Death Note , สมุดเล่มนี้ ดี จริงหรือ?
...ในตอนที่ผมอ่าน Death note ภาคแรก ผมรู้สึกว่า การ์ตูนเรื่องนี้เหมาะกับการไปออกโจทย์ข้อสอบวิชา moral dilemma ประมาณว่า น้องชายไม่มีเงินจึงไปขโมยยาในร้านขายยาเพื่อช่วยพี่สาวใกล้ตาย การกระทำเช่นนี้ ผิดหรือไม่ ?
Death note - สมุดที่จดชื่อใครลงไปก็ตายได้ดังใจปรารถนา
...ไลท์ นักศึกษาหนุ่ม ที่บังเอิญเก็บ Death note ได้จาก ยมฑูตชื่อลุคที่ทำตกไว้ เขานำมันมาจดชื่ออาชญากรทั้งหลาย ส่งผลให้อัตราอาชญากรรมลดลงฮวบฮาบ เขาสามารถจัดการกับอาชญากรที่หลุดรอดจากบทลงโทษอันเนื่องมาจากรูโหว่ของกฏหมายเพียงจดชื่อคนๆนั้นลงไป คนๆนั้นก็สามารถตายได้ดั่งประสงค์ เรียกได้ว่า กำหนดได้กระทั่งรูปแบบและเวลาการตาย ขอเพียง รู้ชื่อของเป้าหมายก็พอ
การกระทำของไลท์ น่าสนับสนุนหรือไม่ ?
...ผู้ใหญ่หลายคนอาจรู้สึกหงุดหงิดใจเมื่อเห็นเด็กๆบอกว่าชื่นชมไลท์ผู้ครอบครอง Death note อย่าเพิ่งด่วนหงุดหงิดไปต่อว่าเด็กๆ เพราะ Death note เป็น fantasy หนึ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึก ที่คนเราอยากมี ในสังคมที่ความยุติธรรมไม่ได้มีพร้อมสมบูรณ์ สังคมที่ยังมีเหยื่อถูกคนชั่วรังแกอยู่ทุกชั่วโมง
...การมี Death note นัยหนึ่งไม่ต่างอะไรจาก เราอยากมีโดเรมอน หรือ ซูเปอร์แมนข้างกาย เพียงแต่ fantasy ชิ้นนี้ อาจต้องพินิจพิเคราะห์ด้วยความระมัดระวัง
เราอยากมี โดเรมอน เพราะ ทำให้เรามั่นใจว่าเราสามารถที่จะแก้ปัญหา ฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างที่เข้ามาจากของวิเศษในกระเป๋าหน้าท้องโดเรมอน
เราอยากมี ซูเปอร์แมน เพราะ ทำให้เรามั่นใจว่าในภาวะที่วิกฤติหรือมีอันตรายจะมีใครบางคนมาช่วยเหลือเราเสมอ
เช่นเดียวกัน การมี Death note ทำให้เราอุ่นใจว่าจะไม่มีใครทำร้ายเราได้เพราะเราสามารถจะเขียนชื่อคนๆนั้นลงไปให้ตายตกก่อนที่มันจะมาทำร้ายเรา หรือ ทำให้คนที่คิดร้ายทั้งหลายหวาดกลัว
...ดูผิวเผิน โดเรมอน / ซูเปอร์แมน / ไลท็ กับ Death note มันก็เป็นแค่ fantasy ที่ไม่มีอะไรแตกต่างกัน เพราะช่วยให้คนชั่วหมดไปและทำให้โลกปลอดภัยน่าอยู่ขึ้น แต่ ความจริงแล้ว Death note ต่างออกไป
สิ่งที่แตกต่างคือ ขอบบางๆของศีลธรรมที่ Death note วางคาบเกี่ยวอยู่ระหว่าง ถูก กับ ผิด
...ประเด็นที่น่าสนใจซึ่งแบ่งตัวละครในหนังสือ และ แบ่งคนอ่านออกเป็นสองฝั่ง มาจากคำถามชวนคิดว่า ถ้ากฎหมายเอาผิดผู้กระทำผิดไม่ได้ การมี Death note ก็น่าจะดีมิใช่หรือ ที่เราจะพิพากษาคนเหล่านั้นได้ที่อาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายรอดพ้นการลงทัณฑ์
ยิ่งได้ฟังเหตุผลที่ไลท์สนับสนุน Death note ในหนัง ฟังดูแล้วก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ เหตุผลที่ ชิโอริ แฟนสาวของไลท์ คัดค้านนโยบาย Death note ก็เป็นประเด็นเล็กๆที่ไม่ควรมองข้าม เมื่อเธอบอกว่า ต้องยอมรับว่า ทุกสิ่งในโลกนี้ ล้วนมีข้อจำกัด
มนุษย์มักไขว่คว้าหาความสามารถที่จะจัดการทุกสิ่งได้โดยไร้ข้อจำกัด โดยไม่รู้เลยว่า การมีข้อจำกัด ไม่ใช่ สิ่งไม่ดีเสมอไป
..ตัวบทกฎหมาย อาจมีรูโหว่ อาจมีข้อที่ต้องใช้เวลา มันไม่เด็ดขาดหรือรวดเร็วทันใจเหมือน Death note แต่ภายใต้ข้อจำกัดนั้น อำนาจในการตัดสินพิพากษาไม่ได้รวบยอดไว้ที่คนๆเดียว และ ยังเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหามีโอกาสสู้คดี และ มีโอกาสกลับตัว
อาชญากรทุกคนไม่ใช่คนเลว ผู้ตัองหาทุกคนไม่ใช่คนผิดเสมอไป และ อาชญากรทุกคนไม่ได้ สมควรตาย
ลองนึกดูว่า เมื่อไหร่ก็ตาม หากเราต้องตกที่นั่งจำเลย เราเองก็ย่อมต้องการโอกาสที่จะสู้คดี ถ้าเราเป็นคนผิด เราเองก็ย่อมต้องการโอกาสที่จะกลับตัวกลับใจ
...Death note ต่างจาก ตัวบทกฎหมาย ตรงที่ คนผิดหรือผู้ต้องหาถูกลิดรอนสิทธิความเป็นคน มิหนำซ้ำยังยกสิทธิทั้งหมดในการตัดสินชีวิตของคนไว้ในมือคนๆเดียว และ มันก็เหมือนอำนาจรวบยอดที่ไร้ขอบเขต
อำนาจที่ไร้ขอบเขตและไร้ข้อจำกัดนี่เอง เมื่อมาอยู่ในมือมนุษย์ที่เป็นปุถุชนคนธรรมดา มักตามมาด้วย หายนะ
เพราะ มนุษย์ ก็ยังคงเป็นแค่ คนธรรมดาๆที่สามารถถูกกิเลสเข้าครอบงำ มีความดีและความชั่วเจือปนในคนๆเดียว หากมนุษย์ได้ครอบครองสิ่งของที่มีอำนาจอย่างไร้ขีดจำกัด เช่น แหวนใน LOTR หรือ Death note ก็ไม่ต่างอะไรจาก ผู้นำเผด็จการในหลายๆประเทศที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จในมือ
ผู้นำเหล่านั้นก็เหมือนกับ ไลท์ ที่ในตอนแรก ที่อยากสร้างสังคม สร้างโลกที่ดีกว่าเดิม เมื่อเข้ามาใหม่ๆคนรอบข้างก็จะชื่นชมกับผลงาน แต่ต่อมา ความหอมหวานของอำนาจ ก็เข้าครอบงำ ผู้ครอบครอง
ไม่ใช่ คนที่ใช้อำนาจ แต่ อำนาจเป็นผู้ใช้คน และ คนๆนั้นก็เริ่มที่จะใช้พลังอำนาจที่มีในมือ ไม่ใช่เพื่อโลก แต่เพื่อ ปกป้องตัวเอง เริ่มคิดครอบครองไม่คิดส่งต่อ เริ่มหลงใหลและใช้ในทางที่เอื้อประโยชน์ต่อตัวเองและคนใกล้ตัว
