Sunshine , อาทิตย์สิ้นแสง ชีวิตสิ้นสูญ
...อย่าคาดหวังพล็อตใหม่ๆจากหนังเรื่องนี้ เพราะ ถ้าอ่านเรื่องย่อ Sunshine แทบจะกลายเป็นหนังไซไฟสูตรสำเร็จเหมือนแกะมาม่าออกจากซอง จะยี่ห้อไหนก็ซ้ำๆจำเจเหมือนกัน ถ้าไม่เชื่อ ลองนึกดูให้ดี จำไม่ได้หรือว่าเราเคยเห็นพล็อตแบบนี้มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น
...การกู้โลกและเหล่าวีรบุรุษกู้ชาติ จาก
Armageddon ที่รวมพลไประเบิดแกนกลางของดาวหาง
The core ที่รวมตัวไประเบิดแกนกลางโลก
Sunshine ของเราก็รวมทัพ ไประเบิดแกนกลางของดวงอาทิตย์
...การผจญกับลูกเรือลึกลับบนยานอวกาศอย่าง
คอมขัดขืน ใน 2001
ผีลืมหลุม ใน Event horizon
นักบินผู้ไม่ได้รับเชิญคนที่ 5 ใน Sunshine
... ดังนั้น แม้งวดนี้ ดวงอาทิตย์จะดับ ผมก็ไม่คิดสนใจจะไปดู หากมิใช่บังเอิญว่า หนังเรื่องนี้เป็นผลงานของ แดนนี่ บอยล์
แดนนี่ บอยล์ เป็น ใคร ?
เขาคือ ผู้กำกับที่คนดูชาวไทยส่วนใหญ่รู้จักเขาพร้อมๆกับพ่อหนุ่มลีโอ ใน The beach ถ้าพลิกสารบัญประวัติผลงานของเขา เราจะพบความหลากหลายในตัวงาน ชนิดเราจับทางเขาไม่ได้ว่า งานชิ้นต่อไปเขาจะมาไม้ไหน จะเป็นหนังแอคชั่น หรือ หนังดราม่า หรือ หนังสยองขวัญ เพราะผลงานในอดีตไม่เคยซ้ำกันมีตั้งแต่ เรื่องคนติดยา เรื่องซอมบี้ เรื่องคนบนเกาะ เรื่องรัก เรื่องนัวร์ๆ
ที่สำคัญคือ แม้แนวหนังหรือพล็อตที่เขาเลือกทำจะไม่ใหม่ แต่หนังของเขากลับสร้างมิติใหม่ๆให้แนวหนังเดิมๆ เราจะเห็นแนวคิดหรือเทคนิคใหม่ๆในงานของเขาเสมอ ถึงจะกินมาม่า
มาม่าของแดนนี่ บอยล์ ก็แตกต่างจากยี่ห้ออื่นๆทั่วไป
...ถึงจะมีซอมบี้เป็นร้อยเป็นพันตัวมาแล้ว แต่ ซอมบี้ของแดนนี่ บอยล์ ทำให้คนดูไม่มีวันลืมภาพลอนดอนร้าง ความตื่นเต้นเร้าใจในบรรยากาศซอมบี้ยุคใหม่ และ การเคลื่อนไหวที่ไม่ใช่กระยึกกระยือเหมือนซอมบี้รุ่นปู่ ...ถึงจะมีคนติดยาในหนังมากี่สิบกี่ร้อยคน แต่ คนติดยาของแดนนี่ บอยล์ มาพร้อมดนตรีประกอบบริทป๊อบสุดเท่ที่ใครได้ฟังก็ต้องรีบหามาไว้ในครอบครอง และงานภาพที่แปลกประหลาด สุดฮิป สุดแนว ชนิดทำให้คนดูไม่มีวันลืม ยวน แม็กเกรเกอร์ ในโถส้วม
...เช่นเดียวกับคู่รักคู่รสในหนังรักโรแมนติกมากี่ร้อยกี่พันคู่ แต่ คู่รักในA Life Less Ordinary ของแดนนี่ บอยล์ ก็เก๋ไก๋เต็มไปด้วยไอเดียลูกเล่นสุดเปรี้ยว ถึงตัวหนังจะล้มเหลวก็ตาม
นับไปนับมา ตอนที่เขียนนี่ ผมก็เพิ่งรู้ว่า ผมเป็นแฟนประจำของแดนนี่ บอยล์อย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะจากจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมรู้จัก แดนนี่ บอยล์คือ shallow grave หนังฟิล์มนัวร์ที่มิตรภาพของเพื่อนร่วมห้องกลุ่มหนึ่งต้องพังย่อยยับเพียงเพราะเงินก้อนเดียว ในรูปแบบม้วนวีดีโอ นับจากนั้น ผมก็ไม่เคยพลาดผลงานของเขาอีกเลยยกเว้น millions ที่ผมทำแผ่นหายไปไหนก็ไม่รู้
... ดังนั้น เมื่อ แดนนี่ บอยล์ มากำกับ หนังไซไฟกู้(นานา)ชาติ จึงน่าสนใจว่า ไอ้ความซ้ำซากเดิมๆที่เราเคยดูนั้น จะมีอะไรใหม่ๆให้เราได้ดู
นักบินอวกาศจำนวน 8 ชีวิต เป็นตัวแทนของมนุษย์โลก รับมอบหมายภารกิจมุ่งตรงไปจุดระเบิดดวงอาทิตย์ที่กำลังดับให้ลุกไหม้ขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อให้โลกที่เราอาศัยมีแสงสว่าง ยานอวกาศของพวกเขามีชื่อว่า Icarus II ชื่อที่มีความหมายเดียวกับ ตัวละครเทพปกรณัมกรีกที่มีปีกสร้างจากขี้ผึ้ง ขณะบินเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ปีกก็ละลายร่วงหล่นลงมาซี้แหงแก๋ทีทะเลอิคาเรี่ยน
ชื่อมีมากมายให้ตั้งไม่ตั้งดันทะลึ่งมาตั้งชื่อนี้ และ คงเป็นลางร้าย เพราะเมื่อเจ็ดปีก่อน Icarus I ที่ได้รับมอบหมายเดียวกันนี้ก็สูญหายไปก่อนหน้าอย่างไร้ร่องรอย
