www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Corpse Bride , รักไม่มีวันตาย



ความรักและความตาย , คนเป็นและคนตาย

...งานแต่งงาน กับ งานศพ เป็น งานที่อยู่กันคนละฟากฝั่งของชีวิต งานแรก คือพิธีการของความรัก การเกิดหรือการเริ่มต้นของชีวิตใหม่ๆ เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความสดใสของผู้คนที่มาร่วมงาน งานหลัง คือพิธีการของความตาย การสิ้นสุดหรือการจบลงของชีวิต เป็นงานที่มีแต่สีของความหมองหม่นและน้ำตา

Tim Burton จับเอาเจ้าภาพของทั้งสองงานนั่นคือ คนเป็น และ คนตาย มาผสมผสานเป็นเรื่องราวเดียวกัน เรื่องราวความรัก ที่เกิดขึ้นระหว่าง Victor Van Dort และ Victoria Everglot ชายหนุ่มหญิงสาวที่ชีพจรยังเต้นหัวใจยังสูบฉีดดี กับ Emily หญิงสาวที่หลงเหลือเพียงโครงกระดูกและร่างที่ไร้หัวใจ

…Victor Van Dort และ Victoria Everglot ถูกจับคลุมถุงชนให้มาแต่งงานกัน โดยที่ทั้งคู่ยังไม่เคยรู้หน้าค่าตากันมาก่อน ในสังคมที่มนุษย์จำเป็นต้องอาศัยปัจจัยในการดำรงชีพที่มากกว่าความรัก พวกเขาต้องการเสื้อผ้า พวกเขาต้องการอาหาร พวกเขาต้องการชื่อเสียงเกียรติยศ ฯลฯ นั่นทำให้ การแต่งงานไม่ได้เริ่มต้นมาจากความรักเสมอไป แต่กอปรไปด้วยปัจจัยอื่นที่มีผลต่อการยังชีพ เช่น แต่งงานเพื่อหวังผลทางธุรกิจความอยู่รอด แต่งงานเพราะอยากมีชื่อเสียงมีหน้าตา ฯลฯ ดังที่พ่อแม่ของ 2 ครอบครัวนี้ที่ต่างมองการแต่งงานครั้งนี้ ด้วยสายตาที่ไม่เห็นความหมายของคำว่า รัก ฝ่ายหนึ่งมุ่งหวังชื่อเสียงและภาพพจน์ทางสังคม อีกฝ่ายมุ่งหวังทรัพย์สินเงินทอง สำหรับพ่อแม่ของทั้งคู่ การแต่งงานไม่จำเป็นต้องอาศัยความรัก

เมื่อ Victor และ Victoria ได้มาพบกัน ทั้งคู่ต่างตกหลุมรักกันและกัน และ งานแต่งงานของเขาและเธอกำลังจะเริ่มต้นด้วยความรัก ไม่ใช่จากความต้องการทางสถานภาพสังคมเหมือนพ่อแม่ตัวเอง แต่ความตื่นเต้นประหม่าของ Victor ทำให้การซ้อมงานพิธีต้องมีอันผิดพลาด และ เขาถูกฉุดลงไปสู่โลกหลังความตายโดยไม่ได้ตั้งใจ

....ในโลกหลังความตาย โลกที่ปัจจัยทางสังคมเช่นชื่อเสียง หน้าที่การงาน ฯลฯ ล้วนไม่มีผลอันใดอีกต่อไป ประชากรในโลกของคนตายเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะสรวลเสเฮฮา ความเริงร่าและการเลี้ยงฉลอง ตรงข้ามกับโลกของคนเป็นที่มีแต่ความหมองหม่น สีเทา ประชากรในโลกคนเป็นล้วนมีใบหน้าเคร่งเครียดจริงจัง จริงอยู่ว่าโลกของคนเป็นก็มีงานเลี้ยง แต่เคยหรือไม่ที่เข้าไปในงานใหญ่โต แล้วพบว่ามันเป็นงานที่แห้งแล้งอารมณ์ความรู้สึก เต็มไปด้วยผู้คนแต่ผู้คนเหล่านั้นไม่มีใครรู้จักกัน ต่างมากันเพียงเพื่อหน้าที่หรือวัตถุประสงค์บางอย่าง งานเหล่านั้นอาจยิ่งใหญ่หรูหรา ตกแต่งตระการตา แต่ล้วนขาดซึ่ง หัวใจ หรือหนังกำลังจะบอกเราว่า สิ่งที่ทำให้มนุษย์เราที่ยังมีลมหายใจอยู่ในสังคมอย่างมีชีวิตสีเทา ไร้รอยยิ้มบนใบหน้าและหัวใจ มันเป็นผลมาจากปัจจัยทางสังคมเหล่านั้นที่เราต่างพยายามไขว่คว้ามาคู่กาย เรามีหัวใจที่เต้นได้แต่ไร้ใจที่ใช้รู้สึก

เมื่อ Victor หายตัวไป เมื่อนั้น บทพิสูจน์ศรัทธาของรักแท้ที่มีต่อกันของทั้งคู่ก็เริ่มต้น คนเราจะยืนหยัดรอคอยได้นานเพียงใดสำหรับความรัก


รักไม่มีวันตาย , Can a heart still break after it's stopped beating ?

