In Her Shoes , หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต
ข้อมูล: In Her Shoes ดัดแปลงมาจากนิยายชื่อเดียวกันของผู้เขียนชื่อ Jennifer Weiner ; หนังมีความยาว 130 นาที และ เข้าฉายเฉพาะในโรงสกาล่า ; ตัวหนังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงสมทบหญิงจาก Shirley MacLaine ในบทยาย ก่อนจะพลาดไปให้กับ Rachel Weisz จาก The constant gardener และ ตัวหนังเข้าชิง Satellite Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Toni Collette) กับ นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Shirley MacLaine)
...In Her Shoes เป็นเรื่องราวของพี่น้องสองสาว Rose Feller และ Maggie Feller ทั้งสองคนล้วนมีความแตกต่างกันทั้งบุคลิกนิสัยใจคอ อาชีพการงาน การใช้ชีวิต มีสิ่งเดียวที่ทั้งคู่มีเหมือนกัน นั่นคือ ทั้งสองคนชอบรองเท้าและสวมรองเท้าเบอร์เดียวกัน
รองเท้า ก็เปรียบเสมือนกับ ชีวิต ของพี่น้องคู่นี้
Rose Feller มีรองเท้ามากมายหลายคู่ แต่เธอไม่เคยเอามันมาใส่ ได้แต่เก็บรักษาไว้ในตู้และรู้สึกกลัดกลุ้มเมื่อจะต้องนำมันมาสวมใส่ มันก็เหมือนกับชีวิตของเธอ แม้เธอจะประสบความสำเร็จกับอาชีพทนาย แต่เธอเองก็เป็นคนที่ขาดความมั่นใจ ที่ไม่กล้าจะออกไปพบกับโลกภายนอก ไม่กล้าที่จะเปิดเผยตัวเอง ไม่กล้าที่จะเสี่ยงใช้ชีวิตที่มี
Maggie Feller หยิบรองเท้าที่ชอบมาใส่ทุกครั้งที่อยากใช้ และ หลายหนก็ใช้มันจนเลอะเทอะเปรอะเปื้อน โดยไม่คิดอะไร เหมือนกับชีวิตของเธอ ที่ใช้มันอย่างไม่หยุดคิด ได้แต่สนุกสนานไปวันๆ เธอเป็นหญิงสาวรูปร่างหน้าตาดีที่ใช้ชีวิตอย่างไร้หลัก ล่องลอยไปตามกระแสลมกับการเมา , sex ,ตกงาน และที่ร้ายที่สุดคือเธอนอนกับคนรักของพี่สาว นั่นทำให้รองเท้าคู่นี้ต้องแยกจากกัน
แล้วถ้าต้องสวมรองเท้าข้างเดียว ชีวิตของเราจะเดินได้ไกลแค่ไหน เราจะเดินได้สะดวกเหมือนเดิมหรือไม่ ?
...ฉากหนึ่งในหนังที่ส้นรองเท้าของ Rose หัก เธอต้องเดินเข้างานเลี้ยงอย่างไม่มั่นคง เดินกะเผลกๆเซไปเซมา มันก็เหมือนกับพี่น้องคู่นี้ หากทั้งคู่มีชีวิตที่เหมือนรองเท้า เมื่อทั้งคู่ต้องแยกจากกัน ก็เหมือนกับรองเท้าข้างใดข้างหนึ่งนั้นเกิดชำรุดหรือสูญหายไป ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปเมื่อใครคนใดคนหนึ่งไม่อยู่เคียงข้าง
ถึงแม้ว่า ช่วงเวลาที่น้องสาวจากไป Rose จะไม่มีคนมาทำให้ชีวิตเสียระบบ ไม่มีคนมาขโมยใส่รองเท้า ไม่มีคนเอารถไปก่อปัญหา แต่ช่วงเวลานั้น ชีวิตเธอก็ว่าเธอควรจะทำตัวอย่างไร แต่งตัวอย่างไรขาดคนที่จะมาพูดถึงเธออย่างที่รู้จักเธอจริงๆในงานหมั้น ขาดคนที่รู้ขาดคนที่จะเข้าใจเธอ และ
แม้ว่า ช่วงเวลาที่พี่สาวไม่อยู่ Maggie จะสามารถหางานทำได้ด้วยตัวเอง จะไม่มีคนมาคอยจู้จี้คอยบ่นว่า แต่ ช่วงเวลานั้น เธอก็ไม่รู้ว่าเธอจะระบายความทุกข์ที่มีให้ใครที่เข้าใจได้มากที่สุด เธอก็ไม่มีคนที่จะสนุกสนานและแบ่งปันช่วงเวลาดีๆได้อย่างรู้ใจ ทั้งสองคนเหมือนกับรองเท้าที่เมื่ออยู่คู่กันแล้วจึงสามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างสมดุล
...Rose บรรยายคำพูดที่ให้เราเข้าใจเธอได้มากขึ้น แม้เธอจะเป็นคนที่มีระบบระเบียบกับชีวิตเพียงใด แต่เมื่อไม่มี Maggie without her, I don't make sense." ส่วน Maggie แม้ดูเหมือนจะใจแข็งอยู่ทำงานที่บ้านพักคนชราไปวันๆปฏิเสธการติดต่อหาพี่สาว แต่เมื่อเธอได้อ่านบทกวีที่กล่าวถึง การสูญเสีย มันก็ทำให้เธอได้รู้ว่าความรู้สึกลึกๆในใจของตัวเองนั้นเป็นอย่างไร
คนเราทุกคนล้วนต้องเคยเผชิญกับ การสูญเสีย( loss) เช่น พ่อสูญเสียภรรยา ยายสูญเสียลูกสาว พี่เสียน้อง น้องเสียพี่ ฯลฯ เราอาจจะยังสงสัยว่าทำไมการสูญเสียมันถึงทำร้ายใจคนได้มากขนาดนั้น เพราะเวลาเราสูญเสีย ใครไปสักคนมันไม่ใช่เป็นแค่การสูญเสีย ตัวคน แต่เราสูญเสียมันมากไปกว่านั้น เพราะมันคือ การสูญเสียความรัก การสูญเสียมิตรภาพ การสูญเสียความเป็นครอบครัว และ การสูญเสียในหนังยังตามมาด้วย ความรู้สึกผิด(guilt) ฝังลึกในใจของตัวละคร (น้องผิดที่ทำร้ายใจพี่ พี่ผิดที่ไล่น้องไป ยายผิดที่ทิ้งลูก พ่อผิดที่ทำให้แม่ตาย)
ความรู้สึกผิด ทำให้พ่อจมจ่อมกับความทุกข์ที่วนเวียนรอบตัว พร้อมการถูกตีตราจากยายว่า เป็นต้นเหตุการตายของแม่ เขาได้แต่เก็บมันไว้ในใจและเก็บจดหมายทุกฉบับที่ยายส่งให้หลาน
