The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ? ...หนัง เรื่องนี้ ก็เหมือน มายากล ยิ่งคุณรู้น้อยที่สุด คุณยิ่งสนุกกับมันมากที่สุด ยิ่งคุณรู้จุดเฉลยหรือจุดหักมุมคุณยิ่งสนุกน้อยลง ... บทความ นี้ ก็เหมือน หนังเรื่องนี้ มายากล มี 3 ขั้นตอน ขั้นตอนที่หนึ่งคือ The Pledge นักมายากลจะโชว์สิ่งที่ธรรมดา จนคนดูไม่ทันคิดสงสัยเอะใจ แต่บางทีสิ่งนั้นอาจจะไม่ธรรมดา เช่น หยิบนกออกมาใหคนดูได้เห็น The Pledge ของหนังเรื่องนี้ คือ ชีวิตของสองหนุ่มในคณะมายากล ที่เริ่มต้นด้วยความฝันอยากเป็นนักมายากลมีโชว์เป็นของตัวเอง ความทะเยอทะยานในตอนต้น ตั้งอยู่บน รูปแบบที่ต่างกัน แองเจียร์ มีหลักการที่เน้นความปลอดภัยและไม่สนใจที่จะใช้ด้านมืดเช่น การฆ่านก เพียงเพื่อสร้างสิ่งมหัศจรรย์ เบอร์เด้น สนใจและอยากสร้างงานที่อัศจรรย์แม้งานนั้นอาจต้องเสี่ยงอันตรายก็ตาม มันดูเป็นชีวิตธรรมดาๆไม่น่าจะมีอะไร หากมิใช่ว่า จุดหักมุมของชีวิตทำให้คนสองคนต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล คุณควรรู้เรื่องราวของหนังเพียงเท่านี้ ...The Prestige เป็นหนังที่มหัศจรรย์อย่างยิ่ง ความมหัศจรรย์ในหนังไม่ได้เกิดจาก พระเอกบินได้ หรือ นางเอกล่องหน คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้กำกับ ทำให้คนดูหนังต้องทึ่งกับ หนังที่ไม่ได้มีดีแค่การเล่าสลับไปมา ไม่ได้มีดีแค่ความหวือหวา แต่ ยังเต็มไปด้วยลูกเล่น เต็มไปด้วยการล่อหลอก และ การหักมุมให้คนดูต้องเดาทางไม่ถูก เป็น ความสนุกเหมือนการเฝ้าดูมายากลที่แสนจะตื่นตาตื่นใจ อยากรู้โชว์ถัดๆไปว่าจะมีอะไรให้ดู และ ทำให้คนดูต้องขบคิดตลอดเวลาว่า สิ่งที่เห็นไปเมื่อกี้ แท้จริงแล้ว นักมายากล(หนัง)หลอกเราอย่างไร และไม่ใช่แค่ความซับซ้อนซ่อนกลเท่านั้นที่เป็นความเยี่ยมของหนัง ความเยี่ยมยิ่งกว่าคือ การที่หนังเฉลยทุกอย่างตั้งแต่ต้น ทีละนิดๆ ภายใต้คำถามที่ท้าทายเป็นอย่างยิ่งว่า Are you watching closely ? Memento งานสร้างชื่อของเขา คือหนังที่ดูจบ คนดูชอบแต่บอกมึนตึ้บ และ เกิดเป็นกระแสต่อเนื่องยาวนานชนิดที่ว่า ใครดูจบบอกเข้าใจทั้งหมดในรอบเดียว พึงสงสัยว่า เขาอาจเป็นหนึ่งในทีมคนเขียนบทหนังเรื่องนี้ หลังจากนั้น เขาก็ทิ้งความสลับซับซ้อนไปสร้างงานที่เล่นกับด้านมืดของจิตใจมนุษย์ และ เล่นกับความเหลื่อมล้ำในการตัดสินใจที่เป็น Moral dilemma อย่าง Insomnia (เอาคนผิดเข้าคุกโดยไม่คำนึงวิธีการดีหรือไม่ ) และ Batman Begins (สังคมมันแย่กฎหมายไม่ช่วย รื้อทิ้งแล้วสร้างสังคมอุดมคติใหม่หมดเลยดีหรือไม่) The Prestige พาคนดูลงไปสำรวจจิตใจมนุษย์อีกครั้ง หนังจะค่อยๆพาเราดำดิ่งเหมือนลงไปใต้น้ำพร้อมๆกับตัวละครที่ค่อยๆจมลงเรื่อยๆ ในเวลาเดียวกัน คริสโตเฟอร์ โนแลน ก็ยังกลับมาเล่นกับ ความซับซ้อน และ คงความแพรวพราวด้วยลูกเล่นแบบแอบหวือหวา แม้ไม่มากเท่า Memento แต่ก็มากพอที่จะโชว์ให้คนดูหนังต้องประทับใจ เรียกได้ว่า นี่เป็นอีกเรื่องที่คนดูดูจบ แล้วออกจากโรง แต่ยังคงรู้สึกเหมือนหนังยังไม่จบ และ จะมองหาคนพูดคุยด้วยเหมือนคราว Memento จะต่างออกไปก็ตรงที่ Memento ถกกันแค่ว่า เรื่องมันเป็นยังไง เป็นการถกกันเพื่อหา timeline ของหนัง แต่ The Prestige มีอะไรให้คุยกันมากกว่านั้น นักแสดงในหนังทุกคนทำหน้าที่ได้ดีชนิดที่สมควรปรบมือให้ ฮิวจ์ แจ๊คแมน เล่นดี แต่เครดิตที่เหนือกว่าขอยกให้ คริสเตียน เบลล์ ที่มหัศจรรย์ไม่แพ้บทหนัง เขาทำให้คาแรกเตอร์ของเขาหนักแน่นตั้งแต่ต้นไปจนถึงประโยค Abracadabra หนังมีจุดอ่อนอยู่บ้างเล็กๆน้อยๆ อาทิเช่น การทิ้ง สกาเล็ตต์ คนสวยเจ้าเสน่ห์ของผมไปในช่วงท้ายอย่างไม่ใยดี ฯลฯ แต่มันแทบจะไม่มีความหมายใดๆสำหรับผม เพราะ หากหนังเรื่องนื้คือ มายากล นี่ก็เป็นมายากล ที่ทำให้ผมทึ่งตะลึงได้มากที่สุด และ โดนกับระบบความคิดผมมากที่สุด นับตั้งแต่ได้ดู Infernal affairs สิ่งที่ชอบ 1.บทภาพยนตร์ ... เยี่ยมยอดในระดับที่คิดในใจตอนดูตลอดว่า เจ๋งชะมัด เจ๋งโคตร หนังเล่าย้อนตัดสลับยิ่งกว่า memento แต่เนียนกว่า และ เนื้อหาเติบโตไปไกลกว่า memento ที่ไม่ได้ลงลึกซึ้งและจับแค่ไม่กี่ประเด็น บทใน The prestige พาคนดูได้ลงสู่ทะเลของจิตใจตัวละครตั้งแต่ระดับจิตสำนึกถึงจิตใต้สำนึก และ คอยหลอกล่อปนท้าทายคนดูให้หาคำตอบอยู่แทบจะตลอดเวลา 2.คริสโตเฟอร์ โนแลน ... นี่เป็นงานของเขาที่ผมชอบมากที่สุด 3.คริสเตียน เบลล์ ... ในเรื่องนี้แววตาของเขาแฝงความเศร้าและเจ็บปวดโดยไม่ต้องแสดงออกให้มาก กับสีหน้าท่าทางแสดงความกระเหี้ยนกระหือที่อยากจะเป็นเจ้ามายากล ก่อนจะลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้น เป็นการแสดงที่เยี่ยมยอด และ ดูจากฝีมือการแสดงที่ทุ่มเทและพัฒนาขึ้นเรื่อยๆงานที่ผ่านๆมาผมเชื่อเหลือเกินว่า เขาจะก้าวไปได้ไกลกว่านี้อีก(น่าแปลกดูไปก็คิดถึง เหลียงเฉาเหว่ย และ คิดว่า ถ้าเขายังหนุ่มกว่านี้ซักนิดแล้วมาเล่น the departed น่าจะเข้าที) 4.หนังจบ ในหัวคนดูยังไม่จบ 5.อารมณ์ในหนัง ... ทั้งตื่นเต้น ทั้งกดดัน ทั้งเศร้าสงสาร ทุกอย่างผสมกันอยู่แบบเข้มข้น สรุป ... ++ โปรดเชื่อผมอีกสักครั้ง กำเงิน 100 กว่าให้พอดีค่าตั๋วหนัง แล้วเข้าไปดู The Prestige ++ ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คเล่มแรก ที่พูดถึงความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ไว้กับผู้อ่านด้วยเน้อ หนังสือเกี่ยวกับอะไร ? มีที่มาอย่างไร ? ชวนไปอ่านเบื้องหลัง ไปรู้จักหนังสือได้ที่ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=13&month=10-2006&date=19&blog=1 สำหรับเพื่อนๆที่อ่านจบแล้ว ชวนมาคุยกัน ที่ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=13 (วางขายตามร้านหนังสือทั่วไปแว้ว) ไม่แน่ใจลองยืนอ่านฟรี อ่านแล้วดีวานบอกต่อ ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ เริ่มต้นอ่านครั้งแรก ชวนคลิก ชวนคุยกันที่ --> หน้าแรก รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง บทความจบแล้ว ? Are you reading closely ? ...หนัง เรื่องนี้ ก็เหมือน มายากล ยิ่งคุณรู้น้อยที่สุด คุณยิ่งสนุกกับมันมากที่สุด ยิ่งคุณรู้จุดเฉลยหรือจุดหักมุมคุณยิ่งสนุกน้อยลง ... บทความ นี้ ก็เหมือน หนังเรื่องนี้ บทความนี้เหมือนกับหนัง และ หนังก็เหมือนกับมายากล ดังนั้นมันก็ย่อม มี 3 ขั้นตอน เช่นเดียวกัน คุณยังอยากดูขั้นตอนต่อไปอีกหรือไม่ เพราะ ถัดจากนี้ไป มีการเปิดเผยจุดสำคัญในหนังทั้งสิ้น ขั้นตอนที่สอง "The Turn" นักมายากลจะโชว์จุดหักมุม เขาจะนำบางสิ่งที่ดูเหมือนธรรมดาในตอนแรก มาเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดา เช่น ทำนกที่เห็นในตอนแรกให้หายไป และ "The Turn"ของชีวิตชายหนุ่มสองคนนี้ คือ การตายของ ภรรยาแองเจียร์ ด้วยการผูกเงื่อนปมที่เธอแกะออกไม่ทันขณะจมอยู่ในแท้งค์น้ำระหว่างโชว์ "The Turn" ที่เกิดขึ้นนี้ คือ จุดเปลี่ยนที่บิดเบือนความฝันของชายหนุ่มที่วาดฝันอยากเป็นนักมายากล แต่กลับต้องใช้ชีวิตตอบสนองความจมดิ่งลุ่มหลงของตัวเอง ....ความตายของ ภรรยาแองเจียร์ ฉุดคนสองคนจมดิ่งลงสู่ ทะเลของความลุ่มหลง ดังที่ คัตเตอร์ บอกไว้ว่า ความลุ่มหลงคือเกมส์ของคนหนุ่ม ทะเลที่ใครได้ลงไปว่ายก็มีแต่จม ยิ่งดำลึกเท่าไหร่ ทะเลนี้ยิ่งฉุดให้คนจมลึกเข้าไปอีก และ ยิ่งห่างไกลจากการขึ้นมาหายใจ เราจะพบว่า ยิ่งเวลาผ่านไป ไม่ใช่แค่ ความแค้น ที่แองเจียร์มี แต่ ความอิจฉาริษยา ก็เริ่มปรากฎให้เห็นชัดขึ้น กับ การที่ตัวเองต้องเป็นคนเดินตามหลัง เบอร์เด้น ตลอดเวลา เบอร์เด้น มักคิดค้นกลใหม่ๆได้ก่อน และ เป็นคนที่เห็นเฉลยของกลต่างๆได้เสมอ และ ไฟของความริษยายิ่งรุ่มร้อน เมื่อ กลย้ายร่างของเบอเด้น ในสายตาของ แองเจียร์ นั้นสมบูรณ์แบบ แองเจียร์ พยายามลอกกลย้ายร่างของเบอร์เด้น แล้วกลับไปเล่นให้ดีกว่า ผลที่ออกมา กลของแองเจียร์ ที่ใช้ตัวแทน มันก็ดีเพียงพอแล้ว เพราะคนดูต่างก็ฮือฮาและมันก็สมบูรณ์แบบชนิดที่ว่า ไม่มีใครจับได้ แต่แองเจียร์ยังไม่พอใจ เพราะอะไร ? ความทะเยอทะยานของคนหนุ่ม ก็คงเหมือนไฟที่จุดส่งให้ไปสู่การประสบความสำเร็จ แต่เมื่อ มันแปรเปลี่ยนเป็นความลุ่มหลงของความดำมืดในใจ มันก็กลายเป็น เพลิงที่เผาไหม้ให้ต้องมีชีวิตอยู่อย่างทนทุกข์ทรมาน ความทะเยอทะยาน เป็น เหมือน drive ที่ขับให้มนุษย์มุ่งหาเป้าหมาย แต่เราทุกคนยังมี ศีลธรรม(Superego) คอยยับยั้งชั่งใจ แต่เมื่อไหร่ ที่ปล่อยให้ความมืดบอดเข้าครอบงำ ศีลธรรมก็จะค่อยๆจางหายไป และ ชีวิตที่ไร้ศีลธรรมก็คือการมีชีวิตอยู่เพื่อตอบสนองความต้องการโดยไม่คำนึงถึงความถูกผิดใดๆ ...Drive ของ แองเจียร์ เดิมที่อยู่ในระดับจิตสำนึก มีเพียง การอยากเป็นนักมายากลที่ยิ่งใหญ่(Ambition) ก่อนจะค่อยๆเบนเป้าหมายไปเป็น ความอยากแก้แค้นให้ภรรยา(death wish) ซึ่งเมื่อความมืดบอด คือ ความแค้น กำเนิดขึ้นมา มันก็ปลุก แรงขับด้านมืดในระดับจิตใต้สำนึกส่วนที่เก็บกดไว้ตั้งแต่ต้น ให้ตื่นขึ้นเต็มที่ นั่นคือ ความริษยาและอยากเอาชนะ โดย ภรรยา ก็ค่อยๆหายไปจากใจของเขา เหมือนกับที่เขาบอกโอลิเวีย ว่าที่เขากำลังทำอยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับภรรยาอีกต่อไป แล้วแองเจียร์ก็จมลงในทะเลของความลุ่มหลงไปตลอดกาล ทะเลที่ละลาย ศีลธรรม และ ตัวตนของแองเจียร์ คนเดิม ให้หายไป ...