www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Poseidon , จมเร็ว จบเร็ว



ข้อมูล:หนังมีความยาว 99 นาที , กำกับโดย Wolfgang Petersen , หนังได้รับเรท PG-13 , หนังเป็นงานรีเมคที่สร้างมาแล้วหลายครั้ง ตัวต้นฉบับที่ได้รับคำชื่นชมมากที่สุดคือThe Poseidon Adventure (1972) , ใน IMDB.com ให้คะแนนเรื่องนี้ 5.8/10 ส่วนใน //www.rottentomatoes.com ให้เรื่องนี้ Rotten ด้วยคะแนน 35%

...ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ผู้คนมากหน้าหลายตามีความสุขอยู่บนเรือสำราญขนาดใหญ่นาม Poseidon และแล้วโดยไม่มีใครคาดฝัน คลื่นยักษ์พัดพาเรือให้พลิกคว่ำ ก้นลอยฟ้าหน้าสู้ท้องทะเล คนกลุ่มหนึ่งหาทางปีนขึ้นไปสู่ทางออก และ คนส่วนใหญ่นั่งรอความหวังในห้องโถงที่จมอยู่ใต้ผืนน้ำ ช่วงเวลา 99 นาทีที่เหลือของหนังรีเมคเรื่องนี้ จึงเป็นช่วงเวลาของการพยายามเอาชีวิตรอดของกลุ่มคนที่พยายามหาทางขึ้นไปสู่ก้นเรือ (อย่างงไป อย่าลืมว่าตอนนี้ก้นลอยชี้ฟ้าอยู่) โดยผู้ร้ายของเรื่องไม่ใช่คน แต่เป็น สถานการณ์ต่างๆที่มาไล่ล่าชีวิตของตัวละคร อาทิเช่น น้ำท่วม , ลิฟต์ตกใส่หัว , ทะเลเพลิง ฯลฯ

...เมื่อเป็นหนังที่พูดถึงเรือสำราญขนาดใหญ่ที่พลิกคว่ำกลางทะเล มันคงอดไม่ได้ที่จะเห็นภาพเรือสองลำนี้มาอยู่เคียงคู่กัน ถึงแม้จะเป็นเรือยักษ์ทั้งคู่แต่ทั้งสองต่างมีบุคลิกนิสัยที่แตกต่างกัน

Titanic เป็น คนโรแมนติกจริงจังมีความตื่นเต้นเป็นองค์ประกอบย่อย ในตอนที่เจอกันครั้งแรก เธอเป็นคนที่มีเวลาให้เรามากพอในช่วงของการทำความรู้จักคุ้นเคย เมื่อเธอจากไปจึงทำให้ติดอยู่ในความทรงจำและโศกาอาดูร

Poseidon เป็น ขาลุยผู้พิศมัยความตื่นเต้นและสถานการณ์กดดัน เขาเหมือนคนที่ไม่พิรี้พิไรในการทำความรู้จัก ในช่วงแรกนั้นเขาจึงแค่ทักเราผ่านๆไปทำให้เรารู้จักแค่ผิวเผิน นั่นทำให้เมื่อเขาจากไปเราจึงจดจำอะไรเกี่ยวกับเขาไม่ได้มากนัก แค่จำได้ว่า ช่วงเวลาที่อยู่กับเขามันตื่นเต้นดีเท่านั้นเอง

Poseidon ... ได้รับการแนะนำในตอนต้น ด้วยการถ่ายภาพวนรอบตัวเรือจากด้านนอก แล้วพาคนดูเข้าไปข้างใน ก่อนที่จะแนะนำตัวละครสำคัญๆให้คนดูพอรู้จักอย่างรวดเร็ว พร้อมใส่ลักษณะจำเพาะของตัวละครทีมเดียวกันพอเป็นพิธี อาทิเช่น คุณพ่ออดีตนายกเทศมนตรีที่มีความขัดแย้งกับลูกสาวที่มากับคนรัก , นักพนันสุดห้าวกล้าได้กล้าเสียผู้หว่านเสน่ห์ไปทั่วตัวเรือ จนไปเจอกับ แม่ลูกคู่หนึ่ง ที่ดูเหมือนจะสองฝ่ายจะจูนคลื่นได้ตรงกัน , ชายวัยกลางคนที่รอโทรศัพท์จากชายคนรักที่ดูเหมือนจะไร้เยื่อใย และ คู่หนุ่มสาวที่เพิ่งพบกันโดยฝั่งชายหนุ่มบริกรบนเรือแอบพาสาวขึ้นเรือ เพื่อเดินทางไปเยี่ยมน้องที่ป่วยอยู่ ช่วงเวลาแนะนำตัวละครและแนะนำเรือนั้น เป็นไปอย่างตามสูตรสำเร็จเหมือนกับจงใจจัดให้ตัวละครมาบอกคนดูพอเป็นพิธี ก่อนที่จะรีบพาคนดูไปพบกับคลื่นยักษ์กลางท้องสมุทร