Icarus II ต้องพบกับเรื่องราวประหลาดๆ เมื่อ ยานได้รับสัญญาณจากอิคารัสวันที่หายสาบสูญไป พวกเขาจึงต้องเลือกว่าจะมุ่งหน้าปฎิบัติภารกิจจุดระเบิดดวงอาทิตย์ต่อไป หรือ จะตัดสินใจเบี่ยงเส้นทางลองตรงไปยัง Icarus I ก่อน เผื่อมีคนรอด หรือ เผื่อมีอุปกรณ์ที่จะช่วยให้ระเบิดได้ผลสองต่อ หรือ มีทางเพิ่มออกซิเจน
ผลของการตัดสินใจการเบี่ยงเป้าหมายทำให้เกิดความผิดพลาด แม้จะแค่ 1.1 เปอร์เซ็นต์ก็ก่อความเสียหาย ร้ายแรงจนต้องสูญเสียลูกเรือไปหนึ่งคน
จาก 8 เหลือ 7
หนึ่งคนตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะ ความรู้สึกผิดเกาะกุม
จาก 7 จึงเหลือ 6
ผลจากความเสียหายที่เกิดขึ้น สร้างปัญหาใหม่ให้เกิดขึ้น
เรือนต้นไม้ในยานเสียหายย่อยยับ และ ปริมาณออกซิเจนบนยาน มีไม่เพียงพอต่อลูกเรือทุกคนที่จะเดินทางไปกลับ มีนักบินกลุ่มเล็กๆมาประชุมกันเพื่อหาทางที่จะทำให้ออกซิเจนเหลือเพียงพอ นั่นหมายถึงต้องมีคนตายเพิ่มขึ้น การประชุมสิ้นสุดเพียงเท่านั้น
แต่ แค่เท่านี้ เราก็สัมผัสได้ถึง ร่องรอยของความดำมืดในจิตใจของเหล่ามนุษย์เมื่อถึงคราวตกอับ สิ่งที่ซุกซ่อนก็พร้อมออกมาอาละวาด เช่นเดียวกับ ใน Shallow grave ที่เพื่อนยังฆ่ากันได้เพียงเพราะเงิน และ The Beach ที่เข้าราวีกันเพื่อการอยู่รอด
แล้วพวกเขาก็เดินทางไปถึง Icarus I ด้วยความมุ่งหวังว่าอาจจะมีอะไรที่เหลือเก็บไปใช้ที่เป็นประโยชน์
แต่การขึ้นเทียบยาน ทำให้พวกเขาพบกับความจริงที่ชวนประหวั่นพรั่นพรึงที่เกิดขึ้นบนยานลำนั้น และ ทำให้พวกเขาส่วนหนึ่งไม่สามารถเดินทางกลับยานได้ครบทุกคน
หนึ่งคนต้องเสียสละ
จาก 6 เหลือ 5
ระหว่างพยายามกลับเข้ายาน Icarus II ของตัวเอง หนึ่งคนต้องหลุดจากวงโคจรเข้าไปในอวกาศ
จาก 5 เหลือเพียง 4
4 นักบินที่เหลือหมายมั่นว่า จะมีออกซิเจนเพียงพอที่จะพายานไปจุดระเบิดดวงอาทิตย์ แต่คอมพิวเตอร์ประมวลผลบน Icarus II ไม่คิดเช่นนั้น เธอบอกกับพระเอกของเราว่า ออกซิเจนบนยานไม่พอสำหรับลูกเรือ 5 คน
นักบินคนที่ 5 คือใคร ?
... ปีนี้ มีหนังไซไฟเรื่องหนึ่งที่ผมชอบมากๆว่าด้วยเรื่อง มนุษย์คนแรกที่ตั้งครรภ์ขึ้นมาหลังจากไม่มีการถือกำเนิด มนุษย์มานานถึง 18 ปีด้วยผลงานฝีมือกำกับของ อัลฟองซัง คัวรอน ใน Children of men ที่จัดได้ว่าเป็นหนังไซไฟที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ Gattaca หนังมีพล็อตที่แข็งแรงและการถ่ายภาพที่น่าทึ่ง พร้อมจุดเซอร์ไพรส์ที่มาอย่างรุนแรงไม่ทันตั้งตัว น่าเสียดายที่หนังมุ่งตรงไปเป็นแผ่นเรียบร้อยแล้ว โอกาสอันดีที่จะได้ดูหนังไซไฟในโรงใหญ่กลับมาอีกครั้งใน Sunshine
Sunshine มีจุดอ่อนอยู่ที่พล็อตเรื่อง ที่ไม่เพียงจะไม่แปลกใหม่แล้ว ยังไม่ค่อยมีอะไรให้น่าพูดถึงนัก บทหนังของ อเล็กซ์ การ์แลนด์ น่าสนใจแต่ขาดความลึกซึ้ง รายละเอียดของบทที่หนังพูดถึง สภาวะจิตใจภายใต้ภาวะกดดันของตัวละคร เช่น ความเห็นแก่ตัว ความกลัว ความรู้สึกผิด และ ความเสียสละ ยังไม่แข็งแรงพอ ไม่ทำให้เราเข้าถึงลึกๆ เมื่อเทียบกับงานชิ้นเก่าๆของเขาอย่าง The beach และ Shallow grave
...ทั้งที่มีหลายตอนที่หนังจุดประเด็นชวนให้ขบคิด ตั้งแต่ตอนที่ ลูกเรือคนหนึ่งรู้ว่าออกซิเจนไม่พอ แล้วประชุมกลุ่มเล็ก และตอน เมื่อถึงคราวต้องตัดสินใจในประเด็นทางมนุษยธรรม ที่ต้องเลือกว่าเราจะยอม ฆ่าคนหนึ่งคน เพื่อ ช่วยคนทั้งโลกหรือไม่ โดยคนที่ถูกฆ่าไม่ได้ทำผิดอะไรเลยแม้แต่น้อย
คุณค่าของคน สามารถวัดได้หรือไม่ ว่า ใคร มีค่า มากกว่า ใคร
หมอ สำคัญกว่า วิศวกร ?
ครู สำคัญกว่า นักดนตรี ?
ตำรวจ สำคัญกว่า ชาวประมง ?
