แหยม ยโสธร , ขำขำ - หม่ำ - อะฮึ่ย อะฮึ่ย
คำถามที่ผมมักจะได้รับ และ เชื่อว่าคนที่ไปดูแหยม ยโสธร จะต้องมีคนถามเป็นอันดับหนึ่งคือ "ตลกมั้ย"
คำถามถัดมาที่ผมมักจะมีคนถามต่อ และ คนที่ได้ดูแล้วอาจถูกถามต่อว่า "แล้วมันตลกแค่ไหน เท่าหลวงพี่เท่ง/พยัคฆ์ร้ายส่ายหน้า ฯลฯ หรือเปล่า"
สำหรับหนังตลกแล้ว ผมรู้สึกว่าเวลามีคนถามเรื่องหนัง ความดีของหนัง(เช่นหนังดีมั้ย ห่วยหรือเปล่า) ตอบได้ง่าย ในขณะที่ความตลกของหนัง(เช่น ตลกมั้ย ฮาทะเล็ดหรือเปล่า) ตอบได้ยาก
...หนังตลก เป็น หนึ่งประเภทหนัง ที่คนดูมีส่วนรับผิดชอบในความบันเทิงตั้งแต่ต้นมากกว่าหนังตระกูลอื่นๆ เพราะตัวคนดูเองมีส่วนต้องตอบตัวเองก่อนว่า เราชอบหนังตลกแบบไหน อีกทั้งความตลกก็ไม่สามารถวัดความสนุกจากคำบอกเล่าคนอื่นหรือนักวิจารณ์ได้เท่าไหร่นัก เพราะต่อให้เป็นนักวิจารณ์อันดับหนึ่งของโลก บอกว่า แหยม ยโสธร ตลกมากๆ แต่คุณชอบหนังตลกแบบผีหัวขาด หรือ ตลกแบบ Austin power แถมไม่เคยชอบมุขของหม่ำเลย คุณก็ไม่มีทางจะตลกกับหนังเรื่องนี้ ยิ่งถ้าจะให้เปรียบเทียบกับหนังเรื่องอื่น ยิ่งตอบยากเพราะ คำตอบของคนตอบก็ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ความชอบ ว่าคนๆนั้นชอบหนังตลกแบบไหน
แหยม ยโสธร มีทั้งจุดแข็งและจุดขายที่ดี ตั้งแต่หน้าหนัง ไม่ว่าจะเป็น หนังรัก-ตลกย้อนยุค ที่พร้อมจะเรียกคนดูผู้ใหญ่ไปจนถึงวัยดึกให้หวนคิดถึงหนังสมัยก่อน(ไม่รู้ว่าหม่ำได้ไอเดียสร้างหนังเรื่องนี้ ตอนที่เล่นเฉิ่ม... ช่วงที่เป็นละครวิทยุหรือเปล่า) หนังใช้สีสันฉูดฉาดเรียกตลาดPost Modernพร้อมกลุ่มคนดูสมัยใหม่ให้มีความสนใจได้ตั้งแต่แค่เห็นป้ายโฆษณาที่ตั้งอยู่ทั่วๆเมือง การเป็นหนังไทยซับไตเติ้ลไทย ยังพร้อมเจาะตลาดภาคอีสาน ชนิดใช้ใจซื้อใจอีกด้วย และ จุดแข็งแรงที่สุดของหนังเรื่องนี้ คือ หนังเรื่องนี้เป็นหนังหม่ำ ลองจินตนาการลบภาพหม่ำออกไปจากหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นโดยที่ทุกองค์ประกอบยังเหมือนเดิม ความอยากดูตั้งแต่แรกของหนังเรื่องนี้จะลดลงทันที น่าสนใจว่าเพราะอะไร หม่ำ ถึงเป็นจุดแข็งสำคัญ
...หม่ำ เป็น นักแสดง ผู้กำกับ และยังเป็นแบรนด์ที่น่าทึ่ง เขาประสบความสำเร็จทั้งในจอและนอกจอ ในจอ หม่ำ เป็น ตลกและนักแสดงที่ผมเองรู้สึกว่าเค้ามีเสน่ห์และมีพลังดาราในตัวสูง เพียงโผล่มาไม่กี่วินาทีเป็นตัวประกอบ เขาก็พร้อมขโมยซีนคนอื่นไปในพริบตา ตัวอย่างที่เห็นชัดเช่น สายล่อฟ้า ที่ฉากเขาเมานม เป็นฉากที่เขาพูดหรือเล่นไม่กี่ประโยคแต่ก็เด่นกว่าหลายๆฉากของนักแสดงอื่นๆในเรื่อง อีกทั้งนอกจอ เขาก็เป็นตลกที่มีวินัย ไม่เคยมีข่าวฉาวโฉ่หรือเสียหาย นั่นจึงทำให้ แบรนด์ หม่ำ เป็นแบรนด์ที่คนไทยส่วนใหญ่รักและชื่นชม ดังนั้นการตีตราหนังเรื่องหนึ่งเป็นหนังหม่ำ เท่ากับว่าหนังเรื่องนั้นมีแบรนด์ที่แข็งไม่แพ้กับหนังของจาพนม สำหรับคนดูในประเทศ
หนังหม่ำ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง หนังที่หม่ำเล่นแต่หมายถึงหนังที่เขาทั้งเล่นและกำกับ (หลวงพี่เท่ง หลายคนมักจะคิดว่าเป็นหนังของเท่ง ทำให้คำถามที่หลายคนมักจะเอามาเปรียบเทียบว่าตลกเท่ากันหรือเปล่า เพื่อใช้เป็นเกณฑ์วัดความฮาในการตัดสินใจไปดู ด้วยเข้าใจว่าสองเรื่องนี้( แหยม ยโสธร กับ หลวงพี่เท่ง)เป็นตลกสายพันธุ์เดียวกัน ทั้งที่จริงแล้ว มุขหรือตลกของหลวงพี่เท่งนั้นเป็น มุขจากโน้ตเสียมากกว่า ไม่ได้เป็นมุขจากตระกูลสามช่า) หนังหม่ำเรื่องแรกอย่าง บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม เทียบกับผู้กำกับอื่นๆแล้วในฐานะผู้กำกับหนังเรื่องแรก ถือได้ว่าน่าพอใจ เพราะผู้กำกับหลายคนเมื่อมาทำหนังตลกแล้วไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่คาด อาจด้วยคงเข้าใจว่า แค่มีพล็อตคร่าวๆแล้วเอามุขตลก มาชนต่อๆกันจนจบก็น่าจะดี ซึ่งนั่นแทบจะไม่เรียกว่าภาพยนตร์เสียด้วยซ้ำ
บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม ยังขาดความต่อเนื่องอยู่บ้างหรือมีหลายช่วงที่ฝืดๆ แต่หนังมีความเป็นภาพยนตร์สูงอยู่พอสมควรดูจากการเล่าเรื่อง ไม่ใช่ การเอามุขตลกมาชนกันมุขต่อมุข ฉากต่อฉาก เหมือนหนังตลกหลายต่อหลายเรื่อง หนังยังใส่ใจกับเรื่องราวและการแสดงของตัวละครอื่นๆนอกจากพระเอก (ใครได้ดูก็คงประทับใจกับการแสดงของอาภาพร ไม่มากก็น้อย) เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่มีในหนังเรื่องแรกของหม่ำ และทำให้เขามีอะไรดีๆน่าจับตามองในฐานะผู้กำกับ การที่เขาเลือกสร้างผลงานชิ้นที่สอง เป็นแหยม ยโสธร จึงมีตัวรับประกันชั้นดีจาก ความเป็นหนังหม่ำ นั่นเอง