ความรู้สึกผิดของยาย ที่คิดว่าตัวเองก็มีส่วนทำให้ลูกสาวตายจากไป ยายได้แต่เฝ้าโทษพ่อของสองพี่น้อง และยายต้องโกหกกับคนอื่นว่าตัวเองไม่เคยมีลูกสาว เพื่อหลบเลี่ยงจากความเจ็บปวดในใจ
... ในฉากที่พี่ น้อง ยาย มานั่งทบทวนความทรงจำด้วยกัน เหมือนกับภาพชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ของแต่ละคนได้กลับมาปะติดปะต่อเป็นภาพเดียวกัน ภาพความทรงจำที่แสนสวยงามที่พี่น้องได้อยู่และยายไม่ได้รับรู้มาก่อน เป็นการเติมเต็มมุมมองที่ขาดหายไปของแต่ละคน และ มันเป็นช่วงเวลาของการรักษาแผลใจจากการสูญเสียกับเยียวยาความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นของตัวละคร
...ชีวิตหรือความสัมพันธ์ของคนเรานั้น มันก็เหมือนกับจิ๊กซอว์ที่เราไม่สามารถเห็นภาพเต็มๆได้หากชิ้นส่วนไม่ครบ และ คนเราก็เคยชินกับการตำหนิ ตีตราคนอื่น ด้วยจิ๊กซอว์ที่ไม่ครบจากที่เราเห็น เหมือน ...
ยายของทั้งสองพี่น้อง ถูกมองจากพ่อของพวกเธอว่า เป็นคนจอมบงการ จุ้นจ้านวุ่นวายจนสุดแสนจะทน แต่หากเราได้รู้จักยายได้ครบทุกด้านเราก็จะรู้ว่า การที่ยายพยายามคอยควบคุมเจ้ากี้เจ้าการชีวิตคู่ของลูกสาว หาใช่เพราะบุคลิกนิสัยแต่ เพราะ ความรักที่เธอมีต่อลูกสาว เธอรู้ว่าหากไม่กินยาผลสุดท้ายจะเป็นเช่นไร แต่ สุดท้ายเธอก็ยังคงสูญเสียลูกสาวไป และ นั่นจึงทำให้เธอมองว่าเป็นความผิดของพ่อ
พ่อของทั้งสองคน ถูกมองจากยายของพวกเธอว่า เป็นคนที่มีส่วนทำให้แม่ต้องตาย เป็นคนที่ไม่รับผิดชอบดูแลแม่ให้ดีพอ พ่อต้องแบกรับความรู้สึกผิดมาหลายช่วงปี แต่เมื่อยายได้ฟังเรื่องราวจากหลานๆจึงรู้ว่า ความจริงแล้วการที่พ่อพยายามจะพาแม่มาจากยาย และ สนับสนุนไม่ให้เธอกินยา หาใช่เพราะความรักสนุก ไม่รับผิดชอบไม่ใส่ใจ แต่เป็น ความรักที่เขามีต่อภรรยา เขารู้ว่ายาทำลายช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตของเธอ การหยุดยาอาจทำให้โรคแย่ลงและพาไปสู่เรื่องเศร้า แต่อย่างน้อย มันก็ทำให้เธอได้มีช่วงเวลาหนึ่งที่เธอสามารถใช้ชีวิตกับลูกทั้งสองคนอย่างมีความสุขที่สุด เป็นความทรงจำที่สวยงามที่เก็บไว้ให้กับลูกทั้งสองคนไปจนโต
Rose ถูกมองจากคู่หมั้นว่าเป็นคนเก็บตัว ปกปิดมีความลับ ไม่เปิดใจกับเขา และทำให้เขาผิดหวังกับภาพที่เขาได้เห็นตัวเธอ แต่เมื่อหนังเฉลยให้เราได้เห็นความจริงของเหตุผลที่เธอทำเช่นนั้น มันก็ทำให้คนดูและคู่หมั้นของเธอเข้าใจได้ว่าที่เธอทำไปมันก็เป็น เพราะ ความรักที่ปกป้องน้องมาตลอดนั่นเอง
Maggie อาจถูกมองจากคนรอบข้างในสังคมว่าใช้ชีวิตเหมือนคนเหลวแหลก แต่เมื่อเราได้รู้ว่าเธอคือคนที่มีปัญหาในการอ่านและคิดเลข มันก็เป็นอุปสรรคก้อนโตที่จะใช้ชีวิตอยู่รอดได้ในสังคมอันวุ่นวายในปัจจุบัน เพราะแค่หางานก็ยากเย็นแสนสาหัสเต็มที Maggie ใช้ชีวิตเช่นนั้นเพราะมันทำให้เธออยู่รอด ได้รับการยอมรับในสังคม ได้รู้สึกตัวว่ามีคุณค่าในตัวเอง แต่เมื่อเธอมาอยู่ชุมชนคนเกษียณ เมื่อเธอได้เริ่มต้นทำงาน เริ่มต้นหัดอ่านหนังสือ มีคนที่เข้าใจและเห็นคุณค่าที่แท้จริงในตัวเธอ เธอก็ไม่ได้สนใจในเรื่องของ เหล้า หรือ sex หรืออีกเลย เพราะเธอรู้สึกได้ว่าคุณค่าที่มีในตัวเอง (Self esteem)นั้นได้มาโดยไม่ต้องพึ่งสิ่งเหล่านั้นอีก
...เมื่อภาพทั้งหลายได้กลับมาต่อเติมรวมกันโดยมี ยาย เป็น คนเชื่อมความสัมพันธ์พี่น้องให้กับ Maggie และ Rose ส่วน Maggie และ Rose ก็เป็น คนเชื่อมความสัมพันธ์ให้กับ ยายและพ่อ เมื่อนั้นภาพครอบครัวก็กลับมางดงามสมบูรณ์ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยสำหรับสองศรีพี่น้องแม้ว่าหากจะมีการสูญเสียเกิดขึ้นอีกแต่บทกวีที่ Maggie เอ่ยขึ้นในตอนท้ายมันบอกว่า การสูญเสียนั้นจะเป็นแค่การสูญเสีย ตัวบุคคล แต่ความรักความทรงจำดีๆนั้นจะถูกอีกคนหนึ่งนำพามันติดตัวไปด้วยในทุกเส้นทางของชีวิต "i carry your heart with me (i carry it in my heart)"