...จริงหรือที่ว่าคนเราเมื่อตายไป ความรักจะตายตามไปด้วย Emily ตายไปในวันที่เธอสวมชุดเจ้าสาว เธอกลายมาเป็น เจ้าสาวซากศพ หญิงสาวที่ตายไปแต่เพียงร่างกายแต่ใจยังเฝ้ารอคอยความรัก รักแท้ที่เธอยังไม่เคยได้รับกลายเป็นความรู้สึกคั่งค้างตัวเธอที่ฝังตัวเธอให้อยู่ที่เดิม แม้หัวใจเธอจะหยุดเต้นชีวิตเธอจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่เธอยังคงไม่หยุดที่จะรอคอยความรัก แม้เธอจะตายไปแต่ก็เหมือนดวงจิตที่ติดอยู่ในสงสารวัฏ โดยยังมิอาจหลุดพ้น เธอเองก็เหมือนกับผีเสื้อที่ถูกขังไว้ในโถแก้วในฉากแรกของหนัง เป็นความสวยงามที่ไม่อาจโบยบินอย่างอิสรเสรี

…จนเมื่อ Victor ก้าวมาสู่โลกของเธอ ทำให้เธอเชื่อว่า เขาคือรักแท้ที่เธอรอคอย คือ คนที่จะปลดปล่อยเธอให้หลุดพ้น แต่ยิ่งเธอพยายามกักเขาไว้ในโลกใบนี้นานเท่าไหร่ เธอกลับพบว่ามันก็ไม่ใช่ความสุขที่เธอเคยคิดฝันถึง หากความรักทำให้คนเรามีความสุข ทำไมเธอถึงไม่พบความสุขนั้น ?

หรือ Victor ไม่ใช่รักแท้ที่เฝ้าคอย แต่เป็นเพียง ใครบางคน ที่มาชดเชยความรู้สึกที่ขาดหายไป มาทดแทนความรู้สึกที่ยังเติมไม่เต็ม เหมือน ในเวลาที่แก้วที่ใส่ความรักของเราพร่องความรักไป เราพยายามที่จะดึงใครสักคนมาเติมเต็มความรักนั้น โดยมิได้ตระหนักว่าสิ่งที่เราทำอยู่เป็นการทำเพราะความรัก หรือ เป็นการทำเพื่อสนองเติมเต็มความรู้สึกที่มันพร่องไป

...แม้ว่าในฉากแรกนั้น ผู้ที่ปลดปล่อยให้ผีเสื้อบินออกไปคือ Victor แต่สุดท้ายคนที่ปลดปล่อยให้เธอได้โบยบินอย่างอิสระอีกครั้ง คนที่เปิดขวดโหลออกให้กับเธอหาใช่ Victor แต่คือ ตัวเธอเอง

.... ที่ผ่านมาสิ่งที่เธอปรารถนาคือความรัก แต่สิ่งที่เธอกระทำคือการพยายามครอบครอง ดังนั้นสิ่งที่เธอได้ครอบครองเป็นเพียง ร่างของ Victor หาใช่ใจของเขาไม่ และถึงแม้จะได้ใจของเขามา มันก็เป็นเพราะเธอเองเป็นคนขโมยมันมาอย่างที่เธอว่าไว้ว่า เธอขโมยความฝันคนอื่นเพื่อมาเติมเต็มความฝันตัวเอง และ หากเธอยังคงทำเช่นนั้นต่อไป เธออาจได้ Victor มาอยู่เคียงข้าง แต่ เธอก็จะยังคงเป็นเหมือนผีเสื้อที่บินวนเวียนในโหลแก้วไปอีกนานแสนนาน

ความสุขจากความรักของเธอ ไม่ได้มาจากการที่เธอได้รับรักจากเขา แต่มันมาจากการที่เธอปลดปล่อยเขาให้ไปพบรักที่แท้จริง นั่นคือ ความสุขจากความรักที่เธอรอคอย

...แม้แต่คนตายอย่างเธอยังตัดขาดจากความรักไม่ได้ นับประสาอะไรกับคนเป็นๆที่ยังไม่สามารถสลัดกับดักแห่งรักได้พ้น ตัวละครเจ้าสาวซากศพมีอยู่มากมายในโลกของความเป็นจริง กับคนที่ขังตัวเองด้วยโถแก้วที่ตัวเองเชื่อว่ามันคือความรัก แต่เป็นความรักจริงหรือที่ขังเราไม่ให้เป็นอิสระ เราเป็นผีเสื้อที่บินวนเวียนไปมาอยู่มานานเท่าไหร่แล้ว ?

