Harry Potter and the Goblet of Fire , กีฬาสีสามสถาบันกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
...Everything is going to change now ประโยคในตอนท้ายที่เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยขึ้นมา ไม่ใช่แค่จะหมายถึงเรื่องราวในจอและในหนังสือ แต่มันรวมไปถึงชีวิตจริงที่ไม่ได้มีเวทมนต์มาเกี่ยวข้องทั้งของเธอ , แฮรี่ , รอนและผองเพื่อน เช่นเดียวกับ คนดูที่อยู่นอกจอ ที่ช่วงหนึ่งของวัยต้องก้าวข้ามจากโลกของเด็กไปสู่โลกของผู้ใหญ่เต็มตัว
จากวัยเด็กที่มีเพียงการแข่งกันสอบ แข่งกันเล่น เมื่อก้าวสู่จังหวะชีวิตที่ขยับเข้าสู่วัยรุ่น รอยต่อของความเป็นเด็กกับผู้ใหญ่ การเปลี่ยนแปลงในตัวเองไม่ว่าจะเป็นเรื่องฮอร์โมน ร่างกาย รูปร่าง ฯลฯ มันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในชีวิตไม่ว่าจะเป็น การที่จะเริ่มคบเพื่อนต่างเพศ เริ่มมีความรัก เริ่มต้องการการยอมรับจากสังคม ต้องการชื่อเสียง ฯลฯ และแน่นอนเมื่อมีความต้องการก็ย่อมต้องมีกิเลสตัณหาควบคู่กันมา นั่นทำให้พวกเขาต้องพบกับ ความอิจฉาริษยา ความน้อยเนื้อต่ำใจ ความหึงหวง ความเห็นแก่ได้เห็นแก่ตัว และ ความตาย และมันก็แสดงว่าพวกเขากำลังจะก้าวมาสู่โลกของผู้ใหญ่เต็มตัว โลกที่ไม่ได้มีแต่สีขาวบริสุทธิ์เหมือนสมัยเด็กแต่อย่างเดียว
...Harry Potter and the Goblet of Fire เป็นลำดับที่ 4 ในบรรดาหนังสือ 7 เล่มที่ J.K. Rowling กำลังจะทยอยส่งมาสู่มือคนอ่าน เรื่องราวในภาคนี้ทวีความเข้มข้นและความรุนแรงมากขึ้น เมื่อแฮรี่ยังต้องเผชิญกับอันตรายจาก คนที่คุณรู้ว่าใคร มาคุกคาม ครั้งนี้แกนหลักของเรื่องเกี่ยวข้องกับการแข่งขันประลองเวทไตรภาคี ซึ่งเปรียบเสมือน งานกีฬาสีสามสถาบันที่มีฮอกวอตส์เป็นเจ้าภาพจัดงาน แต่ละโรงเรียนมีสิทธิส่งนักเรียนเข้าแข่งขันเพียง 1 คนและต้องมีอายุอย่างต่ำ 17 ปี ผู้ตัดสินใจเข้าแข่งขันเท่านั้นจึงจะมีสิทธิใส่ชื่อตัวเองเข้าไปในถ้วยอัคนี และ รายนามผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านการคัดเลือกประกอบด้วย Fleur Delacour นักเรียนหญิงสาวพราวเสน่ห์จากโรงเรียนสตรีโบซ์บาตง / Viktor Krum นักกีฬาควิดิชทีมชาติบัลแกเรียสุดห้าวจากโรงเรียนชายล้วนเดิร์มสแตรงก์ และ Cedric Diggory นักเรียนดีเด่นของโรงเรียนสหศึกษาฮอกวอตส์ พร้อมกับชื่อสุดท้ายที่คนดูเดาได้ไม่ยากแต่คนในโรงเรียนล้วนประหลาดใจเมื่อถ้วยอัคนีประกาศรายชื่ออีกหนึ่งชื่อ นั่นคือ Harry Potter
...ตัวแทนนักกีฬาทั้งสี่คนมีหน้าที่ต้องฟันฝ่าภารกิจ 3 ด่านเพื่อเข้าไปชิงชัยถ้วยอัคนี เกียรติยศชั่วนิรันดร์ที่ใครต่อใครต่างใฝ่ฝัน ด่านทั้ง 3 ที่แต่ละคนต้องพิสูจน์ ด่านแรกเป็นเสมือนบททดสอบของความกล้าหาญ ด่านที่สองกลายเป็นบททดสอบของความมีน้ำใจ ในขณะที่ด่านสุดท้าย เป็นบททดสอบที่ศัตรูไม่ได้มาจากภายนอก ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดคือใจของเราเอง ที่จะยอมให้มนต์สะกดใจที่เป็นกิเลสหวังครองชัยชนะมาครอบงำหรือไม่ เป็นศัตรูที่พวกเขาต้องเจอในชีวิตจริงที่จะไม่ใช่แค่การแข่งขันครั้งนี้ การเอาชนะใจตัวเองและการเสียสละ เขาวงกตที่ซับซ้อนก็ไม่ต่างอะไรกับจิตใจของมนุษย์
...สำหรับเรื่องราวของ Harry Potter ที่ผมได้อ่านมา 5 เล่ม เล่มที่อ่านแล้วให้ความรู้สึกประทับใจมากที่สุดคือเล่ม 3 ในขณะเดียวกัน หากจะมีเล่มไหนที่ผมคิดว่ามันเหมาะกับการสร้างเป็นหนังที่สุดก็คงต้องเป็นเล่มนี้ เพราะตัวหนังสือมีฉากที่ชวนให้ตื่นเต้นและน่าติดตามอยู่เป็นระยะๆ มีฉากแอคชั่นที่น่าจะทำออกมาได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้เท่าที่ผมจำได้จากการอ่านหนังสือตอนที่มันออกมาใหม่ๆ เล่มนี้มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเกิดขึ้น เป็นตอนที่อ่านแล้วรู้สึกสนุกตลอดทั้งเล่ม ไม่เหมือนบางภาคที่ช่วงกลางๆจะอืดๆแล้วก็อยากให้ถึงหน้าหลังไวไวเพื่อจะได้ดูว่าหักมุมยังไง แต่เล่มนี้ ความบริสุทธิ์ในวัยเด็กเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลง จากโลกของเด็กกำลังจะหมุนกลายเป็นโลกของผู้ใหญ่ พวกเขาเริ่มมีความรู้สึกที่มากไปกว่ามิตรภาพ เริ่มมีความรักที่ชัดเจนขึ้น (แฮรี่ กับ โชแชง , รอน กับ เฮอไมโอนี่) เริ่มมีความอิจฉาริษยา ความน้อยเนื้อต่ำใจของรอน การแข่งขันเพื่อหวังเป้าหมายอย่างถ้วยอัคนี การที่จะเรียนรู้จักชีวิตที่ลึกซึ้งมากขึ้น ไปจนถึงการรู้จักเรื่องของความตายที่เป็นของจริง ทำให้เป็นภาคที่เข้มข้นลงตัวในหลายๆองค์ประกอบ
...Harry Potter เป็นภาพยนตร์ที่คนดูน้อยคนจะเข้าไปดูโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวมาก่อน การสร้างภาพยนตร์ชุดนี้จึงมีโจทย์ที่ยากอยู่ที่ว่า จะสร้างหนังอย่างไรให้ออกมาถูกใจทั้งแฟนขาประจำ และ คนที่ไม่ได้อ่านหนังสือ เพราะ คุณลักษณะที่ดีข้อหนึ่งของหนังที่ดัดแปลงจากหนังสือ คือ ทำอย่างไรให้คนที่ไม่ได้อ่านหนังสือสนุกไปกับหนังได้ ไม่ใช่ความสนุกจะเกิดจากการที่ต้องอ่านหนังสือมาก่อน หรือ กว่าจะสนุกต้องกลับไปอ่านหนังสือเพื่อขยายความ
