Munich , ผลของการสาดน้ำมัน(ความรุนแรง)เพื่อดับไฟ(แค้น)
ข้อมูล: Munich มีความยาว 164 นาที , หนังดัดแปลงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงตั้งแต่การสังหารหมู่ที่โอลิมปิคปี1972และการล้างแค้นถัดจากนั้น , หน้งได้รับเรท R มีหลายฉากที่รุนแรงถึงเลือดถึงเนื้อ และ มีฉากเปลือย ใน IMDB.com ให้คะแนนเรื่องนี้ 7.8 /10 ส่วนใน //www.rottentomatoes.com ให้เรื่องนี้ Fresh ด้วยคะแนน 78 %
... นอกจากจะเป็นผู้กำกับที่มีความสามารถแล้ว Steven Spielberg ยังมีสายตาของนักการตลาดที่เฉียบแหลม สังเกตจากงานหลายเรื่องในยุคหลังมีความน่าสนใจมากๆตั้งแต่โครงการณ์ยังเป็นวุ้น เพราะหน้าหนังที่เขาเลือกหยิบมาทำมีแรงดึงดูดน่าสนใจสูง
ผมเองมีปัญหากับหนังในยุคหลังๆของสปีลเบิร์กคือมักจะขัดใจกับ การจบหนังไม่ลงในจุดที่มันควรจะเป็น ทำให้หลายครั้งอารมณ์คนดูถูกลากยาวไปและไม่มีพลังพอ เช่น Catch Me if You Can จบดีแต่น่าจะจบก่อนหน้านั้นซัก10 นาที ,The Terminal - หลังจากออกจากสนามบินคือส่วนเกินที่สวยงามแต่แปลกแยก , A.I. หนังน่าจะจบตั้งแต่องก์สองใต้น้ำจะทำให้หนังเป็นที่น่าจดจำได้มากกว่าแต่ความใจดีของเขาก็ทำให้มีองก์สามออกมา หรืองานล่าสุดอย่าง War of the worlds ฉากจบแสนงามที่บอสตันคือฉากจบที่ขัดแย้งความรู้สึกอย่างแรงกับการมองโลกในแง่ดีของผู้กำกับ และมันก็สะท้อนอีกจุดอ่อนของสปีลเบิร์กคือในความเป็นพ่อมดผู้รังสรรค์โลกจินตนาการสำหรับเด็กได้อย่างดี เมื่อใดก็ตามที่เขาลงมือทำหนังที่เป็นโลกของผู้ใหญ่ เขาเองไม่สามารถสลัดความเป็นเด็กในตัวได้พ้นและมันก็แสดงออกมาในหนังแทบทุกครั้งไป โลกมืดบนจอเซลลูลอยด์ของเขามักมีแสงสว่างรออยู่ปลายทางเสมอ ไม่เว้นแม้แต่ Schindlers List หนังที่ดูเหมือนจะสะท้อนสังคมที่โหดร้ายแต่มันก็ยังลงท้ายเหมือนคนแก่ใจดี เมื่อเขาหยิบ Munich มาทำ มันกระตุ้นเร้าให้ผมอยากรู้ว่า ครั้งนี้เขาจะถ่ายทอดส่วนที่มืดมนในใจคนออกมาอย่างไร
War of the worlds และ Munich มีลักษณะการมองเหตุการณ์เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ ทั้งสองเรื่องมองโลกผ่านสองระดับ ระดับมนุษย์ (Ray Ferrier - พ่อที่พยายามกอบกู้ความเป็นพ่อ , Avner พ่อที่กำลังสูญเสียจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์) และ ระดับสังคม (โลกที่วุ่นวายจากการรุกรานและความเห็นแก่ตัว , โลกที่วุ่นวายจากการล้างแค้นไปมา)
...ปี 1972 การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 20 จัดขึ้นที่เมืองมิวนิค ในประเทศเยอรมันตะวันตก วงกลมห้าห่วงมีความหมายถึงการสมัครสมานสามัคคีของแต่ละประเทศ แต่ในครั้งนั้นโอลิมปิกมีความหมายตรงกันข้าม เมื่อผู้ก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์บุกเข้าไปยึดหมู่บ้านนักกีฬา และ จับนักกีฬาชาวอิสราเอลเป็นตัวประกัน เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษ เหตุการณ์นั้นลงเอยด้วยโศกนาฏกรรม เมื่อทางการใช้ความรุนแรงเข้าสยบผู้ก่อการร้ายส่งผลให้ส่วนหนึ่งของผู้ก่อการร้ายเสียชีวิต และ ผู้ก่อการร้ายทำการสังหารตัวประกันทั้งหมดเสียชีวิตด้วยเช่นกัน กลุ่มผู้ก่อการร้ายนั้นใช้ชื่อกลุ่มว่า "กันยาทมิฬ (Black September)"
...Munich เล่าเรื่องถัดจากนั้น เมื่อชาวอิสราเอลรวบรวมกลุ่มคนเพื่อทำการล้างแค้นจัดทีมปฏิบัติการเพื่อลอบสังหารผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนั้น
Avner(Eric Bana) ชายหนุ่มที่กำลังจะเป็นพ่อคนและตัวเขาเองเป็นลูกของอดีตฮีโร่ของประเทศ ได้รับข้อเสนอจากเบื้องบนให้เป็นผู้นำทีมปฏิบัติการสังหารในเขตทวีปยุโรปพร้อมลูกทีมอีก4คน ...เขาถูกเลือกมาไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นมือดีอันดับหนี่งแต่เพราะเขาเป็นคนธรรมดาสามัญที่ไม่เตะตาใคร งานที่เขาทำต้องปิดเป็นความลับ เขาจะมีสถานภาพเหมือนไร้ตัวตนเพราะจะไม่มีหน่วยงานใดเปิดเผยหนุนหลังยามที่ผิดพลาด การตัดสินใจรับงานของเขาทำให้เขาหมดโอกาสที่จะพบหน้าลูกยามเกิด
ช่วงเวลาของหนังถัดจากนี้ในช่วงแรก ให้ความรู้สึกเหมือนดู Oceans eleven ที่เหล่ามือสังหารมาวางแผนกันฆ่าเป้าหมายตามประเทศต่างๆในทวีปยุโรป การวางแผนปฏิบัติการณ์ที่รอบคอบ ซับซ้อน ก่อนที่จะมีการเลี้ยงฉลองเมื่อเสร็จภารกิจ จะแตกต่างจาก Oceans eleven ตรงว่าหนังไม่ได้จบแค่นั้น หนังค่อยๆเปลี่ยนตัวเองจากการเป็นหนังประเภทสายลับนักฆ่า มุ่งเข้าสู่ ประเด็นที่ว่า ความรุนแรงเปลี่ยนแปลง คน และ สังคม ไปได้อย่างไร
