เป็นไปได้หรือนี่ว่าจะได้เจิมบล็อก การเมืองของคุณก๋า

"การปกครองคนที่ดี ต้องทำเหมือนไม่ปกครอง
แต่ทำเหมือนการอยู่รวมกันในสังคม
การดำเนินชีวิต ที่เป็นแบบของตัวเองดีที่สุด"

เหมือนอยู่ในอุดมคติ แต่ว่าทำได้นะค่ะ

มันเป็นเรื่องแปลกที่เราต้องเลือกผู้แทนจากโบรชัวร์
^
^
^
วันก่อนนั่งดูอยู่ในรถ
ยังคุยกันขำๆกับเพื่อนว่า
เรารู้จักกคนที่เป็นตัวเลือกแค่นี้เอง

และยังขำกับเพื่อนต่อไปว่า...
ถ้าแกสมัครนะฉันจะเลือกแก
เพราะฉันรู้จักแกมากกว่าคนที่อยู่ในกระดาษ

ต่อให้แกเล๊ววววเลว
ฉันก็จะเลือกแก

เพราะในความเลวของแก
ฉันก็ยังเห็นมุมดีดีอยู่บ้าง
แต่กับคนที่อยู่ในกระดาษ
ฉันไม่รู้อะไรสักอย่าง

กับบางคน...
มีคนมาบอกฉันว่าดี
เลือกเถอะ เลือกคนนี้ก็แล้วกัน

แต่ฉันก็ไม่เลือกอีกนั่นแหละ
เพราะคนที่มาบอก
ฉันก็ยังไม่เห็นว่าเขาจะดีกว่าแกตรงไหน

สรุปว่าฉันเลือกแก เอิ๊กกกก

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด ที่สามทันไม๊

ครูก๋า ป้าแป๋วก็นอนหลับทับสิทธิหนีไปเที่ยวเลยค่ะ
คนลงสมัครสว. ถ้าไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นเดิม
ก็คงไม่มีใครรู้จักและเลือกค่ะ

ที่ภูเก็ต ที่เด่นก็มีคนเดียวเป็นนักธุรกิจน่ะ
ส่วนคนอื่น ๆ ไม่รู้จักเลยค่ะ
เลยคิดว่ายังไงก็ได้อยู่คนเดียวแน่ ๆ เลยไม่ไปเลือก ไม่รู้จะเลือกใครด้วยนะคะ

รู้แล้วค่ะว่าเลิกแข่งไปแล้วเมื่อวันที่ 29 เดือนที่แล้ว
แต่พอเข้ามาบล็อคครูก๋าอ่ะ มันอดไม่ได้ต้องรีบเจิมก่อน 555 เผื่อบางทีครูก๋าอยากจัดแข่งรอบสองน่ะ 555

เชื่อม่ะ
เมื่อวานแม่น้องรันไปยืนดูรูป
คนไหนน่าตาดีตรงใจแม่น้องรันก็เลือกคนนั้น

ไม่รู้จะคิดมากเลือกมากไปทำไม
ยังไงการเมือง มานก็เดินไปตามทางของมานอยู่แล้ว
ไม่เกี่ยวกับเราสักกะติ๊ด

ไอ้ที่ไปเลือก
ก็แค่อยากจะแสดงให้ลูกๆ เห็นว่าแม่มานไม่ได้ทับสิทธิ
นี่ถ้าทางโรงเรียนไม่กรอกหูเจ้ารัน ให้มาคอยจับผิดแม่มาน
แม่น้องรันไม่ไปให้เมื่อยตุ้มหรอก



ปล.ไอ้ตุ้มนี่มานคราย

สวัสดีค่ะ คุณครูก๋า

อะไรที่เราไม่ชอบ แล้วต้องฝืนทำไปโดยหน้าที่
น่าเบื่อนะคะ

ดูรูปดีกว่าค่ะครู
ชอบภาพโยนเหรียญจัง ดูมีมิติจริงๆ



................................


"กวีประกอบดนตรี" หรือ "ดนตรีประกอบกวี"

น่าจะเป็น "กวีประกอบดนตรี" นะคะครู
เพราะมีบทกวีเป็นตัวเอก แล้วมีดนตรีคลอตาม

เอ หรือว่าครูใช้บทกวีคลอตามดนตรี
อ้ายยย....งง

เรียก "กวีประกอบดนตรี" แล้วกันค่ะ

มารายงานตัวคะ ยังไม่ได้อัพบล็อกแต่ก็คิดถึงเสมอคะ

คุณครูก๋าหลังไมล์ด้วยค่ะ

ใครว่าการเมืองตอนนี้มีมือที่มองไม่เห็น
เห็นชัดๆเลยกำลังโยนเหรีญแห่งผลประโยชน์ อิอิ

