พฤศจิกายน 2557
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
18 พฤศจิกายน 2557

:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณสมาชิกหมายเลข 967706 ::






:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณสมาชิกหมายเลข 967706 ::



ผ่านมาก็ครึ่งชีวิต ตั้งใจเรียน สอบได้ดี เรียนคณะที่ดี ทำงานดี
แต่ ณ จุดนี้ ไม่มีความต้องการอะไรเหมือนเมื่อก่อนอีก
เหมือนชีวิตมาอยู่ที่ปลายทาง แต่ยังมีลมหายใจ
รู้สึกเหมือนชีวิตเคว้งคว้าง ไม่มีอะไร ว่างเปล่า ไม่มีความหมาย
ไม่มีเป้าหมายชีวิต ไม่รู้จะเดินต่ออย่างไร ไปทางไหน
เหมือนเรือที่ลอยกลางมหาสมุทร
ไม่รู้ว่าชีวิตที่แท้ต้องการอะไร ต้องทำอะไรต่อไป
ก่อนที่จะตาย ไม่อยากมีแค่ลมหายใจรอวันตายเท่านั้น
พยายามหาทางออก พยายามหาความหมายที่แท้จริงของชีวิต
แต่หาไม่เจอสักที สับสน ไม่เข้าใจ ไม่รู้เดินต่อไปอย่างไร
บางคนบอกให้ทำสิ่งที่รัก พยายามหาว่ารักอะไร แต่ก็ไม่เจอ

เรือที่ไม่มีหางเสือจะไปทางไหนได้บ้างคะ



คำถามโดย : สมาชิกหมายเลข 967706
















มีเรื่องเล่าว่า
เคยมีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งตั้งคำถามกับชีวิตตัวเอง

“ชีวิตที่แท้จริงคืออะไร ?”

มีคนบอกเธอว่าหากอยากรู้คำตอบ
ให้ลองเดินทางรอบโลก
จุดเริ่มต้นนั้นอยู่ที่เมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในฟินแลนด์
มันเป็นป่าโล่ง ๆ ที่เต็มไปด้วยหิมะปกคลุม
มองไปทางไหนก็มีแต่หิมะสีขาวโพลน


เธอเริ่มต้นออกเดินทางจากป้ายไม้เล็ก ๆ อันหนึ่งซึ่งปักไว้
และด้านหน้าของป้ายเขียนไว้ว่า

“จุดเริ่มต้น” ( START )

หลายปีหลังจากวันนั้น
เธอเดิน ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ชีวิตของเธอมีแต่การเดินทาง
การเดินทางทุกวันกลายเป็น “หน้าที่” และกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำ
ชีวิตของเธอวนเวียนอยู่แต่กับคำว่า
กิน นอน เดินทาง
กิน นอน เดินทาง

กิจวัตรประจำวันที่ซ้ำซากน่าเบื่อ
ทำให้เธอไม่รู้สึกว่าการเดินทางครั้งนี้
จะตอบคำถามในใจของเธอได้เลยว่า

“อะไรคือชีวิตที่แท้จริง ?”

แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนที่มุ่งมั่นมาโดยตลอด
เป็นคนไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคขวากหนาม
เธอเคยทำสิ่งต่างๆที่ผ่านมาอย่างสมบูรณ์แบบ
ไม่ว่าจะเป็นระเบียบวินัยในการใช้ชีวิต
การเรียน การคบเพื่อน ความรัก และการดูแลครอบครัว ฯลฯ

ถึงเธอจะเบื่อหน่ายและรู้สึกว่างเปล่าในความรู้สึกเพียงใด
เธอยังเลือกที่จะตื่นขึ้นมาทุกเช้า
และออกเดินทาง










แผนที่ในมือกระตุ้นให้เธอเดินทางและเดินทาง
จากเมืองนั้นสู่เมืองนี้
จากประเทศนี้สู่ประเทศโน้น

ทัศนียภาพของเมืองเปลี่ยนไป
ผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเป็นไปแบบฉาบฉวย
เธอไม่กล้าผูกสัมพันธ์กับใครลึกซึ้งเพราะรู้ดีว่าตัวเองต้องเดินทางอีกนาน
ไม่สามารถลงหลักปักฐานกับใครได้อย่างจริงจัง

และเนื่องจากเธอมุ่งมั่นที่อยากจะเดินทาง
ให้ครบกำหนดอย่างที่ตั้งใจไว้โดยเร็วที่สุด
จึงแทบไม่เหลือเวลาให้ตัวเองได้หยุดมอง
หรือชื่นชมความสวยงามในเมืองต่างๆที่เธอไปเยือนเลย











15 ปีเต็ม ๆ ของการเดินทางรอบโลก
นำเธอกลับมาสู่จุดเริ่มต้นที่ประเทศฟินแลนด์อีกครั้ง

คนที่บอกให้เธอเดินทางรอบโลกมายืนรอรับที่ป้ายไม้แผ่นนั้น
เขายิ้มและถามเธอว่า

“การเดินทางในครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?”


