พฤศจิกายน 2557
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
16 พฤศจิกายน 2557

:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณคล้ายดาว ::



:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณคล้ายดาว ::




ฉันใช้ชีวิตตามใจตัวเอง ทำทุกอย่างเพื่อความสุขของตัวเอง
ขณะที่ฉันมีความสุขและถือว่าตัวเองมีกำไร
แต่คนรอบข้างไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิตของฉัน
แสดงว่าพวกเขาเหล่านั้นขาดทุนในการใช้ชีวิตใช่ไหม ?

แล้วใช้ชีวิตที่มีกำไรกับการใช้ชีวิตที่ขาดทุนคืออะไร
และใช้อะไรเป็นมาตรฐานในการวัดคะ

ดังนั้น การใช้ชีวิตเพื่อให้มีกำไร (ฟังดูทุนนิยมมาก)
จะเป็นแนวคิดที่เหมาะกับคนแต่ละคนหรือ ?
เพราะเมื่อมีคนมีกำไร ก็ย่อมมีคนขาดทุน



คำถามโดย : คล้ายดาว














มีหลายคำถามในชีวิตที่ผมหาคำตอบไม่ได้
เหมือนครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้วที่เพื่อนเคยถามผมว่า
ความสุขในชีวิตของผมคืออะไร ?
จำไม่ได้ชัดเจนนะครับว่าวันนั้นผมตอบเพื่อนไปว่าอย่างไร
แต่เพื่อนพูดสวนกลับมาว่า

“มึงพูดแบบนี้ได้ก็เพราะว่ามึงรวยไง”

ตอนที่ตอบคำถามนี้ผมมีเงินเดือน 8000 บาท
ขณะที่เขาน่าจะมีเงินเดือนหลายหมื่นบาท
แต่เงินเดือนของเขาไม่เคยพอใช้ในแต่ละเดือน
มันหมดไปกับการเที่ยวกลางคืน ขับรถหรู
ซื้อของผ่านบัตรเครดิท
และใช้ชีวิตอย่างที่คนรุ่นใหม่เชื่อและศรัทธา
ว่าคนที่เจ๋งต้องรวยๆๆๆๆและรวยเร็วๆเท่านั้น

ในขณะที่เขาใช้มือถือรุ่นล่าสุด (ในสมัยนั้น)
ผมยังกดข้อความในมือถือรุ่นเก่าของตัวเองไม่เป็นเลย




........................




ผมถึงเชื่อว่า “คนรวย” ไม่ได้แปลว่าเขามีเงินมากมายล้นฟ้า

คนรวยที่โลภ เห็นแก่ตัวและไม่รู้จักพอ
เป็นเพียงชายที่ยากจนในความรู้สึกของผม

มหาเศรษฐีที่ครอบครัวมีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้ง
เข่นฆ่ากันเพื่อแย่งชิงมรดก ทั้งๆที่เงินที่ทุกคนมีอยู่
กินไปอีก 10 ชาติก็ไม่มีวันหมด
แต่ทำไมคนเรายังต้องฆ่ากันเพื่อเงินที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์ครอบครอง ?

กำไร-ขาดทุน

ขึ้นอยู่ที่ใจ

เหมือนคนมีเงินในมือ 10000 บาท
แต่เดือนหนึ่งใช้เงินแค่ 6000 บาท
เหลือเก็บออม 2000 บาท
กัน 2000 บาทเอาไว้เพื่อสาธารณกุศล

กับเศรษฐีที่มีเงินหมื่นล้าน
แต่ไปไหนมาไหนต้องมีมือปืนห้อมล้อมคุ้มกัน
ธุรกิจยุ่งเหยิงวุ่นวายจนไม่มีเวลาแม้แต่จะคุยกับลูกเมีย

ผมว่าผมตอบตัวเองได้ว่าอยากเป็นคนแบบไหน
ความสุข – ความทุกข์ของคนเรานั้นมี “ขนาด”
และ “ขนาด” มันถูกกำหนดเอาไว้ด้วย “ทัศนคติ” ที่เรามีกับตัวเอง


คนอื่นมองเราอย่างไร
ไม่สำคัญเท่ากับที่เรามองตัวเอง แล้วคิดกับตัวเองอย่างไร

สิ่งที่ทำก็เช่นกัน
เราอาจบอกว่านี่คือชีวิตของฉัน ฉันพอใจที่จะทำแบบนี้
มันคือสิ่งที่ฉันทำแล้วมีความสุข
มันคือกำไรชีวิตของฉัน

ไม่ใช่เรื่องผิดเลยครับ....
ใช่...มันคือชีวิตของเราเอง
ย่อมใช้มันอย่างไรก็ได้




....................................




