กันยายน 2550
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
13 กันยายน 2550

ช่องว่างในความทรงจำ --- บันทึกวันที่ 1





20 สิงหาคม 2550
- วันแรก –


สนามบินเชียงใหม่ – 7.40 น.


ตอนนี้ยังนั่งรอขึ้นเครื่องจากเชียงใหม่ไปกรุงเทพ
ฟ้าครึ้มๆ อากาศเย็น...

ดูข่าวเมื่อคืน กรมอุตุฯ บอกว่าฝนตกทั่วประเทศ ....
นั่นเป็นเรื่องของฝน ไม่ใช่เรื่องของเรา



..............................



11.30 น. สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ


มาถึงได้พักใหญ่ เดินหาข้าวกิน หาซื้อยาแก้ปวดหัว (เหมือนจะเป็นหวัด) หาซื้อหนังสือสำหรับคุณภรรยา
ตอนนี้นั่งอ่านหนังสือ “ความเงียบ” เป็นหนังสือแปลที่อ่านสนุกมาก...

รอเวลาขึ้นเครื่องจากกรุงเทพฯไปกระบี่ ขึ้นเครื่องตอนบ่ายโมงสี่สิบห้านาที
ตอนนี้นั่งรอไปเรื่อยๆ...อ่านหนังสือต่อ



.................................



14.20 น.


ทะเลเมฆ.



ลอยอยู่เหนือเมฆ....
ทะเลเมฆซ้อนตัวเป็นทิวแถว
ชั้นของฟ้ามีกี่ชั้น ?
ฉันลอยอยู่ชั้นไหน ?

มนุษย์ลอยได้สูงจากพื้นดิน
แต่ลอยอยู่เหนือความอยากในใจตนได้หรือไม่ ?
----ไม่มีใครรู้



* บนเครื่องบินขณะบินจากกรุงเทพฯไปกระบี่
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที



....................................



สองทุ่ม , กระบี่


ตอนอยู่บนเครื่องฟ้าใส เมฆสวย แดดแรงมาก
ยังคิดเล่นๆในใจว่า เออ..โชคดีแหะ ฝนคงไม่มีแล้ว
เพราะก่อนมา กรมอุตุฯและเพื่อนๆแจ้งข่าวว่า
แถวๆภูเก็ต กระบี่ พังงา ฝนตกหนักทุกวัน
ตกมา 4-5 วันติดต่อกันแล้ว......

บนเครื่องบินตอนแรกฟ้าก็สวย แต่พอเครื่องกำลังจะลงจอด
เมฆสีทึมเทาก็เข้ามาทักทายทันที
ลงเครื่องปุ๊บเจอฝนทันที แถมในสนามบินกระบี่ไม่มีทางเลือกอื่น
นอกจากต้องใช้บริการ Taxi สนามบิน....
ราคา 600 บาทขาดตัว !!!!!!


“จากนี่ไปโรงแรมแถวอ่าวนางไกลมั้ยครับ ?” ฉันถาม
“วิ่งประมาณชั่วโมงนึงได้” ลุงคนขับว่า....

ครึ่งชั่วโมงจากสนามบิน taxi ก็นำเรามาถึงโรงแรมบุรีธารา
ทางไม่ไกลอย่างที่คิด
พยายามนึกถึงคำพูดของลุงคนขับ...
ลุงซึ่งขับรถด้วยความเร็วประมาณ 5-60 เท่านั้น ระยะทางเท่านี้เหยียบให้เร็วอีกนิด 20 นาทีก็น่าจะถึง

เอาน่า...นี่เป็นครั้งแรก ไม่มีทางเลือกอื่นด้วย ลงเครื่องมาฝนตก จะเดินตากฝนออกไปเรียกรถก็ใช่เรื่อง


