www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Sideways , รักนุ่มๆชุ่มไวน์ในวันเบาๆ


....หากเปรียบกับหนังที่เข้าชิงรางวัลOscarทั้ง5เรื่องแล้วคงต้องบอกว่า เรื่องนี้เหมือนกับเพื่อนที่ใกล้ตัวเรามากที่สุด ถ้าเทียบกับเรื่องอื่นๆซึ่งเหมือนคนอยู่ห่างไกล มีความซับซ้อนในตัวและไม่สนิทสนมกับคนดู

The Aviator=Howard Hughes มหาเศรษฐีป่วยจิตที่มีฝัน

Finding Neverland=คนเขียนPeterpanผู้โด่งดังกับวัยเด็กในตัวซึ่งไม่เคยโต

Ray=อัจฉริยะนักดนตรีตาบอดผู้เดินทางผ่านยาเสพติด การตายจากของคนรัก การหลอกลวงและปมในใจ

Million Dollar Baby=ว่าที่แชมป์นักมวยหญิงที่เต็มเปี่ยมด้วยมุ่งมั่นและศรัทธา ขาดการยอมรับ และดิ้นรนทำในสิ่งที่ตัวเองรัก

แต่ Sideways= Milesที่อาจเป็นเพื่อนหนุ่มใหญ่คนใดคนหนึ่งของเรา ที่ตื่นนอนตอนสายแต่ก็ไม่วายโอ้เอ้ ไปเที่ยวไปเฮด้วยกัน จะพิเศษหน่อยก็ตรงเขากำลังจะตกอยู่ในภาวะmidlife crisis มองตัวเองเห็นแต่ความล้มเหลว ไม่มีงานที่ประสบความสำเร็จ(อาชีพครูที่มีอยู่ก็ดูเป็นอะไรที่ฆ่าเวลาไปวันๆ) ชีวิตครอบครัวล้มเหลวอยู่ในสภาพหย่าร้าง ตกอยู่ในภาวะโรคซึมเศร้าหดหู่จนต้องพกยาติดตัว มองโลกในแง่ร้าย มองตัวเองในแง่ลบความมั่นใจในตัวเองต่ำ ความสนุกเดียวที่เขามีอยู่คือการได้ชิมไวน์

....ในขณะที่เพื่อนของเขาที่กำลังจะเข้าสู่พิธีแต่งงานในอาทิตย์หน้าก็เป็นคนที่ตรงข้ามกับเขาสิ้นเชิง เพราะJack เป็นคนที่มองโลกในแง่ดี คึกครื้นเฮฮา นิสัยเหมือนเด็กๆไม่ค่อยรับผิดชอบ รักสนุก

....ทั้งคู่ตัดสินใจไปเที่ยวกันเพื่อส่งท้ายชีวิตโสดของJack ความสนุกที่ Miles หาได้มีเพียงการได้ลิ้มชิมรสไวน์ตามทางแต่สำหรับJackคือสาวๆและSex การเดินทางของทั้งคู่ทำให้ Miles ได้ค้นพบกับความสุขอื่นที่นอกเหนือไวน์นั่นคือMaya และ Jack ค้นพบสิ่งที่ตัวเองต้องการคือStephanie แต่ความสุขที่ทั้งคู่ค้นพบจะอยู่ได้นานสักเท่าไรเมื่อคำโกหกที่ให้ไว้ต้องสิ้นสุดใน1สัปดาห์

.....Alexander Payne (ที่มักจะทำให้ผู้ชายวัยผู้ใหญ่ตอนกลางถึงปลายเป็นตัวละครที่มีปัญหาและล้มเหลวเช่นElectionหนังเรื่องเดียวของเค้าที่ผมได้ดูและเห็นความแปลกแต่เป็นเอกลักษณ์ในการเล่าเรื่องเสียดสีเรื่องนี้ต่างจากหนังฮอลลีวูดทั่วไป หรือ About Schmidtที่ผมคงต้องหาโอกาสไปดูหลังจากได้รู้จักเค้ามากขึ้นแล้วจากSideways) ทำให้หนังเรื่องนี้เดินเรื่องเหมือนการเดินทางแบบสบายๆ เหมือนเราเที่ยวไปกับเพื่อน พักไปจิบไวน์ไปเที่ยวไป มีตัวหนังสือคั่นบอกเป็นวันๆเหมือนบันทึกไดอารี่ของ2หนุ่มที่นิสัยแตกต่างกันเหลือเกิน ในความต่างก็ยังมีมิตรภาพที่คอยเติมเต็มกันและกัน ให้อีกคนคอยดึงอีกคนขึ้นมา(JackดึงMilesออกมาจากความหดหู่และมองโลกในแง่ลบ / MilesดึงJackให้ลงมามีความรับผิดชอบและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น)

