The Upside of Anger , เรื่องหนักๆของครอบครัวที่เล่าอย่างเบาๆ
... ในปี 1967 Holmes และ Rahe ได้ทำการศึกษาถึงความสัมพันธ์ ระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตว่าส่งผลต่อระดับความเครียดกับคนมากน้อยอย่างไร เรียงลำดับไว้ 50 อันดับแต่ละอันดับก็จะมีค่า Life Change Unit (LCU) ที่แตกต่างกัน โดยเหตุการณ์ที่มีต่อความเครียดมากสุดอันดับ 1 ก็จะมีค่า LCU สูงที่สุด พบว่าเหตุการณ์ชีวิตที่ส่งผลต่อความเครียดใน 5 อันดับแรกเรียงตามความรุนแรงสุดนั้นได้แก่ การตายของคู่สมรส , การหย่าร้าง , การแยกกันอยู่ของคู่สมรส , การถูกจองจำและการตายของสมาชิกในครอบครัวที่ใกล้ชิด (ในปี1994 Miller และ Rahe ทำการวิจัยใหม่มีการเปลี่ยนแปลงตรงการตายของสมาชิกในครอบครัวขึ้นไปอยู่อันดับ 3) จะเห็นได้ว่า 4 ใน 5 อันดับแรกเหตุการณ์ที่มีความรุนแรงมากสุดในการเกิดความเครียดมาจากภายใน ครอบครัว
ความสมดุลในครอบครัวย่อมเปลี่ยนแปลงไป เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับสมาชิกคนใดคนหนึ่งของครอบครัว การสูญเสียคนที่เป็นทั้งหัวหน้าครอบครัว เป็นทั้งพ่อ ทั้งคนรัก มันไม่ใช่แค่การสูญเสียตัวบุคคล (Loss object) แต่มันหมายรวมถึงการสูญเสียความรัก (love) ความศรัทธา (faith) มิตรภาพ (companionship) อนาคตที่วางไว้ (future) ฯลฯ และเป็นการเพิ่มบทบาทที่มากขึ้นของคนที่เหลืออยู่ในครอบครัว
...แล้วจะไม่ให้คนเป็นแม่อย่าง Terry ไม่โกรธได้อย่างไร เมื่อพบว่าจู่ๆสามีหายไปอย่างไร้ร่องรอย พร้อมสมมติฐานที่เป็นไปได้มากที่สุดคือหนีไปกับผู้หญิง
....แล้วจะไม่ให้ลูกๆทั้ง 4 ไม่โกรธได้อย่างไร เมื่อ พบว่าความโกรธของแม่มาถ่ายเทลงครอบครัวที่เหลือแต่พวกเธอกับแม่ และพบว่าครอบครัวตัวเองจะไม่ใช่ครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อมอีกแล้ว พวกเธอจะไม่มีพ่ออีกต่อไป
...หนังแสดงให้เห็นความเครียดที่ถาโถมเข้ามาใส่ตัวละครTerry ไม่ว่าจะเป็นความเหงา , ภาระหน้าที่ๆเพิ่มมากขึ้นและ การต้องรับมือกับลูกๆเพียงลำพัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ลูกสาวบอกว่าท้องและกำลังจะแต่งงานโดยไม่มีวี่แววมาก่อน /ลูกสาวอีกคนคบกับผู้ชายคราวพ่อ / ลูกสาวอีกคนคบเพื่อนผู้ชายท่าทางแปลกๆ ไม่น่าไว้วางใจ / ลูกสาวอีกคนอยากเรียนในที่ๆตัวเธอไม่อยากให้เรียน ฯลฯ สิ่งที่เป็นเพียงเพื่อนของเธอคือเหล้า จนกระทั่งการมาของ Denny เพื่อนข้างบ้านที่มีเหล้าเป็นเพื่อนดับทุกข์เช่นกัน
.....ไม่มีใจดวงไหนที่ไม่เคยมีรอยแผล ไม่เคยมีใจดวงไหนไม่เคยแตกร้าว แน่นอนมันต้องเจ็บปวดและทำให้เป๋ๆไปบ้าง แต่มันก็จะกลับมาทำงานดังเดิม แน่นอนไม่มีใครชอบความเจ็บปวดแต่ละคนจึงมีวิธีที่จะหลีกหนีความเจ็บปวดที่แตกต่างกัน Terry เลือกที่จะใช้สุราเป็นเพื่อนให้ลืมช่วงเวลาที่ร้าวรานในขณะที่ Denny เลือกที่จะใช้สุราและหลีกหนีความจริงที่จะต้องเผชิญหน้ากับเบสบอล เมื่อต่างฝ่ายต่างมาเจอกันแผลที่เจ็บนั้นก็เริ่มจะได้รับการเยียวยาและเมื่อนั้นสุราก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป
...หนังพูดถึงเรื่องความโกรธ แน่นอนทุกคนในเรื่องมีความรู้สึกนี้เกิดขึ้นและแสดงออกมาแตกต่างกัน หลายคนที่เวลาโกรธหรือเครียดแต่ไม่สามารถแสดงอารมณ์ออกมาได้ก็เหมือนกับ Andy ที่แสดงออกมาเป็นอาการทางกาย , บางคนก็ออกมาผ่านการใช้ยาเสพติดเช่น เหล้า ให้มันราดรดไฟโกรธให้มอดดับเหมือนTerry โดยที่จริงๆแล้วเธอหารู้ไม่ว่าที่มอดดับไป เป็นแค่ปลายทางของไฟแต่เชื้อไฟที่เกิดจากบาดแผลในใจที่ยังไม่เคยดับนั้น มันคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลารอจะลุกโชนขึ้นใหม่ ถ้ายังไม่หาต้นตอและเยียวยามัน
