:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณคล้ายดาว ::
:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณคล้ายดาว ::
**ต่อเมื่อเธอได้รู้ธรรมตามความเป็นจริง เธอจะมีทุกสิ่งแต่เหมือนไม่มี และจะต้องละทิ้งทุกอย่างทั้งชั่วดี เหลือแต่วิถี “หนึ่งเดียวนี้” เท่านั้นเอง**
(เขียนโดย - กะว่าก๋า)
. . .
ในเมื่อไม่ใช่ ..ดี ...ชั่ว
แล้ววิถีหนึ่งเดียว...คืออะไร?
ยามสิ้นลมหายใจ
ทำดี..คนก็สรรเสริญ เยินยอ
ทำชั่ว..คนก็ก่นด่า
ทั้งหมดเป็น.. “คนเป็น” ..ที่กำหนดมันขึ้นมา
แต่คนเราตายแล้วไปไหน?
รู้ร้อน รู้หนาว รู้สึก รู้สมไหมกับสิ่งที่ทำมาตอนยังมีลมหายใจ
ในเมื่อคำถาม..ไม่เคยมีคนที่ตายแล้วกลับมาตอบ
แล้วใยเล่าต้องแคร์...กับ ดี..ชั่วที่มนุษย์ตั้งกฎเกณฑ์มันขึ้นมา
คำถามโดย : คล้ายดาว วันที่ : 19 เมษายน 2554 เวลา : 1:31:37 น.
วิถี “หนึ่งเดียวนี้” คืออะไร ?
ความดีความชั่วเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ?
--- เกิดมาจากสิ่งสมมติ..
ถ้าเราไม่ยึดติดในสมมติ ก็หมายความว่าคนเราสามารถทำอะไรก็ได้อย่างนั้นใช่ไหม ?
เดินเข้าไปในกลุ่มชนแล้วสาดกระสุนสังหาร ก่อนพูดขึ้นว่าความตายเป็นสิ่งสมมติจะผิดบาปจากตรงไหน ?
หรือขโมยของในห้าง แล้วบอกว่าสินค้าที่เห็นตรงหน้า เป็นเพียงสิ่งที่คนเราสมมติขึ้น หยิบไปเฉยๆจะผิดตรงไหน ?
ความเลว ความดี ความชั่ว สีดำ สีขาว นายสมปอง หญิงสมควร ตาชวน ยายสา ตามี ยายมา จน รวย สูง ต่ำ ฯลฯ
ทุกสิ่งที่ว่ามาล้วนแต่เป็นสิ่งสมมติทั้งสิ้น “สมมติ” นี้เกิดขึ้นจากสิ่งใด ?
เกิดขึ้นจากสิ่งที่ให้ “กำเนิด”
แม้แต่ตัวเราก็มีจุดกำเนิดเกิดกาย ในทางวิทยาศาสตร์เราเกิดจากเชื้ออสุจิของพ่อผสมกับไข่ของแม่ เกิดเซลล์ขึ้นมาก่อนเจริญเติบโตกลายเป็นคน
แต่ “การกำเนิดทางโลก” ย่อมเป็นจุดกำเนิดคนละอย่าง กับ “การกำเนิดทางธรรม”
ในทางธรรมไม่มีการแบ่งขั้วหรือข้าง ไม่มีการแบ่งสูงต่ำดำขาว ไม่มีความดีความเลว ไม่มีกษัตริย์ ไม่มียาจก ไม่มีอริยสงฆ์ ไม่มีคนบ้า ไม่มีการเกิด ไม่มีการตาย
มีเพียงตัวตนที่เป็น “ผู้ให้กำเนิด” กับสิ่งที่ถูก “สร้างให้เกิดขึ้นมา”
พูดให้ง่ายเข้า โลกนี้มีเพียง “ผู้สร้าง” กับ “สิ่งที่ถูกสร้าง”
สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา คือ คน สัตว์ สิ่งของ ชื่อเรียกขาน วัตถุที่จับต้องครอบครองได้ ฯลฯ
สร้างโดยใคร ?