การกระทำของเขา ยังสะท้อนปมของความรู้สึกด้อยในตัวเอง (inferiority complex) ให้เห็นเด่นชัดขึ้น เพราะ แม้จะเห็นว่า กลย้ายร่างของเบอร์เด้น นั้นไม่ได้มีคนดูมากมาย แม้กลของเขาจะมีคนดูล้นหลาม แต่ ใจที่ริษยา ก็ยอมไม่ได้ที่จะรู้ว่าอีกฝ่ายเก่งกว่า (เราแค่ลอกเขามา) แม้คัดเตอร์ จะย้ำแล้วว่า เป็นแค่การใช้ คนสองคนที่เหมือนกัน แล้วเขาไม่เชื่อ แต่ถึงเชื่อ ไม่แน่ว่าเขาเองก็คงไม่ยอมหยุด เพราะในส่วนลึกเขาเองก็ยอมไม่ได้ที่จะต้องใช้กลเหมือนๆกัน (เราต้องเหนือกว่า) ...ความรู้สึกเป็นผู้แพ้ ความรู้สึกเป็นผู้ตาม ปนกับ การที่เขาไม่ได้ออกมาโค้งรับเสียงปรบมือของคนดู มันทำให้ใจที่หิวโหยการยอมรับไม่ได้เติมเต็ม เมื่อความต้องการภายใน (อยากชนะ , อยากภูมิใจ ) ไม่ได้รับการตอบสนอง เมื่อปมแค้นยังผูกฝังใจ ส่งผลให้ต้องพ่ายแพ้ให้กับความปรารถนา อันเป็นแรงขับด้านมืดในใจ และ แรงขับนี้เองก็เหมือนไฟที่กล่าวไว้ตอนต้น ที่คอยเผาผลาญไม่ให้มนุษย์พบความสุขสงบอีกเลย ...ถ้าแองเจียร์ จะหวนกลับไปมองเป้าหมายชีวิตตัวเองตั้งแต่ต้น เขาก็น่าจะพบความสุขและพบว่ามีชีวิตมาถึงจุดที่ใฝ่ฝัน แต่คนเรานั้น เมื่อใดก็ตามที่เป้าหมายไม่ชัดเจน เมื่อเป้าหมายไม่มั่นคง หวั่นไหวไปตามสิ่งแวดล้อม ชีวิตนี้ก็ไม่มีทางพบพานความสุข เพราะ ไม่มีทางไปถึงจุดของความพึงพอใจ ขั้นตอนที่สาม "The Prestige" นักมายากลจะนำสิ่งที่ทำหายไปในตอนต้น กลับคืนมาให้ผู้ชมได้เห็นว่า มันยังไม่หายไปไหน ถึง แองเจียร์ จะทำให้ ตัวเขาได้ปรากฎขึ้นอีกด้านบนเวทีผ่านเครื่องมือของ เทสลา แต่สิ่งที่แองเจียร์ ไม่สามารถพากลับคืนมา นั่นคือ ตัวตนในตอนต้น ตัวตนความเป็นคนที่รักในมายากล คนที่ไม่ยอมใช้กลด้านมืดในการต้องทำร้ายสิ่งมีชีวิต เพื่อเสียงปรบมือ แองเจียร์ที่เราได้เห็นในตอนท้าย คือ แองเจียร์ที่ไม่แคร์แม้นกจะต้องตายคาการแสดง แองเจียร์ที่ พร้อมทำร้ายคนที่เกลียดชัง แม้กระทั่ง เอาชีวิต แองเจียร์ที่ไม่หลงเหลือ จิตใจที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยความรัก แต่เป็นแองเจียร์ที่ไม่มีภรรยาหลงเหลือในจิตใจ แองเจียร์ที่หิวกระหายในชัยชนะ แองเจียร์ที่เปี่ยมด้วยความแค้น ถึง เบอร์เด้น จะพาตัวเองกลับมาหาลูกสาวได้ แต่สิ่งที่เบอร์เด้นสูญเสียไปตลอดกาล คือ ชีวิตของฝาแฝดอีกคน ชีวิตของภรรยา และ ความรักที่ทั้งสองคนมีให้แก่กัน เพียงเพราะ การเลือกที่อุทิศชีวิตให้กับการเป็นนักมายากล เบอร์เด้น เป็น เหมือนหลายๆคนที่ลุ่มหลงไปกับงาน จนแทนที่งานด้วยชีวิต ไม่ผิดอะไรนักหากเขามีชีวิตอยู่ตัวคนเดียว แต่เมื่อเขามีคนรัก การทำเช่นนี้ไม่ใช่แค่ทำร้ายตัวเอง แต่ยังทำร้ายคนที่รักไปพร้อมๆกัน เบอร์เด้น ทุ่มให้กับการเป็นนักมายากล ก่อนจะสูญเสียภรรยา ฝาแฝด ความรัก ทั้งที่แค่เพียงว่าเขายอมเผยความจริง ภรรยาเขาคงไม่ต้องลงเอยเช่นนี้ แต่ เขาก็ กลัวที่จะสูญเสีย งาน มากกว่า ภรรยา แองเจียร์ ทุ่มเทให้กับการไล่ล่า ก่อนจะสูญเสียโอลิเวีย ตัวตน และ ความสุข ทั้งที่แค่เพียงว่า เขายอมปล่อยวาง และ ใช้ชีวิตต่อไปที่มีทั้งคนรักใหม่และงานที่ประสบความสำเร็จ แต่ เขาเลือกจะไม่ปล่อยวาง การตัดสินใจเลือก ของทั้งสองคน ท้ายที่สุดแล้วทำให้ได้เป็นนักมายากลผู้ยิ่งใหญ่จริงๆ คนหนึ่งได้เป็น The professor อีกคนหนึ่งเป็นถึง The great danton แต่ในความยิ่งใหญ่ของทั้งคู่ แท้จริงแล้ว พวกเขาก็ไม่ต่างจากการเป็นนักมายากลที่เดินออกมาจากเพลงของ Paradox ตามเนื้อเพลงที่เขียนไว้ว้า รัตติกาลร่าเริงก้องคำรามเบิกฟ้า กลุ่มคนมากมายท่องเขตเมืองมายา หนุ่มสาวซุกกองเพลิงอยู่ในดวงตา จ้องมองที่งานการแสดงพิเศษ นักมายากลระเบิดกลเกินพรรณนา กระชากวิญญาณผู้ชมให้หลงลืมจากกาลเวลา เขาเอาอะไรพอใส่ลงไปในกล่องดำ หลงเหลือแต่ความว่างเปล่า มีเด็กติดใจสงสัยบอกไป ว่าทำไมพี่สาวคู่รักของนักมายากลนั้น เขาถึงไม่ลองทำให้หายลับดูซักที คงเป็นเพราะใจตนเองง่ายดาย เสกเธอหายตัวภายในพริบตา มองความรักเธอเป็นเรื่องไร้ค่า ก่อเกิดผลกลับต่าง ๆ นานา คนโห่ร้องแสดงความยินดี ถูกกล่าวขานลือเลื่องปฐพี ส่วนตัวเขาน้ำตานองหน้า เพราะว่าเธอนั้นหายไปตลอดกาล ฉันดั่งคนเล่นกลจนหยิ่งในศักดิ์ศรี อวดบารมีมาบดบังความรัก ได้ทำร้ายใจเธอเจ็บปวดยิ่งนัก ทั้งนอกและในการแสดง ...นักมายากลทั้งสามคนนี้ พวกเขาล้วนใช้มายากลเพื่อตอบสนองกิเลสตัณหา ความปรารถนาในใจตัวเอง โดย ไม่ทันรู้ตัวว่าต้องจ่ายด้วยราคาที่สูงเกินกว่าจะคาดคิด และ ใช้ชีวิตที่เหลือยู่อย่างทุกข์ทรมานทั้งของตัวเองและคนใกล้ตัว ปล. คุณเจอ เดวิด โบวี่ , สาวโคโยตี้ และ กอลลั่ม ในหนังเรื่องนี้แล้วหรือยัง ถ้ายัง ลองถามตัวเองอีกครั้งว่า คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ? ( Are you watching closingly ?) Tip and tricks ของแถมตอนท้าย คู่มือเฉลยกล กลเงื่อนปริศนาฆ่าภรรยาแองเจียร์ เบอร์เด้นไม่ได้ตั้งใจ หนังบอกเราไว้แล้วว่า ความทะเยอทะยานอยากเล่นอะไรที่ยากกว่าเดิม ท้าทายกว่าเดิม เบอร์เด้นไม่อยากเล่นกลง่ายๆ และ ตัวภรรยาของแองเจียร์ เองก็คล้อยตามจากฉากก่อนหน้านั้น โดยแองเจียร์ได้แต่ปราม ซึ่งตอนการแสดงจริง ขณะที่เบอร์เด้นผูกเงื่อนปมนี้ เธอเองก็เห็นแต่แรก แต่เหมือนเธอเองก็อยากรู้อยากลอง ก่อนจะตามมาด้วยโศกนาฏกรรม มนุษย์เราบางครั้งก็อยากจะท้าทายกับความตาย ซึ่งโชคดีก็รอดได้ โชคร้ายก็ตายจริง แองเจียร์ คิดหมกมุ่นในการหาคำตอบจาก เบอร์เด้น ว่า เงื่อนที่ผูกนั้นคือเงื่อนอะไร คำตอบที่เขาได้ทุกครั้งไปคือ ไม่รู้หรือจำไม่ได้ เขาเองคงไม่รู้ว่า แต่ละครั้งที่เขาถามเบอร์เด้น เขาไม่ได้เจอเบอร์เด้นแค่คนเดียว เบอร์เด้นตัวจริงที่ผูก ก็ย่อมรู้สึกผิดและความรู้สึกผิดนั้นก็กดความทรงจำนั้นไว้ เบอร์เด้นอีกคนที่ไม่ได้ผูก ก็ย่อมไม่รู้จริงๆว่าเงื่อนอะไร นั่นส่งผลให้เกิดอีกเงื่อนหนึ่งตามมา เป็น เงื่อนที่แองเจียร์ผูกไว้ด้วยตัวเอง เงื่อนของความแค้นที่นับวันยิ่งแน่นจนไม่อาจจะแกะออก กล เครื่องย้ายร่าง ในตอนแรกผมคิดว่าเหมือนหลายๆคน ว่า การใส่โคลนนิ่งมาในหนัง มันทำให้ดูเหมือน แหวก ไปนิด แต่ เครื่องย้ายร่างนี้สะท้อนบางอย่างที่น่าสนใจ สะท้อนตัวเทสลา ... ตั้งแต่ต้นจนจบ เทสลา มีบทในหนังไม่มากนัก แต่เขาคือ ตัวละครที่ดัดแปลงมาจากตัวจริง ในหนังเขาไม่ใช่คนที่ชั่วร้าย เขาเป็นแค่ คนๆหนึ่งที่พยายามมุ่งมั่นถึงขั้นลุ่มหลงในการสร้างงาน แต่การเกิดผิดยุคผิดสมัยผิดที่ผิดทาง ทำให้เขากลายเป็นคนแปลกแยกและเป็นเหมือนฝ่ายร้าย ฝ่ายตรงข้าม กับ โธมัส อัลวา เอดิสัน ทำให้ชีวิตของเขาอาจเหมือนหลายคนในอดีต ที่มีความสามารถแต่ไม่อาจนำเสนอมาให้คนได้รับรู้ ใครจะรู้ เครื่องโคลนนิ่งอาจเคยเกิดขึ้นจริงแล้วในอดีตก็เป็นได้ ? สะท้อนตัวแองเจียร์ ... การมีเครื่องนี้ขึ้น ทำให้หนังยิ่งเน้นความชัดเจนให้เห็นมากขึ้น ถึง ความพ่ายแพ้ตลอดเวลา ของ แองเจียร์ เพราะ มายากล คือ การใช้ความสามารถของนักมายากลที่จะทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เป็นไปได้ กลย้ายร่างของ แองเจียร์ คนที่คู่ควรต่อการได้รับเสียงปรบมือ คือ วิศวกรผู้สร้างเครื่องนี้ ไม่ใช่ตัวเขา และ เชื่อว่า เมื่อตอนที่เขารู้ความจริงก่อนตายว่า เบอร์เด้น ใช้ฝาแฝดมาเล่นกลนี้ มันคงยิ่งทำให้ในใจของเขาทรมานแสนสาหัสในช่วงลมหายใจสุดท้าย ทรมานกับ การที่พยายามทำทุกอย่าง ดิ้นรนเอาชีวิตคนรักเข้าแลก เสียสละชีวิตตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า เชื่อได้เลยว่า ยิ่งร่างใหม่จากการโคลนนิ่งเหมือนเดิมมากเท่าไหร่ ร่างที่เกิดมาใหม่ก็ยิ่งใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดกลัว เพราะไม่รู้ว่า ตัวเองคือคนที่จะตายหรือเปล่า เขาทุ่มเทเพียงเพื่อจะทำในสิ่งที่ดีกว่า ทั้งที่จริง เขานั้นชนะได้ตั้งแต่แรกแล้ว และ ทุกอย่างน่าจะจบตั้งแต่ตอนนั้น ทุกคนก็น่าจะไปมีชีวิตของตัวเองอย่างเปี่ยมสุข หากมิใช่เพราะการหมกมุ่นลุ่มหลงในการแก้แค้นและเอาชนะ เขากับเบอร์เด้นจึงต้องจ่ายตอบแทนชีวิตส่วนนี้อย่างเจ็บปวดแสนสาหัส แถมการที่ แองเจียร์ ถูกตอกย้ำในตอนจบที่รู้จาก คัตเตอร์ ว่า ชีวิตที่ตายไปด้วยการจมน้ำ ไม่ได้เป็นเหมือน การกลับบ้านอย่างที่ คัตเตอร์บอก แต่มันคือ ความทรมาน นั่นคือ ชีวิตของเขาที่จมน้ำหลังการแสดงครั้งแล้วครั้งเล่าจนตาย และ คือ ชีวิตที่ยังมีลมหายใจที่จมอยู่ในทะเลของความลุ่มหลง คำใบ้ที่หนังส่งให้ตลอดเวลา -หมวกมากมายตอนฉากเปิดตัว บอกเราแล้วว่า มีโคลนนิ่ง -แมวโผล่มาอีกรอบ ยิ่งยืนยันว่า โคลนแน่ๆ -แองเจียร์จ้างคนตาบอด เพราะ ไม่ต้องการให้เห็น การฆาตกรรมอีกร่างของตัวเอง -คัตเตอร์ บอกแต่แรกแล้วว่า กลย้ายร่างมีสองคน -เด็กที่นั่งดูมายากลตอนต้น ก็บอกคนดูเหมือนกันว่า นกมีสองตัว (และอีกตัวคือพี่น้อง) -นักมายากลจีน บอกทางอ้อมถึงแนวทาง การสละชีวิตเพื่อเล่นมายากล -ภรรยาเบอร์เด้น ใบ้หลายหน ว่าคนที่เธอเห็นเป็นคนละคนกัน ขอฝาก หนังสือเล่ม 5 ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" จ้า (ตามร้านหนังสือทั่วไทย หลังสงกรานต์นี้) อ่านจบแล้ว ชวนมาคุยกันที่นี่ครับ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=18 และ ความเห็นของ เพื่อนผู้อ่านที่อ่านจบแล้ว และสละเวลาเขียนถึง //blogs.lumamagic.com/?p=1957 หนังสือ 4 เล่มก่อนหน้าที่ว่าด้วย 'ภาพยนตร์ - จิตวิทยา - พัฒนาตัวเอง(self - development)' ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" สำหรับเพื่อนๆที่เล่น FaceBook หรือ Twitter ณ.บัดนาว "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ขยายสาขาเรียบร้อยแล้วจ้า ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป   Create Date : 13 พฤศจิกายน 2549 96 comments Last Update : 9 พฤษภาคม 2553 13:07:35 น. Counter : 19561 Pageviews. Share Tweet