เธอเริ่มโกรธเขา

“เป็นอย่างไร ฉันเดินทางจนเหนื่อย
เสียเวลาชีวิตไป 15 ปีเต็ม ๆ ฉันไม่เห็นจะได้อะไรเลย
นอกจากเสียเวลาชีวิตไปเปล่า ๆ ปลี้ ๆ”


“แต่ละเมืองที่ไปสวยงามไหม ผู้คนและวัฒนธรรมล่ะ
มีประเทศไหนที่เธอชอบใจบ้าง ?”
เขาถามต่อ


“ไม่รู้หรอก ใครจะไปสน ฉันสนแต่การเดินทาง
ฉันอยากรู้คำตอบว่าชีวิตคืออะไร ?”
เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงประชดประชัน


เขายิ้ม “เธอรู้ไหม....”


“ชีวิตที่แท้จริงของเธอ ไม่ได้อยู่ที่ “การไปถึง”
แต่มันอยู่ในทุกช่วงเวลาที่เธอ “เดินทาง” ต่างหาก
เธอพลาดอะไรไปเยอะแยะมากมายเลยนะ”



“พลาดอะไร ?”


“พลาดที่เธอไม่เคยหยุดและมองดูสิ่งต่างๆอย่างไรล่ะ
เธอเริ่มต้นเดินทางด้วย “ความสงสัย”
แต่จบการเดินทางลงตรง “ความกลัว”
แล้วเธอก็พลาดที่จะมองเห็นความงามของเส้นทางที่เธอเดินทางไป

“ชีวิต” ก็ไม่ต่างกัน
เราไม่สามารถวิ่ง ๆๆๆๆๆ และวิ่งอย่างเร็วที่สุดเพื่อเข้าเส้นชัย
เพราะถ้าเธอไม่หยุด เธอจะไม่มีวันพบกับทัศนียภาพที่สวยงามได้
ถ้าเธอไม่เคยตั้งใจฟังคนอื่น เธอก็จะไม่รู้ว่าหัวใจตนเองต้องการอะไร
ความกลัวที่เต็มไปด้วยความสงสัย
จะทำให้เธอไม่กล้าเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพราะเชื่อไปแล้วว่า
ถึงเปลี่ยนแปลงตัวเองแค่ไหนก็ไม่มีใครสนใจเธอ ซึ่งมันไม่จริงเลย
การที่เราไม่กล้ารักใคร ไม่ได้แปลว่าเราไม่ดีพอหรือคนอื่นไม่ดีพอ
แต่หมายถึงเราไม่เคยเปิดโอกาสให้ตัวเองได้มอง ได้คิด
ได้ลึกซึ้งกับคน ๆนั้นต่างหาก

“ความตั้งใจ” ในการใช้ชีวิตที่ผ่านมาของเธอ
สร้างความกดดันขึ้นเงียบๆในใจ
เคยลองสอบถามตัวเองอย่างจริงจังบ้างไหม
ว่าเธอทำสิ่งต่างๆเหล่านั้นอย่างดีที่สุดเพื่อใคร ?

เพื่อให้พ่อแม่พอใจ เพื่อให้คนรักยอมรับ เพื่อให้เพื่อนชื่นชม
มันเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า มันเป็นสิ่งที่เธอต้องทำ
เพื่อให้คนรอบตัวพึงพอใจ มากกว่าจะเป็นสิ่งที่เธอเองอยากทำหรือเปล่า ?
มีคนมากมายที่ทำสิ่งต่าง ๆได้ดี แต่สิ่งนั้นกลับเป็นสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำ

แต่ถ้าเธอถามฉันว่านั่นเป็นเรื่องแย่ เป็นสิ่งที่ควรเดินทางหนีหรือเปล่า
ไม่หรอก... คนเราไม่จำเป็นต้องได้ทำในสิ่งที่ตนรักแล้วถึงจะมีความสุข
เรามีความสุขได้ แม้ต้องทำในสิ่งที่เราไม่ได้รัก

คำว่า “หน้าที่” หมายถึง การทำสิ่งต่าง ๆ ให้ดีที่สุด
เท่าที่เราจะทำได้ ในสภาวะที่เป็นอยู่