...ดังนั้นการดัดแปลงวรรณกรรมที่ชื่อเสียงโด่งดัง จึงเป็นการเสี่ยงและต้องอาศัยความกล้า ว่าจะผู้สร้างจะตัดสินใจตัดตอนไหนทิ้งและจะเปลี่ยนตอนไหนบ้าง เพราะการตัดบางส่วนออกอาจทำให้แฟนหนังสือที่ชอบส่วนนั้นไม่พอใจ นั่นจึงทำให้หนังบางเรื่องสร้างแบบป้องกันตัวเอง คือ ไม่พยายามดัดแปลงอะไรเลยแต่ยกตัวหนังสือมาทุกกระเบียดนิ้วอย่าง Harry Potter and the Sorcerer's Stone ที่เป็นตอนที่ผมชอบน้อยที่สุด ผู้สร้างแทบจะไม่ได้ปรับแต่งอะไรชนิดที่เรียกว่ายกหนังสือมาขึ้นจอหนัง การเลือกสร้างแบบนี้อาจทำให้แฟนพันธ์แท้หรือคนที่ชอบหนังสือมากๆที่ไม่ชอบให้มีการดัดแปลงพันธุกรรมบทประพันธ์พึงพอใจเพราะต้องการเห็นทุกอย่างในหนังสือออกมาบนจอ แต่มันก็ทำให้คนดูอย่างผมที่อยากดูหนังมากกว่าอ่านหนังสือในโรงหนังรู้สึกเบื่อ
Harry Potter and the Prisoner of Azkaban เป็นตัวอย่างที่ดี ในการตัดความยาวหลายร้อยหน้าให้ออกมากระชับภายใต้เวลาจำกัด ผู้สร้างกล้าที่จะตัดหลายฉากสำคัญที่มีในหนังสือออกไป แต่ด้วยข้อจำกัดจากต้นฉบับที่ว่าภาคนี้มีสัดส่วนนความเป็นดราม่าค่อนข้างเยอะและช่วงท้ายก็ไม่ได้ออกมาในแนวลุ้นระทึกตื่นเต้น ผมจึงรู้สึกว่าตัวหนังที่ออกมาช่วงท้ายมันค่อนข้างเนือยอืดและจบลงอย่างค่อนข้างแผ่วปลาย
เมื่อมาถึง Harry Potter and the Goblet of Fire น่ายินดีที่มันเป็น Harry ภาคภาพยนตร์ที่ทำออกมาได้สนุกที่สุดและดีที่สุด หนังเลือกตัดเลือกดัดแปลงในส่วนที่ไม่ขัดความรู้สึกคนอ่านมากจนเกินไป และ ก็ไม่ทำให้คนที่ไม่เคยอ่านมาก่อนต้องลำบาก เพราะไม่ว่าจะเคยอ่านหรือไม่เคยอ่านเล่มนี้มาก่อน ขอเพียงรู้จัก Harry Potter บ้าง ก็สามารถสนุกไปกับหนังได้อย่างไม่ยากเย็น หากจะมีส่วนที่ผมรู้สึกว่ามันห้วนเกินไปก็เป็นในส่วนความสัมพันธ์(เฮอร์ไมโอนี่ รอน กับ แฮร์รี่ รอน) คือ ในฉากน้ำตาของเฮอร์ไมโอนี่ ที่ดูแล้วหากหนังจะขยายความมากขึ้นเชื่อว่าจะกินใจคนดูมากขึ้นและทำให้เราเข้าใจความคิดของตัวละครมากขึ้น กับ ฉากความขัดแย้งของแฮร์รี่กับรอนที่ดูออกจะกระเง้ากระงอดจนเหมือนคู่รักงอนกัน ทั้งสองส่วนนี้ในหนังสือสื่อออกมาได้ดีและชัดเจนกว่า และ ทำให้เราเห็นเลือดเนื้อจิตใจของคนธรรมดาในตัวละครที่เป็นพ่อมดได้
...ผู้กำกับ Mike Newell ที่สร้างผลงานดังๆมามากมายไม่ว่าจะเป็นหนังรัก Four Weddings and a Funeral หรือหนังดราม่าอย่าง Mona Lisa Smile มาคุมงาน Harry ภาคนี้ได้อย่างน่าชื่นชม หนังเดินหน้าไปข้างหน้าภายในเวลา 2 ชม.45 นาที โดยที่คนดูจะไม่รู้สึกว่ามันอืดยืดยาด ฉากตื่นเต้นระทึกขวัญทำออกมาได้น่าติดตาม เช่น ในฉากภารกิจมังกรที่ทำให้คนดูลุ้นแฮรี่ได้อย่างหายใจไม่ทั่วท้อง หรือ จะเป็นความตื่นตาอลังการงานสร้างกับโปรดักชั่นอย่างในฉากควิดิชชิงแชมป์โลก ความงดงามของงานเต้นรำ ครั้นจะเป็นฉากโศกนาฎกรรมตอนท้ายก็ทำออกมาได้สะเทือนใจทีเดียว หนังสอดใส่อารมณ์ขันอยู่เป็นระยะๆและได้ผล
.... การเลือกตัวละครเป็นจุดที่หนังทำออกมาได้ถูกใจคนดูอย่างผม ตัวแทนทั้ง 3 คนที่เข้าแข่งออกมาเหมือนกับที่คิดไว้ตอนอ่านหนังสือไม่ว่าจะเป็น Viktor Krum , Cedric Diggory , Fleur Delacour ที่ออกมาให้คนดูสาวๆได้กรี๊ดแตกกับสองหนุ่มสองสไตล์ และ หนึ่งสาวที่บางมุมดูแล้วคิดถึงแคล เดนส์ การเปิดตัวของนักเรียนจาก 2 โรงเรียน สร้างความประทับใจให้ผมตาค้างได้พอๆกับรอน ที่ได้เห็นการโปรยเสน่ห์แบบไม่มีกั๊กของนักเรียนจาก โบซ์บาตง และ การเปิดตัวอย่างขึงขังของ เดิร์มสแตรงก์ ก็น่าจะทำให้ใจสาวๆสั่นไหวได้ไม่แพ้กัน
ตัวละครอย่าง 'MadEye' Moody ออกมาไม่ตรงกับจินตนาการเวลาอ่านเท่าไหร่นัก ส่วน Rita Skeeter ก็ดูวุ่นจุ้นจ้านน้อยกว่าที่คิด ตัวละครที่หลายเสียงคัดค้านกันตั้งแต่ประกาศผลคัดเลือกตัวนักแสดงคือ Katie Leung ที่ต้องมารับบท Cho Chang เห็นด้วยที่ว่ามีเสน่ห์น้อยกว่าที่อ่านในหนังสือ ไม่ชวนให้ต้องมนต์ แต่เธอก็สวยอย่างเป็นธรรมชาติและดูดีทีเดียวในหลายๆฉาก มีตัวละครเก่าๆตัวหนึ่งที่มาขโมยซีนในภาคนี้มากมายนั่นคือ เมอเทิลจอมคร่ำครวญ ที่ดูออกจะออดอ้อนคราญครางและคุกคามทางเพศได้อย่างน่าขำขันหมั่นไส้ และ ในภาคนี้เฮอร์ไมโอนี ดูสง่างดงามมากที่สุดในทุกๆภาคที่ผ่านๆมา
..ตัวละคร Harry Potter ที่รับบทโดย Daniel Radcliffe จากที่ดูในภาคแรกยังไม่รู้สึกว่าเขาเป็นตัวละครเดียวกับในหนังสือ แต่ยิ่งเล่นเขายิ่งทำให้คนดูยอมรับกับตัวเขาจนตอนนี้เขาก็น่าจะเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดกับบทนี้ มีตัวละคร 2 ตัวที่ผมคิดว่าหนังสือสร้างออกมาได้ดูมิติ และ น่าสนใจ นั่นคือ Severus Snape ซึ่งถูกลดทอนบทลงไปในภาคนี้ กับ Ron Weasley ที่เป็นเหมือนตัวแทนเด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่ในสังคม