ผมเห็นแค่ David Bovy ล่ะครับ.. ไม่ยักกะเห็นกอลลั่มกับสาวโคโยตี้ เหอๆๆ... ผมชอบหนังเรื่องนี้ตั้งแต่เฉลยกลทำให้นกหายไปแล้วล่ะครับ หลังจากนั้นนี่คือความมหัศจรรย์เลยล่ะ ติอย่างร้ายแรงตรงที่ทอดทิ้งสการ์เลตต์อย่างไม่ไยดีได้ลงคอ ถ้าทิ้งกันแบบนี้ไปหาคนอื่นมาเล่นบทนี้ดีกว่า - -*   โดย: nanoguy (nanoguy ) 13 พฤศจิกายน 2549 3:32:54 น.

มีคนเชียร์ทั้งเรื่อง The Village Album แล้วก็มามีเรื่องนี้อีก เง่อ..ทำไงดีน้อเนี่ย เหอๆ ลาพักร้อนซะดีมั้ยตรู ไปดูเปนชู้กับผีมาแล้วค่ะ เดี๋ยวคลิกไปอ่านก่อน   โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 13 พฤศจิกายน 2549 10:26:31 น.

ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ ดูไปแล้ว 2 รอบอยากดูอีกรอบอะ เราว่า ฮิวจ์ แจ๊คแมน แสดงได้ดี ชอบตอนที่แองเจียร์อ่านบันทึกของเบอร์เดนแล้วได้รู้ว่าบันทึกที่ได้มาไม่ใช่คำเฉลยของกลที่แท้จริง สายตาของแองเจียร์ตอนนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความแค้น แถมน้ำตาไหลอีกต่างหาก ประทับใจมากเลยค่ะ   โดย: หนูนวลกวนโอ๊ย IP: 203.146.6.86 13 พฤศจิกายน 2549 11:47:45 น.

+ แปะๆๆ ขอปรบมือดังๆ คุณ จขบ. อีกครั้งครับที่เขียนซะจนทำให้ผมเข้าใจในความ 'ลึก' ของหนังเรื่องนี้มากขึ้นอีกพอสมควรเลย อาจเป็นเพราะเดิมผมมัวแต่ตะลึงตึงตึงไปกับเปลือกนอก (ภาพมายากล) ที่ได้เห็น จนไม่ทันได้มองถึงการพัฒนาจิตใจของตัวละครเอกทั้ง 2 ก็เป็นได้ ... + ผมชอบงานของ คริสโตเฟอร์ โนแลนมาทุกงาน จัดว่าเป็น ผกก. ที่สามารถเล่นกับ 'ด้านมืดในใจมนุษย์' และกำกับบทที่สลับซีเควนซ์ไปมาได้ดีมากๆ คนหนึ่ง Memento : ดูไปรอบเดียว พอจับใจความได้ ... แต่ชอบสไตล์การเล่นรีไวด์ซีเควนซ์หนัง เท่ห์จัง , Insomnia : เหมือนจะนิ่งๆ เรียบๆ แต่ผมชอบภาพรวมๆ ของหนัง ... โดยเฉพาะประเด็นการเล่นกับอาการนอนไม่หลับ (insomnia) + การนอนผิดที่ในอลาสกา กับความผิดบาปในใจของตัวเอก ทำให้เค้าไม่สามารถข่มตาหลับได้สนิท, Batman begins - เป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ ที่ดูมี 'อะไร' และมีที่มาที่ไปมากกว่าแค่ดูเอามันส์ + ดาราอีกคนที่ผมชอบในฝีมือ ก็คือคริสเตียน เบลล์ ... ไม่น่าเชื่อว่าดาราเด็กจาก Empire of the sun จะโตขึ้นมาพร้อมกับรูปลักษณ์โดดเด่นและฝีมือจัดจ้านได้ขนาดนี้ ตอนนั้นผมดู Batman begins แล้วถัดมาอีกอาทิตย์ 2 อาทิตย์ก็ได้ดูเค้าอีกครั้งใน The machinist (ซึ่งเล่นไว้ก่อนล่วงหน้าปีนึง) ... ทึ่งไปเลยที่เค้าสามารถทำตัวเองให้ผอมโกรกเป็นผีตายซาก แล้วก็ขุนตัวเองให้กลับมาล่ำได้อีกครั้ง ... โห ทุ่มกับบทสุดตัวจริงๆ แฮะ + เห็นด้วยว่าบทผู้ช่วยสาวของสการ์เล็ตนั้นไม่ค่อยมีบทบาทกับหนังมากนัก จนเหมือนกับจะเอาใครมาเล่นก็ได้ ... แต่ถ้าเค้าเลือกคนที่หน้าตาไม่ค่อยดึงดูดมาเล่น ก็อาจเสียลูกค้าบางกลุ่มได้อ่ะครับ ก็เลยเลือกนู๋สการ์เล็ตดีฝ่า อิๆ + อุๆ ... เดวิด โบวี่ = นิโคลา เทสลา (อ้างอิงจากนักวิทยาศาสตร์ที่มีตัวตนและผลงานจริงๆ ในประวัติศาสตร์ เป็นผู้ค้นพบอะไรสักอย่างเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าเนี่ยแหละ เพราะมีหน่วยวัดที่ชื่อ 'เทสลา' ด้วย) สาวโคโยตี้ (ไปเปอร์ พีราโบ) = ภรรยาแองเจียร์ ตอนต้นเรื่อง .. ผมชอบเธอตั้งแต่เรื่องนั้นแล้ว คนอะไรน่ารักจัง แต่หลังจากนั้น ทำไมเรื่องถัดๆ มา ถ้าไม่แป้ก เธอก็จะได้แต่บทรองๆ ก็ไม่รู้สิ - -' กอลลั่ม (แอนดี้ เซอร์คิส) = ผู้ช่วยของเทสลา + คุณ จขบ. เขียนด้วยสไตล์ที่สอดคล้องกับตัวหนังอีกเช่นเคยนะครับ ... แหม มีช่วง The pledge, The turn, The prestige ด้วย อิๆ ... แถมยังมีช่วงแถมท้ายด้วย tricks or treat ... เอ๊ย tips and tricks อีกตะหาก *** Spoiler alert *** + ตอนท้ายสุดที่ คัตเตอร์ (ไมเคิล เคน) กลับใจมาช่วยบอร์เด้นแทนแองเจียร์ นั่นเป็นเพราะเค้ารู้สึกว่าแองเจียร์ ใช้กลโกง และ ชั่วร้ายเกินกว่าที่เค้าจะสามารถร่วมมือได้อีกต่อไป รึเปล่าอ่ะครับ? ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นเค้าอยู่ฝ่ายแองเจียร์มาโดยตลอด + ที่ผมเขียนไว้ที่ 'หน้าแรก' เปรียบเปรยถึงรถไฟเหาะตกรางนั่น ... คงเป็นเพราะผมคาดหวังกับกับ ผกก. คนนี้ไว้มาก แล้วหนังก็สามารถ 'thrill' ผมให้รู้สึกเหมือนตอนนั่งรถไฟเหาะ ... แต่พอตอนเฉลยกลย้ายร่างของทั้งคู่ ... กลของบอร์เด้นนั้น ผมดันไปคิดตั้งแต่ตอนแองเจียร์ใช้คนหน้าเหมือนแล้วว่า ... เกิดบอร์เด้นมีคู่แฝดล่ะ ... ส่วน 'ศาสตร์การแยกร่าง' ของแองเจียร์ที่อาศัยเครื่องมือของเทสล่านั้น ผมก็ตงิดๆ มาตั้งแต่ กองพะเนินของหมวก และโคลนนิ่งแมวอีกหลายตัวนอกบ้านนั่นแล้วว่า อ้ายเครื่องมือนี้มันเครื่องโคลนนิ่งชัดๆ ... แต่ทีเนี้ยะ เราไม่รู้ว่า แองเจียร์คนไหนเป็นตัวต้นแบบ หรือตัวไหนเป็นก๊อปปี้โคลนนิ่งเนี่ยดิครับ (แต่ถ้าแองเจียร์ฉลาดพอ ตัวจริงก็น่าจะเป็นตัวที่โผล่หน้าแหลมออกมาในฉากสุดท้ายของเรื่องนะ) ... แต่เค้าก็โหดจังนะที่สามารถฆ่าทิ้งตัวโคลนนิ่งได้อย่างเลือดเย็นโดยไม่รู้สึกอะไร   โดย: บลูยอชท์ IP: 202.69.140.233 13 พฤศจิกายน 2549 12:00:33 น.

