ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 , จะสนไปทำไมกับเรื่องอิสรภาพที่ไกลตัว
อ่านบทความในภาคที่แล้วก่อนได้ที่
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1 , ไทยจะสิ้นชาติไม่ใช่เพราะใคร หากมิใช่เพราะไทยด้วยกัน //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=01-2007&date=22&group=1&blog=1
....ในขณะที่เรานั่งแช่แอร์กินขนม จิ๊จ๊ะกับเพื่อนทางเว็บแคม พลิกตัวไปแอบเปิดแคมฟรอกลุ้นหวิว หรือ นอนเชียร์ลิเวอร์พูลให้ถล่มบาเซโลน่า เราไม่ทันรู้ตัวหรอกว่า โอกาสเหล่านี้ของเรา มีที่มาอย่างไร บรรพบุรุษของเราต้องต่อสู้เลือดตาแทบกระเด็นเพียงใด จึงจะทำให้เรามีกินมีอยู่เช่นทุกวันนี้
...หากในอดีต พวกเขาเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็น ชาวบ้านบางระจัน หรือ สมเด็จพระนเรศวร ฯลฯ คิดว่า "อยู่เป็นทาสของเขาก็พอถูไถไม่เห็นจะลำบากอะไรมาก" "อยู่เป็นเชลยของเขาก็แค่โดนดูถูกแต่มันก็พอมีพอกิน จะ ต่อสู้ ไปทำไมให้เปลืองเหงื่อเปลืองเลือด"
ทุกวันนี้ เราอาจจะยังไม่มีแม้แต่เพลงชาติให้ร้องตอนแปดโมงเช้า หรือ เราอาจต้องร้องเพลงชาติของประเทศอื่นตอนนักบอลเราอยู่ในสนาม
...ไม่แปลกอะไร ที่ ผมหรือใครหลายๆคนไม่ค่อยได้กลับมาหวนคิดถึงเรื่องราวเหล่านี้ เพราะ เราเคยชินกับชีวิตสำเร็จรูป เราหมกมุ่นกับวันข้างหน้า เรามัวแต่ห่วงว่าตัวเราจะรวยหรือจน จะได้เลื่อนขั้นหรือถูกเลย์ออฟ เราสนใจแต่ตัวเองจนลืมหันมานึกถึง ประเทศชาติบ้านเมือง แถมหลายคนยังพาลคิดไปถึงกับว่า
จะสนใจไปทำไมกับเรื่องในอดีตที่ไม่มีผลกับปัจจุบัน จะสนไปทำไมเรื่องอิสรภาพให้วุ่นวายมันไม่ใช่ปัญหาในตอนนี้ "จะสนไปทำไมกับเรื่องอิสรภาพที่ไกลตัว"
เข้าใจว่า ตอนเสียอิสรภาพที่ผ่านๆมาทุกครั้งในอดีต คนในชาติส่วนใหญ่ก็คงคิดเช่นนี้ คิดแต่เรื่องของตัวเอง ว่าเราจะอยู่จะกินอย่างไร ใครจะใหญ่ใครจะครองเมือง เรามองแต่ภาพเล็กๆคือภาพตัวเอง พวกพ้องของตัวเอง แต่ไม่เคยมองเห็นภาพของขวานด้ามใหญ่บนแผนที่
...ภาคแรกของตำนานสมเด็จพระนเรศวร ชี้ให้เห็นว่า ความพินาศฉิบหายวายป่วงของชาตินั้น สุดท้ายแล้ว ต้นเหตุใหญ่สุดล้วนเกิดขึ้นจากความแตกแยกของคนในชาติด้วยกัน ภาคสองนี้ เราจะได้เห็นว่า หากเราสูญเสียอิสรภาพไปแล้วนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยกว่าจะได้คืนมา บรรพบุรุษของเราต้องแลกอะไรไปบ้างเพื่อทวงเอกราชกลับคืน แล้ว มันก็ชวนให้ได้ฉุกคิดว่า แล้วทุกวันนี้หรือที่ผ่านมา เราเคยทำอะไรเพื่อชาติไทยบ้างแล้วหรือยัง
เราคือส่วนหนึ่งที่นั่งดูประเทศไทยค่อยๆสูญสิ้นความเป็นไทยด้วยการเห็นคนโกงกินก็นิ่งเฉย หรือ แอบเอาใต้โต๊ะโกงกินภาษีประชน หรือ วันๆทำงานมุ่งแต่ผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเอง หรือ เอาระเบิดมาบึ้มใส่คนไทยด้วยกัน ฯลฯ เราเป็นหนึ่งในนั้นหรือเปล่า หนึ่งในคนไทยที่ไม่เคยคิดไม่เคยทำอะไรเพื่อชาติเราเอง
...ความขัดตาขัดใจจาก หนังภาคหนึ่ง คือ หนังมีจุดสะดุดเล็กๆน้อยๆมากไปหน่อย จนทำให้ หนังฟอร์มยักษ์เรื่องนี้เป็นได้แค่ หนังพีเรียดที่ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ที่คนไทยภาคภูมิใจ ตัวหนังนั้นสอบผ่านได้คะแนนดีแต่ยังไปได้ไม่ถึงระดับยอดเยี่ยม หลังจากจบภาคที่แล้ว ผมสงสัยว่า ภาคสองที่ฉายกระชั้นกันแบบนี้ ท่านมุ้ยจะกลบจุดอ่อนจากของเดิมได้ทันหรือไม่ จะมีการปรับปรุงอะไรที่ต่างไปจากภาคแรก
แล้วผมก็พบว่า
ไม่มีอีกแล้ว ... ความไม่เป็นธรรมชาติในหนังภาคแรก เช่น บทสนทนาโต้ตอบกันเร็วๆเหมือนคนท่องบทต่อๆกันทีละคน , ฉากแสดงอารมณ์หลุดยุค อย่าง ท่าแอ๊บแบ๊วของพระสุพรรณกัลยา หรือ ฉากแอคชั่นตลกๆ อย่าง พระองค์ดำเวอร์ชั่นกระโดดเตะจาพนม
ไม่มีอีกแล้ว... แสงวูบขาวเปลี่ยนฉากให้ชวนรำคาญ(ถ้าสังเกตไม่ผิดเหมือนจะมีโผล่มาตอนเดียว)
ไม่มีอีกแล้ว... ปัญหาอายุที่เหลื่อมล้ำขัดความเป็นจริงในภาคแรก
ไม่มีอีกแล้ว... เพลงฝรั่งตอนจบให้ต้องสงสัยว่าที่เราดูจบไปเป็นหนังไทยหรือลอร์ด ออฟ เดอะ ริง
...หนังภาคสอง ลบ จุดสะดุดในหลายๆอย่างของภาคแรกออกไปมาก ส่งผลให้เกิดสิ่งที่ดีกว่าชัดเจน คือ การเล่าเรื่องที่ราบรื่นมากขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบ
เรื่องราวในภาคนี้ ดำเนินเรื่องตั้งต้นที่การเสียชีวิตของบุเรงนอง ต่อด้วยจุดสำคัญนั่นคือ การประกาศอิสรภาพของสมเด็จพระนเรศวร แล้วไปสิ้นสุดที่ฉากรบริมแม่น้ำสะโตง ซึ่งคนดูหลายคนคุ้นตาจากโปสเตอร์ที่เห็นพระองค์ทรงประทับปืนยาวเล็งมาแต่ไกล ก่อนที่เราคนดูจะต้องรอลุ้นการปิดฉากตำนานหนังเรื่องนี้ ในอีก สิบเดือนข้างหน้า