เมื่อเรือถูกคลื่นซัดพลิกกลับหัวกลับหาง กลุ่มคนชนกลุ่มน้อยที่แนะนำไปตอนต้น จะพาคนดูไประทึกกับการหนีเอาตัวรอดออกจากเรือที่กำลังจะจมดิ่งสู่ภายใต้พื้นสมุทร และ แน่นอนสิ่งที่คนดูจะได้พบตามสูตรหนังหายนะ(disaster)เหล่านี้ก็คือ ความตื่นเต้นระทึกขวัญ ของ ภัยที่มาคุกคาม , ความหวาดหวั่นหวาดกลัว ของ ภาวะที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอด, ความประทับใจซาบซึ้ง ของ การเสียสละและเสียชีวิต คนดูจะสนุกไปได้เรื่อยๆกับการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อเอาตัวรอดหลุดไปเป็นเปลาะๆ

...ไม่รู้ว่าผู้กำกับ Wolfgang Petersen ผูกพันอะไรกับเรือเป็นพิเศษหรือไม่ เพราะหนังของเขาลุยมาแล้วทั้งเรือดำน้ำ, เรือหาปลา และล่าสุดก็เรือสำราญ ผลงานที่จัดลำดับได้ว่าเป็นมาสเตอร์พีซของเขาก็เป็นหนังเกี่ยวกับเรือ นั่นคือ Das Boot หนังที่เข้มข้นกดดันและให้ฉากจบที่หดหู่ ชนิดที่ใครได้ดูก็ยากจะลบออกไปจากความทรงจำ

สังเกตได้ว่าหนังของ Wolfgang Petersen มักจะเป็นหนังที่มีพลังของความเป็นหนังแอคชั่นขับเคลื่อนในตัวเองตลอดเวลา แล้วรายล้อมรอบนอกด้วยความเป็นดราม่าหรืออะไรก็ตามแต่(ธริลเลอร์,ไซไฟ ฯลฯ) งานยุคกลางของเขาทั้งสามเรื่อง จัดอยู่ในกลุ่มหนังแอคชั่นคุณภาพที่ดูสนุกไม่ว่าจะเป็น In the Line of Fire , Outbreak , Air Force One จากนั้น งานของเขาจะเริ่มขยายขนาดสเกลใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนมาเป็นเมกะโปรเจคต์กับ The Perfect Storm และ Troy สิ่งที่ถดถอยไปในสองงานยุคหลังนี้คือ พลังขับเคลื่อนในตัวกลับเหือดแห้งไปอย่างน่ากังขา แม้ว่า สองเรื่องหลังมีองค์ประกอบที่เพียบพร้อม มีโปรดักชั่นที่ดี มีงานกำกับภาพที่ตระการตา มีผู้กำกับสามารถคุมหนังสเกลใหญ่ทำได้ดี มีนักแสดงชื่อดัง แต่ ตัวหนังนั้นกลับราบเรียบไม่หลงเหลืออะไรให้จดจำหรือชวนดูซ้ำรอบสอง เหมือนกับมีดีแค่เปลือกรอบนอกเท่านั้น และ Poseidon ก็มาตกอยู่ในยุคเดียวกับสองเรื่องหลังนี้ ยุคที่หนังดูสนุกได้เพลินๆแต่เป็นแค่หนังป๊อบคอร์นที่กินหมดตอนดูหนังก็ไม่ได้อยากจะเอามากินซ้ำที่บ้านอีก