....นอกจากนี้บางครั้ง ไฟโทสะมันมาจากความไม่เข้าใจที่ปล่อยทิ้งไว้จนลุกโหมใหญ่โต คุณเคยหรือไม่ที่โกรธพ่อแม่ที่ไม่เคยรับฟังในสิ่งที่คุณต้องการ (เหมือนอย่างที่ Emily อยากทำงานมากกว่าการเรียนต่อ) , โกรธที่พ่อแม่ไม่เคยแสดงออกท่าทียอมรับหรือเห็นด้วยในสิ่งที่คุณคิดในสิ่งที่คุณเป็น(เหมือนกับ Andy ที่คิดเสมอว่าแม่ไม่เคยยอมรับไม่สนใจในการเต้นที่เธอรักและอนาคตที่เธอวางไว้) , โกรธที่ไม่เคยพูดจาเข้าหูหรือจูนกันติดเลย (เหมือนกับ Hadley ลูกสาวคนโตที่ทะเลาะกับแม่หลายครั้งเพราะความไม่เข้าใจ)
... ไฟโทสะที่เกิดขึ้นท่ามกลางความไม่เข้าใจคงไม่มีวันมอดลงได้หากแต่ละฝ่ายไม่หันหน้าเข้าหากัน Andy โกรธที่แม่เธอไม่เคยยอมรับตัวตนของเธอ และโกรธจากความคิดที่ว่าแม่ไม่เคยรักและสนใจตัวเธอ
บางครั้งลูกไม่เคยรู้ว่าพ่อแม่คอยเฝ้ามองและเป็นกำลังใจให้อยู่ เพราะหากเป็นลูกที่เก่งที่สุดก็มักจะได้รับการดูแลน้อยที่สุด พ่อแม่คิดว่าลูกคนนั้นดูแลตัวเองได้โดยหารู้ไม่ว่าบางครั้งลูกคนนั้นจะรู้สึกว่าตัวเองได้รับความสนใจจากพ่อแม่น้อยที่สุด และคิดว่าพ่อแม่ไม่รักตัวเอง
Andy คงต้องปวดท้องครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าTerryไม่เปิดใจบอกความรู้สึกหรือแสดงออกสิ่งที่ตัวเองมีให้ลูกรับรู้ หรือไม่ยอมรับในสิ่งที่เธอเป็น (ฉากที่โรงพยาบาลก่อนกลับบ้านและฉากที่สายตาของคนเป็นแม่เห็นลูกโลดแล่นบนเวทีตามความฝันของลูกที่ฝันไว้ เป็นฉากที่ทะลายกำแพงอารมณ์ของทั้งคู่และเป็นฉากที่ดีที่สุดในเรื่องฉากหนึ่ง )
Terr yเองก็เช่นกัน ความโกรธขึ้งที่เธอต้องสูญเสียคนรักมันทำให้เธอโยนความโกรธลงไปที่ Danny {การมาของเขาในด้านหนึ่งก็เป็นตัวแทนของคนรัก} โดยที่เธอคงไมมีวันรู้ตัว หากเขาไม่สารภาพความรู้สึกตัวเองที่เหมือนถังขยะรองรับอารมณ์ของเธออย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เมื่อไฟโกรธเริ่มเบาลง จากฉากบนโต๊ะอาหารที่เกิดรอยยิ้มและเสียงหัวเราะโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ในสายตาคนนอก คงจะไม่เข้าใจว่าทำไมสาวๆบ้านนี้ถึงขำโดยไม่มีสาเหตุ แต่พวกเธอล้วนต่างรับรู้ถึงความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้นเวลานั้น และ มันกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ไร้ซึ่งความโกรธเกลียดอีกต่อไป
... การเดินทางของครอบครัว Wolfmeyer เป็นการเดินทางของชีวิตที่ไม่ต่างจากครอบครัวของเราๆหรือของคนข้างบ้าน เป็นปัญหาธรรมดาสามัญที่เดินไปก็พบได้ไม่ยากเย็น เช่น ปัญหาการถูกทอดทิ้งหรือหย่าร้าง , แม่ติดเหล้า , ลูกท้องก่อนแต่ง , ลูกไม่อยากเรียน , ปัญหาลูกไม่เข้าใจพ่อแม่ ฯลฯ
แน่นอนการเดินทางของทุกครอบครัวย่อมมีร่องรอยของการหกล้มหรือมีบาดแผลผ่านเข้ามา การทะเลาะเบาะแว้งหรือกระทบกระทั่งให้ใจต้องเจ็บช้ำ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่สิ่งเหล่านั้นมันก็จะผ่านพ้นไปและเหลือไว้แค่รอยแผลให้คิดถึงเท่านั้น หากความรักและความเข้าใจยังหล่อเลี้ยงอยู่ต่อเนื่อง
ตรงกันข้าม หากชีวิตไม่สามารถปรับตัวได้เฝ้าแต่โกรธขึ้ง โทษกันไปมา หรือคอยแต่ทำลายให้เกิดความเสียหาย มันยิ่งจะมีแต่ทำให้ร้าวรานบานปลาย การล่มสลายของสถาบันครอบครัวที่มิอาจจะเยียวยาก็จะตามมา