สำหรับคนไม่ดูภาคแรกมาก่อนก็สามารถดูต่อเนื่องในภาคนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่า อาจจะไม่อินหรือรู้สึกตะขิดตะขวงใน ความสัมพันธ์ของตัวละคร เช่น ระหว่าง พระยาราชมนู กับ สมเด็จพระนเรศวร ทำไมถึงดูสนิทกันจัง หรือ สมเด็จพระนเรศวร และ มณีจันทร์ ทำไมรักกันแล้วแค่เจอหน้ากัน หรือ บทมหาเถรคันฉ่องที่คนดูอาจสงสัยว่าทำไมในภาคนี้จึงดูสลักสำคัญมากนักแถมยังมาช่วยคนไทยซะงั้น
...ภาคสองเริ่มต้นแบบไม่รีรออ้อยอิ่ง หนังกระโดดจากวัยเด็กของตัวละครในภาคแรกมาเป็นวัยผู้ใหญ่เต็มตัว จนอาจทำให้หลายคนนึกเสียดาย ยังอยากเห็นบทบาทน่ารักน่าชังของเด็กๆกลุ่มเดิม กระนั้นก็ตามแม้ว่าภาคนี้ นักแสดงเด็กๆที่น่ารักกับบุเรงนองสุดจ๊าบ หมดบทบาทลง แต่ก็แทนที่ด้วยตัวละครรุ่นผู้ใหญ่ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน อย่าง
...บุญทิ้งเวอร์ชั่นผู้ใหญ่ หรือ พระราชมนู อาจจะดูover-actingไปบ้างในตอนแรก แต่เมื่อดูไปเรื่อยๆ กลับกลายเป็นรู้สึกว่า นี่คือ ตัวละครที่ทำให้ หนังภาคสองนี้ มีชีวิตมีเลือดเนื้อมีอารมณ์มากขึ้นอักโข เขาทำให้หนังที่ดูแข็งๆ มีมิติทางอารมณ์หลากหลาย เช่น อารมณ์ขึงขังทั้งตอนรบ อารมณ์หื่น(ไม่)น้อยตอนรัก อารมณ์อาลัยอาวรณ์ตอนจาก ยิ่งมาเข้าคู่กับ เลอขิ่น ที่อาบน้ำได้ดีและมีความเท่เคียงคู่ความเข้มแข็ง ยิ่งทำให้หนังชวนดูมากยิ่งขึ้น ต้องชมคนคัดตัวนักแสดงและตัวนักแสดง ทราย เจริญปุระ เธอมีบุคลิกบวกการแสดงที่สอดร้บกับบทนี้ได้อย่างน่าประทับใจ
ไม่ใช่แค่นั้น ภาคสองนี้เราจะยังได้พบกับตัวละครทีน่าประทับใจอีก เช่น บท พระไชยบุรีกับพระศรีถมอรัตน์ จัดได้ว่าเป็นสองตัวละครสมทบที่ขโมยซีนน่าจะเป็น คู่หูคู่เท่คู่ฮา ที่เราพบเสมอในหนังมหากาพย์ใหญ่ๆที่มาช่วยสร้างสีสันและลดความตึงเครียด อย่าง คู่ซีทรีพีโอ กับ อาร์ทูดีทู หรือ กิมลี กับ อารากอร์น และ นางเอกของเรื่อง มณีจันทร์ ที่เล่นดีหรือเปล่าไม่ทันสนใจเพราะ คุณเธองามจับตาจับใจเหลือเกิน
คนสำคัญที่สุดในหนังอย่าง พ.ต. วันชนะ สวัสดี สอบผ่านได้ยอดเยี่ยมในบท สมเด็จพระนเรศวร ที่มีรัศมีความเป็นผู้นำ ห้าวหาญเอาจริง อย่างฉากที่ตัดสินใจกลับไปช่วยพระยาราชมนู เท่ระเบิดมาก แต่ในตอนอื่นๆที่ไม่ใช่ฉากรบหรือฉากบัญชาการ เช่น ฉากเข้าพระเข้านาง หรือ ฉากสนทนาพาทีกับคนอื่นๆ ตัวเขายังดูแข็งๆไปนิดทั้งคำพูดและการเคลื่อนไหว
... หนังประวัติศาสตร์เช่นนี้ ย่อมมีตัวละครจำนวนมาก ก่อให้เกิดปัญหาที่ตามมาตั้งแต่เรื่องก่อนๆของท่านมุ้ย ไม่ว่าจะเป็นสุริโยไท หรือ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรภาคแรก คือ พอตัวละครมาก หนังเกลี่ยน้ำหนักให้ความสำคัญตัวละครไม่ดี จน บทบาทของตัวละครดูกลืนๆไปด้วยกัน ไม่มีใครสำคัญกว่าใคร ดูมั่วๆ คนดูจำไม่ได้ว่าบทบาทตัวละครนี้คือใคร ต้องอาศัยจำจากชื่อนักแสดงเอาเอง
ช่วงแรกของหนังภาคนี้ก็เกือบๆไปเหมือนกัน ครั้นพอตัวละครมาก หนังก็เข้าทางเดิมนั่นคือ หนังตั้งใจจะให้ความสำคัญกับตัวละครให้ครบมากที่สุด จน การตัดต่อลำดับเรื่องราวของหนังก็ดูสะดุดๆ ไม่ต่อเนื่อง และทำให้ช่วงแรกยาวๆและเบื่อๆนิดหน่อย รู้สึกแปลกใจเหมือนกันว่า เท่าที่เคยดูหนังของท่านมุ้ยเรื่องเก่าๆที่ไม่ใช่หนังฟอร์มยักษ์ ท่านกำกับนักแสดงให้ฉายความสามารถออกมาเต็มศักยภาพและเป็นธรรมชาติ แต่ทั้งสุริโยไท และ สมเด็จพระนเรศวร ฉากที่ขัดความรู้สึกกับไม่เป็นธรรมชาติส่วนใหญ่ เป็นฉากตัวละครมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน พูดคุยสนทนากัน พลอดรักกัน (เช่น เวลาเจอกันของคู่เอกที่ดูแข็งๆก้ๆกังๆขัดๆเขินๆ หรือ คู่รองที่บางตอนก็จูบกันดูดดื่มนัวเนียถึงพริกถึงขิงเกินความจำเป็น)
นั่นจึงทำให้รู้สึกว่า ช่วงครึ่งหลังที่เต็มไปด้วยฉากรบ หนังทำได้ราบรื่นดีกว่าช่วงต้นมาก เพราะไม่ต้องใส่ใจกับตัวละครที่ไม่สำคัญ ไม่ต้องมีฉากพูดคุยให้มากความ และการกำกับฉากรบ ฉากสงคราม นั้นหนังก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม เนียนต่อเนื่องไม่แพ้หนังฝรั่งมังค่าชนิดที่เรียกว่า ไม่ใช่แค่ทุนมากถึงทำได้ แต่ จังหวะและคิวต่างๆนั้น โกอินเตอได้ไม่อายใคร ขอยกนิ้วให้จริงๆ
...ระหว่างดูหนัง แอบเห็นคุณน้าที่นั่งข้างๆปาดน้ำตาป้อยๆมีอารมณ์คล้อยตามหนัง บ่งบอกว่าหนังภาคนี้ดึงอารมณ์คนดูได้ดีและทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วมที่หลากหลายกว่าภาคที่แล้ว ส่วนตัวแล้วก็มีแอบน้ำตาซึมตอน ฉากคู่รัก น้องขิ่นพี่ทิ้ง ที่ต้องรบเคียงบ่าเคียงไหล่หรือตอนใกล้ต้องพลัดพราก สองคนนี้เล่นเข้ากันดี ชอบฉากจะตกม้าแล้วคว้าก่อนร่วงไปด้วยกัน เป็นอีกหนึ่งฉากที่นักแสดงใจเด็ดและคิวกำกับก็ทำได้สวยงาม