....หนังเปิดตัวด้วยความหมายแห่งรักดีๆ ที่ว่า คนจะสูงจะเตี้ยก็รักกันได้ คนจะจนจะรวยก็รักกันได้ ความรักไม่มีขีดกั้น เป็นการเริ่มต้นบอกคนดูว่าต่อแต่นี้ไปจะเป็นเรื่องราวของความรักได้อย่างน่ารักทีเดียว หลังจากนั้นหนังก็พาคนดูไปพบกับ 2 คู่รัก ที่มีอุปสรรคคอยกีดกั้นความรักไม่ให้สมหวัง
ทองและสร้อย ความรักของทั้งสองคนชัดเจนตรงกันตั้งแต่เริ่ม ทั้งสองคนต่างมีใจให้กัน แต่อุปสรรคมาจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นที่แตกต่าง ญาติฝ่ายหญิงที่เห็นแก่เงิน และ ชายหนุ่มบุคคลที่ 3 ที่มักจะแฝงมาในความเป็นหนุ่มเมืองกรุง หรือ ลูกเศรษฐี และลูกน้องมาขัดขวางความรัก คู่นี้เป็นคู่ที่ชายก็หล่อ หญิงก็สวย แต่ทั้งคู่สามารถที่จะเล่นบ้าๆบอๆได้อย่างดูดี เข้ากับหนังอย่างเป็นธรรมชาติ ต้องชมคนคัดเลือกนักแสดง ที่ไม่เลือกดาราดังๆมาเล่น แต่เลือกคนที่เข้ากับบทมาเล่น ดังนั้นเวลาที่เขาและเธอพูดหรือปล่อยมุขภาษาอีสาน มันจึงเป็นไปอย่างไม่ขัดเขิน รวมไปถึงจะเล่นให้ฮาๆอย่างฉากรำวงงานวัดก็น่ารักได้ใจหลายๆ
แหยมและเจ้ย ต่างกับคู่แรกเพราะความรักของเขาและเธอไม่ได้มีปัญหาชนชั้น แต่อุปสรรคมาจากการวิ่งไล่ของเจ้ยและการผลักไสของแหยม กว่าที่แหยมจะสัมผัสถึงความรู้สึกและความรักของเจ้ย ก็เมื่อเจ้ยเดินหายไปจากชีวิตของเขา เรื่องราวของคู่นี้ไม่มีส่วนในการดำเนินเรื่องมากนักนอกจากการยิงมุขใส่กันไปมา เรื่องราวของคู่นี้ในช่วงแรกดูออกจะเหยียดบทบาทเพศหญิงผ่านมุขตลกจนเกือบจะเกินเลยไปนิด ไม่ว่าจะการที่ให้เธอทั้งถูกถีบ ถูกด่า ถูกใช้งานสารพัด ฯลฯ โชคดีที่ความตลกเด่นจนไม่ทำให้เรื่องการรังแกตัวละครเพศหญิงในหนังขัดตาเกินไป ทั้งตัวหม่ำและเจเน็ตต่างก็ทำหน้าที่ตัวเองได้ในระดับมาตรฐานไม่ขาดตกบกพร่องอะไร ที่น่าชมคือตัวเจเน็ตเองแม้จะมารับบทนำในหนังใหญ่เป็นครั้งแรก แต่เธอก็ไม่ถูกหม่ำกลบรัศมีแต่อย่างใด กลับประชันบทบาทได้อย่างน่าดูชม
....หากพิจารณาเรื่องความขำแล้ว ผมเองให้คะแนนความขำเรื่องนี้น้อยกว่าบอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม เรื่องนั้นหนังยิงมุขหลายมุขเล่นกันชนิดไม่กั๊กไม่กลัวหลุดตัวหนัง ไม่ค่อยระมัดระวังเท่าไหร่ที่จะคงเรื่องราวหรือกลัวมุขตลกจะล้ำหน้ารายละเอียดอื่นๆ มีหลายมุขที่ยิงแล้วฮาระเบิด มีแขกรับเชิญเรียกเสียงฮามากมายและมีการบ่มตัวละครโหน่งไว้แล้วมาระเบิดมุขสุดท้ายตอนจบ น่าจะทำให้แฟนสามช่าฮาได้เต็มๆ
เมื่อมาถึง แหยม ยโสธร เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างชัด ดูหม่ำจะให้ความสำคัญกับความเป็นหนังมากขึ้น หนังไม่ได้มีนักแสดงรับเชิญเด่นๆที่จะมาขโมยซีน สังเกตได้ว่าตัวประกอบอื่นๆในหนังจะไม่ใช่ตลกหรือนักแสดงชื่อดัง หลายครั้งที่หนังออกจะดูกั๊กๆความฮาเสียด้วยซ้ำ เพื่อไม่ให้มันหลุดเรื่องราวจนเกินไป ดังนั้นตัวหนังเองยังตลกอยู่เพียงแต่มุขที่จะฮาสุดๆนั้นมีไม่มาก ความถี่ของการฮาไม่น้อยลงแต่ดีกรีความฮานั้นเบาบางลงบ้าง ปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลายฉากขำน้อยกว่าที่คิด เป็นผลลัพธ์ซ้ำรอยหนังไทยช่วงหลังๆนี้ คือ การที่หนังตัวอย่าง ฉายช็อตเด็ดๆไปเสียหลายฉาก ครั้นพอมาถึงหนังจริง ความฮาที่ควรจะมากก็เลยได้ผลน้อยลง (สำหรับคนที่ไม่ได้ดูหนังตัวอย่าง ถือว่าได้เปรียบมาก)
ยังมีความรู้สึกเสียดาย ที่หนังยังระดมยิงมุขไม่สม่ำเสมอ หลายตอนทีเดียวที่หนังอืดลง เกิดช่องว่างอยู่หลายช่วง(ช่วงตามหาสองสาวในกรุงเป็นช่วงที่รู้สึกชัด) โชคดีที่องค์ประกอบอื่นๆของหนังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสูงจึงเป็นตัวช่วยอุดช่องว่างไม่ทำให้เกิดความรู้สึกเบื่อ และช่วยกู้ชีวิตในเวลาที่มุขแป้ก รวมไปถึงตัวบทเองที่แสดงให้เห็นว่ายังขาดความมีเนื้อมีหนังอยู่ เมื่อบทไม่มีเรื่องราวจะเดินเรื่องแล้วหนังเกิดช่องว่าง สิ่งที่หนังทำคือจับมุขเดิมๆวนซ้ำไปมา ตัวอย่างคือช่วงต้นที่หนังวนเวียนกับการเล่นมุขซ้ำๆแต่เนื้อเรื่องไม่เดินหน้าไปไกล เช่น มุขที่ให้แหยมกับเจ้ย ออกไปทำงาน แล้วเดินกลับมา แหยมช่วยสัตว์ - เจ้ยแบกของ หนังวนอยู่ตรงนี้ถึง 3 รอบ เป็นการสนุกกับมุขซ้ำๆจนเริ่มเฝือ
