Crash , ผลกระทบของการชนที่"คน"มีต่อกันและกัน
....L.A. เมืองที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ถูกยกขึ้นมาในหนังเป็นสังคมเปรียบเทียบของชีวิตที่หลากหลายแตกต่าง ความมากมายของประชากรที่เห็นนั้นเต็มไปด้วยความเหินห่าง และ ความจมจ่อมอยู่กับตัวเอง ไม่มีแม้แต่จะเดินชนกันเพราะถูกปิดกั้นจากโลหะและแก้วกระจกรอบตัว
การชน (Crash) ในหนัง ไม่ได้พูดถึงแค่ในความหมายของ การกระทบของมวลวัตถุ แต่มันหมายถึง การปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ทั้ง ความเป็นห่วงเป็นใย , มิตรภาพ ฯลฯ ที่ในสังคมทุกวันนี้เริ่มมีการชนกันน้อยลง หนังเริ่มต้นของการชนและจบลงที่การชนเช่นกัน
...เปลือกนอกสุดของหนัง ดูจะเป็นเรื่องราวของการเหยียดผิวเหยียดชนชาติ (racist) ก่อนที่หนังจะค่อยๆทำให้เราเห็นเปลือกชั้นในของเรื่องราวที่มากกว่านั้น สมมติว่าให้ B คือผู้ถูกกระทำ หนังไม่ได้ให้คนดูได้เห็นภาพแค่ทิศทางเดียวแบบ A --> B แต่เรื่องนี้เล่าเรื่องของ B จาก A --> B --> A,C,D
นั่นคือผู้ถูกกระทำก็สามารถเป็นผู้กระทำได้เช่นกัน และผู้กระทำก็อาจจะเคยถูกกระทำมาก่อน คาแรคเตอร์ที่น่าจะอธิบายการมองผู้คนของหนังได้ชัดที่สุดคงจะเป็นนายตำรวจที่รับบทโดย Matt Dillon ที่แสดงให้เห็นว่า
ในเวลาหนึ่งเขาฆ่าคนผิวดำคนหนึ่งให้ตายด้วยการหมดศักดิ์ศรี และในช่วงเวลาถัดมาเขาช่วยชีวิตคนๆนั้นโดยไม่คิดถึงตัวเอง
ในช่วงเวลาหนึ่งเขาและพ่อถูกเหยียบย่ำจากสังคมให้ยอมรับความเจ็บปวด (น่าตลกที่ผู้กระทำเขาคือคนผิวดำ) ในช่วงเวลาถัดมาเขาหาคนมารองรับอารมณ์และเหยียบย่ำคนอื่นให้ได้รับความเจ็บช้ำเช่นกัน
บทนี้เป็นตัวละครที่มีทั้งสีขาวและสีดำ มีทั้งความดีและความเลวร้ายในตัว การถูกกระทำจนบอบช้ำของเขาไม่ได้เป็นข้อแก้ตัวให้มีสิทธิจะไปทำคนอื่นต่อ แต่มันทำให้เราได้เข้าใจมากขึ้นว่า มีอะไรบ้างที่ผลักดันให้เขาเป็นแบบนี้ และเขาเองนั้นกระทำต่อคนอื่นต่อไปอย่างไร
...การมองตัวละครมากกว่าด้านเดียวนั้น ยังเกิดกับตัวละครอื่นๆเหมือนกัน เช่น คนบริสุทธิ์ที่เป็นเหยื่อในสายตาคนดูก็กลับกลายเป็นพ่อค้ามนุษย์ในไม่กี่ฉากถัดมา
...หนังแสดงวิธีการเล่าเรื่องแบบนี้วนซ้ำไปมา เวียนให้เห็นวัฎจักรห่วงโซ่ ของ การกระทำของเพื่อนมนุษย์ที่มีต่อกัน ในช่วงเวลาหนึ่งคนๆหนึ่งเป็นผู้ถูกกระทำและเวลาถัดมาเขาก็กลายเป็นผู้ที่กระทำคนอื่นอีกทอดแล้วส่งต่อไปเรื่อยๆ (วัยรุ่นผิวดำ >> Jean Cabot >> สาวรับใช้เอเชีย) (คนบุกรุก>>เจ้าของร้าน>>ช่างซ่อมกุญแจ)
ในวินาทีหนึ่งชายคนหนึ่งทำหน้าที่ปกป้องครอบครัว และ ในวินาทีถัดมาเขาเป็นผู้ทำลายอีกหนึ่งครอบครัว
ในช่วงเวลาเดียวกันชายคนหนึ่งช่วยชีวิตคนๆหนึ่ง ไม่นานต่อมาเขาพรากชีวิตคนอีกคน
ทุกอย่างถูกกระทำส่งต่อเป็นทอดๆ และ เป็นผลมาจากการถูกกระทำ
....สังคมทุกวันนี้มีส่วนที่ฟอนเฟะอยู่ทุกหนแห่ง โจทย์ที่น่าคิดคือ เราจะใช้ชีวิตในสังคมแบบนี้อย่างไร? โจทย์นี้สะท้อนผ่านเหตุการณ์ที่ตัวละครชายหนุ่มผิวดำและภรรยาถูกเอาเปรียบกลางถนน โดยตำรวจผิวขาวที่เหยียดผิว ทางที่เขาต้องเลือกคือการกล้ำกลืนศักดิ์ศรีและก้มหน้ารับความอัปยศอดสู ต้องยอมให้นายตำรวจลวนลามภรรยา หรือ จะเลือกสวนกลับ และอาจลงเอยที่ความตายหรือเสี่ยงต่อการถูกลงโทษจากอคติของสังคม กับอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ตัวละครในเรื่องต้องเลือกระหว่างอุดมคติและความถูกต้อง กับ ชีวิตและอิสรภาพของน้องชาย
...ตัวละครในหนังล้วนต้องเลือกเพื่อที่จะ เอาตัวรอด ไม่ใช่เพื่อตัวเองก็เพื่อคนใกล้ตัว เอาตัวรอดจากความฟอนเฟะของสังคม ที่เป็นผลมาจากการกระทำของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันนี่เอง เชื่อได้เลยว่าหากโจทย์ เราจะใช้ชีวิตในสังคมแบบนี้อย่างไร? เป็นข้อสอบ คนส่วนใหญ่คงต้องเลือกศักดิ์ศรีและความถูกต้อง แต่หากเราตกอยู่ในเหตุการณ์เหมือนตัวละครในหนังเราจะเลือกเหมือนเขาหรือไม่?
...ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้ไม่พยายามที่จะคอยชี้นิ้วสั่งสอนคนดูว่าอะไรถูกผิด แต่ฉายภาพให้คนดูตัดสินด้วยตัวเองและให้คนดูได้มีโอกาสลองกลับมาทบทวนตัวเอง ว่าเราจะทำอย่างไรหากตกอยู่ในเหตุการณ์ ถึงจะหนังไม่ใช่ชี้ถูกหรือผิดจากทั้งสองเหตุการณ์ที่ตัวละครเลือก ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็แตกต่างกันเป็นสองทาง นั่นคือรอดชีวิตกับเสียชีวิต แต่หนังก็บอกกลายๆอยู่เหมือนกันว่า สิ่งหนึ่งที่ตัวละครทั้งสองนี้จะไม่ได้กลับคืนมาอีกคือ ความเคารพนับถือตัวเอง
..การพยายามเอาตัวรอด อาจเป็นคำอธิบายหนึ่งที่ตอบได้ว่า ทำไมคนในสังคมเราไม่ว่าจะเป็นถึงลอสแองเจลิส โตเกียว หรือ กรุงเทพ ถึงชน (Crash) กันทั้งในความหมายของกายภาพและจิตใจน้อยลง
เพราะเราต่างคนต่างคิดถึงตัวเองจนมากเกิน และ สนใจผู้คนรอบข้าง เห็นอกเห็นใจคนอื่นน้อยลง
...ความตายครั้งสุดท้ายที่เกิดจากการฆ่า เป็นความตายที่ดูแล้วไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะหลายครั้งหลายหนที่ความตายในเรื่องที่มาจาก การตั้งใจจะเอาชีวิต (intention to kill) มีโอกาสเกิดขึ้นมากกว่า แต่ทุกครั้งนั้นตัวละครก็รอดอย่างฉิวเฉียด ในขณะที่ความตายที่เกิดขึ้นจริงจากจากการฆ่ากลับเกิดจากความไม่ตั้งใจจะเอาชีวิต แต่มันมาจาก ความหวาดกลัว
ในหนังมีคู่ตัวละครที่เป็นผู้ถูกกระทำโดยตรง จนต้องเปลี่ยนประตูและกลอน ซึ่งเป็น สัญลักษณ์ของการคุ้มครองและความปลอดภัย คือ ตัวละคร Sandra Bullockและ ตัวละครชาวอาหรับ
ทั้งคู่นั้นเราสามารถนำมาจับคู่กันได้ หากมองแบบประชดประชัน เพราะความกลัวของทั้งคู่
คนหนึ่ง(ชายอาหรับ)เป็นผลมาจาก การถูกเหยียดเชื้อชาติตกอยู่ในฐานะ ผู้ถูกกระทำ
ในขณะที่อีกคนหนึ่ง(Sandra)เป็นผลมาจากการถูกเข้าใจว่าไปเหยียดคนอื่นในฐานะเป็น ผู้กระทำ
...การที่เราซึมซับความรุนแรง มันก็เป็นการถูกกระทำโดยทางอ้อม และ ทำให้เกิดความกลัวจนต้องการเอาตัวรอดเช่นกัน เหมือนกับสิ่งที่ตัวละครในเรื่องลงมือในตอนท้าย ผลสุดท้ายวงจรของความฟอนเฟะของสังคม ก็ยังคงหมุนเวียนต่อไปหากเราไม่ช่วยกัน
..การชนกัน (Crash) ตามชื่อเรื่องอีกนัยหนึ่งที่ผมคิดคือ ภาพของลูกเหล็กที่แขวนเรียงกันอยู่ เมื่อลูกหนึ่งชนอีกลูกที่อยู่ติดกัน ผลลัพธ์ของแรงมันก็จะส่งไปถึงลูกสุดท้ายที่อยู่ในแถว ผลกระทบของความรุนแรงและความเลวร้ายที่มนุษย์เราทำต่อกัน มันส่งทอดกันเหมือนโมเมนตัมที่ถ่ายทอดพลังงานที่ไม่มีวันหยุดการส่งต่อ หากผู้รับยังคงถ่ายทอดมันต่อๆไปอีก...