เห็นได้ชัดเจนว่า Poseidon เป็นงานจงใจขายความตื่นเต้น ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรถ้าหนังสามารถทำคะแนนตรงนี้ได้อย่างมีคุณภาพเต็มสิบ เพียงแต่ว่า สิ่งที่เอามาขายนั้น มันมาแบบสูตรสำเร็จเกินไป และ มันมาในยุคสมัยที่คนดูได้เห็นอะไรมามากมายแล้วบนจอ หลายฉากทำให้ตื่นเต้นได้จริงแต่ก็เป็นแค่ “ความตื่นเต้นมาตรฐาน” ฉากคลื่นยักษ์ซัดถล่มเรือพลิกคว่ำน่าจะทำให้ตื่นตาตื่นใจ ผมเองยังกลับรู้สึกเฉยๆ หลายฉากมาในลักษณะที่เรียกว่าเดาทางได้ การทุ่มทั้งลำไปกับฉากแอคชั่นนั้นจริงอยู่ว่ามันตื่นเต้นจริงแต่มันไม่ได้ยอดเยี่ยมพอที่ ส่วนแอคชั่นของหนังจะทำให้คนดูจดจำประทับใจได้เหมือนที่เขาเคยประสบความสำเร็จกับงานเก่าๆอย่าง Air force one ที่เป็นสูตรสำเร็จเน้นเฉพาะความสนุกเหมือนกัน Air force one ดูจบแล้วยังสามารถดูซ้ำได้โดยไม่รู้สึกเบื่อ

นับได้ว่าน่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะทั้งที่จริงแล้วโดยตัวหนัง Poseidon เอง นอกจากจะเล่นกับสถานการณ์ภายในเรือที่ต้องเอาตัวรอดแล้ว หนังยังสามารถเล่นกับสถานการณ์ภายในจิตใจของตัวละครที่ต้องติดอยู่ในเรือ เช่น การตีแผ่ความรู้สึกนึกคิดหรือการเผยด้านมืดในใจของกลุ่มคนที่ดิ้นรนเอาตัวรอด(มีอยู่ฉากเดียวซึ่งก็รวดเร็วและตื้นเขินเสียเหลือเกิน ) แต่ ตัวละครกลุ่มตัวเอกนี้เป็นเหมือน กลุ่มคนดี มากเกินไปจนไม่มีความขัดแย้งระหว่างบุคคล(จะมีก็ตัวร้ายแบบสุดขั้วเหมือนการ์ตูนอยู่แค่คนเดียว)

หากหนังกำหนดส่วนเหล่านี้เพิ่มเข้าไป น่าจะสามารถทำให้หนังมีดีมากไปกว่าแอคชั่นลุยน้ำไปเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนหนังไม่ได้สนใจเท่าไหร่ หรือ สนใจก็ไม่มีเวลาให้มากพอ

จึงอาจจะกล่าวได้ว่า หากเรือ Poseidon มีชื่อเสียงเพราะความยิ่งใหญ่อลังการแล้ว จมเพราะ คลื่นยักษ์ หนัง Poseidon อาจจะได้รับการจดจำอย่างรวดเร็วและก็คงจะจมลงอย่างรวดเร็วเพราะ ความเร็ว

... หนังแนะนำเรือเร็ว แนะนำตัวละครเร็วๆลวกๆ เรือจมเร็ว หนังจบเร็ว ทุกอย่างมันเร็วจนไม่ได้อะไรนอกจากความตื่นเต้นเป็นช่วงๆ ความเป็นดราม่าที่หนังพยายามปูไว้ไม่ได้ใช้ประโยชน์อันใด เพราะตัวละครทั้งหลายถูกจับใส่เข้ามาพร้อมยัดคาแรกเตอร์สั้นๆแล้วก็เดินหน้าลุยกันอย่างเดียว การตายของตัวละครในเรื่องจึงเป็นการตายที่คนดูไม่รู้สึกรู้สาอะไรไปด้วย , แม่ลูกพลัดพรากจากกันก็ไม่ได้จะรู้สึกอินมากนัก เราแค่อยากให้ขึ้นถึงข้างบนไวๆมากกว่า นั่นเป็นเพราะเราไม่ได้ผูกพันกับใครมากพอ