....หนังไม่พยายามทะเยอทะยานที่จะเสนอการค้นหาความหมายชีวิตของMilesหรือสอดใส่ปรัชญาหรือใส่ปมที่มันซับซ้อนมากมาย แต่หนังเล่าเรื่องของMilesอย่างง่ายๆ เหมือนชีวิตใครซักคนที่เราคุ้นเคยที่กำลังมีปัญหาและค่อยๆเยียวยาด้วยมิตรภาพ ได้พบกับความสุขที่ไม่ใช่แค่ไวน์ ได้พบกับใครสักคนที่อ่านนิยายเขา(อย่างจริงๆ) พร้อมกับนำไปสู่บทสรุปที่เรียกได้ว่าเรียบง่าย สวยงาม

สิ่งที่ชอบ

1.บรรยากาศของหนัง....ความสบายๆของหนังส่งผ่านมาถึงคนดูได้เป็นอย่างดี การนั่งดูภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายและรื่นร่มย์เหมือนกับการพักผ่อนั่งรถเปิดหน้าต่างรับลมเที่ยวต่างจังหวัด พูดคุยกับเพื่อนรู้ใจในขณะที่ตัวเองเหงาเศร้า ยิ้มหัวเราะสบายๆกับมุขตลกของเพื่อนที่ไปด้วยกัน

2.มิตรภาพของMilesและJack...สมจริง เรียบง่าย จริงใจและเข้าใจกัน ถ้าชีวิตนี้ได้มีเพื่อนที่เข้าใจเหมือนคู่นี้ต่อให้ลำบากแค่ไหนก็คงไม่หนักหนาเกินจะผ่านไปได้

3.Paul Giamatti...ทั้ง4คนเล่นได้เป็นธรรมชาติและเนียนไปกับบท เนียนไปกับบรรยากาศของเรื่อง ผมชื่นชอบPaul Giamattiมากเป็นพิเศษตรงที่บทของเค้ามีอะไรที่ลึกและซับซ้อนกว่าคนอื่นๆจึงเป็นเรื่องยากที่จะเนียนไปกับเรื่องไปเหมือนคนอื่นได้แต่เขาสามารถฉายออกมาอย่างที่เราเรียกว่าแสดงน้อยแต่ออกมามากได้อย่างยอดเยี่ยม ฉากในบ้านแม่/ฉากโกรธที่ร้านไวน์คือการแสดงที่ยอดเยี่ยมสำหรับผม (จะว่าไปก็เหมือนกับการแสดงของJamie FoxxในบทRayที่เล่นเหมือนไม่เล่น เพราะเค้าเป็นตัวละครนั้นไปแล้วจริงๆ)

4.ดนตรีประกอบ.....แทบจะไม่รู้ตัวเลยว่าตลอดทั้งเรื่องเรื่องนี้มีดนตรีประกอบอยู่แทบจะตลอดเวลา จนเมื่อผมตั้งใจฟังเพราะมันไพเราะพร้อมเข้ากับภาพบนจอจนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างแยกไม่ออก เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การเดินทางนี้เพลิดเพลินและผ่อนคลาย นุ่มๆชุ่มไวน์ตลอดเส้นทาง

5.บทภาพยนตร์....ถ้าไม่ได้บทที่กำหนดเส้นทางของตัวละคร และควบคุมการเดินทางออกมาได้ดีก็คงไม่ทำให้หนังมีความลงตัวอย่างที่ออกมา อีกทั้งบทสนทนาที่ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ทุกคำพูดมันแฝงตัวตนของตัวละครพร้อมกับเล่าเรื่องอย่างไม่ยัดเยียด( ขนาดเรื่องไวน์ที่ผมเองไม่มีความรู้อะไรแต่ผมก็ไม่รู้สึกเบื่อแม้แต่น้อยเวลาที่ตัวละครคุยกันแต่เรื่องไวน์ หรือการเดินเรื่องที่พาให้ทั้ง4คนมามีปฏิสัมพันธ์กันก็ทำได้อย่างแนบเนียนชวนเชื่ออย่างไม่มีที่ติหรือสงสัยว่าทำไมเค้าถึงถูกคอกันทำไมเค้าถึงรักกัน)

