:: ก๋าราณีตอบคำถามพี่จิรโรจน์ ::
:: ก๋าราณีตอบคำถามพี่จิรโรจน์ ::
ปล่อยมันไปตามดวงชะตาของใครของมัน
คุณก๋าจำได้ไหมว่าผมเคยถามเรื่องค่าของคนอยู่ที่ไหน คนเจ็บ คนป่วย คนแก่ มีค่าอะไร แล้วคุณก๋าก็ตอบว่า มีค่าความเป็นคน
คำตอบนี้มันอยู่ในหัวผมตลอดเวลา คิดอยู่ หาความหมาย ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ความเป็นคนมันมีค่าอย่างไร คนที่เป็นคนเหมือนกัน เกิดมาช่วยตัวเองไม่ได้เลยมีค่าหรือ คนที่เป็นคนก่อเหตุฆ่าคนอื่นเขามีค่าอย่างไร
ช่วงนี้ร่างกายเจ็บปวด ทำอะไรหนักไม่ไหว แค่กวาดบ้านก็ยังลำบาก ตอนนอนกลางคืน ปวดทุกคืน ก็เลยให้นึกถึงคำถามนี้ขึ้นมาอีก รู้สึกตัวเองไรค่า แล้วคนอื่นจะรู้สึกเหมือนเราไหมหนอ
คำถามโดย : จิรโรจน์
เคยมีบรรณาธิการหนังสือชื่อดังคนหนึ่ง ทั้งรวย เก่ง มากความสามารถ โด่งดัง เป็นที่ยอมรับ วันหนึ่งเขาเกิดโรคภัยในตัวเอง เส้นเลือดแตกในสมองทำให้ต้องเป็นอัมพาตทุกส่วน ไม่สามารถขยับร่างกายได้เลย พูดก็ไม่ได้ ทำได้เพียงขยับเปลือกตาด้านซ้ายด้านเดียว
เขาคิดว่าตัวเองไร้ค่ามาก สื่อสารกับใครก็ไม่ได้ ทำอะไรเองก็ไม่ได้ ไม่มีหวังว่าจะหายด้วย ได้แต่นอนรอวันตายอย่างเจ็บปวด
วันหนึ่งเขาติดต่อสื่อสารด้วยการกระพริบตาตาซ้ายกับผู้ช่วยของเขา
พี่เชื่อไหมครับ ด้วยการกระพริบตา เขาสามารถถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตและประสบการณ์ทั้งหมดของเขาได้ เรื่องราวนั้นกลายเป็นหนังสือที่ทรงคุณค่า และสร้างแรงบันดาลใจได้มากมายกับคนทั่วโลก
หนังสือเล่มนั้นมีชื่อว่า
ชุดประดาน้ำและผีเสื้อ
LE SCAPHANDRE ET LE PAPILLON เขียนโดย : JEAN - DOMINIQUE BAUBY
........................................
ผมถึงเชื่อในคุณค่าของความเป็นมนุษย์ อย่าไปแยกเลยครับว่ารวย จน พิการ หรือเลือกศรัทธาศาสนาและการเมืองแบบไหน ถึงจะเป็นคนดีฉลาดและมีคุณค่า หรือแบบไหนจึงจะเป็นคนไร้ค่า ไม่มีสมอง
ทุกสิ่งทุกอย่างมีเหตุผลในการเกิดขึ้นมาบนโลกนี้เสมอ
แม้แต่คนที่เราคิดว่าเป็นคนเลว เป็นพวกไร้ค่า ไร้สมอง อาชญากร ฯลฯ
พระเจ้ามีเหตุผลในการสร้างสิ่งต่างๆและคนเหล่านั้นขึ้นมาเสมอ
อย่างเลวร้ายที่สุด ผมว่าการมีเรื่องเลวๆหรือมีคนชั่ว ก็ทำให้เรารู้ว่าเรื่องดีดีและคนที่ดีนั้นควรเป็นอย่างไร
เมื่อมีต้นแบบให้เปรียบเทียบแยกแยะ เราก็ตัดสินใจเลือกได้ เพื่อเดินตามรอยทางนั้นไป (จะดีหรือร้ายเราเลือกได้และต้องเลือกเอง)
..................................