การดิ้นรน การปรับเปลี่ยน การเลือก การตัดสินใจ
ทุกสิ่งที่คิดว่ามันจะเปลี่ยนชีวิตเราได้
ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนงาน เปลี่ยนแฟน หรือเปลี่ยนที่อยู่
ไม่ได้มีผลอะไรกับเราเท่ากับการเปลี่ยนแปลง “ทัศนคติ” ที่มีกับตัวเราเอง

เมื่อชีวิตเกิดปัญหาและความคับข้องใจ
สิ่งที่สำคัญไม่ใช่การเปลี่ยนแปลง “ปัญหา” หรือเปลี่ยน “สถานการณ์”
แต่คือการเปลี่ยน “ทัศนคติ” และ “ความรู้สึก”
ที่เธอมีกับปัญหานั้นต่างหาก
ที่จะทำให้เธอ “เข้าใจ” ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด”


เขาหยุดพักชั่วขณะ ก่อนพูดกับเธอต่อไปว่า

“เธอรู้ไหมว่าชีวิตคืออะไร ?” เขาถามเธออีกครั้ง

เธอจ้องมองกลับมา...น้ำตารื้น
และ ส่ายหน้า....

เขายิ้มและพูดต่อไปว่า


“ชีวิตมันคือการเดินทาง
ชีวิตคือหน้าที่
ทั้งการเดินทางและหน้าที่ที่เราต้องทำ
ไม่จำเป็นต้องมีแต่ความสุขและความสมหวังหรอกนะ
มีบางวันที่ทางเดินขรุขระ ต้องพบกับเส้นทางที่วิบากโหดร้าย
กับหน้าที่ที่ทำ มีวันที่ต้องเจอปัญหาใหญ่โตร้ายแรง
ต้องเจอกับคนแย่ ๆ นิสัยไม่ดี เห็นแก่ตัวและหลอกลวง

แต่ในขณะเดียวกัน
เธอก็จะได้พบกับเส้นทางที่สวยงาม ทัศนียภาพที่แปลกตา
ผู้คนที่จิตใจดี ที่คอยให้ความรักและการช่วยเหลือเธอไปตลอดทุกเส้นทาง

“ทัศนคติ” ของเธอจะเป็นตัวบอก
ว่าเธอได้รู้จักที่จะ “หยุด” และ “มอง”
เพื่อเห็นแต่ปัญหาหรือมองเห็นโอกาส
เห็นคนที่น่ารักหรือคนที่น่าเกลียด
เห็นความน่าเบื่อหน่ายหรือเห็นความสุข

ในสิ่งที่เธอเคยเบื่อหน่าย เคยเกลียด เคยโกรธ อาฆาตแค้น ชิงชัง
สิ่งนั้นอาจเป็นสิ่งที่ทำให้เธอพบกับความสุข การให้อภัย ความหวัง และโอกาส

สิ่งเดียวกันนี้ล่ะที่มันจะเป็นความหมายของสิ่งต่าง ๆที่เธอพบ
เธอต้องเปลี่ยนมันด้วยคำว่า “ทัศนคติ”
คำนี้คำเดียวเท่านั้น
ที่จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล
คำนี้คำเดียวเท่านั้นที่จะตอบคำถามของเธอได้
ว่า “ชีวิตที่แท้จริงคืออะไร ?”



หญิงสาวยืนเงียบ สงบ และครุ่นคิดตามไปด้วยอย่างช้า ๆ

เขาตั้งคำถามกับเธออีกครั้ง

“เธอรู้ไหมว่าป้ายไม้นี้คืออะไร ?”

หญิงสาวมองไปที่ป้ายไม้ซึ่งเขียนว่า


“จุดเริ่มต้น” (START)


ชายหนุ่มบิดป้ายให้หันกลับมาด้านหลัง
มันมีตัวอักษรเขียนเอาไว้

“จุดสิ้นสุด” (FINISH)


เธอมองด้วยความสนใจ
เขาพูดกับเธอต่อไปว่า


“เธอเห็นไหม จุดที่เดินไปก้าวแรกเมื่อ 15 ปีที่แล้ว
กับจุดที่เธอเดินกลับมาถึงในวันนี้ มันคือ “จุดเดียวกัน”
คำตอบที่เธออยากรู้ไม่ต้องออกเดินทางไปไกลเพื่อหนีตัวเองหรอก
เธอค้นพบมันได้ในตัวเธอ คำตอบทั้งหมดอยู่ในตัวเธอ
ใครก็ตอบคำถามของเธอไม่ได้
มีแต่เธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะตอบถามนี้ของตัวเองได้”




หญิงสาวร้องไห้สะอึกสะอื้น ยกมือป้ายน้ำตา
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง

ชายหนุ่มคนนี้ก็หายไป.....