สรุป....นี่เป็นหนังรักและดราม่า ถ้าเปรียบก็คงไม่เหมือนรักของวัยหนุ่มสาวที่มีสีสันหรือเร้าอารมณ์ แต่เปรียบเหมือนความรักของคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร ความรักแบบผู้ใหญ่ที่สบายๆเหงาๆเรียบง่าย และที่สำคัญมัน "เนียน" เหลือเกิน

....ช่วงเวลา123นาทีที่โรงสกาล่ารอบ16.20น.ของผมจึงเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย หัวเราะสบาย เศร้าๆเหงาๆและมีความสุขเหมือนอยู่กับเพื่อนที่รู้ใจ ไม่เบื่อและคุ้มค่าตั๋วตลอดการเดินทาง โดยที่ไม่ว่าเรื่องนี้จะได้หรือไม่ได้รางวัลOscar แต่การได้เข้าไปชมคือการที่เราให้รางวัลกับตัวเองในวันที่เหงา เศร้า เบื่อ ได้เป็นอย่างดี

ปล....ผมรู้สึกว่าหนังOscarปีนี้มีอารมณ์หนึ่งที่ทั้ง4เรื่องมีร่วมกันคือ "อารมณ์เศร้า" The Aviatorมีความเศร้าในช่วงชีวิตสุดท้ายที่น่าสงสารและน่าเวทนาในชะตากรรม / Finding Neverlandมีอารมณ์เศร้าที่ฉาบเคลือบอยู่ตลอดเวลา จนออกจากโรงมามันก็ยังเป็นความเศร้าแต่เป็นความเศร้าที่รื่นรมย์งดงาม / Million Dollar Babyถึงแม้จะเศร้าหดหู่แต่มันก็มีความอบอุ่นและให้ความรู้สึกเชื่อมั่นศรัทธา / ส่วนRayถึงจะจบลงด้วยดีแต่การสูญเสียแลกกับสิ่งที่ได้มามันก็เหมือนความเศร้าโศกที่ยังคงกรุ่นอยู่เป็นแผลในใจ และสำหรับSideways ก็เป็นความรู้สึกเศร้าเหงาๆ เจือไปกับความสุขแบบผ่อนคลาย สบายๆ

ปล2.....ผมลังเลใจมากขึ้นทุกทีกับผี8หลุมจากกระทู้ที่ได้อ่านมา จนกลัวว่าที่เค้าว่าช็อคคาโรงจะเป็นเรื่องจริง(คือช็อคที่มีคนเตือนแล้วแต่ยังดื้อมาดู) แต่ที่แน่นอนคือสัปดาห์หน้ากับSpanglishและBeing Julia (พร้อมหลวงพี่เท่งที่คงต้องขึ้นกับเวลาและเงินตราในกระเป๋าว่ายังเหลือพอหรือไม่)



Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2548
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2548 23:42:27 น. 9 comments
Counter : 3096 Pageviews.

 
เพิ่งได้ดูเมื่อวานครับ
ค่อนข้างก่ำกึ่งครับ ระหว่างชอบกับไม่ชอบ
ผมว่าเรื่องนี้มันเหมาะสำหรับคนที่ผ่านประสบการณ์อะไรมาเยอะๆน่ะครับ ถึงน่าจะอินได้ง่าย

แต่ผมไม่เคยประสบเหตุการณ์เหมือนตัวละครในเรื่อง เลยรู้สึกว่าไม่ใกล้ตัว

แต่ก็ยอมรับนะครับว่าเป็นหนังดี เพียงแต่ไม่ค่อยเข้าทางผมเท่าไหร่


โดย: it ซียู IP: 161.200.255.163 วันที่: 3 มีนาคม 2548 เวลา:15:13:02 น.  

 
ความเห็นจากท่านอื่นๆจากกระทู้เดียวกันนี้ในpantip

ความคิดเห็นที่ 1

ชะแว๊บ
มาเป็นคนแรก
เห็นด้วยหลายประเด็น
ชอบตรงไม่ต้องมีดาราดังดึงดูด
แต่มีบทหนังที่ทำให้เราเราสัมผัสคนเหล่านี้ได้
แถมมีอารมณ์ขันร้ายๆ ที่คุณ จขกท. บอกว่าเศร้า
แต่ตัวเองแอบคิดว่ามันเสียดสีนิดๆ
เป็นหนังที่ หัวเราะหึ หึ ตลอดเวลาที่ดู
ชอบอีกอย่าง คือ มันไม่บิ้วเรามาก
ไม่มีฉากดราม่ามากๆ แต่ขณะเดียวกัน
มันก็ไม่ใช่หนังดูยาก ระดับฮาร์ทคอ
เป็นส่วนผสมที่พอดีๆ
แถมตอนจบก็กำลังดี
ให้คนดูตีความเล็กน้อย
แต่ก็ชื้แนะนิดๆ ว่ามันจะไปในทางที่ดี

