War of the Worlds , เมื่อสปีลเบิร์กเลิกรักมนุษย์ต่างดาว
ผม.....ยังไม่เคยเห็นมนุษย์ต่างดาว ดังนั้นการดูหนังที่เป็นเรื่องของมนุษย์ต่างดาว เป็นเหมือนการที่ผู้กำกับนำสิ่งที่อยู่ในจินตนาการของคนดู ออกมาให้เกิดโลดแล่นบนโลกของความเป็นจริง มันย่อมสร้างความตื่นเต้นอยู่เสมอกับการรอดูว่าหนังเรื่องนั้น มนุษย์ต่างดาวจะมีหน้าตาอย่างไร มียูเอฟโอหรือไม่ มันมาแบบเป็นมิตรหรือเป็นศัตรู ฯลฯ ต่อให้หนังโม้ในส่วนนี้ยังไงผมก็เชื่อเพราะผมไม่เคยคบกับมนุษย์ต่างดาวมาก่อน ต่างจากหนังที่พูดถึงภูเขาไฟระเบิด น้ำท่วมโลก ฯลฯ ที่เราเองอาจเคยเห็นมาบ้างไม่จากชีวิตจริงก็จากข่าว มันทำให้ยังมีพื้นฐานความคิดว่ารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร คนสร้างจะมาหลอกกินเงินคนดูก็คงยาก นอกจากจะทำการบ้านมาให้ดี น่าแปลกที่ทุกครั้งผมดูหนังมะนาวต่างดุ๊ดมนุษย์ต่างดาว เช่น E.T. / ID4 / Mars attack มันก็รู้สึกแค่ว่าพวกนั้นกระโดดโลดแล่นในโลกจินตนาการ ไม่สนุกก็ลุ้นหรือไม่ก็ซึ้ง แต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะรู้สึกเหมือนกับว่าพวกมันมาอยู่ในโลกใบเดียวกันจริงๆ
สปีลเบิร์ก ....ทำในสิ่งที่คนไม่เคยเห็นให้คนเชื่อมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ไดโนเสาร์, มนุษย์ต่างดาว หรือ โลกอนาคต สิ่งเหล่านี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นของตายในมือ(ยกเว้น Hook ที่ตายจริงๆ) เป็นความสำเร็จที่ถล่มทลายอยู่เสมอของเขา ตรงข้ามกับหนังที่เขาเลือกสร้างจากสิ่งที่คนรู้จักกันดีอยู่แล้วเช่นเรื่องของ จิตใจคน เรื่องของสังคม ผลออกมาก็จะล่มบ้างรุ่งบ้างสลับกันไป สำหรับผมแล้ว สปิลเบิร์กเสกจินตนาการได้ในระดับสุดยอดแต่สร้างเรื่องราวที่มันสัมผัสจิตใจที่เป็นด้านมืดและโลกที่โหดร้าย โลกของจริง ได้ไม่ถึงความเป็นสุดยอดเหมือนส่วนจินตนาการ เขาสร้างโลกของเด็กออกมาได้ดีเสมอเป็นพ่อมดที่เข้าใจโลกของเด็กได้อย่างแตกฉาน ชนิดที่ว่าเขาสามารถจะเสกมนต์เป่าโลกวัยเด็กในใจคนดูให้ออกมาเริงร่าได้ไม่ยากแต่เมื่อเขาอยากสำรวจโลกของผู้ใหญ่ โลกเขากลับเหมือนนักเดินทางที่ยังไม่เข้าใจมันมากพอ เช่นกันหากเป็นหนังที่มองโลกในด้านบวกเขาจะทำออกมาได้ดี ตรงข้ามกับหนังที่มองโลกในด้านลบเขาจะทำแบบกล้าๆกลัวๆ ผลในท้ายที่สุดแล้วหนังที่เล่นกับด้านมืดของเขาก็มักจะมีแสงสว่างอยู่ที่ปลายทางเสมอ
แม้แต่หนังที่หลายคนยกย่องว่าเป็น Masterpiece ที่เขาสร้างขึ้นแบบจริงจังอย่าง Schindler's List ผมเองก็ยอมรับว่าเป็นหนังที่ดีแต่มันยังทำได้ไม่ถึงอรรถรสทางใจได้เท่าหนังอย่าง Jurassic Park / E.T. ไม่สะท้อนความรู้สึกสมจริงได้เท่ากับงานที่คล้ายๆกันอย่างHotel Rwanda อีกจุดหนึ่งที่งานยุคหลังๆของสปีลเบิร์กมันมีปัญหาอยู่เสมอคือเขาจบหนังได้ไม่ลง ไม่แน่ใจว่าเพราะความเป็นคนที่ค่อนข้างมองโลกในแง่ดีด้วยหรือไม่ที่ทำให้เขาไม่สามารถจะจบ AI. หรือThe Terminal ได้กระชับกว่าที่เป็นอยู่ หลายเรื่องของเขาที่หนังพยายามจะยืดจบเพื่อให้แสงสว่างให้ความหวังแก่ตัวละคร กลัวว่าจะทำร้ายตัวละครมากเกินไปและมันทำให้หนังไม่มีพลังเท่าที่ควร
War of the Worlds คือหนังของ สปีลเบิร์ก ที่ ผม อยากดูมากที่สุด.....งานยุคหลังของเขาส่วนใหญ่ก็อยู่ในเกณฑ์ดีทุกเรื่อง หนังที่ผมชอบมากที่สุดและรู้สึกว่ามันลงตัวมากที่สุดและเป็นการสัมผัสโลกของผู้ใหญ่ได้จริงที่สุดของเขาคือ Minority Report นี่เป็นหนังที่เล่นกับจิตใจด้านมืดซึ่งเป็นส่วนที่สปีลเบิร์กไม่ถนัดเท่าไหร่ + จินตนาการ(โลกอนาคต/การเสกสิ่งที่คนไม่เคยเห็นให้เป็นภาพ) ซึ่งเป็นส่วนถนัดมากที่สุดของเขา เขาพิสูจน์ว่าเมื่อมีของตายในมืออยู่เขาก็สามารถเสกสิ่งที่ไม่ถนัดให้ออกมาดีได้ ดังนั้นเมื่อ War of the Worlds ถูกสร้างขึ้นตามตัวต้นฉบับ (เท่าที่จำได้นี่น่าจะเป็นเรื่องแรกที่เขาสร้างงานจากต้นฉบับที่เคยสร้างไว้แล้ว) เป็นงานที่เขาบอกว่าจะมีความสมจริงในโลกของจินตนาการ พร้อมกับหนังตัวอย่างที่แสดงออกมาดังราคาคุยไว้ นั่นทำให้ผมเสียเงินไป 100 บาทที่ F MBK เมื่อวันพุธที่ผ่านมาตอน19.30น.เพราะอยากดูว่าจาก Minority Report มาจนถึงครั้งนี้เขาจะพัฒนางานตัวเองให้คนดูตื่นตะลึงได้อีกแค่ไหน ยิ่งครั้งนี้จะต่างออกไปอีกด้วยเมื่อสปีลเบิร์กเลิกที่จะให้มนุษย์ต่างดาวมาในฐานะมิตรของมวลมนุษย์ อาทิเช่น E.T./A.I. หรือเขาจะเลิกรักมนุษย์ต่างดาวเสียแล้ว ?
