:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 232 ::
:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 232 ::โจทย์ --- ความเป็นไทยผู้คิดโจทย์ --- toor36
:: ศึกชิงบัลลังก์ยุทธ์ มังกรพยัคฆ์บูรพา ตอนที่ 4 ::เรื่องและภาพ : กะว่าก๋า
ห้าเดือนก่อนไคหมิงต้าซือโค้งคำนับสองอาคันตุกะผู้เดินทางมาจากดินแดนไกลโพ้นในเรือนรับรองของเจ้าอาวาส อารามหมื่นลี้แห่งนี้ไร้ผู้มาเยือนเนิ่นนานนัก ด้วยปรมาจารย์เฒ่าเลือกปลีกวิเวก ตัดตัวเองออกจากความวุ่นวายแห่งการช่วงชิงอำนาจทั้งปวง ใครบอกในวงการสงฆ์ไร้การชิงดีชิงเด่นเห็นจะไม่จริงดังว่า แม้องค์จักรพรรดิจะให้ความเคารพนับถือไคหมิงต้าซือเป็นอย่างสูง ถึงขั้นเจาะจงให้ท่านเป็นสังฆปรินายกองค์ต่อไป แต่ท่านหาได้ใยดีต่อตำแหน่งแห่งหนไม่
เมื่อรู้ว่ามิอาจปัดปฏิเสธคำสั่งเด็ดขาดขององค์จักรพรรดิ ท่านจึงเลือกวิธีเร้นกายออกจากเมืองหลวงโดยมิได้บอกกล่าวแก่ผู้ใด ไคหมิงต้าซือเดินทางไกลขึ้นมาก่อร่างสร้างอารามอันเงียบสงบอยู่บนยอดเขาแห่งนี้ รับลูกศิษย์เพียงไม่กี่คน แต่ละวันผ่านไปอย่างสงบเงียบดังใจท่านปรารถนา
“ท่านทั้งสองมาจากแห่งหนใดรึ ?”
ไคหมิงต้าซือเอ่ยถาม
สงฆ์ทั้งสองรูปมีผิวกายคล้ำแดดฝน รูปร่างสันทัด อายุราวสี่สิบปีทั้งคู่ หนึ่งในสองรูปกล่าวขึ้นด้วยภาษาจีนอันกระท่อนกระแท่นแต่ฟังรู้ความ
“อาตมาทั้งสองเป็นพระสงฆ์จากอาณาจักรจินหลิน ใช้เวลาเดินเท้าราวเก้าเดือน เพื่อเดินทางมายังอาณาจักรของท่านต้าซือ เป็นการจารึกรอนแรมด้วยข้อมูลเดียวที่อาตมามี นั่นคือท่านทูตจากอาณาจักรต้าซ่งได้กล่าวถึงท่านต้าซือไว้ด้วยความเคารพยกย่องอย่างสูง อาตมาจึงคิดอยากแลกเปลี่ยนความรู้ทางธรรมกับท่าน อีกทั้งอยากใช้การเดินทางอันยาวไกลนี้ ธุดงค์เพื่อฝึกฝนตนให้เผชิญหน้ากับความยากลำบากทั้งปวง”
ไคหมิงต้าซือยิ้มชื่นชมภิกษุทั้งสอง
“ไฉนท่านทั้งสองจึงพูดภาษาของเราได้ ?”
“เป็นท่านทูตได้สอนอาตมาทั้งสองอยู่ราวครึ่งปี”
พระสงฆ์อีกรูปกล่าว
“ดีแล้ว ๆ นับแต่นี้ต่อไป ขอท่านพำนักในอารามและแลกเปลี่ยนทัศนะทางธรรมต่อกันเถิด”
พูดจบท่านอาจารย์เฒ่าก็ตะโกนเรียกศิษย์ให้นำพระสงฆ์ทั้งสองรูปไปยังห้องพักรับรอง
..................................................