...แรกเริ่มก่อนจะเข้าไปดูหนัง ผมสงสัยว่าผู้กำกับที่ถนัดแต่ทำหนังแมนๆอย่าง Curtis Hanson (L.A.Confidential , 8 miles )จะสามารถมาทำหนังที่เป็นเรื่องราวผู้หญิงๆแบบนี้ได้เข้าถึงหรือไม่ ในช่วงแรกของหนังนั้นเป็นไปตามที่ผมคาดคือ หนังให้ความรู้สึกแค่แกนๆ ไม่ทำให้เข้าถึงความรู้สึกความสัมพันธ์ได้ดีเท่าที่ควร ทำให้เชื่อได้บ้างแต่ไม่อิน แล้วเมื่อดำเนินเรื่องไปได้พักหนึ่ง ข้อสงสัยของผมก็ผิดไปเมื่อตัวหนังเริ่มดึงคนให้เข้าไปมีความผูกพันกับตัวละครได้มากขึ้น และหนังสามารถถ่ายทอด ความอบอุ่น ความผูกพัน ของตัวละครออกมาได้ดีขึ้น การกำหนดบทของ Maggie ให้มีปัญหาด้านการอ่านและคิดคำนวณ (เข้าใจว่าน่าจะเป็น dyslexia และ dyscalculia ซึ่งเป็นโรคในกลุ่มของ learning disorder ที่ผู้ป่วยจะมีปัญหาในการอ่านสะกดคำ และ ปัญหาในการคิดคำนวณ แต่ระดับสติปัญญาปกติดี) เป็นการตั้งโจทย์ที่ดีและใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้คุ้มค่า เพราะในหลายฉาก เช่น ฉากที่เธออ่านหนังสือไม่ออกแต่นั่งอ่านบทกวีเรื่องการสูญเสียข้างเตียงชายชรา ทำให้เราสามารถประทับใจในความพยายามและการที่เธอได้เห็นคุณค่าจากสิ่งที่ได้อ่าน , ฉากเซอร์ไพรส์ในตอนท้าย ทำให้คนดูน้ำตาซึมได้เลยกับการที่เราได้เห็น คนที่อ่านหนังสือไม่ออกแต่พยายามทำมันออกมาเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกให้กับคนที่เธอรัก หรือ ฉากที่เธอพยายามเขียนขอโทษแต่เขียนไม่จบแล้วขยำทิ้ง ก็ทำให้หนังทิ้งให้คนดูได้คิดว่าการที่เขียนไม่เสร็จเป็นเพราะใจเธอยังไม่ยอมหรืออุปสรรคจากความสามารถที่มีขีดจำกัดในการเขียน สิ่งเหล่านี้คือการใช้ประโยชน์จากบุคลิกตัวละครได้ดีไม่ใช่แค่มีเพื่อเอามันมาเล่นตลกไม่กี่ฉากแล้วทิ้งไป
Toni Collette เล่นได้ดีมากเช่นเคยในหลายๆฉาก เธอเป็นนักแสดงที่มักจะทำให้บทของตัวเองแข็งแรงขึ้นจากทักษะการแสดงของเธอและทำให้คนดูเชื่อในสิ่งที่เธอกำลังสื่อสารออกมา ฉากที่ผมชอบมากฉากหนึ่งคือฉากที่เธอหนีเข้ามาในครัวแล้วระบายความเจ็บช้ำกับเพื่อนก่อนจะคว้ามีดมาขู่แม่เลี้ยง ส่วน Cameron Diaz เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เธอได้มีโอกาสแสดงฝีมือได้อย่างเต็มที่และทำมันออกมาได้ดีนอกจากการได้อวดเรือนร่างแสน sexy เต็มจอ คนที่ลืมไม่ได้อีกคนย่อมเป็น Shirley MacLaine เล่นได้ดีจนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำในบทยายของทั้งสองคนนั้น
... ดูจากหน้าหนังหรือจากเรื่องย่อ อาจดูเหมือนหนังที่เน้นสำหรับผู้หญิงหรือเป็นหนังในแนว chick-lit ที่ผู้ชายส่วนใหญ่อาจไม่ชอบ แท้จริงแล้วหนังมีอะไรมากไปกว่านั้นมันเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของพี่น้อง ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว เป็นเหตุการณ์ที่คนดูล้วนเคยประสบกับชีวิตจริงไม่ได้จำกัดเฉพาะเพศใดเพศหนึ่ง นั่นทำให้คนดูสามารถรู้สึกมีส่วนร่วมกับหนังได้ไม่ยากเย็น จุดอ่อนของหนังคงเป็นที่ Curtis Hanson ยังทำ In Her Shoes ได้ไม่นุ่มนวลละเมียดละไม เหมือนกับมันยังมีความกระด้างอยู่เล็กน้อยบ้าง (ตัวอย่างผู้กำกับผู้ชายที่ทำเรื่องราวผู้หญิงได้นุ่มนวลโดยไร้ความกระด้างเรื่องล่าสุดที่ผมได้ดูคือ ชุนจิ อิวาอิ กับ Hana and Alice) แต่โดยรวมแล้วมันก็เป็นหนังที่ทำได้อบอุ่นประทับใจดีทีเดียว
สิ่งที่ชอบ
1.Toni Collette
แม้ผมจะได้ดูหนังที่เธอเล่นไม่มากนัก เผอิญทุกเรื่องที่ผมได้ดูหนังที่เธอเล่น เธอให้การแสดงในระดับดีมากทั้งสิ้น ตั้งแต่ แม่ของคนเห็นผีใน The Sixth Sense ,หญิงสาวผู้รู้จักและสูญเสียความรักไปอย่างรวดเร็วใน Japanese Story หรือ แม่ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าในAbout a Boy เรื่องนี้เธอเข้าถึงบทที่เธอเล่นได้ดี เธอสร้างคาแรคเตอร์ตัวละครได้ชัดเจน ทุกตอนในเรื่องที่เธอร้องไห้เราเข้าใจความรู้สึกของน้ำตาเหล่านั้นได้ทุกครั้ง
2.ฉากที่มีบทกวีในเรื่อง ... ถูกที่ถูกจังหวะ เข้าใจเลือกหาบทกวีมาและจังหวะที่หนังใส่บทกวีเข้าไปก็ลงตัว มันมาแบบเงียบๆนิ่มๆแต่เรียกน้ำตาคนดูทั้งสองฉาก
3.ฉากนั่งทบทวนความหลัง ... Shirley MacLaine เล่นได้ดีทุกฉาก แต่ฉากนี้เป็นฉากที่ผมชอบที่สุด กับ สีหน้าที่บอกอารมณ์ความรู้สึก เมื่อหลานๆเล่าภาพความหลังที่เธอไม่เคยเห็น ไม่ได้รับรู้มาก่อน ภาพลูกสาวตัวเองที่เก็บไว้ไม่รับรู้ มันปรากฎขึ้นอีกครั้งในใจเธอ ฉากนี้ไม่ใช่มีดีแค่เธอเท่านั้น ฉากนี้ยังมีความสำคัญต่อเนื้อเรื่องมากที่เราและตัวละครจะได้เติมเต็มภาพที่ขาดหายไปของแต่ละคนในอดีตกลับมาต่อกันจนครบสมบูรณ์
