:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องทรายแก้ว ::
:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องทรายแก้ว ::
พี่ก๋าเรียนรู้ทางธรรมเมื่อไหร่คะ.... เป็นช่วงชีวิตที่พบสุขหรือทุกข์ หรือเฉยๆ .....
คำถามโดย : saaikaew (Green_Marble ) วันที่ : 1 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา : 9:00:46 น.
คำถามที่ผมถูกถามบ่อยครั้งมากก็คือ
“บวชที่วัดไหน ?” “บวชมานานเท่าไหร่ ?” “ศึกษาสายไหน ?” “อาจารย์เป็นใคร ?”
ฯลฯ
ผมเป็นคนสนใจธรรมะ แต่ธรรมะที่ผมสนใจไม่จำเป็นต้องจำกัดวงอยู่ที่วัดหรือศาสนาใด
แรกเริ่ม...เริ่มต้นจากการสนใจอ่านหนังสือแนวปรัชญาก่อน นั่นคือ เมื่อใจเกิดทุกข์ แล้วหาคำตอบไม่ได้ จึงลองไปค้นคำตอบจากตำราทั้งหลาย แต่ถามว่าหนังสือตอบคำถามเราในใจได้ทั้งหมดหรือไม่ ก็ไม่นะครับ...
เพียงแต่เป็นฐานความสนใจให้เราเท่านั้นเอง....
ธรรมะที่ผมรู้และเปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล นั่นต้องนับจุดเริ่มต้นที่เมืองกุ้ยโจวประเทศจีน ตอนนั้นผมกำลังทุกข์กับความคิดของตัวเอง เป็นทุกข์ที่ไม่เกี่ยวกับร่างกาย โรคภัย ฐานะ การงาน ความรัก แต่เป็นความทุกข์ที่เกิดจาก “ความคิด” ของตัวเอง
บางคนที่เรามองว่าเพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง เขาอาจจะทุกข์หนักจากความคิดที่มีกับสิ่งรอบตัว จนสุดท้ายก็ย้อนย้ำความทุกข์นั้นมาทำร้ายตัวเอง
ผมจัดอยู่ในกลุ่มคนประเภทนี้
คือดูจากภายนอกเข้ามาน่าจะมีความสุข มีเงิน มีงาน มีเวลาท่องเที่ยว มีเวลาทำอะไรที่ตัวเองชอบมากมาย
แต่มันเหงา เคว้งคว้างและเปล่าเปลี่ยวเหลือเกิน....
ที่สุดแล้วการเดินทางไปกุ้ยโจว ทำให้ผมได้ไปพบกับ “ครู” ครูคนนี้เป็นภูเขาที่ชื่อว่า “ว่านเฟิงหลิน” เป็นแนวภูเขาที่สลับซับซ้อน ดูด้วยตาเปล่าเราจะเห็นยอดเขาเป็นพันๆหมื่นๆลูก สลับซับซ้อนอย่างสวยงาม
วินาทีที่ยืนดูครูคนนี้ ทำให้ผมนิ่งไปนานมากจนไกด์ที่ไปด้วย ต้องเดินย้อนกลับมาดูเพราะเห็นผมยืนนิ่งอยู่คนเดียวนานมาก ในขณะที่เพื่อนร่วมทริปเดินนำหน้าไปไกลแล้ว....
ก่อนหน้านั้น...ผมมักคิดว่าตัวเองเป็นทุกข์ มีทุกข์หนักมากจริงๆ ไม่ว่าจะเรื่องราวใดใดที่เกี่ยวกับเรา มันชวนให้คิด ให้หม่นหมองไปเสียทุกเรื่อง จนชีวิตขาดความสุข
แต่วินาทีที่ยืนนิ่งมองดูภูเขาเหล่านั้น ผมถึงได้ตื่นรู้ขึ้นมาว่า แท้ที่จริงแล้ว ตัวเรามันเล็กราวกับฝุ่นผงในจักรวาล เราไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรเลย เราแค่คิดไปเองว่าตัวเราสำคัญ ยิ่งใหญ่ เราเก่ง แต่เมื่อเรายืนเทียบเคียงกับธรรมชาติเบื้องหน้าแล้ว เราเป็นเพียงฝุ่นผงที่เล็กจ้อยด้อยค่ามากๆ.... ทุกข์ที่เราว่าหนักหนาสาหัสเลยเล็กลงตามไปด้วย เมื่อเรามองเห็นและรู้สึกว่าตัวเราเล็กลง เล็กลง เล็กลง จนไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของ “ตัวตน” ในวินาทีนั้น
เมื่อเราไม่คิดถึงตัวเรา ทุกข์ที่มีมันก็ไม่มีที่จะเกาะอาศัย แค่เข้าใจทุกข์ เข้าใจสิ่งนี้ ความสุข ความปิติก็เกิดขึ้นในใจทันที
ผมได้พบ “ธรรมะที่แท้จริง” ที่นี่เองครับ
หลังจากนั้นจึงเริ่มต้นศึกษาแนวคิดในปรัชญาและศาสนาต่างๆ ผมพบว่าทุกศาสนาสอนในหลักการเดียวกัน เพียงแต่เรียกชื่อต่างกัน ดังนั้น...ไม่ว่าจะเป็นเทพ พระเจ้า เต๋า ความว่าง พุทธะ ฯลฯ ไม่ว่าเราจะเรียกขานนามนั้นว่าอย่างไร สิ่งนี้ก็คือ “ธรรมชาติ” นั่นเอง....
ที่สุดของการเรียนรู้ ผมค้นพบว่า “ตัวเรา” นี่แหละที่เป็นบททดสอบ และเป็นครูที่ดีที่สุดของตัวเราเอง เพราะทุกข์ทั้งปวงที่เกิดขึ้นในชีวิต มันเกิดขึ้นจากตัวเราทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นทุกข์จากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย พลัดพรากจากทุกสิ่งที่เรามีและรัก ถ้าเราผ่านทุกข์ทั้งหมดนี้ไปได้ด้วยความเข้าใจและรู้ทัน เราจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น รู้และปล่อยวางได้ว่า สิ่งต่างๆในชีวิตล้วนผ่านมาและผ่านไปในชีวิตเรา โดยที่ไม่เศร้าโศกอะไรมากนัก
เมื่อไหร่ที่เรารู้ทันความเป็นจริงของสรรพสิ่ง เมื่อนั้นเราจะรู้จักธรรมะ เมื่อไหร่ที่เรารู้จักธรรมะ เราก็จะรู้จักชีวิตที่แท้จริง
*** ขอบคุณน้องต่อมากเลยนะครับ ที่ช่วยแก้ไขข้อมูลครับ ภูเขานี้เรียกว่า "ว่านเฟิงหลิน" ครับ
Create Date : 11 มิถุนายน 2554 |
Last Update : 11 มิถุนายน 2554 15:21:25 น. |
|
88 comments
|
Counter : 1857 Pageviews. |
|
|
|
ติดวันหยุดยาว กลับพุธหน้าเน้อปี้ก๋า วันเกิดลูกบ่าวเป็นไดพ่อง อิ๊ดก่อเจ้า