.....ในส่วนของการนำเสนอสิ่งที่คนดูไม่เคยเห็น สปีลเบิร์กทำดีตามที่ตัวเองถนัด หนังให้ภาพการรุกรานของศัตรูนอกโลกได้น่าเชื่อถือมากที่สุดเรื่องหนึ่งจากตระกูลมนุษย์ต่างดาว จนใกล้เคียงประหนึ่งเป็นสารคดีเรื่องจริงจากต่างดาว เรียกได้ว่าหากผมจะต้องเจอมนุษย์ต่างดาวมาบุกโลกจริงๆ หนังเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นแบบนี้แน่นอน หนังฉายภาพความหวาดหวั่น หวาดกลัวของหมู่มวลมนุษย์ได้ดี จนผมเองดูไปก็รู้สึกเหนื่อยไปด้วยตลอด การดัดแปลงที่มาของเหล่ามนุษย์ต่างดาวทำได้อย่างฉลาดและเสียดสีความหมกมุ่นจนไม่สนใจโลกรอบตัวของมนุษย์ยุคปัจจุบันได้ดี ตั้งแต่นาทีแรกจนถึงฉากพระเอกวิ่งกลับมาปัดฝุ่นมนุษย์บนใบหน้าที่บ้านเป็นช่วงเวลาที่ผมทึ่งและน่าจดจำ
...แต่ในทางตรงข้ามความไม่น่าเชื่อถือของหนังกลับมาปรากฎในส่วนที่เราทุกคนรู้เห็นกันดีคือ การนำเสนอส่วนเรื่องราวของมนุษย์ ไอ้การที่ให้พระเอกวิ่งหนีลำแสงที่สาดกระหน่ำทำลายคนรอบตัวแล้วรอดอยู่คนเดียว ยังพอรับได้อยู่ แต่หลังจากนั้นรูโหว่ของบทหนังที่เป็นความบังเอิญ ความจงใจ ไม่น่าเชื่อก็ตามมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การที่ให้รถของพระเอกเป็นคันเดียวที่แล่นได้, ลูกชายที่เกิดนึกอยากเห็นมนุษย์ต่างดาวซะเหลือเกินบนเนินรบเพียงเพื่อหวังผลจากฉากถัดมา , ที่บอสตันพบกับญาติแต่งกายสวยงามรอรับกลับบ้านท่ามกลางการราบพนาสูรและโทรมแสนสาหัสของคนรอบตัวที่ไม่ใช่ครอบครัวนี้ ฯลฯ ทำให้เรื่องราวทั้งหลายในหนังดูน่าเชื่อถือสมจริง ยกเว้นแต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบตัวของพระเอก ที่ดูเป็นการจงใจจัดให้โดยผู้กำกับและทำให้ไม่สามารถรู้สึกคล้อยตามได้อย่างสนิทใจ
.ในตระกูลหนังมนุษย์ต่างดาวบุกโลกนั้นจะคล้ายคลึงกับหนังมหันตภัยถล่มโลก ตรงที่มุมมองของผู้กำกับเลือกมองได้ทั้งภาพกว้างคือมองภาพรวมของผลกระทบทั้งหมดที่เกิดกับโลกตัวอย่างนี้คือ ID4 เราจะได้ดูความล่มสลายทางอารยธรรมผ่านสถานที่สำคัญถูกทำลายหรือความตื่นตระหนกเอาตัวรอดของมวลมนุษยชาติ และ อีกมุมมองหนึ่งคือมุมมองภาพลึกที่เน้นถ่ายทอดผ่านเรื่องของความเชื่อ ความศรัทธา หรือเรื่องของความสัมพันธ์ เช่น Signs สำหรับ War of the Worlds หนังเลือกมองทั้งสองด้าน ในด้านกว้างนั้นน่าเสียดายที่หนังออกจะชาตินิยมไปนิดที่มีแต่เรื่องราวและภาพของอเมริกัน นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่อาจไม่สามารถครองความรู้สึกร่วมของคนดูชาติอื่นๆได้มากนัก ในขณะที่ในด้านลึกหนังเน้นไปที่เรื่องราวของตัวละคร Ray Ferrierและลูกๆ
สำหรับผมมองแง่มุมดราม่าของหนังเรื่องนี้ที่พยายามจะนำเสนอเป็น 2 ส่วน
1.โลกของ Ray Ferrier .... เรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตเหมือนอยู่เพื่อตัวเอง ล้อมรอบด้วยผู้คนที่ไม่ศรัทธาในตัวเขาทั้งเพื่อนร่วมงาน ภรรยาเก่า ไปจนถึง ลูกไม่ภูมิใจในตัวพ่อ การมาหาพ่อสุดสัปดาห์ประหนึ่งหน้าที่ที่ต้องทำ และตัวพ่อเองนั้นก็แสดงความเป็นพ่อที่รักลูกแต่ไม่เข้าใจลูกไม่เคยใส่ใจกระทั่งว่าลูกแพ้อาหารอะไร ลูกต้องไปอยู่กับพ่อเลี้ยงและแม่ จนลูกยังไม่อยากจะเรียกพ่อว่าพ่อ เรื่องราวในส่วนนี้ที่เกิดคู่ขนานไปกับสงครามล้างโลกเป็นอีกพล็อตที่เข้าท่าสมกับชื่อเรื่องที่ World มี s ต่อท้าย เป็นการเล่าเรื่องสงครามชีวิตใน โลกของชายคนหนึ่งที่มีปัญหาในครอบครัวและสนใจแต่ตัวเอง ไปพร้อมๆกับสงครามล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่อยู่บนโลกใบเดียวกัน
...น่าเสียดายที่หนังสร้างความเป็นพ่อที่พยายามทุกวิถีทางในการปกป้องลูกให้พ้นจากอันตรายได้ดีแค่ใส่ฉากกล่อมลูก ฉากห้ามปราม ฉากปกป้องลูก ซึ่งได้ผลบ้างในบางฉากแต่ส่วนใหญ่มันทำได้แค่ผมรับรู้แต่ไม่สามารถอินไปกับมันได้ และ เรื่องราวความสัมพันธ์พ่อ-ลูก กับตัวตนของพระเอกนั้น เมื่อเจอมนุษย์ต่างดาวมันก็แช่แข็งไปจนจบ เราไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรในตัวพระเอกเลยเมื่อเทียบย้อนกลับไปในสิ่งที่หนังปูไว้ พัฒนาการในส่วนนี้เองเป็นส่วนที่หนังพยายามจะเน้นแต่หนังไม่สามารถพาคนดูให้ไปถึงอารมณ์ความรู้สึกที่พยายามจะสื่อสารออกมาได้ นอกจากนี้ความเป็นดราม่าที่จงใจจัดให้ มันก็ไม่เนียนกับหายนะที่กำลังเกิดเท่าไหร่ ช่วงที่หนังพยายามจะเป็นดราม่าเหมือนกับโลกทั้งใบจะหยุดเพื่อช่วงเวลานี้ก่อน จนเมื่อซีนที่เป็นดราม่าช่วงนี้สิ้นสุดลง มนุษย์ต่างดาวจึงจะเริ่มบุกรุกรานครอบครัวนี้กันต่อ ความเป็นดราม่าในโลกของRay Ferrierจึงไม่ชัดเจนและไม่น่าเชื่อถืออย่างที่ผู้สร้างพยายามอยากจะให้เป็น 2.