4.เรื่องราวที่มากไปกว่า ความขัดแย้งของพี่น้อง ... ถึงจะเป็นหนังที่พูดถึงพี่น้องแต่ตัวหนังเล่าเรื่องราวหลายหลากมากไปกว่านั้น ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่อง การสูญเสีย ความรู้สึกผิด คุณค่าของชีวิตคน หนังวางปมขัดแย้งในใจตัวละครไว้ทุกตัวและเชื่อมโยงกันระหว่างตัวละครได้ดี
สิ่งที่ไม่ชอบ
1.ช่วงแรกของหนัง ... การดำเนินเรื่องเหมือนกับหนังสูตรสำเร็จแนวขัดแย้งของพี่น้อง ดูๆไปยังคิดอยู่เลยว่าถ้าเป็นเช่นนี้ไปจนจบคงรู้สึกผิดหวังพอสมควร เพราะมันเป็นการเล่าเรื่องเดิมๆแถมยังไม่ได้ใจอีกต่างหาก ความรู้สึกมันเป็นแบบแห้งๆ แต่ดีที่เมื่อเรื่องเดินหน้าไปแล้ว เหมือนหนังเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ผู้กำกับจับอารมณ์ได้มากขึ้นก็เลยทำให้มันอินได้มากขึ้น
2.การเลือก Cameron Diaz มารับบท Maggie... แน่นอนว่าเธอเล่นได้ดี และ แน่นอนว่าเธอหุ่นดี แต่ ความรู้สึกส่วนตัว เธอทำให้ผมรู้สึกเชื่อได้ยากว่าเธอมีปัญหาการอ่านและปัญหาการคิดคำนวณ เธอทำให้ผมรู้สึกได้ยากว่าเธอเป็นน้องของToni Collette มันไม่ใช่ว่าเธอเล่นได้ไม่ดีแต่เหมือนกับคาแรคเตอร์นี้ไม่เหมาะกับเธอ และ เคมีบางอย่างของเธอกับToni Collette ที่ผสมแล้วไม่เข้ากันดี แม้ว่าเธอจะเล่นได้ดีแล้วก็ตาม
สรุป ... รู้สึกดี มีแง่มุมแง่คิดดีๆในตัวหนัง ดูได้ไม่เสียดายตังค์หากชอบหนังที่เน้นเรื่องความสัมพันธ์เช่นนี้ สิ่งหนึ่งที่หนังทำได้ดีแล้วแต่ยังได้ไม่มากพอคือ ความละเมียดละไมในอารมณ์ จึงอาจเป็นเหตุผลหนึ่งทำให้หนังยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรและหลุดหายไปในการชิงชัยรางวัลตามเทศกาล แต่เพียงเท่านี้สำหรับผมก็ถือว่าคุ้มค่าตั๋วแล้ว กับความรู้สึกดีๆหลังหนังจบและข้อคิดหลากหลายแง่มุม เชื่อว่า ตัวหนังสือต้นฉบับต้องดีเยี่ยมไม่แพ้กัน
ปล ... มีเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านเสนอว่าน่าจะมีข้อมูลของหนังเช่นความยาวของหนัง จึงลองใส่เข้ามาเริ่มตั้งแต่เรื่องนี้ตรงบริเวณตัวอักษรสีเขียวด้านบนสุดใต้โปสเตอร์หนัง คาดว่าต่อไปจะพยายามเพิ่มข้อมูลของหนังเล็กน้อยเพื่อเป็นประโยชน์กับผู้อ่านครับ
ปล 2 ... เอามาฝากกับบทกวีในเรื่องที่ไพเราะและประทับใจ
i carry your heart with me by e. e. cummings
i carry your heart with me (i carry it in my heart) i am never without it (anywhere i go you go, my dear; and whatever is done by only me is your doing, my darling) i fear no fate (for you are my fate, my sweet) i want no world (for beautiful you are my world, my true) and it's you are whatever a moon has always meant and whatever a sun will always sing is you
here is the deepest secret nobody knows (here is the root of the root and the bud of the bud and the sky of the sky of a tree called life; which grows higher than soul can hope or mind can hide) and this is the wonder that's keeping the stars apart
i carry your heart (i carry it in my heart)
Elizabeth Bishop - One Art
The art of losing isn't hard to master; so many things seem filled with the intent to be lost that their loss is no disaster.
Lose something every day. Accept the fluster of lost door keys, the hour badly spent. The art of losing isn't hard to master.
Then practice losing farther, losing faster: places, and names, and where it was you meant to travel. None of these will bring disaster.
I lost my mother's watch. And look! my last, or next-to-last, of three loved houses went. The art of losing isn't hard to master.
I lost two cities, lovely ones. And, vaster, some realms I owned, two rivers, a continent. I miss them, but it wasn't a disaster.
--Even losing you (the joking voice, a gesture I love) I shan't have lied. It's evident the art of losing's not too hard to master though it may look like (Write it!) like disaster.