เช่นเดียวกัน ในตอนแรก Death note มีบทบาท ในการสร้างความยุติธรรมให้กับโลก ไลท์อยากใช้มันเพื่อสร้างโลกใบใหม่ แต่ ต่อมา บทบาทของมันเปลี่ยนไป โดยที่ไลท์ไม่ทันรู้ตัวเสียด้วยซ้ำ ว่าปากกาในมือที่เขาเขียนชื่อคนลงใน Death note เขาใช้เพื่อปกป้องตัวเองไม่ให้ต้องสูญเสียอำนาจ และ ใช้เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จจอมปลอม
เขาไม่ได้ต้องการสร้างโลกที่ดีขึ้น แต่เขาใช้มันเพื่อให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่ดียิ่งขึ้น ตำแหน่งที่ไม่มีใครเอาชนะได้ และ สามารถควบคุมทุกอย่างได้ดั่งใจเหมือนกับเด็กคนหนึ่งที่เอาแต่ใจ อยากได้ อยากมีเท่านั้นเอง
...ตัวละคร ไลท์ เหมือนถอดแบบออกมาจากตำราจิตวิทยา ด้วยลักษณะ บุคลิกภาพแบบต่อต้านสังคม (Antisocial personality disorder) ผสมผสาน บุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง (Narcissistic personality disorder) คำว่าต่อต้านสังคม(Antisocial )ในที่นี้ ไม่ได้หมายความถึง แยกตัวหรือคัดค้านสังคม แต่หมายถึง ลักษณะบุคลิกภาพของคนที่ทำผิดกฎเกณฑ์ ทำความเลวร้าย ได้โดยไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดี คนที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้ดีหรือรอดพ้นผิด
ลักษณะบุคลิกภาพแบบต่อต้านสังคมเช่นนี้ มีแก่นเหมือนๆกันในทุกคนนั่นคือ การมีจิตใจที่ไร้ศีลธรรม(Superego) และ ด้วยบุคลิกภาพแบบ Narcissistic จึงยอมไม่ได้ที่จะพ่ายแพ้ ต้องการเอาชนะ พร้อมกับหลอกใช้คนใกล้ตัวเพียงเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย โดยไม่มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจใคร
...ความเป็นที่หนึ่งมาตลอด ความที่มีพ่ออยู่ในตำแหน่งชั้นสูงในการจัดการความอยุติธรรมของสังคม หล่อหลอมให้ไลท์ มีความเก่ง มีความมั่นใจในตัวเอง แต่สิ่งเดียวที่เขาไม่สามารถซึมซับมาได้คือ ศีลธรรม และ คุณธรรม ดังนั้นเป้าหมายในชีวิตของเขา คือ การชนะและก้าวไปเป็นที่หนึ่ง โดยไม่คำนึงถึงความผิดชอบชั่วดี
...ไลท์ เป็นตัวอย่างที่ดีของคนยุคใหม่ที่ IQ (Intelligent Quotient) สูงลิบลิ่ว แต่ MQ (Moral Quotient) นั้นต่ำเตี้ยติดดิน และ เด็กที่มีลักษณะเช่นนี้ มักมาจาก การเลี้ยงดูที่มุ่งหวังให้เด็กเก่ง ให้เด็กเป็นที่หนึ่ง มุ่งการไปให้ถึงเป้าหมายโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ
พ่อแม่หรือคนเลี้ยงดูไม่เคยบอกเด็กเหล่านั้นว่า ถูกผิดเป็นเช่นไร ไม่เคยสอนให้เด็กรู้จักยอมรับการเป็นผู้แพ้ที่ดี ด้วยการเลี้ยงดูเช่นนี้ ไม่น่าแปลกใจ ที่เราจะสามารถพบเห็น คนอย่างไลท์ในสังคมได้มากขึ้นทุกๆวัน
...สิ่งที่ผมหงุดหงิดรำคาญใจหลังดู Death note จบ ไม่ใช่หน้าบานๆของไลท์เหมือนในหลายๆกระทู้เขียนถึง แต่เป็นตอนจบที่ค้างคาให้ต้องอดใจรอภาคสอง ก็เข้าใจว่าเป็นงานหินที่จะรวมภาคแรกในการ์ตูนไว้ในหนังแค่ภาคเดียว เพียงแค่อดหวั่นใจไม่ได้ว่า กว่าจะเห็นบทอวสานของ Death note มิต้องรอไปถึงหนังภาคที่สี่เลยหรือนี่ (เพราะฉบับการ์ตูนมีสองภาค)
Death note เป็นการ์ตูนในลิสต์อันดับต้นๆที่ผมติดงอมแงม ก่อนที่จะค่อยๆลดความติดหนึบลงไปในภาคสอง เมื่อผมเริ่มรู้สึกว่าเวลาอ่าน ตัวเองต้องจมอยู่กับกองตัวหนังสือที่มากมายไปหน่อย ทำให้ต้องพลิกข้ามๆแล้วว่างๆค่อยหยิบมาอ่านอีกรอบ ตอนที่สมาธิดีๆพร้อมจะขบคิดไปพร้อมกับตัวละครในเรื่อง
จริงที่ Death note เหมาะกับการดัดแปลงมาเป็นหนัง แต่ การดัดแปลงการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ใช่งานง่าย เพราะ รูปแบบในการ์ตูนไม่ได้เล่าเรื่องชนิด ลำดับฉับไว พร้อมให้สร้างเป็นหนังได้ทันทีเหมือนกับ งานของ อ. นาโอกิ อูราซาว่า (20th century boy / Monster) Death note เป็นการ์ตูนที่เต็มไปด้วยตัวอักษร และ ตัวอักษรเหล่านั้นก็คือคำบรรยายวิธีการคิดของตัวละครแต่ละคน
Death note ไม่ได้ต่อสู้กันด้วยกำลังแต่เป็นการห้ำหั่นด้วยความคิด และ หักเหลี่ยมเฉือนคมโดยอาศัยความฉลาดระดับอัจฉริยะที่ทัดเทียมกันของสองตัวละคร ความยากของหนัง คือ จะเปลี่ยนตัวหนังสือที่เป็นความคิดเหล่านั้นให้มาเป็นภาพบนจอได้อย่างไร ให้คนดูที่ไม่เคยอ่านการ์ตูนสนุกไปด้วยกับการห้ำหั่นและใช้ไหวพริบของตัวละคร
...ตัวละครสองฝั่งต่างผลัดกันรุกและรับไปพร้อมๆกัน
ไลท์ ต้องพยายามไม่ให้คนอื่นจับได้ว่าตัวเองเป็นคิระ แต่ ก็ต้องหาทางจัดการกับ แอล
แอล ต้องป้องกันไม่ให้ ไลท์รู้ชื่อตัวเอง และ ก็ต้องหาทางเอาผิดกับไลท์
ตัวละคร แอล มีจุดเด่นตรงการออกแบบบุคลิกภายนอกที่แปลกแยก ผสมความเป็นอัจฉริยะกับนิสัยที่เหมือนเด็กเข้าไว้ด้วยกัน อาวุธที่ใช้ต่อสู้ของทั้งสองคนนี้ก็คือ สติปัญญาและกำลังคน ซึ่งสูสีทัดเทียมกัน แต่สิ่งเดียวที่ แอล มีน้อยกว่า ไลท์ นั่นคือ เขาไม่มี Deathnote