เรือที่ไม่มีหางเสือ
อาจลอยไปอย่างไม่มีทิศทาง
แต่ขณะอยู่บนเรือลำนี้
ถ้าเราไม่กลัว ถ้ามองดูทุกสิ่งอย่างตั้งใจ
ฟังเสียงต่างๆที่ผ่านเข้ามาอย่างลึกซึ้ง

คุณจะได้รู้ครับว่าการเดินทางอย่างไม่มีทิศทาง
ก็สามารถสร้างความสุขให้กับชีวิตได้

ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ
ไม่ได้วัดกันที่ความเร็วในการเข้าเส้นชัย
แต่วัดกันที่สิ่งซึ่งเราได้รับกลับมาหลังจากที่ได้ให้ออกไป
ความสุขของคนเราไม่ได้อยู่กับสิ่งที่มีว่ามีมากมายแค่ไหน
แต่อยู่ที่เราจะเห็นคุณค่าในสิ่งที่เรามีอย่างชัดเจนที่สุดหรือไม่เท่านั้นเอง

ถ้าชีวิตมันรีบเร่งนัก
ลองผ่อนคันเร่ง แล้วค่อยๆเดินดูไหมครับ

ถ้าการเดินขึ้นดอยมันเหนื่อยเกินไป
หันหลังกลับก็ได้ ชีวิตไม่ได้มีแค่ผลแพ้-ชนะ

การได้นั่งฟังเสียงนกร้อง ปล่อยให้ลมเย็น ๆพัดผ่านตัว
นั่งดูดอกหญ้าบานอวดดอกสวยสองข้างทาง

มีเพื่อนร่วมทางคอยยิ้ม คอยพูดคุยรับฟังอย่างเข้าใจ

นั่นก็นับได้ว่าเป็นชีวิตที่ประสบความสำเร็จแล้วมิใช่หรือ
































Create Date : 18 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2557 7:24:29 น. 31 comments
Counter : 1161 Pageviews.  

 
ตอบดี ภาพสวย ด้วยธรรม นำจิตคิดถูก


โดย: ธูปหอม IP: 118.174.181.28 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:6:06:46 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า
ขอบคุณสิ่งดีๆในทุกวันที่คุณก๋านำมาฝากไว้
และบทความวันนี้ ทำให้ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว ว่ามันหลากหลายจริงๆ
และในวันนี้น่าจะมีพลังที่จะทำงานอีกหลายอย่าง
....อีกอย่างค่ะ ในวันนี้คุณก๋ายังทำให้เกิดความคิดปิ๊งแว๊บ ที่จะสร้างช่องทางชื่นชมความดีของคนอื่น จากการมีน้ำใจของเพื่อนร่วมงานเมื่อวานนี้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ


โดย: พระจันทร์เจ้าขา IP: 27.55.34.122 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:6:41:37 น.  

 
สวัสดีกะเจ้า เช้าวันสดใสที่เชียงใหม่วันแรกค่ะ

อ่านแล้วเหมือนตัวเองตอนนี้จัง
กำลังเดินทางท่องเที่ยวเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดีๆ
สร้างความสุขให้กับชีวิตอยู่เช่นกันค่ะ
ชอบสไตล์การเขียนที่ให้ข้อคิดแนะนำดีๆ
อ่านแล้วครุ่นคิดตามไปด้วยอย่างช้า ๆ
สุดยอดค่ะ เหมือนอ่านหนังสือ หนึ่ง ซีรี่ย์ เลย
ขอบคุณค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog


โดย: Tui Laksi วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:6:59:15 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องก๋า

newyorknurse



โดย: newyorknurse วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:7:00:13 น.  

 
อ่านแล้ว คำถามแล้ว เหมือนเป็นซึมเศร้า

เคว้างคว้าง...

ขออภัยนะครับเจ้าของคำถาม.. ผมก็เคยเป็นเหมือนกัน
งานมันเยอะ รายได้ดี แต่ไม่ได้ใช้ ไม่ได้เที่ยว ไม่ได้
พบเพื่อน..

ภายหลัง...เลยสละเวลา ทิ้งงานบางส่วน ไปจ๊อกกิ้ง
ช้า ๆ ไปได้แค่อาทิตย์เดียว..รู้สึกปลอดโปร่งกลับ
มาทำงาน ค่อย ๆ ดีขึ้น รอบกายน่าอยู่

ตอนหลังเริ่มรู้ว่า การออกกำลังกายมีความสุข แล้ว
ก็ติดการออกกำลังกาย สารเอ็นโดรฟินหลั่ง

รู้ว่า ใบหน้าตัวเองยิ้มแย้ม คนรอบข้างก็ยิ้มด้วย
มีกำลังใจทำงาน รู้ว่ามีคนต้องการตัวเราเอง

หลังจากนั้น ก็มาคิดได้ แบบที่คุณก๋า เขียนไว้
ข้างบนเปี๊ยบเลย.....