ฯลฯ
จากคำถามที่ตั้งขึ้นมา เราก็จะเห็น มุมอ่อนแอในจิตใจของมนุษย์ยามคับขัน เช่น ความเห็นแก่ตัว ความกลัวตาย ความขลาดเขลา ความรู้สึกผิด ฯลฯ ความรู้สึกเหล่านี้เอง ที่เป็นเสมือนปีกของ Icarus ที่พาให้ลูกเรือของยานลำนี้ไปไม่ถึง ดวงอาทิตย์ ก็ต้องเสียชีวิตลงเสียก่อน
... น่าเสียดายที่พอจุดประเด็นขึ้นมา สุดท้ายเนื้อหาทั้งหลายหรือประเด็นทั้งปวงนั้น ก็ถูกโยนออกนอกกาแล็กซี่ไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเปิดตัว ลูกเรือคนที่ 5 หนังก็แทบทิ้งทุกอย่างในส่วนเนื้อหา และ เดินหน้าไปในรูปแบบหนังสยองขวัญที่มีตัวละครผู้บ้าพลังชิงชังมนุษย์ วิ่งไล่ฆ่าคนประมาณฆาตกรโรคจิต (คิดขำๆสมน้ำหน้า ซิเลี่ยน เมอร์พี่ ที่ได้ เจอคนแบบตัวเองบนท้องฟ้า เหมือนที่ทำกับนางเอกใน RedEye)
แถมเมื่อหนัง เลือก พาไปจบลงในจุดเดียวกับหนังแนวไซไฟกู้ชาติทั่วๆไปตามสูตรฮอลลีวูด ก็กลับไม่ทำให้เรารู้สึกอิ่มเอมหรือขนลุกได้เท่าที่ควร เหตุผลส่วนหนึ่งก็เพราะหนังไม่ปูเรื่องราวใดๆของโลกมากนัก จนเราไม่รู้สึกอินกับภาวะโลกมืด เรารู้แค่จากปากคำสนทนาของเหล่าลูกเรือว่า โลกในตอนนั้นกลายเป็นยุคน้ำแข็งและไร้ซึ่งแสงสว่างมานานโข อีกทั้ง แบ็คกราวด์ปูมหลังของตัวละครก็แทบจะไม่ถูกพูดถึง จนเราไม่มีความผูกพันกับตัวละครคนไหนเป็นพิเศษ
ซึ่งถ้าหนังจะจบในเชิงปรัชญาหรือมุ่งเน้นความกดดันสติแตกของตัวละครก็คงไม่เป็นไร แต่ การเลือกพาคนดูมาสู่บทสรุปเช่นนี้ การจบในทิศทางนี้มันทำให้ตอนจบไม่ค่อยอิ่มในทิศทางหนังที่พามาเท่าไหร่นัก
....แม้พล็อตเรื่องจะอ่อนแอ แม้โครงเรื่องจะน้ำเน่า แต่ สุดท้ายแล้ว ผลรวมที่ออกมา Sunshine คือ หนังไซไฟน้ำดี
เพราะ พระเอกตัวจริงของหนังที่ทำให้คนดูไม่ทันสะดุดหรือเบื่อหน่ายกับตัวบทที่ตื้นเขินซ้ำซาก คือ ตัวผู้กำกับแดนนี่ บอยล์ ที่ยังคงใส่ความเป็นตัวเองลงไปได้เหมือนหนังเรื่องก่อนๆ ความเป็นตัวเองของแดนนี่บอยล์ คือ ความไม่เหมือนใคร นั่นคือ แม้พล็อตจะเก่าหรือน้ำเน่า แต่เขาก็สามารถสร้างความแปลกใหม่ในประสบการณ์ดูหนังแก่คนดู ชนิดที่ผมเองก็นั่งลุ้นจนหยดสุดท้ายชนิดหายใจไม่เต็มอิ่มในหลายๆฉาก
...คนดูจะถูกดึงเข้าไปอยู่ในเรื่องราวด้วยความหลงใหลจากงานโปรดักชั่นในหนังไม่ว่าจะเป็นในตัวยานหรือในอวกาศ ทำออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือ จนคนดูจะรู้สึกหลงใหลเหมือนตัวละครในเรื่องที่ลุ่มหลงอยู่กับดวงอาทิตย์ และ ทำให้ พระอาทิตย์ในหนังก็ยังเป็นพระเอกอีกคนที่เด่นจนแสบตา หนังไม่โฉ่งฉ่างโผงผาง แต่ค่อยๆขยับพาคนดูไปสำรวจอวกาศพร้อมๆกันเหมือนกับหนังสารคดี
จนเมื่อหนังเริ่มจับสัญญาณลึกลับของ Icarus I ตัวหนังก็ค่อยๆกดดันคนดูเข้าสู่บรรยากาศที่ไม่น่าไว้วางใจ เราทั้งอยากรู้และทั้งหวาดหวั่นว่าบนยาน Icarus I เกิดอะไรขึ้น หนังเพิ่มสถานการณ์บีบคั้นมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อถึงช่วงเวลาหลังจากขึ้นยาน Icarus I หนังก็เบนเข็มเข้าสู่ความเป็นหนังสยองขวัญเต็มตัว
...ฉากเด็ดฉากหนึ่งของหนังที่ผมชอบ นอกจากฉากโชว์พระอาทิตย์ คือ ตอนที่ตัวละครเหยียบยาน Icarus I คนดูต้องสังเกตให้ดี กับเทคนิกภาพที่ Fight club เคยใช้มาแล้วตอนโชว์ แบรดพิทท์น้อย ให้เห็นแว่บๆตัดเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่ใน Sunshine จะเป็น ....