โลกของมวลมนุษยชาติ ...ในอีกด้านที่เล่าเรื่องสะท้อนผลกระทบจากการทำลายล้าง ไม่ว่าภาวะเครียด กดดัน(หลายตอนที่เราได้เห็นว่า ความเลวร้ายของมนุษย์ที่รู้จักกันดีกระทำต่อกัน ก็แทบไม่ต่างจากสิ่งที่มนุษย์ต่างดาว ที่เทียบแล้วก็เหมือนคนแปลกหน้า กระทำกับมนุษย์) ความตื่นตระหนก การปกป้องคนที่รัก ฯลฯ หนังทำได้ดีกว่าข้อแรกมาก ฉากที่ท่าเรือแม้ดูไม่ได้มีเทคนิคที่ตระการตา แต่มันก็ให้ความรู้สึกร่วมที่เครียดกดดันให้กับคนดูได้เป็นอย่างดี
ผมชอบที่หนังบอกว่าแต่ละวันมนุษย์เราหมกมุ่นอยู่กับตัวเอง มากเสียจนละเลยสิ่งรอบตัวจนไม่รู้ว่าภัยนั้นอยู่รอบตัวเราใกล้กว่าที่คิด(และหนังก็วางคาแรคเตอร์ตัวพระเอกให้เป็นตัวแทนของมนุษย์ในยุคปัจจุบันที่สนใจแต่ตัวเองได้ชัดเจนที่สุด) ในอดีตการมาของมนุษย์ต่างดาวบนจอนั้นเป็นสัญลักษณ์ของหลายอย่างตามแต่จะตีความ มาถึงปัจจุบันการตีความสัญลักษณ์นี้ไม่ได้การพูดถึงเท่าไหร่นัก และมันก็คงจะเชยไปแล้วหากจะไปตีความเหมือนกับในอดีต แต่เมื่อหนังเปลี่ยนที่มาของมันและมีการเกริ่นบรรยายตอนต้นนั้นทำให้ การมาของมนุษย์ต่างดาวครั้งนี้ก็เป็นเสมือนการลงโทษมนุษย์ ไม่ต่างจากการมาของน้ำท่วม ไฟไหม้ป่า ภัยแล้ง ฯลฯ ที่มันเป็นไปตามวัฏจักรและเราเองก็มีส่วนร่วมในการถูกคุกคามหากเรายังนิ่งเฉยอยู่กับตัวเอง
.....งานด้านเทคนิคยอดเยี่ยมชนิดไร้ที่ติตอบสนองเรื่องราวได้อย่างน่าทึ่ง ภาพที่ปรากฎมาทำให้ผมเชื่อได้จริงๆว่านี่ละจะเป็นผลลัพธ์หากพวกมนุษย์ต่างดาวบุกโลกเรา ฉากจากหนังตัวอย่างที่ชุมชนพระเอกพังถล่มทลาย รถลอยฟ้าพลิกรางไล่หลังชาวบ้าน , ฉากการฆ่าทำลายล้างด้วยแสง,Tripods ทั้งหลายแหล่ ฯลฯ เป็นงานเทคนิคที่ผมมองว่าดีที่สุดในหนังมนุษย์ต่างดาวเท่าที่สร้างมา จะยกเว้นก็แต่ตัวมนุษย์ต่างดาวหัวยาว ที่ผมไม่ประทับใจไม่ใช่อย่างที่คาดไว้ (นึกว่าสปิลเบิร์กจะเสกอะไรออกมาที่แปลกใหม่กว่านี้) จังหวะเล่นสนุกกับความรู้สึกคนดูที่เป็นความตื่นเต้น ก็ยังเป็นงานถนัดของสปิลเบิร์กที่ทำออกมาได้ในระดับมาตรฐานเช่นเดียวกับไดโนเสาร์บุกโลก (ฉากหัวงูของTripods สอดส่ายในบ้าน สร้างความลุ้นหายใจไม่สะดวกอยู่เหมือนกัน) ในส่วนของนักแสดงแม้จะกรี๊ดจนเกินไปนิดแต่ Dakota Fanning ก็ยังเป็นความเยี่ยมของวัยเยาว์ที่ไม่ลดรัศมีตัวเองลงได้เลย ผมชอบการแสดงของTom Cruise ในเรื่องนี้ที่ไม่พยายามฉายความเป็นทอมครูซให้มากเกิน ผมเองรู้สึกว่าเขาในหนังเรื่องนี้ยังแสดงดีกว่าที่ไปอยูในหนังดราม่าเน้นรางวัลหลายเรื่องที่เขาเคยเล่นด้วยซ้ำ
สิ่งที่ชอบ
1.ความสมจริงในโลกจินตนาการ....เป็นงานสร้างที่ทำให้ผมรู้สึกว่าการมาของมนุษย์ต่างดาวอาจเกิดได้จริง และ ถ้ามันเกิดจริงมันก็น่าจะเป็นแบบหนังเรื่องนี้ หนักแน่นและน่าเชื่อถือ เป็นหนังมนุษย์ต่างดาวเรื่องแรกของผมที่ก่อความรู้สึกร่วมให้กับคนดูเสมือนเป็นหนึ่งผู้ประสบภัยที่ดูไปก็เหนื่อยไปเครียดไปตลอดเรื่อง
2.งานสร้าง+เทคนิค....ยอดเยี่ยม
3.ดราม่า...ชอบตรงที่หนังใส่ใจในส่วนของความรู้สึกนึกคิดของชาวโลกมากไปพอๆกับการใส่ CG โชว์การทำลายล้าง ไม่ใช่เป็นแค่หนังถล่มโลกเอามันส์เข้าว่าอยู่อย่างเดียว
4.การแสดงของTom Cruise และ Dakota Fanning ....รายแรกฉากที่ต้องแสดงความกลัว ความสิ้นหวัง ภาวะจนตรอกรวมไปถึงความเป็นพ่อที่ไม่เอาไหนในช่วงแรกเขาแสดงได้ดีเหลือเกินกับเรื่องนี้ และรายหลังเรื่องนี้อาจไม่ใช่การแสดงชิ้นที่ดีที่สุด แต่เธอก็ยังคงรักษามาตรฐานตัวเองได้อย่างดี การแสดงออกด้วยสีหน้ายอดเยี่ยมอย่างร้ายกาจ (ฉากที่บอกความกลัวของตัวเองโดยไม่กรี๊ดนั้น สุดยอด)
5.ฉากแรกไปจนถึงเมื่อตอนพระเอกกลับมาล้างหน้า...จัดได้เข้าขั้นคลาสสิค ตั้งแต่การปูเรื่องให้คนดูค่อยๆเห็นธรรมชาติที่ผันผวนไปจนถึงการเปิดตัว Tripodsและทำลายมนุษย์ก็ทำออกมาได้น่าทึ่ง
6.การดัดแปลงที่มาของมนุษย์ต่างดาว
สิ่งที่ไม่ชอบ
1.ความไม่สมจริงในโลกของความจริง...รูโหว่มากมายที่ยกตัวอย่างข้างต้น มันทำให้ผมคล้อยตามได้แค่เรื่องราวและความรู้สึกในด้านของผู้ประสบภัยแต่ไม่คล้อยตามในเรื่องราวของพ่อลูกครอบครัวนี้