สังคมในโรงเรียนที่ไม่ใช่ฮอกวอตส์ คงจะมีฮีโร่อย่าง แฮร์รี่ แค่ 1-2 คน และ เด็กที่เหลือส่วนใหญ่คือเด็กอย่าง Ron Weasley ที่ไม่ได้เป็นนักเรียนเกียรตินิยม ไม่ใช่นักกีฬาโรงเรียน เป็นเพียงเด็กนักเรียนธรรมดาสามัญที่เรียนได้กลางๆ , แอบชอบสาวสวยดาวประจำโรงเรียน , กีฬาก็เล่นได้งูๆปลาๆ , เสื้อผ้าก็ดูเชยๆไม่ทันสมัย อาจมีความสามารถเล็กๆน้อยเฉพาะอย่างเช่น ถนัดเรื่องพฤกษาพันธุ์อย่าง เนวิลล์ ลองบ็อตท็อม
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่ดาวเด่น แต่พวกเขาเหล่านั้นมีสิ่งที่น่ายกย่องไม่แพ้ฮีโร่นั่นคือความงามของจิตใจ ความมีน้ำใจ ความรักเพื่อน ฯลฯ แต่ เพราะสังคมของผู้ใหญ่ยังมีคนอย่าง Rita Skeeter ที่ชอบความหวือหวา สนใจแค่ความเด่นจากภาพลักษณ์ภายนอก นั่นจึงทำให้เด็กบางคนพยายามที่จะเด่นดังโดยสร้างภาพลักษณ์ภายนอกหรือแสดงออกในทางที่ผิดเพื่อเรียกหาการยอมรับจากสังคม อันเป็นธรรมชาติของเด็กวัยรุ่นที่กล่าวข้างต้นว่า พวกเขากำลังสร้างตัวตนของตัวเอง เมื่อความดีงามในตัวที่ควรจะได้รับการชื่นชมถูกละเลยและไม่ได้รับการยอมรับ ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงทำให้เด็กธรรมดาอย่าง Ron Weasley ในโลกจริงๆกลายเป็นเด็กที่มีปัญหาในสังคม เช่น ตีรันฟันแทง ทะเลาะวิวาท ใช้ยาเสพติด ฯลฯ
Ron Weasley เองก็เช่นกัน ในหมู่ผู้คนที่รู้จักกับแฮร์รี่ ตัวตนของเขาที่ใครต่อใครรู้จักไม่ใช่ในฐานะ Ron Weasley แต่เป็น เพื่อนสนิทของ Harry ในหนังสือนั้น ความรู้สึกนี้ของเขาแสดงออกชัดเจนในช่วงต้น ความรู้สึกที่เริ่มอยากจะแยกตัวออกจากคนดังอย่างแฮร์รี่ไปเป็นคนที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองที่ชื่อ Ron Weasley กลิ่นอายของความน้อยอกน้อยใจ ความน้อยเนื้อต่ำใจ ความรู้สึกด้อยในตัวเอง(inferiority complex) ที่เริ่มแสดงออกในตัวเขาเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวละครของเขาดูเป็นคนที่มีเลือดมีเนื้อเหมือนคนจริงๆอย่างเช่นเราๆ ที่ย่อมมีจิตใจที่มีทั้งสีขาวและดำ แต่การที่สีดำมิอาจครอบครองจิตใจเขาได้ก็ด้วยความดีงามในใจและมิตรภาพที่เขาและเพื่อนมีต่อกัน
... ในภาคนี้มีส่วนดีๆหลายส่วนที่ผู้ปกครองหากนั่งดูกับเด็กๆ สามารถหยิบยกบางสิ่งที่ดูผิวเผิน ง่ายๆ แต่มันมีประโยชน์ในการสอนเด็กๆให้เรียนรู้ทักษะการใช้ชีวิตและการเสริมสร้างจริยธรรม เช่น ในภารกิจที่สอง เป็นเหตุการณ์ที่เราเองเอาตัวรอดก็ได้ จะนิ่งเฉยก็ไม่ผิด แต่ถ้าเลือกได้เราเลือกที่จะช่วยเหลือคนอื่นหรือเปล่า , ชัยชนะสำคัญมากน้อยแค่ไหนเมื่อเทียบกับมิตรภาพ , การแสดงออกหรือการบอกความรู้สึกควรแสดงออกอย่างไร การให้เกียรติผู้หญิงที่เราชื่นชอบเป็นอย่างไร มีอะไรดีๆที่อยู่ในหนังเป็นคติสอนใจที่มากว่าแฮร์รี่ตอนที่ผ่านๆมา
สิ่งที่ชอบ
1.การดัดแปลงมาเป็นภาพยนตร์ ... กล้าตัด กล้าดัดแปลง และ ทำออกมาได้ลงตัว กับความหนาที่หนุนหัวนอนสบายๆทำออกมาได้ขนาดนี้ภายใต้เวลาจำกัดจัดได้ว่ายอดเยี่ยม
2.งานโปรดักชั่น ... อลังการงานสร้าง ตระการตา หลายฉากต่อหลายฉาก
3.Fleur Delacour และการเปิดตัวเพื่อนๆจากโรงเรียนรับเชิญ
4.ความบันเทิง ... อาจไม่ถึงใจสุดๆแต่เมื่อความยาวเกือบ 3 ชั่วโมงหมดไปโดยไม่รู้ตัวเป็นบทพิสูจน์ควาบันเทิงของตัวหนังได้เป็นอย่างดี ปัจจัยหนึ่งของตัวเองที่อาจมีผลทำให้สนุกกว่าภาคที่ผ่านๆมา คือ ผมปรับพฤติกรรมการดู จากที่ภาคก่อนๆจะต้องทำการบ้านคืออ่านอีกรอบก่อนดูหนัง แต่ครั้งนี้ผมไม่เอามาอ่านก่อนดู มีแค่ความทรงจำเก่าๆที่หลงเหลือติดค้างไว้ มันก็เลยมีส่วนที่ทำให้สนุกมากขึ้น
5.สาระ+คติสอนใจ ... ผมรู้สึกว่าภาคนี้มีอะไรดีๆ มีข้อคิดสอนใจ และ สอนให้รู้จักชีวิต + การก้าวข้ามวัย (ชนิดที่เกือบจะเข้าข่ายหนัง coming-of-age เสียด้วยซ้ำ) ที่ชัดเจนกว่าภาคที่ผ่านๆมา
สิ่งที่ไม่ชอบ
1.บางตอนที่อยากให้ขยายความ ... ดังที่กล่าวตอนต้นในฉากน้ำตาของเฮอร์ไมโอนี่และความสัมพันธ์ของเพื่อนๆ เท่าที่มีหนังทำได้ดีในระดับหนึ่งจนรู้สึกเสียดายว่าถ้าขยายส่วนเหล่านี้เพิ่มขึ้นคงไม่เสียเวลามากมายมิหนำซ้ำ ยังจะพาอารมณ์คนดูไปได้ไกลกว่านี้
2. การเปิดตัว "คนที่คุณก็รู้ว่าใคร" ... ผมวาดภาพไว้กับ Lord Voldemort ที่ฟื้นคืนชีพน่ากลัวมากกว่านี้และทรงอำนาจมากกว่านี้ การได้Ralph Fiennes มารับบท เขาเล่นได้ดีจริงแต่ดูทรงพลังน้อยกว่าที่คาด แถมยังทำให้ผมเผลอไปนึกถึงหน้าตาโรคจิตที่เขาเล่นใน Red Dragon อีกต่างหาก
สรุป... สำหรับแฟนพันธ์แท้ที่ชอบหนังสือมากๆน่าจะมีผิดหวังในการที่หนังตัดประเด็นหลายอย่างและดัดแปลงบางส่วน สำหรับคอหนังสือครึ่งคอหนังครึ่ง น่าจะพึงพอใจเพราะนี่เป็น Harry Potter เวอร์ชั่นหนังที่ดีที่สุดในแง่การดัดแปลงมาเป็นภาพยนตร์ สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่านเล่มนี้มาก่อน นี่เป็นฉบับที่คุณสามารถดูได้สนุกและรู้เรื่อง และ สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่านหรือไม่เคยดูแฮรี่มาก่อนเลย เอ่อ เริ่มจากภาคแรกก่อนดีที่สุดครับ
ปล .. แฟนๆ Brit-Pop อย่าลืมมองหา Jarvis Cocker ที่มาเปรี้ยวเล็กๆในฉากหนึ่งในเรื่อง