...ในงานชิ้นแรก Avner ฆ่าเป้าหมายด้วยมือที่สั่นไหว ใจที่ลังเล เขามีลักษณะที่ papa หัวหน้ากลุ่มที่ขายข้อมูลชาวฝรั่งเศสบรรยายลักษณะตัวเขาไว้ว่ามี มือของคนฆ่าสัตว์แต่มีใจที่อ่อนโยน (Butcher's hands, gentle souls.) หลังภารกิจแรก เขาและลูกทีมกลับมานั่งกินอาหารร่วมกันเหมือนงานสังสรรค์ปกติ และ รับงานชิ้นต่อๆไปเพื่อให้ครบเป้าหมายทั้ง 11 คนที่อยู่ในมือ เขาเลือกทำหน้าที่ตามกฎอย่างเคร่งครัด เขาไม่ฆ่าคนอื่นที่อยู่นอกบัญชีแม้จะรู้ว่าคนๆนั้นมีส่วนกับเหตุการณ์มิวนิค เขาพร้อมจะยกเลิกปฏิบัติการหากมีผู้บริสุทธิ์ต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง
Avner เริ่มต้นเหมือนคนที่จิตใจขาวบริสุทธิ์ มีศีลธรรม( SuperEgo )อยู่ในระดับหนึ่ง แต่ในโลกของความเป็นจริงต่อให้เป็นคนที่มีจิตใจดีงามเพียงใดแต่หากไปเกลือกกลิ้งอยู่ในวงการที่สกปรกยากยิ่งนักที่จะไม่เลอะเทอะไปด้วย ต่อให้เราจะเป็นคนดีมีหลักการเพียงใด แต่หากต้องไปทำงานกับเจ้านายที่ไร้จริยธรรมซุกหุ้นขายชาติหรือทำงานที่เกี่ยวข้องกับการโกงกิน ก็ยากนักที่ใจสีขาวของเราจะยังขาวสะอาดต่อไปได้ หากเรามองเห็นจิตใจ Avner ก็จะพบว่ามันค่อยๆหมองหม่นเป็นสีเทาจนสุดท้ายกลายเป็นดำสนิท
....จากการฆ่าที่ระมัดระวังผู้บริสุทธิ์ กลายเป็น ไม่สนใจว่าคนอื่นจะตายไปด้วยหรือไม่ขอให้เป้าหมายถูกกำจัด
...จากการฆ่าเฉพาะในบัญชีรายชื่อ เป็น การฆ่านอกบัญชีเมื่อรู้ว่ามีคนมาทำหน้าที่แทนคนที่ตายไป
...จากการฆ่าที่ทำเพื่อชาติตามหน้าที่ เป็น การฆ่าเพื่อการแก้แค้นให้เพื่อนตามโทสะในใจ
...ฉากที่นายทหารมาตบไหล่เขาหลังเสร็จปฏิบัติการ สีหน้าของเขาบ่งบอกถึงคำถามในใจว่าทั้งหมดที่ทำไปมันเพียงเพื่อเท่านี้จริงๆหรือ สิ่งที่เขาสูญเสียล้วนไม่อาจเรียกกลับคืนมาได้ เพื่อนคนแล้วคนเล่าต้องจากไป แม้แต่ Ephraim (Geoffrey Rush) คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้คนสุดท้ายที่เขาเหลืออยู่ ก็ยังปฏิเสธการเป็นเพื่อนกับเขา มิหนำซ้ำวงจรการเข่นฆ่าก็ยังไม่สิ้นสุดลง
...หลังจากการสังหารครั้งแล้วครั้งเล่า การสูญเสียคนรอบตัวไปคนแล้วคนเล่า จากพ่อคน จากพ่อครัว ยิ่งเขาถลำลึกลงไป จริยธรรมที่เขายึดมั่นมันก็ค่อยๆเลือนลางหายไป สภาพจิตใจก็ถูกกัดกร่อน จากผู้ล่ากลายมาเป็นผู้ถูกล่า ฉากเขากลับไปซ่อนตัวในตู้เสื้อผ้าไม่สามารถนอนบนเตียงเหมือนนักฆ่าในเรื่องเล่าของเพื่อ หรือ การหวาดระแวงรถที่ขับผ่าน สะท้อนสภาพคนที่ตกอยู่ในฝันร้ายตลอดเวลาได้อย่างชัดเจน
สุดท้าย จากที่ papa บอกเขาไว้ว่าเขามี มือของคนฆ่าสัตว์แต่มีใจที่อ่อนโยน จิตใจที่อ่อนโยนของเขาก็สูญสลายไป หลงเหลือไว้แค่ มือของคนฆ่าสัตว์ที่กลับฆ่าได้อย่างหนักแน่นใจเย็นขึ้น และจิตใจที่ฝังไว้ซึ่ง บาป และ ความหวาดกลัว
... Avner และลูกทีมบางคนอาจเกิดความคิดได้ แต่ความคิดได้ของคนเราบางครั้งมันก็สายเกิน เพราะตอนลงมือทำนั้นมันเป็นการทำโดยไม่ได้คิด แต่ทำเพราะต้องการตอบสนองความรู้สึก เช่น ตอนที่ฆ่าหญิงสาวแล้วปล่อยให้อยู่ในสภาพเปลือย เพียงเพราะความรู้สึก เคียดแค้น เกลียดชัง อยากจะให้เธอมีสภาพเหมือนเพื่อนตัวเองที่ถูกฆ่า ก่อนที่จะรู้ตัวว่า สิ่งที่ทำไปนั้น ไม่ได้ทำให้ตัวเองมีความสุขอย่างที่หวังไว้ แถมสิ่งทีได้แถมมา คือ บาปในใจ ที่ไม่อาจถอดถอนไปอีกชั่วชีวิต
....หนังไม่ได้เล่าแค่สภาพจิตวิญญาณของคนที่ถูกปู้ยี่ปู้ยำ แต่ยังทำให้เราเห็นภาพใหญ่ขึ้นของสังคมที่นิยมการสาดดับไฟด้วยน้ำมัน ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากฝ่ายหนึ่ง ถูกอีกฝ่ายหนึ่งพยายามใช้ความรุนแรงเข้ามาสยบ มันทำให้ปฏิกิริยาโต้ตอบเกิดซ้ำกันไปมาอย่างไม่หยุดหย่อน ความเป็นจริงไม่ได้จบลงด้วยการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโค่นอีกฝ่าย แต่เป็นเหมือนอย่างที่ Avner พบว่า เมื่อเขาฆ่า 1 คนตายไป ฝ่ายตรงข้ามกลับยิ่งหาคนใหม่ที่ร้ายยิ่งกว่ามาแทนที่ เมื่อเขาฆ่าไป 1 คน ฝั่งตรงข้ามกลับผุดขึ้นมาอีก 6 สิ่งเหล่านี้เป็นผลกระทบของความรุนแรงที่เกิดขึ้นในทุกชนชาติ ไม่ว่าจะเป็นอิสราเอล ปาเลสไตน์ หรือ ชนชาติไหนๆ
...ฉากหนึ่งหลังการปะทะของสองทีมสังหารใน Safe house สองตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมาสนทนากันอย่างออกรส ประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายพูดคุยถึงเป้าหมายของการต่อสู้ การต่อสู้ของแต่ละคนล้วนมีเหตุผลที่มารองรับ และ บ้าน คือเหตุผลหนึ่งของการต่อสู้ ชาวอิสลามบอก Avner ว่า จะกี่ปีก็ตามเขาก็ยินดีรอต่อสู้เพื่อให้ได้มีบ้านเพื่อรอให้กลับ Avner เองก็มักจะพูดเสมอถึงการกับบ้าน แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ทั้งสองฝ่ายล้วนไม่มีบ้านให้กลับไป ฉากถัดมาที่ Avner ยิงชายคนนี้ต่อหน้าต่อตา คือ จุดสิ้นสุดของบ้านที่วาดหวังของทั้งสองคน เพราะสำหรับ Avner ถึงจะได้กลับไปอยู่บ้านพบลูกและภรรยา แต่ก็ต้องอยู่ด้วยความหวาดระแวง มันไม่ใช่บ้านหลังเดิมที่สุขสงบอบอุ่นอีกต่อไป