The Upside of Anger ....เป็นภาพยนตร์ที่หากว่ากันด้วยเหตุผลแล้ว หนังมีข้อบกพร่องอยู่เล็กๆน้อยๆกระจัดกระจาย เช่น ธีมของหนังที่ต้องการสื่อดูไม่ได้ไปตามทิศทางที่หนังกำลังเล่า ที่รู้สึกชัดๆคือการพูดบรรยายด้วยตัวละครที่ปิดเรื่องราวตอนท้ายและที่สอดแทรกมาเป็นช่วงๆเกี่ยวกับความโกรธนั้น ดูแล้วไม่ได้เข้ากับตัวหนังเท่าไหร่ หนังไม่ได้แสดงออกให้คนดูได้เห็นและคล้อยตามคำพูดที่หนังต้องการสื่อสาร หนังจับประเด็นไปที่ความสัมพันธ์มากกว่าเรื่องที่ว่าความโกรธเปลี่ยนแปลงคนได้อย่างไร
จริงอยู่ว่า Joan Allen เธอแสดงเรื่องนี้ได้ดีเหมือนกับโชว์ของเธอเอง แต่ผมกลับรู้สึกว่าบท Terry ของหนังยังไม่อยู่กับร่องกับรอย คนเขียนบทยังไม่แม่นยำในการวางคาแรคเตอร์ตัวละครนี้ทำให้พฤติกรรมของตัวละครบางหนเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเดี๋ยวหนักเดี๋ยวเบาอย่างไม่มีคำอธิบาย ,หนังไม่ให้แบคกราวด์ของบท Danny มากเท่าไหร่นักจึงทำให้คนดูไม่เข้าใจว่าความเจ็บปวดของเขา เท่าที่เราเข้าใจความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับ Terry หรือ จุดสำคัญตอนจบที่ดูแล้วมันไม่น่าเชื่อถือว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น และมันออกจะหลุดๆออกนอกทางไปนิดไม่ช่วยเสริมเรื่องราวที่เล่ามาทั้งหมด (คือเหมือนหักมุมให้มีเท่านั้นไม่ได้ใช้ประโยชน์จากจุดนี้ให้มากพอ) ที่กล่าวมานั่นคือข้อพร่องเล็กๆน้อยๆภายใต้การมองด้วยเหตุผล แต่เมื่อตัดเหตุผลหยุมหยิมทิ้งไป ผมชอบหนังเรื่องนี้ทีเดียวและไม่รู้สึกว่าข้อบกพร่องของหนังส่งผลต่อตัวหนังแต่อย่างไร
....เพราะผมเองมักตกหลุมรักหนังที่ให้ความรู้สึกสบายๆผ่อนคลายแต่ไม่น่าเบื่อกับคนดู (เช่นความรู้สึกที่ได้หลังการดูเรื่อง Sideways หรือ In good company) กับเรื่องนี้แล้วโดยตัวเนื้อหา หนังสามารถจะหันหัวเรือไปในทางของหนังดราม่าเข้มข้นระเบิดอารมณ์ได้ไม่ยากเลยกับเรื่องราวของผู้หญิงที่สูญเสียสามีไปอย่างไร้ร่องรอย และต้องรับภาระกับลูกๆที่กำลังเปลี่ยนแปลง บวกกับบทสรุปตอนจบที่สามารถทำให้ตัวละครในเรื่องต้องรู้สึกทนทุกข์หรือผิดมากขึ้นไปอีก แต่หนังไม่ได้นำอารมณ์คนดูไปในทิศทางนั้น
หนังหยิบเรื่องราวหนักๆเรื่องราวที่เป็นทุกข์อันอันแสนสาหัสของครอบครัวที่พบอยู่บ่อยๆ มาเล่าด้วยโทนที่เบาๆผ่อนคลาย และหยิบยกสิ่งดีๆที่มันสามารถเกิดขึ้นได้หากเราจะมองหา ทำความเข้าใจกับมัน แทนที่จะปล่อยให้พายุอารมณ์มันพัดกระหน่ำจนทำลายครอบครัวให้ย่อยยับลงไปอีก
......นอกจากการแสดงอันน่าชื่นชมของ Joan Allen แล้วบทผู้ชายคนเดียวในครอบครัวของ Kevin Costner ก็ช่วยให้หนังผ่อนคลายลงไปได้เป็นอันมากเพราะเขาเล่นได้อย่างผ่อนคลายและสบายๆจริงๆ ครั้นเมื่อต้องระเบิดอารมณ์ก็ยังทำออกมาได้ดีและน่ารักไม่เลวเลย การจับคู่กันของทั้งคู่เป็นเคมีที่เข้ากันได้ดีเหลือเกิน นอกจากนี้ 4 สาวดาวรุ่งที่เหลือก็มาประชันรัศมีกันได้ไม่มีใครน้อยหน้าใครถึงบทจะส่งไปที่ Erika Christensen มากเป็นพิเศษก็ตาม
สิ่งที่ชอบ
1.อารมณ์ของหนัง...ดูแล้วสบายๆ ไม่น่าเบื่อไม่เร้าอารมณ์ เป็นความเรื่อยๆที่มีความสุขขณะรับชม
2.การกำกับ , การ Casting และการแสดงของ 4 ดรุณี...ภาพยนตร์รวมดาวสาวสยามเรื่องนี้ใช้ประโยชน์จากดาวรุ่งทั้ง 4 ได้ดี ที่ดีไม่แพ้กันคือคนคัดเลือกนักแสดงทั้ง 4 คน เพราะดูจากรูปนิ่งแล้วยากที่จะเชื่อว่าพวกเธอเป็นพี่น้องกัน แต่เมื่อมาดูในหนังทั้ง 4 คนดูสนิทสนมกันได้ดีชนิดไม่แปลกตา และดีตรงที่ว่าไม่มีใครชิงเด่นเกินใครบนจอทั้ง 4 คนคือพี่น้องแห่งครอบครัว Wolfmeyerg เหมือนๆกัน