....มีตัวละครในเรื่องตั้งข้อสงสัยว่า คนผิวดำมีอะไรบางอย่างในตัวที่ทำให้ต้องทำผิดหรือรุนแรงมากกว่าคนทั่วๆไป หนังเรื่องนี้ตอบคำถามนี้ได้ชัดเจนว่า คนจะดีจะชั่ว จะมีน้ำใจ หรือ จะเอาเปรียบ มันไม่ได้ขึ้นกับว่าเป็นคนชาติอะไร แต่มันขึ้นกับว่าตัวคนๆนั้นเติบโตมาอย่างไร และ ความเป็นคนข้างในของเขาต่างหากที่กำหนดการกระทำไม่ใช่สีผิวหรือเชื้อชาติ เพราะในหนังไม่ว่าจะผิวดำ ผิวขาว หรือ ผิวเหลือง ล้วนมีดีเลวด้วยกันทั้งสิ้น
...บางครั้งไม่มีใครดูถูกเรา แต่ตัวเรานั่นแหละที่ดูถูกตัวเอง และการกระทำของเราเองที่มันเป็นตัวจมศักดิ์ศรีคุณค่าของเรา เหมือนกับตัวละคร Anthony วัยรุ่นผิวดำพร่ำบ่นว่า การนั่งรถเมล์ทำให้คนผิวดำถูกเหยียดหยาม เพราะเมื่อคนอื่นมองผ่านหน้าต่างเข้ามา มันทำให้เห็นความยากจนและทำให้ถูกดูถูก
เราเองคงได้เห็นว่าแท้ที่จริงแล้ว หน้าต่างรถเมล์ตอนท้ายไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่า แค่ทำให้เราได้เห็นตัวบุคคล แต่คุณค่าของคนๆนั้นมันสะท้อนมาจากการกระทำ การที่เขาเองจะดูถูกหรือเหยียดหยาม มันไม่ได้เกิดจากการนั่งรถเมล์แต่มันมาจากพฤติกรรม(ปล้นจี้)ที่เขาทำมาก่อนหน้านั้นต่างหาก
...การเล่าเรื่องในหนังรูปแบบนี้ ไม่จัดว่าแปลกใหม่อีกแล้ว เพราะมีหลายเรื่องที่เล่าเรื่องของคนแต่ละคนและเชื่อมโยงความสัมพันธ์กัน แม้แต่หนังรักโรแมนติกอย่าง Love actually ยังหยิบกลวิธีนี้ไปใช้ จุดเด่นของ crash ไม่ใช่ตรงกลวิธีการเล่าเรื่อง แต่มันเป็นข้อความที่หนังสื่อสารออกมาผ่านการเล่าเรื่องและทัศนคติของคนเล่า
มันแสดงให้เห็นการมองที่ไม่ใช่แค่ด้านเดียว ประเภท คนขาวผิด หรือ คนอาหรับน่าสงสาร ฯลฯ ในเปลือกหนึ่งของหนังเล่าถึงการเหยียดผิว ในอีกชั้นหนึ่งหนังกระเทาะความเป็นคนในตัวออกมาให้เห็น พร้อมแสดงให้ดูว่า ความเป็นคนนั้นไม่ใช่แค่เรื่องปัจเจก เมื่อเราอยู่ร่วมกันในสังคม มันส่งผลกระทบต่อกันและกันได้อย่างไร
...บทภาพยนตร์หลายตอนทำให้ผมต้องดูไปยิ้มไป ในความช่างคิดของคนเขียนบท ไม่ใช่ยิ้มเพราะสนุกเฮฮาแต่ยิ้มในการจิกกัดตัวเอง รวมไปถึงจิกกัดการแบ่งแยกชนชั้นได้ดีเหลือเกิน (เช่น การแยกไม่ออกระหว่างเปอร์เซียกับอาหรับหรือจีนกับเขมร ล้วนแล้วแต่แสดงความมืดบอดในใจของมนุษย์บางคนเป็นอย่างดี การมีอคติมากางกั้นการมองเห็นโลกก็ย่อมแคบลง) และมันไม่ใช่การมองระนาบเดียว แต่ยังเหมือนการมองลงจากที่สูง ดูภาพรวมทั้งหมด เป็นการมองเรื่องราวด้วยสายตาที่ปราศจากอคติ และลงลึกไปถึงการมองจิตใจตัวละครอีกด้วย
คงเป็นเพราะคนเขียนบทเป็นคนเดียวกับผู้กำกับ จึงทำให้หนังแม่นมากในการเล่าเรื่อง สังเกตได้จาก การเปลี่ยนซีนหนึ่งไปอีกซีนหนึ่ง หนังรู้ตัวเองดีว่ากำลังจะเล่าเรื่องอะไรอยู่ ทำให้การลำดับเรื่องราวสอดคล้องต่อเนื่องทั้งเนื้อหาและอารมณ์ รู้ว่าจะหนักจะเบากับฉากนั้นให้คนดูมีส่วนร่วมอย่างไร จึงไม่น่าแปลกใจที่หนังดราม่าเรื่องนี้ สามารถตรึงคนดูให้นั่งตั้งใจดูจนจบอย่างไม่น่าเบื่อ แต่จดจ่อกับเรื่องราวอย่างน่าทึ่งและตึงเครียด
....Paul Haggis ไม่ได้มีความสามารถแค่การถ่ายทอดความมืดดำเลวร้าย ในด้านของความอบอุ่นเขาก็ทำออกมาได้นุ่มนวลสัมผัสได้ (ซึ่งเขาก็ทำให้คนดูได้ประจักษ์มาก่อนแล้วกับการเขียนบทแบบพลิกอารมณ์ในหนัง Million Dollar Baby)
ฉากเสื้อคลุมที่พ่อเล่าให้ลูกฟัง เป็นอีกฉากที่ทำให้ผมน้ำตาซึม กับเรื่องราวที่แสนจะธรรมดาแต่สะท้อนความรักของพ่อที่มีต่อลูกได้ดี เป็นความสว่างงดงามท่ามกลางความมืดหม่นของเมืองนี้
หนังแสดงให้เห็นอีกว่า ความดีงามนี่เอง ก็สามารถถ่ายทอดส่งต่อให้กันได้เหมือนกับความเลวร้ายที่คนกระทำต่อกัน (พ่อที่ดีกับลูก --> ลูกปกป้องพ่อ -->ทำให้คนอีกคนรู้ตัวเอง) ไม่น่าแปลกใจที่ตัวละครของเด็กผู้หญิงคนนี้ สุดท้ายจะกลายมาเป็นนางฟ้าสำหรับตัวละครอีกตัว ที่กำลังหลงทางและมืดหม่นไปพร้อมกับสังคม
..... นักแสดงทุกคนน่าจะยินดีทีได้มีส่วนร่วมในหนัง เพราะทุกคนได้แสดงศักยภาพตัวเองอย่างเต็มที่ บางคนที่มีฝีมือแต่ช่วงหลังกลับจมอยู่กับการแสดงรูปแบบเดิมๆอย่าง Sandra Bullock และ Brendan Fraser ได้โอกาสแจ้งเกิดในหนังดราม่าอีกครั้ง ทุกคนแสดงได้ดีจนผมเลือกได้ยากเหลือเกินว่าชอบคนไหนเป็นพิเศษ เชื่อว่าเป็นอีกเรื่องที่หากมีรางวัลกลุ่มนักแสดงยอดเยี่ยม (เข้าใจว่ามีรางวัลนี้เป็นของสถาบันหนึ่งแต่จำชื่อไม่ได้) หนังเรื่องนี้ต้องได้เข้าชิงอย่างแน่นอน
สิ่งที่ชอบ
1.ทัศนคติและการมองเรื่องราว...การมองอย่างเป็นกลางและการมองอย่างลงลึก มากกว่าแค่การเหยียดเชื้อชาติทำให้หนังเรื่องนี้มีอะไรดี ที่ยิ่งคิดยิ่งพบว่ามันเล่าเรื่องราวมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ ภายใต้เวลาที่ถูกกำหนดไว้แค่ 2 ชั่วโมงที่ผมนั่งดูจากโรงสยามรอบ 18.40 น.เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