บทความเฉพาะกิจ : เชิญชวนมาพูดมาคุยถึง พ่อ ในหนังที่คุณประทับใจที่บล็อค >> ปีนี้คุณคิดถึง "พ่อ" ในหนังเรื่องไหน และ คุณประทับใจเพราะอะไร? (คลิกที่ชื่อได้เลยครับ)
ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป
ติดตามบทความใหม่ๆ หรือ บทความน่าสนใจ หรือ เริ่มต้นอ่านBlogนี้มีข้อสงสัย คลิกไปเริ่มต้นที่ --> หน้าแรก
รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง
Create Date : 23 พฤศจิกายน 2548 |
Last Update : 5 ธันวาคม 2548 16:44:06 น. |
|
54 comments
|
Counter : 4036 Pageviews. |
|
|
|
โดย: SevenDaffodils IP: 69.140.209.9 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:6:12:56 น. |
|
|
|
โดย: bigwores วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:7:53:15 น. |
|
|
|
โดย: DM Fustromic (Elementals ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:8:23:09 น. |
|
|
|
โดย: ลูกแมวjudge_chula@hotmail.com IP: 203.113.57.5 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:10:23:05 น. |
|
|
|
โดย: Batgirl 2001 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:13:32:14 น. |
|
|
|
โดย: น้ำ IP: 58.136.168.200 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:14:05:39 น. |
|
|
|
โดย: เสราดารัล IP: 63.225.153.12 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:15:04:10 น. |
|
|
|
โดย: 1993 IP: 202.28.181.9 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:26:04 น. |
|
|
|
โดย: azzurrini วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:09:13 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy IP: 203.113.34.9 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:53:35 น. |
|
|
|
โดย: montha IP: 203.188.11.22 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:22:45:31 น. |
|
|
|
โดย: Elrond วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:23:04:24 น. |
|
|
|
โดย: Elrond วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:23:08:21 น. |
|
|
|
โดย: snodgrass วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:1:54:46 น. |
|
|
|
โดย: guy IP: 202.28.169.165 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:10:51:49 น. |
|
|
|
โดย: Pierre De Gonzalez IP: 58.64.101.137 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:11:11:15 น. |
|
|
|
โดย: นานา IP: 61.90.10.251 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:14:02:23 น. |
|
|
|
โดย: UndercoverGirl IP: 58.147.99.196 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:15:24:06 น. |
|
|
|
โดย: ตรี IP: 210.177.86.17 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:15:25:54 น. |
|
|
|
โดย: Bi-tong IP: 203.118.104.120 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:19:07:07 น. |
|
|
|
โดย: Baddy_Natchy IP: 61.91.175.92 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:19:41:06 น. |
|
|
|
โดย: หนูโยเกิร์ต IP: 202.28.181.7 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:20:17:13 น. |
|
|
|
โดย: ณัฐ IP: 203.150.14.161 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:20:40:34 น. |
|
|
|
โดย: หนู๋จูนเอง IP: 202.57.183.227 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:1:43:43 น. |
|
|
|
โดย: น้ำแข็งเคลือบน้ำตาล IP: 192.150.249.78 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:9:26:23 น. |
|
|
|
โดย: SFFC IP: 203.113.16.241 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:12:32:01 น. |
|
|
|
โดย: sakitjai IP: 202.12.74.7 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:13:46:36 น. |
|
|
|
โดย: MDA วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:15:05:29 น. |
|
|
|
โดย: D-WuT IP: 58.10.18.162 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:22:11:43 น. |
|
|
|
โดย: heartfelt melody IP: 202.28.181.9 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:57:40 น. |
|
|
|
โดย: jr2 IP: 58.147.33.171 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:0:10:10 น. |
|
|
|
โดย: absent-minded IP: 218.6.247.244 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:5:56:26 น. |
|
|
|
โดย: แฟนพี่จ๊าบ IP: 203.148.171.1 วันที่: 1 ธันวาคม 2548 เวลา:12:49:08 น. |
|
|
|
โดย: MovieLovers IP: 202.142.216.46 วันที่: 2 ธันวาคม 2548 เวลา:22:23:39 น. |
|
|
|
โดย: ~ ส้มๆอมชมพู ~ IP: 203.157.14.247 วันที่: 4 ธันวาคม 2548 เวลา:22:49:23 น. |
|
|
|
โดย: izamon IP: 61.91.71.192 วันที่: 13 ธันวาคม 2548 เวลา:17:40:20 น. |
|
|
|