ส่วนตัวละคร ไลท์กับ Death note กลายมาเป็นฮีโร่ ในใจคนอ่านหลายคน เหมือนกับที่ คิระ เป็นฮีโร่ในใจ คนกลุ่มหนึ่งในหนังสือ ฮีโร่อย่างไลท์ต่างจากฮีโร่คนอื่นๆ เพราะ ฮีโร่คนอื่นๆมีหน้าที่ปกป้องเพื่อนมนุษย์ แต่ไลท์ทำหน้าที่พิพากษาและทำลาย เราอาจมี ไลท์ อยู่ในตัวในระดับจิตสำนึกหรือจิตใต้สำนึก เพราะ ไลท์ก็เป็นเหมือนตัวแทนหรือทางออกของ แรงขับความรุนแรง(aggressive drive)ที่มนุษย์ทุกคนซุกซ่อนอยู่ แรงขับที่อยากจะระเบิดออกมาเมื่อถูกเอาเปรียบหรือถูกรังแก แต่ ไลท์ตัวจริง ต่างจากเราๆก็ตรงที่ เขาปลดปล่อยมันออกมาโดยไม่ผ่านการคัดคานของ ศีลธรรม (Superego)
....ผมแบกความคาดหวังในระดับสูง เข้าไปดู Death note และก็ไม่ผิดหวังแต่ประการใด การดัดแปลงจากหนังสือมาเป็นหนังถือว่าน่าพึงพอใจ อาจจะไม่ใช่ในระดับยอดเยี่ยมเหมือนการเปลี่ยนจากการ์ตูนมาเป็นหนังของปีก่อนที่ Nana ทำไว้ แต่ก็จัดได้ว่าไม่น่าผิดหวังสำหรับคอคนดูหนัง เพราะ หนังยังคงความเป็น Death note ได้อย่างครบครัน ในเวลาเดียวกัน ก็ไม่ได้เดินตามรอยชนิดลอกแบบจากการ์ตูนเป๊ะๆจนไม่มีอะไรใหม่เลย
การเลือกนักแสดงมาแทนที่ตัวละครในการ์ตูน ดูผิวเผินอาจขัดตาเป็นบางคน แต่พอดูหนังไปซักพักก็พบว่า เป็น การเลือกที่เหมาะสมกับหนังคนแสดงทีเดียว เพราะ ถึงภาพลักษณ์ภายนอกของบางคนจะไม่ได้เหมือนในหนังสือชนิดถอดรูปก็ตาม เช่น แม้พ่อของไลท์จะไม่มีหนวดแต่ก็ไม่ทำให้บทนี้ไขว้เขวไป และ แม้ไลท์จะหน้าบานกว่าในการ์ตูน ก็ไม่ได้ทำให้หนังเสียรูป เพราะ บุคลิกรวมไปถึงตัวตนของตัวละครทุกตัวยังคงถ่ายทอดออกมาจากการ์ตูนได้อย่างหนักแน่นชัดเจน
ยางามิ ไลท์ (ทัตซึยะ ฟูจิวาระ) ในหนังต่างจากการ์ตูนตรงที่ เขาไม่ได้ดูเก่งสุดยอดเกินจริง ไม่ได้หล่อเหลาปานเทพบุตร เขาดูห่างไกลจากภาพอุดมคติและดูเข้าใกล้คนจริง ยิ่งสีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องเหมือนเด็กได้ใจ กับ พฤติกรรมที่หนังเขียนบทในตอนจบให้ต่างไปจากการ์ตูนเล็กน้อยนั้น ยิ่งทำให้เขากลายเป็นผู้ร้ายที่ผมชื่นชอบ
ตัวละครไลท์ ออกจะมีที่มาที่ไปละม้ายคล้ายคลึงกับตัวละครหนุ่มหล่อตัวร้ายในการ์ตูนเรื่อง Zetman นั่นคือ ความอยากเอาชนะ ความอยากเป็นที่หนึ่ง ความหลงตัวเอง ค่อยๆขุดตัวตนที่แท้จริงของเขาออกมา และ ค่อยๆกลืนกิน ไลท์คนเดิมที่เคยวาดฝันอยากจะสร้างโลกที่ดีกว่าเดิม ไลท์ในการ์ตูนอาจทำให้ก้ำกึ่งไม่แน่ใจ แต่ไลท์ในหนังช่วยเสริมความมั่นใจว่าชั่วช้าสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง
ส่วน แอล ในหนังสือ ต้องยอมรับว่า เป็นตัวละครที่ดูผิดมนุษย์มนาทั่วไป ความโดดเด่นไม่ได้อยู่ที่นิสัยใจคอ เพราะเป็นตัวละครที่ผู้เขียนเองก็คงไม่ได้เน้นให้มีมิติหรือมีอารมณ์ แต่เน้นที่ ความเฉลียวฉลาด และ มาดบุคลิกภายนอกตั้งแต่ หน้าตา ท่านั่ง ท่ากิน ฯลฯ ซึ่งจะให้ถอดออกมาเหมือนขนาดนั้นไม่ใช่ง่าย แต่เคนอิชิ มัตสึยามะก็สามารถถอดลักษณะออกมาได้ไม่ห่างไกลเกินไปนัก
อย่างไรก็ดี ตัวละครที่น่าทึ่งที่สุด คือ ลุค ยมฑูตผู้พิศมัยแอปเปิ้ล ที่เหมือนเดินออกมาจากหน้าหนังสือการ์ตูนจนน่าทึ่ง
นอกจากนี้ การใส่ตัวละครใหม่อย่าง ชิโอริ คนรักของไลท์ เข้าไปในหนัง และ ปรับบทบาท แฟนของเรย์ ให้มีความสำคัญมากขึ้น เป็นการดัดแปลงที่เข้าที เพราะเป็นการดัดแปลงที่ทำให้หนังดีขึ้น ช่วยกระชับเรื่องราวและช่วยให้หนังมีประเด็น มีอารมณ์ความรู้สึกมากไปกว่า การหักเหลี่ยมเฉือนคมทางความคิดอย่างเดียว
...หนังเปิดเรื่องได้ชวนติดตามมาก ฉากตอนต้นเชื่อเลยว่า จะตรึงคนทีไม่เคยรู้เรื่องในการ์ตูนมาก่อนต้องสนุกและอยากติดตามด้วยความสนใจ เสียดายที่หลังจากเดินเรื่องไปซักพัก ดูเหมือนหนังจะพยายามตามเนื้อหาในหนังสือมากไปนิด จนทำให้จังหวะของหนังสำหรับคนดูอย่างผมที่รู้เรื่องรู้รายละเอียดแล้ว รู้สึกว่ามันค่อนข้างเฉื่อยและอืดลงไป
ก่อนที่เครื่องจะเริ่มติดอีกครั้งเมื่อตัวละคร เรย์ เปิดตัวออกมาตามล่าไลท์ เพราะ เมื่อนั้นก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ไลท์เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองไปอย่างสมบูรณ์แบบ ในตอนที่ ลุค ถาม ไลท์ ว่า เขาจะฆ่า เรย์ จริงหรือ เพราะคนที่เขากำลังจะฆ่าไม่ใช่อาชญากร การฆ่าครั้งนี้ขัดกับอุดมการณ์ที่เขาเคยตั้งไว้ แต่ ตอนนั้นก็ดูเหมือน ไลท์จะหลงลืมหลักการทั้งปวงไปหมดแล้ว
ไลท์ ก็กำลังจะเหมือนผู้นำหรือคนที่หลงในอำนาจ และ กำลังจะทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง ตั้งแต่นั้น การต่อสู้ของความดีกับความชั่วจึงกลับมาสนุกอีกครั้ง หลายฉากหลายตอนที่ตัวละครสำคัญๆจะถูกกำจัด หนังทำได้กดดันและตึงเครียดดีทีเดียว
สิ่งที่ชอบ
1.การดัดแปลง ... ชอบตรงที่ไม่ใช่ลอกแบบเอามาไม่ดัดแปลงอะไรเลย เพราะถ้าลอกมาเป๊ะๆ ก็ไม่ต่างอะไรจากการนั่งดูตัวหนังสือเปลี่ยนเป็นภาพอย่างเดียว ใครที่ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้อย่างผมก็อาจจะเบื่อได้ง่ายๆ แต่การดัดแปลงครั้งนี้ แม้จะเปลี่ยนแปลงไม่มาก แต่ก็ถือว่าเป็นการดัดแปลงที่กระชับลงตัวพอสมควร จุดที่เปลี่ยนแปลงก็ทำได้เข้าท่า คนดูการ์ตูนยังสนุกกับการดูหนัง คนไม่อ่านการ์ตูนก็สามารถดูรู้เรื่องและน่าจะสนุกตามไปได้ไม่ยาก