2. Paul Haggis....ในบทบาทของผู้เขียนบทและผู้กำกับ ส่วนแรกนักวิจารณ์ฝั่งเมืองนอกเมืองนา คาดการณ์ไว้ว่าน่าจะมีส่วนร่วมในช่วงเทศกาล ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะบทหนังที่ดีหากอยู่ในมือผู้กำกับที่เข้าใจมันยิ่งขับเสริมให้แสดงศักยภาพได้มากยิ่งขึ้น การเล่าเรื่องแบบนี้หากผู้กำกับไม่เข้าใจตัวงานหรือสารที่หนังต้องการจะสื่อ เชื่อได้เลยว่าน่าจะออกมาสะเปะสปะเละเทะ หรืออย่างดีก็เล่าเรื่องเป็นระบบ แต่สื่อสารข้อความได้ไม่มากหรือลึกเท่านี้
3.ทีมนักแสดง...ยอดเยี่ยม
สิ่งที่ไม่ชอบ
1.ความจงใจบางอย่าง...ด้วยการที่ต้องอัดแน่นความเข้มข้นมาในช่วงเวลาบังคับ มันทำให้หนังต้องจับแต่จุดที่ดูสำคัญหรือเป็นไฮไลท์ ซึ่งมันทำให้ลดความน่าเชื่อถือและความรู้สึกสมจริง หลายเหตุการณ์ที่หนังจำเป็นต้องจงใจเชื่อมโยงจนดูเหมือนจะบังเอิญ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังมองสังคมจำลองที่เล่าเรื่องราวมากกว่ารู้สึกอินไปว่าอยู่ในสังคมแห่งนั้น (ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับความต่างวัฒนธรรมด้วยหรือไม่ ชาว LA. อาจรู้สึกอินและมีส่วนร่วมมากกว่า)
สรุป....เป็นหนังดราม่าคุณภาพที่เหมาะสำหรับคนรักหนังแนวนี้ การได้บทที่ดี ผู้กำกับที่ดี และทีมนักแสดงที่ดี ทำให้ Crash คุ้มค่ากับการตีตั๋วเข้าไปชม จะไม่เหมาะก็สำหรับคนไม่ชอบหนังดราม่าหรือคนอยากดูอะไรเบาๆ เพราะหนังเรื่องนี้ดูจบคงทำให้คนดูหนักกว่าตอนเข้าโรงพอสมควร
ติดตามบทความใหม่ๆ หรือ บทความน่าสนใจ หรือ เริ่มต้นอ่านBlogนี้มีข้อสงสัย คลิกไปเริ่มต้นที่ --> หน้าแรก
รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง
ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง
ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป
Create Date : 03 สิงหาคม 2548 |
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2549 18:13:44 น. |
|
47 comments
|
Counter : 11793 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: Angel Tanya วันที่: 3 สิงหาคม 2548 เวลา:0:43:27 น. |
|
|
|
โดย: keyzer วันที่: 3 สิงหาคม 2548 เวลา:1:01:47 น. |
|
|
|
โดย: Tai-Sarunya IP: 203.107.198.12 วันที่: 3 สิงหาคม 2548 เวลา:2:39:32 น. |
|
|
|
โดย: แม่สาย วันที่: 3 สิงหาคม 2548 เวลา:3:14:31 น. |
|
|
|
โดย: prncess วันที่: 3 สิงหาคม 2548 เวลา:7:51:20 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy IP: 203.151.118.194 วันที่: 3 สิงหาคม 2548 เวลา:9:35:10 น. |
|
|
|
โดย: dog mulder IP: 203.144.230.209 วันที่: 3 สิงหาคม 2548 เวลา:16:13:21 น. |
|
|
|
โดย: dog mulder IP: 203.144.230.209 วันที่: 3 สิงหาคม 2548 เวลา:16:16:37 น. |
|
|
|
โดย: azzurrini IP: 202.28.181.9 วันที่: 3 สิงหาคม 2548 เวลา:23:21:10 น. |
|
|
|
โดย: azzurrini IP: 202.28.181.9 วันที่: 4 สิงหาคม 2548 เวลา:10:29:45 น. |
|
|
|
โดย: joblovenuk IP: 61.91.211.8 วันที่: 4 สิงหาคม 2548 เวลา:19:35:58 น. |
|
|
|
โดย: 1993 IP: 61.91.133.158 วันที่: 7 สิงหาคม 2548 เวลา:18:42:24 น. |
|
|
|
โดย: อิบ อิบ IP: 61.91.69.214 วันที่: 7 สิงหาคม 2548 เวลา:21:41:28 น. |
|
|
|
โดย: คากินั๊ง IP: 61.91.97.156 วันที่: 8 สิงหาคม 2548 เวลา:14:05:00 น. |
|
|
|
โดย: azzurrini IP: 202.28.181.7 วันที่: 11 สิงหาคม 2548 เวลา:22:36:37 น. |
|
|
|
โดย: สมิงfilm IP: 61.91.79.166 วันที่: 12 สิงหาคม 2548 เวลา:22:16:39 น. |
|
|
|
โดย: azzurrini IP: 202.28.180.201 วันที่: 13 สิงหาคม 2548 เวลา:14:12:31 น. |
|
|
|
โดย: ภาคย์ IP: 203.113.80.8 วันที่: 20 สิงหาคม 2548 เวลา:1:25:50 น. |
|
|
|
โดย: quin toki วันที่: 24 สิงหาคม 2548 เวลา:13:17:23 น. |
|
|
|
โดย: นานะจัง IP: 202.176.84.95 วันที่: 10 กันยายน 2548 เวลา:16:09:38 น. |
|
|
|
โดย: โหรฟันธง IP: 202.5.95.205 วันที่: 5 มกราคม 2549 เวลา:5:06:56 น. |
|
|
|
โดย: nutcha IP: 61.91.127.84 วันที่: 31 มกราคม 2549 เวลา:21:07:43 น. |
|
|
|
โดย: 19 กุมภาพันธ์ 2549 IP: วันที่: 0:31:34 เวลา:58.10.233.21 น. |
|
|
|
โดย: กระทิงทอง IP: 58.10.233.21 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:0:32:37 น. |
|
|
|
โดย: webwalker IP: 71.198.13.183 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:16:14:56 น. |
|
|
|
โดย: Mint IP: 64.118.151.2 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:1:29:06 น. |
|
|
|
โดย: yatiko IP: 203.146.55.130 วันที่: 20 มีนาคม 2549 เวลา:10:41:57 น. |
|
|
|
โดย: njpp IP: 61.91.98.67 วันที่: 23 มีนาคม 2549 เวลา:23:45:27 น. |
|
|
|
โดย: โกโต้ เคนสุเกะ IP: 202.28.24.173 วันที่: 24 มีนาคม 2549 เวลา:13:33:19 น. |
|
|
|
โดย: SFFC IP: 125.24.78.46 วันที่: 18 เมษายน 2549 เวลา:18:13:55 น. |
|
|
|