อารมณ์ที่อ่อนที่สุดของหนัง คือ อารมณ์ตรงฉากไคลแมกซ์ ซึ่งภาคที่แล้วนั้นไม่มี ครั้นสุริโยไทก็หาไม่เจอ พอมาภาคนี้ฉากตอนจบ มี ไคลแมกซ์ ให้ชื่นใจ ก็กลายเป็น ไคลแมกซ์แบบเบาๆพาคนดูไปได้ไม่ถึงขีดสุด ทั้งที่มันน่าจะถึงพีคได้มากกว่านี้ หรือ ฉากที่น่าจะสำคัญๆหลายฉากก็ดูวูบวาบมาแล้วก็จบไป อย่าง ฉากลอบสังหารสมเด็จพระนเรศวรที่หนังปูมาเหมือนจะเป็นช่วงเวลาสำคัญ แต่แค่คนป่ากระโดดโฮ่ฮ่าถูกฆ่าตายแล้วจบไปแบบเงียบๆ ทั้งสามเรื่องของท่านมุ้ย หากมิใช่หาฉากไคลแมกซ์ไม่เจอ ก็จะให้ความรู้สึกในฉากไคลแมกซ์ว่า แหม เราอยากจะซึ้ง เราอยากจะฮึกเหิม เราอยากจะสะใจ มากกว่านี้อีกซักนิด แต่หนังปูอารมณ์มาบิวต์น้อยเหลือเกิน
การที่ไคลแมกซ์หรือฉากสำคัญไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมเต็มที่นั้น ส่วนตัวแล้วสังเกตว่า ที่ผ่านมา หนังให้ความสำคัญกับการปูอารมณ์คนดูน้อยเกินไป และ ค่อนข้างรวบรัดเพื่อนำไปสู่ฉากสำคัญ ไม่ต้องดูอื่นไกล ตัวอย่างเช่น ฉากพบกันของ มณีจันทร์ กับ สมเด็จพระนเรศวร ที่แม้เราจะรู้ความสัมพันธ์กันมาตั้งแต่ภาคที่แล้ว แต่ การที่หนังให้ทั้งคู่พบกันแล้วโผเข้ารักกันมันเร็วเกินไป ทำให้ถัดจากนั้น เวลาทั้งคู่อยู่ด้วยกัน เราจึงไม่ค่อยคล้อยตามอารมณ์รักใคร่ของทั้งคู่ หรือ ฉากประกาศอิสรภาพที่ตัวฉากนั้นทำได้ยิ่งใหญ่ แต่ก่อนหน้านั้น หนังปูให้เกิดอารมณ์ฮึกเหิมคล้อยตามได้น้อยเกินไป
ในฉากไคลแมกซ์สำคัญๆเหล่านั้น หากถามว่าดีหรือไม่ ตอบได้ว่าดี น้ำตาซึมหรือไม่ ก็ใช่ แต่ ความอินนั้นส่วนหนึ่งเพราะเราคนดูคือคนไทย จึงเกิดอารมณ์ร่วมไปกับหนังในหลายๆฉากได้มากยิ่งขึ้น แต่ หากยังจำกันได้ เวลาเราดูหนังฝรั่งที่เล่าเรื่องการต่อสู้เพื่อชนชาติตัวเองเช่น Braveheart ฉากไคลแมกซ์ในหนังนั้น ทำให้เรามีอารมณ์ร่วมฮึกเหิมไปโดยที่ไม่ใช่คนสก็อตแลนด์ หรือ หลายเรื่องๆที่เรารู้สึกฮึกเหิมขนลุกมากกว่านี้ ทั้งที่เราเองก็ไม่ใช่คนประเทศนั้นๆ นั่นแสดงให้เห็นถึง ความสามารถที่ตัวหนังถ่ายทอดความรู้สึกออกมาได้อย่างเต็มศักยภาพ และ นี่คือสิ่งที่หนังไทยเราน่าจะทำสู้ได้เพราะไม่เกี่ยวกับเงินทุนหรือประสบการณ์
...ปัญหาร่วมอีกจุดของทั้งสุริโยไท และ ตำนานสมเด็จพระนเรศวร คือ การพยายามถ่ายทอดรายละเอียดข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์ให้ครบ จนสุริโยไท เข้าใกล้ สารคดี และ ใน ตำนานสมเด็จพระนเรศวร บางครั้งมันก็มากจนล้น กลายเป็นส่วนเกินที่ไม่จำเป็น อย่างในหนังภาคนี้ ฉากบ้านยายตาบอดที่เหมือนจำเป็นต้องมี แต่พอมีแล้วก็รู้สึกเฉยๆ ไม่รู้จะใส่มาเพื่ออะไร เหมือนเป็นส่วนเกิน เข้าใจว่าน่าจะมีความหมาย แต่ หนังไม่สามารถสื่อสารข้อความในตอนนี้ได้ชัดเจน (เดาว่าจะสะท้อนให้เห็นตัวตนของสมเด็จพระนเรศวรและผลของสงครามต่อประชาชน) คำพูดที่ยายต้องการจะบอก เราก็ไม่เห็นผลตามมาว่าเกิดอะไรขึ้น ชนิดถ้าจะตัดฉากนี้ออกน่าจะเป็นผลดีในแง่การกระชับของหนังมากกว่า
จุดสะดุดเล็กๆน้อยในหนังยังพอมีอยู่ อย่าง การจัดแสงในบางฉาก ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะโรงหนังรอบที่ตัวเองดู หรือ เพราะตัวหนังเอง เช่น ฉากหมอกมูกับเลอขิ่นกลางป่า ถ่ายด้านหนึ่งดูเหมือนตอนพลบค่ำแต่พอกล้องเปลี่ยนมุมกลับสว่างจ้าเป็นเหมือนตอนกลางวันซะงั้น ยังมีปัญหาเรื่องเสียง ที่คนดูหลายคนบ่นถึง(อันนี้ไม่ทันสังเกตตั้งใจฟังเพราะมัวแต่ตั้งใจจับจ้อง มณีจันทร์ยิ้ม กับ เลอขิ่นอาบน้ำ) และ ที่ยังคงมีอยู่แต่ลืมพูดไปตอนเขียนถึงภาคแรก คือ นักแสดงสมทบหลายๆคนเวลาพูดเหมือนท่องบทอ่านให้เราฟัง มากกว่าแสดงหนังสวมบทบาทเป็นตัวละครนั้นๆให้เราดู
ส่วนตัวแล้วนั่งดูหนังอย่างพึงพอใจ แต่ก็อดเสียดายไม่ได้ตั้งแต่ภาคแรก ที่หนังเสียคะแนนไปกับข้อบกพร่องเล็กๆน้อยๆเยอะเกินไป จริงที่หนังทุกเรื่องย่อมมีข้อบกพร่อง แต่ข้อบกพร่องของสองภาคที่ผ่านมา ลองถามคนที่ไปดูด้วยกันหรืออ่านตามกระทู้ในเว็บบอร์ดก็จะพบว่า มันเป็นข้อบกพร่องที่คนดูส่วนใหญ่ ไม่จำเป็นต้องนักวิจารณ์ชั้นอ๋องก็สามารถมองเห็นและรู้สึกสะดุดในสิ่งเหมือนๆกัน แถมข้อบกพร่องนั้นก็แทบจะเรียกได้ว่า เดินซ้ำรอยเดิมมาตั้งแต่สุริโยไท ที่เสียดายก็เพราะว่า จุดบกพร่องเหล่านั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตที่เกินเยียวยาแบบ บทห่วย หรือ นักแสดงไม่เหมาะ แต่เป็นปัญหาที่น่าจะแก้ไขได้ หากก่อนเอามาฉายในโรงมีทีมช่วยกันดูช่วยกันตรวจ เพราะผลที่ออกมา เหมือนกับ สินค้าดี แต่ทีม QC ไม่เขี้ยวพอ ปล่อยผ่านออกมาเพราะมองแค่ว่า มันใช้ได้แล้ว