ผมว่าน่าจะมาจาก เราใช้สมาธิมากไป..เลยเบื่อ
การใช้สมาธิมาก ทำให้มันร่อยหรอ.. แตกต่าง
กว่าการ สะสมสมาธิ..... เรื่องนี้คุณก๋าชำนาญ
ครับ ผมสังเกตเช่นคุณก๋า ใช้ภู่กันวาด...ทำให้
จิตนิ่งครับ



โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:7:24:52 น.  

 
สวัสดีครับคุณแม่


นี่เป็นก๋าราณีอีกตอนหนึ่งที่ผมชอบมากเป็นพิเศษ
ผมเคยเป็นทั้งหญิงสาวและชายหนุ่มในเรื่องครับ
เคยเป็นทั้งผู้ค้นหา
และกลับมาเป็นผู้ค้นพบ

ผมคิดว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเข้าถึงสภาวะนี้ได้
เพียงแต่เมื่อไหร่ ที่ไหนและอย่างไรเท่านั้นเอง




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:7:26:17 น.  

 
สวัสดีครับคุณพระจันทร์เจ้าขา



ผมค้นพบว่าความสุขหาง่าย ใกล้ตัว
ไม่ต้องออกเดินทางไปหาที่ไหนไกลเลย

เพียงแค่เราสังเกต ซึมซับรับรู้ รับฟังอย่างตั้งใจ
เราจะพบผู้คนที่น่ารัก มิตรภาพที่ดี
หรือครูผู้ยิ่งใหญ่
ซึ่งต่างล้วนอยู่รอบๆตัวเราทั้งนั้นเลยครับ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:7:28:26 น.  

 
ทักทายสวัสดีครับคุณก๋า

บัวสีเหลืองอร่ามงามตา จริงๆ ครับ

.....ผมเองถูกใจกับกล้องตัวที่ใช้อยู่ 70D อยู่ครับ
ถึงแม้ว่าจะใช้งานมาได้ปีกว่าๆ และก็คงจะดูว่าชัตเตอร์คงถูกกดไปมากพอสมควรแล้ว
แต่ครั้งนี้ตั้งใจว่าตัวนี้หากไม่มีอะไรชำรุดหรือโทรม ไปมากกว่านี้
70D ตัวนี้คิดว่าจะยังเก็บไว้ใช้งานกันแน่นอนครับ


โดย: ถปรร วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:7:30:44 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะ คุณก๋า แวะเข้ามาทักทาย มีความสุขกับการทำงานในวันนี้นะค่ะ


โดย: KeRiDa วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:7:41:40 น.  

 
สวัสดีค่ะ นอกจากบทความดีๆ ดอกบัวสวยด้วยค่ะ


โดย: มี้เก๋ + ป๊าโอ๋ = ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:8:37:58 น.  

 
ทักทายสวัสดีกับคุณก๋าอีกรอบครับ

งานที่ผมาถ่ายภาพ ส่วนใหญ่ชวนให้กดชัตเตอร์จำนวนมากๆ (ดูว่าสิ้นเปลืองเกินใช่เหตุเหมือนกัน ยิ่งกำลังจะตัดสินใจซื้อกล้องใหม่กันด้วย ชวนให้เริ่มคิดว่าตัวก่อนหน้านี้ เปลี่ยนกล้องใหม่ก็เพราะกดชัตเตอร์สิ้นเปลืองไปมากๆ นี่ล่ะครับ)

มีอยู่งานหนึ่งเพิ่งจะผ่านไปเมื่อเร็วๆ นี้ ยังคิดว่าจะไม่ต้องกดชัตเตอร์ถ่ายภาพเลยก็ได้ แต่เอาเข้าจริงด้วยความที่คิดว่าจะถ่ายภาพงานนี้อย่างไรให้ได้ภาพถ่ายออกมาดีๆ จากที่คิดว่าจะไม่เสียชัตเตอร์เลยสักแชะ งานนั้นหมดไปเกือบ 800 ภาพ ....OMG


โดย: ถปรร วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:8:39:35 น.  

 
ต้องขอโทษด้วยนะคุณก๋า
หลายวันที่ผ่านไป มันบอบช้ำทั้งเรื่องร่างกาย
และความสูญเสียสิ่งที่เคยชิน เหมือนเค้าฝาก
ชีวิตไว้กับเราแต่เราก็สิ้นปัญญาเมื่อเค้าต้องสิ้นลม
มันเป็นธรรมดาโลกก็รู้ แต่คงต้องขอเวลาสักพัก

รักษาสุขภาพกันด้วย เริ่มจะเย็นลงมาก



โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:9:35:58 น.  