วันที่พี่ป่วย ลองนึกถึงสิ่งที่พี่ "มีอยู่" ดูสิครับ อาจเป็นโอกาสที่ทำให้ได้เห็น "ความรัก" ที่อยู่รอบๆตัวของพี่
ไม่ต้องไปนึกถึงสิ่งที่ "เคยทำ" หรือ "ควรทำ" หรือ "อยากทำ"
บางทีเหตุการณ์แย่ๆ อย่าง ตกงาน รถชน เป็นอัมพาต พบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคร้ายรักษาไม่หาย ฯลฯ
อาจทำให้เราได้มีโอกาสหยุด และนอนพัก เพื่อจะได้มีเวลาพิจารณาถึงสิ่งต่างๆที่เรา "มีอยู่" ไม่ใช่สิ่งที่เราต้อง "สูญเสีย" ไป....
.
ตอนที่ผมปวดฟันมากที่สุดในชีวิต ผมขึ้นไปนอนให้หมอสามคนผลัดกันดึงฟันกรามของผมออกมา
อยู่ๆก็มีคำๆหนึ่งแวบเข้ามาในสมองของผม
คำๆนั้นคือ
"กายนี้ไม่ใช่ของเรา"
มันทำให้ผมรู้สึกเลยครับ ว่าตัวเราที่นอนอยู่ และกำลังถูกดึงฟันออกนั้น ไม่ใช่ตัวเราเลย
ยาชาทำให้ไม่เจ็บ แต่ผมยังรู้สึกตัวตลอดเวลา รู้สึกว่าหมอคนที่หนึ่งอธิบายขั้นตอนรักษาอย่างละเอียด แต่แล้วเธอดึงฟันออกมาไม่ได้
หมอคนที่สองถูกตามเข้ามาช่วย เป็นหมอผู้ชายตัวใหญ่มาก เขาอธิบายให้คุณหมอรุ่นน้องซึ่งเป็นผู้หญิงฟังอย่างยืดยาว แล้วลงมือดึงฟันของผมอย่างรุนแรง แต่ฟันก็ไม่หลุดออกมา กรามขวาของผมชาหนึบจนรู้สึกได้ถึงความปวด แต่มันไม่เจ็บเพราะฉีดยาชาไปสามเข็ม
คนสุดท้ายคืออาจารย์หมอเจ้าของคลีนิก เมื่อเดินเข้ามาถึง เขาขยับโยกฟันกรามผมเบาๆ แล้วหันไปบอกหมอทั้งสองคนว่า
"ถ้ามันแน่นแบบนี้ ต้องผ่าฟันออกมาให้มันเป็นเสี่ยงๆก่อน แล้วถึงจะดึง"
ด้วยวิธีนั้น ฟันกรามซี่ปัญหาของผมจึงถูกดึงออกมาอย่างง่ายดาย....
วิธีถอนฟัน บางครั้งก็เหมือนวิธี "ถอนความทุกข์" นะครับพี่
ยิ่งคิดถึงตัวเองมากเท่าไหร่ก็ยิ่งหงุดหงิดเจ็บปวด ยิ่งคิดถึงแต่สิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ยิ่งเหนื่อยหน่าย
ลองมองสิ่งที่ตัวเองทำได้ น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ
และจะดีกว่านั้น หากสามารถมองออกไปให้พ้นจากนอกตัว เพื่อมองให้เห็นความรักและสิ่งดีดีที่มีอยู่รอบตัวเรา ว่าในวันที่ทุกอย่างดูโหดร้ายหดหู่ ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจกับชีวิต อาจมีสิ่งดีที่สุดอยู่รอบๆตัวเราเช่นกัน
Create Date : 09 พฤศจิกายน 2557 |
|
24 comments |
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2557 6:23:36 น. |
Counter : 1585 Pageviews. |
|
|
สวัสดีค่ะน้องก๋า