2.ตอนจบ...ผมไม่ได้ไม่ชอบตอนจบที่เป็นของเหล่ามนุษย์ต่างดาวหัวยาว จุดนั้นผมยอมรับได้เพราะต้นฉบับและหนังหลายต่อหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น Signs , ID4 , Mars attack ฯลฯ ก็มีชะตากรรมบั้นปลายที่พ่ายแพ้ต่อสิ่งที่ไม่คาดคิดคล้ายกัน(ขนาดให้ตายเพราะแชมพูก็ยังมีมาแล้ว) สิ่งที่ไม่ชอบของตอนจบคือตอนที่พระเอกมาถึงบอสตันบวกกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากข้อ 1 มันทำให้ดูเป็นความจงใจจบสวยงามแถมยังดูไม่สมจริงอีกต่างหาก และเป็นอีกเรื่องที่ย้ำว่า สปิลเบิร์กมีความสามารถในด้านการจบหนังได้แย่สุดในบรรดาความสามารถทั้งหลายของเขาช่วงหลังๆ
3.ดราม่า...ไม่ชอบตรงที่การมีของมันนั้นเป็นแค่ ดีที่มีแต่ที่มีไม่ดีเท่าที่ควร
สรุป.....งานชิ้นนี้เป็นส่วนผสมของหนังมนุษย์ต่างดาวล้างโลกอย่าง ID4 และหนังหายนะอย่าง The Day After Tomorrow ผมคาดหวังกับเรื่องนี้ไว้สูงก็เลยผิดหวังตรงที่บทหนังมีรูโหว่และความเป็นสปีลเบิร์กในช่วงหลังนั่นคือ จงใจอย่างชัดเจนอยู่มากเกินไป ตอนจบที่ทำได้ไม่กระชับลงตัว หากยกเว้นส่วนนี้ไปนี่เป็นหนังมนุษย์ต่างดาวบุกโลกที่ทำออกมาได้อย่างไม่มีที่ติและสมจริงอย่างมาก ในส่วนภาพรวมและงานสร้างเป็นงานที่คิดว่าถ้าไม่ใช่สปีลเบิร์กมาทำ ก็คงไม่มีใครจะสร้างจินตนาการได้ออกมาตระการตาและควบคุมงานสเกลใหญ่ขนาดนี้ได้ดีเท่าเขาในยุคปัจจุบัน คุ้มค่าตั๋วกับการเสียเงินไปดูในโรงอย่างยิ่ง
ปล...สปีลเบิร์กคงนึกไม่ถึงว่า "รถไฟ" จะโดนใจคนไทยมากเป็นพิเศษ
ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป
ติดตามบทความใหม่ๆ หรือ บทความน่าสนใจ หรือ เริ่มต้นอ่านBlogนี้มีข้อสงสัย คลิกไปเริ่มต้นที่ --> หน้าแรก
รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง
Create Date : 01 กรกฎาคม 2548 |
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2548 20:19:11 น. |
|
42 comments
|
Counter : 5827 Pageviews. |
|
|
|
โดย: หมื่นทิพ TRAVOLTA (เทพบุตรตบะแตก!! ) วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:1:12:55 น. |
|
|
|
โดย: hunjang วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:8:25:08 น. |
|
|
|
โดย: 9A วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:11:40:51 น. |
|
|
|
โดย: rebel วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:15:48:02 น. |
|
|
|
โดย: merf1970 วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:16:07:54 น. |
|
|
|
โดย: ramai IP: 221.128.103.114 วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:20:10:43 น. |
|
|
|
โดย: tong IP: 202.28.181.8 วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:22:31:04 น. |
|
|
|
โดย: ต๋องตึง วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:22:39:55 น. |
|
|
|
โดย: Romeo7th วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:23:46:25 น. |
|
|
|
โดย: man u girl วันที่: 2 กรกฎาคม 2548 เวลา:0:08:30 น. |
|
|
|
โดย: cottonbook วันที่: 2 กรกฎาคม 2548 เวลา:0:13:48 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy IP: 61.19.218.54 วันที่: 2 กรกฎาคม 2548 เวลา:15:29:27 น. |
|
|
|
โดย: azzurrini IP: 202.28.181.9 วันที่: 3 กรกฎาคม 2548 เวลา:13:56:32 น. |
|
|
|
โดย: Au Uu!! IP: 202.57.155.170 วันที่: 4 กรกฎาคม 2548 เวลา:6:15:54 น. |
|
|
|
โดย: bozz IP: 161.246.1.33 วันที่: 4 กรกฎาคม 2548 เวลา:15:11:28 น. |
|
|
|
โดย: tiamo IP: 61.91.134.74 วันที่: 4 กรกฎาคม 2548 เวลา:21:10:26 น. |
|
|
|
โดย: take IP: 61.90.81.248 วันที่: 5 กรกฎาคม 2548 เวลา:0:16:52 น. |
|
|
|
โดย: quin toki วันที่: 7 กรกฎาคม 2548 เวลา:21:57:14 น. |
|
|
|
โดย: Bkkbear IP: 61.90.121.49 วันที่: 9 กรกฎาคม 2548 เวลา:11:12:40 น. |
|
|
|
โดย: เกมส์ IP: 60.230.134.91 วันที่: 9 กรกฎาคม 2548 เวลา:19:04:49 น. |
|
|
|
โดย: K.R.I.T. IP: 58.10.185.80 วันที่: 11 กรกฎาคม 2548 เวลา:0:49:09 น. |
|
|
|
โดย: Mr.DogGie IP: 58.10.50.240 วันที่: 11 กรกฎาคม 2548 เวลา:14:51:14 น. |
|
|
|
โดย: เกมส์ IP: 60.230.134.91 วันที่: 13 กรกฎาคม 2548 เวลา:12:22:20 น. |
|
|
|
โดย: dogdoy IP: 65.5.244.254 วันที่: 10 สิงหาคม 2548 เวลา:15:03:37 น. |
|
|
|
โดย: PirenZe IP: 203.113.37.12 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2548 เวลา:18:06:02 น. |
|