เพียงแต่ผมนั่งคิดเล่นๆว่า
ถ้าเกิดวันหนึ่งพระอาทิตย์บอกว่า

“ฉันส่องแสงเพื่อคนอื่นมามากแล้ว
ฉันอยากจะทำเพื่อตัวเองบ้าง จะหยุดส่องแสงล่ะนะ”


พระอาทิตย์ไม่ผิดเลยแม้แต่นิดเดียว

หรือ ฝนอาจบอกว่า

“ฉันไม่อยากตกลงมาอีกแล้ว ใครจะแห้งแล้วตายก็เรื่องของเขา
ฉันอยากจะทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ
ฉันอยากมีความสุขและไม่อยากเหนื่อยอีกแล้ว”


ในกรณีนี้ฝนก็ไม่มีความผิดเลย....

ครูบอกว่าฉันเบื่อแล้ว จะไม่สอนเด็กๆอีกแล้ว
ตำรวจไม่อยากจับโจร ทหารไม่อยากจับปืน
นักการเมืองไม่หวังอำนาจ นักร้องไม่ต้องการที่จะโด่งดัง ฯลฯ

ถึงตอนนี้
คำว่า “หน้าที่” ก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป
เมื่อทุกคนคิดถึงแต่ “ตัวเอง”




.................................




ผมเคยฝันอยากจะเป็นครู
พอวันหนึ่งต้องมาทำงานกับครอบครัว
แม้เป็นสิ่งที่ไม่เคยคิดฝันและไม่ถนัด
ช่วงแรกทำงานไป อึดอัดไป
ปรับตัวไม่ได้ ไม่มีความสุขเลย
จน 4-5 ปีผ่านไป และผมเริ่มรู้สึกได้ว่า
เราไม่จำเป็นต้องทำงานที่เรารัก
แต่เรารักงานที่ตนเองทำได้

จากงานที่เคยทำแล้วทุกข์
กลายเป็นงานที่ทำแล้วสนุก มีความสุขไปกับสิ่งต่างๆได้

ผมไม่ได้เปลี่ยนงาน ไม่ได้เปลี่ยนคน
ไม่ได้เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันของตนเองเลย
ทุกอย่างเหมือนเดิม
มีแต่ “ทัศนคติ” ของตัวเองเท่านั้นที่เปลี่ยนไป


ผมตอบตัวเองในวันนี้ว่า
การไม่ได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองคาดหวัง ไม่ใช่ความทุกข์เลย
ความทุกข์เกิดจากการไม่ยอมรับสิ่งที่ตัวเองเป็นได้ต่างหาก

กำไรของชีวิตไม่ได้อยู่ที่การได้ทำทุกสิ่งอย่างที่ตนเองชอบหรือปรารถนา
ชีวิตไม่ได้ขาดทุน ไม่ได้ล้มเหลว
ขอเพียงแค่เปิดใจยอมรับความจริงที่เป็นอยู่ให้ได้
แล้วทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด
“กำไร-ขาดทุน” มันเป็นเพียงสิ่งสมมุติเท่านั้น




.................................





“การใช้ชีวิต” ของเรามันส่งผลกระทบไม่มากก็น้อย
ไม่โดยทางตรงก็ทางอ้อมกับคนที่อยู่รอบข้างเราทั้งสิ้น

จะเป็นคนเก่งแล้วเกลียดคนทั้งโลกก็ได้ ไม่ใช่เรื่องผิด
จะรวยแล้วดูถูกคนทั้งหมดก็ยังได้ นั่นคือสิทธิ์

แต่แม้ผมจะใช้ชีวิตเป็นเพียงหน่วยย่อยเล็กๆในสังคม
ก็ยังเห็นว่าตัวเองสามารถทำประโยชน์ให้กับคนอื่นได้บ้างไม่มากก็น้อย
ผ่านวิธีการใช้ชีวิตและวิธีคิดของตัวเอง

ผมไม่ได้อุทิศตัวเพื่อทำเรื่องยิ่งใหญ่
อย่างการพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน
หรือช่วยเหลือเจือจุนเพื่อนมนุษย์ด้วยเงินก้อนใหญ่