….Tim Burton ตามขาประจำทั้งหลายที่ล้วนเคยร่วมงานกับเขาไม่ว่าจะเป็น Johnny Depp , Christopher Lee ฯลฯ ให้มาพากษ์เสียงตัวละครในเรื่อง แต่ละคนก็สร้างเอกลักษณ์ให้กับบทตัวเองได้ดี คนที่เด่นเป็นพิเศษน่าจะเป็น เจ้าสาวซากศพ ที่ให้เสียงโดย Helena Bonham Carter (รายนี้นอกจากร่วมชีวิตแล้วก็เพิ่งร่วมงานกันไป 2 เรื่องติดทั้ง Big Fish และ Charlie and the Chocolate Factory) เธอทำให้ตัวละครนี้ทั้งน่ารักและน่าสงสาร ประการสำคัญคือตัวละครของเธอนั้นตายไปแล้วแต่สามารถทำให้คนดูรู้สึกว่าเหมือนยังมีชีวิตอยู่ คิดถึงสีหน้าที่มีทั้งกระเง้ากระงอด น้อยใจ มันยิ่งทำให้เจ้าสาวซากศพดูเหมือนคนมีชีวิตมากขึ้นไปทุกที

Corpse Bride เป็นงานสต็อป-โมชั่นที่มีรายละเอียดของภาพสูง สีหน้าตัวละครโดยเฉพาะตัวเจ้าสาวซากศพ ที่อาจจะไม่เหมือนคน100เปอร์เซ็นต์แต่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกออกมาได้มีเสน่ห์เหมือนคนจริง หลายฉากในเรื่องมีภาพที่สวยจนน่าตื่นตา เช่น ฉากผีเสื้อตอนท้ายที่งดงามเกินบรรยาย การสร้างตัวละครในเรื่องเป็นความช่างคิดของผู้สร้างที่สามารถผนวกภาพของเหล่าโครงกระดูกหรือคนตายที่น่าจะสยดสยอง ประเภท ศพที่ถูกผ่าครึ่ง ให้ออกมาบนจอได้อย่างน่ารักน่าชัง สร้างอารมณ์ขันเรียกรอยยิ้มคนดูได้ตลอด หนังเรื่องนี้จะว่าไปก็เป็น หนังรักโรแมนติคของTim Burton ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่อารมณ์รักโรแมนติคของเขานั้นไม่เคยธรรมดาเหมือนคนอื่นๆ ความรักของเขามักจะต้องเจือความรู้สึกขมขื่น น่าเศร้า หรือมีปมด้อยของตัวละครอยู่เสมอ ตัวอย่างเด่นๆก็คือ Edward Scissorhands จนเหมือนกับเป็นเอกลักษณ์ของเขาแล้วที่งานทุกชิ้นไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์หรือหนังสือย่อมจะต้องมีความดำมืดแฝงอยู่ตลอด

...ถึงแม้ว่า Corpse Bride จะเป็นโลกหลังความตายและมีสีดำอย่างชัดเจน แต่ผมกลับรู้สึกว่านี่เป็นหนังที่สว่างมากที่สุดของเขาเรื่องหนึ่งตรงข้ามกับแบคกราวด์ของเรื่อง เป็นหนังที่ให้ความรู้สึกซาบซึ้งประทับใจในความรักของตัวละครได้อย่างไม่รู้สึกหดหู่จนเกินไปนัก

ฉากหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าเป็นฉากที่หวานมาก คือ ฉากเล่นเปียโนของ Victor และ Emily ทั้งดนตรีและสีหน้าตัวละครทำให้เราเชื่อว่า ความรู้สึกดีๆ ได้เกิดขึ้นแล้วระหว่างกันและกัน สังเกตว่าดนตรีจะมีบทบาทต่อความรักในเรื่องมากเพราะ หนังใช้เสียงดนตรีเป็นตัวเชื่อมความรู้สึกตัวละครถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกที่ Victor พบรัก Victoria ก็คือตอนที่เขาบรรเลงเพลงและเธอลงมาได้ยินเสียงเปียโนของเขา อีกฉากที่ให้ความรู้สึกดีๆ คือ ฉากที่คนตายกลับมาพบคนเป็นซึ่งถ่ายทอดความรู้สึกอบอุ่นซาบซึ้งออกมาได้ดี