3. Joan Allen + Kevin Costner ...รายแรกเยี่ยมแค่สายตาก็ระเบิดพลังได้มากเพียงพอแล้ว รายหลังดีที่สุดของงานช่วงหลังๆ การจับคู่ของสองคนนี้ลงตัวเหมาะเจาะดีเป็นสูตรเคมีที่เข้ากัน
4.มุขเล็กๆน้อย...ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดาวหางฮัลเลย์หรือระเบิดที่โต๊ะอาหารเป็นมุขเล็กๆน้อยๆที่ผ่อนคลายคนดูตลอดเรื่อง และมันมีส่วนที่ลดทอนความหนักของเรื่องราวในหนังให้ผ่อนคลายเบาลงเป็นอย่างดี
5.งานกำกับของ Mike Binder...จุดเด่นที่สุดคือการกำกับอารมณ์ของหนังให้ออกมาในโทนนุ่มนวลตลอดทั้งเรื่อง จนลดจุดบอดด้านอื่นๆของหนังลงได้เป็นงานกำกับที่น่าชื่นชมเรื่องหนึ่งของผู้กำกับคนนี้ (ไม่เพียงเท่านั้นเขายังมาเล่นด้วยอีกต่างหาก เชื่อหรือไม่ว่าผู้กำกับคนนี้คือคนที่รับบท Shepในเรื่อง)
สรุป...เป็นหนังดราม่าครอบครัวเบาๆที่ดูแล้วผ่อนคลาย อาจไม่ใช่หนังที่ดีเลิศหรือยอดเยี่ยม มีหลายเหตุผลที่จะบอกว่าหนังเรื่องนี้มีรูโหว่ แต่ทั้งหลายแหล่ไม่มีผลอะไรมากนักเพราะมันทำให้ 2 ชั่วโมงของผมที่สกาล่าตอน 20.45 น.ของวันศุกร์เป็นเวลาที่สร้างความสุขกับการดูหนังได้เต็มอิ่ม เป็นความรู้สึกเดียวกับที่ได้ดูIn good company หนังที่เล่าเรื่องหนักๆด้วยลีลาเบาๆ และทำให้คนดูเป็นสุขเมื่อหนังจบ
ติดตามบทความใหม่ๆ หรือ บทความน่าสนใจ หรือ เริ่มต้นอ่านBlogนี้มีข้อสงสัย คลิกไปเริ่มต้นที่ --> หน้าแรก
รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง
ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง
ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป
Create Date : 07 สิงหาคม 2548 |
Last Update : 10 เมษายน 2549 22:59:13 น. |
|
8 comments
|
Counter : 2295 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: Androphobia (Androphobia ) วันที่: 7 สิงหาคม 2548 เวลา:20:26:08 น. |
|
|
|
โดย: nam IP: 203.113.70.11 วันที่: 19 กันยายน 2548 เวลา:11:06:21 น. |
|
|
|
โดย: VSr. วันที่: 29 ตุลาคม 2548 เวลา:21:44:53 น. |
|
|
|
โดย: ayres IP: 203.113.76.75 วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:15:38:25 น. |
|
|
|
โดย: SnowBelL IP: 124.120.117.191 วันที่: 3 พฤษภาคม 2549 เวลา:17:40:42 น. |
|
|
|
โดย: sweet jane IP: 61.19.172.34 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:17:56:13 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
- Next , ทรงผมชวนกลุ้มใจกับหนังไซไฟดูเพลินๆ
- Spider-Man 3 , แมงมุมดำตัวนั้น ฉันเห็นมันอยู่ในใจเราทุกคน
- Miss potter , เรื่องของเธอ(พ็อตเตอร์)และผมฯ
- Me...Myself ขอให้รักจงเจริญ , แค่นี้ก็พอแล้ว
- Meet the Robinsons , เมื่อพบความผิดหวังจะโทษโน่นโทษนี่ หรือ เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป
- Shooter , หนังแอคชั่นที่ดูจบแล้ว"เออ มันดีแฮะ"
- Hannibal Rising , ความน่าผิดหวังของหนังฮานนิบาล
- Confession of pain , ความแค้นอันแสนเศร้า
- Pans Labyrinth , คือจินตนาการแสนสวยงาม หรือ คือความจริงที่เจ็บปวดและขมขื่น
- The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23
- เมล์นรก หมวยยกล้อ , รถเมล์สายนี้ไม่ตลกแต่สนุก
- The Lives of Others , อ๊ะ นี่มัน Infernal affairs เวอร์ชั่นกำแพงเบอร์ลิน
