัวเองเหมือนกันที่เขียนประโยคแบบนี้ขึ้นมา
วันนี้เป็นวันภาษาไทยแห่งชาติ ผมก็แค่จะเข้ามาขอให้ทุกคนร่วมกันใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง แต่ Blog นี้อยู่ในหมวดภาษาจีน ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับประเทศจีน และภาษาจีนคงไม่ได้
เคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่า ประเทศจีนที่กว้างใหญ่ขนาดนั้นเค้าคุยกันรู้เรื่องได้อย่างไร ประเทศนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่ หนึ่งมณฑลขนาดเท่ากับหนึ่งประเทศไทยเลยทีเดียว ประเทศไทยมีภาษาถิ่น ภาษาเหนือภาษาใต้ ดังนั้นจึงไม่แปลกถ้าประเทศจีนจะมีภาษาท้องถิ่นมากมาย แต่ถึงประเทศจีนจะมีภาษาท้องถิ่นมากแค่ไหนก็ตาม สิ่งที่ทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ก็คือ "ภาษาหนังสือ" และ "ภาษาจีนกลาง"
"วัยรุ่นสมัยนี้ไม่ไหว" อาจารย์คนจีนที่เคยสอนผม ด่านักศึกษาจีนให้นักศึกษาต่างชาติฟังว่า วัยรุ่นสมัยนี้เขียนหนังสือไม่ค่อยได้ แต่ให้พิมพ์คอมพิวเตอร์เค้าพิมพ์ได้ ซึ่งเป็นเรื่องจริง ผมเคยเจอมาด้วยตัวเอง เขียนไม่ได้หันไปถามเพื่อนว่าเขียนอย่างไร พอเราบอกก็มีอายมีแซวว่า อ่อนกว่าคนต่างชาติ นี่คือปัญหาอย่างหนึ่งของประเทศจีนเกี่ยวกับภาษาของเค้า
จากการที่อาจารย์จุดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมา ในห้องจึงเสนอทางออกของปัญหาว่า ประเทศจีนควรแก้ปัญหาอย่างไรในมุมมองของนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป แต่จุดร่วมที่เหมือนกันและไม่มีคนคัดค้านเลยคือ "ต้องให้นักเรียนนักศึกษาจีนเขียนให้มากขึ้น"
ผมมองว่าประเด็นนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันนักเรียนนักศึกษาทำรายงานส่งอาจารย์ โดยอาจารย์กำหนดว่า ต้องพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์เท่านั้น ซึ่งผมมองว่าสิ้นเปลือง และไม่ได้ประโยชน์ มีแต่จะทำให้โลกร้อนขึ้นด้วย เหตุผลที่ผมไม่เห็นด้วยที่อาจารย์ให้ทำรายงานด้วยการพิมพ์เท่านั้นคือ การพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์สามารถก๊อปปี้กันได้ง่าย สิ้นเปลืองเงินทอง และทำให้ไม่ได้ลงมือเขียนด้วยตนเอง ไม่แน่อาจไปจ้างคนอื่นทำให้ก็ได้
มองในแง่ที่ว่า ถ้าอาจารย์กำหนดให้เขียน ต่อให้มีการลอกกันมา ก็ต้องลอกด้วยลายมือตัวเอง การคัดลอกด้วยลวยมือตัวเองอย่างน้อยเนื้อหาก็ยังได้ผ่านสายตาบ้าง ซึ่งมีประโยชน์มากกว่าพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ ที่สำคัญประหยัดกว่ามาก
ประเด็นต่อไปเป็นเรื่องของการพูด ท่านทราบหรือไม่ว่าประเทศจีน คนที่ทำอาชีพนักข่าว ครูอาจารย์ หรืออาชีพที่ต้องเกี่ยวข้องกับสื่อสารมวลชน จำเป็นต้องสอบวิชาภาษาจีนกลางด้วย โดยต้องสอบให้ได้ระดับสูงสุด ซึ่งคะแนนที่เค้าต้องการต้องยอมรับว่าสูงมาก ผมไม่อยากคิดเลยว่าถ้าประเทศไทยมีการสอบภาษาไทยแบบประเทศจีนที่สอบภาษาจีนบ้างจะเกิดอะไรขึ้น อาจจะต้องมีการเปลี่ยนตัวนักข่าวยกทีมเลยก็ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก 赵勇老师
ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับนักศึกษาจีนที่ศึกษาวิชาภาษาไทย ผมอยากจะทราบว่านักศึกษาปี 2 มีความรู้ภาษาไทยมากแค่ไหน ผมลองเขียนคำยากๆ ให้เค้าลองอ่าน เช่น เพลา สามารถ นะคะ ปฏิบัติ พฤศจิกายน คมนาคม แสมดำ พบว่าเค้าสามารถอ่านได้อย่างไม่มีปัญหา ผมจึงลองเอาชื่อผมให้เค้าอ่าน ซึ่งทุกคนก็สามารถอ่านได้อย่างไม่มีปัญญา (อย่าได้ดูถูกไป คำที่ผมยกตัวอย่างมาบางคำ นักข่าวอ่านผิดกันแทบทุกคน)
มันเป็นเรื่องที่น่าขำเพราะ ชื่อจริงของเจ้าของ Blog 80% ของครูสอนวิชาภาษาไทยที่ผมเจอมาทั้งชีวิตอ่านผิด แต่ครูสอนวิชาอื่นกลับอ่านได้อย่างถูกต้อง
มาถึงวันนี้เราต้องหันกลับไปดู ว่าเกิดอะไรขึ้นกับภาษาของเรา แน่นอนเขียน Blog ด้วยภาษาที่ถูกต้องแบบนี้คนอ่านไม่เยอะแน่นอน ต้องเขียนด้วยภาษาที่ไม่เป็นทางการ แบบที่ผมเขียนไว้ข้างต้น เขียนผิดๆ แบบนี้เรียกคนเข้า Blog ได้ดี แต่ก็เป็นการทำลายภาษาไทยเช่นกัน
ผมชอบคำพูดคำนึงของอาจารย์แม่ รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ ที่ว่า "สิ้นภาษาคือสิ้นชาติ" เราก็ต้องดูกันต่อไป แล้วก็ได้แต่หวังว่าวันนั้นจะไม่มาถึง
Create Date : 29 กรกฎาคม 2553 |
|
14 comments |
Last Update : 29 กรกฎาคม 2553 17:43:27 น. |
Counter : 2569 Pageviews. |
|
|
|
การเรียนการสอนของไทยเดี๋ยวนี้ก็ให้ "เขียน" น้อยลงจริงๆ การเขียนตามคำบอกนี่หายไปแล้ว เด็กรุ่นใหม่ๆ เลยเขียนผิดกันเพียบมากๆ เฮ้อ..
ระบบการสอนไม่ดี ระบบการเรียนไม่ดี ก็เป็นอย่างนี้หละนะคะ
มาถามจากที่ไปเม้นท์ที่บล็อก
ข้อมูลความ "เจริญ" นี่เค้าวัดจากไหนคะ? อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ รายได้ที่ทำได้หรือว่ายังไงเอ่ย? อยากได้เป็นข้อมูลน่ะค่ะ