...เมื่อเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆของ Tim burton หนังเรื่องนี้จัดได้ว่าค่อนข้างเบาในแง่เนื้อหาและไม่ได้ลงลึกอะไรมากมาย จะเสียดสีล้อเลียนก็เล่นแบบเบาๆจนค่อนข้างน่าผิดหวังในแง่นี้ ยิ่งบวกกับหนังค่อนข้างสั้นเพียง 76 นาที และการเล่าเรื่องตอนท้ายดูรวบรัดตัดจบเร็วไปนิด ทำให้ Corpse Bride เป็นงานที่มีข้อบกพร่องน้อย มีข้อที่น่าชื่นชมหลายอย่าง แต่ไม่ใช่หนังที่พาคนดูไปได้ไกลเหมือนงานชิ้นอื่นๆของเขา เป็นงานที่สร้างความประทับใจแต่ไม่ใช่งานที่จะติดตรึงใจไปนาน

สิ่งที่ชอบ

1.ฉากเล่นเปียโนของ Victor กับ Emily .. เป็นฉากที่ซึ้ง+หวานที่สุดทั้งจากเพลงที่เลือกเล่น และ จังหวะการเข้าคู่ของตัวละคร

2.ดนตรีและเพลงประกอบ Danny Elfman … มีส่วนในการลดความน่ากลัวของโลกหลังความตาย และ เป็นเหมือนเครื่องปรุงที่ช่วยผสม อารมณ์รักโรแมนติก กับ อารมณ์ขัน และ ความน่ากลัว ให้เข้ากัน เพลงประกอบในเรื่องน่ารักมากๆหลายตอนที่ตัวละครมาร้องเพลงจนนึกว่ากำลังฟังเพลงจากการ์ตูนของวอลท์ ดิสนีย์

3.รายละเอียดของภาพ ... เป็น stop motion ที่สวยและมีรายละเอียดของภาพมากที่สุดเรื่องหนึ่งที่เคยดูมา

4. โลกของคนตาย + โลกของคนเป็น + ความรัก ... แค่ได้ยินเรื่องย่อหรือได้ดูตัวอย่าง ก็พอเชื่ออยู่ว่าน่าจะเป็นงานที่ดีเรื่องหนึ่งของ Tim burton แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่อยากเชื่อ คือเขาจะทำให้คนดูสามารถรู้สึกซาบซึ้งไปกับเนื้อหาความรักแปลกๆที่มีทั้ง ผี ซากศพ โครงกระดูก ฯลฯได้อย่างไร จนกระทั่งดูจบผมจึงได้แต่นึกว่าผิดเองที่ประเมินเขาต่ำไป เพราะขนาดตัวละครที่ทั้งน่ากลัวและน่าสงสาร หน้าขาววอก มือเป็นกรรไกร ยังสร้างความกินใจให้กับคนดูมาแล้วโดยถ้วนทั่วกัน

5. Can a heart still break after it's stopped beating? ... ชอบประโยคนี้ สื่อความหมายดีและสื่อตัวหนังได้ดี

สิ่งที่ไม่ชอบ

1 สั้นๆ เบาๆ เรื่อยๆ.... อาจเพราะเปรียบเทียบกับเรื่องที่ผ่านๆมาของ Tim burton ทำให้ผมหวังกับเรื่องนี้มากไปหน่อย จริงอยู่เป็นงานที่ดูสนุกและมีอะไรอยู่บ้าง ในแง่อารมณ์ความรู้สึกหนังทำได้ดี แต่ในแง่เนื้อหา หนังทำออกมาธรรมดาเกินไปนิด เหมือนเล่าเรื่องแบบผ่านๆไม่ลงลึกและเล่นกับเนื้อหาไม่เต็มที่ จะเสียดสีจะล้อเลียนก็ไม่เต็มตัว จะเล่นกับด้านมืดก็เล่นเบาๆ รวมไปถึงความสั้นของหนังและการจบที่ผมรู้สึกว่าค่อนข้างรวบรัดห้วนเกินไปหน่อย

สรุป ... เป็นงานอนิเมชั่นคุณภาพสูง ทั้งภาพและดนตรีประกอบอยู่ในระดับเกรด A เป็นหนังรักในสไตล์ของTim Burton ที่แฟนๆไม่ควรพลาด คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปแน่นอน แต่ด้วยความเบาของตัวหนังทำให้มันออกมาเรื่อยๆ กลางๆ ไม่ได้โดนใจชนิดชนจังๆ และ นั่นทำให้ Corpse Bride สำหรับผมแล้วเป็นผลงานในกลุ่มคุณภาพสูงของ Tim Burton แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไป มันจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่จับใจและชวนให้นึกถึงเป็นอันดับต้นๆ

ปล.. เลือกอ่านโรงงานช็อคโกแลตของชาลี ได้ด้วยการคลิก >> Charlie and the Chocolate Factory , Imagination is more important than knowledge




ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป

ติดตามบทความใหม่ๆ หรือ บทความน่าสนใจ หรือ เริ่มต้นอ่านBlogนี้มีข้อสงสัย คลิกไปเริ่มต้นที่ --> หน้าแรก


รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง


Create Date : 19 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2548 0:28:42 น. 34 comments
Counter : 15765 Pageviews.