ตามมาจากพันทิป อ่านแล้วชอบฝีมือบทความของคุณมากครับ^^/   โดย: แมวช่า IP: 58.9.77.229 13 พฤศจิกายน 2549 12:14:33 น.

ไว้ไปดูแล้วจะกลับมาอ่านอีกรอบนะ   โดย: หอมกร 13 พฤศจิกายน 2549 12:44:29 น.

Are you watching closely จริง ๆ ค่ะ หนังเรื่องนี้ต้องดูให้ดี สังเกตให้ดี อ่าน "หนังสือรัก" ของคุณจบแล้วนะคะ ชอบตรงที่ว่าสามารถโยงในตอนท้ายของหนังเรื่องก่อนหน้าให้เชื่อมกับหนังเรื่องถัดไปได้อย่างเข้ากั๊น เข้ากัน อีกอย่าง .. อ่านจบแล้วน่าชวนให้ตามล่าหา "The Wedding" มาอ่านโดยพลัน วันก่อนก็เห็นทีนึงแล้ว ลังเลว่าจะซื้อดีไม่ซื้อดี คราวหน้าหากเจอะต้องคว้ามาซะแล้วค่ะ ขอบคุณหนังสือดี ๆ ที่เขียนให้อ่าน เชียร์ให้ได้ตีพิมพ์เล่มต่อไปค่ะ (ชัวร์ ๆ แน่ใจได้เลย)   โดย: Tai-Sarunya (Tai-Sarunya ) 13 พฤศจิกายน 2549 13:25:38 น.

ตามมาอ่านจากลิ๊งค์ครับ เขียนได้ดีจริง ๆกำลังอยากอ่านวิจารณ์หนังเรื่องนี้อยู่พอดีเลย   โดย: job IP: 202.57.132.197 13 พฤศจิกายน 2549 13:35:21 น.

ชอบหนังเรื่องนี้มาก ๆ ครับ .... ดู ๆ ไป พอที่จะเดาเรื่องได้ ... อยากบอกว่า นี่เป็นหนังในรอบหลาย ๆ เดือน ที่ดูแล้วคุ้มค่าตั๋วหนังที่สุด ชอบสุด ๆ แม้ใบปิดหนังจะดูไม่ค่อยน่าดึงดูดไปดูหน่อย แต่เนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่องแล้ว เยี่ยมสุด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ 5 ดาวไปเลยครับ   โดย: ... กระซิบรัก จากความทรงจำ ... (... กระซิบรัก จากความทรงจำ ... ) 13 พฤศจิกายน 2549 13:48:06 น.

สาวโคโยตี้ ก็ "ไพเพอร์ พีราโบ" งัยครับ รับบทเป็นภรรยาของแองเจียร์   โดย: Coyote really ugly IP: 168.120.13.241 13 พฤศจิกายน 2549 15:11:55 น.

กำลังรอบทวิจารณ์เรื่องนี้ของคุณ"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"พอดีเลยครับ   โดย: แค่คนขมๆคนหนึ่ง IP: 202.183.129.2 13 พฤศจิกายน 2549 15:55:19 น.

ดูหนังจบแล้วชอบมากๆเหมือนกัน กะแล้ว ว่าเป็นอีกเรื่องที่เข้าทาง คุณ สงสัย คนที่อยู่ตอนนี้ เป็น เบอร์เด้น รึว่า ฟอลลอน กันแน่ ฉาก เบอร์เดน รู้ความจริง ว่า แองเจียร์ ยังไม่ตาย ดูเค้าเป็นห่วง ลูกสาวมากๆๆ งั้นคนที่อยู่ตอนนี้ คือฟอลลอน งั้นหรือ ผมจำคำพูดตอนท้าย ที่เบอร์เด้น(รึฟอลลอน)คุยกับแองเจียร์ ไม่ได้ เลยไม่แน่ใจ ว่าใครกันแน่ ที่รักซาร่า และใครที่รัก โอลิเวียร์ อีก1คำถามที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ คนที่ออกหน้ามาปะทะกับแองเจียร์ทุกครั้ง เป็นเบอร์เดน์ คนเดียว รึว่า สลับตัวไปมา กับ ฟอลลอน ด้วย เพราะฉากจบ คนที่อยู่ ดูมีความแค้น มีอะไรในใจมากมายเหมือนกับว่า เป็นเบอร์เดนจริงๆ ทั้งที่เบอร์เด้นน่าจะตายไปแล้ว อีก1คำถาม กับประเด็นเดิม คนที่พูดว่าเราแพ้แล้ว เป็นใคร เบอร์เดน รึ ฟอลลอน คำตอบของคำถามสุดท้าย จะโยงไปถึงว่า ใครกันนแน่ที่ถูกแขวนคอ   โดย: จอมผีดิบมันตรัย IP: 203.188.2.206 13 พฤศจิกายน 2549 20:00:05 น.

พอไปดูหนังเสร็จก็รีบมาเปิดบล็อกนี้ก่อนเลยค่ะ ดีใจจังที่บทวิจารย์มารออยู่แล้ว คิดเหมือนกันเลยว่าจะบอกทุกๆคนที่เจอว่า กำเงิน100กว่าบาทไปดูหนังเรื่องนี้เถอะ เพราะตัวดิฉันเองต้องอาศัยช่วงแม่มาจากตจว.ขอให้ท่านช่วยเลี้ยงลูกสัก 2-3 ชม.เพื่อไปดูหนังเรื่องนี้ พอกลับมาถึงกะเข้าไปกอดท่านบอกว่า "แม่รู้ไหม แม่ได้ช่วยมอบเวลาดีๆให้หนูอย่างนึกไม่ถึงเลย"   โดย: LuckyMoby 13 พฤศจิกายน 2549 20:54:23 น.

ลืมบอกจขบ.ไป...ว่า ซื้อหนังสือแล้วนะคะแต่ยังอ่านได้ไม่ถึงไหนเลย อ่าน in her shoes ก่อนเพราะเพิ่งดูทางดีวีดี   โดย: LuckyMoby 13 พฤศจิกายน 2549 20:57:01 น.

ข้าน้อยขอคารวะ ไปดูมาก่อน...แล้วมาอ่าน กระจ่างแจ้ง...เลยครับ   โดย: pnottimez 13 พฤศจิกายน 2549 21:03:15 น.

คิดถึงเพลงนักมายากลของ Paradox เหมือนกัน สุดท้ายแล้วคนรักของนักมายากลก็หายไป เหลือแต่ความว่างเปล่า   โดย: ทินา IP: 58.136.208.97 13 พฤศจิกายน 2549 22:59:09 น.

Are you watching closely? No ค่ะ ตอนแรกก็ว่าตั้งใจดูแล้วนะ แต่สงสัยตั้งใจมากไปเลยมอง clue ที่หนังให้มาแบบผ่านๆ ก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมเบอเดนถึงเป็นห่วงเป็นใยฟอลคอนจัง(ฟะ) แต่ไม่ทันได้นึก มัวแต่งงกับการตัดไปมาของหนัง -_- ตอนจบก็เลยอึ้งๆพอสมควร ก็ดีค่ะ รู้สึกเหมือนไม่เสียอรรถรสใดๆ เพราะไม่ได้ watch closely 555 ...สงสารผู้หญิงในเรื่องอ่ะ เวลาผู้ชายแข่งขันกันนี่น่ากลัวจัง ปล. ตอนที่ดูเราเชียร์เบอร์เดนมากกว่าแฮะ   โดย: นางาเสะจัง IP: 221.128.88.233 13 พฤศจิกายน 2549 23:22:05 น.

เห็นเป็นเช่นนี้ เหมือนกันครับ   โดย: mrvee IP: 203.147.59.153 14 พฤศจิกายน 2549 1:27:09 น.

Infernal Affair ว่าเจ๋งแล้ว หนังเรื่องนี้ยิ่งกว่า... ต้องดู-ต้องดู   โดย: ShadowServant 14 พฤศจิกายน 2549 1:59:41 น.

ตา คริสเตียน เบล เล่นเรื่องไหนก็ออกมาเป็นอย่างนี้ทั้งนั้นน่ะค่ะ อิอิ (ก็ชอบนะ) เราคิดว่า หนังเรื่องนี้ เกี่ยวกับ “มายากล” อย่างที่สุด ตอนจบ มีเสียงอธิบาย พร้อมภาพ เบอร์เด้นฆ่าแองเจียร์ แล้วเดินจากไป ว่า ผู้ชมมายากลไม่ต้องการรู้ความจริง ทำนองนั้น เต็มใจให้หลอก จากนั้นก็ฉายไปที่แองเจีย ยืนแอบดูการฆ่ากันอยู่ การฆ่ากันครั้งนี้ คือมายากลครั้งสุดท้าย ที่ทั้งสองจะแสดง, แข่งกัน โดยที่ต่างก็รู้ดี ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตายจริง อืม   โดย: มะเขือเทศน้อย IP: 213.42.21.77 14 พฤศจิกายน 2549 5:42:30 น.

คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ? ตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆ แต่ก็ยังจับกล(หนัง)ไม่ได้หลายๆๆๆกล [ดูจบค้างที่ The turn] โชคดีคนที่ไปดูด้วยฉลาดปราดเปรื่องสุดๆๆๆ จึงทำให้เราสามารถมาถึงขั้นตอนที่สาม "The Prestige"ได้ [นำสิ่งที่ทำหายไป(เพราะไม่เข้าใจ)ในตอนต้น กลับคืนมาให้ผู้ชม(เรา)ได้เห็นว่า มันยังไม่หายไปไหน(เพราะเราเข้าใจว่ามันคืออะไร] ขอบคุณจริงๆ นอกจากการเล่า หนังกล ซ้อน กลหนัง แล้ว หนังทำให้เห็นว่า กิเลสบังตาเป็นยังไง เพราะหลายอย่างที่ตัวละครน่าจะเห็นได้ไม่ยากเลย แต่กลับมองไม่เห็นซะงั้น[อย่างที่คุณผมอยู่ข้างหลังคุณเขียนไว้ในคู่มือเฉลยกล] ซึ่งก็เป็นธรรมดาของมนุษย์ เมื่อเจอความกดดันภายนอก+ภายในจิตใจ(สำคัญมากกว่า)เมื่อไหร่ กิเลส(ของใครของมัน)บังตาทุกทีไป จนมองไม่เห็นความจริง ความงามที่มีอยู่จริง(ในตัวเอง) จึงต้องไปไขว่คว้าสิ่งนอกตัวไม่สิ้นสุดเรื่อยๆๆไปเพื่อเอาชนะ ยิ่งอยากชนะ ก็เหมือนยิ่งแพ้ เน้น เหมือนยิ่งแพ้ (อาจไม่ได้แพ้จริง) ซึ่งแท้จริงแล้วผู้ที่ชนะ ก็คือ คนที่วางกิเลสบังตา(ตัวเอง)ได้ก่อน เพราะจะมาถึงขั้นที่ 3 The Prestige ก่อนนั่นเอง คือนำสิ่งที่ทำหายไป(การมองเห็นคุณค่าตัวเอง)ในตอนต้น กลับคืนมาให้ผู้ชม(ตัวเอง)ได้เห็นว่า มันยังไม่หายไปไหน(คุณค่าในตัวเอง) เอวัง ด้วยประการฉะนี้ ปล.คุณผมอยู่ข้างหลังคุณ เขียนได้ดีเยี่ยม ไอเดียเป็นเลิศค่ะ นับถือ นับถือ   โดย: The Pleasure IP: 58.9.156.45 14 พฤศจิกายน 2549 17:37:47 น.

เยี่ยมเลยครับ ... ว่าแต่เจอแต่น้องโคโยตี้กับกอลั่ม ... "เดวิด โบวี่" นี่ใครไม่รู้ง่ะครับ   โดย: Oatta (SF-The KOP ) 14 พฤศจิกายน 2549 22:12:14 น.