ก็บอกแล้วเบื่อการเมืองมาก
ก็ไปเลือกนะ อย่างที่บอกพี่ชายเป็นกรรมการใหญ่ ไปให้ทะเบียนบ้านมันดูดีหน่อย
(แต่ในใจแอบคิด) เผื่อสักวันได้ลงชื่อถอดถอนส.สได้


นาไปครั้งนี้เลือกด้วยนะ
เลือกคนๆหนึ่งที่ไม่ใช่อิสลาม(อย่างที่พ่ออยากให้เลือก)
แต่นาเคยเห็นเขากล้าที่จะต่อปากต่อคำกับนักการเมืองระดับนายกที่สั่งการอย่างไม่เป็นธรรม ตอนนั้นสะใจ
ตอนนี้เลยเลือก 555+ เหตุผลแค่สะใจแค่นั้นแหละพี่ที่เลือก อย่างอื่นไม่รู้หรอก

ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง สว.
ในต่างแดนเหมือนกั๋น
แต่ก๋าในช่อง.......
ไม่ประสงค์ลงคะแนนเสียง
............................

เพราะว่ามีความฮู้สึกเดียวกั๋บ
อ้ายก๋าเจ้า
เบื่อ......

สวัสดีค่ะ

จำได้ว่า “ครั้งหนึ่ง ช่วงพฤษภาทมิฬ .. อยู่ดีดี ก็มีพวกป่วนเมือง มาทุบสัณญานไฟตามสี่แยก บ้านเราอยู่ตรงสี่แยกวรจักรค่ะ เป็นแยกที่ติดอันดับมลภาวะเป็นพิษ รถวิ่งมากมายทั้งวัน และเกิดอุบัติเหตุเกือบทุกวัน รถชนคน .. คนชนรถ .. รถชนกันเอง .. ตายก็หลายคน เจ็บก็เยอะแยะ นี่คือเหตุการณ์ตอนสัณญานไฟดีค่ะ แต่พอพวกป่วนเมืองทุบสัณญานไฟ ปรากฏว่า หลายวันที่ไม่มีสัณญานไฟใช้กันนั้น ไม่มีอุบัติเหตุเลย มีวันหนึ่ง ..เราไปยืนดูกับพี่ชาย เกือบทุกคัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันในทุกแยก หยุดและรอได้ด้วยนะ ทั้งที่เมื่อก่อนมีไฟแดง บอกให้รอ ก็ทำท่าจะพุ่งกันทั้งนั้น แบบจ้องเลยว่าอย่าเขียวนะโว้ย จะเหยียบให้มิดเลย อีกฝ่ายก็จ้องเหลืองแล้วโว้ย เหยียบมิดเหมือนกัน แน่นอน .. มาจุ๊บกลางแยกนั่นแหละ”

หวนนึกถึงเรื่องนี้ .. เพราะถ้อยคำที่ว่า “ระบอบการปกครองที่ดีที่สุดคือ การไม่ปกครอง”

ไปเลือกตั้งทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง .. ทุกครั้งจะมีเหตุผลที่ใช้ตัดสินใจว่าทำไมเราเลือกคนนี้ ทำไมเราเลือกพรรคนั้น .. จะซักและค้านตัวเองจนแน่ใจว่า ..เอาล่ะ ที่ตัดสินใจเลือกนั้น ณ เวลานั้นๆ ดีที่สุดแล้ว ถูกต้องที่สุดแล้ว

ครั้งหนึ่งมีคนถามว่า “ใช้เกณฑ์อะไรในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง” เราบอกว่า “ก็แล้วแต่สถานการณ์ .. มองเผินๆ จากหลักการนโยบายที่ประกาศกันปาวๆ เสมือนจะอยู่คนละขั้ว แต่สำหรับเรา กมลสันดาน ของ“นักการเมือง” เหมือนกันค่ะ ดังนั้น เลือกที่คิดว่าเลวน้อยที่สุด”

ไปเลือกค่ะ แต่ก็คิดอยู่นานเหือนกันว่าจะเลือกใครดี
สุดท้ายกาให้กับ ไม่บอกดีก่า

พี่เหงา เหงาครับ

ไม่รู้โชคดีหรือโชคร้าย
ผมทำงานอยู่ในแวดวงการค้า ผมเลยพอจะเข้าใจธรรมชาติของพ่อค้าและนายทุน
ผมทำงานที่ต้องเจอกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
นักการเมืองระดับล่างสุดจนถึงระดับรัฐมนตรี

เคยฟังแนวความคิดของคนเหล่านี้ครับ
รู้ไปถึงเบื้องลึกเบื้องหลัง

ผมถึงไม่เชื่อคำพูดนักการเมืองเลยไม่ว่าจะหล่อ หรือไม่หล่อ
ไม่ว่าจะอยู่พรรคไหนๆ
แต่ผมเข้าใจธรรมชาตินักการเมือง