สิ่งที่ชอบ
1.พระราชมนู + เลอขิ่น ... เล่นเข้าคู่กันได้ดี และ แสดงได้ดีที่สุดในหนัง
2.พระไชยบุรี+พระศรีถมอรัตน์ ... ฉากเปิดตัวดูขำๆแต่ก็รู้สึกขัดๆกับการเป่ายิงฉุบ แต่ ถัดจากนั้นจนถึงช่วงปลาย ทั้งคู่ เท่มากขอรับ
3.ฉากสงคราม ... ด้วยงบขนาดนี้ นี่คือ ผลงานที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
สิ่งที่ไม่ชอบ
1.จุดบกพร่องเล็กๆน้อยๆประปรายที่กล่าวข้างต้น
สรุป ... เห็นควรว่าควรเสียตังค์ไปดู อันเนื่องมาจาก สนุกกว่าเดิม ยิ่งใหญ่กว่าเดิม อลังการงานสร้างมากกว่าเดิม ตื่นเต้นมากกว่า หลากรสชาติกว่าเดิม การเล่าเรื่องลื่นไหลมากกว่าเดิม เรียกได้ว่าทุกอย่างในภาคนี้ดีกว่าภาคที่แล้ว และ แน่นอน ดูสนุกว่า สุริโยไท หลายช่วงตัว (แต่ผมเองนั้นดันทะลึ่งชอบภาคที่แล้วมากกว่า ซึ่งเป็นเพราะตัวเองไม่ได้ชอบหนังสงคราม บวก ชอบตัวบทภาคก่อนที่มีอะไรให้ขบคิด มีรายละเอียด มีอะไรที่ดูซับซ้อนมากกว่าภาคนี้ การเขียนบทไม่เป็นสูตรตายตัวแบบพม่าชั่ว-ไทยดี และ ไม่เน้นไปที่การรบเป็นสำคัญ )
ป.ล. วันศุกร์นี้มีโปรแกรมน่าสนใจมากครับ กับ การดู Little miss sunshine ในโรงหนังฟรี หนังตัวเต็งออสการ์อีกเรื่องของปีนี้ที่เล่าถึงครอบครัวหนึ่งซึ่งทีมนักแสดงในหนังได้รับคำชมกันถ้วนหน้า หนังไม่เข้าโรงรอบธรรมดาแน่ๆแล้ว รายละเอียดคลิกอ่านที่ หน้าแรก ความเห็นที่ 20 ได้เลยครับ
ป.ล.2 ... อุวะฮะฮะ ลิเวอร์พูล อัด บาร์ซ่า ได้จริงๆด้วย
ขอฝาก"หนังสือรัก"ไว้กับผู้อ่านด้วยเน้อ กับ พ็อกเก็ตบุ้คเล่มแรก ที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม
(วางขายตามร้านหนังสือทั่วไปแว้ว) เดือนแห่งความรัก มอบ"หนังสือรัก"แด่คนที่คุณรัก ฮิ้ววว
ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ
ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก
รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง
|
ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง
ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป
Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2550 |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2550 4:57:22 น. |
|
23 comments
|
Counter : 5804 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Commencer วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:6:09:26 น. |
|
|
|
โดย: pigletdora วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:7:50:17 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy (nanoguy ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:14:01 น. |
|
|
|
โดย: เนเธกเธเธเธญ IP: 202.91.23.1 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:26:00 น. |
|
|
|
โดย: kee IP: 203.170.176.30 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:47:52 น. |
|
|
|
โดย: ณ มน วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:18:15 น. |
|
|
|
โดย: aorengja IP: 202.147.38.96 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:31:41 น. |
|
|
|
โดย: บลูยอชท์ IP: 202.69.140.130 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:46:45 น. |
|
|
|
โดย: บลอทช์ยู IP: 202.69.140.130 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:53:53 น. |
|
|
|
โดย: azzurrini IP: 202.28.181.9 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:36:07 น. |
|
|
|
โดย: tai (taibangplee ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:47:22 น. |
|
|
|
โดย: bunny2teddy (bunny2teddy ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:02:31 น. |
|
|
|
โดย: มีนา (Meena_March ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:02:01 น. |
|
|
|
โดย: AronSun IP: 124.120.239.104 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:1:13:18 น. |
|
|
|
โดย: AronSun IP: 124.120.239.104 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:1:14:56 น. |
|
|
|
โดย: wit IP: 222.123.21.246 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:53:29 น. |
|
|
|