... งานสร้าง , รายละเอียดในฉาก , CG ,การกำกับภาพ (ฉากเปิดตัวเรือแม้จะสั้นๆ แต่ก็ถ่ายให้เห็นความอลังการและฝีมือการถ่ายทำที่ต้องยกนิ้วให้) ในหนังทุกอย่างสมบูรณ์แบบครบครันไม่มีข้อให้ตำหนิ นักแสดงในหนังจัดได้ว่าเป็นกลุ่มนักแสดงที่ไม่โด่งดังมากแต่ก็มีฝีไม้ลายมือที่แข็งแกร่งไม่ว่าจะเป็น Kurt Russell , Josh Lucas , Emmy Rossum , Jacinda Barrett (เธอคนนี้คือนางฟ้าในหนังของผมจาก Ladder 49 , Bridget Jones 2 พอมาเรื่องนี้เธอกลายเป็นแม่ไปซะแล้ว) มีส่วนช่วยหนังได้มาก แต่ด้วยความเร็วที่ทุกอย่างดำเนินไปอย่างไม่รั้งรอให้นักแสดงอ้อยอิ่งแสดงอารมณ์ความรู้สึก หนังที่ไม่มีเวลาจะให้นักแสดงได้โชว์อะไรมากมาย จนรู้สึกว่าน่าเสียดายเหมือนกันที่นักแสดงอย่างคุณลุง Richard Dreyfuss ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันคุ้มฝีมือซักเท่าไหร่ นอกจากตีหน้าเศร้าในช่วงเวลาสั้นๆ


สิ่งที่ชอบ

1.ความตื่นเต้นกดดัน ... ทำให้คนดูลุ้นได้เป็นเฮือกๆเหมือนกัน เป็นความตื่นเต้นระดับมาตรฐาน ช่วงที่ชอบมากคือช่วงที่ติดกันอยู่ในท่อระบายอากาศ หนังเล่นกับที่แคบและกดดันความรู้สึกคนดูได้ดี

2.นักแสดง ... สองชายหนุ่ม Kurt Russell + Josh Lucas มีพลังและความกระตือรือร้นในตัวมากพอที่จะเป็นผู้นำตัวละครในเรื่องหาทางออก และ นำคนดูไปข้างหน้า โดยไม่ถูกกลืนไปพร้อมคลื่นยักษ์

สิ่งที่ไม่ชอบ

1.เร็ว ... ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วและผ่านไปเร็ว และ นั่นหมายถึง ตัวหนังด้วยที่แม้จะสนุกตื่นเต้นขณะดู แต่เมื่อออกมาจากโรงมันก็ค่อยๆเลือนหายไปจากความทรงจำอย่างรวดเร็วเช่นกัน

2.สั้น ... ผมอยากให้หนังยาวกว่านี้ ไม่ใช่เพราะว่าหนังดีมากจนอยากดูนานกว่านี้ แต่ความยาว 99 นาทีของหนังมันหมดไปเหมือนไม่ได้มีอะไรติดไม้ติดมือออกมาด้วยเลย หากหนังกลับไปปูรายละเอียดมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องยาวขนาดTitanic ก็ได้ อย่างน้อยมันคงจะทำให้มีอะไรดีกว่านี้ หลายตอนเลยที่หนังแสดงให้เห็นว่า หนังสามารถไปเพิ่มน้ำหนักที่ส่วนดราม่าได้ได้ แถมหนังยังมีต้นทุนจากนักแสดงที่มีคุณภาพอยู่แล้ว เช่น ความสัมพันธ์พ่อ-ลูก ตัวอย่างช่วงสั้นๆ ตอนโหนข้ามทะเลเพลิง เห็นได้ว่า ถ้าจะทำซึ้งก็ทำได้แต่ไม่ทำ

สรุป ... ดูก็ตื่นเต้นดี (ไปดูโรงดิจิตอลของพารากอน ไม่รู้สึกแตกต่างจากโรงธรรมดาเท่าไหร่) ไม่ได้ดูก็ไม่ถึงขั้นเสียดาย รอดูแผ่นได้ ตัวหนังน่าจะทำออกมาได้ประทับใจคนดูมากกว่านี้ เสียดายที่หนังไปเน้นแต่ความตื่นเต้นจากฉากแอคชั่นทั้งหลายมาก จนไม่มีเวลาเหลือเผื่อให้อารมณ์อื่นๆอีก ผลลัพธ์ออกมาจึงกลายเป็นแค่หนังหายนะที่ดูตื่นเต้นตกใจแต่จบแล้วก็จบกัน เป็นหนังที่เปลือกนอกดีพร้อม(นักแสดง/งานสร้าง/เทคนิก/ถ่ายภาพ) เหมือน Troy แต่ภายในไม่แข็งแรงพอ