Munich...ไม่ได้พูดถึงแค่ยิวหรือปาเลสไตน์ แต่หนังพูดถึง การตัดสินใจของคนที่เลือกใช้ความรุนแรงเป็นเครื่องมือในการทำลายคน ที่สุดท้ายแล้ว มันก็กลับกลายเป็นว่า ความรุนแรงต่างหากที่ใช้คนเป็นเครื่องมือให้ทำลายกันเอง การจบภาพสุดท้ายที่ตึกเวิลด์เทรด เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของอนาคตสำหรับลูกหลานของ Avner ที่ต้องเติบโตมาพบชะตากรรมของการเข่นฆ่าที่ไม่เคยสงบลง เหมือนวงกลมที่หาปลายเส้นหรือจุดสิ้นสุดไม่เจอ และ มันก็จะเป็นชะตากรรมของลูกหลานเราต่อไปด้วยเช่นกัน หากยังมีแต่คนคิดเหมือนกับ Ephraim ว่ามนุษย์ต้องตัดเล็บทุกครั้งที่ยาวขึ้นมา เขาคิดว่า การตัดเล็บที่งอกคือการกำจัดศัตรูและความรุนแรง แท้จริงแล้วไม่ใช่เลย มันเป็นแค่การทำเพื่อตอบสนองความต้องการภายในของตัวเองเสียมากกว่า
...ในทฤษฎีจิตวิเคราะห์เชื่อว่ามนุษย์มีแนวโน้มที่จะทำอะไรเพื่อตอบสนองความต้องการที่มีความรุนแรง เพราะหนึ่งในโครงสร้างของจิตใจคือ id หรือ drive นั้นมีแรงขับของ aggressive drive ที่รอคอยการตอบสนองอยู่ และ สิ่งที่คอยยับยั้งไม่ให้คนเราทำอะไรดังใจคิดผิดศีลธรรมคือ Superego ที่เป็นมโนธรรมคอยยับยั้งการทำผิด ดังนั้น สังคมจะสงบสุขได้ก็ต้องเริ่มต้นจากองค์ประกอบปลีกย่อยในสังคมนั่นคือ มนุษย์ ที่อยู่ในสังคมนั้นๆที่จะรู้จักการใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ไม่ใช้ชีวิตตามความต้องการหรือแรงโทสะในใจ แต่มีดำรงไว้ซึ่งหลักธรรม การรู้จักเมตตา การรู้จักปล่อยวาง รู้จักวางเฉย และ รู้จักให้อภัย เป็นหนทางเดียวทีจะหยุดวงโคจรความรุนแรงนี้ได้ มิเช่นนั้น มิวนิค2,3,4 ก็คงตามมาไม่มีวันจบ
... ผมเองมีปัญหากับหนังของสปีลเบิร์กมาโดยตลอดในช่วงหลังๆดังที่กล่าวไว้ตอนต้น เรื่องนี้ก็เช่นกันที่ผมยังคงสะดุดกับจุดเดิมๆกับหนังของสปีลเบิร์ก เพียงแต่ว่ามันเป็นงานที่เหมือนรู้จุดอ่อนตัวเองแล้วพัฒนาขึ้น นี่เป็นหนึ่งในหนังสปีลเบิร์กในช่วงหลายปีหลังที่ถือว่ามีฉากจบที่ดีที่สุด กระนั้นก็ดี กว่าจะถึงฉากจบหนังก็ออกอาการลากมาพอสมควร ช่วงท้ายของหนังที่พยายามจะเล่นกับสภาพของผู้ที่ถูกล่าของแอฟเนอร์ทำให้หนังยืดออกไปอีกจนรู้สึกว่าหนังมันยาวเกินไป และ ความยาวบวกกับความล้นเกินบางช่วงของหนัง และ ช่วงแรกที่เป็นเหมือนหนังแอคชั่นทีมสายลับนักฆ่านี่เอง ที่จะเป็นตัวลดทอนคุณค่าของหนังลงในยามที่ขึ้นเวทีต่อสู้ล่ารางวัลกับหนังเรื่องอื่นๆ
สำหรับในแง่ของการเล่นกับสภาพจิตใจที่ดำมืดของมนุษย์ งานนี้ของสปีลเบิร์กถือว่าสอบผ่านได้ดี แม้ว่าจะมีกลิ่นไอของการเป็นคนมองโลกในแง่ดีอยู่บ้าง แต่หนังก็สามารถสำรวจสภาพจิตวิญญาณที่ค่อยๆเปลี่ยนแปลงจากผ้าขาวเป็นสีดำของตัวละครได้อย่างน่าเชื่อถือ ฉากรุนแรงในเรื่องหลายๆฉากรวมไปถึงฉากเซ็กส์ในตอนท้ายมันทำให้คนดูหดหู่และกดดันอย่างรู้สึกจริงไม่ได้ปรุงแต่ง หนังไม่พยายามที่จะให้ความหวังหรือแสงสว่างที่ดูดีจนเกินไปอย่างที่เคยปรากฎในงานของสปีลเบิร์ก
... องค์ประกอบอื่นๆอยู่ในระดับยอดเยี่ยม ช่วงแรกของหนังดำเนินเรื่องถอดมาจากข้อเท็จจริงที่ปรากฎขึ้นไม่ว่าจะเป็นการบุกเข้าหมู่บ้านนักกีฬาโดยมีนักกีฬาชาติอื่นที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เข้าช่วยเหลือ , การยึดตัวประกันบนที่พักและการที่ผู้ก่อการร้ายรู้การเคลื่อนไหวของทางการผ่านการถ่ายทอดโทรทัศน์ ฯลฯ
หนังตรึงอารมณ์คนดูได้อย่างอยู่หมัด การถ่ายภาพและจัดวางรายละเอียดทำให้ภาพในหนังค่อยๆกระหน่ำความรุนแรงตามมาพร้อมความรู้สึกหดหู่ตามมาเสมอ หนังฉุดจิตใจคนดูและตัวละครให้ต่ำลงไปพร้อมๆกัน มีหลายฉากที่หนังลำดับภาพแล้วบีบคั้นอารมณ์คนดูได้ดี เช่น ฉากแผนการณ์วางระเบิดผิดพลาดเพราะลูกสาวของเป้าหมายมารับโทรศัพท์แทน หรือ ฉากระเบิดด้านจนลูกทีมต้องไประเบิดด้วยตัวเอง ทำให้คนดูใจระส่ำเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่บางฉากก็ดูจงใจและง่ายๆเกินไป เช่น ฉากตัดสลับพระเอกกับเพื่อนก่อนระเบิดที่กระท่อม
การเล่าเหตุการณ์โอลิมปิคนองเลือดในมิวนิคแบบไม่ครบแล้วค่อยๆเลาะออกมาเล่าเฉลยต่อทีละช็อตๆจนถึงตอนจบ มีผลในการสร้างอารมณ์ร่วมให้กับคนดูได้เป็นอย่างดี มันทำให้คนที่ได้ดูความจริงทั้งหมดได้เห็นความรุนแรงสองเหตุการณ์ไปพร้อมๆกันคือ 1. ความรุนแรงในโอลิมปิคเลือด 2.ความรุนแรงจากการลอบสังหาร ทั้งสองเหตุการณ์นี้จบลงไปพร้อมๆกันในหนังแต่มันไม่ได้จบในชีวิตจริง ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า
หาก Avner ได้มาดูหนังเรื่องนี้พร้อมคนดู ได้เห็นภาพตั้งแต่ต้นจนจบและเห็นผลกระทบของการกระทำไม่ใช่แค่ได้รู้จากข่าว เขาจะยังยินดีมีทัศนคติเข้าร่วมกับมอสสาดอีกหรือไม่ เพราะเขาอาจได้คำตอบตั้งแต่แรกว่า การรับงานนี้ที่เคยคิดว่าเป็นการต่อสู้เพื่อชาติเพื่อลูกหลานตัวเองนั้น แท้จริงแล้ว เขาไม่ได้สู้เพื่ออะไรเลยนอกจากเพื่อตอบสนองโทสะของตัวเองและเพื่อนร่วมชาติ
สิ่งที่ชอบ