อืม ผมกลับมองว่า มีเบอร์เด้น แฝดที่บุคลิกไม่เหมือนกันซะอีก 1 คนเลว ชอบเล่นเสี่ยง คือคนที่ตั้งใจผูกเงื่อนตาย คนที่ชอบ scarlet และ เป็นคนที่ในตอนท้าย ก้อคือคนที่อยู่ในคุก โดนแขวนคอตาย 2 คนดี เป็นสามีของ olivier และเป็นคนที่ในตอนท้ายก้อไปฆ่า แองเจียร์ซะ แหะ ๆ ไม่รู้จะคิดง่ายไปหรือเปล่า แต่ว่า หลายครั้งที่ฟัง olivier พูดว่า วันนี้คุณพูดจริง ( คนดี ) วันนี้คุณโกหา ( คนไม่ดี ) และทำให้ผมคิดว่า เบอร์เดนคนดีเท่านั้นที่จะไปงานศพของ olivier แล้ว บอกกับ แองเจียร์ว่า เขาไม่รู้ ไม่รู้ ไม่รู้ ( ไม่ใช่ไม่มั่นใจ ) how could you not know ?   โดย: MTO IP: 124.120.198.86 17 พฤศจิกายน 2549 6:26:42 น.

เอ่อ ประโยคข้างบนผมหมายถึงตอนที่ แองเจียร พูดกะ เบอร์เด้นคนดี ฉากงานศพของ olivier นะครับ ขอบคุณ blog นี้กับคนเขียนมาก ผมชอบ style การเขียน ของคุณครับ   โดย: MTO IP: 124.120.198.86 17 พฤศจิกายน 2549 6:28:37 น.

ดูแล้วชอบค่ะ สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ ลุ้น ได้ใช้หัวคิดตามหนังไปด้วย ดูจบแล้วก็ โห ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เยี่ยมจริงๆ เห็นด้วยว่าเป็นหนังที่เล่นกับบทได้เยี่ยม เช่นเดียวกับ Infermal affair ( แต่ยังแอบเทใจให้พี่เหลียง มากกว่า ) ชอบ memento มากกว่า แต่เรื่องนี้น่าจะเข้าถึงคนดูได้มากกว่า และเข้าใจได้ง่ายกว่ากันเยอะค่ะ   โดย: boomba IP: 203.156.185.37 17 พฤศจิกายน 2549 15:18:46 น.

ดูไปเกือบอาทิตย์แล้ว กว่าจะได้เข้ามาอ่านบล๊อคพี่ T-T ชอบคริสเตียนในเรื่องนี้มากค่ะ อินกับสายตาของเค้าเป็นพิเศษ มัน .. สื่ออะไรออกมาเยอะแยะไปหมด * อ่านหนังสือพี่จบแล้ว กำลังสงสัยว่าเล่มที่มีอยู่เนี่ย เป็นเล่มเดียวในโลกหรือเปล่า =D   โดย: Abstract Life IP: 125.25.147.210 17 พฤศจิกายน 2549 15:38:32 น.

ชอบมากมายค่ะ นอจากหนังจะเข้าทางตัวเองสุดๆแล้วยังชอบอีกหลายๆอย่างในเรื่องนี้ ชอบที่หนังมีความ"ลึก"และความ"หนักแน่น" ชอบอารมณ์และประเด็นที่ต้องการสื่อทั้งความไม่รู้ ความหลอกลวง และความลุ่มหลง เหมือนการเฝ้าดูมายากลที่แสนจะตื่นตาตื่นใจ อยากรู้โชว์ถัดๆไปว่าจะมีอะไรให้ดู และ ทำให้คนดูต้องขบคิดตลอดเวลาว่า สิ่งที่เห็นไปเมื่อกี้ แท้จริงแล้ว นักมายากล(หนัง)หลอกเราอย่างไร --> พี่เขียนประโยคนี้ได้ตรงใจมากๆค่ะ ชอบคริสเตียน เบลล์มากกว่าฮิวจ์ แจ็คแมนเหมือนกันค่ะ ทั้งๆที่ไม่เคยดูหนังของทั้งคู่มาก่อนเลย แต่ดูไปเรื่อยๆก็เริ่มเอนเอียงเข้าข้างเบอร์เดนมากกว่า อยากดูมายากล(แบบนี้)อีกจัง   โดย: azzurrini 17 พฤศจิกายน 2549 18:59:09 น.

จ่ายค่าบริการ 1 คอมเม้นท์ค่ะ เพิ่งไปดูเรื่องนี้มาก็เลยตามเข้ามาอ่านวิจารณ์ค่ะ เขียนได้ดีเลยค่ะปรบมือให้เลย สำหรับหนังเรื่องนี้ส่วนตัวกลับคิดว่าไม่ได้หักมุมอะไรมากมาย เพราะเหมือนหนังพยายามทิ้งร่องรอย ทิ้งสัญลักษณ์ไว้เต็มไปหมด ทั้งเรื่องนักมายากลปลาทอง เรื่องนกที่มีหลายตัว ตอนแรกเข้าไปดูก็กะตั้งใจดูเต็มที่ ก็เค้าว่า "Are you watching closly?" นี่นา แถมเพื่อนก็ไซโคไว้ว่าเป็นหนังหักมุม แต่พอดูๆไปก็คิดได้ว่า มาจ้องอย่างงี้ก็หมดสนุกสิ ก็เลยปล่อยวาง ดูไปตามสบายแต่สุดท้าย ถ้าสมาธิไม่สั้น ไม่งงกับการตัดต่อสลับฉาก ก็จับทางเนื้อหาได้ไม่ยาก จนกลางๆเรื่องก็เริ่มเดาตอนจบได้แล้ว ยิ่งพอฉากก๊อปปี้แมว กับหมวกออกมา ก็เดาได้จบเลย (แต่แอบอึ้งนิดหน่อย ว่าตกลงจะให้ก๊อปปี้ได้จริงๆเลยรึ) ดูหนังเรื่องนี้ก็เหมือนดูมายากล เวลาเฉลยมายากล เราจะพบว่ามันคือความจริงที่เรียบง่ายที่สุดนั่นแหละ นกไม่มีวันหายตัวไปได้ เพราะฉะนั้น นกที่โผล่กลับมาใหม่ล่ะ..... ก็ต้องเป็นนกอีกตัวน่ะสิ   โดย: ouiya IP: 58.8.127.157 18 พฤศจิกายน 2549 5:33:10 น.

อีกนิดนึงสิ่งที่ชอบในเรื่อง -การตัดต่อ ไม่ทำให้งงเลย ทั้งที่ตัดต่อโดดไปมา ต้นเรื่องบ้าง กลางเรื่องบ้าง ท้ายเรื่องบ้าง สามารถทำให้คนดูติดตามได้โดยไม่งงว่า ตอนนี้กำลังอยู่ที่ช่วงไหนของเรื่อง หนังหลายๆเรื่องที่จงใจตัดฉากเพื่อให้คนดูงง แบบนั้นจะไม่ค่อยชอบค่ะ (เหมือนขี้โกงนี่หว่า) เรื่องตัดต่อ ลำดับภาพนี่ ชอบมาตั้งกะ memento แล้ว - การแสดงของตัวละคร แองเจียร์ มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงตลอดเรื่อง เป็นส่วนนึงด้วยค่ะ ที่ทำให้ไม่สับสนเลยว่าเรากำลังอยู่ที่ช่วงเวลาไหนของเรื่อง เพราะบุคลิกของแองเจียร์จะบอกช่วงเวลาของเรื่องอย่างชัดเจน ส่วนบทเบอร์เดน ถ้าเปรียบแองเจียร์เป็นการแสดงออกที่ชัดเจน เบอร์เดนก็เป็นการแสดงออกแบบแอบแฝงทีละน้อย ช่วงที่เริ่มสังเกตได้ว่าเบอร์เด้นมีสองคน (หลังจากฟอลคอนโดนแองเจียร์กับคัตเตอร์จับใส่ใส่กล่องตอกตะปูปิดฝา) ก็จะเริ่มสังเกตได้ถึงการแสดงที่แฝงความแตกต่างเล็กๆน้อยๆเวลาที่สลับตัวกัน - มายากล ช่วงนึงที่ดู จะลืมไปเลยว่าดูหนัง เผลอคิดตามว่าเบอร์เดนจับกระสุนได้ยังไง หายตัวได้ยังไง ทั้งๆที่ถ้าคิดว่ามันเป็นหนัง มันจะหายตัวยังไงจับกระสุนยังไงก็ทำได้ แค่ตัดต่อ แต่หนังก็สามารถรักษาเสน่ห์ของมายากลไว้ได้จนลืมว่ามันเป็นแค่หนังไปช่วงนึง (ก็จนเครื่องก๊อปปี้ก๊อปแมวออกมานั่นแหละ เลยทำให้มายากลหายไปกลับมาเป็นหนังใหม่)   โดย: ouiya IP: 58.8.127.157 18 พฤศจิกายน 2549 5:37:15 น.

จ่ายเงินให้ครับ   โดย: ออฟ IP: 203.188.7.143 19 พฤศจิกายน 2549 1:14:49 น.

ขอคารวะคุณผมอยู่ข้างหลังคุณ หนึ่งจอกใหญ่ๆเลย คุณเปิดประเด็นอันเนื่องมาจากหนังได้ดีมาก หลังจากเปิดประเด็นคุณก็ตอบข้อสงสัยอันเนื่องมาจากประเด็นได้ครบถ้วน อ่านงานวิจารณ์คุณแล้วรู้สึกตัวเองกระจ่างในความรู้สึกหลังดูหนังเรื่องนี้จบขึ้นเยอะมากๆ (อ่านแล้วงงๆนะ) แต่คือ หลังดูจบ เราคิดว่า หนังมันไม่จรรโลงใจเลย เพราะมันทำให้เราหดหู่เหมือนโลกนี้ไม่มีใครดีเลย อยากเอาชนะจนมองไม่เห็นคนรอบข้าง ไม่สนใจอะไรอีกต่อไป แต่เรา develop ปมประเด็นจากหนังต่อมาไม่ได้ แล้วก็พาลอึดอัดอยู่นาน อาจจะเพราะไม่มีคนคิดละเอียดๆอย่างคุณมาคุยด้วยก็เป็นได้ ขอบคุณนะคะ ตาสว่างสุดๆไปเลยนะเนี่ย :)   โดย: other places IP: 24.125.186.154 19 พฤศจิกายน 2549 15:17:13 น.

แวะมาอ่านหลังจากที่ได้ดูแล้วค่ะ แต่เรายังชอบ Memento มากกว่านะคะ   โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 20 พฤศจิกายน 2549 13:40:14 น.

ขอบคุณมากครับ ผมมีข้อสงสัยครับ 1.แองเจียร์ รู้ ว่าเบอร์เด้น มีน้องชาย ก่อนที่จะเป็นหานักประดิษฐ์ เครื่องกำเนิดพลังงาน ใช่ไหม? 2. แล้วทำไมถึงยอมปล่อยให้น้องชายของเบอร์เด้น กลับมาแก้แค้นได้ ในตอนท้าย?   โดย: CHAT156 (chat156 ) 20 พฤศจิกายน 2549 23:12:37 น.

chat156@hotmail.com รบกวนด้วยครับ   โดย: chat156 20 พฤศจิกายน 2549 23:14:16 น.

3.แองเจียร์ รู้ ได้อย่างไรว่าจะต้องเป็นหานักประดิษฐ์ เครื่องโคลนนิ่ง เพราะ note จากเบอร์เด้น ใช้ใหม? 4..แองเจียร์ รู้ ความลับ ของเบอร์เด้น ก่อนที่มาหานักประดิษฐ์ เครื่องโคลนนิ่ง (ผมจำ ตอนที่ แองเจียร์พบกับผู้ช่วยนักประดิษฐ์ แล้วส่ง note ของเบอร์เด้น พร้อมกับบอกว่าผมรู้ความลับของคู่แข่งแล้ว )?   โดย: chat156 20 พฤศจิกายน 2549 23:28:29 น.