วัฒนธรรมซึ่งแตกต่างกันราวฟ้าดิน กลับไม่มีสิ่งใดต่าง เมื่อทุกความต่างถูกหลอมรวมไว้ด้วยธรรมะอันเป็นหนึ่งเดียว
พระอาจารย์ธรรมกาลและพระอาจารย์จุฬามณีใช้ทุกเวลานาทีในอารามหมื่นลี้อย่างคุ้มค่า นอกจากทำวัตรเช้า-เย็นอย่างเคร่งครัดในทุกวัน ท่านยังได้ฝึกฝนวิชาการต่อสู้ วิชากำลังภายใน การเดินลมปราณ การรักษาโรคด้วยสมุนไพร ฯลฯ
ทุกวิชาล้วนสำคัญและเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับพระสงฆ์ผู้มาจากดินแดนแสนไกลโพ้นทะเล
ในขณะที่เรื่องราวบ้านเมืองของอาณาจักรจินหลินก็ทำให้เหล่าพระเณรในวัดทึ่งไม่แพ้กัน ผู้คนในอาณาจักรซ่งไม่เคยพบพานช้างและวัว การจินตนาการจากคำบอกเล่า ทำให้เกิดภาพวาดช้างที่มี 6 งา และสัตว์หน้าตาประหลาดซึ่งมองอย่างไรก็มิคล้ายโคไถนา
ช่วงฝึกวิชาต่อสู้ พระอาจารย์ธรรมกาลซึ่งดูจะมีฝีไม้ลายมือในเชิงต่อสู้มากกว่าพระอาจารย์จุฬามณี ได้บอกเล่าวิธีฝึกมวยที่ตนเคยฝึกฝนมา
“สมัยเป็นทหาร อาตมาฝึกหัดมวยไทยโดยเริ่มจากการตักน้ำตำข้าว ผ่าฟืน ว่ายน้ำ ห้อยโหนเถาวัลย์ ปีนป่ายหน้าผา เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและอดทนเสียก่อน จากนั้นจึงเริ่มฝึกทักษะการต่อสู้ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก ถีบ เตะ รวมไปถึงอาวุธ เช่น ดาบยาว ดาบสั้น ง้าว กระบอง ไม้คมแฝก ติ้ว และที่สำคัญ บ้านเมืองของเรานั้นมีสิ่งที่มหัศจรรย์ยิ่งนัก”
“สิ่งนั้นคืออะไรหรือ ?”
เณรน้อยทำหน้าสงสัยใคร่รู้
“เราเรียกว่า ‘ยันต์เกราะเพชร’ ซึ่งทำให้อยู่ยงคงกระพัน”
พระอาจารย์ธรรมกาลเล่าด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ
เหล่าพระจีนที่ล้อมวงอยู่ต่างทำหน้าตาสงสัยว่า “อยู่ยงคงกระพัน” คืออะไร โดยไม่มีใครคาดคิดพระอาจารย์จุฬามณีซึ่งยืนอยู่ด้านหลัง ได้หวดมีดดาบจีนอันคมกริบ ซัดเข้าไปที่กลางหลังของพระอาจารย์ธรรมกาลเต็มแรง เสียงบึ๊ก !!! ดังขึ้นอย่างหนักแน่น น้ำหนักมือขนาดนี้ ความคมขนาดนี้ บาดแผลคงลึกถึงตายได้ในทันที เสียงฮือฮาดังขึ้นโดยมิได้นัดหมาย พระจีนพากันมองดูแผ่นหลังของพระอาจารย์ธรรมกาล ซึ่งหาได้มีริ้วรอยใดใดแม้แต่รอยขีดข่วนเท่าปลายเล็บ
“ยันต์นี้ถูกสลักสักไว้ในเรือนกายของผู้ใด ผู้นั้นย่อมกลายเป็นผู้มีหนังเหนียว ศาสตราอาวุธทุกชนิดมิอาจแผ้วพาน”
พระอาจารย์จุฬามณีอธิบายให้ทุกคนในที่นั้นฟัง
พระเณรในวัดต่างจ้องดูรอยสักกลางแผ่นหลังของพระไทยด้วยความตื่นตะลึง ถ้าจะมีใครสักคนสังเกตเห็น .... ไคหมิงต้าซือเดินออกมาดูการทดลองอันน่าตื่นเต้นนี้ด้วยเช่นกัน ก่อนเดินกลับไปที่ห้องโดยมิพูดอะไร
.......................................................
พระสงฆ์จากแดนไกลอยู่แลกเปลี่ยนวิชาความรู้ทั้งศาสตร์และศิลป์ ทั้งเรื่องราวทางโลกทางธรรม จนครบถ้วนกระบวนความนาน 5 เดือนกว่า จึงได้เข้าไปร่ำลาอาวรณ์กับอาจารย์เฒ่า นี่คือการจากลาด้วยมิตรไมตรีอันแนบแน่น
ไคหมิงต้าซือมอบม้วนพระสูตรสำคัญ “ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร” พร้อมอธิบายความหมายอันลึกซึ้งในพระสูตรนี้นานนับชั่วโมง ส่วนพระธรรมกาลได้มอบผ้ายันต์ เข็มสัก หมึก และ คัมภีร์เกราะเพชรเป็นของตอบแทน โดยบอกเล่ารายละเอียดการสัก วิธีสวดคาถา เพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์มากที่สุด
ยันต์เกราะเพชรประกอบไปด้วยรูปธงมหาพิชัยสงคราม ตรงคอธงเป็นบทพุทธคุณ คือ อิติปิโสฯ ไปจนถึง ภะคะวาติ ตำราพระร่วงดึงเอาบทพุทธคุณที่ธงมหาพิชัยสงคราม ออกมาเขียนเป็นยันต์ 8 แถว แต่มี 7 บรรทัด รวมแล้ว 56 คำ คาถากำกับยันต์เกราะเพชรสร้างความมหัศจรรย์ใจใหญ่หลวง ในเรื่องของการอยู่ยงคงกระพันฟันแทงไม่เข้า
เมื่อส่งมอบของที่ระลึกและร่ำลาจนพอใจด้วยกันทั้งสองฝ่ายแล้ว อาคันตุกะต่างแดนก็เดินทางจากอารามหมื่นลี้ไปด้วยใจผูกพัน
...................................................