สรุปว่าอะไรดี
เป็นหนังอารมณ์ขันร้าย ที่ไม่หดหู่
เชียร์ให้ดูเรื่องนี้กันค่ะ
ดูจบแล้ว หาไวน์ดื่มด้วยนะคะ

จากคุณ : grappa - [ 26 ก.พ. 48 23:58:07 ]






ความคิดเห็นที่ 2

ชอบครับ
อารมณ์ขันในหนัง เป็นอารมณ์ขันจากสถานการณ์ เป็นตลกร้าย ไม่ใช่ตลกโปกฮาแบบหนังทั่วไป
และ หนังให้อารมณ์กับความเหงา...ได้อย่างดีมากๆๆ
ชอบมากครับ

จากคุณ : iui - [ 27 ก.พ. 48 00:23:19 ]






ความคิดเห็นที่ 3

ชอบเหมือนกันครับ
เห็นด้วยว่าดูแล้วเหมือนได้เดินทางแบบสบายๆ ไปกับหนัง
ชอบตรงที่หนังเล่าเรื่องแบบง่ายๆสบายๆ ไม่ต้องพยายามฟูมฟาย หรือยัดเยียดอะไร เหมือนค่อยๆคุยกับเราไปเรื่อยๆ ไม่ต้องบิวท์อารมณ์ แต่อารมณ์ที่ได้จากหนังครบเลย เหงา เศร้า สุข อิ่ม ประทับใจ แบบพอดีๆ ไม่มากไปหรือน้อยไป
ชอบบทหนังมากๆ รู้สึกว่าใส่รายละเอียดไว้เยอะมาก แต่เนียนแบบดูแล้วเป็นธรรมชาติมากๆ และตามเก็บได้หมดเลย ไม่เหมือนหนังหลายเรื่อง ที่พยายามเป้นหนังดีมากไปแบบใส่ไอ้นู่นไอ้นี่จนไปไม่ถึงสิ่งที่อยากจะบอกกับคนดูซักอย่าง

ในห้าเรื่องที่ชิงออสการ์ปีนี้ หลังจากดูครบแล้ว ผมชอบมากๆอยู่ 3 เรื่อง คือ Sideway, Million Dollars Baby แล้วก็ Ray
และเรื่องที่ชอบที่สุดคือ Sideway นี่แหละครับ เพราะหนังสื่อสารกับคนดูได้เหมือนไม่ต้องใช้ความพยายามมากมาย ไม่ต้องบิวท์อารมณ์ ไม่ต้องหวือหวา แต่ดูแล้วโดนใจ

จากคุณ : โอ-คุง - [ 27 ก.พ. 48 01:10:51 ]






ความคิดเห็นที่ 4

ชอบครับ อาจจะเรียกได้ว่า ชอบมากที่สุดใน 5 เรื่องเลยก็ได้

แต่ผมว่า มันยังไม่ที่สุดของผมอ่ะ สำหรับปีนี้ ก็ให้เรื่องนี้แหละครับ ดีที่สุด

จากคุณ : seifiros - [ 27 ก.พ. 48 01:13:30 ]






ความคิดเห็นที่ 5

ชอบครับ - ชอบการแสดงชองทั้งสี่คน และรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้นำเสนอในสิ่งที่ใกล้ตัวเรามาก

จากคุณ : yokkred - [ 27 ก.พ. 48 06:09:02 A:203.156.31.16 X: TicketID:072520 ]






ความคิดเห็นที่ 6

อ่านจากเรื่องย่อแล้วสงสัยว่ามันจะสนุกตรงไหนฟะ?


แต่พอได้ดูแล้วรู้สึกชอบมากๆ

จากคุณ : บากะ - [ 27 ก.พ. 48 08:05:48 ]






ความคิดเห็นที่ 7

ชอบเหมือนกันครับ แต่ใน 5 เรื่อง ยังชอบ Million Dollar Baby กับ Finding Neverland มากกว่าเยอะครับ

จากคุณ : Dr Syntax - [ 27 ก.พ. 48 14:58:34 ]






ความคิดเห็นที่ 8

หลังจากดูหนังเข้าชิงออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมครบทั้งหมดแล้ว
(ล่าสุดเป็น Sideways นี่แหล่ะค่ะ)

ฟันธงว่าที่จะได้ไปคงเป็น "The Aviator"
แม้ว่าใจอยากจะให้ "Finding Neverland" ได้แต่คงเป็นไปได้ยาก

ส่วน "Million Dollar Baby" ได้รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไป
ก็ไม่น่าเกลียดค่ะ

ส่วน "Ray" กับ "Sideways" คงมีหวังน้อยนิด แต่หากได้ก็จะยินดีไม่น้อย
อีกเช่นกัน

...............