โดย: PADAPA--DOO วันที่: 25 เมษายน 2549 เวลา:19:40:36 น. |
|
|
|
โดย: i_love_nightlife IP: 202.142.192.42 วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:11:30:30 น. |
|
|
|
โดย: whyter IP: 210.246.150.29 วันที่: 9 กันยายน 2549 เวลา:19:05:10 น. |
|
|
|
โดย: คนขับช้า วันที่: 24 ธันวาคม 2549 เวลา:10:59:10 น. |
|
|
|
โดย: YoiChi IP: 202.57.178.112 วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:13:46:20 น. |
|
|
|
โดย: YoiChi IP: 202.57.178.112 วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:13:49:34 น. |
|
|
|
โดย: นักวิจารณ์สมัครเล่น IP: 125.24.181.222 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:01:50 น. |
|
|
|
โดย: ต้า_หอการค้า IP: 125.24.35.141 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:46:49 น. |
|
|
|
โดย: thales IP: 125.26.55.168 วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:21:30:15 น. |
|
|
|
โดย: eheb IP: 118.172.65.188 วันที่: 17 สิงหาคม 2551 เวลา:18:25:22 น. |
|
|
|
โดย: crash IP: 110.164.241.154 วันที่: 15 มีนาคม 2553 เวลา:6:15:51 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
- Next , ทรงผมชวนกลุ้มใจกับหนังไซไฟดูเพลินๆ
- Spider-Man 3 , แมงมุมดำตัวนั้น ฉันเห็นมันอยู่ในใจเราทุกคน
- Miss potter , เรื่องของเธอ(พ็อตเตอร์)และผมฯ
- Me...Myself ขอให้รักจงเจริญ , แค่นี้ก็พอแล้ว
- Meet the Robinsons , เมื่อพบความผิดหวังจะโทษโน่นโทษนี่ หรือ เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป
- Shooter , หนังแอคชั่นที่ดูจบแล้ว"เออ มันดีแฮะ"
- Hannibal Rising , ความน่าผิดหวังของหนังฮานนิบาล
- Confession of pain , ความแค้นอันแสนเศร้า
- Pans Labyrinth , คือจินตนาการแสนสวยงาม หรือ คือความจริงที่เจ็บปวดและขมขื่น
- The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23
- เมล์นรก หมวยยกล้อ , รถเมล์สายนี้ไม่ตลกแต่สนุก
- The Lives of Others , อ๊ะ นี่มัน Infernal affairs เวอร์ชั่นกำแพงเบอร์ลิน
- Sunshine , อาทิตย์สิ้นแสง ชีวิตสิ้นสูญ
- The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)
- แฝด , เข้าใจพิม เข้าใจพลอย เข้าใจ"แฝด"
- I'm a Cyborg, But That's OK , แต่ I ไม่ค่อย OK
- The Good Shepherd , จะลงเรือทั้งทีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
- Bridge to Terabithia , Just close your eyes but keep your mind wide open
- 300 , นี่คือสปาตั้น(โว้ย) ... พลั่กกกกกก
- The Queen , แม้จะเป็นเรื่องของ 'ควีน' แต่นี่คือ การกะเทาะเปลือกเล่าเรื่อง 'คน'
- Rocky Balboa , ชีวิตไม่ได้สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน
- Charlotte's Web , มิตรภาพไม่ได้มีราคา
- The Pursuit of Happyness , ปัญหาชีวิตก็เหมือน รูบิค - ถ้าทำไม่ได้จะ สู้ต่อ หรือ โยนทิ้ง-
- Volver , ความเจ็บปวดของแม่และลูกสาว
- Music and Lyrics , หนังที่น่ารักที่สุดในรอบ(หลาย)ปี
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 , จะสนไปทำไมกับเรื่องอิสรภาพที่ไกลตัว
- Dreamgirls , วันที่ ธุรกิจ กลืนกิน ศิลปะ
- Babel , เราเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ไปแล้วหรือยัง
- Rough , จาก H2 มาสู่ Touch และได้เวลา Rough
- Curse of the Golden Flower , ความเน่าหนอนฟอนเฟะของสถาบันครอบครัว
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus , ความงามที่แตกต่าง โลกที่แตกต่าง
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1 , ไทยจะสิ้นชาติไม่ใช่เพราะใคร หากมิใช่เพราะไทยด้วยกัน
- Perfume: The Story of a Murderer , ทำความรู้จักและเข้าใจ ฆาตกรน้ำหอมมนุษย์
- Blood diamond , "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาฆ่ากันเอง"
- The Black Dahlia , ดอกรักเร่ ที่สวยแค่สไตล์แต่ไร้เสน่ห์
- Night at the Museum , ความบันเทิงสำเร็จรูปที่สนุกเพลินเกินห้ามใจ
- ===== 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ ประจำปี 2549 =====
- +++ 10 "ฉาก"ประทับใจจาก"หนัง"ปีที่ผ่านมา +++
- ++ ชวนเพื่อนๆมาเลือก 10 ตัวละครประทับใจ จากหนังปีที่ผ่านมา ++
- The Holiday , จะทำอย่างไรในวันที่ใจเจ็บ
- Lucky Number Slevin , ของเค้าดี แต่ ผิดที่ ผิดเวลา
- The King and the Clown , ความรักของตัวตลกบนหลังเสือ
- Déjà vu , เอ๊ะ เราเคยเจอมาก่อนหรือเปล่า
- Death Note 2: The Last Name , ได้เวลาเก็บสมุดคืนเจ้าของ
- Saw III , บทเรียนสุดท้ายของคุณครู จิ๊กซอว์
- The Village Album , ถ่ายภาพด้วยหัวใจแล้วบันทึกใส่ความทรงจำ
- 007 : Casino Royale , นี่ซิ เจมส์ บอนด์
- The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?