- Sunshine , อาทิตย์สิ้นแสง ชีวิตสิ้นสูญ
- The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)
- แฝด , เข้าใจพิม เข้าใจพลอย เข้าใจ"แฝด"
- I'm a Cyborg, But That's OK , แต่ I ไม่ค่อย OK
- The Good Shepherd , จะลงเรือทั้งทีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
- Bridge to Terabithia , Just close your eyes but keep your mind wide open
- 300 , นี่คือสปาตั้น(โว้ย) ... พลั่กกกกกก
- The Queen , แม้จะเป็นเรื่องของ 'ควีน' แต่นี่คือ การกะเทาะเปลือกเล่าเรื่อง 'คน'
- Rocky Balboa , ชีวิตไม่ได้สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน
- Charlotte's Web , มิตรภาพไม่ได้มีราคา
- The Pursuit of Happyness , ปัญหาชีวิตก็เหมือน รูบิค - ถ้าทำไม่ได้จะ สู้ต่อ หรือ โยนทิ้ง-
- Volver , ความเจ็บปวดของแม่และลูกสาว
- Music and Lyrics , หนังที่น่ารักที่สุดในรอบ(หลาย)ปี
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 , จะสนไปทำไมกับเรื่องอิสรภาพที่ไกลตัว
- Dreamgirls , วันที่ ธุรกิจ กลืนกิน ศิลปะ
- Babel , เราเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ไปแล้วหรือยัง
- Rough , จาก H2 มาสู่ Touch และได้เวลา Rough
- Curse of the Golden Flower , ความเน่าหนอนฟอนเฟะของสถาบันครอบครัว
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus , ความงามที่แตกต่าง โลกที่แตกต่าง
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1 , ไทยจะสิ้นชาติไม่ใช่เพราะใคร หากมิใช่เพราะไทยด้วยกัน
- Perfume: The Story of a Murderer , ทำความรู้จักและเข้าใจ ฆาตกรน้ำหอมมนุษย์
- Blood diamond , "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาฆ่ากันเอง"
- The Black Dahlia , ดอกรักเร่ ที่สวยแค่สไตล์แต่ไร้เสน่ห์
- Night at the Museum , ความบันเทิงสำเร็จรูปที่สนุกเพลินเกินห้ามใจ
- ===== 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ ประจำปี 2549 =====
- +++ 10 "ฉาก"ประทับใจจาก"หนัง"ปีที่ผ่านมา +++
- ++ ชวนเพื่อนๆมาเลือก 10 ตัวละครประทับใจ จากหนังปีที่ผ่านมา ++
- The Holiday , จะทำอย่างไรในวันที่ใจเจ็บ
- Lucky Number Slevin , ของเค้าดี แต่ ผิดที่ ผิดเวลา
- The King and the Clown , ความรักของตัวตลกบนหลังเสือ
- Déjà vu , เอ๊ะ เราเคยเจอมาก่อนหรือเปล่า
- Death Note 2: The Last Name , ได้เวลาเก็บสมุดคืนเจ้าของ
- Saw III , บทเรียนสุดท้ายของคุณครู จิ๊กซอว์
- The Village Album , ถ่ายภาพด้วยหัวใจแล้วบันทึกใส่ความทรงจำ
- 007 : Casino Royale , นี่ซิ เจมส์ บอนด์
- The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?
- The Banquet , แฮมเล็ต เวอร์ชั่น ประหารเจ็ดชั่วโคตร
- ผีสามบท บทที่ 3 : เปนชู้กับผี , พอกันที ผีGMO
- ผีสามบท บทที่ 2 : Monster House , บ้านผีสิงที่แสนจะบันเทิงใจ
- ผีสามบท บทที่ 1 : The Grudge 2 , ปัญหาของ ป๋า กับ เด็กผี
- The Guardian , "สถิติ" ไม่สำคัญเท่า "ทัศนคติและเจตคติ"
- หมากเตะรีเทิร์นส , หมากเกมส์นี้ น่าจะดีได้มากกว่านี้
- 12 เกมสยาม +13 เกมสยอง , มันไม่ใช่แค่เกม
- Cars , 20 ปีของ Pixar กับเรื่องของ "คาร์" (ซึ่งก็คือเรื่องของ "คน")
- The Devil Wears Prada , (จากหนังสือมาเป็นหนัง) ร้ายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
- Death Note , สมุดเล่มนี้ ดี จริงหรือ?