 
ู^^/
เราดูแล้วชอบนะ หนังน่ารักดี
ดูแล้วทึ่งกับเทคนิคสตอปโมชั่นสุดๆ เนียนมาก >_<

ตอนเห็นครั้งแรกยังคิดว่าเป็น3D animation เลย


โดย: Diabolic Angel วันที่: 19 พฤศจิกายน 2548 เวลา:6:50:27 น.  

 
ไม่ได้ดู เรื่องนี้อ่ะค่ะ
แต่คาดว่าคุณน่าจะเขียนถึง นานะ
จะรออ่าน ค้า


โดย: grappa วันที่: 19 พฤศจิกายน 2548 เวลา:8:17:33 น.  

 
รัก ทิม เบอร์ตัน มากค่ะ
คนอะไรเวลาทำหนัง ถ่ายออกมาเป็น เมืองการ์ตูน
แต่พอทำการ์ตูน ดันถ่ายออกมาสมจริง
ว่างๆ จะเขียนถึง ทิมเบอร์ตันยาวๆ บ้าง ^^

คุณข้างหลังคะ...เคยอ่าน "เด็กชายหอยนางรม" หรือยังคะ?

:)


โดย: นารูมิ วันที่: 19 พฤศจิกายน 2548 เวลา:8:18:55 น.  

 
เรื่องนี้หนุกมากๆ ชอบเจ้าสุนัข ตอนเปิดเรื่องเห็นภาพวาดเจ้าสุนัขตัวนี้กะพระเอกตอนเด็กๆ
พอพระเอกได้กล่องของขวัญแล้ว กระดูกรวมตัวกันเป็นสุนัข ผมอมยิ้มไม่หุบเลย ขนาดเป็นแค่กระดูก พระเอกและสุนัข ยังคงจำกันได้ ซึ้งๆๆๆ


โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) วันที่: 19 พฤศจิกายน 2548 เวลา:8:33:32 น.  

 
grappa ... นานะ คือ เรื่องต่อไปที่จะเขียนครับ แต่ลังเลใจว่าจะไปดูอีกรอบก่อนดีหรือเปล่านะ ชอบๆ

นารูมิ ... อ่านแล้วครับเพิ่งซื้อมาจากงานหนังสือคราวนี้เอง

Diabolic Angel ... ภาพเนียนจนเผลอนึกว่า 3D ได้จริงๆครับ

Zantha ... ฉากการพบกันของคนเป็นและคนที่ตายไป ซึ้งทุกฉากเช่นกัน


โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 19 พฤศจิกายน 2548 เวลา:12:09:48 น.  

 
สนุกค่ะ เป็นanimationที่ดีอีกเรื่อง
เสียอย่างเดียว หนังสั้นไปหน่อยง่ะ

ทิมเค้าชอบใช้คนเล่นเดิมๆตลอดเลย
ในbig fish ก็มีอุมปาลุมป้าด้วย ขำแทบแย่
แบบเราดูchocolateฯก่อนอ่ะ พอเห็นโผล่ออกมาแล้ว
....พรึ่ดดดดดดด ขำโคดๆ ฮี่ๆๆๆ


โดย: ซินเด๋อเหลอหลา วันที่: 19 พฤศจิกายน 2548 เวลา:12:42:22 น.  

 
.....เรื่องนี้ชอบมากๆครับ ...
.....ดูมา 5 รอบแล้วฮะ ....
...หุหุหุ...


โดย: ~Sorcel~ IP: 203.155.169.38 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2548 เวลา:13:31:17 น.  

 
ใช่แว้ว รักไม่มีวันตาย


โดย: นู๋เปนลิงบ๊องส์ (idexying ) วันที่: 19 พฤศจิกายน 2548 เวลา:14:03:12 น.  

 
ชอบประโยคนี้ล่ะค่ะ

"Can a heart still break after it's stopped beating?"




โดย: Tai-Sarunya IP: 203.107.203.196 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2548 เวลา:20:25:27 น.  