1.Eric Bana ... รับบทชายหนุ่มที่มีความเจ็บช้ำในใจติดๆกันมาแล้วสามเรื่องแล้วตั้งแต่ Hulk , Troy มาจนถึงเรื่องนี้ เขาเล่นได้ดีในการแสดงพัฒนาการของชายหนุ่มที่อ่อนโยนบริสุทธิ์ไปเป็นชายหนุ่มที่จมอยู่ในฝันร้ายหวาดระแวง และ ไม่สามารถมองโลกได้เหมือนเดิมอีกต่อไป ฉากโทรศัพท์ไปคุยกับลูกที่โรงแรมและฉากในช่วงท้าย เป็นงานแสดงที่ดีที่สุดของเขาเท่าที่ผมเคยดูมา
2.ความเข้มข้น กดดัน หดหู่ ... สปีลเบิร์กทำในส่วนเหล่านี้ได้ถึง เขาพาคนดูลงไปได้ถึงจุดที่มืดมนและไม่สร้างความหวังในแง่ดีจนเกินไป ยิ่งครึ่งหลังไม่มีช่วงเวลาใดที่ผ่อนคลายจนอาจทำให้คนดูต้องรู้สึกเหนื่อยหลังดูจบ
3.ดนตรีประกอบ... ผลงานของ John Williams มีส่วนช่วยในการกดดันอารมณ์คนดูอย่างมาก
4.ประเด็น ... หนังไม่เอนเอียงฝักใฝ่ฝ่ายใดมากจนเกินไป การสะท้อนผลกระทบของการแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง ที่มีผลต่อสังคมและต่อคนแต่ละคน หนังทำออกมาได้ดีมาก
สิ่งที่ไม่ชอบ
1.การขาดความสม่ำเสมอของหนัง ... หนังทำให้ผมรู้สึกในบางช่วงเวลาว่ามันยาวเกินไป หนังไม่สามารถคุมอารมณ์ได้คงที่ตลอดความยาว 160 นาทีของหนัง มันมีบางช่วงเวลาที่น่าจะตัดทิ้งได้และขยับให้หนังกระชับมากกว่านี้ ช่วงแรกที่เหมือนหนังสายลับนักฆ่าดูสนุกดีแต่หลุดธีมของหนังไปนาน แม้หนังจะปิดฉากสุดท้ายได้ดีแต่ ช่วงท้ายของหนังก็เหมือนการลากยาวจนคนดูอ่อนระโหยโรยแรงมากพอสมควรแล้ว
สรุป ... Munich เป็นหนังดราม่าที่ให้ข้อคิดเรื่องความรุนแรงว่าส่งผลกระทบอะไรได้อย่างตรงประเด็นและชัดเจน หนังให้อารมณ์หดหู่และหนักอึ้งตลอดสองชั่วโมงกว่าๆ คอหนังดราม่าไม่ควรพลาด ในแง่หนังหนักๆของสปีลเบิร์กนี่เป็นงานของสปีลเบิร์กที่ดีแต่ก็ยังไม่ที่สุด และ อาจไม่สามารถคว้ารางวัลใดๆในช่วงเทศกาลล่ารางวัลจากความที่หนังยังไม่กระชับพอ แต่มันก็เป็นหนังที่ควรค่ากับการเสียเงินเข้าดูและเป็นหนังของสปีลเบิร์กที่ผมชอบมากที่สุดในหลายปีหลังพอๆกับ The Terminal
ติดตามบทความใหม่ๆ หรือ บทความน่าสนใจ หรือ เริ่มต้นอ่านBlogนี้มีข้อสงสัย คลิกไปเริ่มต้นที่ --> หน้าแรก
รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง
ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง
ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป
Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2549 |
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2549 0:33:11 น. |
|
33 comments
|
Counter : 5660 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:11:24:59 น. |
|
|
|
โดย: Tai-Sarunya วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:12:36:10 น. |
|
|
|
โดย: tong IP: 202.28.181.10 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:18:28:05 น. |
|
|
|
โดย: ชิวเทียน วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:20:46:27 น. |
|
|
|
โดย: azzurrini วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:21:41:54 น. |
|
|
|
โดย: เข็มขัดสั้น IP: 202.183.190.14 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:11:17 น. |
|
|
|
โดย: คากินั๊ง IP: 61.91.96.232 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:40:47 น. |
|
|
|
โดย: 20 กุมภาพันธ์ 2549 IP: วันที่: 14:18:30 เวลา:20.139.250.201 น. |
|
|
|
โดย: CHATCHAWAN IP: 20.139.250.201 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:14:20:44 น. |
|
|
|
โดย: Admission Boy (nanoguy ) วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:16:41:05 น. |
|
|
|
โดย: Ruudy IP: 203.118.114.23 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:17:15:13 น. |
|
|
|
โดย: โกโต้ เคนสุเกะ IP: 202.28.27.5 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:17:10:59 น. |
|
|
|
โดย: โกโต้ เคนสุเกะ IP: 202.28.27.5 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:17:25:50 น. |
|
|
|
โดย: amin IP: 61.90.73.155 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:22:10:05 น. |
|
|
|
โดย: บลูยอชท์ IP: 210.1.33.130 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:0:41:37 น. |
|
|
|
โดย: บลูยอชท์ (อีกที) IP: 210.1.33.130 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:0:45:10 น. |
|
|
|
โดย: บลูยอชท์ IP: 210.1.33.130 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:22:28:33 น. |
|
|
|
โดย: บลูยอชท์ (อีกที) IP: 210.1.33.130 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:23:06:17 น. |
|
|
|
โดย: บลูยอชท์ IP: 210.1.33.130 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:0:57:37 น. |