ห้องพักที่โรมแรมบุรีธาราสวยใช้ได้ทีเดียว....
เก็บของเสร็จเดินออกไปหาอะไรกิน เป็นร้านอาหารทะเลที่อยู่ใกล้ที่พักมาก กินไปกลัวไปว่าจะแพ้อาหารทะเลกันมั้ยว้า....
คุณภรรยาก็มีประวัติแพ้อาหารทะเล กินทีไรปากเจ่อทุกที
2 คน....สั่ง 5 อย่าง
ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ ทอดมันกุ้ง ผัดผักบุ้ง น้ำพริกกุ้งเสียบ ข้าผัดปู
ซัดซะเรียบอาวุธ ไม่มีเหลือหลอ.....


กินเสร็จ เดินไปเที่ยวที่อ่าวนาง

ช่วงนี้ฝนตกและเป็นช่วง Low season คนเลยน้อยมาก
บรรยากาศร้านรวงเงียบเหงา
แต่ตอนนั่งเครื่องบินมากระบี่ เหมือนกำลังจะไปลาสเวกัส
ทั้งลำมีคนไทยไม่เกินสิบคน นอกนั้นเป็นฝรั่งหัวทองทั้งหมด
สังเกตว่าอะไรๆ เลยแพงไปซะทุกอย่าง
แล้วค้าขายของไม่ลดราคาเท่าไหร่

วันนี้เที่ยวได้แค่นี้ ฝนตกพรำๆด้วย เหนื่อยจากการเดินทางด้วย
ภาวนาให้พรุ่งนี้ฝนหยุด แดดออกทีเถิด
จะได้ถ่ายรูปเจ๋งๆบ้าง .




Create Date : 13 กันยายน 2550
Last Update : 13 กันยายน 2550 7:12:25 น. 13 comments
Counter : 1597 Pageviews.  

 
โหลดนานแท่น้อ...


โดย: คนไม่เจียม.. วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:7:18:02 น.  

 
หวัดดีค่ะ
ตอนแรกมินก็นึกว่าไปคนเดียว
เพราะตอนลงเครื่องเห็นบอก
เดินหาซื้อหนังสือฝากแฟน
แต่อ่านไปเรื่อย ๆ ถึงรู้ว่าไปด้วยกัน
55555++แล้วรายการอาหารที่สั่ง
แต่ละอย่าง ยั่วน้ำลายทั้งนั้น...
เวลาไปเที่ยว ถ้าไปหลาย ๆ วัน
มินว่าเช่ารถใช้ดีกว่าค่ะ
ดีกว่านั่งแท๊กซี่ หรือแม้กระทั่งรถสองแถว
ยิ่งถ้าสามารถรับได้ที่สนามบินยิ่งดีค่ะ
รายการนี้ รายการเดียวกันหรือเปล่า
ที่ตอนนั้น บอกว่าไม่อยู่ จะไปงาน
แต่งงานเพื่อนหน่ะค่ะ..


โดย: มิน (มินทิวา ) วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:8:02:57 น.  

 

เหมือนพี่กำลังเดินตามเราไปเที่ยวเงียบๆ เลยล่ะ

เอ...เวลาอยู่กันสองต่อสอง

ไม่ต้องเล่านะ

อิอิ


โดย: sunny-low วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:8:04:50 น.  

 
ตามไกด์ไปเที่ยว
รอดูรูปอ่ะ


โดย: เพลงเสือโคร่ง วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:8:12:45 น.  

 
ฝากบอกมาดามคนสวยด้วยนะคะว่า
ปลื้มใจมากที่มาดามให้เกียรติไปเยี่ยมพี่กิ๋วที่บล๊อก

น้องก๋าอย่างอแงไป
มาดามเธอจะบอกน้องก๋าว่า
อยากมีเจ้าก๋าตัวเล็กซะละมั้ง
ช่วงนี้เลยรักเด็ก
emoemoemo

เออ แล้วทำไมไม่มีซักทีอ่ะ

วุ้ย ไปยุ่งเรื่องของเค้าทำไมเนี่ย


โดย: เพลงเสือโคร่ง วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:8:16:10 น.  