 
สวัสดีค่ะ
(Spoiler)
สนุกดีค่ะ ภาพสวยดี เนื้อเรื่องโดยรวมโอเค เสียดสีคนเป็นที่มีหัวใจ(เต้น)แต่กลับไร้ใจ กับคนตายที่ไม่มีหัวใจ(เต้น) แต่ไม่ไร้ใจ
ตอนที่รู้สึกดีคือตอนที่ ในงานแต่งกับ
วิคเตอร์ เจ้าสาวศพ หันไปเห็นวิคตอเรีย เธอกลับทำสิ่งที่คนมีหัวใจ(เต้น)หลายคนทำไม่ได้ คือการเสียสละ และหนังก็ทำให้เห็นว่าการยอมเสียสละความสุข นำมาซึ่งความสุขใจยิ่งกว่า

และชอบเรื่องสุนัขของพระเอก ตัวเองไม่ทันสังเกต พออ่านที่คุณตี๋น้อยเขียน แล้วรู้สึกดีจังค่ะ
ตินิดนึง ว่าหนังสั้นไปหน่อยค่ะ ประเด็นเนื้อเรื่องจึงมีไม่มาก

สำหรับคุณ............. งานแต่งงานกับงานศพอาจรู้สึกเป็นเรื่องเดียวกันใช่ไหมค่ะ


โดย: รอเป็น corpse เอ้ย รอเป็น bride IP: 61.91.134.46 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2548 เวลา:11:38:28 น.  

 
ชอบผีเด็กใส่ชุดกะลาสีเรือครับ
ผมว่าหนังกำลังตั้งคำถามกับประเด็นคนเป็น-คนตาย (ชีวิต-จิตใจ) ด้วยนะครับ พวกตัวละครแวดล้อมตัวละครหลักนั้นตัวที่มีชีวิตแต่กลับไม่มีมิติด้านจิตใจ ส่วนตัวละครฝ่ายโลกใต้ดินแม้จะไร้ชีวิตแต่กลับมีหัวใจดวงโตกว่าพวกบนโลก


โดย: ปรีดา IP: 203.156.23.146 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2548 เวลา:15:02:12 น.  

 
ในที่สุดก็ได้อ่านCorpse Brideซะที เย้ๆ

เป็นหนังที่เปิดตัวได้ตื่นตาตื่นใจดี สำหรับตัวละครStop motionแสนสวย แต่ดูแล้วสงสัยอย่างนึงว่า สงสัยจะเป็นGraves dz กันทั้งเรื่องเลยเนอะ Exophthamos กันทุกคน55

หลายๆฉากสวยงาม ช่างคิด ไอเดียบรรเจิดมาก โดยเฉพาะฉากduetเปียโนของพระเอกกับนางเอก(?)แต่บางฉากกลับดูแล้วเวียนหัว เช่นฉากโครงกระดูกเต้น

โดยรวมๆก็ค่อนข้างชอบนะ แต่ตอนใกล้ๆจบแอบคิดว่าอารมณ์คล้ายEdward Scissorhands จบห้วนไปนิด น่าจะยาวกว่านี้สักหน่อย

ชอบอันนี้ค่ะ
With this hand I will lift your sorrows.
Your cup will never be empty, for I will be your wine.
With this candle, I will light your way into darkness.
With this ring, I ask you to be mine
หวานมากๆ

หลังจากเดินออกมาจากโรงหนังมีเพื่อนถามว่า ทำไมโลกคนตายถึงมีสีสันมากกว่าคนเป็น

นั่นสิเนอะ


โดย: โยเกิร์ตรสสตอว์เบอร์รี่ วันที่: 20 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:58:59 น.  

 
เห็นด้วยเลยค่ะ ภาพสวยงามมาก ไอเดียน่าสนใจและไม่มีใครเหมือน เป็นผู้กำกับที่มีเอกลักษณ์ในตัวเองมากๆ แต่เรื่องนี้พล็อตมันง่ายไปหน่อยเนาะ หรือว่าพวกเราไปคาดหวังอะไรที่มันยากๆกันไปเองหว่า ส่วนตัวแล้วชอบชาร์ลีมากกว่าค่ะ อาจเพราะตอนดูเรื่องนี้มันง่วงๆด้วยแหละ พยายามฝืนสุดชีวิตที่จะไม่หลับ


โดย: azzurrini วันที่: 20 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:24:54 น.  

 
ดูมาแล้วชอบมากครับ


โดย: AC IP: 221.128.100.20 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2548 เวลา:11:04:03 น.  

 
ชอบประโยคที่คุณว่าเหมือนกันค่ะ

(จำประโยคภาษาอังกฤษไม่ได้นะคะ)

ทำไมหัวใจหยุดเต้นแล้วยังเจ็บปวดได้

ทำไมน้ำตายังมีให้ไหล?