...หลายส่วนในหนังที่แสดงถึงความตั้งใจของผู้สร้างที่จะยกระดับให้เป็นมากกว่าหนังตลกดาษๆเรื่องหนึ่ง งานสร้างอย่างมีมาตรฐาน ทั้งที่สไตล์จะสมัยใหม่จัดจ้านแต่ก็เข้าถึงกลิ่นอายชนบทอย่างไม่เสแสร้ง ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศงานวัด รำวง สาวน้อยตกน้ำ หรือ ทำนา อีกทั้งดนตรีประกอบ เพลงประกอบที่สนุกสนานไพเราะเหมาะเจาะกับบรรยากาศ การพยายามในงานสร้างเหล่านี้มันแสดงให้เห็นว่า นอกจากมุขที่ยิงใส่คนดู หม่ำพยายามที่จะใส่ลูกเล่นให้กับหนังตัวเองอยู่ตลอดและเป็นข้อดีที่ทำให้มีความน่ารักอยู่ในตัว อาทิเช่น สีสันเจ็บแสบและเครื่องแต่งกายในเรื่อง อย่างชุดของเจ้ยหลังกลับจากกรุงเทพก็เด็ดเหลือเกิน , การมีวงดนตรีที่คอยบรรเลงอยู่ทุกสถานการณ์ , ช่วงเวลาหนึ่งที่หนังแปรสภาพเป็นหนังเพลง , การสร้างคาแรคเตอร์ตัวละครรอบๆตัวให้ดูมีเอกลักษณ์ แถมยังล้อเลียนคาแรคเตอร์ในหนังสมัยก่อนให้ออกมาสุดขั้วชนิดแฟนหนังไทยในอดีตคงอดขำไม่ได้ (เช่น ยอดชาย อะฮึ่ยๆ , กำนัน , รัก-ยมฯลฯ) และ นักแสดงประกอบนี่เองเป็นจุดเด่นมากของ แหยม ยโสธร เป็นจุดเด่นที่มีในหนังของหม่ำมาตั้งแต่บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม ในการใส่ใจตัวละครรองๆ
...หาก หลวงพี่เท่ง ไปได้ดีก็เป็นเพราะการได้ เท่ง เถิดเทิง ที่แบกรับหนังทั้งเรื่องแต่เพียงผู้เดียว แหยม ยโสธร ก็มีจุดเด่นอยู่ที่ตัวละครทุกตัวต่างมาช่วยแบกหนังทั้งเรื่องเดินไปด้วยกัน เป็นหนังอีกเรื่องที่ตัวละครรองๆเล่นได้ดีมีบทบาท มีประสิทธิภาพ แถมนักแสดงยังเข้ากับบทได้อย่างเหมาะเจาะ และ หม่ำ ที่ไม่พยายามทำตัวเป็นศูนย์กลางของหนัง ไม่พยายามเด่นในทุกฉากที่ออกมา ในหลายๆฉากที่เขายอมปล่อยให้ตัวละครอื่นตบมุขและเขาเป็นแค่คนรอรับ (เป็นการนำเทคนิคของทีมสามช่าที่ใช้ในการเล่นตลกมาไว้ในหนังได้ดี)
สิ่งที่ชอบ
1.เพ็ชรทาย วงศ์คำเหลา
ในฐานะผู้กำกับ งานชิ้นที่สองนี้มีหลายสิ่งที่น่าชื่นชม แสดงให้เห็นพัฒนาการของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการประยุกต์และใส่ลูกเล่นให้หนังมีเสน่ห์น่าสนใจ และ การกำกับหนังตลกที่มีสัดส่วน ของความเป็นภาพยนตร์ กับ การเล่นตลก ได้เหมาะเจาะลงตัว อีกทั้งหนังก็ตอบโจทย์การเป็นหนังตลกได้ดี หากบอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยมจะทำให้คนได้แค่นึกถึงว่าเป็นหนังตลกที่หม่ำเล่น เรื่องนี้อาจตลกน้อยกว่าแต่จะทำให้คนจดจำเขาได้ในฐานะคนทำหนังเรื่องหนึ่ง
2.นักแสดงประกอบ
ทุกคนเล่นได้ดีถึงดีมาก ต้องชมตัวนักแสดงและทีมCastingที่เลือกมาได้เหมาะสมเหลือเกิน (โดยเฉพาะคนที่เลือกคู่ทอง-สร้อย เลือกได้เก่งมาก)
3.สาวน้อยตกน้ำกับหม่ำเตะหมา
หลายคนคงต้องมีฉากฮาประทับใจ สำหรับผม 2 ฉากนี้ ฮาได้ใจมากที่สุด ฉากแรกเป็นฉากที่ผมเองเดาจังหวะได้อยู่แล้วจากการที่ดูเหล่าสามช่าเป็นประจำ แต่จังหวะของการเล่นมุข ที่หนังปูพรมมาตั้งแต่ฉากยิงปืน มันต่อเนื่องมาถึงฉากนี้ ทำให้ถึงเวลาฮามันระเบิดอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ยิ่งได้สีหน้าของนักแสดงขาประจำที่มักจะโผล่มาเล่นกับทีมสามช่าคืนวันพุธ ยิ่งช่วยเสริมความฮาได้เป็นอย่างดี ส่วน ฉากหลังมาอย่างไม่คาดฝัน ขัดกับนิสัยตัวละครและมันก็ฮาได้ใจมากๆ
4.อะฮึ่ยๆ
เป็นการล้อเลียนที่แรกๆไม่ฮามาก ออกจะรำคาญ แต่แปลกที่พอดูๆไปเริ่ม ขำเป็นบ้า อาจเป็นเพราะสีหน้าและบุคลิกนักแสดงแกก็เหมาะกับบทพูดนี้ดีเหลือเกิน เป็นการล้อตัวละครหนุ่มเมืองกรุงหรือหนุ่มเศรษฐีที่มักจะเข้ามาเป็นอุปสรรคในหนังรัก ออกมาเป็นตัวละครหนึ่งที่น่าจดจำ
สิ่งที่ไม่ชอบ
1.ช่วงกรุงเทพ ... ถ้าผมไม่ได้ดูเฉิ่ม ผมคงประทับใจกับการซ้อนตัวละครในฉากหลังเก่าๆ แต่ในเมื่อเคยเห็นมาแล้ว ช่วงเข้ากรุงเทพนี้ที่เป็นช่วงฮาน้อยสุด มุขที่ยิงก็ฮาไม่เต็มเม็ดเท่าไหร่ เป็นช่วงที่น่าเบื่อที่สุดของหนัง ยิ่งมาเจอมุขคนขายน้ำซึ่งสำหรับผมแล้วเป็นมุขที่แป้กมากๆเมื่อเทียบกับมุขอื่นๆในหนัง