ระหว่างที่ไป่จิงเหวินนอนสิ้นสติเพราะถูกสกัดจุดฉาอี้เหวยเอาไว้ ไคหมิงต้าซือได้สักยันต์เกราะเพชรไว้บนกลางแผ่นหลังของเขา โดยมีเหลียนหู่เป็นผู้ช่วย อาจารย์เฒ่าค่อย ๆ จุ่มหมึกดำสลักเข็มลงไป อักขระหน้าตาแปลกประหลาดให้ความรู้สึกขรึมขลัง เป็นตัวอักษรซึ่งเหลียนหู่ มิอาจทราบความหมาย รู้เพียงเป็นรูปแบบตัวอักษรจากแดนไกล และมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับตัวอักษรจีนที่ตนคุ้นเคย ไคหมิงต้าซือใช้เวลาเกือบสามชั่วยามกว่าจะสักยันต์แล้วเสร็จ
...........................................................
ภาพเกาทัณฑ์นับสิบนับร้อยพุ่งปักเข้าร่างเหลียนหู่ฉายชัดในความทรงจำของไป่จิงเหวิน เขาสะดุ้งขึ้นสุดตัว เหงื่อโทรมกาย และพบว่าตัวเองนอนสลบไสลอยู่ในโถงถ้ำแห่งหนึ่ง
จากแสงสว่างซึ่งลอดส่องลงมาจากด้านบน ทำให้เขามองเห็นสิ่งต่าง ๆ อย่างชัดเจน
โถงถ้ำแห่งนี้มีอากาศโปร่งโล่งเย็นสบายอย่างไม่น่าเชื่อ ขนาดกว้างเป็นทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 เมตร ทุกด้านเป็นผนังหินทึบไม่มีช่องทางเดินไปยังห้องอื่น ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่ในห้อง ไป่จิงเหวินค่อย ๆ ลุกขึ้นแหงนหน้ามองเพดานถ้ำด้านบน ซึ่งมีความสูงเกินกว่า 30 เมตร คนทั่วไปย่อมไม่อาจปีนขึ้นไปได้อย่างแน่นอน
เนื่องจากเป็นผนังหินเรียบลื่น ไม่มีแง่งหินหรือปุ่มปมเพื่อให้ไต่ขึ้นไปได้เลย เมื่อมองกลับมายังพื้นถ้ำ ในมุมหนึ่ง ไป่จิงเหวินสังเกตโต๊ะไม้ตัวเล็ก ๆ วางอยู่ ข้างโต๊ะไม้มีห่อผ้าจำนวนมากดูราวกับเสบียงอาหาร มีโอ่งดินขนาดใหญ่มากอยู่หลายใบ ในนั้นมีน้ำสะอาดบรรจุไว้เต็มโอ่ง
เขาเดินไปที่โต๊ะไม้ตัวนั้น แล้วหยิบจดหมายฉบับหนึ่งซึ่งมีคนวางไว้ขึ้นมาอ่าน ข้างจดหมายมีม้วนคำภีร์ไม้ไผ่จำนวนหนึ่งวางอยู่ด้วย
.............................................................