 
อาหารทะเลน่าทานเชียวค่ะ emo


ไปต่อ emo


โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:9:55:54 น.  

 
คุณกะว่าก๋า

มายืนยันว่าตามไปดู ..ไปอ่าน ... ทุกทุกหน้าที่บันทึกค่ะ

emo


โดย: เหงาเหงา IP: 125.24.42.103 วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:10:02:38 น.  

 
ทั้งลำมีคนไทยไม่เกินสิบคน นอกนั้นเป็นฝรั่งหัวทองทั้งหมด
สังเกตว่าอะไรๆ เลยแพงไปซะทุกอย่าง



คุณก๋า

เมืองท่องเที่ยวก็แบบนี้แหละ
ป้าถึงนานๆกลับบ้านครั้ง
อาจจะเพราะไม่อยากสู้กับค่าครองชีพ
ที่เกินกว่าคำว่า พอเพียง จะแตะถึง


ป้าออกจากบ้านในขณะที่อำเภอนั้นยังเป็นแค่ชุมชนเล็กๆ
มีรถบรรทุก ซึ่งขนได้ทั้งคนและของ ไม่น่าจะถึง 10 คัน
ไม่มีทีวี ไม่มีโทรศัพท์
จะมีก็แค่มอเตอร์ไซค์ ซึ่งหนุ่มไหนมีก็หรูเลิศอลังการ
ออกจากบ้าน ใช้จักรยาน และจักรย่าง กันเป็นพื้น
ป้าเป็นคนท้องถิ่นที่ทำงานราชการ มีจักรยาน 1 คันก็สุดๆแล้ว

มาถึง พ.ศ. นี้สภาพเก่าเปลี่ยนไปหมด
เปลี่ยนไปตั้งแต่อาคารสถานที่ ถนนหนทาง พาหนะสัญจร
โดยเฉพาะ คน คน คน คน คน คน .......

วันนี้ท้องถิ่นของป้าเหลือแค่ท้องฟ้ากับทะเลที่ยังไม่ถูกแปรรูป
เพราะกระทั่ง ป่า และภูเขา
ก็ถูกมือของความเจริญ
รุกรานจนไม่มีเหลือแล้ว

สังคมเรียกความเปลี่ยนแปลงทางวัตถุทั้งหมดนี้ว่า ความเจริญ
แต่ป้ากลับมองว่าเป็นความเสื่อมถอย

ป้าคงจะแก่จนเกินกว่าจะกู้กลับได้แล้วจริงๆ




โดย: ป้ากุ๊กไก่ IP: 124.121.62.84 วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:15:06:12 น.  

 
ป้ากุ๊กไก่ครับ

เหลือทะเลไม่กี่แห่งที่ผมอยากจะไปแล้วล่ะครับ
เพราะอะไรเหรอครับ

เป้นเหตุผลที่ป้ากุ๊กไก่ไ้ด้พูดไปแล้ว

"ความเจริญแบบเสื่อมถอย"

ใครๆก็อยากรวย
ความอยากรวยไม่มีใครว่า
แต่ถ้าอยากมากๆแล้วไม่รู้จักพอ

สภาพของสถานที่ท่องเที่ยวนั้นก็จะเสื่อมโทรมวอดวายอย่างรวดเร็ว

บางที่สภาพเหมือนเมืองฝรั่งจริงๆครับ
บาร์ ซักรีด เกสต์เฮาส์ อินเตอร์เน็ตคาเฟ่
สลับไปสลับมาสองฝั่งถนน
เดินเข้าไปแล้วเหมือนหมูถูกต้อนขึ้นเขียง

บอกจากใจว่าที่แบบนี้ ครั้งเดียวก็เกินพอสำหรับผม

......................