สรุป ... ถ้าชอบสามช่า การได้รับชม แหยม ยโสธร อาจทำให้คุณรู้สึกว่า "โอ้ จอร์จ ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆเลย" ตรงกันข้ามหากคุณไม่เข้าใจว่าคนดูตลกสามช่า ฮาอะไรกันมากมายเวลาดู หรือ ไม่เคยรู้สึกขำหม่ำเวลาปล่อยมุขเลย คุณก็จะเปลี่ยนคำอุทานหลังดูจบออกมาเป็นคำตัดพ้อได้ว่า "โอ้ พระเจ้าจอร์จ มันไม่ยอดเลย อะฮึ่ยๆ" และ หม่ำเองก็ทำให้คนดูรอคอยดูหนังเรื่องถัดไป อย่างใจจดใจจ่อ พร้อมกับคาดหวังว่าความเป็น หนังหม่ำ จะเป็นเอกลักษณ์สำหรับหนังตลกที่มีคุณภาพ เป็นลายเซ็นต์รับประกันหนังของตัวเอง เหมือนกับที่นักแสดงฮ่องกงคนหนึ่ง ที่เวลาคนดูคิดถึงและอยากดูไม่ใช่เพราะเป็นแค่หนังตลก แต่เพราะมันเป็น หนังโจวซิงฉือ
ปล ... กับคำถามข้างต้น ผมจึงตอบได้ไม่ยากเย็นเมื่อมีคนถามว่าหนังเรื่องนี้ตลกหรือไม่ ในฐานะที่ผมชอบและเป็นแฟนประจำ หม่ำ/เท่ง/โหน่ง การเข้าไปชมเรื่องนี้ที่ SF MBK รอบ 19.50 น.พฤหัสที่ผ่านมา ตอบได้ว่ามันตลกเป็นบ้าคุ้มค่าเงินที่เสียไป แถมการเข้าดูพร้อมคนเยอะๆมีข้อดีตรงที่บางมุขเราไม่ฮาแต่คนในโรงฮา มันทำให้เราเริ่มรู้สึกฮาไปด้วย โอ้ จอร์จ ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆเลย
ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป
ติดตามบทความใหม่ๆ หรือ บทความน่าสนใจ หรือ เริ่มต้นอ่านBlogนี้มีข้อสงสัย คลิกไปเริ่มต้นที่ --> หน้าแรก
รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง
Create Date : 11 กันยายน 2548 |
Last Update : 11 กันยายน 2548 2:04:42 น. |
|
37 comments
|
Counter : 4192 Pageviews. |
|
|
|
โดย: rebel วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:3:22:23 น. |
|
|
|
โดย: แป๊กก วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:8:21:32 น. |
|
|
|
โดย: แก้มยุ้ย (หมวยแก้มป่อง ) วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:9:35:57 น. |
|
|
|
โดย: BeNuTe23 วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:11:41:18 น. |
|
|
|
โดย: uggie* วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:14:35:43 น. |
|
|
|
โดย: Mu_in_love วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:14:48:55 น. |
|
|
|
โดย: keyzer วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:22:54:35 น. |
|
|
|
โดย: Tai-Sarunya IP: 203.107.196.160 วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:22:58:52 น. |
|
|
|
โดย: Bkkbear IP: 61.90.84.136 วันที่: 12 กันยายน 2548 เวลา:0:05:20 น. |
|
|
|
โดย: MunGLuoD sTudiO IP: 210.246.73.224 วันที่: 12 กันยายน 2548 เวลา:12:18:09 น. |
|
|
|
โดย: CalZera IP: 61.91.70.130 วันที่: 12 กันยายน 2548 เวลา:19:12:35 น. |
|
|
|
โดย: Orlando IP: 61.90.97.235 วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:2:01:30 น. |
|
|
|
โดย: 14 กันยายน 2548 IP: วันที่: 17:45:25 เวลา:202.142.218.235 น. |
|
|
|
โดย: เอ IP: 203.151.140.117 วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:21:16:11 น. |
|
|
|
โดย: Finfama IP: 203.170.228.172 วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:21:18:15 น. |
|
|
|
โดย: คนที่คุณก็รู้ว่าใคร IP: 203.144.196.34 วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:11:58:35 น. |
|
|
|
โดย: m*m IP: 58.136.65.240 วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:22:26:54 น. |
|
|
|
โดย: Teej วันที่: 17 กันยายน 2548 เวลา:21:15:19 น. |
|
|
|
โดย: YCMM วันที่: 19 กันยายน 2548 เวลา:18:05:54 น. |
|
|
|
โดย: ฟ้าฝนไม่เป็นใจ IP: 61.7.148.177 วันที่: 22 กันยายน 2548 เวลา:19:46:25 น. |
|
|
|
โดย: Dasher IP: 203.114.122.200 วันที่: 24 กันยายน 2548 เวลา:20:29:46 น. |
|
|
|
โดย: 26 กันยายน 2548 IP: วันที่: 14:44:30 เวลา:203.172.163.82 น. |
|
|
|
โดย: นมัสเต วันที่: 27 กันยายน 2548 เวลา:19:40:46 น. |
|
|
|
โดย: Me first and the Gimme IP: 58.11.51.16 วันที่: 28 กันยายน 2548 เวลา:11:27:57 น. |
|
|
|
โดย: SALB IP: 203.156.28.91 วันที่: 1 ตุลาคม 2548 เวลา:3:00:02 น. |
|
|
|
โดย: F IP: 202.176.106.38 วันที่: 4 ตุลาคม 2548 เวลา:17:09:31 น. |
|
|
|