โดย: freeman IP: 61.91.69.96 วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:0:16:32 น. |
|
|
|
โดย: ar15 IP: 58.11.4.60 วันที่: 16 ธันวาคม 2548 เวลา:11:28:03 น. |
|
|
|
โดย: Prefect IP: 203.114.123.113 วันที่: 29 ธันวาคม 2548 เวลา:22:07:41 น. |
|
|
|
โดย: เซดริก น่ารัก IP: 125.25.8.34 วันที่: 30 ธันวาคม 2548 เวลา:11:36:30 น. |
|
|
|
โดย: ll IP: 203.107.217.61 วันที่: 4 มกราคม 2549 เวลา:14:57:50 น. |
|
|
|
โดย: aoi (Hana Yori ) วันที่: 8 มกราคม 2549 เวลา:13:35:40 น. |
|
|
|
โดย: บะหมี่หยกหกก้อน IP: 202.44.136.50 วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:13:37:28 น. |
|
|
|
โดย: โอปอ IP: 203.113.77.41 วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:1:13:46 น. |
|
|
|
โดย: หนอนบ้านนอก วันที่: 1 มิถุนายน 2550 เวลา:14:49:33 น. |
|
|
|
โดย: แฟนพันธ์แท้แฮรี่ IP: 125.25.204.218 วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:17:35:25 น. |
|
|
|
โดย: แฟนพันธ์แท้แฮรี่ IP: 125.25.204.218 วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:17:35:53 น. |
|
|
|
โดย: nuna IP: 180.180.195.140 วันที่: 2 มกราคม 2554 เวลา:21:16:34 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
- Next , ทรงผมชวนกลุ้มใจกับหนังไซไฟดูเพลินๆ
- Spider-Man 3 , แมงมุมดำตัวนั้น ฉันเห็นมันอยู่ในใจเราทุกคน
- Miss potter , เรื่องของเธอ(พ็อตเตอร์)และผมฯ
- Me...Myself ขอให้รักจงเจริญ , แค่นี้ก็พอแล้ว
- Meet the Robinsons , เมื่อพบความผิดหวังจะโทษโน่นโทษนี่ หรือ เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป
- Shooter , หนังแอคชั่นที่ดูจบแล้ว"เออ มันดีแฮะ"
- Hannibal Rising , ความน่าผิดหวังของหนังฮานนิบาล
- Confession of pain , ความแค้นอันแสนเศร้า
- Pans Labyrinth , คือจินตนาการแสนสวยงาม หรือ คือความจริงที่เจ็บปวดและขมขื่น
- The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23
- เมล์นรก หมวยยกล้อ , รถเมล์สายนี้ไม่ตลกแต่สนุก
- The Lives of Others , อ๊ะ นี่มัน Infernal affairs เวอร์ชั่นกำแพงเบอร์ลิน
- Sunshine , อาทิตย์สิ้นแสง ชีวิตสิ้นสูญ
- The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)
- แฝด , เข้าใจพิม เข้าใจพลอย เข้าใจ"แฝด"
- I'm a Cyborg, But That's OK , แต่ I ไม่ค่อย OK
- The Good Shepherd , จะลงเรือทั้งทีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
- Bridge to Terabithia , Just close your eyes but keep your mind wide open
- 300 , นี่คือสปาตั้น(โว้ย) ... พลั่กกกกกก
- The Queen , แม้จะเป็นเรื่องของ 'ควีน' แต่นี่คือ การกะเทาะเปลือกเล่าเรื่อง 'คน'
- Rocky Balboa , ชีวิตไม่ได้สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน
- Charlotte's Web , มิตรภาพไม่ได้มีราคา
- The Pursuit of Happyness , ปัญหาชีวิตก็เหมือน รูบิค - ถ้าทำไม่ได้จะ สู้ต่อ หรือ โยนทิ้ง-
- Volver , ความเจ็บปวดของแม่และลูกสาว
- Music and Lyrics , หนังที่น่ารักที่สุดในรอบ(หลาย)ปี
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 , จะสนไปทำไมกับเรื่องอิสรภาพที่ไกลตัว
- Dreamgirls , วันที่ ธุรกิจ กลืนกิน ศิลปะ
- Babel , เราเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ไปแล้วหรือยัง
- Rough , จาก H2 มาสู่ Touch และได้เวลา Rough
- Curse of the Golden Flower , ความเน่าหนอนฟอนเฟะของสถาบันครอบครัว
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus , ความงามที่แตกต่าง โลกที่แตกต่าง
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1 , ไทยจะสิ้นชาติไม่ใช่เพราะใคร หากมิใช่เพราะไทยด้วยกัน
- Perfume: The Story of a Murderer , ทำความรู้จักและเข้าใจ ฆาตกรน้ำหอมมนุษย์
- Blood diamond , "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาฆ่ากันเอง"
- The Black Dahlia , ดอกรักเร่ ที่สวยแค่สไตล์แต่ไร้เสน่ห์
- Night at the Museum , ความบันเทิงสำเร็จรูปที่สนุกเพลินเกินห้ามใจ
- ===== 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ ประจำปี 2549 =====
- +++ 10 "ฉาก"ประทับใจจาก"หนัง"ปีที่ผ่านมา +++
- ++ ชวนเพื่อนๆมาเลือก 10 ตัวละครประทับใจ จากหนังปีที่ผ่านมา ++
- The Holiday , จะทำอย่างไรในวันที่ใจเจ็บ
- Lucky Number Slevin , ของเค้าดี แต่ ผิดที่ ผิดเวลา
- The King and the Clown , ความรักของตัวตลกบนหลังเสือ
- Déjà vu , เอ๊ะ เราเคยเจอมาก่อนหรือเปล่า
- Death Note 2: The Last Name , ได้เวลาเก็บสมุดคืนเจ้าของ
- Saw III , บทเรียนสุดท้ายของคุณครู จิ๊กซอว์
- The Village Album , ถ่ายภาพด้วยหัวใจแล้วบันทึกใส่ความทรงจำ
- 007 : Casino Royale , นี่ซิ เจมส์ บอนด์
- The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?