จิงเหวิน คนเราย่อมมิอาจปฏิเสธปณิธานของฟ้าดิน การอยู่ในถ้ำแห่งนี้หาใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นวาสนาชะตากรรมของเจ้า ซึ่งถูกลิขิตไว้ให้เป็นผู้สืบทอดวิชาคัมภีร์ฝ่ามือมังกรพยัคฆ์บูรพา วิชาที่ผู้คนทั้งแผ่นดินปรารถนาจะครอบครองและฝึกฝน ข้างจดหมายฉบับนี้คือคัมภีร์ฝ่ามือมังกรพยัคฆ์บูรพาและพิชัยยุทธ์ต้าซ่ง เจ้าจงอาศัยเสบียงในห้องนี้ ซ่อนตัวฝึกฝนคัมภีร์นี้ให้ทะลุปรุโปร่งเถิด ในราวหนึ่งเดือนเจ้าย่อมแตกฉานในวิชานี้ เนื่องจากพื้นฐานซึ่งเจ้าเคยฝึกมาจากอาจารย์ ตั้งแต่ตอนเด็ก คือพื้นฐานของฝ่ามือมังกรพยัคฆ์บูรพานั่นเอง บวกกับกำลังภายในที่ข้าได้ถ่ายทอดไว้ให้ หากบรรลุเพลงยุทธ์นี้ได้ เจ้าย่อมเป็นผู้ไร้เทียม ทานในเชิงยุทธ์ และด้วยยันต์เกราะเพชรที่กลางหลัง เจ้าจะกลายเป็นผู้อยู่ยงคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า
หน้าที่ซึ่งเจ้าต้องแบกรับ คือ การกอบกู้บ้านเมืองจากการรุกรานของพวกจิน
ซึ่งบัดนี้ได้ทะลวงผ่านด่านสำคัญของอาณาจักรซ่ง กินแดนลึกเข้ามายังใจกลางของแว่นแคว้นทางภาคเหนือ ชนชาติจินผู้ป่าเถื่อนได้เข่นฆ่าประชาชน เข้ายึดครองบ้านเมืองของเราอย่างไม่เป็นธรรม
ขณะที่เจ้าได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ข้าเข้าใจว่าทุกคนบนอารามแห่งนี้คงสิ้นชีวิตกันจนหมด เนื่องจากกองทัพจินปรารถนาในคัมภีร์มังกรพยัคฆ์บูรพา และพิชัยสงครามต้าซ่งยิ่งนัก
สุดท้ายแล้วพวกจินย่อมทำการบุกขึ้นมาบนวัดแห่งนี้ ลำพังตัวข้าซึ่งชราภาพและเต็มไป ด้วยโรคร้ายในตัว ย่อมมิอาจฝืนต้านทานกองทัพจำนวนมหาศาลของพวกจินได้ เจ้าอาจจะเป็นเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต เพื่อแบกรับความหวังของอาณาจักรซ่งให้ดำรงอยู่ต่อไป เมื่อบรรลุเพลงยุทธ์ทั้งหมดแล้ว จงเผาทำลายคัมภีร์ทั้งสองให้สิ้น เพื่อมิให้ตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของคนโฉด หรือ คนผู้ไร้คุณธรรม
ไคหมิงต้าซือ
..........................................................
เกิดความรู้สึกสับสนปนเปไปหมดในหัวไป่จิงเหวิน ทำไมอาจารย์ถึงให้โอกาสศิษย์ชั่วอย่างเขา ทำไมถึงตัดสินใจถ่ายทอดวิชาล้ำค่าเช่นนี้ให้กับเขา ทำไมภารกิจยิ่งใหญ่เกินขีดกำลังมนุษย์จึงถูกส่งมอบยังตัวเขา ผู้ซึ่งเคยเฉียดกรายเข้าใกล้สภาวะมารร้ายอย่างมากที่สุด ไป่จิงเหวินไม่อาจหาคำตอบได้ในตอนนี้ และรู้ตัวดีว่าเขาคงมีอะไรให้ต้องทำอีกมากมายนับจากนี้ไป
ความเดิมจากตอนที่แล้วตอนที่ 1
ตอนที่ 2
ตอนที่ 3
Create Date : 16 กรกฎาคม 2562 |
Last Update : 12 สิงหาคม 2562 22:55:50 น. |
|
19 comments
|
Counter : 4974 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณเริงฤดีนะ, คุณอุ้มสี, คุณตะลีกีปัส, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณkae+aoe, คุณtuk-tuk@korat, คุณTui Laksi, คุณmultiple, คุณเรียวรุ้ง, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณtoor36, คุณThe Kop Civil, คุณJinnyTent, คุณRananrin, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณ**mp5**, คุณสองแผ่นดิน, คุณruennara |
โดย: อุ้มสี วันที่: 16 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:56:09 น. |
|
|
|
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 16 กรกฎาคม 2562 เวลา:8:13:51 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 16 กรกฎาคม 2562 เวลา:10:06:31 น. |
|
|
|
โดย: Tui Laksi วันที่: 16 กรกฎาคม 2562 เวลา:11:42:48 น. |
|
|
|
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 16 กรกฎาคม 2562 เวลา:13:44:18 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 16 กรกฎาคม 2562 เวลา:15:07:28 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 16 กรกฎาคม 2562 เวลา:16:56:41 น. |
|
|
|
โดย: JinnyTent วันที่: 16 กรกฎาคม 2562 เวลา:18:01:29 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 16 กรกฎาคม 2562 เวลา:20:00:21 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 16 กรกฎาคม 2562 เวลา:23:30:51 น. |
|
|
|
| |
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Art Blog ดู Blog
ชอบตัวหนังสือจีนจัง
พี่อุ้มขออนุญาตโหวต Art