|
|
โดย: เดี๊ยนอยู่ข้างหน้าคุณ IP: 61.90.99.22 วันที่: 10 ธันวาคม 2548 เวลา:11:51:41 น. |
|
|
|
โดย: เดี๊ยนฯ IP: 61.90.99.22 วันที่: 10 ธันวาคม 2548 เวลา:11:55:40 น. |
|
|
|
โดย: linkinbee IP: 61.91.227.61 วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:0:56:09 น. |
|
|
|
โดย: TheChamp IP: 58.8.104.140 วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:2:33:34 น. |
|
|
|
โดย: นักวิจารณ์สมัครเล่น IP: 125.24.181.222 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:23:53 น. |
|
|
|
โดย: คอหนัง IP: 110.164.238.173 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:10:15 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
- Next , ทรงผมชวนกลุ้มใจกับหนังไซไฟดูเพลินๆ
- Spider-Man 3 , แมงมุมดำตัวนั้น ฉันเห็นมันอยู่ในใจเราทุกคน
- Miss potter , เรื่องของเธอ(พ็อตเตอร์)และผมฯ
- Me...Myself ขอให้รักจงเจริญ , แค่นี้ก็พอแล้ว
- Meet the Robinsons , เมื่อพบความผิดหวังจะโทษโน่นโทษนี่ หรือ เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป
- Shooter , หนังแอคชั่นที่ดูจบแล้ว"เออ มันดีแฮะ"
- Hannibal Rising , ความน่าผิดหวังของหนังฮานนิบาล
- Confession of pain , ความแค้นอันแสนเศร้า
- Pans Labyrinth , คือจินตนาการแสนสวยงาม หรือ คือความจริงที่เจ็บปวดและขมขื่น
- The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23
- เมล์นรก หมวยยกล้อ , รถเมล์สายนี้ไม่ตลกแต่สนุก
- The Lives of Others , อ๊ะ นี่มัน Infernal affairs เวอร์ชั่นกำแพงเบอร์ลิน
- Sunshine , อาทิตย์สิ้นแสง ชีวิตสิ้นสูญ
- The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)
- แฝด , เข้าใจพิม เข้าใจพลอย เข้าใจ"แฝด"
- I'm a Cyborg, But That's OK , แต่ I ไม่ค่อย OK
- The Good Shepherd , จะลงเรือทั้งทีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
- Bridge to Terabithia , Just close your eyes but keep your mind wide open
- 300 , นี่คือสปาตั้น(โว้ย) ... พลั่กกกกกก
- The Queen , แม้จะเป็นเรื่องของ 'ควีน' แต่นี่คือ การกะเทาะเปลือกเล่าเรื่อง 'คน'
- Rocky Balboa , ชีวิตไม่ได้สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน
- Charlotte's Web , มิตรภาพไม่ได้มีราคา
- The Pursuit of Happyness , ปัญหาชีวิตก็เหมือน รูบิค - ถ้าทำไม่ได้จะ สู้ต่อ หรือ โยนทิ้ง-
- Volver , ความเจ็บปวดของแม่และลูกสาว
- Music and Lyrics , หนังที่น่ารักที่สุดในรอบ(หลาย)ปี
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 , จะสนไปทำไมกับเรื่องอิสรภาพที่ไกลตัว
- Dreamgirls , วันที่ ธุรกิจ กลืนกิน ศิลปะ
- Babel , เราเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ไปแล้วหรือยัง
- Rough , จาก H2 มาสู่ Touch และได้เวลา Rough
- Curse of the Golden Flower , ความเน่าหนอนฟอนเฟะของสถาบันครอบครัว
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus , ความงามที่แตกต่าง โลกที่แตกต่าง
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1 , ไทยจะสิ้นชาติไม่ใช่เพราะใคร หากมิใช่เพราะไทยด้วยกัน
- Perfume: The Story of a Murderer , ทำความรู้จักและเข้าใจ ฆาตกรน้ำหอมมนุษย์
- Blood diamond , "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาฆ่ากันเอง"
- The Black Dahlia , ดอกรักเร่ ที่สวยแค่สไตล์แต่ไร้เสน่ห์
- Night at the Museum , ความบันเทิงสำเร็จรูปที่สนุกเพลินเกินห้ามใจ
- ===== 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ ประจำปี 2549 =====
- +++ 10 "ฉาก"ประทับใจจาก"หนัง"ปีที่ผ่านมา +++
- ++ ชวนเพื่อนๆมาเลือก 10 ตัวละครประทับใจ จากหนังปีที่ผ่านมา ++
- The Holiday , จะทำอย่างไรในวันที่ใจเจ็บ
- Lucky Number Slevin , ของเค้าดี แต่ ผิดที่ ผิดเวลา
- The King and the Clown , ความรักของตัวตลกบนหลังเสือ
- Déjà vu , เอ๊ะ เราเคยเจอมาก่อนหรือเปล่า
- Death Note 2: The Last Name , ได้เวลาเก็บสมุดคืนเจ้าของ
- Saw III , บทเรียนสุดท้ายของคุณครู จิ๊กซอว์
- The Village Album , ถ่ายภาพด้วยหัวใจแล้วบันทึกใส่ความทรงจำ
- 007 : Casino Royale , นี่ซิ เจมส์ บอนด์
- The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?