และจากจุดนี้เอง เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนจากความเป็นหนังไซไฟเต็มตัว เข้าสู่ ความเป็นหนัง horror scifi และ ช่วงเวลาหลังจากนั้น หนังก็ไม่ให้ความอึดอัดกดดันตั้งอยู่บนความเนิบนิ่งอีกต่อไป เพราะ หนังช่วงท้ายขับเคลื่อนได้ด้วยความตื่นเต้น และ งานถ่ายภาพที่หลอนและกดดันเป็นอย่างยิ่ง ทั้งเทคนิกการแช่ภาพ การทำเบลอ และ แสดงภาพที่บิดเบี้ยว
ในบรรดาแปดนักบิน ซิเลี่ยน เมอฟี่ น่าจะเรียกได้ว่าเป็นพระเอกของเรื่องเต็มตัว แล้วก็พาพวกกลุ่มนักแสดงทีมจากฮอลลีวูด โรส เบิร์น คริส อีแวน ทั้งหลายเหล่านี้ เล่นได้เสมอเนื้อเสมอตัว ทีมจากเอเชียก็ไม่มีมีอะไรให้พูดถึงนักเพราะมิเชล โหย่ว ก็มาแบบไม่ต้องใช้ฝีมืออะไรมากมาย คนที่เล่นได้ดูมีมิติมากที่สุดของกรุ๊ปทัวร์ชุดนี้น่าจะเป็นฮิโรยูกิ ซานาดะ พอจะกล่าวสรุปได้ว่าการรวมทีมนักแสดงนานาชาติไม่ทำให้คนดูต้องผิดหวัง แต่อดเสียดายฝีไม้ลายมือของพวกเขาไมได้ เพราะขนาดบทแต่ละคนยังไม่มีความตื้นลึกหนาบาง พวกเขายังเค้นอารมณ์ได้ดีขนาดนี้ ถ้ามีการปูพื้นหลังหรือทำให้เรารู้จักกับพวกเขามากกว่านี้ คงจะทำให้หนังดูมีอะไรมากไปกว่าความน่าทึ่งและตื่นเต้นจากฝีมือของแดนนี่ บอยล์
สิ่งที่ชอบ
1.แดนนี่ บอยล์ ... พระเอกตัวจริงของหนัง
2.งานสร้างและพระอาทิตย์ ... พระรองของหนังเลยทีเดียว
3.การถ่ายภาพในหนัง...หลอน ตื่นเต้น อึดอัด กดดัน ดีเลยทีเดียว
4.เทคนิคที่หนังใช้ .. หลอน ตื่นเต้น อึดอัด กดดัน ดีเลยทีเดียว
สิ่งที่ไม่ชอบ
1.บทหนัง โดยเฉพาะ หลังเปิดตัวนักบินอวกาศคนที่ 5 ... ผิดหวัง เพราะ ผมหวังไว้มากกว่านี้ด้วยฝีมือของอเล็กซ์ การ์แลนด์และด้วยตัวบทตอนต้น ที่ดูเหมือนจะมีอะไรๆมากไปกว่า หนังไซไฟกู้ชาติ แต่สุดท้ายก็เป็นแค่การเล่าแค่เปลือกๆเท่านั้น ยิ่งเปิดตัวนักบินคนที่ 5 ผมก็เลิกหวังดูแค่เอามันจนหนังจบ
สรุป ... งานด้านภาพและการกำกับของแดนนี่ บอยล์ ยอดเยี่ยมเพียงพอที่จะทำให้เรามองข้ามจุดอ่อนของตัวบท เพราะคนดูจะนั่งลุ้น(ถ้าไม่หลับช่วงสิบนาทีแรกเสียก่อน)ด้วยความตื่นเต้นปนอยากรู้อยากเห็น ถือได้ว่า ห้ามพลาดทีเดียวสำหรับแฟนหนังไซไฟ ยิ่งคนที่ชอบความกดดันชนิดต้องลุ้นหนังเรื่องนี้มีให้ และ แฟนๆของแดนนี่ บอยล์ ก็อย่าหมางเมินงานชิ้นนี้เพราะกลัวว่าจะเป็นผลงานในกลุ่มผลงานมือตกของเขา เพราะนี่ถึงจะไม่ใช่งานในกลุ่มมาสเตอร์พีซ แต่ก็คืองานในระดับใกล้เคียงกับ 28 Days Later เลยทีเดียว
ป.ล. หลายความเห็นเชียร์ให้ดูหนังเรื่องนี้ในโรงระบบดิจิตอล แต่ผมเองกลับเสนอตรงข้ามว่าดูโรงธรรมดาก็พอ ด้วยคิดว่า นอกจากอยากเห็นพระอาทิตย์ชัดๆ กับ ภาพในอวกาศชัดๆ ก็ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ แถมตัวเองก็ไม่ได้รู้สึก อื้อหือ โอ้โห ตอนดูโรงดิจิตอลมากนัก ไม่เหมือนกับ 300 ที่ควรเลือกดิจิตอลถ้าเลือกได้
ป.ล.2 จบหนังเรื่องนี้หากรู้สึกยังไม่อิ่มนักกับบทที่ยังอ่อนความเข้มข้น ผมขอแนะนำ หนังดราม่าไซไฟที่ผมชื่นชมจนออกนอกหน้า Children of men หนังที่ผมดูจบเกิดเสียงในใจให้คำจำกัดความ 3 คำเหมือนตอนดู Lives of other จบเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา
"สุดยอด สุดยอด และ สุดยอดดดดด"
ขอฝาก"หนังสือรัก"ไว้กับผู้อ่านด้วยเน้อ กับ พ็อกเก็ตบุ้คเล่มแรก ที ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่คือการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม
(วางขายตามร้านหนังสือทั่วไป หาไม่เจอถามจากพนักงานขายได้เลยจ้า)
ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ
ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก
รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง
|
ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง
ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป
Create Date : 09 เมษายน 2550 |
Last Update : 10 เมษายน 2550 0:25:07 น. |
|
25 comments
|
Counter : 8278 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Shrink IP: 125.25.76.93 วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:2:25:44 น. |
|
|
|
โดย: Tristan Ludlow IP: 58.9.195.10 วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:10:29:17 น. |
|
|
|
โดย: Woodyhanks IP: 203.146.244.49 วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:10:30:42 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:10:49:38 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:11:27:57 น. |
|
|
|
โดย: angel of music IP: 203.156.6.22 วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:13:20:29 น. |
|
|
|
โดย: ผู้ก่อการร้ายทางความคิด IP: 203.148.162.148 วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:19:37:59 น. |
|
|
|
โดย: HIcarus IP: 203.107.229.140 วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:21:47:41 น. |
|
|
|
โดย: nquantum IP: 124.120.182.70 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:1:57:14 น. |
|
|
|
