Bloggang.com : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" : Shark Tale, คุณเป็น"somebody"แล้วหรือยัง

Shark Tale, คุณเป็น"somebody"แล้วหรือยัง

.......วันนี้ผมไปดูปลามาที่ลิโด้ บรรยากาศการดูปลาค่อนข้างครึกครื้นเพราะถัดจากผมไปประมาณ3-4ที่นั่งมีครอบครัวที่พาลูกตัวเล็กๆมาดูด้วย อายุประมาณ7-8ขวบได้ เป็นวัยที่กำลังซนเลยทีเดียว น้อง2คนนี้คงจะน่ารักเป็นแน่ผมคิดถ้าเค้าทั้ง2ไม่ได้อยู่ในโรงพร้อมกับคุยเสียงดังเกือบตลอดทั้งเรื่อง ( อ๊ะๆ อย่าเพิ่งรีบว่าผมใจร้าย เด็กจะมาดูการ์ตูนในโรง ทำมาเป็นโวยวาย ให้อภัยหน่อยก็ไม่ได้) ผมคงจะไม่คิดอะไรมากถ้าเจ้าประคุณทั้ง2คนนอกจากคุย+ร้อง อยู่เรื่อยๆเพียงอย่างเดียว แต่นี่เล่นโยกเก้าอี้เบาะหน้าแบบสนุกสนานเป็นพักๆ ไม่อยู่นิ่งเลย เหมือนอยู่ในสนามเด็กเล่นก็ไม่ปาน และเหมือนผู้ปกครองที่พามาก็ไม่สามารถจะควบคุมเด็กได้จนน่าสงสารคนที่นั่งข้างๆกับคนนั่งข้างหน้าเป็นอย่างมาก ผมไม่โกรธเด็กนะครับแต่เซ็งผู้ปกครองเด็กมากกว่าจนอยากจะบอกพ่อแม่เด็กว่า พาลูกมาโรงหนังก็ไม่ผิดหรอกครับ แต่ช่วยดูด้วยว่า 1. เด็กอยู่ในวัยที่จะดูในโรงได้หรือยัง 2.คุณมีความสามารถในการควบคุมเด็กไม่ให้รบกวนชาวบ้านได้หรือไม่ และ 3.หนังเรื่องนั้นเหมาะกับเด็กหรือไม่ (วันก่อน เจอเด็กวัยประมาณนี้ไปดู shutterกับแม่ โอ้แม่เจ้า แม่เด็กคงหวังเป็นการฝึกเด็กไม่ให้กลัวผีละกระมัง)

........กับ เรื่องนี้ ต้องขอบอกว่าหนังตัวอย่างไม่ชวนให้ผมอยากดูเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าจะมีเครดิตว่าจากผู้สร้างShrekก็ตาม และที่จริงวันนี้ผมยังอยากไปตะลุยผีดิบมากกว่า ติดที่ว่าไม่อยากดูหนังคนเดียวช่วงนี้ การไปดูปลายังมีเพื่อนไปดูด้วยจึงต้องเลื่อนผีดิบเป็นโปรแกรมถัดไป

......จากตัวอย่างที่ทำได้ไม่น่าสนุก กลับเป็นการเริ่มต้นได้ดี เพราะมันทำให้ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้สนุกกว่าที่คิด ถึงแม้ลายเส้น และ ภาพตัวการ์ตูนที่อยู่บนจอจะไม่สามารถทำให้รู้สึกทึ่งหรือประทับใจได้เหมือนshrek หรือ แม้กระทั่งปลาnemoก่อนหน้านี้ แต่ด้วยเนื้อเรื่องและการเล่าเรื่องที่ไปได้เรื่อยๆก็ทำให้ผมเองได้ยิ้มและสนุกกับมันไปได้