โห..ช่วงนี้น้ำตาเราซึมเลยค่ะ



กลับมารายงานตัวแล้วนะคะ

แต่กว่าจะได้อัพบล็อกคงอาทิตย์หน้าเลย

งานช่วงนี้ยุ่งมั่กๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 22 พฤศจิกายน 2548 เวลา:12:06:17 น.  

 
ดูแล้วไม่(ทัน)ได้คิดแบบนี้เลยค่ะ
คิดไม่ออกด้วยอ่ะคะ
อ่านแล้วทำให้เราต้องกลับไปเริ่มต้นดูหนังใหม่อีกรอบ...เพื่อให้ได้ซึ่งแง่คิด


โดย: @little pixie@ วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:5:06:18 น.  

 
ตอนดูหนังจบแล้วก็เฉยๆ แต่พออ่านนี่แล้วรักหนังเรื่องนี้ขึ้นอีกเป็นกอง ~~~ ขอบคุณค่ะ


โดย: โบเองเอย IP: 203.154.149.98 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:11:49:20 น.  

 
ไปดูแล้วแอบน้ำตาซึม ยิ่งตอนประโยค "Can a heart still break after it's stopped beating ?"
ยิ่งซึมหนัก

รู้สึกเหมือนกันว่า หนังสั้นไป ไม่จุใจเลย เหมือนยังมีอะไรค้างคา
แต่ก็ชอบตอนจบ ดูแล้วคิดเองว่า การปล่อยวาง ปลดปล่อยตัวเองจากความเศร้าเนื่องจากรัก
คือความสุขที่แท้จริงของ Emily เธอไม่ต้องทุกข์อีกต่อไปแล้ว


โดย: ชิวเทียน วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:20:37:28 น.  

 
หรือเราชอบหนังง่ายๆ ชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ


โดย: SevenDaffodils (SevenDaffodils ) วันที่: 4 มีนาคม 2549 เวลา:13:38:20 น.  

 
หมาพระเอกน่ะ หน้าตาคุ้นๆ ไหมคะ...
ใช่ตัวเดียวกันในไนท์แมร์ บีฟอร์คริสต์มาสเลยรึเปล่า

เป็นแฟนทิม เบอร์ตันอยู่แล้ว ได้ไปดูเรื่องนี้ตั้งแต่พฤศจิกา ปีที่แล้ว สนุกดี แต่งงมากว่าทำไมมันสั้นขนาดนี้ แต่ให้อภัยได้กับงานสร้างที่ละเอียดลออ และเลิศเลอสุดๆ
ที่ญี่ปุ่นช่วงหนังบูมมีการจัดแสดงงานของเรื่องนี้ด้วย ไปดูมาน่ารักดี ได้ดูพวกต้นฉบับที่เขาวาดด้วย
คนญี่ปุ่นชอบทิมเบอตันกันเยอะ พวก goods ของไนท์แมร์ ชาร์ลี แล้วก็ คอรป์ไบร์ดส ขายดีมากๆ (เราก็เป็นหนึ่งในลูกค้าด้วย)
โดยเฉพาะ ไนท์แมร์ที่ดิสนีย์ได้ลิขสิทธิ์ไปทำของขายด้วย (เสียดายไม่ได้ไปดิสนีย์แลนด์ตอนฮาโลวีน เขาแต่งบ้านผีสิงเป็นไนท์แมร์ด้วยน่ะ)

ติดตามงานเขียนของคุณมานาน เพิ่งเคยอ่านครั้งแรก ชอบนะคะ


โดย: หยุงหญิง IP: 222.149.219.171 วันที่: 24 มีนาคม 2549 เวลา:0:26:15 น.  

 
ผมชอบฉากเปียโนทั้งสองฉากมากๆ เหมือนกันครับ อยากหัดเล่นไว้จีบสาวๆ บ้าง


โดย: llec IP: 58.147.47.153 วันที่: 24 มีนาคม 2549 เวลา:1:19:28 น.  

 
อยากดูเหมือนกัน ต้องรีบหามาดูซะหน่อยแล้ว


โดย: บะหมี่หยกหกก้อน IP: 202.44.136.50 วันที่: 1 เมษายน 2549 เวลา:14:55:21 น.  

 
หาข้อมูลยากโคตร


โดย: mx อนิเมจ IP: 58.8.99.50 วันที่: 4 เมษายน 2549 เวลา:14:31:49 น.  