โดย: ท่าเรือรามา IP: 202.44.72.3 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:18:01:01 น. |
|
|
|
โดย: วันนี้อยากสวย IP: 124.157.210.252 วันที่: 12 เมษายน 2550 เวลา:21:53:12 น. |
|
|
|
โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:12:36:18 น. |
|
|
|
โดย: Killy IP: 125.25.51.138 วันที่: 15 เมษายน 2550 เวลา:1:06:45 น. |
|
|
|
โดย: n_nacha IP: 203.41.12.164 วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:12:53:06 น. |
|
|
|
โดย: Porr IP: 58.8.10.49 วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:22:50:35 น. |
|
|
|
โดย: ผมอยากแอบเข้าข้างหลังคุณ (I Love หมอหญิงซินปี) IP: 202.57.183.151 วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:9:41:38 น. |
|
|
|
โดย: ohแม่เจ้า IP: 58.8.44.243 วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:23:46:21 น. |
|
|
|
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:13:59:06 น. |
|
|
|
โดย: redm@chine IP: 202.44.210.31 วันที่: 19 เมษายน 2550 เวลา:11:48:26 น. |
|
|
|
โดย: กิ๊ก IP: 58.136.62.28 วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:23:43:32 น. |
|
|
|
โดย: YoiChi IP: 58.8.44.80 วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:20:25:52 น. |
|
|
|
โดย: นักวิจารณ์สมัครเล่น IP: 125.24.181.222 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:03:40 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
- Next , ทรงผมชวนกลุ้มใจกับหนังไซไฟดูเพลินๆ
- Spider-Man 3 , แมงมุมดำตัวนั้น ฉันเห็นมันอยู่ในใจเราทุกคน
- Miss potter , เรื่องของเธอ(พ็อตเตอร์)และผมฯ
- Me...Myself ขอให้รักจงเจริญ , แค่นี้ก็พอแล้ว
- Meet the Robinsons , เมื่อพบความผิดหวังจะโทษโน่นโทษนี่ หรือ เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป
- Shooter , หนังแอคชั่นที่ดูจบแล้ว"เออ มันดีแฮะ"
- Hannibal Rising , ความน่าผิดหวังของหนังฮานนิบาล
- Confession of pain , ความแค้นอันแสนเศร้า
- Pans Labyrinth , คือจินตนาการแสนสวยงาม หรือ คือความจริงที่เจ็บปวดและขมขื่น
- The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23
- เมล์นรก หมวยยกล้อ , รถเมล์สายนี้ไม่ตลกแต่สนุก
- The Lives of Others , อ๊ะ นี่มัน Infernal affairs เวอร์ชั่นกำแพงเบอร์ลิน
- Sunshine , อาทิตย์สิ้นแสง ชีวิตสิ้นสูญ
- The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)
- แฝด , เข้าใจพิม เข้าใจพลอย เข้าใจ"แฝด"
- I'm a Cyborg, But That's OK , แต่ I ไม่ค่อย OK
- The Good Shepherd , จะลงเรือทั้งทีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
- Bridge to Terabithia , Just close your eyes but keep your mind wide open
- 300 , นี่คือสปาตั้น(โว้ย) ... พลั่กกกกกก
- The Queen , แม้จะเป็นเรื่องของ 'ควีน' แต่นี่คือ การกะเทาะเปลือกเล่าเรื่อง 'คน'
- Rocky Balboa , ชีวิตไม่ได้สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน
- Charlotte's Web , มิตรภาพไม่ได้มีราคา
- The Pursuit of Happyness , ปัญหาชีวิตก็เหมือน รูบิค - ถ้าทำไม่ได้จะ สู้ต่อ หรือ โยนทิ้ง-
- Volver , ความเจ็บปวดของแม่และลูกสาว
- Music and Lyrics , หนังที่น่ารักที่สุดในรอบ(หลาย)ปี
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 , จะสนไปทำไมกับเรื่องอิสรภาพที่ไกลตัว
- Dreamgirls , วันที่ ธุรกิจ กลืนกิน ศิลปะ
- Babel , เราเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ไปแล้วหรือยัง
- Rough , จาก H2 มาสู่ Touch และได้เวลา Rough
- Curse of the Golden Flower , ความเน่าหนอนฟอนเฟะของสถาบันครอบครัว
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus , ความงามที่แตกต่าง โลกที่แตกต่าง
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1 , ไทยจะสิ้นชาติไม่ใช่เพราะใคร หากมิใช่เพราะไทยด้วยกัน
- Perfume: The Story of a Murderer , ทำความรู้จักและเข้าใจ ฆาตกรน้ำหอมมนุษย์
- Blood diamond , "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาฆ่ากันเอง"
- The Black Dahlia , ดอกรักเร่ ที่สวยแค่สไตล์แต่ไร้เสน่ห์
- Night at the Museum , ความบันเทิงสำเร็จรูปที่สนุกเพลินเกินห้ามใจ
- ===== 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ ประจำปี 2549 =====
- +++ 10 "ฉาก"ประทับใจจาก"หนัง"ปีที่ผ่านมา +++
- ++ ชวนเพื่อนๆมาเลือก 10 ตัวละครประทับใจ จากหนังปีที่ผ่านมา ++
- The Holiday , จะทำอย่างไรในวันที่ใจเจ็บ
- Lucky Number Slevin , ของเค้าดี แต่ ผิดที่ ผิดเวลา
- The King and the Clown , ความรักของตัวตลกบนหลังเสือ
- Déjà vu , เอ๊ะ เราเคยเจอมาก่อนหรือเปล่า
- Death Note 2: The Last Name , ได้เวลาเก็บสมุดคืนเจ้าของ
- Saw III , บทเรียนสุดท้ายของคุณครู จิ๊กซอว์
- The Village Album , ถ่ายภาพด้วยหัวใจแล้วบันทึกใส่ความทรงจำ
- 007 : Casino Royale , นี่ซิ เจมส์ บอนด์
- The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?