^ ^ *** Spoiler alert *** (สนทนากับคุณ chat156) : อืม ... สารภาพว่าผมก็เก็บรายละเอียดไม่ค่อยทันเหมือนกันนะครับ เอาเป็นว่ามาถกกันหนุกๆ ตามเหตุผลและสิ่งที่แต่ละคนเห็นจากหนังก็แล้วกัน ข้อ 1+2 : ผมคิดว่าแองเจียร์ไม่น่าจะรู้มาก่อนว่าเบอร์เด้นมีน้องชายฝาแฝด ไม่งั้นคงไม่น่าปล่อยให้เรื่องล่วงเลยมาจนถึงตอนท้าย จนตัวเอง(หรือตัวโคลนนิ่ง?) พลาดท่าเข้าจนได้ ... ส่วนเครื่องโคลนนิ่งนั้น ก็น่าจะเป็นการค้นพบโดยบังเอิญ ไม่ได้ตั้งใจที่จะหาเครื่องแบบนี้มาก่อน ... แบบว่าบังเอิญเดินออกมาจากบ้านเทสลา แล้วเจอก๊อปปี้ของหมวกและแมวเหมียว ถึงได้รู้อ่ะครับ ส่วน ข้อ 3+4 : ผมตามไม่ทันจริงๆ ครับ เค้าแกะโน้ตรหัสลับของเบอร์เด้นออกทั้งหมดจริงๆ หรือว่ากำลังถูกหลอกให้หลงทางอยู่ แหะๆ แบบนี้แสดงว่าผมก็ยัง watching closely ไม่พอนะเนี่ย   โดย: บลูยอชท์ IP: 202.69.140.233 21 พฤศจิกายน 2549 10:44:11 น.

*** Spoiler alert *** เช่นกันค่ะ ตอบคำถามคุณ chat156 ตามที่เข้าใจแล้วกันนะคะ 1.แองเจียร์ รู้ ว่าเบอร์เด้น มีน้องชาย ก่อนที่จะเป็นหานักประดิษฐ์ เครื่องกำเนิดพลังงาน ใช่ไหม? ลอกคำตอบคุณบลูยอชท์ค่ะ อิอิ ไม่น่าจะรู้ เพราะตอนที่โดนแฝดตามมาเก็บ แองเจียร์ดูตกใจมากๆ 2. แล้วทำไมถึงยอมปล่อยให้น้องชายของเบอร์เด้น กลับมาแก้แค้นได้ ในตอนท้าย? อ้างอิงจากข้อ 1 เพราะไม่รู้ว่ามีแฝดค่ะ 3.แองเจียร์ รู้ ได้อย่างไรว่าจะต้องเป็นหานักประดิษฐ์ เครื่องโคลนนิ่ง เพราะ note จากเบอร์เด้น ใช้ใหม? แองเจียร์ไปตามหาเทสลาเพราะโน้ตของเบอร์เดน แต่เราเข้าใจว่าไปหาเพราะคิดว่าเทสลาประดิษฐ์เครื่องย้ายมวลสารได้ ไม่ใช่เครื่องทำสำเนาค่ะ 4..แองเจียร์ รู้ ความลับ ของเบอร์เด้น ก่อนที่มาหานักประดิษฐ์ เครื่องโคลนนิ่ง (ผมจำ ตอนที่ แองเจียร์พบกับผู้ช่วยนักประดิษฐ์ แล้วส่ง note ของเบอร์เด้น พร้อมกับบอกว่าผมรู้ความลับของคู่แข่งแล้ว )? ตรงนี้เข้าใจว่าแองเจียร์โดนเบอร์เดนหลอกให้ไปหาเทสลา (ออกนอกประเทศไปไกลๆ) ด้วยการใช้คำว่า เทสลา เป็นโค้ดในการถอดรหัสไดอารี่ซึ่งก็เป็นการหลอกแองเจียร์ให้คิดไปว่า เทสลา ประดิษฐ์สิ่งของเพื่อกลย้ายร่างของเขาไปด้วย (ฉลาดเจงๆ) แองเจียร์จึงไปบอกคัตเตอร์ (วิศวกรประจำตัว) ว่ารู้ความลับของคู่แข่งแล้ว (แต่จริงๆ โดนหลอก) แหะๆ งงไหมคะเนี่ย   โดย: น้ำแข็งเคลือบน้ำตาล IP: 210.246.160.2 21 พฤศจิกายน 2549 13:46:18 น.

^ ^ มาเห็นด้วยกับคุณน้ำแข็งเคลือบน้ำตาลในเหตุผลของคำถามข้อ 3+4 ครับ ... อาจเป็นเพราะผมจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตามรายทางในหนังไม่ได้ทั้งหมด ก็เลยปะติดปะต่อเรื่องไม่ค่อยจะถูกเท่าไหร่ แต่พอคิดตามที่คุณน้ำแข็งฯ เขียนไว้ ก็นึกออกเลย ... น่าจะใช่ตามนั้นแหละครับ   โดย: บลูยอชท์ (อีกรอบ) IP: 202.69.140.233 21 พฤศจิกายน 2549 16:26:15 น.

คุณ น้ำแข็งเคลือบน้ำตาล และ บลูยอชท์ ขอบคุณมากครับ คำตอบ ข้อ 4 ของคุณ ทำให้หนังสมบูรณ์จริงๆ   โดย: chat156 IP: 20.139.250.201 22 พฤศจิกายน 2549 18:17:13 น.

แล้ว แอนเจียร์ ตอนสุดท้าย เป็นซากตัวโคลนที่ตายแล้ว หรือเขาทำสำรองไว้เผื่อตัวเองตาย หรืเป็นตัวเขายืนมองอยู่ แล้วเค้าจะตามแก้แค้นเบอร์เด้นอีกรึเปล่า ช่วยด้วยครับทุกคน ขอบคุณมากๆๆๆครับ   โดย: Brown Rice IP: 210.213.1.202 22 พฤศจิกายน 2549 22:07:06 น.

^ ^ ขอบคุณครับ คุณ chat156 สำหรับคำชม ... คำตอบข้อ 1-2 ของผมยังไม่ลึกซึ้งเท่าไหร่หรอกครับ ... แต่ข้อ 3-4 ของคุณน้ำแข็งเคลือบน้ำตาลตะหาก ที่ทำให้ผมเข้าใจตัวหนัง และประเด็นที่คุณสงสัย ปรุโปร่งขึ้นเยอะเลยอ่ะครับ ส่วนคำถามของคุณ brown rice ผมเองก็สงสัยเช่นกัน (เขียนไว้ในช่วงท้ายของ คห.#4 แล้ว) ... ซึ่งผมว่าหนังคงไม่ได้ตั้งใจเฉลยตรงจุดนั้นหรอกครับ คงอยากให้คนดูเก็บไปคิด(ให้หัวแตก)ต่อที่บ้านเองมากกว่าง่ะ   โดย: บลอทช์ยู IP: 202.69.140.233 23 พฤศจิกายน 2549 14:55:02 น.

ชอบมากเหมือนกันครับ ไม่รู้สิผมชอบตั้งแต่ต้นเลยนะ ไอ้เรื่องคดีความกับมายากลน่ะ มันไปด้วยกันไม่ได้อยู่แล้วอะครับ คือถ้าเฉลยเพื่อให้รู้ถึงคดี มายากลก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป   โดย: กุยโด้มอน IP: 58.8.73.77 24 พฤศจิกายน 2549 10:46:39 น.

ยินดีค่ะ ถ้าคำตอบจะช่วยเพื่อนๆ เข้าใจหนังสนุกๆ เรื่องนี้มากขึ้น สำหรับข้อสงสัยของคุณบลูยอทช์ เอ่อ บลอทช์ยู ตะหาก อิอิ และคำถามของคุณ Brown rice ต้องขอตัวไป watch more closely อีกหลายๆ รอบว่าเจ้าแองเจียร์ในตู้กระดุกกระดิกอ๊ะป่าว   โดย: น้ำแข็งเคลือบน้ำตาล IP: 210.246.160.2 24 พฤศจิกายน 2549 11:29:50 น.

- ช่วงแรกกลับไปกลับมาดูงง เลยไม่เนียนเท่า infernalaffairs นั่นอาจเป็นเพราะว่าคนแสดงเป็นคนเดียวกัน ในขณะที่ Infernalaffairs ตอนหนุ่มกับหนุ่มใหญ่ใช้คนละคนเล่นดูง่ายกว่า (ยกเว้นภาค 3 ที่งงมาก ๆ ภาคอื่นโอเคเลย) แต่พูดถึงความคมของเนื้อหาเรื่องนี้น่าจะดีกว่า - ความโหดร้ายต่างกัน รู้สึกเรื่องนี้ต้องปิดตาหลายที่ ส่วน infernalaffairs เป็นนักเลง ยิงทีเดียวก็ตาย แก้แค้นด้วยกระสุนอย่างเดียว โดยรวมดีค่ะ ควรไปดูอย่างยิ่ง   โดย: แม่คาปู IP: 203.144.184.61 24 พฤศจิกายน 2549 13:45:20 น.

เพิ่งไปดูมาวันนี้ค่ะ บังคับเพื่อนให้ไปดูด้วย 1 ชีวิตทั้งๆที่เพื่อนดูใบปิดหนังแล้วอิดออดไม่อยากดูเลย แต่ช่วยไม่ได้ค่ะเพราะเรารีบวิ่งไปจองตั๋วเลยขณะที่มันกำลังยืนอิดออดอยู่นี่ล่ะ โชคดีค่ะที่เข้ามาอ่านบล็อคนี้ก่อนนิดนึง (ตอนชั่งใจว่าจะไปดูหรือไม่ดูดี เพราะดูใบปิดแล้วไม่ทำให้อยากดูเอาซะเลย แต่พี่จขบ.เชีร์ซะขนาดนั้น ก็เลยต้องรีบลัดคิวมาดู กลัวมันจะออกก่อนด้วยค่ะ) และพอรู้มาว่าจบหักมุมนะ เราเลย watch closely ค่ะ เลยพอจับได้ คือมารู้สึกว่าต้องมีเบอร์เดนท์อีกคนแน่ๆก็จากตอนที่ฝังฟอลคอนน่ะค่ะ และเลยคิดย้อนหลังไปเลยถึงความสัมพันธ์กับโอลิเวียว่าทำไมโอลิเวียถึงคิดว่าวันนี้พูดจริงหรือไม่จริง และหลังจากนั้นก็จับมาตลอดจนมั่นใจแล้วว่ามี 2 คนจริงๆ แต่ไอ้เรื่องเครื่องโคลนนิ่งเนี่ย เราเพิ่งคิดตอนเห็นกองหมวกรอบที่ 2 อะค่ะ (รอบแรกตอนเปิดเรื่องเหมือนดูแล้วผ่านเลย เพิ่งมาฉุกคิดตอนได้ดูรอบ 2 เนี่ยแหล่ะว่าดูมาแล้ว) แต่เพื่อนเรามัน get ประเด็นแองเจียร์ก่อนเราค่ะ เพราะมันหันมาบอกว่าแองเจียร์ต้องฆาตกรรมตัวเองแล้วโยนความปิดให้เบอร์เดนท์แน่ๆ แต่พอพิมพ์มาอย่างงี้ เราเลยงงขึ้นมาว่า อย่างนี้แองเจียร์ตั้งใจให้เบอร์เดนท์มาเจอเหตุการณ์นี้ใช่มั้ยคะ เพราะดูตอนแรกเราคิดว่าเบอร์เดนท์มาเจอโดยบังเอิญมากกว่าเพราะเค้าวิ่งลงไปเองหลังเวที แต่ว่าถ้าเบอร์เดนท์ไม่วิ่งลงไปดูล่ะ เรื่องจะสรุปเป็นยังไงล่ะเนี่ย แต่ก็ยังงงตอนท้ายนิดหน่อยค่ะ ว่า สรุปแองเจียร์ที่โดนยิงตายคือตัวจริงหรือเปล่า แล้วตัวจากตู้ล่ะ(ตอนเราดู เราคิดว่าตัวในตู้คือตัวที่ตายแล้วอะค่ะ เพียงแต่เค้าถ่ายให้ดูเพื่อให้รู้ว่าไอ้ตัวที่ถูกโคลนนิ่งมาเนี่ยมันตายเป็นเบือเลยนะ แต่เราไม่ได้สังเกตนะคะ เพราะตอนนั้นเป็นช่วงกลัวว่าจะมีอะไรหักมุมแบบให้อึ้งอีกมั้ย เลยไม่ได้ดูเต็มตา แต่พอได้อ่านค.ห.อื่นๆ เราเลยเริ่มสงสัยขึ้นมา เพราะอย่างที่บอก ตอนนี้ไม่ได้ watch closely อะค่ะ) แต่เราเห็นสาวโคโยตี้นะคะ อาจเพราะเราชอบเธออยู่แล้ว (คือชอบเพราะเห็นว่าเธอน่ารัก หลังจากนั้นไม่ว่าเธอจะไปเล่นเรื่องอะไร บทรองแค่ไหน แต่ถ้าเห็นหน้าเราก็จะจำได้ทันที อย่างเรื่องอะไรนะที่ไปเล่นกะตัวการ์ตูนน่ะ) ส่วนคนอื่นๆ แหะๆไม่รู้จักค่ะ สุดท้าย ชอบบทวิจารณ์หนังเรื่องนี้ของพี่จขบ.มากค่ะ หักมุมและซับซ้อนไม่แพ้หนังเลย แถมเขียนได้ดีทำให้เห็นประเด็นมากขึ้น รวมทั้งคอมเมนท์และคำถามของเพื่อนๆอีกหลายค.ห.ต่อมา ทำให้เราเคลียร์ขึ้นเยอะเลย ตอนนี้ก็เลยเชียร์ให้น้องสาวไปดูค่ะ   โดย: ลิปดา-พิลิปดา IP: 161.200.255.162 25 พฤศจิกายน 2549 0:06:19 น.