โดย: Kato_nd IP: 58.181.237.53 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:15:01:14 น. |
|
|
|
โดย: Nunda IP: 210.203.169.82 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:24:53 น. |
|
|
|
โดย: bas IP: 58.8.20.128 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:33:58 น. |
|
|
|
โดย: สยาม IP: 58.137.45.31 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:52:47 น. |
|
|
|
โดย: tabby girl IP: 202.122.130.31 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:8:12:25 น. |
|
|
|
โดย: ริต้า IP: 124.121.90.246 วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:10:13:08 น. |
|
|
|
โดย: ฉันอยู่ข้างหลังคุณอีกที IP: 202.28.181.9 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:40:37 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | |
|
|
|
|
- Next , ทรงผมชวนกลุ้มใจกับหนังไซไฟดูเพลินๆ
- Spider-Man 3 , แมงมุมดำตัวนั้น ฉันเห็นมันอยู่ในใจเราทุกคน
- Miss potter , เรื่องของเธอ(พ็อตเตอร์)และผมฯ
- Me...Myself ขอให้รักจงเจริญ , แค่นี้ก็พอแล้ว
- Meet the Robinsons , เมื่อพบความผิดหวังจะโทษโน่นโทษนี่ หรือ เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป
- Shooter , หนังแอคชั่นที่ดูจบแล้ว"เออ มันดีแฮะ"
- Hannibal Rising , ความน่าผิดหวังของหนังฮานนิบาล
- Confession of pain , ความแค้นอันแสนเศร้า
- Pans Labyrinth , คือจินตนาการแสนสวยงาม หรือ คือความจริงที่เจ็บปวดและขมขื่น
- The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23
- เมล์นรก หมวยยกล้อ , รถเมล์สายนี้ไม่ตลกแต่สนุก
- The Lives of Others , อ๊ะ นี่มัน Infernal affairs เวอร์ชั่นกำแพงเบอร์ลิน
- Sunshine , อาทิตย์สิ้นแสง ชีวิตสิ้นสูญ
- The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)
- แฝด , เข้าใจพิม เข้าใจพลอย เข้าใจ"แฝด"
- I'm a Cyborg, But That's OK , แต่ I ไม่ค่อย OK
- The Good Shepherd , จะลงเรือทั้งทีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
- Bridge to Terabithia , Just close your eyes but keep your mind wide open
- 300 , นี่คือสปาตั้น(โว้ย) ... พลั่กกกกกก
- The Queen , แม้จะเป็นเรื่องของ 'ควีน' แต่นี่คือ การกะเทาะเปลือกเล่าเรื่อง 'คน'
- Rocky Balboa , ชีวิตไม่ได้สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน
- Charlotte's Web , มิตรภาพไม่ได้มีราคา
- The Pursuit of Happyness , ปัญหาชีวิตก็เหมือน รูบิค - ถ้าทำไม่ได้จะ สู้ต่อ หรือ โยนทิ้ง-
- Volver , ความเจ็บปวดของแม่และลูกสาว
- Music and Lyrics , หนังที่น่ารักที่สุดในรอบ(หลาย)ปี
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 , จะสนไปทำไมกับเรื่องอิสรภาพที่ไกลตัว
- Dreamgirls , วันที่ ธุรกิจ กลืนกิน ศิลปะ
- Babel , เราเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ไปแล้วหรือยัง
- Rough , จาก H2 มาสู่ Touch และได้เวลา Rough
- Curse of the Golden Flower , ความเน่าหนอนฟอนเฟะของสถาบันครอบครัว
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus , ความงามที่แตกต่าง โลกที่แตกต่าง
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1 , ไทยจะสิ้นชาติไม่ใช่เพราะใคร หากมิใช่เพราะไทยด้วยกัน
- Perfume: The Story of a Murderer , ทำความรู้จักและเข้าใจ ฆาตกรน้ำหอมมนุษย์
- Blood diamond , "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาฆ่ากันเอง"
- The Black Dahlia , ดอกรักเร่ ที่สวยแค่สไตล์แต่ไร้เสน่ห์
- Night at the Museum , ความบันเทิงสำเร็จรูปที่สนุกเพลินเกินห้ามใจ
- ===== 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ ประจำปี 2549 =====
- +++ 10 "ฉาก"ประทับใจจาก"หนัง"ปีที่ผ่านมา +++
- ++ ชวนเพื่อนๆมาเลือก 10 ตัวละครประทับใจ จากหนังปีที่ผ่านมา ++
- The Holiday , จะทำอย่างไรในวันที่ใจเจ็บ
- Lucky Number Slevin , ของเค้าดี แต่ ผิดที่ ผิดเวลา
- The King and the Clown , ความรักของตัวตลกบนหลังเสือ
- Déjà vu , เอ๊ะ เราเคยเจอมาก่อนหรือเปล่า
- Death Note 2: The Last Name , ได้เวลาเก็บสมุดคืนเจ้าของ
- Saw III , บทเรียนสุดท้ายของคุณครู จิ๊กซอว์
- The Village Album , ถ่ายภาพด้วยหัวใจแล้วบันทึกใส่ความทรงจำ
- 007 : Casino Royale , นี่ซิ เจมส์ บอนด์
- The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?