ปล ... เจ้าของบล็อกจะไม่อยู่ ช่วง เสาร์นี้ถึงพุธหน้า ฝากบล็อกให้เพื่อนๆดูแลหน่อยจ้า แล้วมีคำถามจะกลับมาตอบ มาแลกเปลี่ยนพูดคุยอีกที จะพยายามเขียน always ให้เสร็จทันคืนนี้ก่อนไป

ปล 2 ... ขอเป็นหน้าม้าพาไปดูหนัง และ ฟังเพลง
Blog หน้าม้า >> ขออาสาเป็นหน้าม้า ขออาสาเป็นป๋าดัน เชียร์หนัง .. Always: Sunset on Third Street (หนังของเขาดีจริงๆ)
Blog ฟังเพลง >> ไปแล้วมาเล่าต่อ ... งาน The Symposium of Mozart music & intelligence (เข้ามาอ่านแล้วจะฉลาดขึ้น ?)



ติดตามบทความน่าสนใจ หรือ เริ่มต้นอ่าน Blog นี้ครั้งแรก คลิกไปเริ่มต้นได้ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง



ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป


Create Date : 12 พฤษภาคม 2549
Last Update : 12 พฤษภาคม 2549 16:36:11 น. 16 comments
Counter : 5401 Pageviews.

 
คาดว่าคงไม่ได้ไปดูแน่นอนเลยครับ เพราะไม่มีเวลาจริงๆ พอมาอ่านก็ตัดใจรอแผ่นดีกว่า

ปล. จะรออ่าน Always ครับ เพราะประทับใจหนังเรื่องนี้มากๆ เลยครับ


โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 12 พฤษภาคม 2549 เวลา:17:25:26 น.  

 
ไปดูมาแล้วค่ะ..เมื่อวานนี้...ชอบไททานิก...มากกว่า..ค่ะ..ชอบ Josh Lucas..น่ารักดีค่ะ

เราดูมายออกว่าใครพระเอก..นางเอกแฮะ..



โดย: catt.&.cattleya.. (catt.&.cattleya.. ) วันที่: 12 พฤษภาคม 2549 เวลา:17:37:55 น.  

 
หนังเรื่องนี้เหมือนไม่มีเนื้อเรื่องค่ะ เน้นหายนะและความมันตื่นเต้นอย่างเดียว เห็นด้วยค่ะว่าเรือจมเร็วเกินไป ไม่คาดคิดว่าเรือจะล่มเร็วขนาดนี้

ฉากที่กดดันที่สุดเห็นจะเป็นฉากในท่อจริง ๆ ด้วยค่ะ เพราะคนนึงก็ติด อีกคนนึงก็ร้องโวยวายแบบคนไม่มีสติ

ส่วนตอนจบ จบเร็วไปหน่อย นึกว่าจะมีต่อ อิ อิ

ปล. End Credit เพลงเพราะมากค่ะ



โดย: Tai-Sarunya วันที่: 12 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:46:03 น.  

 
ก็ เหมือนกันค่ะ คือตอนดูอ่ะมันก็ตื่นเต้นลุ้นกันตัวโก่ง แต่พอหนังมันคลี่คลายแล้ว จบแล้วก็จบกัน.............

หนุกดี


โดย: octavio วันที่: 12 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:18:31 น.  

 
อยากไปดูจังเลย


โดย: zatoru IP: 124.120.223.15 วันที่: 12 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:40:25 น.  

 
3 คำ
- ไม่ชอบ
- ไม่สนุก
- ไม่ประทับใจ


โดย: hAmlet IP: 124.121.138.72 วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:19:45:38 น.  

 
ได้ดูเบื้องหลังการถ่ายทำของหนังเรื่องนี้
รู้ว่าฉากที่น้ำดันกระจกแตกนั้น ใช้น้ำถึง 10,000 แกลลอน
นักแสดง แทบจะไม่ใช่สแตนอินด์เลย (องค์บากก็ไม่ใช้ เหอๆ)
แต่ด้วยความที่ยังไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง เลยยังตัดสินอะไรไม่ได้

โดยส่วนตัว ผมเคยดู Titanic กับ The Perfect Storm
เรื่องแรกแม้จะต้องนั่งจนเมื่อย แต่ก็คุ้มค่ากับอรรถรสที่ได้รับ
ส่วนเรื่องหลัง หนังไม่ค่อยมีเสน่ห์ เหมือนพายุที่รุนแรง แต่ก็ผ่านไปราวกับไม่เคยพัดผ่าน

สรุปว่า ตอนนี้ ผมก็ยังคงต้องทำกายภาพที่บ้านต่อไป เมื่อวานดูหนังเรื่อง Birth
โอ้ว สะเทือนใจอย่างรุนแรงครับ สุดยอดมากกกก


โดย: Mint@da{-"-} วันที่: 14 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:16:25 น.  