โดย: อะธีลาส (อะธีลาส ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2548 เวลา:7:51:03 น. |
|
|
|
โดย: 19 ธันวาคม 2548 IP: วันที่: 6:01:28 เวลา:58.9.239.86 น. |
|
|
|
โดย: jayne IP: 202.57.137.195 วันที่: 26 ธันวาคม 2548 เวลา:10:49:48 น. |
|
|
|
โดย: เด็กลาว IP: 124.157.144.116 วันที่: 6 มิถุนายน 2550 เวลา:1:55:57 น. |
|
|
|
โดย: โจ IP: 203.113.17.172 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:14:35:19 น. |
|
|
|
โดย: ofious IP: 202.149.25.225 วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:16:21:58 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
- Next , ทรงผมชวนกลุ้มใจกับหนังไซไฟดูเพลินๆ
- Spider-Man 3 , แมงมุมดำตัวนั้น ฉันเห็นมันอยู่ในใจเราทุกคน
- Miss potter , เรื่องของเธอ(พ็อตเตอร์)และผมฯ
- Me...Myself ขอให้รักจงเจริญ , แค่นี้ก็พอแล้ว
- Meet the Robinsons , เมื่อพบความผิดหวังจะโทษโน่นโทษนี่ หรือ เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป
- Shooter , หนังแอคชั่นที่ดูจบแล้ว"เออ มันดีแฮะ"
- Hannibal Rising , ความน่าผิดหวังของหนังฮานนิบาล
- Confession of pain , ความแค้นอันแสนเศร้า
- Pans Labyrinth , คือจินตนาการแสนสวยงาม หรือ คือความจริงที่เจ็บปวดและขมขื่น
- The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23
- เมล์นรก หมวยยกล้อ , รถเมล์สายนี้ไม่ตลกแต่สนุก
- The Lives of Others , อ๊ะ นี่มัน Infernal affairs เวอร์ชั่นกำแพงเบอร์ลิน
- Sunshine , อาทิตย์สิ้นแสง ชีวิตสิ้นสูญ
- The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)
- แฝด , เข้าใจพิม เข้าใจพลอย เข้าใจ"แฝด"
- I'm a Cyborg, But That's OK , แต่ I ไม่ค่อย OK
- The Good Shepherd , จะลงเรือทั้งทีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
- Bridge to Terabithia , Just close your eyes but keep your mind wide open
- 300 , นี่คือสปาตั้น(โว้ย) ... พลั่กกกกกก
- The Queen , แม้จะเป็นเรื่องของ 'ควีน' แต่นี่คือ การกะเทาะเปลือกเล่าเรื่อง 'คน'
- Rocky Balboa , ชีวิตไม่ได้สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน
- Charlotte's Web , มิตรภาพไม่ได้มีราคา
- The Pursuit of Happyness , ปัญหาชีวิตก็เหมือน รูบิค - ถ้าทำไม่ได้จะ สู้ต่อ หรือ โยนทิ้ง-
- Volver , ความเจ็บปวดของแม่และลูกสาว
- Music and Lyrics , หนังที่น่ารักที่สุดในรอบ(หลาย)ปี
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 , จะสนไปทำไมกับเรื่องอิสรภาพที่ไกลตัว
- Dreamgirls , วันที่ ธุรกิจ กลืนกิน ศิลปะ
- Babel , เราเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ไปแล้วหรือยัง
- Rough , จาก H2 มาสู่ Touch และได้เวลา Rough
- Curse of the Golden Flower , ความเน่าหนอนฟอนเฟะของสถาบันครอบครัว
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus , ความงามที่แตกต่าง โลกที่แตกต่าง
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1 , ไทยจะสิ้นชาติไม่ใช่เพราะใคร หากมิใช่เพราะไทยด้วยกัน
- Perfume: The Story of a Murderer , ทำความรู้จักและเข้าใจ ฆาตกรน้ำหอมมนุษย์
- Blood diamond , "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาฆ่ากันเอง"
- The Black Dahlia , ดอกรักเร่ ที่สวยแค่สไตล์แต่ไร้เสน่ห์
- Night at the Museum , ความบันเทิงสำเร็จรูปที่สนุกเพลินเกินห้ามใจ
- ===== 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ ประจำปี 2549 =====
- +++ 10 "ฉาก"ประทับใจจาก"หนัง"ปีที่ผ่านมา +++
- ++ ชวนเพื่อนๆมาเลือก 10 ตัวละครประทับใจ จากหนังปีที่ผ่านมา ++
- The Holiday , จะทำอย่างไรในวันที่ใจเจ็บ
- Lucky Number Slevin , ของเค้าดี แต่ ผิดที่ ผิดเวลา
- The King and the Clown , ความรักของตัวตลกบนหลังเสือ
- Déjà vu , เอ๊ะ เราเคยเจอมาก่อนหรือเปล่า
- Death Note 2: The Last Name , ได้เวลาเก็บสมุดคืนเจ้าของ
- Saw III , บทเรียนสุดท้ายของคุณครู จิ๊กซอว์
- The Village Album , ถ่ายภาพด้วยหัวใจแล้วบันทึกใส่ความทรงจำ
- 007 : Casino Royale , นี่ซิ เจมส์ บอนด์
- The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?