 





อืมม ..

นึกว่าในโลกนี้ จะมีคนคิดแบบนี้คนเดียว ซะอีก ..

มีเพื่อน ร่วมโลกแล้วววววววววววว ...



ของพี่ป๋อง หาอะไรใหม่ๆทำ ..

ทั้งที่อยู่ในบ้านนี่แหละ ..

มีคอมพ์เครื่องหนึ่ง ..

เหมือนได้ท่อง อาณาจักร .. พิศวงทุกวัน ..

สื่อสารกับคนภายนอก ได้ ด้วย Blog ..




.. ยังคิด ..

ถ้าหากโลกนี้ ไม่มีไฟ ..

จะใช้อะไร ฆ่าเวลา ..

คงอ่านหนังสือ .. ชกมวย (กับกระสอบทราย) .. ขี่ม้า .. ยิงปืน .. ฯลฯ




..




.. คุณก๋า ตอบดี ..

ถูกใจ ...






บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
KeRiDa Music Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
















โดย: foreverlovemom วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:10:01:32 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า

ฮั่นแน่ จริงๆคุณก๋า อยากจะเขียนบอกว่า จุดตั้งต้น กับจุดสุดท้าย ก้คือที่เดียวกัน

หรืออีกที ทางเข้ากับทางออก มันก้ช่องทางเดียวกัน นั่นแหละ ใช่มั้ยละครับ

แต่คุณก๋าคงคิดในใจว่า ถ้า อ.เต๊ะ มันมาอ่านเจอละก็

มันต้องลากบล้อกธรรมมะของตู ลงเหว ออกทะเล โต้คลื่น
ลากไปหาคอลัมภ์ หมอนพพร เสพสุขบ่มิสม แหงๆ ใช่มั้ยละครับ 555

อย่าเผลอนะครับ เสร็จ อ.เต๊ะ แน่ อิอิ

คำถามเดียวกันนี่ ถ้าเขียนมาถาม อ.เต๊ะ ละก็

อ.เต๊ะ ตอบไม่ได้แน่นอน แต่มีอยู่คนนึงที่ อ.เต๊ะ รู้จัก
เค้าเชี่ยวชาญ ด้านนี้โดยตรง จากคนที่คุณก๋าก้รู้ว่าเป็นใคร

คู่แข่ง หมอนพพร เขาละ

นพ.multiple เค้าคนนั้นแหละ

ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคโหยหา นักกำจัดความเหงาเศร้าซึมกระทือ 555

เรียกว่า ทางด้านบำบัด หญิงสาว ที่จิตใจเคว้งคว้าง หมดเรี่ยวแรงในชีวิตแบบนี้ งานถนัดของแกเลยเชียวครับ อิอิ

โรคแบบนี้ นพ.multiple แก รักษาหายมาแยะแล้ว

อาการเริ่มต้นยังไม่มาก มาบำบัด ปรับทัศนคติ เสริมสร้างกำลังใจสักนิ้ด เพิ่มแรงกระตุ้นสักหน่อย
แป็บเดียว ยิ้มร่า สดใส

เปลี่ยนเป็นคนละคนเลยทีเดียว อิอิ

มนุษย์เรา มักชอบสร้างเงื่อนไข ให้กับตัวเองว่า
จะต้องทำอย่างนู้น อย่างนี่ ให้ได้ก่อน ทำเพื่อคนอื่น
สำเร็จแล้ว ค่อยมามองตัวเอง

ซึ่งกว่าจะถึงจุดนั้น เราก้ใช้เวลาไปมากมาย

นพ.multiple ท่านแนะนำ ไว้อย่างนี้ครับว่า

เวลาใช้ชีวิต ให้ใช้ชีวิตอย่างแมว แล้วจะมีความสุข

แมวขณะออกล่าหนู หรือตัวอะไรก้แล้วแต่

ไม่ใช่ล่าเพื่อมากินให้อิ่มอย่างเดียว

มันล่าหนูด้วยความสนุกสุดขีด

ตบซ้าย ตบขวา จับโยน
ปล่อยให้วิ่งหนีไปนิดนึง แล้วก็ตามตะครุบกลับมาใหม่
ทำอย่างนี้จนหนู ต้องยกมือไหว้ ขอร้องละ
ช่วยฆ่ากูให้ตายเลยได้มั้ย 555