- The Banquet , แฮมเล็ต เวอร์ชั่น ประหารเจ็ดชั่วโคตร
- ผีสามบท บทที่ 3 : เปนชู้กับผี , พอกันที ผีGMO
- ผีสามบท บทที่ 2 : Monster House , บ้านผีสิงที่แสนจะบันเทิงใจ
- ผีสามบท บทที่ 1 : The Grudge 2 , ปัญหาของ ป๋า กับ เด็กผี
- The Guardian , "สถิติ" ไม่สำคัญเท่า "ทัศนคติและเจตคติ"
- หมากเตะรีเทิร์นส , หมากเกมส์นี้ น่าจะดีได้มากกว่านี้
- 12 เกมสยาม +13 เกมสยอง , มันไม่ใช่แค่เกม
- Cars , 20 ปีของ Pixar กับเรื่องของ "คาร์" (ซึ่งก็คือเรื่องของ "คน")
- The Devil Wears Prada , (จากหนังสือมาเป็นหนัง) ร้ายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
- Death Note , สมุดเล่มนี้ ดี จริงหรือ?
- L'Enfant (The child) , เด็กไม่รู้จักโต
- World Trade Center , เป็น"ฮีโร่"ไม่ได้วัดกันที่ผลลัพธ์
- The Host , สัตว์ประหลาด สนุกประหลาด
- Season changes , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"
- Me and You and Everyone We Know , เราอยู่ร่วมกัน เรารู้จักกัน แต่เราไม่เชื่อมต่อถึงกัน
- Snakes on a Plane , ที่อยากไปดูก็เพราะ "งูบนเครื่องบิน"
- United 93 , ทรงพลัง และ สะเทือนใจ
- Running boy (Marathon) , ทุกชีวิตล้วนมี"หัวใจ"
- โคตรรักเอ็งเลย , เกือบโคตรรัก "โคตรรักเอ็งเลย"
- Sad movie , แม้รักต้องพลัดพรากก็ยังฝากความทรงจำอันงดงาม
- The Break-Up , วิธีทำลายชีวิตคู่ตัวเองให้ย่อยยับ
- แก๊งชะนีกับอีแอบ , หนัง comedy ไทยดีๆยังมีอยู่
- Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest , "สลัด"จานนี้รสชาติดีเพราะ"Johnny Depp"
- Tsotsi , พื้นฐานจิตใจมนุษย์เป็น สีขาว หรือ สีดำ
- Superman Returns , ทำไมโลกใบนี้ยังต้องการ Superman ?
- Silent Hill , ของดีที่อยู่ในมือพ่อครัวขาดฝีมือ
- over the hedge , บทเรียนชีวิตเรื่องมิตรภาพและครอบครัว
- Don't tell , แผลในใจแค่"ลืม"คงไม่พอ
- Slither , คูลฟีเวอร์สีเลือด เชือดมนุษย์โลก
- The Omen , ซาตานอยู่รอบตัวเรา
- Scary movie 4 , ผ่านมา --> ฮา --> ผ่านไป
- Paradise now , สวรรค์อยู่หนใด
- X-Men: The Last Stand , X = mutant , รักร่วมเพศ , คนผิวดำ , ยิว ฯลฯ
- ก้านกล้วย , "ช้างกูอยู่ไหน" >> "ช้างกูอยู่นี่"
- The Da Vinci Code , ศรัทธาที่บิดเบือน
- Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
- Poseidon , จมเร็ว จบเร็ว
- Match point , เกมส์กิเลสของคนเห็นแก่ตัว
- Mission: Impossible III, ภารกิจสุดมันส์ที่ขาดเสน่ห์
- Perhaps love , รักซ้อนรัก หนังซ้อนหนัง อดีตซ้อนปัจจุบัน
- Ice Age: The Meltdown , ได้เวลายุคน้ำแข็งครองเมือง
- Red lights , ผู้ชายไม่รู้ตัว ผู้หญิงไม่รู้ใจ
- Failure to launch , Success to love
- Inside man , คน(ดี/ชั่ว) ใน คน(ดี/ชั่ว)
- Where the Truth Lies , ความจริงนอนนิ่งอยู่ที่ใด ?
- โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง , ฮาน้อยกว่าที่คิด มีสาระมากกว่าที่หวัง
- My girl and I , รักครั้งแรกจะเปลี่ยนเราไปตลอดกาล
- V for Vendetta , เผด็จการรัฐสภา VS. พลังประชาชน
- A History of violence , มาทำความรู้จัก "ความรุนแรง" กัน
- Final Destination 3 , เหล้าเก่าในขวดเก่า
- The Constant Gardener , ในความลับมีความจริง ในความจริงมีความรัก
- คำพิพากษาของมหาสมุทร (Invisible Waves) , คลื่นบาปที่นิ่งสงบ
- Walk the line , มิตรภาพในความรัก
- เด็กหอ , หอนี้มีดีกว่าผีหลอก
- Brokeback Mountain , รักซ่อนเร้น
- Munich , ผลของการสาดน้ำมัน(ความรุนแรง)เพื่อดับไฟ(แค้น)
- Memoirs of a Geisha , ชาเขียวสำเร็จรูปที่ผสมน้ำมากไป
- Prime , รักคงยังไม่พอ
- An Unfinished Life , ชีวิตที่หยุดเดิน
- In Her Shoes , หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต
- Just Like Heaven , เมื่อพื้นที่ของชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ความสุข
- The Promise , คำสัญญา ชะตากรรม ความรัก
- 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ (ของปีที่ผ่านมา)
- 10 ฉากประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- 10 ตัวละครประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and the Wardrobe , ส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับทุกครัวเรือน
- April Snow , บางครั้งความรักก็เจ็บปวดโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
- King Kong , แล้ว "ลิงยักษ์" ก็ตกหลุม "รักหญิง"
- The Descent , ถึงถ้ำ ถึงเลือด ถึงเนื้อ ถึงกระดูก
- The Maid , ผีสิงคโปร์
- The Exorcism of Emily Rose , ผีเข้า(ศาล)
- Hidden (Caché) , ความจริงที่ซุกซ่อน (ในหนังที่ยอดเยี่ยม)
- Chicken Little , กุ๊กไก่ของ Disney ที่ไร้เงา Pixar
- Nana , โลกของนานะ โลกของความรัก ความฝัน และ มิตรภาพ
- เด็กโต๋ , สายธารชีวิตแห่งบ้านแม่โต๋
- Harry Potter and the Goblet of Fire , กีฬาสีสามสถาบันกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
- Corpse Bride , รักไม่มีวันตาย
- Yes , บทกวีอีโรติค ความรัก การเมือง และ การมีตัวตน
- รับน้องสยองขวัญ , หายใจเข้าก็ เฮ้อ หายใจออกก็ เฮ้อ
- Lord of War , นิ้วที่ลั่นไกจากมือที่มองไม่เห็น
- Saw II , สยองอย่างมีประเด็น
- Goal! , ประตูชัย(goal)เป้าหมายชีวิต
- Proof , ชีวิตที่สับสนของคนที่สูญเสีย
- The Legend of Zorro , ฮีโร่ที่ย่ำอยู่กับที่
- Flightplan , ขึ้นได้สูง บินได้สวย ลงไม่นิ่ม
- Sky High , อยากจะเป็น hero ที่ "เปลือก" หรือที่ "แก่น"
- A Sound of Thunder , เรื่องราวอยู่ในโลกอนาคต ตัวหนังอยู่ในโลกอดีต
- Red Eye , ไม่ใช่แค่ Fight or Flight แต่ยังเป็น Fight on Flight
- เพื่อนสนิท , เมื่อเส้นแบ่งของ "คนรัก" กับ "เพื่อน" เริ่มเลือนราง
- Transporter 2 ควบ Into the Blue , ขึ้นรถดีกว่าลงเรือ
- Madagascar , มิตรภาพกับการเรียนรู้ชีวิต และ นกเพนกวิน
- Cinderella man , Jim Braddock ชายที่ไม่ได้เป็นแค่นักมวย
- Dear Frankie , คำลวง ความรัก ครอบครัว
- Dark Water , ความสัมพันธ์แม่-ลูก-ผี (จากหนังสือสู่ภาพยนตร์)
- Seven Swords , ... ที่ควรยาวกลับสั้น ที่ควรสั้นกลับยาว ...