- The Banquet , แฮมเล็ต เวอร์ชั่น ประหารเจ็ดชั่วโคตร
- ผีสามบท บทที่ 3 : เปนชู้กับผี , พอกันที ผีGMO
- ผีสามบท บทที่ 2 : Monster House , บ้านผีสิงที่แสนจะบันเทิงใจ
- ผีสามบท บทที่ 1 : The Grudge 2 , ปัญหาของ ป๋า กับ เด็กผี
- The Guardian , "สถิติ" ไม่สำคัญเท่า "ทัศนคติและเจตคติ"
- หมากเตะรีเทิร์นส , หมากเกมส์นี้ น่าจะดีได้มากกว่านี้
- 12 เกมสยาม +13 เกมสยอง , มันไม่ใช่แค่เกม
- Cars , 20 ปีของ Pixar กับเรื่องของ "คาร์" (ซึ่งก็คือเรื่องของ "คน")
- The Devil Wears Prada , (จากหนังสือมาเป็นหนัง) ร้ายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
- Death Note , สมุดเล่มนี้ ดี จริงหรือ?
- L'Enfant (The child) , เด็กไม่รู้จักโต
- World Trade Center , เป็น"ฮีโร่"ไม่ได้วัดกันที่ผลลัพธ์
- The Host , สัตว์ประหลาด สนุกประหลาด
- Season changes , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"
- Me and You and Everyone We Know , เราอยู่ร่วมกัน เรารู้จักกัน แต่เราไม่เชื่อมต่อถึงกัน
- Snakes on a Plane , ที่อยากไปดูก็เพราะ "งูบนเครื่องบิน"
- United 93 , ทรงพลัง และ สะเทือนใจ
- Running boy (Marathon) , ทุกชีวิตล้วนมี"หัวใจ"
- โคตรรักเอ็งเลย , เกือบโคตรรัก "โคตรรักเอ็งเลย"
- Sad movie , แม้รักต้องพลัดพรากก็ยังฝากความทรงจำอันงดงาม
- The Break-Up , วิธีทำลายชีวิตคู่ตัวเองให้ย่อยยับ
- แก๊งชะนีกับอีแอบ , หนัง comedy ไทยดีๆยังมีอยู่
- Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest , "สลัด"จานนี้รสชาติดีเพราะ"Johnny Depp"
- Tsotsi , พื้นฐานจิตใจมนุษย์เป็น สีขาว หรือ สีดำ
- Superman Returns , ทำไมโลกใบนี้ยังต้องการ Superman ?
- Silent Hill , ของดีที่อยู่ในมือพ่อครัวขาดฝีมือ
- over the hedge , บทเรียนชีวิตเรื่องมิตรภาพและครอบครัว
- Don't tell , แผลในใจแค่"ลืม"คงไม่พอ
- Slither , คูลฟีเวอร์สีเลือด เชือดมนุษย์โลก
- The Omen , ซาตานอยู่รอบตัวเรา
- Scary movie 4 , ผ่านมา --> ฮา --> ผ่านไป
- Paradise now , สวรรค์อยู่หนใด
- X-Men: The Last Stand , X = mutant , รักร่วมเพศ , คนผิวดำ , ยิว ฯลฯ
- ก้านกล้วย , "ช้างกูอยู่ไหน" >> "ช้างกูอยู่นี่"
- The Da Vinci Code , ศรัทธาที่บิดเบือน
- Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
- Poseidon , จมเร็ว จบเร็ว
- Match point , เกมส์กิเลสของคนเห็นแก่ตัว
- Mission: Impossible III, ภารกิจสุดมันส์ที่ขาดเสน่ห์
- Perhaps love , รักซ้อนรัก หนังซ้อนหนัง อดีตซ้อนปัจจุบัน
- Ice Age: The Meltdown , ได้เวลายุคน้ำแข็งครองเมือง
- Red lights , ผู้ชายไม่รู้ตัว ผู้หญิงไม่รู้ใจ
- Failure to launch , Success to love
- Inside man , คน(ดี/ชั่ว) ใน คน(ดี/ชั่ว)
- Where the Truth Lies , ความจริงนอนนิ่งอยู่ที่ใด ?
- โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง , ฮาน้อยกว่าที่คิด มีสาระมากกว่าที่หวัง
- My girl and I , รักครั้งแรกจะเปลี่ยนเราไปตลอดกาล
- V for Vendetta , เผด็จการรัฐสภา VS. พลังประชาชน
- A History of violence , มาทำความรู้จัก "ความรุนแรง" กัน
- Final Destination 3 , เหล้าเก่าในขวดเก่า
- The Constant Gardener , ในความลับมีความจริง ในความจริงมีความรัก
- คำพิพากษาของมหาสมุทร (Invisible Waves) , คลื่นบาปที่นิ่งสงบ
- Walk the line , มิตรภาพในความรัก
- เด็กหอ , หอนี้มีดีกว่าผีหลอก
- Brokeback Mountain , รักซ่อนเร้น
- Munich , ผลของการสาดน้ำมัน(ความรุนแรง)เพื่อดับไฟ(แค้น)
- Memoirs of a Geisha , ชาเขียวสำเร็จรูปที่ผสมน้ำมากไป
- Prime , รักคงยังไม่พอ
- An Unfinished Life , ชีวิตที่หยุดเดิน
- In Her Shoes , หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต
- Just Like Heaven , เมื่อพื้นที่ของชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ความสุข
- The Promise , คำสัญญา ชะตากรรม ความรัก
- 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ (ของปีที่ผ่านมา)
- 10 ฉากประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- 10 ตัวละครประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and the Wardrobe , ส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับทุกครัวเรือน
- April Snow , บางครั้งความรักก็เจ็บปวดโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
- King Kong , แล้ว "ลิงยักษ์" ก็ตกหลุม "รักหญิง"
- The Descent , ถึงถ้ำ ถึงเลือด ถึงเนื้อ ถึงกระดูก
- The Maid , ผีสิงคโปร์
- The Exorcism of Emily Rose , ผีเข้า(ศาล)
- Hidden (Caché) , ความจริงที่ซุกซ่อน (ในหนังที่ยอดเยี่ยม)
- Chicken Little , กุ๊กไก่ของ Disney ที่ไร้เงา Pixar
- Nana , โลกของนานะ โลกของความรัก ความฝัน และ มิตรภาพ
- เด็กโต๋ , สายธารชีวิตแห่งบ้านแม่โต๋
- Harry Potter and the Goblet of Fire , กีฬาสีสามสถาบันกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
- Corpse Bride , รักไม่มีวันตาย
- Yes , บทกวีอีโรติค ความรัก การเมือง และ การมีตัวตน
- รับน้องสยองขวัญ , หายใจเข้าก็ เฮ้อ หายใจออกก็ เฮ้อ
- Lord of War , นิ้วที่ลั่นไกจากมือที่มองไม่เห็น
- Saw II , สยองอย่างมีประเด็น
- Goal! , ประตูชัย(goal)เป้าหมายชีวิต
- Proof , ชีวิตที่สับสนของคนที่สูญเสีย
- The Legend of Zorro , ฮีโร่ที่ย่ำอยู่กับที่
- Flightplan , ขึ้นได้สูง บินได้สวย ลงไม่นิ่ม
- Sky High , อยากจะเป็น hero ที่ "เปลือก" หรือที่ "แก่น"
- A Sound of Thunder , เรื่องราวอยู่ในโลกอนาคต ตัวหนังอยู่ในโลกอดีต
- Red Eye , ไม่ใช่แค่ Fight or Flight แต่ยังเป็น Fight on Flight
- เพื่อนสนิท , เมื่อเส้นแบ่งของ "คนรัก" กับ "เพื่อน" เริ่มเลือนราง
- Transporter 2 ควบ Into the Blue , ขึ้นรถดีกว่าลงเรือ
- Madagascar , มิตรภาพกับการเรียนรู้ชีวิต และ นกเพนกวิน
- Cinderella man , Jim Braddock ชายที่ไม่ได้เป็นแค่นักมวย
- Dear Frankie , คำลวง ความรัก ครอบครัว
- Dark Water , ความสัมพันธ์แม่-ลูก-ผี (จากหนังสือสู่ภาพยนตร์)
- Seven Swords , ... ที่ควรยาวกลับสั้น ที่ควรสั้นกลับยาว ...
- แหยม ยโสธร , ขำขำ - หม่ำ - อะฮึ่ย อะฮึ่ย
- Charlie and the Chocolate Factory , Imagination is more important than knowledge
- The Skeleton Key , ไขได้ดีพอสมควร
- About Love , เรื่องราวที่ "เกี่ยวกับ "รัก""
- 5x2 , สมการความรักของคน 2 คน
- ต้มยำกุ้ง , อร่อยรสแซ่บชามโตเกินมาตรฐานแต่อาจไม่ผ่านเชลล์ชวนชิม
- Somersault , ความรัก - Sex - เด็กสาวและความทุกข์ทรมานใจ
- The Upside of Anger , เรื่องหนักๆของครอบครัวที่เล่าอย่างเบาๆ
- Land of the Dead , หนึ่งเรื่องราวของซอมบี้ที่กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
- Crash , ผลกระทบของการชนที่"คน"มีต่อกันและกัน
- วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น , หนังครอบครัวสำหรับคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี
- The Island , โลกอนาคตและโคลนนิ่งฉบับระเบิดเถิดเทิง
- The Keys to the House , "บ้าน"หลังนี้จะมีความรักเป็น"กุญแจ"
- The Longest Yard , เกมส์เก่าเอามาเล่าใหม่ใช้วิธีการเดิม
- Fantastic Four , ความสนุกสูตรสำเร็จที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลิน
- War of the Worlds , เมื่อสปีลเบิร์กเลิกรักมนุษย์ต่างดาว
- Swing Girls , สวิงกันแบบคึกคัก สดใส ไร้มลพิษ
- Hotel , โรงแรมที่ไร้เรื่องราว
- Assault on Precinct 13 , อีกหนึ่งความจนตรอกที่ระทึกคุ้มค่า
- Batman Begins , ปฐมบทแรกบินกับการตีความครั้งใหม่
- Mr. and Mrs. Smith , เรื่องราวชีวิตคู่ที่สวมเสื้อคลุมหนังแอคชั่น
- มหาลัย' เหมืองแร่ , เหมืองแร่และชีวิตกับหน่วยกิตที่ต้องขุด
- House of Wax , ความสยองที่แปลกตากับหุ่นขี้ผึ้ง สองดาราและหนึ่งปารีส
- Sin city , ฟิล์มนัวร์ที่ลงตัวและเจ๋ง
- Star Wars: Episode III Revenge of the Sith , การปิดตำนานและการเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์
- The Jacket , การเดินทางข้ามเวลา ความหลอนและวงจรชีวิต
- A Lot Like Love , รักด้วยใจแต่ตัดสินใจด้วยสมอง
- เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ
- Be With You , ความสุขของฉันคือ"การได้อยู่กับคุณ"
- Hostage , เหล้าเก่าในขวดใหม่ที่ไม่น่าผิดหวัง
- Kingdom of Heaven , สงครามครูเสดครั้งนี้ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่น่าเสียดาย
- Spanglish , เรื่องราวที่กระจัดกระจายแต่ให้แง่มุมหลากหลายในครอบครัว
- Guess Who , เสียงฮาจากความแตกต่างและBernie Mac
- The Interpreter , ทริลเลอร์ที่ดี(แต่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น)
- Hide and Seek , มีปมที่ดีแต่มีบทที่อ่อน
- The Chorus (Les Choristes) , ง่ายๆแต่ได้ใจ
- Hitch , สนุก น่ารัก ขำขำ รู้สึกดี
- Sahara , หนังสนุกแค่เป็นช่วงๆหรือผมง่วงกันแน่
- Boogeyman , ตื่นเต้นตกใจ แต่ อะไร ยังไง ทำไม?