 
ดูแล้วครับ เรือล่มเร็วมากกกก...
สงสารเรือนะเนี่ย..

น่าเสียดายที่ Elena ไม่รู้ว่า (ปี๊บ) เป็นคน (ปี๊บ) ผู้มีพระคุณของเจ๊แก.. ทั้งๆที่ตรงนี้น่าจะเล่นได้นะผมว่า


โดย: nanoguy IP: 203.172.108.211 วันที่: 15 พฤษภาคม 2549 เวลา:0:41:23 น.  

 
หุๆ เรื่องนี้ผมบอกผ่านตั้งแต่ไก่โห่เลยอ่ะคับ MI3 ก็ไม่ดู รอดู DaVinci Code (ซึ่งได้ข่าวว่ากำลังถูกสมาคมชาวคริสต์ในไทยฟ้องร้องไม่ให้ฉายกันอยู่) กับ X-Men3 เลย ... แล้วก็รอเก็บหนังอาร์ตที่ทยอยๆ เข้าฉายตามรายทางฮับ


โดย: บลูยอชท์ IP: 210.1.33.130 วันที่: 15 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:16:49 น.  

 
เป็นหนังที่ค่อนข้างแย่ แต่ดูสนุกอีกเรื่องนึงคะ
ไม่คาดหวังว่าจะดีอยู่แล้วไปดูเอามันส์เฉยๆ
ตอนนี้รอดู x-men กะ davinci code ซึ่งเรื่องหลัง
ตอนนี้ก็แถลงข่าวออกมาแล้วว่าได้ตัดตอนที่เข้าข่ายดูหมิ่นพระเยซูไปสิบนาที เฮ้อ จะดูรู้เรื่องมั้ยเนี่ย หวังว่า dvd จะไม่ตัดนะ


โดย: tong IP: 202.28.181.10 วันที่: 17 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:59:26 น.  

 
ไปดูเรื่องนี้มาค่ะ ดูจากเทรลเลอร์ก็ไม่เท่าไหร่ คือตั้งใจจะมาดู Josh Lucas ค่ะ ยังติดใจไม่หายจาก sweet home alabama เลย

คิดว่าในเรื่องนักแสดงดีค่ะ แต่หนังมันกระชับเร็วไปมากๆ ไม่ค่อยเล่นกับอารมณ์เลย ถ้าจะไปดู ก็อย่าคิดอะไรมากล่ะกัน


โดย: MJ IP: 124.120.166.186 วันที่: 22 พฤษภาคม 2549 เวลา:22:28:36 น.  

 
ครับ เห็นด้วยกับที่ว่า มาไว ไปเร็ว จริง ๆ


โดย: MTO IP: 124.120.199.227 วันที่: 4 มิถุนายน 2549 เวลา:11:15:09 น.  

 
ชอบหนังที่อยู่ในเรืออยู่แล้ว
พลอตก็แนวเดิมๆ
เรือล่มคล้ายๆไททานิค ต้องหารูรอดออกมาจากเรือให้ได้ แต่โพไซดอน ไม่มีฉากรักโรแมนติกเหมือนไททานิคเลยอะ มีแต่ตื่นเต้นๆๆ อย่างเดียว

ดูเอามันส์


โดย: ฟาโรห์ IP: 58.8.89.84 วันที่: 16 มิถุนายน 2549 เวลา:15:38:03 น.  

 
หนุกดีครับ ชอบ


โดย: Kajohnsak IP: 221.128.89.112 วันที่: 28 กันยายน 2549 เวลา:8:13:55 น.  

 
ไปดู DVD มาแล้ว หนังไม่มีอะไรแปลกใหม่ เป็นไปตามสูตรสำเร็จแนวนี้ ดราม่าน้อยไปหน่อย


โดย: superpun IP: 202.69.140.233 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:13:54 น.  

 
ไwไซดอน กับ Queen mary 2 ใช่รำเดียวกันไหม


โดย: 1438-1234 IP: 115.87.173.98 วันที่: 24 กรกฎาคม 2554 เวลา:13:16:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
12 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.