|
|
|
โดย: คนข้างบนแหละ พอดีเขียนไม่ครบ IP: 210.1.33.130 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:1:04:56 น. |
|
|
|
โดย: แมวน้อยในลังส้ม IP: 58.106.38.50 วันที่: 15 เมษายน 2549 เวลา:13:54:29 น. |
|
|
|
โดย: ^ ^ ให้ดูอีกมุมนะคะ ในมุมที่คงไม่ได้เห็นในหนังฮอลีวูด IP: 72.178.243.184 วันที่: 22 กรกฎาคม 2549 เวลา:11:35:50 น. |
|
|
|
โดย: heartfelt melody IP: 58.9.57.210 วันที่: 27 สิงหาคม 2549 เวลา:20:03:00 น. |
|
|
|
โดย: Cyberbean IP: 210.86.128.231 วันที่: 11 กันยายน 2549 เวลา:16:04:22 น. |
|
|
|
โดย: hangdapsopien IP: 202.57.129.12 วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:17:13:44 น. |
|
|
|
โดย: เลือดจี๋เหลือง IP: 58.8.120.80 วันที่: 9 ตุลาคม 2549 เวลา:1:00:25 น. |
|
|
|
โดย: คุณนายเอ๊นท์ (คุณนายเอ๊นท์ ) วันที่: 2 เมษายน 2550 เวลา:21:58:01 น. |
|
|
|
โดย: นักวิจารณ์สมัครเล่น IP: 125.24.181.222 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:17:36 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | |
|
|
|
|
- Next , ทรงผมชวนกลุ้มใจกับหนังไซไฟดูเพลินๆ
- Spider-Man 3 , แมงมุมดำตัวนั้น ฉันเห็นมันอยู่ในใจเราทุกคน
- Miss potter , เรื่องของเธอ(พ็อตเตอร์)และผมฯ
- Me...Myself ขอให้รักจงเจริญ , แค่นี้ก็พอแล้ว
- Meet the Robinsons , เมื่อพบความผิดหวังจะโทษโน่นโทษนี่ หรือ เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป
- Shooter , หนังแอคชั่นที่ดูจบแล้ว"เออ มันดีแฮะ"
- Hannibal Rising , ความน่าผิดหวังของหนังฮานนิบาล
- Confession of pain , ความแค้นอันแสนเศร้า
- Pans Labyrinth , คือจินตนาการแสนสวยงาม หรือ คือความจริงที่เจ็บปวดและขมขื่น
- The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23
- เมล์นรก หมวยยกล้อ , รถเมล์สายนี้ไม่ตลกแต่สนุก
- The Lives of Others , อ๊ะ นี่มัน Infernal affairs เวอร์ชั่นกำแพงเบอร์ลิน
- Sunshine , อาทิตย์สิ้นแสง ชีวิตสิ้นสูญ
- The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)
- แฝด , เข้าใจพิม เข้าใจพลอย เข้าใจ"แฝด"
- I'm a Cyborg, But That's OK , แต่ I ไม่ค่อย OK
- The Good Shepherd , จะลงเรือทั้งทีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
- Bridge to Terabithia , Just close your eyes but keep your mind wide open
- 300 , นี่คือสปาตั้น(โว้ย) ... พลั่กกกกกก
- The Queen , แม้จะเป็นเรื่องของ 'ควีน' แต่นี่คือ การกะเทาะเปลือกเล่าเรื่อง 'คน'
- Rocky Balboa , ชีวิตไม่ได้สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน
- Charlotte's Web , มิตรภาพไม่ได้มีราคา
- The Pursuit of Happyness , ปัญหาชีวิตก็เหมือน รูบิค - ถ้าทำไม่ได้จะ สู้ต่อ หรือ โยนทิ้ง-
- Volver , ความเจ็บปวดของแม่และลูกสาว
- Music and Lyrics , หนังที่น่ารักที่สุดในรอบ(หลาย)ปี
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 , จะสนไปทำไมกับเรื่องอิสรภาพที่ไกลตัว
- Dreamgirls , วันที่ ธุรกิจ กลืนกิน ศิลปะ
- Babel , เราเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ไปแล้วหรือยัง
- Rough , จาก H2 มาสู่ Touch และได้เวลา Rough
- Curse of the Golden Flower , ความเน่าหนอนฟอนเฟะของสถาบันครอบครัว
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus , ความงามที่แตกต่าง โลกที่แตกต่าง
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1 , ไทยจะสิ้นชาติไม่ใช่เพราะใคร หากมิใช่เพราะไทยด้วยกัน
- Perfume: The Story of a Murderer , ทำความรู้จักและเข้าใจ ฆาตกรน้ำหอมมนุษย์
- Blood diamond , "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาฆ่ากันเอง"
- The Black Dahlia , ดอกรักเร่ ที่สวยแค่สไตล์แต่ไร้เสน่ห์
- Night at the Museum , ความบันเทิงสำเร็จรูปที่สนุกเพลินเกินห้ามใจ
- ===== 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ ประจำปี 2549 =====
- +++ 10 "ฉาก"ประทับใจจาก"หนัง"ปีที่ผ่านมา +++
- ++ ชวนเพื่อนๆมาเลือก 10 ตัวละครประทับใจ จากหนังปีที่ผ่านมา ++
- The Holiday , จะทำอย่างไรในวันที่ใจเจ็บ
- Lucky Number Slevin , ของเค้าดี แต่ ผิดที่ ผิดเวลา
- The King and the Clown , ความรักของตัวตลกบนหลังเสือ
- Déjà vu , เอ๊ะ เราเคยเจอมาก่อนหรือเปล่า
- Death Note 2: The Last Name , ได้เวลาเก็บสมุดคืนเจ้าของ
- Saw III , บทเรียนสุดท้ายของคุณครู จิ๊กซอว์
- The Village Album , ถ่ายภาพด้วยหัวใจแล้วบันทึกใส่ความทรงจำ
- 007 : Casino Royale , นี่ซิ เจมส์ บอนด์
- The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?