- Tokyo Godfathers , การตามหา"ครอบครัว"ที่สนุกมากๆ
- บุปผาราตรี เฟส 2 , เมื่อบุปผาเริ่มร่วงโรย
- Dont move , นอกจากตัดสินใคร คุณเข้าใจใครคนนั้นดีแล้วหรือยัง?
- Crying Out for Love, In the Center of the World , ความทรงจำและเทปคาสเสตต์/ความรักและใจกลางโลก
- The Ring Two , ไม่สมศักดิ์ศรี "The Ring"
- A Very Long Engagement , หนังที่มากไปด้วยความทะเยอทะยาน
- Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events , การดัดแปลง"โชคร้าย"ที่ทำได้"ดี"
- Hana & Alice , มิตรภาพ ความรัก ความทรงจำ
- Hotel Rwanda , หนังที่ให้คนดูมากกว่าความเป็นหนังดี
- In Good Company , ผู้ชายขาขึ้นกับผู้ชายขาลง
- Being Julia , โลก(ของจูเลีย)คือละคร
- หลวงพี่เท่ง , เรื่อยๆขำๆพอไปวัดไปวา
- Sideways , รักนุ่มๆชุ่มไวน์ในวันเบาๆ
- Million Dollar Baby , ความยอดเยี่ยมท่ามกลางศรัทธาและความอบอุ่น
- Constantine , "คนเห็นผี"ปราบลูกปีศาจ
- Shall we dance , คุณเต้นรำกับคู่ของคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไร
- Finding Neverland , งดงามเหลือเกิน
- Kung Fu Hustle , ตลกน้อย สนุกมาก และลงตัว
- 2046 , ไปแล้วอย่าลืมกลับมา
- Ray , มีดีที่Jamie Foxx
- The Phantom of the Opera , ภายใต้หน้ากากมีเพียงความว่างเปล่า
- โรงเตี๊ยม , มีอะไรดีๆกว่าที่คิดและโฆษณา
- Meet the fockers , เรื่องของหนังตลกและครอบครัว
- Closer , เมื่อความรักถูกสำรวจและตีแผ่ผ่านตัวละคร
- The Aviator, .....And this is Howard Hughes
- The Forgotten, ไม่มีอะไรน่าจดจำ
- Birth , ยอดเยี่ยมในความหนักแน่นและเนิบนาบ
- ****1ปีที่ผ่านมา ฉากใดในหนังที่คุณประทับใจ ****
- 5หนังชอบ กับ 5หนังไม่ชอบ ของคุณในปี2547คือ....,
- National Treasure, เมื่อBruckheimerมาสร้างDavinci's code
- The Polar Express, ตื่นตาแต่ไม่ตื่นใจ
- แจ๋ว, แจ๋วน้อยกว่าที่หวัง
- Bridget Jones 2, รู้จักเธอมากขึ้นและรู้สึกดีกว่าที่คิด
- The Incredibles, ครอบครัวหรรษา
- ขุนกระบี่ ผีระบาด, กล้าที่จะบ้า ก็กล้าที่จะดู
- Ocean's Twelve, หนังขาย"เสน่ห์ดารา"
- หมานคร, เมืองนี้ภาพสวย+เพลงเพราะ+ประหลาดและยาก
- กั๊กกะกาวน์, "ใจ"คุณเต้นอย่างไรเมื่อคุณมีความรัก
- Alexander, ดราม่าชั้นดีแต่ความสนุกเป็นระลอกคลื่น
- Wimbledon, For love of the game+NottingHill+ภราดร
- Love me if you dare, หนังรักแปลกกับความรู้สึกก้ำกึ่ง
- Cellular, สนุกเป็นบ้า แอคชั่นแอบฮา
- Saw, OldBoy+Cube+ฆาตกรโรคจิต
- Ladder49, สิงห์ผจญเพลิงชื่อฮัวควิน ฟีนิกซ์
- The Grudge, เมื่อ"เด็กผี" go inter เป็น "โคตรผีดุ"
- Dodgeball, ฮาน้อยกว่าที่หวังแต่สนุกกว่าที่คิด
- Sky Captain and The World of Tomo, หนังไซไฟสไตล์"ฟ้าทะลายโจร"
- Resident Evil 2, อลิซเท่+เนเมซิสเห่ย+จิลเฉยๆ
- Shark Tale, คุณเป็น"somebody"แล้วหรือยัง
- สายล่อฟ้า, ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนกับความสนุกกลางๆ
- Shutter กดติดวิญญาณ, นานๆทีจะมีหนังผีไทยดีๆให้ดูกัน
- The Terminal, น่ารัก นุ่มนวล และสนุกกว่าที่คิด
- Wicker park( spoilแล้วจะบอก), ลุ่มหลง คลั่งไคล้ หลอกลวงและความรัก
- Eternal sunshine รอบ2, ความอภิรมย์ที่มากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
- EternalSunshineOfTheSpotlessMind, คุณเคยอยากจะลืมบางสิ่งในชีวิตคุณบ้างไหม
- Three Extreme, อึดอัด ขยะแขยง รุนแรง และผิดหวัง
- Man on fire (no spoil), คนจริงเผาแค้น เผานานจนผมเกือบหลับ
- Bourne Supremacy, มันต้องให้ได้ยังงี้ซิ ต้องยังงี้ซิ
- Collateral...., it started like any other night
- Windstruck, งานมือตกของกวัก แจ ยอง
- งานของ M. Night Shyamalan, 6th sense/Unbreakable/Sign/และTheVillage
|
|
|
|
|
|
|
|