มันใช้ชีวิตอย่างแสนสนุก แม้ยามที่หิวโหยก็ตาม

ชีวิตคนเรา ก็ทำแบบแมวได้นะครับ ต้องลองดูครับ

ยังไงตอนนี้ คุณก๋า ทำงานหนัก ท่าทางเครียดๆ จะจองคิว นพ.multiple
ผ่าน อ.เต๊ะ ได้เลยนะครับ
แต่ว่า ตอนนี้ คิวบำบัดเต็ม ไปยันปีหน้าเลยละครับ 555

ปล.เดี๋ยว อ.เต๊ะ ขอตัวไปกินยาก่อนนะครับ
กินยาไม่ต่อเนื่องทีไร เป็นงี้ทุกที 555



โดย: multiple วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:10:02:28 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องก๋า

พี่ชอบการเดินทางเวลาได้เดินทางมีความสุขมาก บนภูเขาทางตอน

เหนือของอินเดีย เขาจะเขียนคำขวัญไว้มากมาย พี่ชอบคำนี้ถูกใจ

Life is journey ขอบคุณที่ชมค่ะพี่ไม่ได้นั่งรวดเดียว9 ชั่วโมง

นะคะ ช.มถึง ช.มครึ่งก็มีพักค่ะ ภาพดอกบัวสวยข้อความก็ดีถุกใจ

โหวตด้วยค่ะ

กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: พรไม้หอม วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:10:04:41 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะก๋า

เข้าใจคนถามนะคะ
เพราะบางคนเป็นแบบนี้จริงๆ

ผ่านมาครึ่งทาง แต่เหมือนหลงทาง
หรือไม่ก็หยุดเดินกันดื้อๆ เพราะเจอทางตัน

แต่บางคนเจอจุดหมายและปลายทาตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม

บางคนคิดได้ บางคนคิดไม่ได้ ....


อ่านแล้วได้มุมมองอีกแง่นึงเลยค่ะก๋า


ก๋า มาดาม หมิงหมิง มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: tanjira วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:10:16:55 น.  

 
สำหรับน้องป่าน น้องชอบจริงๆค่ะ
แต่ที่น้องเล่าให้ฟัง ที่ไปๆกับน้อง
มีรุ่นพี่ๆเยอะค่ะ บางคนมีครอบครัว
ยังทิ้งงานมา ทิ้งร้านให้ลุกดูแล
เพื่อมาตามศิลปินนี่แระค่ะ 555

พี่ก็เข้าใจความชอบนี้นะคะ
เพราะพี่รู้ความรู้สึกน้องมาตลอด
แล้วมาคราวนี้ ได้พี่ๆ ช่วยได้เยอะ
เกี่ยวกับการเข้างาน ได้เข้าไปใกล้ชิด
เข้างานด้วยบัตรสื่อ เลยได้ใกล้ชิดกว่าคนอื่น
ได้บัตรพนักงานเข้าไปในเกทของสนามบิน
ได้เดินตามกันต้อยๆ ได้ลายเซ็นได้พูดคุย
พี่เห็นลูกมีความสุขก็สุขไปกับลูกแระค่ะ
เพราะพี่คิดว่ามันไม่ได้เสียหายอะไรค่ะ

555 ไม่รู้แม่หรือลูกสุขกว่ากันค่ะงานนี้


โดย: tanjira วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:10:23:06 น.  

 
หวัดดีค่าพี่ก๋า วันนี้อุณ ดรอป ลงนิดหน่อยนะคะ แต่อย่างว่า ตะวันกลางหัวเมือ่ไหร่ เป็นเรื่อง


โดย: แม่โม IP: 61.7.185.247 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:12:10:02 น.  

 
หลายครั้งเลยครับที่ผมต้องตอบกับตัวเองว่า..เรามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร? บางครั้งมันสับสน บางครั้งมันเบื่อหน่าย บางครั้งมันเหน็ดเหนื่อย แต่พอใช้เวลาไปสักนิดผมก็มักจะหวนคิดได้ว่า.. ก็ชีวิตมันเป็นแบบนี้แหละ มันจะสวยงามก็อยู่ที่เราคิด มันจะสดใสก็อยู่ที่เราคิด สรุปคือมันขึ้นอยู่ที่ทัศนคติจริงๆครับ


โดย: ปีศาจความฝัน วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:12:25:43 น.  

 

...
ปล. เรื่องการช่วยเหลือ ความหวังดี
มันมีสองมุมมองโดยตลอดจริงๆครับ
...

ขอบคุณนะคะ มีความสุขมากมากค่ะ พี่ก๋า


โดย: white in the dark วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:13:13:11 น.  