ตอนแรกนึกว่าเป็นหนัง superhero วูฟเวอรีน ปะทะ แบทแมน คิดไม่ผิดจริงๆที่ไปดูครับ   โดย: ThirskUK IP: 218.186.8.10 26 พฤศจิกายน 2549 11:59:56 น.

^ ^ แล้ว แอนเจียร์ ตอนสุดท้าย เป็นซากตัวโคลนที่ตายแล้ว หรือเขาทำสำรองไว้เผื่อตัวเองตาย หรืเป็นตัวเขายืนมองอยู่ แล้วเค้าจะตามแก้แค้นเบอร์เด้นอีกรึเปล่า ช่วยด้วยครับทุกคน ขอบคุณมากๆๆๆครับ .........มันเป็นตัวที่ตายไปแล้วครับ..เพราะมันอยู่ในน้ำ( มีฟองอากาศลอยขึ้นมาด้วย)   โดย: deedy9na IP: 125.24.29.221 28 มกราคม 2550 13:48:38 น.

ได้เข้ามาอ่านบล๊อกนี้ ทำให้รู้เรื่องขึ้นเยอะเลยค่ะ จากตอนแรกออกมาจากโรงแบบงงมากกกก .. ตามไม่ค่อยทัน ^^" ชอบ คริสเตียน เบลล์ สุดๆ   โดย: โอมาโทริ IP: 58.9.137.79 30 มกราคม 2550 15:13:47 น.

ขอบคุณมากเลยค่ะ   โดย: best IP: 136.8.1.100 8 กุมภาพันธ์ 2550 9:38:09 น.

ชอบเรื่องนี้มากค่ะ แม้ว่าจะเดาได้ตั้งแต่กลางเรื่อง แต่บทภาพยนต์รวมถึงนักแสดงอย่างคริสเตียนเบลล์ ทำให้หนังมันสุดยอดจริงๆ คิดเหมือนคุณ ผมอยู่ข้างหลังคุณ เลยค่ะ ว่าดูคริสเตียน เบลล์ไป คิดถึงเหลียงเฉาเหว่ยไป อยากให้มาเล่น the departed เหมือนกัน   โดย: ปืนใหญ่ที่ไฮบิวรี่ IP: 124.157.200.108 8 กุมภาพันธ์ 2550 16:11:14 น.

เพิ่งจะเช่ามาดูเมื่อ 2 วันก่อน หนังจบ แต่ความคิดในหัวเรายังไม่ยอมจบจริงด้วย ชอบหนังเรื่องนี้มากเหมือนกันครัย ได้มาอ่านแล้วก็ทำให้เข้าใจตรงที่งงๆ จนกระจ่างครับ ขอบคุณมากครับ   โดย: winter love song 13 มีนาคม 2550 21:12:43 น.

ชอบเรื่องนี้เหมือนกันครับ ซื้อ ดีวีดี เก็บไว้เลย ดาราทุกคนแสดงได้สมบทบาทมาก ไม่เสียดายเลย ผมว่าเรื่องนี้ น่าได้ออสการ์ซักรางวัลบ้าง   โดย: Neng IP: 203.146.9.27 14 มีนาคม 2550 18:19:10 น.

เพิ่งได้ดูและต้องดูถึง 2 รอบ ผู้กำกับ เล่นแรงกับจินตนาการของคนดู นักแสดงตีบทกระจุยอย่างน่าชื่นชม(ฝีมือ) และน่ารังเกียจ(บทบาท) ...ช่างสะท้อนเล่ห์กลมายาที่อยู่ในใจผู้คนได้อย่างร้าย โชคดีที่ในชีวิตจริง สัตว์ร้ายในใจผู้คน ...มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปได้จากการเรียนรู้ ฝึกหัด ควบคุมจิตใจตนเอง ...   โดย: bua ja 16 มีนาคม 2550 13:34:36 น.

เพิ่งได้ดูครับ ชอบมากๆ เหมือนกัน แต่ผมแย่อยู่อย่างอ่ะ ตามหนังพวกนี้ไม่ค่อยทันแฮะ ต้องให้แฟนช่วยบอกให้ อ๋อเหรอ อ๋อ... เป็นอย่างนี้นี่เอง   โดย: Unregistered user 18 มีนาคม 2550 0:00:14 น.

ชอบหนังเรื่องนี้มากๆๆๆๆๆๆๆๆ เหมือนกันเลยค่ะ ชอบผู้กำกับมาตั้งแต่ memento เหมือนกัน แต่เรื่องนั้นเราดูรอบเดียวแล้วเข้าใจเลยนะคะ (แต่มิได้เป็นทีมเขียนบทแต่อย่างใด อิอิ) เห็นด้วยว่าคริสเตียน เบลล์ แสดงได้ดีมากๆ ประทับใจจริงๆ ส่วนเรื่องอื่นๆ เราก็เข้าใจและเห็นด้วยคล้ายๆ กับที่จขบ. อธิบายค่ะ แต่ไม่ลึกซึ้งเท่า เท่านั้นเอง ขอบคุณสำหรับข้อเขียนและข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับหนังเสอมนะคะ กำลังจะไปซื้อหนังสือมาอ่านเหมือนกันค่ะ   โดย: เดอะ กั้ง 19 มีนาคม 2550 1:44:44 น.

เพิ่งได้ดูจาก DVD ดูหนังเรื่องนี้แล้วเหมือนดูมายากลจริงๆ ครับ พอดีไม่ค่อยได้คิดตามหรือจับผิดมากนักเลยโดนมายาของเรื่องนี้หลอกไปเต็มๆ เป็นหนังที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ครับ   โดย: AronSun IP: 124.120.232.150 19 มีนาคม 2550 5:14:14 น.

เขียนได้คมคาย ลึกซึ้งเหมือนเดิมเลยนะคะ ซักวันนึง จะเขียนให้ดีแบบนี้บ้าง ชื่นชมและ นับถือ จากใจค่ะ   โดย: pokojung IP: 58.9.60.122 22 มีนาคม 2550 15:57:01 น.

ผมเพิ่งดูจบเมื่อกี้นี่เอง ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้ และบล๊อค ๆนี้สุดยอดจิง ๆ หักมุมไปมาได้หลัง หักมาก ๆๆๆ มายากลจริง ๆแม้แต่ในหนัง อิอิ เป็นหนังดีอีกเรื่องทีเดียว   โดย: ส้มฉุน IP: 58.9.96.117 23 มีนาคม 2550 3:59:12 น.

พึ่งไปเช่ามาดูจบค่ะ ต้องมาอ่านเฉลยในบล๊อกนี้นะคะเพราะว่าไม่เข้าใจ แต่ฉากเครื่องโคลนนิ่งเราเข้าใจว่า พอแองเจียตัวจริง ใช้เครื่องครั้งแรก ตัวโคลนก็ออกมา ปรากฎว่า ตัวโคลน ยิงตัวจริงตาย หลังจากนั้นตัวโคลน จึงรู้ว่า เมื่อเครื่องทำงานแล้ว ตัวโคลน#2จะอยู่บนเวที เค้าจึงมีประตูกลทำให้ตัวโคลน#2 ตกลงไปตาย ก็หมายความว่า ตัวจริงตายแล้ว ตัวโคลน#1เกิด ตัวโคลน#1 ถูกฆ่าตาย ตัวโคลน#2เกิด ตัวโคลน#2 ถูกฆ่าตาย ตัวโคลน 3 เกิด เราคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นเพราะว่า ถ้าเกิดเครื่องทำงาน แล้วตัวจริงอยู่ที่เดิม นั่นหมายความว่าตอนแสดงเค้าต้องตายเสมอ ซึ่งจะไม่สมเหตุผลที่มีเหตุจะต้องฆ่าตัวเอง ตัวเองย่อมไม่อยากให้ตัวเองตาย แต่ถ้าพิจารณาตามหนังที่บอกว่า เค้าไม่รู้ได้เลย ว่าตัวจริงคือตัวไหน เค้าทำได้เพียงแต่ว่า ให้คนในตู้ตายก็เท่านั้น แต่ตัวโคลนทุกตัวก็มีความคิดเช่นเดียวกับตัวจริง แต่ตัวจริงจะทรมานตอนตายเสมอๆ คิดแล้วโลกแตกเลยค่ะ เป็นเราเราคงกลัวมากๆ เพราะถ้าเกิดใครรู้ความจริงขึ้นมา เครื่องนี้จะอันตรายมาก เพ้อเจ้อเยอะแล้ว พอแค่นี้ก่อนค่ะ อิอิ   โดย: cmr IP: 222.123.28.22 24 มีนาคม 2550 21:17:15 น.

จ่ายตังค์ซื้อแล้วค่ะ วีซีดี เรื่องนี้ จบแล้วแต่ในใจไม่จบจริง ๆ   โดย: ขวดเขียว IP: 203.151.212.226 30 มีนาคม 2550 15:41:07 น.

จาก คห.59 ผมว่าขณะกำลังทำการโคลนด้วยเครื่อง ภาพที่เห็นจะเป็นแสงสีขาว จากนั้นจิตก็น่าจะแยกออกเป็นสอง พร้อมกับเห็นภาพข้างหน้า ว่าตัวเองจะอยู่ในน้ำ หรือจะอยู่รอด ดังนั้นน่าจะยืนยันความคิดได้ว่า จริงๆแล้วขณะเค้าก้าวข้ามเครื่องโคลนนิ่ง เค้าไม่รู้ว่าเค้าจะรอด หรือเค้าจะตาย แสดงว่า ตัวโคลน #1, #2, #3 ฯลฯ ไม่น่าจะระบุได้นะครับ ว่าใครรอดใครตาย เพราะทุกคนก็คือจิตเดียวกันอ่ะ   โดย: veronicaz IP: 161.246.1.34 31 มีนาคม 2550 18:51:53 น.

ไม่ชอบที่มีการโคลนในหนังเลยอ่ะ มันไม่เข้ากันอ่ะ   โดย: SFFC IP: 58.181.191.184 9 เมษายน 2550 14:32:25 น.

ซื้อแผ่นมานั่งดูจิงๆ จังๆ แล้วค่ะ ไม่เสียดายเลยค่ะ ชอบมาก ยิ่งดู ยิ่งมีอะไรให้คิดมากเพิ่มเรื่อยๆ   โดย: หมวยแก้มป่อง 30 เมษายน 2550 9:10:32 น.

ชอบคริสเตียน เบลมาตั้งแต่เขายังเด็กในเรื่องEmpire of the sunแล้ว สงสัยต้องรีบหาเรื่องนี้มาดูซะแล้ว   โดย: coming soon (The Yearling ) 30 เมษายน 2550 9:39:52 น.

ดูจบไปแล้วรอบนึงละครับ รู้สึกว่าตัวเองต้องดูอีกรอบแน่ๆเลย   โดย: sunzo IP: 58.8.60.86 2 พฤษภาคม 2550 2:57:59 น.

มาค่ายค่าอ่านค่า^^ ชอบมากค่ะ ตั้งแต่ได้ดูในโรง และตามซื้อดีวีดีออกมาอีกครั้งด้วยค่ะ ชอบประเด็นของคุณมากค่ะ ชัดเจน กระจ่าง และลึกล้ำดีค่ะ   โดย: เพลิน IP: 203.130.145.68 4 พฤษภาคม 2550 10:53:23 น.

โอ้ หนังจบอารมไม่จบค่ะ   โดย: ka*nom IP: 124.121.122.121 1 มิถุนายน 2550 13:11:13 น.

หนังที่ต้องดูเรื่องหนึ่งเลย กการแสดงที่ลึกแต่คนดูเข้าใจได้ง่าย บทและการดำเนินเรื่องที่รวดเร็วแต่ก็ใจเย็น ประเด็นของหนังมีความชัดเจน งานภาพ ฉาก เสื้อผ้า เนี้ยบมาก ต้องดูจริงๆ   โดย: TheChamp IP: 58.8.104.140 1 กันยายน 2550 2:26:45 น.

เรื่องนี้สุด teen จริงๆครับ มันลบเรื่อง memento ของผมไปหมดเลยล่ะ แต่ดูแล้วมันไม่ค่อยเคลียร์เท่าไร ยังไงขอบคุณมากๆครับสำหรับข้อมูลต่างๆที่ทำให้กระจ่างขึ้น   โดย: YoiChi IP: 202.57.178.112 28 กันยายน 2550 13:17:10 น.