ขอคิดค่าบริการต่อ 1 หน้าในอัตราเพียง
ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป
ติดตามบทความใหม่ๆ หรือ บทความน่าสนใจ หรือ เริ่มต้นอ่านBlogนี้มีข้อสงสัย คลิกไปเริ่มต้นที่ --> หน้าแรก
รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง
Create Date : 21 มกราคม 2549 |
Last Update : 26 มกราคม 2549 21:41:02 น. |
|
25 comments
|
Counter : 3559 Pageviews. |
|
|
|
โดย: เนเน่ฯ IP: 61.90.74.53 วันที่: 21 มกราคม 2549 เวลา:2:20:55 น. |
|
|
|
โดย: p_tham วันที่: 21 มกราคม 2549 เวลา:2:46:02 น. |
|
|
|
โดย: grappa วันที่: 21 มกราคม 2549 เวลา:8:35:31 น. |
|
|
|
โดย: NinG_CDC วันที่: 21 มกราคม 2549 เวลา:11:07:33 น. |
|
|
|
โดย: lonely sea IP: 210.86.145.3 วันที่: 21 มกราคม 2549 เวลา:14:55:25 น. |
|
|
|
โดย: azzurrini วันที่: 21 มกราคม 2549 เวลา:20:46:58 น. |
|
|
|
โดย: วัฌชา วันที่: 22 มกราคม 2549 เวลา:10:42:55 น. |
|
|
|
โดย: Tai-Sarunya IP: 203.107.193.5 วันที่: 22 มกราคม 2549 เวลา:20:16:37 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy IP: 203.151.140.118 วันที่: 24 มกราคม 2549 เวลา:17:59:58 น. |
|
|
|
โดย: in my wear!!! IP: 202.28.181.9 วันที่: 25 มกราคม 2549 เวลา:17:06:33 น. |
|
|
|
โดย: หลังจอ (ไมได้ login) IP: 202.183.197.15 วันที่: 31 มกราคม 2549 เวลา:10:11:09 น. |
|
|
|
โดย: Kinneto IP: 58.8.10.95 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:6:11:37 น. |
|
|
|
โดย: supernova IP: 161.200.128.11 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:21:19:12 น. |
|
|
|
โดย: Jib IP: 202.7.166.166 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:19:18:33 น. |
|
|
|
โดย: cottonbook วันที่: 18 เมษายน 2549 เวลา:12:34:07 น. |
|
|
|
โดย: Rie IP: 58.8.166.16 วันที่: 20 กรกฎาคม 2549 เวลา:1:41:40 น. |
|
|
|
โดย: sovo IP: 202.129.44.58 วันที่: 3 สิงหาคม 2549 เวลา:9:14:56 น. |
|
|
|
โดย: nuna IP: 58.8.155.126 วันที่: 17 กันยายน 2549 เวลา:13:19:00 น. |
|
|
|
โดย: gvd อุบล IP: 203.157.112.2 วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:15:25:05 น. |
|
|
|
โดย: Shoe lover IP: 130.88.163.160 วันที่: 28 เมษายน 2551 เวลา:5:27:03 น. |
|
|
|
โดย: ployzaa IP: 113.53.43.233 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:31:35 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
- Next , ทรงผมชวนกลุ้มใจกับหนังไซไฟดูเพลินๆ
- Spider-Man 3 , แมงมุมดำตัวนั้น ฉันเห็นมันอยู่ในใจเราทุกคน
- Miss potter , เรื่องของเธอ(พ็อตเตอร์)และผมฯ
- Me...Myself ขอให้รักจงเจริญ , แค่นี้ก็พอแล้ว
- Meet the Robinsons , เมื่อพบความผิดหวังจะโทษโน่นโทษนี่ หรือ เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป
- Shooter , หนังแอคชั่นที่ดูจบแล้ว"เออ มันดีแฮะ"
- Hannibal Rising , ความน่าผิดหวังของหนังฮานนิบาล
- Confession of pain , ความแค้นอันแสนเศร้า
- Pans Labyrinth , คือจินตนาการแสนสวยงาม หรือ คือความจริงที่เจ็บปวดและขมขื่น
- The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23
- เมล์นรก หมวยยกล้อ , รถเมล์สายนี้ไม่ตลกแต่สนุก
- The Lives of Others , อ๊ะ นี่มัน Infernal affairs เวอร์ชั่นกำแพงเบอร์ลิน
- Sunshine , อาทิตย์สิ้นแสง ชีวิตสิ้นสูญ
- The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)
- แฝด , เข้าใจพิม เข้าใจพลอย เข้าใจ"แฝด"
- I'm a Cyborg, But That's OK , แต่ I ไม่ค่อย OK
- The Good Shepherd , จะลงเรือทั้งทีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
- Bridge to Terabithia , Just close your eyes but keep your mind wide open
- 300 , นี่คือสปาตั้น(โว้ย) ... พลั่กกกกกก
- The Queen , แม้จะเป็นเรื่องของ 'ควีน' แต่นี่คือ การกะเทาะเปลือกเล่าเรื่อง 'คน'
- Rocky Balboa , ชีวิตไม่ได้สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน
- Charlotte's Web , มิตรภาพไม่ได้มีราคา
- The Pursuit of Happyness , ปัญหาชีวิตก็เหมือน รูบิค - ถ้าทำไม่ได้จะ สู้ต่อ หรือ โยนทิ้ง-
- Volver , ความเจ็บปวดของแม่และลูกสาว
- Music and Lyrics , หนังที่น่ารักที่สุดในรอบ(หลาย)ปี
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 , จะสนไปทำไมกับเรื่องอิสรภาพที่ไกลตัว
- Dreamgirls , วันที่ ธุรกิจ กลืนกิน ศิลปะ
- Babel , เราเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ไปแล้วหรือยัง
- Rough , จาก H2 มาสู่ Touch และได้เวลา Rough
- Curse of the Golden Flower , ความเน่าหนอนฟอนเฟะของสถาบันครอบครัว
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus , ความงามที่แตกต่าง โลกที่แตกต่าง
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1 , ไทยจะสิ้นชาติไม่ใช่เพราะใคร หากมิใช่เพราะไทยด้วยกัน
- Perfume: The Story of a Murderer , ทำความรู้จักและเข้าใจ ฆาตกรน้ำหอมมนุษย์
- Blood diamond , "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาฆ่ากันเอง"
- The Black Dahlia , ดอกรักเร่ ที่สวยแค่สไตล์แต่ไร้เสน่ห์
- Night at the Museum , ความบันเทิงสำเร็จรูปที่สนุกเพลินเกินห้ามใจ
- ===== 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ ประจำปี 2549 =====
- +++ 10 "ฉาก"ประทับใจจาก"หนัง"ปีที่ผ่านมา +++
- ++ ชวนเพื่อนๆมาเลือก 10 ตัวละครประทับใจ จากหนังปีที่ผ่านมา ++
- The Holiday , จะทำอย่างไรในวันที่ใจเจ็บ
- Lucky Number Slevin , ของเค้าดี แต่ ผิดที่ ผิดเวลา
- The King and the Clown , ความรักของตัวตลกบนหลังเสือ
- Déjà vu , เอ๊ะ เราเคยเจอมาก่อนหรือเปล่า
- Death Note 2: The Last Name , ได้เวลาเก็บสมุดคืนเจ้าของ
- Saw III , บทเรียนสุดท้ายของคุณครู จิ๊กซอว์
- The Village Album , ถ่ายภาพด้วยหัวใจแล้วบันทึกใส่ความทรงจำ
- 007 : Casino Royale , นี่ซิ เจมส์ บอนด์
- The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?