2.ลุค ... เป็นการใช้ CG ที่ยอดเยี่ยม ดูไม่โดดหรือหลอกตา และ ก็ถอดแบบทั้งรูปร่างหน้าตานิสัยใจคอเหมือนกับในการ์ตูนได้อย่างน่าอัศจรรย์
3.ช่วงตั้งแต่ เรย์ ตามล่า ไลท์ ไปจนจบ ... แม้จะรู้บทสรุปของตัวละครทั้งหลาย แต่การกำกับหนังในช่วงนี้ก็บีบคั้นคนดูและกดดันคนดูได้ดี ไปจนถึงตอนท้าย ที่แม้จะรู้ทริคของไลท์ แต่หนังก็ยังทำให้คนดูสนุกตามไปด้วย ยิ่งฉากจบที่เป็นบทสรุปชีวิตของตัวละครสำคัญ และ เฉลยความจริงในใจตัวละคร ยิ่งทำให้หนังเข้มข้นและดีแตกต่างจากการ์ตูน แถมยังเค้นความอยากดูภาคต่อของคนดูมากขึ้นไปอีก
4.ตัวละคร ไลท์ กับ แอล ... แม้ไม่เหมือนในหนังสือชนิด 100 % ก็ตาม ก็จัดได้ว่าเป็นคาแรกเตอร์ที่ทำออกมาได้ใกล้เคียงมาก โดยเฉพาะ ไลท์ในหนัง แม้จะไม่เหมือนแต่สามารถสร้างความเป็นตัวของตัวเองได้แตกต่างออกไปจากการ์ตูน และ เป็นความแตกต่างที่ดีไปคนละแบบ
สิ่งที่ไม่ชอบ
1.ช่วงแรก ... หลังจากหนังเปิดเรื่องไปได้พักหนึ่ง ก็เริ่มเอื่อยๆอืดๆอย่างบอกไม่ถูก ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะตัวเองเป็นกลุ่มที่อ่านการ์ตูนมาก่อนแล้วและก็ไม่ได้คลั่งไคล้ตัวละครเป็นพิเศษหรือเปล่า เมื่อถึงช่วงที่เนื้อเรื่องเหมือนกับหนังสือเป๊ะๆในตอนแรก จึงไม่รู้สึกให้สนุกตื่นเต้นแต่อย่างใด
2.ซับไม่ครบ ... อันนี้หงุดหงิดพอสมควร เพราะ ฟังภาษาญี่ปุ่นไม่ออก มีอยู่ประมาณสองสามครั้ง ที่ตัวละครพูดแต่ไม่มีซับไตเติ้ลตามมา
สรุป ... ใครเคยอ่าน Death note ห้ามพลาด ใครไม่เคยอ่านการ์ตูนแต่ชอบหนังที่หักเหลี่ยมเฉือนคม เจือปน ยมฑูต และ พล็อตสร้างสรรค์ ไม่ควรพลาด ไม่ทำให้ต้องรู้สึกเสียดายตังค์ แต่จะไม่เหมาะกับคนที่ดูหนังตัวอย่างแล้วเข้าใจว่า Death note เป็นหนังสยองขวัญประมาณ The Ring + Kairo หรือ เข้าใจว่าจะแอคชั่นเลือดโชก และ เตรียมใจไว้กับตอนจบที่หนังยังไม่จบแค่นี้ ยังมีภาคสองจ่อคิวรอฉายในโรงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ป.ล. เมื่อไหร่จะมีคนเอา 20th century boy ไปสร้างเป็นหนังซะทีหนอ อยากดูมากมาย หรือ ไม่ก็เอา โจโจ้ภาคตะลุยดีโอ มาสร้าง ก็ได้ อยากดูๆ
Blog ช่วงนี้ ขอแบ่งงานจากสนพ. มาฝาก พ็อกเก็ตบุ้ค ตัวเองที่จะออกปลายเดือนหน้าซักหน่อยครับ กับ
"หนังสือรัก" หนังสือที่แม้จะเกี่ยวกับ หนัง แต่ ไม่ใช่ รวมบทวิจารณ์หนัง ที่จะบอกว่า หนังเรื่องนี้ดีไม่ดีอย่างไร ไม่ได้บอกว่า หนังเรื่องนี้มีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ซ่อนเร้นอย่างไร "หนังสือรัก" คือ รวม 25 (+1) ความรักจากภาพยนตร์ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้างได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม
ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ
เริ่มต้นอ่านครั้งแรก ชวนคลิก ชวนคุยกันที่ --> หน้าแรก
รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง
ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง
ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป
Create Date : 01 ตุลาคม 2549 |
Last Update : 2 ตุลาคม 2549 0:45:33 น. |
|
58 comments
|
Counter : 4158 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: nanoguy IP: 203.113.35.10 วันที่: 1 ตุลาคม 2549 เวลา:2:37:22 น. |
|
|
|
โดย: Roc-A-Fella Superstar IP: 137.92.97.114 วันที่: 1 ตุลาคม 2549 เวลา:3:42:09 น. |
|
|
|
โดย: MTO IP: 203.149.28.194 วันที่: 1 ตุลาคม 2549 เวลา:6:08:42 น. |
|
|
|
โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 1 ตุลาคม 2549 เวลา:7:34:09 น. |
|
|
|
โดย: SSM IP: 58.8.172.126 วันที่: 1 ตุลาคม 2549 เวลา:11:28:20 น. |
|
|
|
โดย: ตนแปลกประหลาคคน IP: 58.64.106.69 วันที่: 1 ตุลาคม 2549 เวลา:12:13:11 น. |
|
|
|
โดย: bigwores วันที่: 1 ตุลาคม 2549 เวลา:20:15:37 น. |
|
|
|
โดย: CeRoBeroz IP: 124.120.150.72 วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:0:04:29 น. |
|
|
|
โดย: วัฌชา วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:0:21:23 น. |
|
|
|
โดย: Ethan Hunt IP: 203.150.219.199 วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:0:25:03 น. |
|
|
|
โดย: maymay IP: 124.157.168.151 วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:0:30:39 น. |
|
|
|
โดย: Elrond IP: 202.28.180.201 วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:1:14:03 น. |
|
|
|
โดย: Killy วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:1:21:48 น. |
|
|
|