- แหยม ยโสธร , ขำขำ - หม่ำ - อะฮึ่ย อะฮึ่ย
- Charlie and the Chocolate Factory , Imagination is more important than knowledge
- The Skeleton Key , ไขได้ดีพอสมควร
- About Love , เรื่องราวที่ "เกี่ยวกับ "รัก""
- 5x2 , สมการความรักของคน 2 คน
- ต้มยำกุ้ง , อร่อยรสแซ่บชามโตเกินมาตรฐานแต่อาจไม่ผ่านเชลล์ชวนชิม
- Somersault , ความรัก - Sex - เด็กสาวและความทุกข์ทรมานใจ
- The Upside of Anger , เรื่องหนักๆของครอบครัวที่เล่าอย่างเบาๆ
- Land of the Dead , หนึ่งเรื่องราวของซอมบี้ที่กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
- Crash , ผลกระทบของการชนที่"คน"มีต่อกันและกัน
- วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น , หนังครอบครัวสำหรับคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี
- The Island , โลกอนาคตและโคลนนิ่งฉบับระเบิดเถิดเทิง
- The Keys to the House , "บ้าน"หลังนี้จะมีความรักเป็น"กุญแจ"
- The Longest Yard , เกมส์เก่าเอามาเล่าใหม่ใช้วิธีการเดิม
- Fantastic Four , ความสนุกสูตรสำเร็จที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลิน
- War of the Worlds , เมื่อสปีลเบิร์กเลิกรักมนุษย์ต่างดาว
- Swing Girls , สวิงกันแบบคึกคัก สดใส ไร้มลพิษ
- Hotel , โรงแรมที่ไร้เรื่องราว
- Assault on Precinct 13 , อีกหนึ่งความจนตรอกที่ระทึกคุ้มค่า
- Batman Begins , ปฐมบทแรกบินกับการตีความครั้งใหม่
- Mr. and Mrs. Smith , เรื่องราวชีวิตคู่ที่สวมเสื้อคลุมหนังแอคชั่น
- มหาลัย' เหมืองแร่ , เหมืองแร่และชีวิตกับหน่วยกิตที่ต้องขุด
- House of Wax , ความสยองที่แปลกตากับหุ่นขี้ผึ้ง สองดาราและหนึ่งปารีส
- Sin city , ฟิล์มนัวร์ที่ลงตัวและเจ๋ง
- Star Wars: Episode III Revenge of the Sith , การปิดตำนานและการเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์
- The Jacket , การเดินทางข้ามเวลา ความหลอนและวงจรชีวิต
- A Lot Like Love , รักด้วยใจแต่ตัดสินใจด้วยสมอง
- เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ
- Be With You , ความสุขของฉันคือ"การได้อยู่กับคุณ"
- Hostage , เหล้าเก่าในขวดใหม่ที่ไม่น่าผิดหวัง
- Kingdom of Heaven , สงครามครูเสดครั้งนี้ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่น่าเสียดาย
- Spanglish , เรื่องราวที่กระจัดกระจายแต่ให้แง่มุมหลากหลายในครอบครัว
- Guess Who , เสียงฮาจากความแตกต่างและBernie Mac
- The Interpreter , ทริลเลอร์ที่ดี(แต่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น)
- Hide and Seek , มีปมที่ดีแต่มีบทที่อ่อน
- The Chorus (Les Choristes) , ง่ายๆแต่ได้ใจ
- Hitch , สนุก น่ารัก ขำขำ รู้สึกดี
- Sahara , หนังสนุกแค่เป็นช่วงๆหรือผมง่วงกันแน่
- Boogeyman , ตื่นเต้นตกใจ แต่ อะไร ยังไง ทำไม?
- Tokyo Godfathers , การตามหา"ครอบครัว"ที่สนุกมากๆ
- บุปผาราตรี เฟส 2 , เมื่อบุปผาเริ่มร่วงโรย
- Dont move , นอกจากตัดสินใคร คุณเข้าใจใครคนนั้นดีแล้วหรือยัง?