- The Banquet , แฮมเล็ต เวอร์ชั่น ประหารเจ็ดชั่วโคตร
- ผีสามบท บทที่ 3 : เปนชู้กับผี , พอกันที ผีGMO
- ผีสามบท บทที่ 2 : Monster House , บ้านผีสิงที่แสนจะบันเทิงใจ
- ผีสามบท บทที่ 1 : The Grudge 2 , ปัญหาของ ป๋า กับ เด็กผี
- The Guardian , "สถิติ" ไม่สำคัญเท่า "ทัศนคติและเจตคติ"
- หมากเตะรีเทิร์นส , หมากเกมส์นี้ น่าจะดีได้มากกว่านี้
- 12 เกมสยาม +13 เกมสยอง , มันไม่ใช่แค่เกม
- Cars , 20 ปีของ Pixar กับเรื่องของ "คาร์" (ซึ่งก็คือเรื่องของ "คน")
- The Devil Wears Prada , (จากหนังสือมาเป็นหนัง) ร้ายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
- Death Note , สมุดเล่มนี้ ดี จริงหรือ?
- L'Enfant (The child) , เด็กไม่รู้จักโต
- World Trade Center , เป็น"ฮีโร่"ไม่ได้วัดกันที่ผลลัพธ์
- The Host , สัตว์ประหลาด สนุกประหลาด
- Season changes , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"
- Me and You and Everyone We Know , เราอยู่ร่วมกัน เรารู้จักกัน แต่เราไม่เชื่อมต่อถึงกัน
- Snakes on a Plane , ที่อยากไปดูก็เพราะ "งูบนเครื่องบิน"
- United 93 , ทรงพลัง และ สะเทือนใจ
- Running boy (Marathon) , ทุกชีวิตล้วนมี"หัวใจ"
- โคตรรักเอ็งเลย , เกือบโคตรรัก "โคตรรักเอ็งเลย"
- Sad movie , แม้รักต้องพลัดพรากก็ยังฝากความทรงจำอันงดงาม
- The Break-Up , วิธีทำลายชีวิตคู่ตัวเองให้ย่อยยับ
- แก๊งชะนีกับอีแอบ , หนัง comedy ไทยดีๆยังมีอยู่
- Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest , "สลัด"จานนี้รสชาติดีเพราะ"Johnny Depp"
- Tsotsi , พื้นฐานจิตใจมนุษย์เป็น สีขาว หรือ สีดำ
- Superman Returns , ทำไมโลกใบนี้ยังต้องการ Superman ?
- Silent Hill , ของดีที่อยู่ในมือพ่อครัวขาดฝีมือ
- over the hedge , บทเรียนชีวิตเรื่องมิตรภาพและครอบครัว
- Don't tell , แผลในใจแค่"ลืม"คงไม่พอ
- Slither , คูลฟีเวอร์สีเลือด เชือดมนุษย์โลก
- The Omen , ซาตานอยู่รอบตัวเรา
- Scary movie 4 , ผ่านมา --> ฮา --> ผ่านไป
- Paradise now , สวรรค์อยู่หนใด
- X-Men: The Last Stand , X = mutant , รักร่วมเพศ , คนผิวดำ , ยิว ฯลฯ
- ก้านกล้วย , "ช้างกูอยู่ไหน" >> "ช้างกูอยู่นี่"
- The Da Vinci Code , ศรัทธาที่บิดเบือน
- Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
- Poseidon , จมเร็ว จบเร็ว
- Match point , เกมส์กิเลสของคนเห็นแก่ตัว
- Mission: Impossible III, ภารกิจสุดมันส์ที่ขาดเสน่ห์
- Perhaps love , รักซ้อนรัก หนังซ้อนหนัง อดีตซ้อนปัจจุบัน
- Ice Age: The Meltdown , ได้เวลายุคน้ำแข็งครองเมือง
- Red lights , ผู้ชายไม่รู้ตัว ผู้หญิงไม่รู้ใจ
- Failure to launch , Success to love
- Inside man , คน(ดี/ชั่ว) ใน คน(ดี/ชั่ว)
- Where the Truth Lies , ความจริงนอนนิ่งอยู่ที่ใด ?
- โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง , ฮาน้อยกว่าที่คิด มีสาระมากกว่าที่หวัง
- My girl and I , รักครั้งแรกจะเปลี่ยนเราไปตลอดกาล
- V for Vendetta , เผด็จการรัฐสภา VS. พลังประชาชน
- A History of violence , มาทำความรู้จัก "ความรุนแรง" กัน
- Final Destination 3 , เหล้าเก่าในขวดเก่า
- The Constant Gardener , ในความลับมีความจริง ในความจริงมีความรัก
- คำพิพากษาของมหาสมุทร (Invisible Waves) , คลื่นบาปที่นิ่งสงบ
- Walk the line , มิตรภาพในความรัก
- เด็กหอ , หอนี้มีดีกว่าผีหลอก
- Brokeback Mountain , รักซ่อนเร้น
- Munich , ผลของการสาดน้ำมัน(ความรุนแรง)เพื่อดับไฟ(แค้น)
- Memoirs of a Geisha , ชาเขียวสำเร็จรูปที่ผสมน้ำมากไป
- Prime , รักคงยังไม่พอ
- An Unfinished Life , ชีวิตที่หยุดเดิน
- In Her Shoes , หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต
- Just Like Heaven , เมื่อพื้นที่ของชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ความสุข
- The Promise , คำสัญญา ชะตากรรม ความรัก
- 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ (ของปีที่ผ่านมา)
- 10 ฉากประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- 10 ตัวละครประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and the Wardrobe , ส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับทุกครัวเรือน
- April Snow , บางครั้งความรักก็เจ็บปวดโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
- King Kong , แล้ว "ลิงยักษ์" ก็ตกหลุม "รักหญิง"
- The Descent , ถึงถ้ำ ถึงเลือด ถึงเนื้อ ถึงกระดูก
- The Maid , ผีสิงคโปร์
- The Exorcism of Emily Rose , ผีเข้า(ศาล)
- Hidden (Caché) , ความจริงที่ซุกซ่อน (ในหนังที่ยอดเยี่ยม)
- Chicken Little , กุ๊กไก่ของ Disney ที่ไร้เงา Pixar
- Nana , โลกของนานะ โลกของความรัก ความฝัน และ มิตรภาพ
- เด็กโต๋ , สายธารชีวิตแห่งบ้านแม่โต๋
- Harry Potter and the Goblet of Fire , กีฬาสีสามสถาบันกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
- Corpse Bride , รักไม่มีวันตาย
- Yes , บทกวีอีโรติค ความรัก การเมือง และ การมีตัวตน
- รับน้องสยองขวัญ , หายใจเข้าก็ เฮ้อ หายใจออกก็ เฮ้อ
- Lord of War , นิ้วที่ลั่นไกจากมือที่มองไม่เห็น
- Saw II , สยองอย่างมีประเด็น
- Goal! , ประตูชัย(goal)เป้าหมายชีวิต
- Proof , ชีวิตที่สับสนของคนที่สูญเสีย
- The Legend of Zorro , ฮีโร่ที่ย่ำอยู่กับที่
- Flightplan , ขึ้นได้สูง บินได้สวย ลงไม่นิ่ม
- Sky High , อยากจะเป็น hero ที่ "เปลือก" หรือที่ "แก่น"
- A Sound of Thunder , เรื่องราวอยู่ในโลกอนาคต ตัวหนังอยู่ในโลกอดีต
- Red Eye , ไม่ใช่แค่ Fight or Flight แต่ยังเป็น Fight on Flight
- เพื่อนสนิท , เมื่อเส้นแบ่งของ "คนรัก" กับ "เพื่อน" เริ่มเลือนราง
- Transporter 2 ควบ Into the Blue , ขึ้นรถดีกว่าลงเรือ
- Madagascar , มิตรภาพกับการเรียนรู้ชีวิต และ นกเพนกวิน
- Cinderella man , Jim Braddock ชายที่ไม่ได้เป็นแค่นักมวย
- Dear Frankie , คำลวง ความรัก ครอบครัว
- Dark Water , ความสัมพันธ์แม่-ลูก-ผี (จากหนังสือสู่ภาพยนตร์)
- Seven Swords , ... ที่ควรยาวกลับสั้น ที่ควรสั้นกลับยาว ...
- แหยม ยโสธร , ขำขำ - หม่ำ - อะฮึ่ย อะฮึ่ย
- Charlie and the Chocolate Factory , Imagination is more important than knowledge
- The Skeleton Key , ไขได้ดีพอสมควร
- About Love , เรื่องราวที่ "เกี่ยวกับ "รัก""
- 5x2 , สมการความรักของคน 2 คน
- ต้มยำกุ้ง , อร่อยรสแซ่บชามโตเกินมาตรฐานแต่อาจไม่ผ่านเชลล์ชวนชิม
- Somersault , ความรัก - Sex - เด็กสาวและความทุกข์ทรมานใจ
- The Upside of Anger , เรื่องหนักๆของครอบครัวที่เล่าอย่างเบาๆ
- Land of the Dead , หนึ่งเรื่องราวของซอมบี้ที่กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
- Crash , ผลกระทบของการชนที่"คน"มีต่อกันและกัน
- วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น , หนังครอบครัวสำหรับคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี
- The Island , โลกอนาคตและโคลนนิ่งฉบับระเบิดเถิดเทิง
- The Keys to the House , "บ้าน"หลังนี้จะมีความรักเป็น"กุญแจ"
- The Longest Yard , เกมส์เก่าเอามาเล่าใหม่ใช้วิธีการเดิม
- Fantastic Four , ความสนุกสูตรสำเร็จที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลิน
- War of the Worlds , เมื่อสปีลเบิร์กเลิกรักมนุษย์ต่างดาว
- Swing Girls , สวิงกันแบบคึกคัก สดใส ไร้มลพิษ
- Hotel , โรงแรมที่ไร้เรื่องราว
- Assault on Precinct 13 , อีกหนึ่งความจนตรอกที่ระทึกคุ้มค่า
- Batman Begins , ปฐมบทแรกบินกับการตีความครั้งใหม่
- Mr. and Mrs. Smith , เรื่องราวชีวิตคู่ที่สวมเสื้อคลุมหนังแอคชั่น
- มหาลัย' เหมืองแร่ , เหมืองแร่และชีวิตกับหน่วยกิตที่ต้องขุด
- House of Wax , ความสยองที่แปลกตากับหุ่นขี้ผึ้ง สองดาราและหนึ่งปารีส
- Sin city , ฟิล์มนัวร์ที่ลงตัวและเจ๋ง
- Star Wars: Episode III Revenge of the Sith , การปิดตำนานและการเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์
- The Jacket , การเดินทางข้ามเวลา ความหลอนและวงจรชีวิต
- A Lot Like Love , รักด้วยใจแต่ตัดสินใจด้วยสมอง
- เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ
- Be With You , ความสุขของฉันคือ"การได้อยู่กับคุณ"
- Hostage , เหล้าเก่าในขวดใหม่ที่ไม่น่าผิดหวัง
- Kingdom of Heaven , สงครามครูเสดครั้งนี้ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่น่าเสียดาย
- Spanglish , เรื่องราวที่กระจัดกระจายแต่ให้แง่มุมหลากหลายในครอบครัว
- Guess Who , เสียงฮาจากความแตกต่างและBernie Mac
- The Interpreter , ทริลเลอร์ที่ดี(แต่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น)
- Hide and Seek , มีปมที่ดีแต่มีบทที่อ่อน
- The Chorus (Les Choristes) , ง่ายๆแต่ได้ใจ
- Hitch , สนุก น่ารัก ขำขำ รู้สึกดี
- Sahara , หนังสนุกแค่เป็นช่วงๆหรือผมง่วงกันแน่
- Boogeyman , ตื่นเต้นตกใจ แต่ อะไร ยังไง ทำไม?