โดย: jeakja วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:9:13:37 น. |
|
|
|
โดย: madcatzyber IP: 125.25.159.99 วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:10:59:22 น. |
|
|
|
โดย: เกด IP: 221.128.113.163 วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:11:06:01 น. |
|
|
|
โดย: เกด IP: 221.128.113.163 วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:11:16:29 น. |
|
|
|
โดย: ภา IP: 58.8.1.103 วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:11:20:35 น. |
|
|
|
โดย: Ple IP: 124.120.185.174 วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:11:24:05 น. |
|
|
|
โดย: Naru-Piece IP: 192.165.213.18 วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:12:05:40 น. |
|
|
|
โดย: unwell วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:17:50:10 น. |
|
|
|
โดย: บลูยอชท์ IP: 202.69.140.233 วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:18:26:02 น. |
|
|
|
โดย: ชอบdeath note IP: 203.144.206.130 วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:18:27:12 น. |
|
|
|
โดย: Mr.Learning IP: 124.121.57.114 วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:21:00:30 น. |
|
|
|
โดย: คุณชาย "ไม้แขวนเสื้อ" IP: 58.136.119.28 วันที่: 3 ตุลาคม 2549 เวลา:4:04:36 น. |
|
|
|
โดย: Abstract Life IP: 125.25.159.224 วันที่: 3 ตุลาคม 2549 เวลา:22:21:30 น. |
|
|
|
โดย: บลูยอชท์ IP: 202.69.140.233 วันที่: 3 ตุลาคม 2549 เวลา:22:59:20 น. |
|
|
|
โดย: <(^(oo)^)> IP: 58.8.19.64 วันที่: 3 ตุลาคม 2549 เวลา:23:39:56 น. |
|
|
|
โดย: Ple So gOoD วันที่: 4 ตุลาคม 2549 เวลา:14:19:42 น. |
|
|
|
โดย: praewjang IP: 202.28.181.9 วันที่: 5 ตุลาคม 2549 เวลา:10:00:35 น. |
|
|
|
โดย: Ple So gOoD วันที่: 5 ตุลาคม 2549 เวลา:12:07:25 น. |
|
|
|
โดย: Ple So gOoD วันที่: 5 ตุลาคม 2549 เวลา:12:11:01 น. |
|
|
|
โดย: Ple So gOoD วันที่: 5 ตุลาคม 2549 เวลา:12:12:03 น. |
|
|
|
โดย: mi IP: 58.9.158.57 วันที่: 6 ตุลาคม 2549 เวลา:11:43:58 น. |
|
|
|
โดย: mook nagase IP: 221.128.104.214 วันที่: 7 ตุลาคม 2549 เวลา:21:24:32 น. |
|
|
|
โดย: Ple So gOoD วันที่: 9 ตุลาคม 2549 เวลา:11:55:09 น. |
|
|
|
โดย: เคียงจันทร์ IP: 125.24.171.204 วันที่: 15 ตุลาคม 2549 เวลา:16:52:32 น. |
|
|
|
โดย: D.gray-Man IP: 125.25.148.228 วันที่: 15 ตุลาคม 2549 เวลา:21:36:26 น. |
|
|
|
โดย: Top2view IP: 202.12.97.100 วันที่: 16 ตุลาคม 2549 เวลา:19:58:33 น. |
|
|
|
โดย: ช่วยตอบ IP: 202.69.140.233 วันที่: 17 ตุลาคม 2549 เวลา:11:41:24 น. |
|
|
|
โดย: ออร่า IP: 58.10.234.94 วันที่: 31 ตุลาคม 2549 เวลา:11:04:54 น. |
|
|
|
โดย: Lostboy IP: 61.47.69.87 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2549 เวลา:0:40:55 น. |
|
|
|
โดย: dahlia IP: 221.128.113.247 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:31:39 น. |
|
|
|
โดย: The SoVo IP: 124.84.156.195 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:27:56 น. |
|
|
|
โดย: Date note IP: 58.9.164.231 วันที่: 2 ธันวาคม 2549 เวลา:21:37:55 น. |
|
|
|
โดย: tabby girl IP: 202.122.130.31 วันที่: 2 เมษายน 2550 เวลา:16:51:14 น. |
|
|
|
โดย: ........ IP: 203.62.152.24 วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:11:57:51 น. |
|
|
|
โดย: เบียร์*-*คับ IP: 61.7.221.111 วันที่: 2 ตุลาคม 2550 เวลา:13:09:52 น. |
|
|
|
โดย: เบียร์*-*คับ IP: 61.7.221.111 วันที่: 2 ตุลาคม 2550 เวลา:13:10:07 น. |
|
|
|
โดย: KIRA IP: 222.123.136.25 วันที่: 26 ตุลาคม 2550 เวลา:3:56:16 น. |
|
|
|
โดย: โปงลางคุง IP: 124.120.94.234 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:59:55 น. |
|
|
|
โดย: โต้ง IP: 125.27.88.131 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:19:41 น. |
|
|
|
โดย: tong IP: 58.9.114.8 วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:20:42:22 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
- Next , ทรงผมชวนกลุ้มใจกับหนังไซไฟดูเพลินๆ
- Spider-Man 3 , แมงมุมดำตัวนั้น ฉันเห็นมันอยู่ในใจเราทุกคน
- Miss potter , เรื่องของเธอ(พ็อตเตอร์)และผมฯ
- Me...Myself ขอให้รักจงเจริญ , แค่นี้ก็พอแล้ว
- Meet the Robinsons , เมื่อพบความผิดหวังจะโทษโน่นโทษนี่ หรือ เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป
- Shooter , หนังแอคชั่นที่ดูจบแล้ว"เออ มันดีแฮะ"
- Hannibal Rising , ความน่าผิดหวังของหนังฮานนิบาล