- The Banquet , แฮมเล็ต เวอร์ชั่น ประหารเจ็ดชั่วโคตร
- ผีสามบท บทที่ 3 : เปนชู้กับผี , พอกันที ผีGMO
- ผีสามบท บทที่ 2 : Monster House , บ้านผีสิงที่แสนจะบันเทิงใจ
- ผีสามบท บทที่ 1 : The Grudge 2 , ปัญหาของ ป๋า กับ เด็กผี
- The Guardian , "สถิติ" ไม่สำคัญเท่า "ทัศนคติและเจตคติ"
- หมากเตะรีเทิร์นส , หมากเกมส์นี้ น่าจะดีได้มากกว่านี้
- 12 เกมสยาม +13 เกมสยอง , มันไม่ใช่แค่เกม
- Cars , 20 ปีของ Pixar กับเรื่องของ "คาร์" (ซึ่งก็คือเรื่องของ "คน")
- The Devil Wears Prada , (จากหนังสือมาเป็นหนัง) ร้ายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
- Death Note , สมุดเล่มนี้ ดี จริงหรือ?
- L'Enfant (The child) , เด็กไม่รู้จักโต
- World Trade Center , เป็น"ฮีโร่"ไม่ได้วัดกันที่ผลลัพธ์
- The Host , สัตว์ประหลาด สนุกประหลาด
- Season changes , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"
- Me and You and Everyone We Know , เราอยู่ร่วมกัน เรารู้จักกัน แต่เราไม่เชื่อมต่อถึงกัน
- Snakes on a Plane , ที่อยากไปดูก็เพราะ "งูบนเครื่องบิน"
- United 93 , ทรงพลัง และ สะเทือนใจ
- Running boy (Marathon) , ทุกชีวิตล้วนมี"หัวใจ"
- โคตรรักเอ็งเลย , เกือบโคตรรัก "โคตรรักเอ็งเลย"
- Sad movie , แม้รักต้องพลัดพรากก็ยังฝากความทรงจำอันงดงาม
- The Break-Up , วิธีทำลายชีวิตคู่ตัวเองให้ย่อยยับ
- แก๊งชะนีกับอีแอบ , หนัง comedy ไทยดีๆยังมีอยู่
- Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest , "สลัด"จานนี้รสชาติดีเพราะ"Johnny Depp"
- Tsotsi , พื้นฐานจิตใจมนุษย์เป็น สีขาว หรือ สีดำ
- Superman Returns , ทำไมโลกใบนี้ยังต้องการ Superman ?
- Silent Hill , ของดีที่อยู่ในมือพ่อครัวขาดฝีมือ
- over the hedge , บทเรียนชีวิตเรื่องมิตรภาพและครอบครัว
- Don't tell , แผลในใจแค่"ลืม"คงไม่พอ
- Slither , คูลฟีเวอร์สีเลือด เชือดมนุษย์โลก
- The Omen , ซาตานอยู่รอบตัวเรา
- Scary movie 4 , ผ่านมา --> ฮา --> ผ่านไป
- Paradise now , สวรรค์อยู่หนใด
- X-Men: The Last Stand , X = mutant , รักร่วมเพศ , คนผิวดำ , ยิว ฯลฯ
- ก้านกล้วย , "ช้างกูอยู่ไหน" >> "ช้างกูอยู่นี่"
- The Da Vinci Code , ศรัทธาที่บิดเบือน
- Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
- Poseidon , จมเร็ว จบเร็ว
- Match point , เกมส์กิเลสของคนเห็นแก่ตัว
- Mission: Impossible III, ภารกิจสุดมันส์ที่ขาดเสน่ห์
- Perhaps love , รักซ้อนรัก หนังซ้อนหนัง อดีตซ้อนปัจจุบัน
- Ice Age: The Meltdown , ได้เวลายุคน้ำแข็งครองเมือง
- Red lights , ผู้ชายไม่รู้ตัว ผู้หญิงไม่รู้ใจ
- Failure to launch , Success to love
- Inside man , คน(ดี/ชั่ว) ใน คน(ดี/ชั่ว)
- Where the Truth Lies , ความจริงนอนนิ่งอยู่ที่ใด ?
- โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง , ฮาน้อยกว่าที่คิด มีสาระมากกว่าที่หวัง
- My girl and I , รักครั้งแรกจะเปลี่ยนเราไปตลอดกาล
- V for Vendetta , เผด็จการรัฐสภา VS. พลังประชาชน
- A History of violence , มาทำความรู้จัก "ความรุนแรง" กัน
- Final Destination 3 , เหล้าเก่าในขวดเก่า
- The Constant Gardener , ในความลับมีความจริง ในความจริงมีความรัก
- คำพิพากษาของมหาสมุทร (Invisible Waves) , คลื่นบาปที่นิ่งสงบ
- Walk the line , มิตรภาพในความรัก
- เด็กหอ , หอนี้มีดีกว่าผีหลอก
- Brokeback Mountain , รักซ่อนเร้น
- Munich , ผลของการสาดน้ำมัน(ความรุนแรง)เพื่อดับไฟ(แค้น)
- Memoirs of a Geisha , ชาเขียวสำเร็จรูปที่ผสมน้ำมากไป
- Prime , รักคงยังไม่พอ
- An Unfinished Life , ชีวิตที่หยุดเดิน
- In Her Shoes , หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต
- Just Like Heaven , เมื่อพื้นที่ของชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ความสุข
- The Promise , คำสัญญา ชะตากรรม ความรัก
- 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ (ของปีที่ผ่านมา)
- 10 ฉากประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- 10 ตัวละครประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and the Wardrobe , ส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับทุกครัวเรือน
- April Snow , บางครั้งความรักก็เจ็บปวดโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
- King Kong , แล้ว "ลิงยักษ์" ก็ตกหลุม "รักหญิง"
- The Descent , ถึงถ้ำ ถึงเลือด ถึงเนื้อ ถึงกระดูก
- The Maid , ผีสิงคโปร์
- The Exorcism of Emily Rose , ผีเข้า(ศาล)
- Hidden (Caché) , ความจริงที่ซุกซ่อน (ในหนังที่ยอดเยี่ยม)
- Chicken Little , กุ๊กไก่ของ Disney ที่ไร้เงา Pixar
- Nana , โลกของนานะ โลกของความรัก ความฝัน และ มิตรภาพ
- เด็กโต๋ , สายธารชีวิตแห่งบ้านแม่โต๋
- Harry Potter and the Goblet of Fire , กีฬาสีสามสถาบันกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
- Corpse Bride , รักไม่มีวันตาย
- Yes , บทกวีอีโรติค ความรัก การเมือง และ การมีตัวตน
- รับน้องสยองขวัญ , หายใจเข้าก็ เฮ้อ หายใจออกก็ เฮ้อ
- Lord of War , นิ้วที่ลั่นไกจากมือที่มองไม่เห็น
- Saw II , สยองอย่างมีประเด็น
- Goal! , ประตูชัย(goal)เป้าหมายชีวิต
- Proof , ชีวิตที่สับสนของคนที่สูญเสีย
- The Legend of Zorro , ฮีโร่ที่ย่ำอยู่กับที่
- Flightplan , ขึ้นได้สูง บินได้สวย ลงไม่นิ่ม
- Sky High , อยากจะเป็น hero ที่ "เปลือก" หรือที่ "แก่น"
- A Sound of Thunder , เรื่องราวอยู่ในโลกอนาคต ตัวหนังอยู่ในโลกอดีต
- Red Eye , ไม่ใช่แค่ Fight or Flight แต่ยังเป็น Fight on Flight
- เพื่อนสนิท , เมื่อเส้นแบ่งของ "คนรัก" กับ "เพื่อน" เริ่มเลือนราง
- Transporter 2 ควบ Into the Blue , ขึ้นรถดีกว่าลงเรือ
- Madagascar , มิตรภาพกับการเรียนรู้ชีวิต และ นกเพนกวิน
- Cinderella man , Jim Braddock ชายที่ไม่ได้เป็นแค่นักมวย
- Dear Frankie , คำลวง ความรัก ครอบครัว
- Dark Water , ความสัมพันธ์แม่-ลูก-ผี (จากหนังสือสู่ภาพยนตร์)
- Seven Swords , ... ที่ควรยาวกลับสั้น ที่ควรสั้นกลับยาว ...
- แหยม ยโสธร , ขำขำ - หม่ำ - อะฮึ่ย อะฮึ่ย
- Charlie and the Chocolate Factory , Imagination is more important than knowledge
- The Skeleton Key , ไขได้ดีพอสมควร
- About Love , เรื่องราวที่ "เกี่ยวกับ "รัก""
- 5x2 , สมการความรักของคน 2 คน
- ต้มยำกุ้ง , อร่อยรสแซ่บชามโตเกินมาตรฐานแต่อาจไม่ผ่านเชลล์ชวนชิม
- Somersault , ความรัก - Sex - เด็กสาวและความทุกข์ทรมานใจ
- The Upside of Anger , เรื่องหนักๆของครอบครัวที่เล่าอย่างเบาๆ
- Land of the Dead , หนึ่งเรื่องราวของซอมบี้ที่กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
- Crash , ผลกระทบของการชนที่"คน"มีต่อกันและกัน
- วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น , หนังครอบครัวสำหรับคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี
- The Island , โลกอนาคตและโคลนนิ่งฉบับระเบิดเถิดเทิง
- The Keys to the House , "บ้าน"หลังนี้จะมีความรักเป็น"กุญแจ"
- The Longest Yard , เกมส์เก่าเอามาเล่าใหม่ใช้วิธีการเดิม
- Fantastic Four , ความสนุกสูตรสำเร็จที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลิน
- War of the Worlds , เมื่อสปีลเบิร์กเลิกรักมนุษย์ต่างดาว
- Swing Girls , สวิงกันแบบคึกคัก สดใส ไร้มลพิษ
- Hotel , โรงแรมที่ไร้เรื่องราว
- Assault on Precinct 13 , อีกหนึ่งความจนตรอกที่ระทึกคุ้มค่า
- Batman Begins , ปฐมบทแรกบินกับการตีความครั้งใหม่
- Mr. and Mrs. Smith , เรื่องราวชีวิตคู่ที่สวมเสื้อคลุมหนังแอคชั่น
- มหาลัย' เหมืองแร่ , เหมืองแร่และชีวิตกับหน่วยกิตที่ต้องขุด
- House of Wax , ความสยองที่แปลกตากับหุ่นขี้ผึ้ง สองดาราและหนึ่งปารีส
- Sin city , ฟิล์มนัวร์ที่ลงตัวและเจ๋ง
- Star Wars: Episode III Revenge of the Sith , การปิดตำนานและการเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์
- The Jacket , การเดินทางข้ามเวลา ความหลอนและวงจรชีวิต
- A Lot Like Love , รักด้วยใจแต่ตัดสินใจด้วยสมอง
- เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ
- Be With You , ความสุขของฉันคือ"การได้อยู่กับคุณ"
- Hostage , เหล้าเก่าในขวดใหม่ที่ไม่น่าผิดหวัง
- Kingdom of Heaven , สงครามครูเสดครั้งนี้ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่น่าเสียดาย
- Spanglish , เรื่องราวที่กระจัดกระจายแต่ให้แง่มุมหลากหลายในครอบครัว
- Guess Who , เสียงฮาจากความแตกต่างและBernie Mac
- The Interpreter , ทริลเลอร์ที่ดี(แต่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น)
- Hide and Seek , มีปมที่ดีแต่มีบทที่อ่อน
- The Chorus (Les Choristes) , ง่ายๆแต่ได้ใจ
- Hitch , สนุก น่ารัก ขำขำ รู้สึกดี
- Sahara , หนังสนุกแค่เป็นช่วงๆหรือผมง่วงกันแน่
- Boogeyman , ตื่นเต้นตกใจ แต่ อะไร ยังไง ทำไม?
- Tokyo Godfathers , การตามหา"ครอบครัว"ที่สนุกมากๆ
- บุปผาราตรี เฟส 2 , เมื่อบุปผาเริ่มร่วงโรย
- Dont move , นอกจากตัดสินใคร คุณเข้าใจใครคนนั้นดีแล้วหรือยัง?