มาถึงเรื่อง Sideways ก็บอกว่าชอบมากนะคะ ห้ามพลาดเลยล่ะ
สำหรับคนที่ลังเลว่าจะไปดูดีหรือไม่ แต่ขอบอกว่าไม่ผิดหวังเลย
หนังขำ ๆ เล่นมุขได้ตรงไปตรงมา ไม่เกินงามจนเกินไปนัก
พอแก้เครียดได้บ้าง หลังจากดูหนังออสการ์หนัง ๆ มาเยอะ

และอยากจะบอกว่าแอบเชียร์ Church ให้ได้รางวัลสมทบชายยอดเยี่ยม
อ่ะค่ะ แต่คงแพ้ Morgan Freeman หรือไม่ก็ Clive Owen

งั้นรางวัล "บทดัดแปลงยอดเยี่ยม" คงเข้าตากรรมการนะคะ



จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 27 ก.พ. 48 19:44:03 ]






ความคิดเห็นที่ 9

^
^
^
รางวัลนี้ให้ Before Sunset เถอะนะ ขอร้องหนังเค้าดีจริงเหมือนกันนะ (ความชอบส่วนตัวล้วนๆ)

จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 27 ก.พ. 48 20:50:37 ]






ความคิดเห็นที่ 10

สำหรับผม
5 เรื่องที่เข้าชิงออสการ์ ชอบเรื่องนี้มากที่สุด
เป็นหนังตลกร้าย ( ไม่เป็นหนังเศร้านะสำหรับผม )
ดูแล้วก็อมยิ้ม เป็นครั้งเป็นคราว
ดูแล้วชอบมากก เล่าเรื่องง่าย ไปเรื่อยๆ แต่บทสทนาดี การแสดงก็โอเค
แต่ก็คงไปไม่ไกลในออสการ์

** ผมว่า Paul Giamatti ถูกยกย่องในการแสดงในวงกว้างน้อยไปหน่อย
ได้แต่คำชมจากนักวิจารณ์ในวงเล็กเท่านั้น
เขาเล่นได้เด่นตั้งแต่ American Splendor และล่าสุดกับ Sideways ที่เล่นได้ลุ่มลึก และดีมาก
และก็ไม่น่าเชื่อที่ไม่ติด 1 ใน 5 ชิงนำชายออสการ์ปีนี้ **
แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 48 02:11:43

แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 48 00:31:20

แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 48 00:30:56

จากคุณ : น้องๆ...เบียร์ขวด - [ 28 ก.พ. 48 00:30:16 ]







ความคิดเห็นที่ 11

...เรื่องนี้ถ้าใครได้อ่านพล้อตย่อๆ ส่วนใหญ่คงไม่มีใครอยากดู
...อะไร? คนเริ่มแก่สองคนไปเที่ยวฉลองสละโสด ชิมไวน์ จีบหญิง หนังเรื่อยๆ ไม่มีอะไรหวือหวา (มันจะหนุกเหรอ?)
...แต่ หนังเรื่องนี้มันสุดยอด ที่ว่า
หนัง มัน สนุก มากกกกกกกกกกกกกกกก ครับ
ตั้งแต่เปิดเรื่องจนจบ หนังเอาเราอยู่ครับ สุข เศร้า เหงา ขำ โดน อิน ระทึก ลุ้น เสียดสี มีครบทุกอารมณ์ในเรื่อง แถมมาแบบเนียนๆ ทั้งนั้น ไม่จงใจหรือยัดเยียด
เป็นตำราเล่มใหญ่ได้ดี สำหรับใครที่กำลังศึกษาวิธีการเขียนบท, วิธีการเล่าเรื่อง, การตัดต่อ, การใส่เพลงและดนตรีประกอบ ของหนังพล้อตเรื่องธรรมดาน่าเบื่อ ให้เป็นหนังดูสนุกได้ขนาดนี้
...เป็นหนังที่ติด 1 ใน 5 หนังที่ผมชอบที่สุดในปีนี้แน่นอน

จากคุณ : sungod - [ 28 ก.พ. 48 02:56:29 ]