- The Banquet , แฮมเล็ต เวอร์ชั่น ประหารเจ็ดชั่วโคตร
- ผีสามบท บทที่ 3 : เปนชู้กับผี , พอกันที ผีGMO
- ผีสามบท บทที่ 2 : Monster House , บ้านผีสิงที่แสนจะบันเทิงใจ
- ผีสามบท บทที่ 1 : The Grudge 2 , ปัญหาของ ป๋า กับ เด็กผี
- The Guardian , "สถิติ" ไม่สำคัญเท่า "ทัศนคติและเจตคติ"
- หมากเตะรีเทิร์นส , หมากเกมส์นี้ น่าจะดีได้มากกว่านี้
- 12 เกมสยาม +13 เกมสยอง , มันไม่ใช่แค่เกม
- Cars , 20 ปีของ Pixar กับเรื่องของ "คาร์" (ซึ่งก็คือเรื่องของ "คน")
- The Devil Wears Prada , (จากหนังสือมาเป็นหนัง) ร้ายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
- Death Note , สมุดเล่มนี้ ดี จริงหรือ?
- L'Enfant (The child) , เด็กไม่รู้จักโต
- World Trade Center , เป็น"ฮีโร่"ไม่ได้วัดกันที่ผลลัพธ์
- The Host , สัตว์ประหลาด สนุกประหลาด
- Season changes , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"
- Me and You and Everyone We Know , เราอยู่ร่วมกัน เรารู้จักกัน แต่เราไม่เชื่อมต่อถึงกัน
- Snakes on a Plane , ที่อยากไปดูก็เพราะ "งูบนเครื่องบิน"
- United 93 , ทรงพลัง และ สะเทือนใจ
- Running boy (Marathon) , ทุกชีวิตล้วนมี"หัวใจ"
- โคตรรักเอ็งเลย , เกือบโคตรรัก "โคตรรักเอ็งเลย"
- Sad movie , แม้รักต้องพลัดพรากก็ยังฝากความทรงจำอันงดงาม
- The Break-Up , วิธีทำลายชีวิตคู่ตัวเองให้ย่อยยับ
- แก๊งชะนีกับอีแอบ , หนัง comedy ไทยดีๆยังมีอยู่
- Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest , "สลัด"จานนี้รสชาติดีเพราะ"Johnny Depp"
- Tsotsi , พื้นฐานจิตใจมนุษย์เป็น สีขาว หรือ สีดำ
- Superman Returns , ทำไมโลกใบนี้ยังต้องการ Superman ?
- Silent Hill , ของดีที่อยู่ในมือพ่อครัวขาดฝีมือ
- over the hedge , บทเรียนชีวิตเรื่องมิตรภาพและครอบครัว
- Don't tell , แผลในใจแค่"ลืม"คงไม่พอ
- Slither , คูลฟีเวอร์สีเลือด เชือดมนุษย์โลก
- The Omen , ซาตานอยู่รอบตัวเรา
- Scary movie 4 , ผ่านมา --> ฮา --> ผ่านไป
- Paradise now , สวรรค์อยู่หนใด
- X-Men: The Last Stand , X = mutant , รักร่วมเพศ , คนผิวดำ , ยิว ฯลฯ
- ก้านกล้วย , "ช้างกูอยู่ไหน" >> "ช้างกูอยู่นี่"
- The Da Vinci Code , ศรัทธาที่บิดเบือน
- Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
- Poseidon , จมเร็ว จบเร็ว
- Match point , เกมส์กิเลสของคนเห็นแก่ตัว
- Mission: Impossible III, ภารกิจสุดมันส์ที่ขาดเสน่ห์
- Perhaps love , รักซ้อนรัก หนังซ้อนหนัง อดีตซ้อนปัจจุบัน
- Ice Age: The Meltdown , ได้เวลายุคน้ำแข็งครองเมือง
- Red lights , ผู้ชายไม่รู้ตัว ผู้หญิงไม่รู้ใจ
- Failure to launch , Success to love
- Inside man , คน(ดี/ชั่ว) ใน คน(ดี/ชั่ว)
- Where the Truth Lies , ความจริงนอนนิ่งอยู่ที่ใด ?
- โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง , ฮาน้อยกว่าที่คิด มีสาระมากกว่าที่หวัง
- My girl and I , รักครั้งแรกจะเปลี่ยนเราไปตลอดกาล
- V for Vendetta , เผด็จการรัฐสภา VS. พลังประชาชน
- A History of violence , มาทำความรู้จัก "ความรุนแรง" กัน
- Final Destination 3 , เหล้าเก่าในขวดเก่า
- The Constant Gardener , ในความลับมีความจริง ในความจริงมีความรัก
- คำพิพากษาของมหาสมุทร (Invisible Waves) , คลื่นบาปที่นิ่งสงบ
- Walk the line , มิตรภาพในความรัก
- เด็กหอ , หอนี้มีดีกว่าผีหลอก
- Brokeback Mountain , รักซ่อนเร้น
- Munich , ผลของการสาดน้ำมัน(ความรุนแรง)เพื่อดับไฟ(แค้น)
- Memoirs of a Geisha , ชาเขียวสำเร็จรูปที่ผสมน้ำมากไป
- Prime , รักคงยังไม่พอ
- An Unfinished Life , ชีวิตที่หยุดเดิน
- In Her Shoes , หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต
- Just Like Heaven , เมื่อพื้นที่ของชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ความสุข
- The Promise , คำสัญญา ชะตากรรม ความรัก
- 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ (ของปีที่ผ่านมา)
- 10 ฉากประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- 10 ตัวละครประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and the Wardrobe , ส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับทุกครัวเรือน
- April Snow , บางครั้งความรักก็เจ็บปวดโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
- King Kong , แล้ว "ลิงยักษ์" ก็ตกหลุม "รักหญิง"
- The Descent , ถึงถ้ำ ถึงเลือด ถึงเนื้อ ถึงกระดูก
- The Maid , ผีสิงคโปร์
- The Exorcism of Emily Rose , ผีเข้า(ศาล)
- Hidden (Caché) , ความจริงที่ซุกซ่อน (ในหนังที่ยอดเยี่ยม)
- Chicken Little , กุ๊กไก่ของ Disney ที่ไร้เงา Pixar
- Nana , โลกของนานะ โลกของความรัก ความฝัน และ มิตรภาพ
- เด็กโต๋ , สายธารชีวิตแห่งบ้านแม่โต๋
- Harry Potter and the Goblet of Fire , กีฬาสีสามสถาบันกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
- Corpse Bride , รักไม่มีวันตาย
- Yes , บทกวีอีโรติค ความรัก การเมือง และ การมีตัวตน
- รับน้องสยองขวัญ , หายใจเข้าก็ เฮ้อ หายใจออกก็ เฮ้อ
- Lord of War , นิ้วที่ลั่นไกจากมือที่มองไม่เห็น
- Saw II , สยองอย่างมีประเด็น
- Goal! , ประตูชัย(goal)เป้าหมายชีวิต
- Proof , ชีวิตที่สับสนของคนที่สูญเสีย
- The Legend of Zorro , ฮีโร่ที่ย่ำอยู่กับที่
- Flightplan , ขึ้นได้สูง บินได้สวย ลงไม่นิ่ม
- Sky High , อยากจะเป็น hero ที่ "เปลือก" หรือที่ "แก่น"
- A Sound of Thunder , เรื่องราวอยู่ในโลกอนาคต ตัวหนังอยู่ในโลกอดีต
- Red Eye , ไม่ใช่แค่ Fight or Flight แต่ยังเป็น Fight on Flight
- เพื่อนสนิท , เมื่อเส้นแบ่งของ "คนรัก" กับ "เพื่อน" เริ่มเลือนราง
- Transporter 2 ควบ Into the Blue , ขึ้นรถดีกว่าลงเรือ
- Madagascar , มิตรภาพกับการเรียนรู้ชีวิต และ นกเพนกวิน
- Cinderella man , Jim Braddock ชายที่ไม่ได้เป็นแค่นักมวย
- Dear Frankie , คำลวง ความรัก ครอบครัว
- Dark Water , ความสัมพันธ์แม่-ลูก-ผี (จากหนังสือสู่ภาพยนตร์)
- Seven Swords , ... ที่ควรยาวกลับสั้น ที่ควรสั้นกลับยาว ...
- แหยม ยโสธร , ขำขำ - หม่ำ - อะฮึ่ย อะฮึ่ย
- Charlie and the Chocolate Factory , Imagination is more important than knowledge
- The Skeleton Key , ไขได้ดีพอสมควร
- About Love , เรื่องราวที่ "เกี่ยวกับ "รัก""
- 5x2 , สมการความรักของคน 2 คน
- ต้มยำกุ้ง , อร่อยรสแซ่บชามโตเกินมาตรฐานแต่อาจไม่ผ่านเชลล์ชวนชิม
- Somersault , ความรัก - Sex - เด็กสาวและความทุกข์ทรมานใจ
- The Upside of Anger , เรื่องหนักๆของครอบครัวที่เล่าอย่างเบาๆ
- Land of the Dead , หนึ่งเรื่องราวของซอมบี้ที่กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
- Crash , ผลกระทบของการชนที่"คน"มีต่อกันและกัน
- วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น , หนังครอบครัวสำหรับคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี
- The Island , โลกอนาคตและโคลนนิ่งฉบับระเบิดเถิดเทิง
- The Keys to the House , "บ้าน"หลังนี้จะมีความรักเป็น"กุญแจ"
- The Longest Yard , เกมส์เก่าเอามาเล่าใหม่ใช้วิธีการเดิม
- Fantastic Four , ความสนุกสูตรสำเร็จที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลิน
- War of the Worlds , เมื่อสปีลเบิร์กเลิกรักมนุษย์ต่างดาว
- Swing Girls , สวิงกันแบบคึกคัก สดใส ไร้มลพิษ
- Hotel , โรงแรมที่ไร้เรื่องราว
- Assault on Precinct 13 , อีกหนึ่งความจนตรอกที่ระทึกคุ้มค่า
- Batman Begins , ปฐมบทแรกบินกับการตีความครั้งใหม่
- Mr. and Mrs. Smith , เรื่องราวชีวิตคู่ที่สวมเสื้อคลุมหนังแอคชั่น
- มหาลัย' เหมืองแร่ , เหมืองแร่และชีวิตกับหน่วยกิตที่ต้องขุด
- House of Wax , ความสยองที่แปลกตากับหุ่นขี้ผึ้ง สองดาราและหนึ่งปารีส
- Sin city , ฟิล์มนัวร์ที่ลงตัวและเจ๋ง
- Star Wars: Episode III Revenge of the Sith , การปิดตำนานและการเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์
- The Jacket , การเดินทางข้ามเวลา ความหลอนและวงจรชีวิต
- A Lot Like Love , รักด้วยใจแต่ตัดสินใจด้วยสมอง
- เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ
- Be With You , ความสุขของฉันคือ"การได้อยู่กับคุณ"
- Hostage , เหล้าเก่าในขวดใหม่ที่ไม่น่าผิดหวัง
- Kingdom of Heaven , สงครามครูเสดครั้งนี้ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่น่าเสียดาย
- Spanglish , เรื่องราวที่กระจัดกระจายแต่ให้แง่มุมหลากหลายในครอบครัว
- Guess Who , เสียงฮาจากความแตกต่างและBernie Mac
- The Interpreter , ทริลเลอร์ที่ดี(แต่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น)
- Hide and Seek , มีปมที่ดีแต่มีบทที่อ่อน
- The Chorus (Les Choristes) , ง่ายๆแต่ได้ใจ
- Hitch , สนุก น่ารัก ขำขำ รู้สึกดี
- Sahara , หนังสนุกแค่เป็นช่วงๆหรือผมง่วงกันแน่
- Boogeyman , ตื่นเต้นตกใจ แต่ อะไร ยังไง ทำไม?