แต่ผมเชื่อว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เรารักตัวเองเป็น รู้จักหน้าที่
ทำสิ่งต่างๆอย่างดีที่สุด
และเอาส่วนที่พอจะแบ่งปันได้ มอบกลับคืนไปให้ผู้อื่นบ้าง

โลกนี้จะไม่ได้เป็นเพียงโลกของความรวย ความจน
โลกนี้จะไม่ได้มีเพียงคำตอบของกำไร ขาดทุน

แต่เป็นโลกของการรับมาแล้วแบ่งปัน
เป็นโลกของการอยู่อย่างมีความหวัง
และไม่คิดว่าโลกนี้เลวร้ายจนทนไม่ได้




......................................




ผมเคยอ่านบทสัมภาษณ์ของคนที่อยู่ในเหตุการณ์จริง
ที่เกิดขึ้นในมณฑลเหอหนานประเทศจีนเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว
ภัยสงครามและภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น
ทำให้คนจีนอดอยากและตายไปนับล้านคน
วินาทีนั้นเหลือแต่ “คนที่รอด” กับ “คนที่ตาย”
ไม่มีคนรวย คนจน ไม่มีครู ทหาร ชาวนา
ชาวบ้านหรือข้าราชการ

มีแต่คนที่ “รอดตาย” หรือ “อดตาย”
มีแต่คนมีพ้นภัยหรือถูกฆ่าตายในสงคราม

ลองคิดดูเล่นๆสิครับ
ถ้าเกิดแผ่นดินไหวสัก 9 ริกเตอร์กลางกรุง
บ้านเรือนถล่มทลายวินาศวิบัติ
ถึงตอนนั้นยังมีคนที่มีความสุขอยู่อีกหรือ
ยังเหลือคนที่มีความมั่นคงในชีวิตอยู่อีกหรือ
ยังมีคนรวย คนจน อยู่อีกไหม ?



…………………………….




เราอาจคิดว่าเรามีความสุข
แต่ทุกๆความสุขล้วนไม่คงทน
มีความสุขอะไรบ้างที่จะอยู่กับเราได้ตั้งแต่เกิดไปจนวันตาย
มีความทุกข์อะไรบ้างที่เกิดและไม่จากไป
ทุกสิ่งที่เรามี แน่ใจหรือว่าจะรักษามันได้ตลอดไป
สิ่งที่สูญเสียไป ไม่คิดหรือว่าวันหนึ่งมันอาจจะกลับมา

ชีวิตคนเราอยู่กับความไม่แน่นอนของชีวิต
สิ่งที่เราคิดว่าคือกำไรหรือขาดทุนก็ล้วนแต่ไม่แน่นอน

เมื่อมองเลยผ่าน “ผลประโยชน์” ในใจไปได้
กำไร – ขาดทุนมันไม่มีความหมายหรอกครับ
มีแต่ “การทำหน้าที่” ของตัวเองให้จบ
แล้วก็จากไปโดยการวางสิ่งต่างๆลงจนหมด
ไม่ว่าจะเป็นตัวตนสมมติ ยศถาบรรดาศักดิ์
แก้วแหวนเงินทอง ลูกเมีย ชื่อเสียง การงาน ฯลฯ

“จบแล้วก็จาก”

ผมคิดว่าชีวิตมันเป็นไปของมันเท่านี้เอง






















 

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2557
22 comments
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2557 6:20:18 น.
Counter : 1124 Pageviews.

 

กะว่าก๋า Dharma Blog

สวัสดีวันอาทิตย์ค่า วันนี้มีแพลนไหมค่ะ
ชาร์โคลมีอาหารให้เลือกเยอะค่ะ วันนั้นถ้าไม่ติดพ่อโมอยากสปา และโมกินเผ็ดไม่ได้ คงได้ลองอย่างอื่นค่ะ คาโบจานใหญ่ค่ะ แม่โมกินคนเดียวไม่หมด หลัง ๆ ตอนเป็นแม่คนแล้วนี่กินกะโมค่ะ จานเดียว สองคนคุ้ม อิ อิ

 

โดย: mariabamboo 16 พฤศจิกายน 2557 7:26:17 น.  

 


สวัสดีค่ะน้องก๋า

newyorknurse

 

โดย: newyorknurse 16 พฤศจิกายน 2557 8:36:54 น.  