........กับเรื่องของ คนที่ธรรมดา ไม่เป็นที่รู้จัก อยากเป็น ใครสักคน คนที่ไม่ธรรมดา ( nobody ----> somebody) = Oscar
คนที่ไม่ธรรมดา มีตำแหน่งมียศ อยากเป็น คนธรรมดาๆ ( somebody) ---->nobody ) = Lenny
แต่จริงแล้วการเป็นsomebodyนั้นมันอยู่ที่ตรงไหน จุดใดเราจึงจะเป็นsomebody ถ้ามองกลับมาที่ตัวเราเองบางคนยังอาจรู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่nobody และมองขึ้นไปบนยอดปะการังเหมือนoscar เห็นดารา เห็นชาวไฮโซ ฯลฯ เป็นอย่างนั้นหรือจึงจะเป็นsomebody ณ.จุดนั้นที่ที่เราไปถึงแต่ถ้าไม่มีความรัก ไม่มีความสุขในหัวใจ มันก็คงไม่ต่างกับการเป็นnobodyที่อยู่สูงขึ้นกว่าเดิมเท่านั้นเอง กับจุดที่เราอยู่ปัจจุบันเราก็อาจเป็นsomebodyของคนรอบข้าง ของพ่อแม่ ของคนรัก ของเพื่อนอยู่แล้ว ถ้าเราสนใจและเอาใจใส่ตัวเราและคนรอบข้าง เหมือนกับoscarที่เกือบจะสายเกินไปกว่าจะบอกกับAngieว่า "without you i'm nobody"

.........เราจะยอมรับคนอื่นในสื่งที่เค้าเป็น กับยอมรับตัวเอง กับสิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เรามีอยู่ได้หรือไม่ เหมือนกับที่ oscarยอมรับกับสื่งที่ตัวเองเป็น และ พ่อของlenny ยอมรับในสิ่งที่ลูกตัวเองอยากจะเป็นจริงๆ ถ้าทำได้เราก็จะรู้จักคำว่าพอและความสุข เหมือนกับที่oscar เป็นและเอากรอบรูปของพ่อมาวางที่โต๊ะอีกครั้งอย่างภาคภูมิใจ

สิ่งที่ชอบ

1.Character ตัวละคร น่ารักน่าชัง และมีมิติดีทุกตัว ทุกการกระทำของตัวละครมีที่มาที่ไปและเข้าใจได้ทำให้เราคล้อยตามเรื่องได้อย่างไม่ยาก ตัวที่ผมชอบที่สุดก็คงเป็นlennyกับความเป็นเด็กที่ดูเหมือนงี่เง่าแต่ก็มีแต่ความดีและไม่เป็นพิษเป็นภัย ทำให้เราหัวเราะได้เป็นพักๆ กับ อีกตัวหนึ่งที่หลายคนมักจะลืมไปแต่ผมก็ชอบถึงแม้ว่าจะออกมาเพียงช่วงต้นก็คือFrankie ที่เป็นพี่ที่ดูเหมือนใจร้ายแต่ก็ให้ความรู้สึกถึงความรักน้องออกมาได้เป็นอย่างดีแม้จะมีบทไม่นาน

2.มุขที่ปล่อยแบบพอสมน้ำสมเนื้อ ที่แม้ว่าจะไม่ระดมปล่อยไม่บันยะบันยังแบบshrek ก็ยังจัดว่าทำให้ยิ้มได้อยู่เป็นพักๆ แต่คนดูคงต้องมีพื้นฐานคือรู้สิ่งที่หนังเอามาล้ออยู่บ้างจึงจะตามมุขเหล่านั้นได้ (เช่นมุขดนตรีประกอบต้นเรื่อง/titanic/และสินค้าต่างๆที่พะยี่ห้อเกี่ยวกับfish)

3.ธีมหลักของเรื่อง ในประเด็นnobody/somebodyที่กล่าวข้างบน และ การพูดถึงการยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่