- The Banquet , แฮมเล็ต เวอร์ชั่น ประหารเจ็ดชั่วโคตร
- ผีสามบท บทที่ 3 : เปนชู้กับผี , พอกันที ผีGMO
- ผีสามบท บทที่ 2 : Monster House , บ้านผีสิงที่แสนจะบันเทิงใจ
- ผีสามบท บทที่ 1 : The Grudge 2 , ปัญหาของ ป๋า กับ เด็กผี
- The Guardian , "สถิติ" ไม่สำคัญเท่า "ทัศนคติและเจตคติ"
- หมากเตะรีเทิร์นส , หมากเกมส์นี้ น่าจะดีได้มากกว่านี้
- 12 เกมสยาม +13 เกมสยอง , มันไม่ใช่แค่เกม
- Cars , 20 ปีของ Pixar กับเรื่องของ "คาร์" (ซึ่งก็คือเรื่องของ "คน")
- The Devil Wears Prada , (จากหนังสือมาเป็นหนัง) ร้ายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
- Death Note , สมุดเล่มนี้ ดี จริงหรือ?
- L'Enfant (The child) , เด็กไม่รู้จักโต
- World Trade Center , เป็น"ฮีโร่"ไม่ได้วัดกันที่ผลลัพธ์
- The Host , สัตว์ประหลาด สนุกประหลาด
- Season changes , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"
- Me and You and Everyone We Know , เราอยู่ร่วมกัน เรารู้จักกัน แต่เราไม่เชื่อมต่อถึงกัน
- Snakes on a Plane , ที่อยากไปดูก็เพราะ "งูบนเครื่องบิน"
- United 93 , ทรงพลัง และ สะเทือนใจ
- Running boy (Marathon) , ทุกชีวิตล้วนมี"หัวใจ"
- โคตรรักเอ็งเลย , เกือบโคตรรัก "โคตรรักเอ็งเลย"
- Sad movie , แม้รักต้องพลัดพรากก็ยังฝากความทรงจำอันงดงาม
- The Break-Up , วิธีทำลายชีวิตคู่ตัวเองให้ย่อยยับ
- แก๊งชะนีกับอีแอบ , หนัง comedy ไทยดีๆยังมีอยู่
- Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest , "สลัด"จานนี้รสชาติดีเพราะ"Johnny Depp"
- Tsotsi , พื้นฐานจิตใจมนุษย์เป็น สีขาว หรือ สีดำ
- Superman Returns , ทำไมโลกใบนี้ยังต้องการ Superman ?
- Silent Hill , ของดีที่อยู่ในมือพ่อครัวขาดฝีมือ
- over the hedge , บทเรียนชีวิตเรื่องมิตรภาพและครอบครัว
- Don't tell , แผลในใจแค่"ลืม"คงไม่พอ
- Slither , คูลฟีเวอร์สีเลือด เชือดมนุษย์โลก
- The Omen , ซาตานอยู่รอบตัวเรา
- Scary movie 4 , ผ่านมา --> ฮา --> ผ่านไป
- Paradise now , สวรรค์อยู่หนใด
- X-Men: The Last Stand , X = mutant , รักร่วมเพศ , คนผิวดำ , ยิว ฯลฯ
- ก้านกล้วย , "ช้างกูอยู่ไหน" >> "ช้างกูอยู่นี่"
- The Da Vinci Code , ศรัทธาที่บิดเบือน
- Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
- Poseidon , จมเร็ว จบเร็ว
- Match point , เกมส์กิเลสของคนเห็นแก่ตัว
- Mission: Impossible III, ภารกิจสุดมันส์ที่ขาดเสน่ห์
- Perhaps love , รักซ้อนรัก หนังซ้อนหนัง อดีตซ้อนปัจจุบัน
- Ice Age: The Meltdown , ได้เวลายุคน้ำแข็งครองเมือง
- Red lights , ผู้ชายไม่รู้ตัว ผู้หญิงไม่รู้ใจ
- Failure to launch , Success to love
- Inside man , คน(ดี/ชั่ว) ใน คน(ดี/ชั่ว)
- Where the Truth Lies , ความจริงนอนนิ่งอยู่ที่ใด ?
- โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง , ฮาน้อยกว่าที่คิด มีสาระมากกว่าที่หวัง
- My girl and I , รักครั้งแรกจะเปลี่ยนเราไปตลอดกาล
- V for Vendetta , เผด็จการรัฐสภา VS. พลังประชาชน
- A History of violence , มาทำความรู้จัก "ความรุนแรง" กัน
- Final Destination 3 , เหล้าเก่าในขวดเก่า
- The Constant Gardener , ในความลับมีความจริง ในความจริงมีความรัก
- คำพิพากษาของมหาสมุทร (Invisible Waves) , คลื่นบาปที่นิ่งสงบ
- Walk the line , มิตรภาพในความรัก
- เด็กหอ , หอนี้มีดีกว่าผีหลอก
- Brokeback Mountain , รักซ่อนเร้น
- Munich , ผลของการสาดน้ำมัน(ความรุนแรง)เพื่อดับไฟ(แค้น)
- Memoirs of a Geisha , ชาเขียวสำเร็จรูปที่ผสมน้ำมากไป
- Prime , รักคงยังไม่พอ
- An Unfinished Life , ชีวิตที่หยุดเดิน
- In Her Shoes , หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต
- Just Like Heaven , เมื่อพื้นที่ของชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ความสุข
- The Promise , คำสัญญา ชะตากรรม ความรัก
- 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ (ของปีที่ผ่านมา)
- 10 ฉากประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- 10 ตัวละครประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and the Wardrobe , ส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับทุกครัวเรือน
- April Snow , บางครั้งความรักก็เจ็บปวดโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
- King Kong , แล้ว "ลิงยักษ์" ก็ตกหลุม "รักหญิง"
- The Descent , ถึงถ้ำ ถึงเลือด ถึงเนื้อ ถึงกระดูก
- The Maid , ผีสิงคโปร์
- The Exorcism of Emily Rose , ผีเข้า(ศาล)
- Hidden (Caché) , ความจริงที่ซุกซ่อน (ในหนังที่ยอดเยี่ยม)
- Chicken Little , กุ๊กไก่ของ Disney ที่ไร้เงา Pixar
- Nana , โลกของนานะ โลกของความรัก ความฝัน และ มิตรภาพ
- เด็กโต๋ , สายธารชีวิตแห่งบ้านแม่โต๋
- Harry Potter and the Goblet of Fire , กีฬาสีสามสถาบันกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
- Corpse Bride , รักไม่มีวันตาย
- Yes , บทกวีอีโรติค ความรัก การเมือง และ การมีตัวตน
- รับน้องสยองขวัญ , หายใจเข้าก็ เฮ้อ หายใจออกก็ เฮ้อ
- Lord of War , นิ้วที่ลั่นไกจากมือที่มองไม่เห็น
- Saw II , สยองอย่างมีประเด็น
- Goal! , ประตูชัย(goal)เป้าหมายชีวิต
- Proof , ชีวิตที่สับสนของคนที่สูญเสีย
- The Legend of Zorro , ฮีโร่ที่ย่ำอยู่กับที่
- Flightplan , ขึ้นได้สูง บินได้สวย ลงไม่นิ่ม
- Sky High , อยากจะเป็น hero ที่ "เปลือก" หรือที่ "แก่น"
- A Sound of Thunder , เรื่องราวอยู่ในโลกอนาคต ตัวหนังอยู่ในโลกอดีต
- Red Eye , ไม่ใช่แค่ Fight or Flight แต่ยังเป็น Fight on Flight
- เพื่อนสนิท , เมื่อเส้นแบ่งของ "คนรัก" กับ "เพื่อน" เริ่มเลือนราง
- Transporter 2 ควบ Into the Blue , ขึ้นรถดีกว่าลงเรือ
- Madagascar , มิตรภาพกับการเรียนรู้ชีวิต และ นกเพนกวิน
- Cinderella man , Jim Braddock ชายที่ไม่ได้เป็นแค่นักมวย
- Dear Frankie , คำลวง ความรัก ครอบครัว
- Dark Water , ความสัมพันธ์แม่-ลูก-ผี (จากหนังสือสู่ภาพยนตร์)
- Seven Swords , ... ที่ควรยาวกลับสั้น ที่ควรสั้นกลับยาว ...
- แหยม ยโสธร , ขำขำ - หม่ำ - อะฮึ่ย อะฮึ่ย
- Charlie and the Chocolate Factory , Imagination is more important than knowledge
- The Skeleton Key , ไขได้ดีพอสมควร
- About Love , เรื่องราวที่ "เกี่ยวกับ "รัก""
- 5x2 , สมการความรักของคน 2 คน
- ต้มยำกุ้ง , อร่อยรสแซ่บชามโตเกินมาตรฐานแต่อาจไม่ผ่านเชลล์ชวนชิม
- Somersault , ความรัก - Sex - เด็กสาวและความทุกข์ทรมานใจ
- The Upside of Anger , เรื่องหนักๆของครอบครัวที่เล่าอย่างเบาๆ
- Land of the Dead , หนึ่งเรื่องราวของซอมบี้ที่กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
- Crash , ผลกระทบของการชนที่"คน"มีต่อกันและกัน
- วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น , หนังครอบครัวสำหรับคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี
- The Island , โลกอนาคตและโคลนนิ่งฉบับระเบิดเถิดเทิง
- The Keys to the House , "บ้าน"หลังนี้จะมีความรักเป็น"กุญแจ"
- The Longest Yard , เกมส์เก่าเอามาเล่าใหม่ใช้วิธีการเดิม
- Fantastic Four , ความสนุกสูตรสำเร็จที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลิน
- War of the Worlds , เมื่อสปีลเบิร์กเลิกรักมนุษย์ต่างดาว
- Swing Girls , สวิงกันแบบคึกคัก สดใส ไร้มลพิษ
- Hotel , โรงแรมที่ไร้เรื่องราว
- Assault on Precinct 13 , อีกหนึ่งความจนตรอกที่ระทึกคุ้มค่า
- Batman Begins , ปฐมบทแรกบินกับการตีความครั้งใหม่
- Mr. and Mrs. Smith , เรื่องราวชีวิตคู่ที่สวมเสื้อคลุมหนังแอคชั่น
- มหาลัย' เหมืองแร่ , เหมืองแร่และชีวิตกับหน่วยกิตที่ต้องขุด
- House of Wax , ความสยองที่แปลกตากับหุ่นขี้ผึ้ง สองดาราและหนึ่งปารีส
- Sin city , ฟิล์มนัวร์ที่ลงตัวและเจ๋ง
- Star Wars: Episode III Revenge of the Sith , การปิดตำนานและการเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์
- The Jacket , การเดินทางข้ามเวลา ความหลอนและวงจรชีวิต
- A Lot Like Love , รักด้วยใจแต่ตัดสินใจด้วยสมอง
- เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ
- Be With You , ความสุขของฉันคือ"การได้อยู่กับคุณ"
- Hostage , เหล้าเก่าในขวดใหม่ที่ไม่น่าผิดหวัง
- Kingdom of Heaven , สงครามครูเสดครั้งนี้ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่น่าเสียดาย
- Spanglish , เรื่องราวที่กระจัดกระจายแต่ให้แง่มุมหลากหลายในครอบครัว
- Guess Who , เสียงฮาจากความแตกต่างและBernie Mac
- The Interpreter , ทริลเลอร์ที่ดี(แต่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น)
- Hide and Seek , มีปมที่ดีแต่มีบทที่อ่อน
- The Chorus (Les Choristes) , ง่ายๆแต่ได้ใจ
- Hitch , สนุก น่ารัก ขำขำ รู้สึกดี
- Sahara , หนังสนุกแค่เป็นช่วงๆหรือผมง่วงกันแน่
- Boogeyman , ตื่นเต้นตกใจ แต่ อะไร ยังไง ทำไม?