 

แม่โมก็ไม่ถนัดค่า ยิ่งชีสเยอะ ๆ แล้วมันทำให้กินไม่อร่อยไปเลยถึงได้เสร็จน้องโมไปเลยจานนั้น 555 เด็ก ๆ คงชอบมัน ๆ ข้น ๆ ค่ะพี่หมิง ๆ ก็เหมือนกัน

 

โดย: แม่โม IP: 171.100.98.78 16 พฤศจิกายน 2557 8:51:29 น.  

 

นิคก็เดาคำตอบว่าความสุข ตอนอ่านคำถามจบค่ะพี่
ทัศนคติต่อการใช้ชีวิตยิ่งสำคัญจริงๆด้วยค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Calla Lily Travel Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: ที่เห็นและเป็นมา 16 พฤศจิกายน 2557 8:58:42 น.  

 

สวัสดีครับคุณก๋า

โชคดี ที่ไม่มีใครถามคำถามยากๆแบบนี้กับ อ.เต๊ะ กันเลย

ส่วนใหญ่จะถามแต่เรื่อง ชิงรักหักสวาท คบชู้สู่ชายซะแยะ อิอิ

สงสัย ว่าคนคงนึกว่า อ.เต๊ะ เป็น หมอเสน่ห์ ยาแฝดอาจารย์ที่เชี่ยวชาญ ทางเรื่องแบบนี้ ซะนี่กระไรนะครับ 555

แล้วก็ อ.เต๊ะ ว่าเรื่องบางเรื่อง นี่ถามคนอื่น อาจจะไม่ได้คำตอบ
ที่ถูกต้อง หรือถูกใจ และเหมาะสมกับตัวเราเท่าไหร่

ตัวเราเองเท่านั้น ถ้าลองนั่งคิด ตั้งสติ ทบทวน ถึงเหตุที่เกิดและผลที่จะตามมา น่าจะได้คำตอบที่เหมาะสมสำหรับตัวเรา ที่ดีที่สุดแล้วละครับ

คนเราถ้าใช้ชีวิตตามลำพัง ไม่สนใจครอบครัว ไม่แคร์ญาติพี่น้อง และคนอื่นๆ
มุ่งแต่จะหาความสุข แต่ตัวเอง

สังคมวุ่นวายแน่นอนครับ มนุษย์เราไม่เคยเปลี่ยน

ไม่งั้นมันไม่รบกัน ตั้งแต่สมัยหิน มนุษย์ถ้ำ ดึกดำบรรพ์แล้วละครับ

ที่อยู่สงบสุขทุกวันนี่ ก้เพราะว่ามีกฎหมาย มีระเบียบของสังคม บังคับกันอยู่

อ.เต๊ะ เคยดูหนังฝรั่งเรื่องนึง เค้ามีวันที่ทำอะไรก้ได้ ไม่ผิด กฎหมาย ให้ 1วัน

วันนั้น เพื่อนบ้านที่แสนดีกับเรา ทุกวัน ยิ้มแย้ม แจ่มใส มีไมตรีต่อกัน แห่กันมารุม จะฆ่าเราให้ได้วันนั้น
เลือดสาดทั้งเมืองเลยละครับ 555

อ.เต๊ะ อยากให้มีวัน แบบนี้ในเมืองไทย ไม่ต้องมาก
สักแค่ 2ชั่วโมงก้พอ

อ.เต๊ะ จะรีบบุกไปบ้านพวกนางงาม พวกมิสไทยแลนด์เวิลด์ ทันทีไม่รอช้า

คือต้องการจะไปสนทนาธรรม กับน้องเค้าเฉยๆ อิอิ

ไม่คิดอะไรมากหรอกครับ เรื่องยุบหนอพองหนอ นี่ อ.เต๊ะ
ยังไม่ค่อยเข้าใจ จะให้น้องเค้าช่วยอธิบายทีละชิ้น เย้ย
ทีละขั้น ทีละตอน เท่านั้นเองครับ 555



 

โดย: multiple 16 พฤศจิกายน 2557 9:49:04 น.  

 

ทักทายสวัสดีกับคุณก๋าในวันหยุดวันพักผ่อนครับ

ภาพประกอบ เปิด blog ได้สีสันสวยงามถูกใจเลยครับ สมกับเป็นวันอาทิตย์วันหยุดพักผ่อนสบายๆ เลยครับ

 

โดย: ถปรร 16 พฤศจิกายน 2557 10:51:45 น.  