สิ่งที่ชอบน้อย

1. ถ้าสำหรับผู้ใหญ่และคาดหวังความสนุกระดับshrekเพราะเห็นโฆษณาว่ามาจากผู้สร้างเดียวกัน อาจผิดหวังได้ เพราะหนังอาจจะไม่ค่อยสนุกมากนักสำหรับคนที่ไม่ได้ชอบการ์ตูนอยู่ก่อนแล้ว

2.เสียงพากษ์ที่ระดมดาราดังๆมา แต่ผมกลับรู้สึกว่าไม่ค่อยมีพลังเท่าที่ควรเช่นเสียงของ angelina jolie / renee sellweger ดูแล้วเหมือนกับเอาใครมาพากษ์ก็น่าจะได้ และกับ de niro ผมคิดว่าเค้าที่ก็เคยเป็นดอนมาก่อน(ใกล้เคียงกันด้วยคาลิโอเน่กับลีโน่)น่าจะทำให้บทพ่อที่เป็นมาเฟียดูมีพลังได้มากกว่านี้

3.เพลงกับดนตรีประกอบก็เพราะดีแต่ธรรมดาไปหน่อย ไม่มีเพลงที่ฟังติดหูจนทำให้อยากซื้อOSTเหมือนการ์ตูนช่วงหลังๆ

4.ผมว่าบทของOscar ที่เป็นพระเอกแต่ดูไม่ค่อยโดดเด่นเลย หลายช่วงออกจะน่ารำคาญเกินไปหน่อยด้วย และหลายมุขจากตัวละครนี้ก็ค่อนข้างแป้กนะสำหรับผม

สรุป..............ในตอนแรกที่หนังเรื่องนี้สร้างคงมีหลายคนที่พยายามจะจับไปเปรียบเทียบกับNemoของค่ายคู่แข่ง แต่หลังจากNemoออกฉายก่อนและกวาดคำชมเป็นกระบุกโกยเรื่องนี้ก็ยิ่งเป็นที่จับตาดูว่ารอดหรือไม่ แต่หลังจากดูแล้วบอกได้เลยว่ามันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงไม่มีใครดีกว่าใครด้วยซ้ำ มิหนำซ้ำตัวผมเองออกจะให้คะแนนเรื่องนี้มากกว่าปลานีโมนั่นเสียด้วยในแง่ของเนื้อเรื่อง(แต่ถ้าในแง่ภาพNemoชนะครับ) อาจเป็นเพราะตอนดูnemoผมตั้งความคาดหวังไว้สูงจึงทำให้ผิดหวังไป
..................Shark Tale เป็นหนังการ์ตูนที่ดี ดีกว่าตัวอย่างมาก เป็นข้อดีข้อหนึ่งของหนังที่ทำตัวอย่างไม่น่าดู (ซึ่งตรงข้ามกับสายล่อฟ้า ที่หนังก็ดีแต่น่าเสียดายเอาฉากเด็ดไปอยู่ในตัวอย่างเกือบหมดตอนดูเลยฮาได้แบบไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย) ถ้าคุณชอบดูการ์ตูนไม่ผิดหวังแน่นอน ถ้าคุณชอบshrekคุณก็น่าจะชอบเรื่องนี้ แต่ถ้าคุณเฉยๆกับหนังการ์ตูน ดูShrekแล้วสงสัยว่าขำตรงไหน เก็บเงินไว้ไปตะลุยผีดิบกับผมดีกว่าครับกำลังหาเพื่อนดูอยู่ซะด้วย

16/10/2004

Create Date : 25 มกราคม 2548

Last Update : 29 มกราคม 2548 23:58:55 น.

2 comments

Counter : 2104 Pageviews.

ชอบเรื่องนี้ น่ารักดี

โดย: prncess

วันที่: 25 มกราคม 2548 เวลา:13:01:00 น.

เคยดูแล้วหลับคาเรื่องไปเลย...ถ้าหนังดีกว่านีโมที่เราชอบ..จะไปเช่ามาดูอีกรอบ

โดย: เดย์ IP: 124.120.51.2 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:0:09:45 น.