ความคิดเห็นที่ 12

ไม่ผิดหวังเลยครับที่ไปดู Sideways
ตลอดทั้งเรื่องได้ครบทุกรส แล้วก็ลงตัวจริงๆ

อารมณ์เหงาในหนังเรื่องก็ช่วยทำให้คนดูเข้าถึงกับหนังได้มากขึ้น
ผมว่าทุกอย่างลงตัวมากๆเลยครับ เคยคิดว่า SAG ทำไมให้รางวัลทีมนักแสดงนำกับเรื่องนี้
แต่พอมาดูจริงๆผมไม่ผิดหวังเลยครับ ทุกคนทำให้หนังที่ดูจะน่าเบื่อๆ (จริงๆนะ แบบที่หลายคนบอกว่ามาเที่ยวสละโสด ชิมไวน์มันสนุกอะไร) ได้สนุกมาก
บทหนังเองก็้ต้องสุดยอด !!!

สมควรกับรางวัล oscar จริงๆ
อยากให้ Paul ได้เข้าชิง oscar ด้วยซ้ำอ่ะ

จากคุณ : *omega* - [ 1 มี.ค. 48 11:00:39 ]






ความคิดเห็นที่ 13

ชอบมากครับ
ผมว่านักแสดงเล่นได้แบบธรรมชาติสุดๆ
ไม่แปลกใจที่นักวิจารณ์เชียร์จนออกนอกหน้า

จากคุณ : เกิดมาเพื่อปืน - [ 2 มี.ค. 48 19:51:29 ]






ความคิดเห็นที่ 14

ถูกใจจริง ๆจ้า จขกท.วิจารณ์ได้ถูกใจจริงๆ เห็นด้วยทุกประการ อยากดูหนังสไตล์นี้อีกเยอะๆ มันสบายใจบอกไม่ถูกเหมือนได้ไปเที่ยวกับเพื่อนซี้ อนาคตจะได้เห็นหนังไทยแบบนี้บ้างไหมนะ เขียนบทให้ดีๆ ถนนข้างทางต่างจังหวัดบ้านเรา น่ามีเรื่องให้เล่าได้ตั้งเยอะ

จากคุณ : spectator - [ 3 มี.ค. 48 12:50:16 ]






ความคิดเห็นที่ 15

-_-"" ขอโทษนะคะ ขอนอกคอก มันไม่ค่อยซาหนุกเท่าไรอ่ะ จืดไปหน่อย มีแต่เรื่องของไวน์ เลยค่อนข้างน่าเบือ่สำหรับคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องน่ะ แฮ่ๆๆๆ สงสัยดูไม่หนุกอยู่คนเดียวมั๊งเรา -_-""

จากคุณ : nongnu_kmitl - [ 4 มี.ค. 48 15:19:55 ]






ความคิดเห็นที่ 16

บรรยากาศหนังเหมือนดูสารคดี พาเที่ยวเมืองเลยค่ะสวยดี
ดูสบายค่ะ ไม่รู้สึกว่าเป็นหนัง
เนี่ยะหละคือจุดสำคัญที่ชอบ ที่สำคัญทีมนักแสดงเก่งมากเลยค่ะ

จากคุณ : tubbygal - [ 8 มี.ค. 48 21:59:17 ]






ความคิดเห็นที่ 17

เห็นด้วยกับหลายๆความคิดเห็นนะครับ หนังที่เข้าชิงออสการ์ยอดเยี่ยมทั้ง 5 เรื่อง ผมชอบ Sideways มากที่สุดเลย ดูแล้วมีความสุขครับ สบายๆ ตอนจบยังมีให้เราไปคิดเองอีกด้วยว่าจะเป็นไงต่อ ใครที่ยังไม่ได้ดูแนะนำให้ไปดูเลยครับ

จากคุณ : wort - [ 8 มี.ค. 48 22:48:27 ]






ความคิดเห็นที่ 18

อยากได้ซาวด์แทร็คหนังมากๆครับ
ฟังแล้วรู้สึกสบายดีจริงๆ

จากคุณ : jonykeano - [ 9 มี.ค. 48 19:35:50 ]






ความคิดเห็นที่ 19

ดูแล้วไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของตัวละครเท่าไหร่ค่ะ
แต่มีฉากที่ขำมาก
และเพลงน่ารักดี

จากคุณ : ลูกหนอน. - [ 10 มี.ค. 48 00:23:19 ]






ความคิดเห็นที่ 20

ชอบเหมือนกันแต่ยังไม่ที่สุด รู้สึกว่ามันยังขาดๆอะไรอยู่...
โดยส่วนตัวชอบAbout Schmidtมากกว่า

จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร - [ 10 มี.ค. 48 12:55:47 ]





โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 17 มีนาคม 2548 เวลา:1:40:18 น.  