เปนหนังที่ดูแล้วงงเปนไก่ตาแตกจิงๆ เรยนึกได้เรยว่า เข้า blog นี้คั้งแรกเพราะอยากอ่านเฉลยหนังเนี่ยล่ะ โอ้ว นึกได้แล้วๆ 555+ ดูแบบไม่ closely พอ เรยเก็บรายละเอียดได้ไม่หมด ตอนนี้มาอ่านก็รุเฉลยหมดแล้ว โอ้ว เปนหนังที่ชวนประทับใจอีกเรื่องเรย ดีจิงๆ   โดย: ploy IP: 124.120.219.44 30 กันยายน 2550 3:22:16 น.

คุณ ผมอยู่ข้างหลังคุณ นี่ดูหนังแล้วเข้าใจตัวบทของหนังดีจังเลยครับ ต้องขอชมเลย   โดย: YoiChi IP: 202.57.178.173 6 ตุลาคม 2550 11:54:02 น.

10/10 คะแนน ดู 4 รอบ ผู้กำกับคนนี้ทั้งกำกับ และเขียนบทเอง การดูในรอบแรกคุณจะต้องห้ามกระพิบตา และทำอย่างอื่นเลย เพราะทุกอย่างในเรื่องมันจะเกี่ยวกพันกันทั้งหมด ถ้าพลาดจะงงทันที นักแสดงเล่นได้ดีมากๆโดยเฉพาะที่เล่นเป็น แองเจียร์ เป็นหนึ่งในหนังที่ผมชอบมากที่สุดเท่าที่ดูมาเลย   โดย: นักวิจารณ์สมัครเล่น IP: 125.24.181.222 3 พฤศจิกายน 2550 13:18:12 น.

เรื่องนี้สนุกจริงๆ   โดย: aloha IP: 58.9.82.50 9 กุมภาพันธ์ 2551 22:43:55 น.

เพิ่งได้ดูค่ะ เลยเพิ่งมาอ่าน หนังสนุกมาก กรี๊ดกร๊าดลุงเดวิดโบวี่(แก่ลงไปเยอะเลยเนอะ)เพิ่งสังเกตเห็นกอลลัมกับสาวโคโยตี้ตอนที่คุณบอกนี่ละค่ะ ดูแล้วมันรู้สึกโหวงๆในใจชะมัด   โดย: ณิชนันทน์ IP: 125.24.100.215 10 กุมภาพันธ์ 2551 16:50:27 น.

ชอบหนังเรื่องนี้มาก หลอกผมได้ตลอดเรื่อง มาสงสัยฟอลคอลเอาตอนท้ายที่มาเยี่ยมในคุก สงสัยมานานแล้วทำไมตัวละครตัวนี้ไม่ค่อยมีบทพูดเลย แองจี้สะท้อนถึงความอยากไม่สิ้นสุด เขาก้าวเลยจากมายากลธรรมดา ไปสู่อะไรก็ได้ที่จะทำให้เขาชนะ สรุปแล้วตัวจริงคือคนที่อยู่บนเครื่องหรือที่ปรากฏขึ้นมาใหม่อยู่นอกเครื่อง ต้องกลับไปดูอีกครั้ง เพราะครั้งแรกที่แองจี้ทดลอง เขาวางปืนไว้พร้อมจะยิงโคลนนิ่งที่ปรากฏทันที   โดย: หมาป่าดำ IP: 125.24.49.169 18 กุมภาพันธ์ 2551 3:51:31 น.

ชอบเหมือนกัน แสดงได้ดีทุกคน แต่ชอบเดวิด โบวี่ส์ที่สุด   โดย: huggun IP: 58.8.39.162 19 กุมภาพันธ์ 2551 17:19:58 น.

ตัวจริงทั้งคู่ล่ะฮะ แต่ ชะตากรรม มันไปตกอยู่กับคนที่อยู่บนเครื่องนั่นล่ะนะ ซึ่งเจ้าตัวเค้าก็ยอมรับ เพราะคำพูดของคัตเตอร์ ตอนงานศพนั่นล่ะ แล้วก็ ที่เค้าบอก แสดง 100 รอบนั่น ก็แค่รอให้เบอร์เดน ออกมาเท่านั้นเอง ถ้าครบ 100 รอบ แล้วเบอร์เดนไม่มาก็เลิกแล้วต่อกันไปมั้ง หะหะ แต่ว่า นะ ทุกรอบก็ต้องมีการเสียสละ ทุกครั้งเสมอ.. คัตเตอร์ เห็นแล้วรับไม่ได้เลยล่ะ หะหะ เป็นเาจะรู้สึกยังไงนะ ถ้ามีเราอีกคน ที่เป็นตัวจริง ด้วยกันจริงๆ เหมือนในเรื่องนี้ จะยอมไม่ได้ ถึงขนาดฆ่ากันเองแบบนี้ไม่เนี่ย -.-   โดย: take IP: 118.174.70.62 23 กุมภาพันธ์ 2551 12:54:52 น.

โดยส่วนตัวผม ผมชอบ ฮิ้วจ์ แจ๊คแมน ครับ... เค้าทำให้น่าเชื่อว่าเค้าคือคนที่ "แพ้แต่ทะเยอทะยาน" อีกคนที่ขโมบซีนเป็นพักๆ ก็ลุง ไมเคิล เคน ...คนนี้เวลาบทซีเรียส อย่าไปมองตาแกมากนะครับ เพราะเราจะซีเรียสตามไปด้วยจริงๆ เป็นนักแสดงอีกคนที่ใช้ "แววตา" แสดงหนังได้สุดยอด...   โดย: Vamply IP: 202.44.7.66 10 มีนาคม 2551 15:29:39 น.

เขียนได้ดีมากจริงๆ   โดย: แดน IP: 161.200.255.162 11 เมษายน 2551 13:54:43 น.

เป็นหนังอีกเรื่องนึงที่ผมชอบมากที่สุดเช่นกันครับ   โดย: Reverie IP: 203.148.253.226 29 เมษายน 2551 17:05:42 น.

อยากดูนะคะ แต่ไม่รู้จะไปหาดูจากไหน ยังไงช่วยแนะนำที   โดย: ืีnut_ja IP: 125.25.177.35 18 มิถุนายน 2551 23:50:38 น.

เพิ่งดู VCD จบค่ะ....สนุกมาก แวะมาจ่ายค่าอ่าน ค่า   โดย: nuis@nce IP: 124.122.141.3 24 กรกฎาคม 2551 1:42:43 น.

ผมไม่ค่อย ชอบนะ จุดเดียว คือ บทพูดของตัวละคร ดูจะโชว์ความฉลาดของตัวละครมาก แต่ ความจริงคำพูดนั้น มีความพื้นๆ   โดย: บอล IP: 117.47.171.55 1 พฤศจิกายน 2551 9:13:03 น.

มาจ่ายค่าอ่านเช่นกันค่ะ เบี้ยวมาหลายครั้งแล้วอิ อิ เช่ามาหนังดีมากอยากซื้อมาเก็บบ้างแล้วละทำไงดี คุณเขียนดีมากเช่นกันค่ะ เรามีความเห็นต่างนิดนึง คิดว่าจะเป็นตาขี้เมามาตายแทน พอกลายเป็นการโคลนนิ่ง ก็อึ้งไปหน่อยนะ   โดย: กระป๋องแป้ง IP: 125.27.207.207 19 ธันวาคม 2551 12:57:18 น.

เรื่องนี้สนุกมากๆ   โดย: bo IP: 118.174.184.23 21 ธันวาคม 2551 22:29:48 น.

ดูแล้วครับ หักมุมสุดๆ เยี่ยม   โดย: peat IP: 124.121.250.175 4 กุมภาพันธ์ 2552 1:03:54 น.

only the inspector see the reality. วันนี้ได้ดูเฉลยกลของคริส แองเจิล แล้วรู้สึกเลยค่ะว่าโลกเรามีหลายมุม ในหนึ่งการแสดงที่เรามองเห็นมักมีมากกว่าหนึ่งความหมายและความรูสึก ที่คนแสดงจะสะท้อนด้านมืด ความกระหายสิ่งสี้สับอันรายของผู้ชมโดยไม่สนใจว่าเบื้องหลังของโชว์จะเป็นอย่างไร หนังเรื่องนี้ก็สะท้อนด้านมืดนั้นในจิตใจของมนุษย์ออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมจริงๆค่ะ   โดย: wiwi (wiwiluknam ) 21 มีนาคม 2552 2:41:44 น.

จ่ายค่าอ่านบทความด้วยความเต็มใจครับ (ตามมาจากพันทิพ) ได้ดูเรื่องนี้หลังดูเรื่อง memento จบ memento เน้นโชว์เทคนิคการเล่าเรื่อง ส่วน prestige โชว์หมดทุกอย่าง ทั้งบท การเล่าเรื่อง ลูกเล่นต่างๆ และมีส่วนผสมพอเหมาะพอดีทั้งเรื่อง สุดยอดจริงๆครับ nolan   โดย: และอื่นอื่น IP: 124.121.12.254 5 มิถุนายน 2552 14:40:07 น.

ไปดูเรื่องนี้แบบไม่ตั้งใจ แต่อึ้ง และชอบมาก หนังทำได้ดี ชวนติดตาม และสร้างคำถามในใจเรามาตลอด และพอจบเรื่อง คำถามทั้งหมดก็เคลียร์   โดย: faiene IP: 58.64.83.215 21 มิถุนายน 2552 14:01:26 น.

ดูจบไปนานมากแล้ว พอมาอ่านตอนนี้ เดี๋ยวกลับไปดูอีกรอบดีกว่า น่าจะได้อารมณ์ร่วมกับหนังมากขึ้น ขอบคุณบทความดีๆครับ   โดย: คนผ่านมา IP: 58.181.138.99 20 กรกฎาคม 2553 16:20:27 น.

ดูได้หลายรอบจริงๆกับหนังเรื่องนี้   โดย: ชอบโนแลน IP: 118.172.172.152 26 กรกฎาคม 2553 21:37:49 น.

ผมเพิ่งได้ดูวันนี้.... 22 ส.ค. 53 จบประมาณตี 3 ผมพยายามดูนะ...และก็คิดๆๆได้หลายประเด็น... แต่ท่านนี่ละเอียดจริงๆๆ อยากรู้จริงๆๆว่าท่านดูกี่รอบครับ...ดถึงเก็บประเด็นได้หมดขนาดนี้... เยี่ยมมากเลยขอรับ... ^^   โดย: mavinferguson IP: 124.120.189.87 22 สิงหาคม 2553 3:18:03 น.

หลังจากได้ดูอีกรอบยิ่งชอบเข้าไปใหญ่จริงๆ ครับ เป็นหนังที่ยอดเยี่ยมสุดๆ เสียดายรอบแรกผมดู มันไม่มี sub เลยรู้ตอนหักมุมไปแล้ว ดูรอบสองมี sub นี่เข้าใจทะลุเลย สุดยอดจริงๆ ตามมาดูรอบสองเพราะ จขบ นี่แหละครับ เพิ่งรู้ว่า ผกก เดียวกับ inception เดี๋ยวจะไปหา momento มาดูด้วยครับ บทความก็เขียนได้เข้ากะหนังสุดๆ ครับ ชอบๆๆ   โดย: lkunl IP: 146.23.250.105 31 สิงหาคม 2553 14:19:49 น.

ดูหลายรอบมาก จัดเป็นหนังอับดับ 1 ในดวงใจเลยครับ ผมพึ่งทราบเร็วๆนี้เองว่าการเทเลพอร์ทแบบในหนังนั้นเกิดขึ้นได้จริงตามหลักวิทยาศาตร์ครับ *ด้วยหลักของควอนตัมเอนแทนเกลเมนต์ ซึ่งจะเกิดอนุภาคที่เสมือนกับตัวต้นแบบที่ปลายทางส่วนอนุภาคของตัวต้นแบบจะสลายไป (แต่ในหนังสะท้อนออกมาด้วยการฆ่าตัวตาย ซึ่งการทำเช่นนี้มันก็ไม่ต่างกับการฆ่าตัวตายจริงๆ) *อ้างอิงจากหนังสือ ผ่ามิติจิตนาการของ ดร.ชัยวัตน์ คุประตกุล   โดย: Bulgogi IP: 124.121.212.205 9 พฤศจิกายน 2553 4:30:57 น.

แจ่มแจ้งมากครับบ :)   โดย: nano IP: 110.169.228.233 12 มีนาคม 2555 1:55:51 น.

love your blog ชอบเรื่องนี้เช่นกัน ขอบคุณสำหรับเนื้อหาทั้งหมด thanks   โดย: ว่างจึงดูหนัง IP: 171.101.242.80 1 มีนาคม 2556 12:07:27 น.