- L'Enfant (The child) , เด็กไม่รู้จักโต
- World Trade Center , เป็น"ฮีโร่"ไม่ได้วัดกันที่ผลลัพธ์
- The Host , สัตว์ประหลาด สนุกประหลาด
- Season changes , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"
- Me and You and Everyone We Know , เราอยู่ร่วมกัน เรารู้จักกัน แต่เราไม่เชื่อมต่อถึงกัน
- Snakes on a Plane , ที่อยากไปดูก็เพราะ "งูบนเครื่องบิน"
- United 93 , ทรงพลัง และ สะเทือนใจ
- Running boy (Marathon) , ทุกชีวิตล้วนมี"หัวใจ"
- โคตรรักเอ็งเลย , เกือบโคตรรัก "โคตรรักเอ็งเลย"
- Sad movie , แม้รักต้องพลัดพรากก็ยังฝากความทรงจำอันงดงาม
- The Break-Up , วิธีทำลายชีวิตคู่ตัวเองให้ย่อยยับ
- แก๊งชะนีกับอีแอบ , หนัง comedy ไทยดีๆยังมีอยู่
- Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest , "สลัด"จานนี้รสชาติดีเพราะ"Johnny Depp"
- Tsotsi , พื้นฐานจิตใจมนุษย์เป็น สีขาว หรือ สีดำ
- Superman Returns , ทำไมโลกใบนี้ยังต้องการ Superman ?
- Silent Hill , ของดีที่อยู่ในมือพ่อครัวขาดฝีมือ
- over the hedge , บทเรียนชีวิตเรื่องมิตรภาพและครอบครัว
- Don't tell , แผลในใจแค่"ลืม"คงไม่พอ
- Slither , คูลฟีเวอร์สีเลือด เชือดมนุษย์โลก
- The Omen , ซาตานอยู่รอบตัวเรา
- Scary movie 4 , ผ่านมา --> ฮา --> ผ่านไป
- Paradise now , สวรรค์อยู่หนใด
- X-Men: The Last Stand , X = mutant , รักร่วมเพศ , คนผิวดำ , ยิว ฯลฯ
- ก้านกล้วย , "ช้างกูอยู่ไหน" >> "ช้างกูอยู่นี่"
- The Da Vinci Code , ศรัทธาที่บิดเบือน
- Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
- Poseidon , จมเร็ว จบเร็ว
- Match point , เกมส์กิเลสของคนเห็นแก่ตัว
- Mission: Impossible III, ภารกิจสุดมันส์ที่ขาดเสน่ห์
- Perhaps love , รักซ้อนรัก หนังซ้อนหนัง อดีตซ้อนปัจจุบัน
- Ice Age: The Meltdown , ได้เวลายุคน้ำแข็งครองเมือง
- Red lights , ผู้ชายไม่รู้ตัว ผู้หญิงไม่รู้ใจ
- Failure to launch , Success to love
- Inside man , คน(ดี/ชั่ว) ใน คน(ดี/ชั่ว)
- Where the Truth Lies , ความจริงนอนนิ่งอยู่ที่ใด ?
- โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง , ฮาน้อยกว่าที่คิด มีสาระมากกว่าที่หวัง
- My girl and I , รักครั้งแรกจะเปลี่ยนเราไปตลอดกาล
- V for Vendetta , เผด็จการรัฐสภา VS. พลังประชาชน
- A History of violence , มาทำความรู้จัก "ความรุนแรง" กัน
- Final Destination 3 , เหล้าเก่าในขวดเก่า
- The Constant Gardener , ในความลับมีความจริง ในความจริงมีความรัก
- คำพิพากษาของมหาสมุทร (Invisible Waves) , คลื่นบาปที่นิ่งสงบ
- Walk the line , มิตรภาพในความรัก
- เด็กหอ , หอนี้มีดีกว่าผีหลอก
- Brokeback Mountain , รักซ่อนเร้น
- Munich , ผลของการสาดน้ำมัน(ความรุนแรง)เพื่อดับไฟ(แค้น)
- Memoirs of a Geisha , ชาเขียวสำเร็จรูปที่ผสมน้ำมากไป
- Prime , รักคงยังไม่พอ
- An Unfinished Life , ชีวิตที่หยุดเดิน
- In Her Shoes , หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต
- Just Like Heaven , เมื่อพื้นที่ของชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ความสุข
- The Promise , คำสัญญา ชะตากรรม ความรัก
- 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ (ของปีที่ผ่านมา)
- 10 ฉากประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- 10 ตัวละครประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and the Wardrobe , ส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับทุกครัวเรือน
- April Snow , บางครั้งความรักก็เจ็บปวดโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
- King Kong , แล้ว "ลิงยักษ์" ก็ตกหลุม "รักหญิง"
- The Descent , ถึงถ้ำ ถึงเลือด ถึงเนื้อ ถึงกระดูก
- The Maid , ผีสิงคโปร์
- The Exorcism of Emily Rose , ผีเข้า(ศาล)
- Hidden (Caché) , ความจริงที่ซุกซ่อน (ในหนังที่ยอดเยี่ยม)
- Chicken Little , กุ๊กไก่ของ Disney ที่ไร้เงา Pixar
- Nana , โลกของนานะ โลกของความรัก ความฝัน และ มิตรภาพ
- เด็กโต๋ , สายธารชีวิตแห่งบ้านแม่โต๋
- Harry Potter and the Goblet of Fire , กีฬาสีสามสถาบันกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
- Corpse Bride , รักไม่มีวันตาย
- Yes , บทกวีอีโรติค ความรัก การเมือง และ การมีตัวตน
- รับน้องสยองขวัญ , หายใจเข้าก็ เฮ้อ หายใจออกก็ เฮ้อ
- Lord of War , นิ้วที่ลั่นไกจากมือที่มองไม่เห็น
- Saw II , สยองอย่างมีประเด็น
- Goal! , ประตูชัย(goal)เป้าหมายชีวิต
- Proof , ชีวิตที่สับสนของคนที่สูญเสีย
- The Legend of Zorro , ฮีโร่ที่ย่ำอยู่กับที่
- Flightplan , ขึ้นได้สูง บินได้สวย ลงไม่นิ่ม
- Sky High , อยากจะเป็น hero ที่ "เปลือก" หรือที่ "แก่น"
- A Sound of Thunder , เรื่องราวอยู่ในโลกอนาคต ตัวหนังอยู่ในโลกอดีต
- Red Eye , ไม่ใช่แค่ Fight or Flight แต่ยังเป็น Fight on Flight
- เพื่อนสนิท , เมื่อเส้นแบ่งของ "คนรัก" กับ "เพื่อน" เริ่มเลือนราง
- Transporter 2 ควบ Into the Blue , ขึ้นรถดีกว่าลงเรือ
- Madagascar , มิตรภาพกับการเรียนรู้ชีวิต และ นกเพนกวิน
- Cinderella man , Jim Braddock ชายที่ไม่ได้เป็นแค่นักมวย
- Dear Frankie , คำลวง ความรัก ครอบครัว
- Dark Water , ความสัมพันธ์แม่-ลูก-ผี (จากหนังสือสู่ภาพยนตร์)
- Seven Swords , ... ที่ควรยาวกลับสั้น ที่ควรสั้นกลับยาว ...