- Tokyo Godfathers , การตามหา"ครอบครัว"ที่สนุกมากๆ
- บุปผาราตรี เฟส 2 , เมื่อบุปผาเริ่มร่วงโรย
- Dont move , นอกจากตัดสินใคร คุณเข้าใจใครคนนั้นดีแล้วหรือยัง?
- Crying Out for Love, In the Center of the World , ความทรงจำและเทปคาสเสตต์/ความรักและใจกลางโลก
- The Ring Two , ไม่สมศักดิ์ศรี "The Ring"
- A Very Long Engagement , หนังที่มากไปด้วยความทะเยอทะยาน
- Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events , การดัดแปลง"โชคร้าย"ที่ทำได้"ดี"
- Hana & Alice , มิตรภาพ ความรัก ความทรงจำ
- Hotel Rwanda , หนังที่ให้คนดูมากกว่าความเป็นหนังดี
- In Good Company , ผู้ชายขาขึ้นกับผู้ชายขาลง
- Being Julia , โลก(ของจูเลีย)คือละคร
- หลวงพี่เท่ง , เรื่อยๆขำๆพอไปวัดไปวา
- Sideways , รักนุ่มๆชุ่มไวน์ในวันเบาๆ
- Million Dollar Baby , ความยอดเยี่ยมท่ามกลางศรัทธาและความอบอุ่น
- Constantine , "คนเห็นผี"ปราบลูกปีศาจ
- Shall we dance , คุณเต้นรำกับคู่ของคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไร
- Finding Neverland , งดงามเหลือเกิน
- Kung Fu Hustle , ตลกน้อย สนุกมาก และลงตัว
- 2046 , ไปแล้วอย่าลืมกลับมา
- Ray , มีดีที่Jamie Foxx
- The Phantom of the Opera , ภายใต้หน้ากากมีเพียงความว่างเปล่า
- โรงเตี๊ยม , มีอะไรดีๆกว่าที่คิดและโฆษณา
- Meet the fockers , เรื่องของหนังตลกและครอบครัว
- Closer , เมื่อความรักถูกสำรวจและตีแผ่ผ่านตัวละคร
- The Aviator, .....And this is Howard Hughes
- The Forgotten, ไม่มีอะไรน่าจดจำ
- Birth , ยอดเยี่ยมในความหนักแน่นและเนิบนาบ
- ****1ปีที่ผ่านมา ฉากใดในหนังที่คุณประทับใจ ****
- 5หนังชอบ กับ 5หนังไม่ชอบ ของคุณในปี2547คือ....,
- National Treasure, เมื่อBruckheimerมาสร้างDavinci's code
- The Polar Express, ตื่นตาแต่ไม่ตื่นใจ
- แจ๋ว, แจ๋วน้อยกว่าที่หวัง
- Bridget Jones 2, รู้จักเธอมากขึ้นและรู้สึกดีกว่าที่คิด
- The Incredibles, ครอบครัวหรรษา
- ขุนกระบี่ ผีระบาด, กล้าที่จะบ้า ก็กล้าที่จะดู
- Ocean's Twelve, หนังขาย"เสน่ห์ดารา"
- หมานคร, เมืองนี้ภาพสวย+เพลงเพราะ+ประหลาดและยาก
- กั๊กกะกาวน์, "ใจ"คุณเต้นอย่างไรเมื่อคุณมีความรัก
- Alexander, ดราม่าชั้นดีแต่ความสนุกเป็นระลอกคลื่น
- Wimbledon, For love of the game+NottingHill+ภราดร
- Love me if you dare, หนังรักแปลกกับความรู้สึกก้ำกึ่ง
- Cellular, สนุกเป็นบ้า แอคชั่นแอบฮา
- Saw, OldBoy+Cube+ฆาตกรโรคจิต
- Ladder49, สิงห์ผจญเพลิงชื่อฮัวควิน ฟีนิกซ์
- The Grudge, เมื่อ"เด็กผี" go inter เป็น "โคตรผีดุ"
- Dodgeball, ฮาน้อยกว่าที่หวังแต่สนุกกว่าที่คิด
- Sky Captain and The World of Tomo, หนังไซไฟสไตล์"ฟ้าทะลายโจร"
- Resident Evil 2, อลิซเท่+เนเมซิสเห่ย+จิลเฉยๆ
- Shark Tale, คุณเป็น"somebody"แล้วหรือยัง
- สายล่อฟ้า, ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนกับความสนุกกลางๆ
- Shutter กดติดวิญญาณ, นานๆทีจะมีหนังผีไทยดีๆให้ดูกัน
- The Terminal, น่ารัก นุ่มนวล และสนุกกว่าที่คิด
- Wicker park( spoilแล้วจะบอก), ลุ่มหลง คลั่งไคล้ หลอกลวงและความรัก
- Eternal sunshine รอบ2, ความอภิรมย์ที่มากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
- EternalSunshineOfTheSpotlessMind, คุณเคยอยากจะลืมบางสิ่งในชีวิตคุณบ้างไหม
- Three Extreme, อึดอัด ขยะแขยง รุนแรง และผิดหวัง
- Man on fire (no spoil), คนจริงเผาแค้น เผานานจนผมเกือบหลับ
- Bourne Supremacy, มันต้องให้ได้ยังงี้ซิ ต้องยังงี้ซิ
- Collateral...., it started like any other night
- Windstruck, งานมือตกของกวัก แจ ยอง
- งานของ M. Night Shyamalan, 6th sense/Unbreakable/Sign/และTheVillage
|
|
|
|
|
|
|
|
ยอมรับว่าผิดหวังกะสปีลเบิรก์มาหลายเรื่องแล้วครับ
เรื่องนี้จึงขอเวลาทำใจก่อนสักระยะนึง พร้อมแล้วจึงจะไปหยิบหามาดูครับ
จะรออ่านคำวิจารณ์เรื่อง BB Moutian ครับ