 
ดูจบไปหนึ่งรอบแล้วค่ะ..
รู้สึกสนุกดีค่ะ.. ชอบ..ตามแบบของหนัง drama ทั่วไป
ดีกรีความหดหู่ของตัวเอกลดลงจาก about schmit เยอะเชียว
แล้วก็หลงรักอีตา Paul Giamatti .. หลังจากเริ่มชอบๆ พี่แกจาก
american splender อันนั้นหดหู่กว่านี้อีก
แล้วพอมาค้นหาหนังที่แกเล่น จาก imdb.com โห เพียบเลยสิ .. หนังที่เราเคยดูก็หลายเรื่อง..
แต่ไม่เคยจำแกได้เลย.. รวมทั้งหนังที่ชอบอย่าง if these wall could talk 2 อีตานี่เหรอเนี่ย .. ที่เล่นเป็นหลานชายขี้งก.. มาฮุบสมบัติป้า ทั้งๆที่ตอนอยู่แทบไม่เคยรู้จักกะป้าตัวเองเลย ตอนดูจำได้ว่าเกลียดตานี่สุดๆ แต่กลับจำหน้าไม่ค่อยได้แฮะ..

แล้วพอได้ไปคุยกะคนที่รู้เรื่องไวน์
อืมม.. นอกจากไอ้เรื่ององุ่นสองพันธุ์.. ที่บอกความต่างของคนสองคน ยังมีเรื่องไวน์ที่เล็ดลอดผ่านตาเราไปอีกหลายช๊อตอ่ะ..
อย่างอายุไวน์.. ตายไม่ตาย ทำนองนั้น
เลยว่าจะต้องหาเวลาดูใหม่อีกรอบ
แล้วค่อยไปถามผู้รู้อีกที..
ชักสนุกขึ้นกว่าเดิมแล้วสิทีนี้


โดย: พันธกานต์ IP: 202.5.88.129 วันที่: 20 เมษายน 2548 เวลา:0:24:05 น.  

 
ดูแล้วไม่ซาบซึ้งเท่าที่ควรค่ะ


โดย: nam IP: 203.113.70.11 วันที่: 19 กันยายน 2548 เวลา:11:19:22 น.  

 
เฉียดไปเฉียดมากับหนังเรื่องนี้หลายหน...

จะพุ่งเข้าชนจังๆก็เพราะ Review ของคุณนี่แหละครับ ^___^


โดย: Ruudy IP: 203.118.114.187 วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:12:23:28 น.  

 
หนังดีทีเดียว ไม่เสียดายตังค์ที่ไปเช่ามา
แม้ว่าจะดูตอนดึกมากไปเสียหน่อย แต่ก็ยังไม่มีจังหวะที่หลับนาน ๆ (มีวืดเป็นพัก ๆ 555)



โดย: คนที่คุณก็รู้ว่าใคร IP: 203.144.196.34 วันที่: 29 ธันวาคม 2548 เวลา:10:23:37 น.  

 


โดย: toNG IP: 203.150.132.101 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:00:01 น.  