 

บทความวันนี้ตรงใจมากเลยค่ะ
หลายครั้งที่อยู่คนเดียว ก็ถามตัวเองตลอด ว่าความสุขของเราคืออะไร
เพราะสิ่งที่อยู่รอบตัวเราในตอนนี้ หลายอย่างมันยั่วยุให้เราอยากได้อยากมีตามคนอื่นไปด้วย พอไม่มีก็ทุกข์
ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น ไม่มีก็ไม่เห็นเป็นไร รู้สึกตัวเองยึดติดกับวัตถุมากเกินไป
ช่วงนี้พยายามอยู่กับตัวเอง คิด และหาคำตอบให้กับความุ้งซ่านของตัวเองตลอดเลยค่ะ

ปล. รอยสักแบบที่นุ่นเอามาเล่นผู้ใหญ่ชอบ เด็กก็ชอบนะคะ

 

โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ 16 พฤศจิกายน 2557 13:35:45 น.  

 

พูดถึงหน้าที่หลายๆ คนก็ไม่รู้จักหน้าที่ว่าควรทำอะไร เป็นครูดีๆ ก็อยากจะเป็นช่างตัดผม เป็น*** อยู่ๆ ก็อยากเป็น*** (เซ็นเซอร์) จริงๆ ที่มันวุ่นวาย ทั้งกาย ใจ และสังคม ส่วนหนึ่งก็เพราะคนเรามันไม่รู้จักหน้าที่ว่าตัวเองทำอะไร ไปก้าวก่ายคนอื่น

แต่พูดก็พูดเถอะว่า เดี๋ยวนี้ไม่มีเงินมันก็อยู่ยากนะ ต้องมี

ความสุขความทุกข์มันผ่านไปเร็วนะครับ เมื่อพิจารณาและจ้องไปในสิ่งนั้นๆ แค่จ้องมันเท่านั้นมันก็ผ่านไปแล้ว


+

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 16 พฤศจิกายน 2557 13:37:23 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า
รวยความสุข ไม่ทำให้ตนเองและคนอื่นเดือดร้อนก็โอเคล่ะเนาะ
อย่าไปคิดเรื่องกำไรขาดทุนเลย เพราะต้นทุนของแต่ละคนไม่เท่ากัน

 

โดย: เนินน้ำ 16 พฤศจิกายน 2557 13:38:28 น.  

 







ให้ พ่อ ณเดชน์ จ้าาาาา ...








บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




 

โดย: foreverlovemom 16 พฤศจิกายน 2557 16:03:11 น.  

 

มาตรวจคำตอบ .. ตอนค่ำค่ะคุณก๋า

กับจิ้มให้กำลังใจไปหนึ่งจึ๊ก

 

โดย: PhueJa 16 พฤศจิกายน 2557 18:31:40 น.  

 

ว่าแต่มีให้กดข้างบนนู้น.. ดีจัง เพราะสะดวกดีไม่ต้องไล่สายตาหา

 

โดย: PhueJa 16 พฤศจิกายน 2557 18:34:16 น.  

 

สวัสดีค่า พี่ก๋า ^^
มาอ่านคำถามคุณคล้ายดาววันนี้
คิดๆเหมือนกัน ถ้าเป็นนุ่นจะตอบยังไง
ยากนะคะ พี่ก๋าตอบได้ดีมากเลยค่ะ
วิธีคิดอ่ะ นุ่นต้องศึกษาเยอะๆเลย

ชอบประโยคนี้ค่ะ

คนอื่นมองเราอย่างไร
ไม่สำคัญเท่ากับที่เรามองตัวเอง แล้วคิดกับตัวเองอย่างไร

จริงๆค่ะ บางทีสนใจคนอื่นมากกว่า ใส่ใจมาก
ตัวเราก็ทุกข์ ชอบคำตอบวันนี้มากๆ
ขอบคุณมากๆค่า

 

โดย: lovereason 16 พฤศจิกายน 2557 18:59:19 น.  

 

โหวตให้เรื่องราวดีๆเช่นเคยค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


ขอบคุณคุณก๋าด้วยนะคะ
วันนี้ค่อยดีขึ้นแล้วค่ะ


 

โดย: mambymam 16 พฤศจิกายน 2557 19:16:46 น.  