- Confession of pain , ความแค้นอันแสนเศร้า
- Pans Labyrinth , คือจินตนาการแสนสวยงาม หรือ คือความจริงที่เจ็บปวดและขมขื่น
- The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23
- เมล์นรก หมวยยกล้อ , รถเมล์สายนี้ไม่ตลกแต่สนุก
- The Lives of Others , อ๊ะ นี่มัน Infernal affairs เวอร์ชั่นกำแพงเบอร์ลิน
- Sunshine , อาทิตย์สิ้นแสง ชีวิตสิ้นสูญ
- The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)
- แฝด , เข้าใจพิม เข้าใจพลอย เข้าใจ"แฝด"
- I'm a Cyborg, But That's OK , แต่ I ไม่ค่อย OK
- The Good Shepherd , จะลงเรือทั้งทีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
- Bridge to Terabithia , Just close your eyes but keep your mind wide open
- 300 , นี่คือสปาตั้น(โว้ย) ... พลั่กกกกกก
- The Queen , แม้จะเป็นเรื่องของ 'ควีน' แต่นี่คือ การกะเทาะเปลือกเล่าเรื่อง 'คน'
- Rocky Balboa , ชีวิตไม่ได้สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน
- Charlotte's Web , มิตรภาพไม่ได้มีราคา
- The Pursuit of Happyness , ปัญหาชีวิตก็เหมือน รูบิค - ถ้าทำไม่ได้จะ สู้ต่อ หรือ โยนทิ้ง-
- Volver , ความเจ็บปวดของแม่และลูกสาว
- Music and Lyrics , หนังที่น่ารักที่สุดในรอบ(หลาย)ปี
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 , จะสนไปทำไมกับเรื่องอิสรภาพที่ไกลตัว
- Dreamgirls , วันที่ ธุรกิจ กลืนกิน ศิลปะ
- Babel , เราเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ไปแล้วหรือยัง
- Rough , จาก H2 มาสู่ Touch และได้เวลา Rough
- Curse of the Golden Flower , ความเน่าหนอนฟอนเฟะของสถาบันครอบครัว
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus , ความงามที่แตกต่าง โลกที่แตกต่าง
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1 , ไทยจะสิ้นชาติไม่ใช่เพราะใคร หากมิใช่เพราะไทยด้วยกัน
- Perfume: The Story of a Murderer , ทำความรู้จักและเข้าใจ ฆาตกรน้ำหอมมนุษย์
- Blood diamond , "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาฆ่ากันเอง"
- The Black Dahlia , ดอกรักเร่ ที่สวยแค่สไตล์แต่ไร้เสน่ห์
- Night at the Museum , ความบันเทิงสำเร็จรูปที่สนุกเพลินเกินห้ามใจ
- ===== 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ ประจำปี 2549 =====
- +++ 10 "ฉาก"ประทับใจจาก"หนัง"ปีที่ผ่านมา +++
- ++ ชวนเพื่อนๆมาเลือก 10 ตัวละครประทับใจ จากหนังปีที่ผ่านมา ++
- The Holiday , จะทำอย่างไรในวันที่ใจเจ็บ
- Lucky Number Slevin , ของเค้าดี แต่ ผิดที่ ผิดเวลา
- The King and the Clown , ความรักของตัวตลกบนหลังเสือ
- Déjà vu , เอ๊ะ เราเคยเจอมาก่อนหรือเปล่า
- Death Note 2: The Last Name , ได้เวลาเก็บสมุดคืนเจ้าของ
- Saw III , บทเรียนสุดท้ายของคุณครู จิ๊กซอว์
- The Village Album , ถ่ายภาพด้วยหัวใจแล้วบันทึกใส่ความทรงจำ
- 007 : Casino Royale , นี่ซิ เจมส์ บอนด์
- The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?
- The Banquet , แฮมเล็ต เวอร์ชั่น ประหารเจ็ดชั่วโคตร
- ผีสามบท บทที่ 3 : เปนชู้กับผี , พอกันที ผีGMO
- ผีสามบท บทที่ 2 : Monster House , บ้านผีสิงที่แสนจะบันเทิงใจ
- ผีสามบท บทที่ 1 : The Grudge 2 , ปัญหาของ ป๋า กับ เด็กผี
- The Guardian , "สถิติ" ไม่สำคัญเท่า "ทัศนคติและเจตคติ"
- หมากเตะรีเทิร์นส , หมากเกมส์นี้ น่าจะดีได้มากกว่านี้
- 12 เกมสยาม +13 เกมสยอง , มันไม่ใช่แค่เกม
- Cars , 20 ปีของ Pixar กับเรื่องของ "คาร์" (ซึ่งก็คือเรื่องของ "คน")
- The Devil Wears Prada , (จากหนังสือมาเป็นหนัง) ร้ายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
- Death Note , สมุดเล่มนี้ ดี จริงหรือ?
- L'Enfant (The child) , เด็กไม่รู้จักโต
- World Trade Center , เป็น"ฮีโร่"ไม่ได้วัดกันที่ผลลัพธ์
- The Host , สัตว์ประหลาด สนุกประหลาด
- Season changes , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"
- Me and You and Everyone We Know , เราอยู่ร่วมกัน เรารู้จักกัน แต่เราไม่เชื่อมต่อถึงกัน
- Snakes on a Plane , ที่อยากไปดูก็เพราะ "งูบนเครื่องบิน"
- United 93 , ทรงพลัง และ สะเทือนใจ
- Running boy (Marathon) , ทุกชีวิตล้วนมี"หัวใจ"
- โคตรรักเอ็งเลย , เกือบโคตรรัก "โคตรรักเอ็งเลย"
- Sad movie , แม้รักต้องพลัดพรากก็ยังฝากความทรงจำอันงดงาม
- The Break-Up , วิธีทำลายชีวิตคู่ตัวเองให้ย่อยยับ
- แก๊งชะนีกับอีแอบ , หนัง comedy ไทยดีๆยังมีอยู่
- Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest , "สลัด"จานนี้รสชาติดีเพราะ"Johnny Depp"
- Tsotsi , พื้นฐานจิตใจมนุษย์เป็น สีขาว หรือ สีดำ
- Superman Returns , ทำไมโลกใบนี้ยังต้องการ Superman ?