- Crying Out for Love, In the Center of the World , ความทรงจำและเทปคาสเสตต์/ความรักและใจกลางโลก
- The Ring Two , ไม่สมศักดิ์ศรี "The Ring"
- A Very Long Engagement , หนังที่มากไปด้วยความทะเยอทะยาน
- Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events , การดัดแปลง"โชคร้าย"ที่ทำได้"ดี"
- Hana & Alice , มิตรภาพ ความรัก ความทรงจำ
- Hotel Rwanda , หนังที่ให้คนดูมากกว่าความเป็นหนังดี
- In Good Company , ผู้ชายขาขึ้นกับผู้ชายขาลง
- Being Julia , โลก(ของจูเลีย)คือละคร
- หลวงพี่เท่ง , เรื่อยๆขำๆพอไปวัดไปวา
- Sideways , รักนุ่มๆชุ่มไวน์ในวันเบาๆ
- Million Dollar Baby , ความยอดเยี่ยมท่ามกลางศรัทธาและความอบอุ่น
- Constantine , "คนเห็นผี"ปราบลูกปีศาจ
- Shall we dance , คุณเต้นรำกับคู่ของคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไร
- Finding Neverland , งดงามเหลือเกิน
- Kung Fu Hustle , ตลกน้อย สนุกมาก และลงตัว
- 2046 , ไปแล้วอย่าลืมกลับมา
- Ray , มีดีที่Jamie Foxx
- The Phantom of the Opera , ภายใต้หน้ากากมีเพียงความว่างเปล่า
- โรงเตี๊ยม , มีอะไรดีๆกว่าที่คิดและโฆษณา
- Meet the fockers , เรื่องของหนังตลกและครอบครัว
- Closer , เมื่อความรักถูกสำรวจและตีแผ่ผ่านตัวละคร
- The Aviator, .....And this is Howard Hughes
- The Forgotten, ไม่มีอะไรน่าจดจำ
- Birth , ยอดเยี่ยมในความหนักแน่นและเนิบนาบ
- ****1ปีที่ผ่านมา ฉากใดในหนังที่คุณประทับใจ ****
- 5หนังชอบ กับ 5หนังไม่ชอบ ของคุณในปี2547คือ....,
- National Treasure, เมื่อBruckheimerมาสร้างDavinci's code
- The Polar Express, ตื่นตาแต่ไม่ตื่นใจ
- แจ๋ว, แจ๋วน้อยกว่าที่หวัง
- Bridget Jones 2, รู้จักเธอมากขึ้นและรู้สึกดีกว่าที่คิด
- The Incredibles, ครอบครัวหรรษา
- ขุนกระบี่ ผีระบาด, กล้าที่จะบ้า ก็กล้าที่จะดู
- Ocean's Twelve, หนังขาย"เสน่ห์ดารา"
- หมานคร, เมืองนี้ภาพสวย+เพลงเพราะ+ประหลาดและยาก
- กั๊กกะกาวน์, "ใจ"คุณเต้นอย่างไรเมื่อคุณมีความรัก
- Alexander, ดราม่าชั้นดีแต่ความสนุกเป็นระลอกคลื่น
- Wimbledon, For love of the game+NottingHill+ภราดร
- Love me if you dare, หนังรักแปลกกับความรู้สึกก้ำกึ่ง
- Cellular, สนุกเป็นบ้า แอคชั่นแอบฮา
- Saw, OldBoy+Cube+ฆาตกรโรคจิต
- Ladder49, สิงห์ผจญเพลิงชื่อฮัวควิน ฟีนิกซ์
- The Grudge, เมื่อ"เด็กผี" go inter เป็น "โคตรผีดุ"
- Dodgeball, ฮาน้อยกว่าที่หวังแต่สนุกกว่าที่คิด
- Sky Captain and The World of Tomo, หนังไซไฟสไตล์"ฟ้าทะลายโจร"
- Resident Evil 2, อลิซเท่+เนเมซิสเห่ย+จิลเฉยๆ
- Shark Tale, คุณเป็น"somebody"แล้วหรือยัง
- สายล่อฟ้า, ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนกับความสนุกกลางๆ
- Shutter กดติดวิญญาณ, นานๆทีจะมีหนังผีไทยดีๆให้ดูกัน
- The Terminal, น่ารัก นุ่มนวล และสนุกกว่าที่คิด
- Wicker park( spoilแล้วจะบอก), ลุ่มหลง คลั่งไคล้ หลอกลวงและความรัก
- Eternal sunshine รอบ2, ความอภิรมย์ที่มากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
- EternalSunshineOfTheSpotlessMind, คุณเคยอยากจะลืมบางสิ่งในชีวิตคุณบ้างไหม
- Three Extreme, อึดอัด ขยะแขยง รุนแรง และผิดหวัง
- Man on fire (no spoil), คนจริงเผาแค้น เผานานจนผมเกือบหลับ
- Bourne Supremacy, มันต้องให้ได้ยังงี้ซิ ต้องยังงี้ซิ
- Collateral...., it started like any other night
- Windstruck, งานมือตกของกวัก แจ ยอง
- งานของ M. Night Shyamalan, 6th sense/Unbreakable/Sign/และTheVillage
|
|
|
|
|
|
|
|
เป็น บลฮกเกอร์เพียงไม่กี่คนที่พูดถึงหนังเรื่องนี้ด้วยการหยิบเนื้อหาของหนัง
และ ประเด็นเรื่อง ความรักชาติ มาพูด
ซึ่งเป็น จุดขาย ที่ทางผู้สร้างหนังพยายามบอกว่า มันเป็นหนังเพื่อคนที่รักชาติ
เท่าที่ผมติดตามอ่านมาจากบลอกเกอร์หลายๆคน
ที่ไปดูหนังซีรีย์ชุดนี้มา ตั้งแต่ภาคแรกๆแล้ว
หลายๆคนเอามาอัพบล้อก
แต่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเรื่องเนื้อหาหนังเลย
เห็นพูดกันแต่ ความยิ่งใหญ่ น่าฮือฮาของฉากและเทคนิคเอฟเฟกต์ เสื้อผ้า ตัวดารา
เห็นด้วยครับ
บางที หัดเอาอดีตมาเป็นข้อเตือนใจและสำนึกในคุณูปการของ ผู้คนในอดีต บ้าง
ประเทศชาติก็คงไม่เกิดปัญหาวุ่นวายแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้