 
เขียนดีอีกแล้วๆๆๆ

ชอบประโยคนี้..
เราพยายามที่จะดึงใครสักคนมาเติมเต็มความรักนั้น โดยมิได้ตระหนักว่าสิ่งที่เราทำอยู่เป็นการทำเพราะความรัก หรือ เป็นการทำเพื่อสนองเติมเต็มความรู้สึกที่มันพร่องไป

เรื่องที่ไม่ชอบก็ตรงกันค่ะ เบาจนเหมือนงานทดลอง - -"
เรื่องที่ชอบคือ stop motion ^^ ฉากที่ Emily กลายเป็นผีเสื้อบินไปนี่สุดยอด
และประโยคนี้..
Can a heart still break after it's stopped beating?


โดย: SFFC IP: 125.24.78.46 วันที่: 18 เมษายน 2549 เวลา:18:28:42 น.  

 
เป็นหนังการ์ตูนที่ใช้เทคนิคแบบใหม่ น่าสนใจดี
เนื้อเรื่องก็เรื่อยๆนะ


โดย: บะหมี่หยกหกก้อน IP: 202.44.136.50 วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:13:40:31 น.  

 








สนใจม้า

โดย: พะโล้ IP: 202.183.216.164 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:58:19 น.  

 
//corpsebridemov ie.warnerbros.com/


โดย: พะโล้ IP: 202.183.216.164 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:59:40 น.  

 
ชอบผีน้องหมามากๆเลย กระดิกหางได้ด้วย ดิ๊กๆๆ


โดย: Mad Monqui IP: 61.19.236.82 วันที่: 3 เมษายน 2550 เวลา:15:27:26 น.  

 
ให้ความรู้สึกแตกต่างจากเรื่อง nightmare มากเลยทั้งที่บรรยากาศก็สลดพอๆกัน แต่เรื่องนี้ดูมีสีสันน้อยกว่า เป็นเพราะเน้นเรื่องความรักเยอะไปล่ะมั้ง
แต่ก็ซึ้งดีค่ะ โดยเฉพาะประโยคที่ทุกคนประทับใจ


โดย: 22 IP: 125.24.192.144 วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:11:14:43 น.  

 
เรื่องนี้จะมีภาคต่อมั้ยค่ะ


โดย: Neung_T IP: 125.26.163.158 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:17:57:31 น.  

 
เห็นด้วยกับคุณเจ้าของบทวิจารณ์จริงๆครับ คือผมรู้สึกว่างานของเบอร์ตั้นในเรื่องเจ้าสาวศพสวย และชาร์ลีกับโรงงานช็อกโกแลตนั้นเรื่องราวที่เล่ามันเบาเกินไปสำหรับเทคนิคทางด้านภาพที่ทำได้พิลึกพิลั่นน่าตื่นตาและเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ไม่ต่างกับกินไอติมที่แต่งหน้ามาอย่างเลิศหรูอลังการ แต่พอกินหมดแล้วมันรู้สึกเหมือนไม่อิ่ม หรือไม่อร่อยสะใจอย่างที่คาดหวังเอาไว้เลย แต่ก็ชอบนะ แค่หวังไว้ว่ามันจะมีอะไรมากกว่านี้ในส่วนของบท


โดย: Ripley IP: 202.5.95.205 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:16:02:21 น.  

 
เพิ่งได้ดูกับลูกๆ
ชอบฉากผีมาเจอคน
ชอบฉากเล่นเปียโนระหว่างเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวซากศพ เหมือนกัน
มาสวัสดีปีใหม่ด้วยครับ
มีความสุขมากๆ นะครับ


โดย: คนขับช้า วันที่: 30 ธันวาคม 2550 เวลา:18:35:19 น.  

 
ชอบมากเหมือนกาน


โดย: เกลือ IP: 125.25.69.7 วันที่: 2 เมษายน 2551 เวลา:0:51:51 น.  

 
อ่าา เป็นอีกหนึ่งหนังรักโรแมนติกสุดน่ารักที่ชอบมาก โดนส่วนตัวก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ nightmare before x'mas ตั้งแต่เด็กๆ ตอนได้ยินว่าทำหนังเรื่องใหม่มา สิ่งแรกที่นึกถึงคือ "ต้องเก็บครับต้องเก็บ"
สิ่งที่ชอบ?
1. ภาพคะ...สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
2. เพลง! เพราะมากเลย แสดงอารมณ์ของตัวละครได้เป็นอย่างดี ที่ชอบที่สุดคือเป็นเพลงที่โครงกระดูกร้องอ่ะ! ว่าไงนะ? die die die! อะไรสักอย่าง (ฮา)
3. การดำเนินเนื้อเรื่องที่ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปคะ
4. Happy ending ฮูแร่ววววววววววววววว


โดย: kanomsai IP: 58.64.92.211 วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:01:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
19 พฤศจิกายน 2548
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.