 
เสน่ห์ของเรื่องนี้อยู่ที่ความเรียบง่าย แต่ให้อารมณ์ และ บรรยากาศที่อบอุ่นมากๆ
เรื่องนี้เป็น road movie ที่มีการ"move"นำพาตัวเอกของเรื่องเดินทางทั้งภายนอกและภายในจิตใจนำมาซึ่งการมองย้อนกลับไปในอดีต การเรียนรู้ การเติบโต และเปลี่ยนแปลงของตัวเอก ซึ่งชื่อเรื่องก็บอกเรากลายๆแล้วครับว่าสิ่งที่สำคัญในชีวิตมัน ไม่ใช่แค่เรื่องของจุดหมายปลายทาง แต่อยู่ที่สิ่งที่เราได้ประสบพบเจอ"ข้างทาง"มากกว่า
ที่น่าสนใจมากๆ อยู่ที่มีการนำเรื่อง"ไวน์"มาเป็นตัวช่วยเดินเรื่อง และ เป็นสัญลักษณ์ที่น่าทึ่งมาก ถ้าเราสังเกตนิสัยของ Miles (ที่เป็นตัวเอกของเรื่องที่มีทุกอย่างของ "looser" ที่พึงจะมี เป็นชายกลางคน หัวล้านลงพุง เขียนหนังสือก็ไม่ได้รับการตีพิมพ์ ไม่มีความมั่นคงในชีวิต เพิ่งผ่านการหย่าร้างอย่างเจ็บปวด ) มีสิ่งนึงที่ดูจะพอเป็นจุดเด่นของที่น่าภูมิใจของเขาได้ คือความรู้เรื่องไวน์นี่ดีมาก แต่อันนี้ก็สามารถมองมุมกลับได้ว่ามันก็เป็นหนึ่งในข้อด้อยของเขาอีกเหมือนกัน เพราะ เราจะเห็นได้ว่าขั้นตอนการจิบไวน์นี่มันช่างมากมายเหลือเกิน กว่าจะได้จิบต้องพิถีพิถันมาก เหมือนจะบอกว่าพระเอกเรานี่ช่างเลือก ช่างจู้จี้จุกจิกกับชีวิตซะเหลือเกิน (ตรงข้ามกับยอดชายนาย Jack ที่ก็ไม่เลือกเลย เห็นไม่มีหางเป็นฟันดะ....ฮา)
มีบทสนทนานึงที่บอกถึงตัวตนพระเอกได้ดีมาก ว่าพระเอกเราชอบองุ่นพันธุ์ฟิโนต์มาก ตรงที่มันต้องดูแลทนุถนอมกันอย่างพิถีพิถัน เลือกดิน เลือกน้ำ เลือกอุณหภูมิมาก ผิวช่างบอบบางเหมือนกับความเปราะบางของพระเอกเรายังไงยังงั้น สุดท้ายแล้วพระเอกเราต้องมาชอกช้ำระกำทรวง เอาไวน์สุดหวงปี 1961ที่เก็บไว้นานปีมาแอบซดผ่านแก้วโค้กในร้านอาหารอย่างหมดท่า ถึงได้คิดได้ว่าบางทีของบางอย่างมันไม่จำเป็นต้องเรื่องมากถึงขนาดนั้นก็ได้
ส่วนนางเอก Maya เรานี่ก็ดูเป็นคนละเอียดอ่อนกับชีวิตมาก ถึงได้บรรยายการเฝ้าดู"ชีวิต"ของไวน์ในถังไม้โอ๊กได้เป็นที่ซาบซึ้งตรึงใจของพระเอกเราเป็นอย่างมาก แต่จะดูเป็นคนที่อยู่ในโลกของความเป็นจริงพอสมควรถึงกล้าแย้งพระเอกเราเกี่ยวกับไวน์ได้อย่างน่าชื่นชม และ ไม่ผลีผลามที่จะสรุปความสัมพันธ์กับพระเอกเรา แต่ปล่อยให้มันค่อยเป็นค่อยไปเหมือนที่เธอเฝ้าดูไวน์นั่นแหล่ะ
ส่วนนาย Jack นี่ก็ชอบไวน์อะไรก็ได้ที่มันอร่อยลิ้น เลยสนุกสุดเหวี่ยง เผลอไผลไปจนคิดจะล้มงานแต่ง มาตั้งรกรากในไร่ไวน์ซะอย่างงั้น จนมาเจออะไรแรงๆไป 2ครั้ง2ครา(อย่างฮา) ถึงได้รู้ว่ามีสิ่งที่สำคัญในชีวิตรออยู่ และ เกือบสูญเสียมันไปซะแล้ว
สรุปว่า ผมได้ดูหนังที่รื่นรมย์มากๆ มีแง่คิดที่น่าสนใจ และ ทำให้รู้สึกอยากไปเที่ยวจิบไวน์ ตีกอล์ฟ จีบสาวแบบนั้นขึ้นมาบ้างแล้ว ใครยังไม่เคยดูลองหาDVDมาดูกันให้ได้นะครับ


โดย: ฉิกซิงแซ IP: 125.24.108.20 วันที่: 29 ตุลาคม 2550 เวลา:10:21:08 น.  

 
ดีๆ ทุกคนนะเราร๊ากคนๆ 1 แต่มะรู้ว่าเข้าจาชอบเราเปล่า

ร๊ากทุกคนนะจร้า


55555+



แนนร๊ากพี่ออยที่สุดในโลกเลย



แนนร๊ากพี่ป็อกที่สุดในโลกหมือนกัน





555+





อาดจาเวอร์ไปนิส 1 แต่ร๊ากจริงงงงง นะตัวเอง




บะบ่าย





นอนหลับ





ผันดีนะ





ทุกคน




*จุฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟๆ*






โดย: น้องแนน IP: 125.27.147.143 วันที่: 23 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:01:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
26 กุมภาพันธ์ 2548
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.