- Silent Hill , ของดีที่อยู่ในมือพ่อครัวขาดฝีมือ
- over the hedge , บทเรียนชีวิตเรื่องมิตรภาพและครอบครัว
- Don't tell , แผลในใจแค่"ลืม"คงไม่พอ
- Slither , คูลฟีเวอร์สีเลือด เชือดมนุษย์โลก
- The Omen , ซาตานอยู่รอบตัวเรา
- Scary movie 4 , ผ่านมา --> ฮา --> ผ่านไป
- Paradise now , สวรรค์อยู่หนใด
- X-Men: The Last Stand , X = mutant , รักร่วมเพศ , คนผิวดำ , ยิว ฯลฯ
- ก้านกล้วย , "ช้างกูอยู่ไหน" >> "ช้างกูอยู่นี่"
- The Da Vinci Code , ศรัทธาที่บิดเบือน
- Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
- Poseidon , จมเร็ว จบเร็ว
- Match point , เกมส์กิเลสของคนเห็นแก่ตัว
- Mission: Impossible III, ภารกิจสุดมันส์ที่ขาดเสน่ห์
- Perhaps love , รักซ้อนรัก หนังซ้อนหนัง อดีตซ้อนปัจจุบัน
- Ice Age: The Meltdown , ได้เวลายุคน้ำแข็งครองเมือง
- Red lights , ผู้ชายไม่รู้ตัว ผู้หญิงไม่รู้ใจ
- Failure to launch , Success to love
- Inside man , คน(ดี/ชั่ว) ใน คน(ดี/ชั่ว)
- Where the Truth Lies , ความจริงนอนนิ่งอยู่ที่ใด ?
- โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง , ฮาน้อยกว่าที่คิด มีสาระมากกว่าที่หวัง
- My girl and I , รักครั้งแรกจะเปลี่ยนเราไปตลอดกาล
- V for Vendetta , เผด็จการรัฐสภา VS. พลังประชาชน
- A History of violence , มาทำความรู้จัก "ความรุนแรง" กัน
- Final Destination 3 , เหล้าเก่าในขวดเก่า
- The Constant Gardener , ในความลับมีความจริง ในความจริงมีความรัก
- คำพิพากษาของมหาสมุทร (Invisible Waves) , คลื่นบาปที่นิ่งสงบ
- Walk the line , มิตรภาพในความรัก
- เด็กหอ , หอนี้มีดีกว่าผีหลอก
- Brokeback Mountain , รักซ่อนเร้น
- Munich , ผลของการสาดน้ำมัน(ความรุนแรง)เพื่อดับไฟ(แค้น)
- Memoirs of a Geisha , ชาเขียวสำเร็จรูปที่ผสมน้ำมากไป
- Prime , รักคงยังไม่พอ
- An Unfinished Life , ชีวิตที่หยุดเดิน
- In Her Shoes , หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต
- Just Like Heaven , เมื่อพื้นที่ของชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ความสุข
- The Promise , คำสัญญา ชะตากรรม ความรัก
- 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ (ของปีที่ผ่านมา)
- 10 ฉากประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- 10 ตัวละครประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and the Wardrobe , ส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับทุกครัวเรือน
- April Snow , บางครั้งความรักก็เจ็บปวดโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
- King Kong , แล้ว "ลิงยักษ์" ก็ตกหลุม "รักหญิง"
- The Descent , ถึงถ้ำ ถึงเลือด ถึงเนื้อ ถึงกระดูก
- The Maid , ผีสิงคโปร์
- The Exorcism of Emily Rose , ผีเข้า(ศาล)
- Hidden (Caché) , ความจริงที่ซุกซ่อน (ในหนังที่ยอดเยี่ยม)
- Chicken Little , กุ๊กไก่ของ Disney ที่ไร้เงา Pixar
- Nana , โลกของนานะ โลกของความรัก ความฝัน และ มิตรภาพ
- เด็กโต๋ , สายธารชีวิตแห่งบ้านแม่โต๋
- Harry Potter and the Goblet of Fire , กีฬาสีสามสถาบันกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
- Corpse Bride , รักไม่มีวันตาย
- Yes , บทกวีอีโรติค ความรัก การเมือง และ การมีตัวตน
- รับน้องสยองขวัญ , หายใจเข้าก็ เฮ้อ หายใจออกก็ เฮ้อ
- Lord of War , นิ้วที่ลั่นไกจากมือที่มองไม่เห็น
- Saw II , สยองอย่างมีประเด็น
- Goal! , ประตูชัย(goal)เป้าหมายชีวิต
- Proof , ชีวิตที่สับสนของคนที่สูญเสีย
- The Legend of Zorro , ฮีโร่ที่ย่ำอยู่กับที่
- Flightplan , ขึ้นได้สูง บินได้สวย ลงไม่นิ่ม
- Sky High , อยากจะเป็น hero ที่ "เปลือก" หรือที่ "แก่น"
- A Sound of Thunder , เรื่องราวอยู่ในโลกอนาคต ตัวหนังอยู่ในโลกอดีต
- Red Eye , ไม่ใช่แค่ Fight or Flight แต่ยังเป็น Fight on Flight
- เพื่อนสนิท , เมื่อเส้นแบ่งของ "คนรัก" กับ "เพื่อน" เริ่มเลือนราง
- Transporter 2 ควบ Into the Blue , ขึ้นรถดีกว่าลงเรือ
- Madagascar , มิตรภาพกับการเรียนรู้ชีวิต และ นกเพนกวิน
- Cinderella man , Jim Braddock ชายที่ไม่ได้เป็นแค่นักมวย
- Dear Frankie , คำลวง ความรัก ครอบครัว
- Dark Water , ความสัมพันธ์แม่-ลูก-ผี (จากหนังสือสู่ภาพยนตร์)
- Seven Swords , ... ที่ควรยาวกลับสั้น ที่ควรสั้นกลับยาว ...
- แหยม ยโสธร , ขำขำ - หม่ำ - อะฮึ่ย อะฮึ่ย
- Charlie and the Chocolate Factory , Imagination is more important than knowledge
- The Skeleton Key , ไขได้ดีพอสมควร
- About Love , เรื่องราวที่ "เกี่ยวกับ "รัก""
- 5x2 , สมการความรักของคน 2 คน
- ต้มยำกุ้ง , อร่อยรสแซ่บชามโตเกินมาตรฐานแต่อาจไม่ผ่านเชลล์ชวนชิม
- Somersault , ความรัก - Sex - เด็กสาวและความทุกข์ทรมานใจ
- The Upside of Anger , เรื่องหนักๆของครอบครัวที่เล่าอย่างเบาๆ
- Land of the Dead , หนึ่งเรื่องราวของซอมบี้ที่กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
- Crash , ผลกระทบของการชนที่"คน"มีต่อกันและกัน
- วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น , หนังครอบครัวสำหรับคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี
- The Island , โลกอนาคตและโคลนนิ่งฉบับระเบิดเถิดเทิง
- The Keys to the House , "บ้าน"หลังนี้จะมีความรักเป็น"กุญแจ"
- The Longest Yard , เกมส์เก่าเอามาเล่าใหม่ใช้วิธีการเดิม
- Fantastic Four , ความสนุกสูตรสำเร็จที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลิน
- War of the Worlds , เมื่อสปีลเบิร์กเลิกรักมนุษย์ต่างดาว
- Swing Girls , สวิงกันแบบคึกคัก สดใส ไร้มลพิษ
- Hotel , โรงแรมที่ไร้เรื่องราว
- Assault on Precinct 13 , อีกหนึ่งความจนตรอกที่ระทึกคุ้มค่า
- Batman Begins , ปฐมบทแรกบินกับการตีความครั้งใหม่
- Mr. and Mrs. Smith , เรื่องราวชีวิตคู่ที่สวมเสื้อคลุมหนังแอคชั่น
- มหาลัย' เหมืองแร่ , เหมืองแร่และชีวิตกับหน่วยกิตที่ต้องขุด
- House of Wax , ความสยองที่แปลกตากับหุ่นขี้ผึ้ง สองดาราและหนึ่งปารีส
- Sin city , ฟิล์มนัวร์ที่ลงตัวและเจ๋ง
- Star Wars: Episode III Revenge of the Sith , การปิดตำนานและการเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์
- The Jacket , การเดินทางข้ามเวลา ความหลอนและวงจรชีวิต
- A Lot Like Love , รักด้วยใจแต่ตัดสินใจด้วยสมอง
- เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ
- Be With You , ความสุขของฉันคือ"การได้อยู่กับคุณ"
- Hostage , เหล้าเก่าในขวดใหม่ที่ไม่น่าผิดหวัง
- Kingdom of Heaven , สงครามครูเสดครั้งนี้ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่น่าเสียดาย
- Spanglish , เรื่องราวที่กระจัดกระจายแต่ให้แง่มุมหลากหลายในครอบครัว
- Guess Who , เสียงฮาจากความแตกต่างและBernie Mac
- The Interpreter , ทริลเลอร์ที่ดี(แต่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น)
- Hide and Seek , มีปมที่ดีแต่มีบทที่อ่อน
- The Chorus (Les Choristes) , ง่ายๆแต่ได้ใจ
- Hitch , สนุก น่ารัก ขำขำ รู้สึกดี
- Sahara , หนังสนุกแค่เป็นช่วงๆหรือผมง่วงกันแน่
- Boogeyman , ตื่นเต้นตกใจ แต่ อะไร ยังไง ทำไม?