สถานที่ที่สงบเงียบเหลือน้อยลงๆทุกที

ไม่ต้องดูไกลหรอกครับ
เชียงใหม่ที่ผมเคยรู้จักเมื่อสิบกว่าปีก่อน
เหมือนผู้หญิง สดใส น่ารัก
ตอนนี้เหมือนหญิงกร้านชีวิต แต่งหน้าเข้มด้วยสีฉูดฉาด

ใช่....เราไม่อาจตัดสินคนจากหน้าตาของเขา
แต่ตอนนี้นอกทำใจให้ชินกับความเปลี่ยนแปลง
สารภาพตามตรงครับ
ว่ารับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วนี้ได้ยากขึ้นทุกวันๆ



โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:17:26:05 น.  

 
เหมือนผู้หญิง สดใส น่ารัก
ตอนนี้เหมือนหญิงกร้านชีวิต แต่งหน้าเข้มด้วยสีฉูดฉาด


คุณก๋า

คำพูดนี้แหละที่ป้าเคยพูดมาแล้วหลายครั้ง
และทุกครั้ง
ป้าถูกมองด้วยสายตาประหลาด
ว่าเป็นคนประหลาด

“คิดได้ยังไง ท้องถิ่นเจริญขึ้นเห็นๆ มาขัดคอขวางโลกอยู่ได้ประหลาดคน”

สำหรับวันนี้แม้จะเป็นนักโบราณนิยม (ซึ่งน่าจะไดโนเสาร์กว่าอนุรักษ์นิยม)
ก็คงต้องถอยหลังหลายก้าว แล้วหยุดดู

ดูว่าอะไรมันจะเกิด มันก็ต้องเกิด
อะไรมันจะเป็น มันก็ต้องเป็น
อณูเล็กๆอย่างเราไม่มีสิทธิ์หยุดโลก

ในอดีตกาลนานนับกัปกัลป์
โลกอาจเจริญถึงขีดสุดแล้วเสื่อม
เจริญถึงขีดสุดแล้วเสื่อม
เจริญถึงขีดสุดแล้วเสื่อม....
มานับไม่ถ้วนรอบแล้วก็ได้

ก็ถ้าวันนี้วัฏจักรของโลกเขากำลังทำหน้าที่ของเขา
เราในฐานะอณูหนึ่ง
ก็คงถูกเหวี่ยงอยู่ในวัฏจักรนี้เช่นกัน

ป้าค่อนข้างจะเป็นคนจริงจังกับชีวิต
ความที่เป็นคนหลายแดดหลายฝน
แม้จะพยายามวาง วาง วาง วาง
มันก็ยังเข้มอยู่นะ

เข้มจนเกินกว่าจะเป็น จขบ.ได้


โดย: ป้ากุ๊กไก่ IP: 124.121.62.84 วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:19:58:34 น.  

 
สวัสดีครับป้ากุ๊กไก่

ไอสไตน์เคยบอกไว้ว่า
สงครามโลกครั้งที่ 3 มนุษย์จะใช้อาวุธร้ายแรงเข่นฆ่ากัน
อาวุธจะร้ายแรงขนาดไหน เขาไม่รู้

แต่สงครามโลกครั้งที่ 4 ไอสไตน์บอกว่า
มนุษย์จะใช้ไม้กระบองฆ่ากัน


...................................


ผมอยากเห็นคนเข้มๆทำบล็อกจังเลยครับ




โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:9:03:38 น.  

 
สงสารจัง เสียค่าแท็กซี่ตั้ง 600 ไม่น่าเลยลุง ทำกันได้
อยู่มาจนเขาเรียกลังแล้วยังคิดทำบาปอีก ขอต่อว่าหน่อยเหอะนะคะ
เกลียดความอยุติธรรมอ่ะ


โดย: ฝากเธอ วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:20:17:14 น.  

 
มาตามดู ที่ๆ อยากไปค่ะ


โดย: Jiji&Kaka วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:22:21:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]