ผมไม่ค่อยด่าเค้าว่าเลวหรอกครับ
เพียงแต่ผมอยากให้เค้ารักษาผลประโยชน์ของชาติ
ก็ในเมื่อคุณอาสามาทำงานเพื่อบ้านเมือง
ก็ทำอะไรให้เป็นประโยชน์กับประเทศบ้าง

นึกในมุมเดียวกัน...
ถ้าทำแล้วไม่ได้ผลประโยชน์อะไรตอบแทนเลย ใครจะทำ ?
พวกประท้วงที่เย้วๆก็ไม่ต่างกันครับ
ต่างมีผลตอบแทนในรูปต่างๆ ไม่จำเป็นต้องเงินหรอกครับ
บางอย่างมันให้มากกว่านั้นอีก

ไม่มีใครที่ลงทุน แล้วไม่หวังผลตอบแทน

การเมืองก็เหมือนการลงทุนครับ ทุกอย่างมีเบื้องลึกเบื้องหลังเหมือนกันทั้งหมด

ผมคิดว่าเราอยู่ภายใต้ยุคแห่งการครอบงำทางความคิด
และการใช้โฆษณาชวนเชื่อครับ

เราถูกทำให้เชื่อว่าคนดี ดีแบบเทพ
ดีจนไม่มีความเลวปนเปื้อน

ในความเป็นจริงไม่มีใครดีแบบนี้ได้หรอกครับ

ผมย้ำเลยนะครับพี่ ว่า ไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิด
ทุกคนผิดพลาดกันทั้งนั้น
เพียงแต่ยอมรับปรับตนหรือเปล่า

และความผิดนั้นร้ายแรงเกินยอมรับได้หรือไม่เท่านั้นเอง


นักการเมืองก็คือคนธรรมดาครับ
หลายคนเปลี่ยนนิสัยตั้งแต่ยังไม่ได้เป็น สส.
พอได้เป็นยิ่งกร่างและลืมประชาชน

ผมอยากให้เค้ารู้จังเลยว่า

การปกครองแบบไม่ปกครองคืออะไร ?
และ น้ำทำให้เรือลอยได้
น้ำก็ทำให้เรือจมได้เช่นกัน

ว่าฉันเล่นการเมืองเพื่อช่วยเหลือประชาชน
มันโกหกได้กับคนที่ชอบคำหวานเท่านั้น



เห็นด้วยคะ

เราเปลี่ยนอะไรไม่ได้นอกจากเริ่มที่จะเปลี่ยนที่เรา
แล้วจะกระทบสู่สังคม เล็ก ๆ ไปเรือย ๆ เสมือน การ
วางหินลงในน้ำ ที่เริ่มจากการแตกตัวของน้ำจากวนเล็ก ๆ ไปจนยิ่งใหญ่

สบายดีนะคะ

....แล้วข้าพเจ้าก็เกิดคำถามในใจ.....
มีอะไรที่ลุงก๋าไม่ถ่ายบ้างมั้ย ถ่ายแม้กระทั่งทิชชู่ม้วนอ่ะ

การเมืองมาอีกแล้วค่ะ

มาทีไร อ่านอย่างเดียว งดวิจารณ์
รู้แต่ว่าชอบการเมืองที่พี่เขียนเสมอ

แอบเห็นกีต้าร์อยู่หลังรูปเหรียญด้วย ใช่ป่าวคะ หลังมันละลาย
ใช่กีต้าร์ตัวโปรดป่ะคะ

ปล.รูปเท่ห์สุด ๆ เข้ากับเรื่องมาก ๆ
งาม

ก๋าคับ


นักการเมืองก็คือคนธรรมดาครับ
หลายคนเปลี่ยนนิสัยตั้งแต่ยังไม่ได้เป็น สส.
พอได้เป็นยิ่งกร่างและลืมประชาชน

ใช่เลย .. เค้าคือคนธรรมดา ...
ความเปลี่ยนเกิดจาก "อำนาจ"

เจ้า "อำนาจ" นี่แปลก .. ใครลองได้ลิ้มรสสักครั้ง ..
มักใหลหลง .. อย่าว่าแต่ "ผู้ใหญ่" เลย
เด็กเล็กเล็ก .. ยังรู้จักและเรียนรู้ที่จะใช้ "อำนาจ" ต่อรอง

และไม่ว่านักการเมืองจะดำรงอาชีพของตนด้วยเหตุผลใดใดก็ตาม ..
เรา..ประชาชนเจ้าของประเทศนี้ทุกคน .. ย่อมมีสิทธิที่จะตรวจสอบ "พวกเขา" ซึ่งมาจากการเลือกสรรของเรา

อย่าท้อที่จะทำหน้าที่ .. ที่ต้องทำ แม้ไม่อยากทำ
และ ยังคงใช้ได้เสมอในทุก "สถานการณ์"
นั่นคือ (ขอยืมคำน้องก๋ามาใช้ค่ะ)

หยุด นิ่ง แล้วใช้ปัญญา