- The Banquet , แฮมเล็ต เวอร์ชั่น ประหารเจ็ดชั่วโคตร
- ผีสามบท บทที่ 3 : เปนชู้กับผี , พอกันที ผีGMO
- ผีสามบท บทที่ 2 : Monster House , บ้านผีสิงที่แสนจะบันเทิงใจ
- ผีสามบท บทที่ 1 : The Grudge 2 , ปัญหาของ ป๋า กับ เด็กผี
- The Guardian , "สถิติ" ไม่สำคัญเท่า "ทัศนคติและเจตคติ"
- หมากเตะรีเทิร์นส , หมากเกมส์นี้ น่าจะดีได้มากกว่านี้
- 12 เกมสยาม +13 เกมสยอง , มันไม่ใช่แค่เกม
- Cars , 20 ปีของ Pixar กับเรื่องของ "คาร์" (ซึ่งก็คือเรื่องของ "คน")
- The Devil Wears Prada , (จากหนังสือมาเป็นหนัง) ร้ายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
- Death Note , สมุดเล่มนี้ ดี จริงหรือ?
- L'Enfant (The child) , เด็กไม่รู้จักโต
- World Trade Center , เป็น"ฮีโร่"ไม่ได้วัดกันที่ผลลัพธ์
- The Host , สัตว์ประหลาด สนุกประหลาด
- Season changes , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"
- Me and You and Everyone We Know , เราอยู่ร่วมกัน เรารู้จักกัน แต่เราไม่เชื่อมต่อถึงกัน
- Snakes on a Plane , ที่อยากไปดูก็เพราะ "งูบนเครื่องบิน"
- United 93 , ทรงพลัง และ สะเทือนใจ
- Running boy (Marathon) , ทุกชีวิตล้วนมี"หัวใจ"
- โคตรรักเอ็งเลย , เกือบโคตรรัก "โคตรรักเอ็งเลย"
- Sad movie , แม้รักต้องพลัดพรากก็ยังฝากความทรงจำอันงดงาม
- The Break-Up , วิธีทำลายชีวิตคู่ตัวเองให้ย่อยยับ
- แก๊งชะนีกับอีแอบ , หนัง comedy ไทยดีๆยังมีอยู่
- Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest , "สลัด"จานนี้รสชาติดีเพราะ"Johnny Depp"
- Tsotsi , พื้นฐานจิตใจมนุษย์เป็น สีขาว หรือ สีดำ
- Superman Returns , ทำไมโลกใบนี้ยังต้องการ Superman ?
- Silent Hill , ของดีที่อยู่ในมือพ่อครัวขาดฝีมือ
- over the hedge , บทเรียนชีวิตเรื่องมิตรภาพและครอบครัว
- Don't tell , แผลในใจแค่"ลืม"คงไม่พอ
- Slither , คูลฟีเวอร์สีเลือด เชือดมนุษย์โลก
- The Omen , ซาตานอยู่รอบตัวเรา
- Scary movie 4 , ผ่านมา --> ฮา --> ผ่านไป
- Paradise now , สวรรค์อยู่หนใด
- X-Men: The Last Stand , X = mutant , รักร่วมเพศ , คนผิวดำ , ยิว ฯลฯ
- ก้านกล้วย , "ช้างกูอยู่ไหน" >> "ช้างกูอยู่นี่"
- The Da Vinci Code , ศรัทธาที่บิดเบือน
- Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
- Poseidon , จมเร็ว จบเร็ว
- Match point , เกมส์กิเลสของคนเห็นแก่ตัว
- Mission: Impossible III, ภารกิจสุดมันส์ที่ขาดเสน่ห์
- Perhaps love , รักซ้อนรัก หนังซ้อนหนัง อดีตซ้อนปัจจุบัน
- Ice Age: The Meltdown , ได้เวลายุคน้ำแข็งครองเมือง
- Red lights , ผู้ชายไม่รู้ตัว ผู้หญิงไม่รู้ใจ
- Failure to launch , Success to love
- Inside man , คน(ดี/ชั่ว) ใน คน(ดี/ชั่ว)
- Where the Truth Lies , ความจริงนอนนิ่งอยู่ที่ใด ?
- โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง , ฮาน้อยกว่าที่คิด มีสาระมากกว่าที่หวัง
- My girl and I , รักครั้งแรกจะเปลี่ยนเราไปตลอดกาล
- V for Vendetta , เผด็จการรัฐสภา VS. พลังประชาชน
- A History of violence , มาทำความรู้จัก "ความรุนแรง" กัน
- Final Destination 3 , เหล้าเก่าในขวดเก่า
- The Constant Gardener , ในความลับมีความจริง ในความจริงมีความรัก
- คำพิพากษาของมหาสมุทร (Invisible Waves) , คลื่นบาปที่นิ่งสงบ
- Walk the line , มิตรภาพในความรัก
- เด็กหอ , หอนี้มีดีกว่าผีหลอก
- Brokeback Mountain , รักซ่อนเร้น
- Munich , ผลของการสาดน้ำมัน(ความรุนแรง)เพื่อดับไฟ(แค้น)
- Memoirs of a Geisha , ชาเขียวสำเร็จรูปที่ผสมน้ำมากไป
- Prime , รักคงยังไม่พอ
- An Unfinished Life , ชีวิตที่หยุดเดิน
- In Her Shoes , หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต
- Just Like Heaven , เมื่อพื้นที่ของชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ความสุข
- The Promise , คำสัญญา ชะตากรรม ความรัก
- 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ (ของปีที่ผ่านมา)
- 10 ฉากประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- 10 ตัวละครประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and the Wardrobe , ส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับทุกครัวเรือน
- April Snow , บางครั้งความรักก็เจ็บปวดโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
- King Kong , แล้ว "ลิงยักษ์" ก็ตกหลุม "รักหญิง"
- The Descent , ถึงถ้ำ ถึงเลือด ถึงเนื้อ ถึงกระดูก
- The Maid , ผีสิงคโปร์
- The Exorcism of Emily Rose , ผีเข้า(ศาล)
- Hidden (Caché) , ความจริงที่ซุกซ่อน (ในหนังที่ยอดเยี่ยม)
- Chicken Little , กุ๊กไก่ของ Disney ที่ไร้เงา Pixar
- Nana , โลกของนานะ โลกของความรัก ความฝัน และ มิตรภาพ
- เด็กโต๋ , สายธารชีวิตแห่งบ้านแม่โต๋
- Harry Potter and the Goblet of Fire , กีฬาสีสามสถาบันกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
- Corpse Bride , รักไม่มีวันตาย
- Yes , บทกวีอีโรติค ความรัก การเมือง และ การมีตัวตน
- รับน้องสยองขวัญ , หายใจเข้าก็ เฮ้อ หายใจออกก็ เฮ้อ
- Lord of War , นิ้วที่ลั่นไกจากมือที่มองไม่เห็น
- Saw II , สยองอย่างมีประเด็น
- Goal! , ประตูชัย(goal)เป้าหมายชีวิต
- Proof , ชีวิตที่สับสนของคนที่สูญเสีย
- The Legend of Zorro , ฮีโร่ที่ย่ำอยู่กับที่
- Flightplan , ขึ้นได้สูง บินได้สวย ลงไม่นิ่ม
- Sky High , อยากจะเป็น hero ที่ "เปลือก" หรือที่ "แก่น"
- A Sound of Thunder , เรื่องราวอยู่ในโลกอนาคต ตัวหนังอยู่ในโลกอดีต
- Red Eye , ไม่ใช่แค่ Fight or Flight แต่ยังเป็น Fight on Flight
- เพื่อนสนิท , เมื่อเส้นแบ่งของ "คนรัก" กับ "เพื่อน" เริ่มเลือนราง
- Transporter 2 ควบ Into the Blue , ขึ้นรถดีกว่าลงเรือ
- Madagascar , มิตรภาพกับการเรียนรู้ชีวิต และ นกเพนกวิน
- Cinderella man , Jim Braddock ชายที่ไม่ได้เป็นแค่นักมวย
- Dear Frankie , คำลวง ความรัก ครอบครัว
- Dark Water , ความสัมพันธ์แม่-ลูก-ผี (จากหนังสือสู่ภาพยนตร์)
- Seven Swords , ... ที่ควรยาวกลับสั้น ที่ควรสั้นกลับยาว ...
- แหยม ยโสธร , ขำขำ - หม่ำ - อะฮึ่ย อะฮึ่ย
- Charlie and the Chocolate Factory , Imagination is more important than knowledge
- The Skeleton Key , ไขได้ดีพอสมควร
- About Love , เรื่องราวที่ "เกี่ยวกับ "รัก""
- 5x2 , สมการความรักของคน 2 คน
- ต้มยำกุ้ง , อร่อยรสแซ่บชามโตเกินมาตรฐานแต่อาจไม่ผ่านเชลล์ชวนชิม
- Somersault , ความรัก - Sex - เด็กสาวและความทุกข์ทรมานใจ
- The Upside of Anger , เรื่องหนักๆของครอบครัวที่เล่าอย่างเบาๆ
- Land of the Dead , หนึ่งเรื่องราวของซอมบี้ที่กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
- Crash , ผลกระทบของการชนที่"คน"มีต่อกันและกัน
- วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น , หนังครอบครัวสำหรับคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี
- The Island , โลกอนาคตและโคลนนิ่งฉบับระเบิดเถิดเทิง
- The Keys to the House , "บ้าน"หลังนี้จะมีความรักเป็น"กุญแจ"
- The Longest Yard , เกมส์เก่าเอามาเล่าใหม่ใช้วิธีการเดิม
- Fantastic Four , ความสนุกสูตรสำเร็จที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลิน
- War of the Worlds , เมื่อสปีลเบิร์กเลิกรักมนุษย์ต่างดาว
- Swing Girls , สวิงกันแบบคึกคัก สดใส ไร้มลพิษ
- Hotel , โรงแรมที่ไร้เรื่องราว
- Assault on Precinct 13 , อีกหนึ่งความจนตรอกที่ระทึกคุ้มค่า
- Batman Begins , ปฐมบทแรกบินกับการตีความครั้งใหม่
- Mr. and Mrs. Smith , เรื่องราวชีวิตคู่ที่สวมเสื้อคลุมหนังแอคชั่น
- มหาลัย' เหมืองแร่ , เหมืองแร่และชีวิตกับหน่วยกิตที่ต้องขุด
- House of Wax , ความสยองที่แปลกตากับหุ่นขี้ผึ้ง สองดาราและหนึ่งปารีส
- Sin city , ฟิล์มนัวร์ที่ลงตัวและเจ๋ง
- Star Wars: Episode III Revenge of the Sith , การปิดตำนานและการเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์
- The Jacket , การเดินทางข้ามเวลา ความหลอนและวงจรชีวิต
- A Lot Like Love , รักด้วยใจแต่ตัดสินใจด้วยสมอง
- เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ
- Be With You , ความสุขของฉันคือ"การได้อยู่กับคุณ"
- Hostage , เหล้าเก่าในขวดใหม่ที่ไม่น่าผิดหวัง
- Kingdom of Heaven , สงครามครูเสดครั้งนี้ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่น่าเสียดาย
- Spanglish , เรื่องราวที่กระจัดกระจายแต่ให้แง่มุมหลากหลายในครอบครัว
- Guess Who , เสียงฮาจากความแตกต่างและBernie Mac
- The Interpreter , ทริลเลอร์ที่ดี(แต่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น)
- Hide and Seek , มีปมที่ดีแต่มีบทที่อ่อน
- The Chorus (Les Choristes) , ง่ายๆแต่ได้ใจ
- Hitch , สนุก น่ารัก ขำขำ รู้สึกดี
- Sahara , หนังสนุกแค่เป็นช่วงๆหรือผมง่วงกันแน่
- Boogeyman , ตื่นเต้นตกใจ แต่ อะไร ยังไง ทำไม?