- แหยม ยโสธร , ขำขำ - หม่ำ - อะฮึ่ย อะฮึ่ย
- Charlie and the Chocolate Factory , Imagination is more important than knowledge
- The Skeleton Key , ไขได้ดีพอสมควร
- About Love , เรื่องราวที่ "เกี่ยวกับ "รัก""
- 5x2 , สมการความรักของคน 2 คน
- ต้มยำกุ้ง , อร่อยรสแซ่บชามโตเกินมาตรฐานแต่อาจไม่ผ่านเชลล์ชวนชิม
- Somersault , ความรัก - Sex - เด็กสาวและความทุกข์ทรมานใจ
- The Upside of Anger , เรื่องหนักๆของครอบครัวที่เล่าอย่างเบาๆ
- Land of the Dead , หนึ่งเรื่องราวของซอมบี้ที่กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
- Crash , ผลกระทบของการชนที่"คน"มีต่อกันและกัน
- วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น , หนังครอบครัวสำหรับคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี
- The Island , โลกอนาคตและโคลนนิ่งฉบับระเบิดเถิดเทิง
- The Keys to the House , "บ้าน"หลังนี้จะมีความรักเป็น"กุญแจ"
- The Longest Yard , เกมส์เก่าเอามาเล่าใหม่ใช้วิธีการเดิม
- Fantastic Four , ความสนุกสูตรสำเร็จที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลิน
- War of the Worlds , เมื่อสปีลเบิร์กเลิกรักมนุษย์ต่างดาว
- Swing Girls , สวิงกันแบบคึกคัก สดใส ไร้มลพิษ
- Hotel , โรงแรมที่ไร้เรื่องราว
- Assault on Precinct 13 , อีกหนึ่งความจนตรอกที่ระทึกคุ้มค่า
- Batman Begins , ปฐมบทแรกบินกับการตีความครั้งใหม่
- Mr. and Mrs. Smith , เรื่องราวชีวิตคู่ที่สวมเสื้อคลุมหนังแอคชั่น
- มหาลัย' เหมืองแร่ , เหมืองแร่และชีวิตกับหน่วยกิตที่ต้องขุด
- House of Wax , ความสยองที่แปลกตากับหุ่นขี้ผึ้ง สองดาราและหนึ่งปารีส
- Sin city , ฟิล์มนัวร์ที่ลงตัวและเจ๋ง
- Star Wars: Episode III Revenge of the Sith , การปิดตำนานและการเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์
- The Jacket , การเดินทางข้ามเวลา ความหลอนและวงจรชีวิต
- A Lot Like Love , รักด้วยใจแต่ตัดสินใจด้วยสมอง
- เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ
- Be With You , ความสุขของฉันคือ"การได้อยู่กับคุณ"
- Hostage , เหล้าเก่าในขวดใหม่ที่ไม่น่าผิดหวัง
- Kingdom of Heaven , สงครามครูเสดครั้งนี้ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่น่าเสียดาย
- Spanglish , เรื่องราวที่กระจัดกระจายแต่ให้แง่มุมหลากหลายในครอบครัว
- Guess Who , เสียงฮาจากความแตกต่างและBernie Mac
- The Interpreter , ทริลเลอร์ที่ดี(แต่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น)
- Hide and Seek , มีปมที่ดีแต่มีบทที่อ่อน
- The Chorus (Les Choristes) , ง่ายๆแต่ได้ใจ
- Hitch , สนุก น่ารัก ขำขำ รู้สึกดี
- Sahara , หนังสนุกแค่เป็นช่วงๆหรือผมง่วงกันแน่
- Boogeyman , ตื่นเต้นตกใจ แต่ อะไร ยังไง ทำไม?
- Tokyo Godfathers , การตามหา"ครอบครัว"ที่สนุกมากๆ
- บุปผาราตรี เฟส 2 , เมื่อบุปผาเริ่มร่วงโรย
- Dont move , นอกจากตัดสินใคร คุณเข้าใจใครคนนั้นดีแล้วหรือยัง?