 
อ่านที่คุณก๋าตอบแล้วก็คิดตามไปด้วยค่ะ
ผ่อนหนักผ่อนปรนให้กับชีวิตบ้างก็ดีนะคะ
คิดจริงจังมากไป รังแต่จะทำให้เครียดเปล่าๆ
ภาพดอกบัวสวยมากๆๆค่ะ ชมเพลินเลย

ขอบคุณคะแนนโหวตด้วยนะคะ



โดย: mambymam วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:16:19:32 น.  

 
ภาพประกอบบล็อกสวย
ตอบคำถามได้ดีค่ะ
อ่านแล้วชอบมาก
ดึก ๆ มาใหม่ค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:17:40:59 น.  

 

ว๊าวววว แค่ชื่อคำถามก็น่าสนใจแล้วจ๊ะ
มาเจอคำตอบที่โดนใจอีก
แหล่มเลย


โดย: อุ้มสี วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:17:49:27 น.  

 
กะว่าก๋า Dharma Blog

พี่ก๋าตอบได้ดีทีเดียวค่ะ

มองหาสิ่งรอบข้างที่ผ่านมา ว่าเรามีความสุขกับอะไรบ้าง
และได้เรียนรู้กับอะไรบ้าง

ถ้าชีวิตมีเพียงจุดหมายเดียว เมื่อหลุดจากความรู้สึกนั้นวันไหน
มันจะไม่มีอะไรคอยประคองจิตใจเราได้เลยค่ะ


โดย: กาบริเอล วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:21:52:37 น.  

 
เราไม่มีวันจะรู้ว่าจะต้องออกเดินทางไกลไป
อย่างโดดเดี่ยวเมื่อใด เตรียมตัวเตรียมใจละ
ทุกอย่างไว้เบื้องหลัวแล้วออกเดินไปพร้อม
ด้วยความดีที่ได้สั่งสมมาเป็นดีที่สุด



โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:22:10:00 น.  

 
เรื่องชีวิตนี้พูดยากแฮะ
ตอนนี้เน้นซ้อม ซ้อม ซ้อม
และทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ


โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:22:36:56 น.  

 
สวัสดีค่ะ หัวข้อนี้สนุกค่ะ เหมือนได้นั่งเรือสำเภาลำเดียวกัน เข้าใจหัวใจคนถาม และคนฉลาดตอบค่ะ มีอจ เต๊ะ ที่ช่วยแต้มสีสัน เป็นกันทุกคนค่ะ ความเหงา โดดเดี่ยว ต่อความทุกข์และความสุข มาแล้วก็จรไป มันดูว่าเป็นสิ่งคู่กัน อยู่ที่ปรับทัศนคตินั่นแหละค่ะ ทุกวันนี้บางทีก็ดูจริงจัง บางทีก็ดูไร้แก่นสารในการกระทำ แถมโดนแซวว่าเพี้ยนๆ แต่ทั้งหมดคือการใช้ชีวิตให้ผ่านไปแบบหนูตบแมว เอ๊ยแมวตบหยอกหนูนั่นแหละค่ะ คือหนทางแล้วมองหาทางที่ถูก อะไรๆก็ยึดถือไม่ได้ค่ะ


โดย: no name IP: 171.98.182.126 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:22:44:29 น.  

 
สวัสดีครับคุณ no name


ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันนะครับ
อาจารย์เต๊ะเม้นท์ได้ฮามากจริงๆครับ 555





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:22:56:24 น.  

 
ถ้าได้เดินทาง 15 ปีนี่คงสนุกนะครับ แต่ต้องใช้เงินมหาศาล เชื่อได้เลยว่า เขียนบล็อกได้อีกเยอะเลย 555


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:23:36:16 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า

งานยังยุ่งอยู่ก็เลยแวะมาช้าไปหน่อย ตะกี้เพิ่งอัพภาพวาดของน้องดิ่งลมลงบล็อก ภาพสวยจริง ๆ ค่ะ ไปค้นภาพเก่า ๆ ในบล็อกของน้องมาให้ชมด้วย คิดว่าคุณก๋าต้องชอบแน่ ๆ ค่ะ

โหวตหมวดธรรมะให้ค่า


โดย: haiku วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:23:44:53 น.  

 
ชอบเรื่องที่เอามาฝากค่ะ

ดอกบัวสีไหน พันธ์ุไหนก็สวยนะคะ

การเดินทางของพี่... สำคัญที่สุดคงเป็นเพื่อนร่วมทาง

และ ระหว่างทาง กับสิ่งที่พบเห็น คงสำคัญพอๆ กับปลายทาง ที่จะไปเลยล่ะ




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 19 พฤศจิกายน 2557 เวลา:18:17:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]