สร้างโดย “ธรรมชาติ”
ธรรมชาติที่เราขนานนามไปตามความเชื่อและความศรัทธา เราจึงเรียก “ผู้สร้าง” ได้ว่า พระเจ้า พระผู้สร้าง เต๋า ธรรมมะ โลกุตระธรรม อนุตรธรรม ฯลฯ
แต่ไม่ว่าจะเรียกด้วยนามใด ก็เป็นที่รู้กันว่า “ผู้สร้าง” นั้นมีสภาวะที่อยู่เหนือกาลเวลา สุดที่จินตนาการของคนจะหยั่งถึง เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ สร้างอะไรมาแล้วเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ และยังจะสร้างสิ่งต่างๆไปอีกนานเท่าไหร่ไม่มีใครทราบ ไม่มีรูปร่าง แต่มีพลังในการสร้างสิ่งต่างๆ มีการจัดระบบระเบียบของสิ่งที่ตนสร้างไว้อย่างแยบยล เช่น การโคจรของตำแหน่งดาวต่างๆ การเกิดขึ้นของวิวัฒนาการสัตว์โลก ฯลฯ
“ผู้สร้าง” จึงอยู่ในสภาวะที่ไร้ตัวตน แต่มีพลังงานในการสร้างสิ่งต่างๆให้เกิดขึ้น
ในขณะที่ “สิ่งที่ถูกสร้าง” ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ ล้วนตั้งอยู่บนความเปลี่ยนแปลง ไม่คงทนถาวร มีอายุขัยของมัน มีการเกิด และดับทำลาย เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลาและเหตุปัจจัย
วิถีหนึ่งเดียวนี้ ---
คือการเรียนรู้ในหลักความจริงข้อนี้ ก่อนจะฝึก “ความคิด” ของตนเองให้มุ่งไปยังการทำตัวเสมือนกับสิ่งที่เป็นผู้สร้าง
เมื่อใดก็ตามที่ใครคนหนึ่งเดินทางไปบนเส้นทางเดียวกันกับการเป็นผู้สร้าง
เมื่อนั้นการเกิดมาใช้ชีวิตหนึ่งของคนๆนั้น จะเป็นการเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ของตนโดยสมบูรณ์ และพร้อมจากไปโดยไม่อาลัยอาวรณ์ เมื่อเขาได้รู้แล้วว่า หากจบชีวิตลงด้วยวิธีคิดแบบนี้ จะนำพาเขาเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นผู้สร้าง และเมื่อเข้าสู่สภาวะนั้นแล้ว การเกิด การตาย ความดี ความชั่ว ย่อมไม่มีผลใดใดอีกต่อไปกับ “สมมติ” นี้อีกแล้ว
เปรียบเช่น กายเรานี้เป็น “พลังงานไฟฟ้า” เราเคยอยู่ในหลอดไฟแล้วเปล่งแสงสว่าง แต่แสงสว่างนี้ก็ไม่คงทน เมื่อวันนี้หลอดไฟขาดลงหรือมีใครมาปิดสวิทช์ “ไฟฟ้า” ก็ไหลออกจากหลอดไฟ แล้วเข้าสู่สิ่งอื่น เปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ เปลี่ยนการทำงานไปเรื่อยๆ เข้าสู่แอร์ก็ให้ความเย็น เข้าเตารีดก็ให้ความร้อน ฯลฯ
วิถีหนึ่งเดียวที่ผมพูดถึง คือ การรู้ถึงสภาวะที่เมื่อจบจากหน้าที่หรือร่างสุดท้ายของตนแล้ว หากเรารู้และกำหนดทิศทางของตนอย่างดีที่สุดแล้ว ให้อยู่ในแนวทางของการเข้าสู่การเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติแล้ว
แทนที่เราจะเลือกจบหน้าที่ (หรือตาย)แล้วไปเกิดใหม่เป็นรูปร่างหรือเครื่องใช้ต่างๆ
เราจะเปลี่ยนไปหลอมรวมกับพลังงานไฟฟ้าแทน โดยไม่ต้องสนใจอีกแล้วว่าเราจะไปเข้าอะไร จะต้องไปทำหน้าที่อะไรอีก ?
กฎหมายที่ดีที่สุดในโลก ก็บังคับให้คนเดินตามหลักเกณฑ์ไม่ได้ หากใจของคนเต็มไปด้วยกิเลสและความหลงผิด
คำถามที่ผิด ไม่เคยทำให้ใครได้รับคำตอบที่ถูก
หากเริ่มต้นเรายังไม่รู้ว่าเราเกิดมาจากไหน เราจะรู้ได้อย่างไรว่าตายแล้วเราจะไปไหน ไปเกิดใหม่เพื่ออะไร และถ้าไม่อยากจะเกิดอีกเราจะต้องทำอย่างไร
นี่เป็นสิ่งแรกๆด้วยซ้ำที่คนอยากเรียนรู้ธรรมะควรตั้งคำถามถามตนเอง ว่าธรรมะที่แท้คืออะไร ?
คือ การรู้จุดกำเนิดของตนเอง คือการรู้จักหน้าที่ของตนเองขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ และคือการรู้ว่าเมื่อตายแล้วเราจะไปไหนอย่างไรใช่หรือไม่ ?
**ต่อเมื่อเธอได้รู้ธรรมตามความเป็นจริง เธอจะมีทุกสิ่งแต่เหมือนไม่มี และจะต้องละทิ้งทุกอย่างทั้งชั่วดี เหลือแต่วิถี “หนึ่งเดียวนี้” เท่านั้นเอง**
วิถีนี้ไม่จำเป็นต้องออกไปแสวงหาจากที่ไหน ขอแค่ “ค้นพบ” มันให้ได้ในตัวเราก็พอครับ
Create Date : 11 สิงหาคม 2554 |
|
103 comments |
Last Update : 11 สิงหาคม 2554 5:14:52 น. |
Counter : 1405 Pageviews. |
|
|
แวะมาไหว้เจ้า ไปนอนก่อน วันนี้ยะแก๋งเขียวหวานกุ้งเลี้ยงเปื้อนตี้ทำงาน พุงกางมากมาย อัพบล็อกใหม่ปอบ่าไหว ปิดคอมไปนอนก่อน