- The Banquet , แฮมเล็ต เวอร์ชั่น ประหารเจ็ดชั่วโคตร
- ผีสามบท บทที่ 3 : เปนชู้กับผี , พอกันที ผีGMO
- ผีสามบท บทที่ 2 : Monster House , บ้านผีสิงที่แสนจะบันเทิงใจ
- ผีสามบท บทที่ 1 : The Grudge 2 , ปัญหาของ ป๋า กับ เด็กผี
- The Guardian , "สถิติ" ไม่สำคัญเท่า "ทัศนคติและเจตคติ"
- หมากเตะรีเทิร์นส , หมากเกมส์นี้ น่าจะดีได้มากกว่านี้
- 12 เกมสยาม +13 เกมสยอง , มันไม่ใช่แค่เกม
- Cars , 20 ปีของ Pixar กับเรื่องของ "คาร์" (ซึ่งก็คือเรื่องของ "คน")
- The Devil Wears Prada , (จากหนังสือมาเป็นหนัง) ร้ายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
- Death Note , สมุดเล่มนี้ ดี จริงหรือ?
- L'Enfant (The child) , เด็กไม่รู้จักโต
- World Trade Center , เป็น"ฮีโร่"ไม่ได้วัดกันที่ผลลัพธ์
- The Host , สัตว์ประหลาด สนุกประหลาด
- Season changes , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"
- Me and You and Everyone We Know , เราอยู่ร่วมกัน เรารู้จักกัน แต่เราไม่เชื่อมต่อถึงกัน
- Snakes on a Plane , ที่อยากไปดูก็เพราะ "งูบนเครื่องบิน"
- United 93 , ทรงพลัง และ สะเทือนใจ
- Running boy (Marathon) , ทุกชีวิตล้วนมี"หัวใจ"
- โคตรรักเอ็งเลย , เกือบโคตรรัก "โคตรรักเอ็งเลย"
- Sad movie , แม้รักต้องพลัดพรากก็ยังฝากความทรงจำอันงดงาม
- The Break-Up , วิธีทำลายชีวิตคู่ตัวเองให้ย่อยยับ
- แก๊งชะนีกับอีแอบ , หนัง comedy ไทยดีๆยังมีอยู่
- Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest , "สลัด"จานนี้รสชาติดีเพราะ"Johnny Depp"
- Tsotsi , พื้นฐานจิตใจมนุษย์เป็น สีขาว หรือ สีดำ
- Superman Returns , ทำไมโลกใบนี้ยังต้องการ Superman ?
- Silent Hill , ของดีที่อยู่ในมือพ่อครัวขาดฝีมือ
- over the hedge , บทเรียนชีวิตเรื่องมิตรภาพและครอบครัว
- Don't tell , แผลในใจแค่"ลืม"คงไม่พอ
- Slither , คูลฟีเวอร์สีเลือด เชือดมนุษย์โลก
- The Omen , ซาตานอยู่รอบตัวเรา
- Scary movie 4 , ผ่านมา --> ฮา --> ผ่านไป
- Paradise now , สวรรค์อยู่หนใด
- X-Men: The Last Stand , X = mutant , รักร่วมเพศ , คนผิวดำ , ยิว ฯลฯ
- ก้านกล้วย , "ช้างกูอยู่ไหน" >> "ช้างกูอยู่นี่"
- The Da Vinci Code , ศรัทธาที่บิดเบือน
- Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
- Poseidon , จมเร็ว จบเร็ว
- Match point , เกมส์กิเลสของคนเห็นแก่ตัว
- Mission: Impossible III, ภารกิจสุดมันส์ที่ขาดเสน่ห์
- Perhaps love , รักซ้อนรัก หนังซ้อนหนัง อดีตซ้อนปัจจุบัน
- Ice Age: The Meltdown , ได้เวลายุคน้ำแข็งครองเมือง
- Red lights , ผู้ชายไม่รู้ตัว ผู้หญิงไม่รู้ใจ
- Failure to launch , Success to love
- Inside man , คน(ดี/ชั่ว) ใน คน(ดี/ชั่ว)
- Where the Truth Lies , ความจริงนอนนิ่งอยู่ที่ใด ?
- โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง , ฮาน้อยกว่าที่คิด มีสาระมากกว่าที่หวัง
- My girl and I , รักครั้งแรกจะเปลี่ยนเราไปตลอดกาล
- V for Vendetta , เผด็จการรัฐสภา VS. พลังประชาชน
- A History of violence , มาทำความรู้จัก "ความรุนแรง" กัน
- Final Destination 3 , เหล้าเก่าในขวดเก่า
- The Constant Gardener , ในความลับมีความจริง ในความจริงมีความรัก
- คำพิพากษาของมหาสมุทร (Invisible Waves) , คลื่นบาปที่นิ่งสงบ
- Walk the line , มิตรภาพในความรัก
- เด็กหอ , หอนี้มีดีกว่าผีหลอก
- Brokeback Mountain , รักซ่อนเร้น
- Munich , ผลของการสาดน้ำมัน(ความรุนแรง)เพื่อดับไฟ(แค้น)
- Memoirs of a Geisha , ชาเขียวสำเร็จรูปที่ผสมน้ำมากไป
- Prime , รักคงยังไม่พอ
- An Unfinished Life , ชีวิตที่หยุดเดิน
- In Her Shoes , หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต
- Just Like Heaven , เมื่อพื้นที่ของชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ความสุข
- The Promise , คำสัญญา ชะตากรรม ความรัก
- 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ (ของปีที่ผ่านมา)
- 10 ฉากประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- 10 ตัวละครประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and the Wardrobe , ส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับทุกครัวเรือน
- April Snow , บางครั้งความรักก็เจ็บปวดโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
- King Kong , แล้ว "ลิงยักษ์" ก็ตกหลุม "รักหญิง"
- The Descent , ถึงถ้ำ ถึงเลือด ถึงเนื้อ ถึงกระดูก
- The Maid , ผีสิงคโปร์
- The Exorcism of Emily Rose , ผีเข้า(ศาล)
- Hidden (Caché) , ความจริงที่ซุกซ่อน (ในหนังที่ยอดเยี่ยม)
- Chicken Little , กุ๊กไก่ของ Disney ที่ไร้เงา Pixar
- Nana , โลกของนานะ โลกของความรัก ความฝัน และ มิตรภาพ
- เด็กโต๋ , สายธารชีวิตแห่งบ้านแม่โต๋
- Harry Potter and the Goblet of Fire , กีฬาสีสามสถาบันกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
- Corpse Bride , รักไม่มีวันตาย
- Yes , บทกวีอีโรติค ความรัก การเมือง และ การมีตัวตน
- รับน้องสยองขวัญ , หายใจเข้าก็ เฮ้อ หายใจออกก็ เฮ้อ
- Lord of War , นิ้วที่ลั่นไกจากมือที่มองไม่เห็น
- Saw II , สยองอย่างมีประเด็น
- Goal! , ประตูชัย(goal)เป้าหมายชีวิต
- Proof , ชีวิตที่สับสนของคนที่สูญเสีย
- The Legend of Zorro , ฮีโร่ที่ย่ำอยู่กับที่
- Flightplan , ขึ้นได้สูง บินได้สวย ลงไม่นิ่ม
- Sky High , อยากจะเป็น hero ที่ "เปลือก" หรือที่ "แก่น"
- A Sound of Thunder , เรื่องราวอยู่ในโลกอนาคต ตัวหนังอยู่ในโลกอดีต
- Red Eye , ไม่ใช่แค่ Fight or Flight แต่ยังเป็น Fight on Flight
- เพื่อนสนิท , เมื่อเส้นแบ่งของ "คนรัก" กับ "เพื่อน" เริ่มเลือนราง
- Transporter 2 ควบ Into the Blue , ขึ้นรถดีกว่าลงเรือ
- Madagascar , มิตรภาพกับการเรียนรู้ชีวิต และ นกเพนกวิน
- Cinderella man , Jim Braddock ชายที่ไม่ได้เป็นแค่นักมวย
- Dear Frankie , คำลวง ความรัก ครอบครัว
- Dark Water , ความสัมพันธ์แม่-ลูก-ผี (จากหนังสือสู่ภาพยนตร์)
- Seven Swords , ... ที่ควรยาวกลับสั้น ที่ควรสั้นกลับยาว ...
- แหยม ยโสธร , ขำขำ - หม่ำ - อะฮึ่ย อะฮึ่ย
- Charlie and the Chocolate Factory , Imagination is more important than knowledge
- The Skeleton Key , ไขได้ดีพอสมควร
- About Love , เรื่องราวที่ "เกี่ยวกับ "รัก""
- 5x2 , สมการความรักของคน 2 คน
- ต้มยำกุ้ง , อร่อยรสแซ่บชามโตเกินมาตรฐานแต่อาจไม่ผ่านเชลล์ชวนชิม
- Somersault , ความรัก - Sex - เด็กสาวและความทุกข์ทรมานใจ
- The Upside of Anger , เรื่องหนักๆของครอบครัวที่เล่าอย่างเบาๆ
- Land of the Dead , หนึ่งเรื่องราวของซอมบี้ที่กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
- Crash , ผลกระทบของการชนที่"คน"มีต่อกันและกัน
- วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น , หนังครอบครัวสำหรับคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี
- The Island , โลกอนาคตและโคลนนิ่งฉบับระเบิดเถิดเทิง
- The Keys to the House , "บ้าน"หลังนี้จะมีความรักเป็น"กุญแจ"
- The Longest Yard , เกมส์เก่าเอามาเล่าใหม่ใช้วิธีการเดิม
- Fantastic Four , ความสนุกสูตรสำเร็จที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลิน
- War of the Worlds , เมื่อสปีลเบิร์กเลิกรักมนุษย์ต่างดาว
- Swing Girls , สวิงกันแบบคึกคัก สดใส ไร้มลพิษ
- Hotel , โรงแรมที่ไร้เรื่องราว
- Assault on Precinct 13 , อีกหนึ่งความจนตรอกที่ระทึกคุ้มค่า
- Batman Begins , ปฐมบทแรกบินกับการตีความครั้งใหม่
- Mr. and Mrs. Smith , เรื่องราวชีวิตคู่ที่สวมเสื้อคลุมหนังแอคชั่น
- มหาลัย' เหมืองแร่ , เหมืองแร่และชีวิตกับหน่วยกิตที่ต้องขุด
- House of Wax , ความสยองที่แปลกตากับหุ่นขี้ผึ้ง สองดาราและหนึ่งปารีส
- Sin city , ฟิล์มนัวร์ที่ลงตัวและเจ๋ง
- Star Wars: Episode III Revenge of the Sith , การปิดตำนานและการเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์
- The Jacket , การเดินทางข้ามเวลา ความหลอนและวงจรชีวิต
- A Lot Like Love , รักด้วยใจแต่ตัดสินใจด้วยสมอง
- เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ
- Be With You , ความสุขของฉันคือ"การได้อยู่กับคุณ"
- Hostage , เหล้าเก่าในขวดใหม่ที่ไม่น่าผิดหวัง
- Kingdom of Heaven , สงครามครูเสดครั้งนี้ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่น่าเสียดาย
- Spanglish , เรื่องราวที่กระจัดกระจายแต่ให้แง่มุมหลากหลายในครอบครัว
- Guess Who , เสียงฮาจากความแตกต่างและBernie Mac
- The Interpreter , ทริลเลอร์ที่ดี(แต่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น)
- Hide and Seek , มีปมที่ดีแต่มีบทที่อ่อน
- The Chorus (Les Choristes) , ง่ายๆแต่ได้ใจ
- Hitch , สนุก น่ารัก ขำขำ รู้สึกดี
- Sahara , หนังสนุกแค่เป็นช่วงๆหรือผมง่วงกันแน่
- Boogeyman , ตื่นเต้นตกใจ แต่ อะไร ยังไง ทำไม?