- Crying Out for Love, In the Center of the World , ความทรงจำและเทปคาสเสตต์/ความรักและใจกลางโลก
- The Ring Two , ไม่สมศักดิ์ศรี "The Ring"
- A Very Long Engagement , หนังที่มากไปด้วยความทะเยอทะยาน
- Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events , การดัดแปลง"โชคร้าย"ที่ทำได้"ดี"
- Hana & Alice , มิตรภาพ ความรัก ความทรงจำ
- Hotel Rwanda , หนังที่ให้คนดูมากกว่าความเป็นหนังดี
- In Good Company , ผู้ชายขาขึ้นกับผู้ชายขาลง
- Being Julia , โลก(ของจูเลีย)คือละคร
- หลวงพี่เท่ง , เรื่อยๆขำๆพอไปวัดไปวา
- Sideways , รักนุ่มๆชุ่มไวน์ในวันเบาๆ
- Million Dollar Baby , ความยอดเยี่ยมท่ามกลางศรัทธาและความอบอุ่น
- Constantine , "คนเห็นผี"ปราบลูกปีศาจ
- Shall we dance , คุณเต้นรำกับคู่ของคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไร
- Finding Neverland , งดงามเหลือเกิน
- Kung Fu Hustle , ตลกน้อย สนุกมาก และลงตัว
- 2046 , ไปแล้วอย่าลืมกลับมา
- Ray , มีดีที่Jamie Foxx
- The Phantom of the Opera , ภายใต้หน้ากากมีเพียงความว่างเปล่า
- โรงเตี๊ยม , มีอะไรดีๆกว่าที่คิดและโฆษณา
- Meet the fockers , เรื่องของหนังตลกและครอบครัว
- Closer , เมื่อความรักถูกสำรวจและตีแผ่ผ่านตัวละคร
- The Aviator, .....And this is Howard Hughes
- The Forgotten, ไม่มีอะไรน่าจดจำ
- Birth , ยอดเยี่ยมในความหนักแน่นและเนิบนาบ
- ****1ปีที่ผ่านมา ฉากใดในหนังที่คุณประทับใจ ****
- 5หนังชอบ กับ 5หนังไม่ชอบ ของคุณในปี2547คือ....,
- National Treasure, เมื่อBruckheimerมาสร้างDavinci's code
- The Polar Express, ตื่นตาแต่ไม่ตื่นใจ
- แจ๋ว, แจ๋วน้อยกว่าที่หวัง
- Bridget Jones 2, รู้จักเธอมากขึ้นและรู้สึกดีกว่าที่คิด
- The Incredibles, ครอบครัวหรรษา
- ขุนกระบี่ ผีระบาด, กล้าที่จะบ้า ก็กล้าที่จะดู
- Ocean's Twelve, หนังขาย"เสน่ห์ดารา"
- หมานคร, เมืองนี้ภาพสวย+เพลงเพราะ+ประหลาดและยาก
- กั๊กกะกาวน์, "ใจ"คุณเต้นอย่างไรเมื่อคุณมีความรัก
- Alexander, ดราม่าชั้นดีแต่ความสนุกเป็นระลอกคลื่น
- Wimbledon, For love of the game+NottingHill+ภราดร
- Love me if you dare, หนังรักแปลกกับความรู้สึกก้ำกึ่ง
- Cellular, สนุกเป็นบ้า แอคชั่นแอบฮา
- Saw, OldBoy+Cube+ฆาตกรโรคจิต
- Ladder49, สิงห์ผจญเพลิงชื่อฮัวควิน ฟีนิกซ์
- The Grudge, เมื่อ"เด็กผี" go inter เป็น "โคตรผีดุ"
- Dodgeball, ฮาน้อยกว่าที่หวังแต่สนุกกว่าที่คิด
- Sky Captain and The World of Tomo, หนังไซไฟสไตล์"ฟ้าทะลายโจร"
- Resident Evil 2, อลิซเท่+เนเมซิสเห่ย+จิลเฉยๆ
- Shark Tale, คุณเป็น"somebody"แล้วหรือยัง
- สายล่อฟ้า, ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนกับความสนุกกลางๆ
- Shutter กดติดวิญญาณ, นานๆทีจะมีหนังผีไทยดีๆให้ดูกัน
- The Terminal, น่ารัก นุ่มนวล และสนุกกว่าที่คิด
- Wicker park( spoilแล้วจะบอก), ลุ่มหลง คลั่งไคล้ หลอกลวงและความรัก
- Eternal sunshine รอบ2, ความอภิรมย์ที่มากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
- EternalSunshineOfTheSpotlessMind, คุณเคยอยากจะลืมบางสิ่งในชีวิตคุณบ้างไหม
- Three Extreme, อึดอัด ขยะแขยง รุนแรง และผิดหวัง
- Man on fire (no spoil), คนจริงเผาแค้น เผานานจนผมเกือบหลับ
- Bourne Supremacy, มันต้องให้ได้ยังงี้ซิ ต้องยังงี้ซิ
- Collateral...., it started like any other night
- Windstruck, งานมือตกของกวัก แจ ยอง
- งานของ M. Night Shyamalan, 6th sense/Unbreakable/Sign/และTheVillage
|
|
|
|
|
|
|
|
เห็นด้วยกับ Review ครับ
ข้อเสียอีกอย่าง คือ ขาดวิทยาศาตร์ หรือ เทคโนโลยีเท่ห์ๆ หนังไม่ปูพื้นว่า สร้างยาน และระเบิดมายากลำบากยังไง มนุษยชาติร่วมแรงร่วมใจกันขนาดไหน
คนเก่งๆ ถูกรวบรวมมายังไง
NASA และ สถานี Houston บนภาคพื้นดินนั้น เป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ ในหนัง Sci-Fi อวกาศ แต่เรื่องนี้ไม่พูดถึงเลย
หากทำหนัง Sci-Fi ก็ควรใส่ Science และ Technology เข้ามาให้มากกว่านี้ คอหนัง Sci-Fi ชื่นชอบตรงนี้กันทุกคน โม้มาได้เลย เราอยากดู
เรื่องนี้ ผมว่าเป็น Sci-Fi เกือบดี ครับ แต่ไม่ถือว่าสอบผ่าน
แถมในด้าน Drama และ Horror ก็ไม่ผ่านเหมือนกัน
Plot เรื่องดีๆ แบบนี้ ถ้าเขียนเป็นหนังสือ เพิ่มเติมส่วนที่ขาดไป ทั้งเรื่อง Science เรื่องปูพื้นฐานตัวละคร เรื่องวิกฤติของโลก เรื่องความร่วมแรงร่วมใจ ความหวังของมวลมนุษย์ ก็น่าจะเป็นหนังสือที่ดีอีกเรื่องหนึ่ง
หากใครจะลอก ID4 ,Armagedon บ้าง แล้วทำออกเจ๋ง ผมจะชื่นชมด้วยซ้ำ
ปล. ข้างบน คุณเขียนชื่อ Event Horizon ผิดเป็น Evan Horizon ครับ