- Tokyo Godfathers , การตามหา"ครอบครัว"ที่สนุกมากๆ
- บุปผาราตรี เฟส 2 , เมื่อบุปผาเริ่มร่วงโรย
- Dont move , นอกจากตัดสินใคร คุณเข้าใจใครคนนั้นดีแล้วหรือยัง?
- Crying Out for Love, In the Center of the World , ความทรงจำและเทปคาสเสตต์/ความรักและใจกลางโลก
- The Ring Two , ไม่สมศักดิ์ศรี "The Ring"
- A Very Long Engagement , หนังที่มากไปด้วยความทะเยอทะยาน
- Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events , การดัดแปลง"โชคร้าย"ที่ทำได้"ดี"
- Hana & Alice , มิตรภาพ ความรัก ความทรงจำ
- Hotel Rwanda , หนังที่ให้คนดูมากกว่าความเป็นหนังดี
- In Good Company , ผู้ชายขาขึ้นกับผู้ชายขาลง
- Being Julia , โลก(ของจูเลีย)คือละคร
- หลวงพี่เท่ง , เรื่อยๆขำๆพอไปวัดไปวา
- Sideways , รักนุ่มๆชุ่มไวน์ในวันเบาๆ
- Million Dollar Baby , ความยอดเยี่ยมท่ามกลางศรัทธาและความอบอุ่น
- Constantine , "คนเห็นผี"ปราบลูกปีศาจ
- Shall we dance , คุณเต้นรำกับคู่ของคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไร
- Finding Neverland , งดงามเหลือเกิน
- Kung Fu Hustle , ตลกน้อย สนุกมาก และลงตัว
- 2046 , ไปแล้วอย่าลืมกลับมา
- Ray , มีดีที่Jamie Foxx
- The Phantom of the Opera , ภายใต้หน้ากากมีเพียงความว่างเปล่า
- โรงเตี๊ยม , มีอะไรดีๆกว่าที่คิดและโฆษณา
- Meet the fockers , เรื่องของหนังตลกและครอบครัว
- Closer , เมื่อความรักถูกสำรวจและตีแผ่ผ่านตัวละคร
- The Aviator, .....And this is Howard Hughes
- The Forgotten, ไม่มีอะไรน่าจดจำ
- Birth , ยอดเยี่ยมในความหนักแน่นและเนิบนาบ
- ****1ปีที่ผ่านมา ฉากใดในหนังที่คุณประทับใจ ****
- 5หนังชอบ กับ 5หนังไม่ชอบ ของคุณในปี2547คือ....,
- National Treasure, เมื่อBruckheimerมาสร้างDavinci's code
- The Polar Express, ตื่นตาแต่ไม่ตื่นใจ
- แจ๋ว, แจ๋วน้อยกว่าที่หวัง
- Bridget Jones 2, รู้จักเธอมากขึ้นและรู้สึกดีกว่าที่คิด
- The Incredibles, ครอบครัวหรรษา
- ขุนกระบี่ ผีระบาด, กล้าที่จะบ้า ก็กล้าที่จะดู
- Ocean's Twelve, หนังขาย"เสน่ห์ดารา"
- หมานคร, เมืองนี้ภาพสวย+เพลงเพราะ+ประหลาดและยาก
- กั๊กกะกาวน์, "ใจ"คุณเต้นอย่างไรเมื่อคุณมีความรัก
- Alexander, ดราม่าชั้นดีแต่ความสนุกเป็นระลอกคลื่น
- Wimbledon, For love of the game+NottingHill+ภราดร
- Love me if you dare, หนังรักแปลกกับความรู้สึกก้ำกึ่ง
- Cellular, สนุกเป็นบ้า แอคชั่นแอบฮา
- Saw, OldBoy+Cube+ฆาตกรโรคจิต
- Ladder49, สิงห์ผจญเพลิงชื่อฮัวควิน ฟีนิกซ์
- The Grudge, เมื่อ"เด็กผี" go inter เป็น "โคตรผีดุ"
- Dodgeball, ฮาน้อยกว่าที่หวังแต่สนุกกว่าที่คิด
- Sky Captain and The World of Tomo, หนังไซไฟสไตล์"ฟ้าทะลายโจร"
- Resident Evil 2, อลิซเท่+เนเมซิสเห่ย+จิลเฉยๆ
- Shark Tale, คุณเป็น"somebody"แล้วหรือยัง
- สายล่อฟ้า, ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนกับความสนุกกลางๆ
- Shutter กดติดวิญญาณ, นานๆทีจะมีหนังผีไทยดีๆให้ดูกัน
- The Terminal, น่ารัก นุ่มนวล และสนุกกว่าที่คิด
- Wicker park( spoilแล้วจะบอก), ลุ่มหลง คลั่งไคล้ หลอกลวงและความรัก
- Eternal sunshine รอบ2, ความอภิรมย์ที่มากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
- EternalSunshineOfTheSpotlessMind, คุณเคยอยากจะลืมบางสิ่งในชีวิตคุณบ้างไหม
- Three Extreme, อึดอัด ขยะแขยง รุนแรง และผิดหวัง
- Man on fire (no spoil), คนจริงเผาแค้น เผานานจนผมเกือบหลับ
- Bourne Supremacy, มันต้องให้ได้ยังงี้ซิ ต้องยังงี้ซิ
- Collateral...., it started like any other night
- Windstruck, งานมือตกของกวัก แจ ยอง
- งานของ M. Night Shyamalan, 6th sense/Unbreakable/Sign/และTheVillage
|
|
|
|
|
|
|
|
ที่สองพี่น้องคู่นี้ ไม่น่าจะเป็นพี่น้องกันได้
เพราะสำเนียงพูด คนละสำเนียงกันเลย