- Tokyo Godfathers , การตามหา"ครอบครัว"ที่สนุกมากๆ
- บุปผาราตรี เฟส 2 , เมื่อบุปผาเริ่มร่วงโรย
- Dont move , นอกจากตัดสินใคร คุณเข้าใจใครคนนั้นดีแล้วหรือยัง?
- Crying Out for Love, In the Center of the World , ความทรงจำและเทปคาสเสตต์/ความรักและใจกลางโลก
- The Ring Two , ไม่สมศักดิ์ศรี "The Ring"
- A Very Long Engagement , หนังที่มากไปด้วยความทะเยอทะยาน
- Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events , การดัดแปลง"โชคร้าย"ที่ทำได้"ดี"
- Hana & Alice , มิตรภาพ ความรัก ความทรงจำ
- Hotel Rwanda , หนังที่ให้คนดูมากกว่าความเป็นหนังดี
- In Good Company , ผู้ชายขาขึ้นกับผู้ชายขาลง
- Being Julia , โลก(ของจูเลีย)คือละคร
- หลวงพี่เท่ง , เรื่อยๆขำๆพอไปวัดไปวา
- Sideways , รักนุ่มๆชุ่มไวน์ในวันเบาๆ
- Million Dollar Baby , ความยอดเยี่ยมท่ามกลางศรัทธาและความอบอุ่น
- Constantine , "คนเห็นผี"ปราบลูกปีศาจ
- Shall we dance , คุณเต้นรำกับคู่ของคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไร
- Finding Neverland , งดงามเหลือเกิน
- Kung Fu Hustle , ตลกน้อย สนุกมาก และลงตัว
- 2046 , ไปแล้วอย่าลืมกลับมา
- Ray , มีดีที่Jamie Foxx
- The Phantom of the Opera , ภายใต้หน้ากากมีเพียงความว่างเปล่า
- โรงเตี๊ยม , มีอะไรดีๆกว่าที่คิดและโฆษณา
- Meet the fockers , เรื่องของหนังตลกและครอบครัว
- Closer , เมื่อความรักถูกสำรวจและตีแผ่ผ่านตัวละคร
- The Aviator, .....And this is Howard Hughes
- The Forgotten, ไม่มีอะไรน่าจดจำ
- Birth , ยอดเยี่ยมในความหนักแน่นและเนิบนาบ
- ****1ปีที่ผ่านมา ฉากใดในหนังที่คุณประทับใจ ****
- 5หนังชอบ กับ 5หนังไม่ชอบ ของคุณในปี2547คือ....,
- National Treasure, เมื่อBruckheimerมาสร้างDavinci's code
- The Polar Express, ตื่นตาแต่ไม่ตื่นใจ
- แจ๋ว, แจ๋วน้อยกว่าที่หวัง
- Bridget Jones 2, รู้จักเธอมากขึ้นและรู้สึกดีกว่าที่คิด
- The Incredibles, ครอบครัวหรรษา
- ขุนกระบี่ ผีระบาด, กล้าที่จะบ้า ก็กล้าที่จะดู
- Ocean's Twelve, หนังขาย"เสน่ห์ดารา"
- หมานคร, เมืองนี้ภาพสวย+เพลงเพราะ+ประหลาดและยาก
- กั๊กกะกาวน์, "ใจ"คุณเต้นอย่างไรเมื่อคุณมีความรัก
- Alexander, ดราม่าชั้นดีแต่ความสนุกเป็นระลอกคลื่น
- Wimbledon, For love of the game+NottingHill+ภราดร
- Love me if you dare, หนังรักแปลกกับความรู้สึกก้ำกึ่ง
- Cellular, สนุกเป็นบ้า แอคชั่นแอบฮา
- Saw, OldBoy+Cube+ฆาตกรโรคจิต
- Ladder49, สิงห์ผจญเพลิงชื่อฮัวควิน ฟีนิกซ์
- The Grudge, เมื่อ"เด็กผี" go inter เป็น "โคตรผีดุ"
- Dodgeball, ฮาน้อยกว่าที่หวังแต่สนุกกว่าที่คิด
- Sky Captain and The World of Tomo, หนังไซไฟสไตล์"ฟ้าทะลายโจร"
- Resident Evil 2, อลิซเท่+เนเมซิสเห่ย+จิลเฉยๆ
- Shark Tale, คุณเป็น"somebody"แล้วหรือยัง
- สายล่อฟ้า, ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนกับความสนุกกลางๆ
- Shutter กดติดวิญญาณ, นานๆทีจะมีหนังผีไทยดีๆให้ดูกัน
- The Terminal, น่ารัก นุ่มนวล และสนุกกว่าที่คิด
- Wicker park( spoilแล้วจะบอก), ลุ่มหลง คลั่งไคล้ หลอกลวงและความรัก
- Eternal sunshine รอบ2, ความอภิรมย์ที่มากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
- EternalSunshineOfTheSpotlessMind, คุณเคยอยากจะลืมบางสิ่งในชีวิตคุณบ้างไหม
- Three Extreme, อึดอัด ขยะแขยง รุนแรง และผิดหวัง
- Man on fire (no spoil), คนจริงเผาแค้น เผานานจนผมเกือบหลับ
- Bourne Supremacy, มันต้องให้ได้ยังงี้ซิ ต้องยังงี้ซิ
- Collateral...., it started like any other night
- Windstruck, งานมือตกของกวัก แจ ยอง
- งานของ M. Night Shyamalan, 6th sense/Unbreakable/Sign/และTheVillage
|
|
|
|
|
|
|
|