- Tokyo Godfathers , การตามหา"ครอบครัว"ที่สนุกมากๆ
- บุปผาราตรี เฟส 2 , เมื่อบุปผาเริ่มร่วงโรย
- Dont move , นอกจากตัดสินใคร คุณเข้าใจใครคนนั้นดีแล้วหรือยัง?
- Crying Out for Love, In the Center of the World , ความทรงจำและเทปคาสเสตต์/ความรักและใจกลางโลก
- The Ring Two , ไม่สมศักดิ์ศรี "The Ring"
- A Very Long Engagement , หนังที่มากไปด้วยความทะเยอทะยาน
- Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events , การดัดแปลง"โชคร้าย"ที่ทำได้"ดี"
- Hana & Alice , มิตรภาพ ความรัก ความทรงจำ
- Hotel Rwanda , หนังที่ให้คนดูมากกว่าความเป็นหนังดี
- In Good Company , ผู้ชายขาขึ้นกับผู้ชายขาลง
- Being Julia , โลก(ของจูเลีย)คือละคร
- หลวงพี่เท่ง , เรื่อยๆขำๆพอไปวัดไปวา
- Sideways , รักนุ่มๆชุ่มไวน์ในวันเบาๆ
- Million Dollar Baby , ความยอดเยี่ยมท่ามกลางศรัทธาและความอบอุ่น
- Constantine , "คนเห็นผี"ปราบลูกปีศาจ
- Shall we dance , คุณเต้นรำกับคู่ของคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไร
- Finding Neverland , งดงามเหลือเกิน
- Kung Fu Hustle , ตลกน้อย สนุกมาก และลงตัว
- 2046 , ไปแล้วอย่าลืมกลับมา
- Ray , มีดีที่Jamie Foxx
- The Phantom of the Opera , ภายใต้หน้ากากมีเพียงความว่างเปล่า
- โรงเตี๊ยม , มีอะไรดีๆกว่าที่คิดและโฆษณา
- Meet the fockers , เรื่องของหนังตลกและครอบครัว
- Closer , เมื่อความรักถูกสำรวจและตีแผ่ผ่านตัวละคร
- The Aviator, .....And this is Howard Hughes
- The Forgotten, ไม่มีอะไรน่าจดจำ
- Birth , ยอดเยี่ยมในความหนักแน่นและเนิบนาบ
- ****1ปีที่ผ่านมา ฉากใดในหนังที่คุณประทับใจ ****
- 5หนังชอบ กับ 5หนังไม่ชอบ ของคุณในปี2547คือ....,
- National Treasure, เมื่อBruckheimerมาสร้างDavinci's code
- The Polar Express, ตื่นตาแต่ไม่ตื่นใจ
- แจ๋ว, แจ๋วน้อยกว่าที่หวัง
- Bridget Jones 2, รู้จักเธอมากขึ้นและรู้สึกดีกว่าที่คิด
- The Incredibles, ครอบครัวหรรษา
- ขุนกระบี่ ผีระบาด, กล้าที่จะบ้า ก็กล้าที่จะดู
- Ocean's Twelve, หนังขาย"เสน่ห์ดารา"
- หมานคร, เมืองนี้ภาพสวย+เพลงเพราะ+ประหลาดและยาก
- กั๊กกะกาวน์, "ใจ"คุณเต้นอย่างไรเมื่อคุณมีความรัก
- Alexander, ดราม่าชั้นดีแต่ความสนุกเป็นระลอกคลื่น
- Wimbledon, For love of the game+NottingHill+ภราดร
- Love me if you dare, หนังรักแปลกกับความรู้สึกก้ำกึ่ง
- Cellular, สนุกเป็นบ้า แอคชั่นแอบฮา
- Saw, OldBoy+Cube+ฆาตกรโรคจิต
- Ladder49, สิงห์ผจญเพลิงชื่อฮัวควิน ฟีนิกซ์
- The Grudge, เมื่อ"เด็กผี" go inter เป็น "โคตรผีดุ"
- Dodgeball, ฮาน้อยกว่าที่หวังแต่สนุกกว่าที่คิด
- Sky Captain and The World of Tomo, หนังไซไฟสไตล์"ฟ้าทะลายโจร"
- Resident Evil 2, อลิซเท่+เนเมซิสเห่ย+จิลเฉยๆ
- Shark Tale, คุณเป็น"somebody"แล้วหรือยัง
- สายล่อฟ้า, ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนกับความสนุกกลางๆ
- Shutter กดติดวิญญาณ, นานๆทีจะมีหนังผีไทยดีๆให้ดูกัน
- The Terminal, น่ารัก นุ่มนวล และสนุกกว่าที่คิด
- Wicker park( spoilแล้วจะบอก), ลุ่มหลง คลั่งไคล้ หลอกลวงและความรัก
- Eternal sunshine รอบ2, ความอภิรมย์ที่มากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
- EternalSunshineOfTheSpotlessMind, คุณเคยอยากจะลืมบางสิ่งในชีวิตคุณบ้างไหม
- Three Extreme, อึดอัด ขยะแขยง รุนแรง และผิดหวัง
- Man on fire (no spoil), คนจริงเผาแค้น เผานานจนผมเกือบหลับ
- Bourne Supremacy, มันต้องให้ได้ยังงี้ซิ ต้องยังงี้ซิ
- Collateral...., it started like any other night
- Windstruck, งานมือตกของกวัก แจ ยอง
- งานของ M. Night Shyamalan, 6th sense/Unbreakable/Sign/และTheVillage
|
|
|
|
|
|
|
|
(ความเห็นส่วนตัว)