 

ส่งครอบครัวพี่หมิง ๆ เข้านอนค่า

 

โดย: mariabamboo 16 พฤศจิกายน 2557 20:31:58 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องก๋า พี่กิ่งมาย็นๆค่ำๆทุกวันค่ะ แหะ แหะ มาอ่านคำตอบแล้วพี่กิ่งเห็นด้วยมากๆเลยค่ะ คนรวยไม่จำเป็นต้องมีเงินมากมายหรอกนะคะ ขอแค่มีพอกินพอใช้ไม่มีหนี้ที่ต้องชดใช้ก็น่าจะพอใจแล้วนะคะ

พี่กิ่งไลท์ให้ก่อนค่ะ

หลับฝันดีนะคะ

 

โดย: กิ่งฟ้า 16 พฤศจิกายน 2557 21:12:39 น.  

 

สวัสดีค่ะ พี่ก๋า ^^

สังคมภายนอกก็มองที่ของใช้ข้างกาย
ไม่ได้มองเงินเย็นในบัญชีค่ะ
พอคบ ๆ ไปจะรู้ว่าใครรวยจริง ใครรวยเก๊นะคะ

========================

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนบ้า(น)ป่า Home & Garden Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

 

โดย: ปรัซซี่ 16 พฤศจิกายน 2557 21:19:33 น.  

 

หวัดดีเจ้าอ้ายก๋า

กำไรขาดทุนอยุ่ที่ใจ
ในการใช้ชีวิตเรายึดถือความสุขของตัวเองฝ่ายเดียวไม่ได้เจ้า
รินคิดงี้นะ
เพราะเราายังอยู่ในสังคม
เรายังมีครอบครัว มีพ่อมีแม่
ถ้าเราสุขคนเดียว แต่ทำให้พ่อแม่เศร้าล่ะ เราจะสุขได้แท้จริงหรือไง
แต่ก็มีคนบอกอยู่ว่า ถึงแม้จะรอแคร์คนทั้งโลก เราก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว

เอิ่ม บางอย่างแนวคิดคนก็สวนทางกันแต้ๆ นะเจ้า





โหวตเจ้าาา


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
กิ่งฟ้า Literature Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog






 

โดย: Rinsa Yoyolive 16 พฤศจิกายน 2557 23:51:20 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
Tui Laksi Travel Blog ดู Blog
jamaica Home & Garden Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

สวัสดีค่ะคุณก๋า
อืมมมมมม อยู่ที่มุมมองและพื้นฐานชีวิตแต่ละคนด้วยค่ะ
การเลี้ยงดูก็มีส่วนเยอะมากกกกกกกกกกกค่ะ
เพราะเป็นการปูรากฐานให้กับการใช้ชีวิตของเด็กเลยทีเดียว
ว่าโตมาเค้าเลือกที่จะเป็นยังไง ทำยังไงกับชีวิต คิดและมีทัศนคติยังไงค่ะ

 

โดย: Close To Heaven 17 พฤศจิกายน 2557 0:12:18 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาปอมซ่า Food Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Book Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

newyorknurse

 

โดย: newyorknurse 17 พฤศจิกายน 2557 2:29:34 น.  

 

ที่เคยคิดว่า สุข หรือ ทุกข์ ณ ขณะนั้น พอเวลาผ่านไป พอไม่ใช่ ณ ขณะนั้น แล้ว อาจจะไม่ใช่ความรู้สึกเท่าเดิม แบบเดิม...

ทำทุกอย่าง "ณ ขณะนั้น" ให้ดีที่สุด มองย้อนกลับไป เราก็ยังรู้สึกดี เนาะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 17 พฤศจิกายน 2557 7:13:31 น.  

 

สวย สวย สวย ภาพสวยจัง

พี่ก๋าตอบคำถาม เยอะมากๆ ^^ อ่านแล้วได้ประโยชน์
และถ้ารู็สึกถึงเรื่องดีๆ ข้อคิดดี ลองปรับมาใช้ จะยิ่งได้ประโยชน์

** ทัศนคติ ต่อสิ่งต่างๆ ที่พี่ก๋า เขียนไว้หนู้ลองปรับกะ เรื่องงานทำได้นาน 2 ปีก่า มันนานสุดที่เคยท ำ 555

 

โดย: saaikaew (Green_Marble ) 9 ธันวาคม 2557 17:32:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]