- Crying Out for Love, In the Center of the World , ความทรงจำและเทปคาสเสตต์/ความรักและใจกลางโลก
- The Ring Two , ไม่สมศักดิ์ศรี "The Ring"
- A Very Long Engagement , หนังที่มากไปด้วยความทะเยอทะยาน
- Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events , การดัดแปลง"โชคร้าย"ที่ทำได้"ดี"
- Hana & Alice , มิตรภาพ ความรัก ความทรงจำ
- Hotel Rwanda , หนังที่ให้คนดูมากกว่าความเป็นหนังดี
- In Good Company , ผู้ชายขาขึ้นกับผู้ชายขาลง
- Being Julia , โลก(ของจูเลีย)คือละคร
- หลวงพี่เท่ง , เรื่อยๆขำๆพอไปวัดไปวา
- Sideways , รักนุ่มๆชุ่มไวน์ในวันเบาๆ
- Million Dollar Baby , ความยอดเยี่ยมท่ามกลางศรัทธาและความอบอุ่น
- Constantine , "คนเห็นผี"ปราบลูกปีศาจ
- Shall we dance , คุณเต้นรำกับคู่ของคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไร
- Finding Neverland , งดงามเหลือเกิน
- Kung Fu Hustle , ตลกน้อย สนุกมาก และลงตัว
- 2046 , ไปแล้วอย่าลืมกลับมา
- Ray , มีดีที่Jamie Foxx
- The Phantom of the Opera , ภายใต้หน้ากากมีเพียงความว่างเปล่า
- โรงเตี๊ยม , มีอะไรดีๆกว่าที่คิดและโฆษณา
- Meet the fockers , เรื่องของหนังตลกและครอบครัว
- Closer , เมื่อความรักถูกสำรวจและตีแผ่ผ่านตัวละคร
- The Aviator, .....And this is Howard Hughes
- The Forgotten, ไม่มีอะไรน่าจดจำ
- Birth , ยอดเยี่ยมในความหนักแน่นและเนิบนาบ
- ****1ปีที่ผ่านมา ฉากใดในหนังที่คุณประทับใจ ****
- 5หนังชอบ กับ 5หนังไม่ชอบ ของคุณในปี2547คือ....,
- National Treasure, เมื่อBruckheimerมาสร้างDavinci's code
- The Polar Express, ตื่นตาแต่ไม่ตื่นใจ
- แจ๋ว, แจ๋วน้อยกว่าที่หวัง
- Bridget Jones 2, รู้จักเธอมากขึ้นและรู้สึกดีกว่าที่คิด
- The Incredibles, ครอบครัวหรรษา
- ขุนกระบี่ ผีระบาด, กล้าที่จะบ้า ก็กล้าที่จะดู
- Ocean's Twelve, หนังขาย"เสน่ห์ดารา"
- หมานคร, เมืองนี้ภาพสวย+เพลงเพราะ+ประหลาดและยาก
- กั๊กกะกาวน์, "ใจ"คุณเต้นอย่างไรเมื่อคุณมีความรัก
- Alexander, ดราม่าชั้นดีแต่ความสนุกเป็นระลอกคลื่น
- Wimbledon, For love of the game+NottingHill+ภราดร
- Love me if you dare, หนังรักแปลกกับความรู้สึกก้ำกึ่ง
- Cellular, สนุกเป็นบ้า แอคชั่นแอบฮา
- Saw, OldBoy+Cube+ฆาตกรโรคจิต
- Ladder49, สิงห์ผจญเพลิงชื่อฮัวควิน ฟีนิกซ์
- The Grudge, เมื่อ"เด็กผี" go inter เป็น "โคตรผีดุ"
- Dodgeball, ฮาน้อยกว่าที่หวังแต่สนุกกว่าที่คิด
- Sky Captain and The World of Tomo, หนังไซไฟสไตล์"ฟ้าทะลายโจร"
- Resident Evil 2, อลิซเท่+เนเมซิสเห่ย+จิลเฉยๆ
- Shark Tale, คุณเป็น"somebody"แล้วหรือยัง
- สายล่อฟ้า, ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนกับความสนุกกลางๆ
- Shutter กดติดวิญญาณ, นานๆทีจะมีหนังผีไทยดีๆให้ดูกัน
- The Terminal, น่ารัก นุ่มนวล และสนุกกว่าที่คิด
- Wicker park( spoilแล้วจะบอก), ลุ่มหลง คลั่งไคล้ หลอกลวงและความรัก
- Eternal sunshine รอบ2, ความอภิรมย์ที่มากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
- EternalSunshineOfTheSpotlessMind, คุณเคยอยากจะลืมบางสิ่งในชีวิตคุณบ้างไหม
- Three Extreme, อึดอัด ขยะแขยง รุนแรง และผิดหวัง
- Man on fire (no spoil), คนจริงเผาแค้น เผานานจนผมเกือบหลับ
- Bourne Supremacy, มันต้องให้ได้ยังงี้ซิ ต้องยังงี้ซิ
- Collateral...., it started like any other night
- Windstruck, งานมือตกของกวัก แจ ยอง
- งานของ M. Night Shyamalan, 6th sense/Unbreakable/Sign/และTheVillage
|
|
|
|
|
|
|
|