- Tokyo Godfathers , การตามหา"ครอบครัว"ที่สนุกมากๆ
- บุปผาราตรี เฟส 2 , เมื่อบุปผาเริ่มร่วงโรย
- Dont move , นอกจากตัดสินใคร คุณเข้าใจใครคนนั้นดีแล้วหรือยัง?
- Crying Out for Love, In the Center of the World , ความทรงจำและเทปคาสเสตต์/ความรักและใจกลางโลก
- The Ring Two , ไม่สมศักดิ์ศรี "The Ring"
- A Very Long Engagement , หนังที่มากไปด้วยความทะเยอทะยาน
- Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events , การดัดแปลง"โชคร้าย"ที่ทำได้"ดี"
- Hana & Alice , มิตรภาพ ความรัก ความทรงจำ
- Hotel Rwanda , หนังที่ให้คนดูมากกว่าความเป็นหนังดี
- In Good Company , ผู้ชายขาขึ้นกับผู้ชายขาลง
- Being Julia , โลก(ของจูเลีย)คือละคร
- หลวงพี่เท่ง , เรื่อยๆขำๆพอไปวัดไปวา
- Sideways , รักนุ่มๆชุ่มไวน์ในวันเบาๆ
- Million Dollar Baby , ความยอดเยี่ยมท่ามกลางศรัทธาและความอบอุ่น
- Constantine , "คนเห็นผี"ปราบลูกปีศาจ
- Shall we dance , คุณเต้นรำกับคู่ของคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไร
- Finding Neverland , งดงามเหลือเกิน
- Kung Fu Hustle , ตลกน้อย สนุกมาก และลงตัว
- 2046 , ไปแล้วอย่าลืมกลับมา
- Ray , มีดีที่Jamie Foxx
- The Phantom of the Opera , ภายใต้หน้ากากมีเพียงความว่างเปล่า
- โรงเตี๊ยม , มีอะไรดีๆกว่าที่คิดและโฆษณา
- Meet the fockers , เรื่องของหนังตลกและครอบครัว
- Closer , เมื่อความรักถูกสำรวจและตีแผ่ผ่านตัวละคร
- The Aviator, .....And this is Howard Hughes
- The Forgotten, ไม่มีอะไรน่าจดจำ
- Birth , ยอดเยี่ยมในความหนักแน่นและเนิบนาบ
- ****1ปีที่ผ่านมา ฉากใดในหนังที่คุณประทับใจ ****
- 5หนังชอบ กับ 5หนังไม่ชอบ ของคุณในปี2547คือ....,
- National Treasure, เมื่อBruckheimerมาสร้างDavinci's code
- The Polar Express, ตื่นตาแต่ไม่ตื่นใจ
- แจ๋ว, แจ๋วน้อยกว่าที่หวัง
- Bridget Jones 2, รู้จักเธอมากขึ้นและรู้สึกดีกว่าที่คิด
- The Incredibles, ครอบครัวหรรษา
- ขุนกระบี่ ผีระบาด, กล้าที่จะบ้า ก็กล้าที่จะดู
- Ocean's Twelve, หนังขาย"เสน่ห์ดารา"
- หมานคร, เมืองนี้ภาพสวย+เพลงเพราะ+ประหลาดและยาก
- กั๊กกะกาวน์, "ใจ"คุณเต้นอย่างไรเมื่อคุณมีความรัก
- Alexander, ดราม่าชั้นดีแต่ความสนุกเป็นระลอกคลื่น
- Wimbledon, For love of the game+NottingHill+ภราดร
- Love me if you dare, หนังรักแปลกกับความรู้สึกก้ำกึ่ง
- Cellular, สนุกเป็นบ้า แอคชั่นแอบฮา
- Saw, OldBoy+Cube+ฆาตกรโรคจิต
- Ladder49, สิงห์ผจญเพลิงชื่อฮัวควิน ฟีนิกซ์
- The Grudge, เมื่อ"เด็กผี" go inter เป็น "โคตรผีดุ"
- Dodgeball, ฮาน้อยกว่าที่หวังแต่สนุกกว่าที่คิด
- Sky Captain and The World of Tomo, หนังไซไฟสไตล์"ฟ้าทะลายโจร"
- Resident Evil 2, อลิซเท่+เนเมซิสเห่ย+จิลเฉยๆ
- Shark Tale, คุณเป็น"somebody"แล้วหรือยัง
- สายล่อฟ้า, ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนกับความสนุกกลางๆ
- Shutter กดติดวิญญาณ, นานๆทีจะมีหนังผีไทยดีๆให้ดูกัน
- The Terminal, น่ารัก นุ่มนวล และสนุกกว่าที่คิด
- Wicker park( spoilแล้วจะบอก), ลุ่มหลง คลั่งไคล้ หลอกลวงและความรัก
- Eternal sunshine รอบ2, ความอภิรมย์ที่มากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
- EternalSunshineOfTheSpotlessMind, คุณเคยอยากจะลืมบางสิ่งในชีวิตคุณบ้างไหม
- Three Extreme, อึดอัด ขยะแขยง รุนแรง และผิดหวัง
- Man on fire (no spoil), คนจริงเผาแค้น เผานานจนผมเกือบหลับ
- Bourne Supremacy, มันต้องให้ได้ยังงี้ซิ ต้องยังงี้ซิ
- Collateral...., it started like any other night
- Windstruck, งานมือตกของกวัก แจ ยอง
- งานของ M. Night Shyamalan, 6th sense/Unbreakable/Sign/และTheVillage
|
|
|
|
|
|
|
|
จริงๆข้าพเจ้าไม่ค่อยชอบภาคนี้ตอนเป็นหนังสือเท่าไหร่เลย รู้สึกมันโหดเลือดตกยางออก อ่านแล้วเครียดไปสามวันสามคืน แต่อ่านที่คุณเขียนแล้ว จะพยายามหาเวลาอันไม่ค่อยจะมีไปดูหนังในช่วง Thanksgiving นี้ให้ได้
กลับบ้านคราวนี้จะไปหาภาคไทยมาอ่านด้วย อิอิ อ่านภาคอังกฤษแล้วแต่ยังชอบอ่านภาษาไทยอยู่ดี
ขอบคุณมากสำหรับบทความดีๆนะคะ ชักสงสัยว่าคุณเขียนลงนิตยสารบ้างหรือเปล่า จะไปตามหามาอ่านค่ะ
Happy Thanksgiving ค่ะ