- Tokyo Godfathers , การตามหา"ครอบครัว"ที่สนุกมากๆ
- บุปผาราตรี เฟส 2 , เมื่อบุปผาเริ่มร่วงโรย
- Dont move , นอกจากตัดสินใคร คุณเข้าใจใครคนนั้นดีแล้วหรือยัง?
- Crying Out for Love, In the Center of the World , ความทรงจำและเทปคาสเสตต์/ความรักและใจกลางโลก
- The Ring Two , ไม่สมศักดิ์ศรี "The Ring"
- A Very Long Engagement , หนังที่มากไปด้วยความทะเยอทะยาน
- Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events , การดัดแปลง"โชคร้าย"ที่ทำได้"ดี"
- Hana & Alice , มิตรภาพ ความรัก ความทรงจำ
- Hotel Rwanda , หนังที่ให้คนดูมากกว่าความเป็นหนังดี
- In Good Company , ผู้ชายขาขึ้นกับผู้ชายขาลง
- Being Julia , โลก(ของจูเลีย)คือละคร
- หลวงพี่เท่ง , เรื่อยๆขำๆพอไปวัดไปวา
- Sideways , รักนุ่มๆชุ่มไวน์ในวันเบาๆ
- Million Dollar Baby , ความยอดเยี่ยมท่ามกลางศรัทธาและความอบอุ่น
- Constantine , "คนเห็นผี"ปราบลูกปีศาจ
- Shall we dance , คุณเต้นรำกับคู่ของคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไร
- Finding Neverland , งดงามเหลือเกิน
- Kung Fu Hustle , ตลกน้อย สนุกมาก และลงตัว
- 2046 , ไปแล้วอย่าลืมกลับมา
- Ray , มีดีที่Jamie Foxx
- The Phantom of the Opera , ภายใต้หน้ากากมีเพียงความว่างเปล่า
- โรงเตี๊ยม , มีอะไรดีๆกว่าที่คิดและโฆษณา
- Meet the fockers , เรื่องของหนังตลกและครอบครัว
- Closer , เมื่อความรักถูกสำรวจและตีแผ่ผ่านตัวละคร
- The Aviator, .....And this is Howard Hughes
- The Forgotten, ไม่มีอะไรน่าจดจำ
- Birth , ยอดเยี่ยมในความหนักแน่นและเนิบนาบ
- ****1ปีที่ผ่านมา ฉากใดในหนังที่คุณประทับใจ ****
- 5หนังชอบ กับ 5หนังไม่ชอบ ของคุณในปี2547คือ....,
- National Treasure, เมื่อBruckheimerมาสร้างDavinci's code
- The Polar Express, ตื่นตาแต่ไม่ตื่นใจ
- แจ๋ว, แจ๋วน้อยกว่าที่หวัง
- Bridget Jones 2, รู้จักเธอมากขึ้นและรู้สึกดีกว่าที่คิด
- The Incredibles, ครอบครัวหรรษา
- ขุนกระบี่ ผีระบาด, กล้าที่จะบ้า ก็กล้าที่จะดู
- Ocean's Twelve, หนังขาย"เสน่ห์ดารา"
- หมานคร, เมืองนี้ภาพสวย+เพลงเพราะ+ประหลาดและยาก
- กั๊กกะกาวน์, "ใจ"คุณเต้นอย่างไรเมื่อคุณมีความรัก
- Alexander, ดราม่าชั้นดีแต่ความสนุกเป็นระลอกคลื่น
- Wimbledon, For love of the game+NottingHill+ภราดร
- Love me if you dare, หนังรักแปลกกับความรู้สึกก้ำกึ่ง
- Cellular, สนุกเป็นบ้า แอคชั่นแอบฮา
- Saw, OldBoy+Cube+ฆาตกรโรคจิต
- Ladder49, สิงห์ผจญเพลิงชื่อฮัวควิน ฟีนิกซ์
- The Grudge, เมื่อ"เด็กผี" go inter เป็น "โคตรผีดุ"
- Dodgeball, ฮาน้อยกว่าที่หวังแต่สนุกกว่าที่คิด
- Sky Captain and The World of Tomo, หนังไซไฟสไตล์"ฟ้าทะลายโจร"
- Resident Evil 2, อลิซเท่+เนเมซิสเห่ย+จิลเฉยๆ
- Shark Tale, คุณเป็น"somebody"แล้วหรือยัง
- สายล่อฟ้า, ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนกับความสนุกกลางๆ
- Shutter กดติดวิญญาณ, นานๆทีจะมีหนังผีไทยดีๆให้ดูกัน
- The Terminal, น่ารัก นุ่มนวล และสนุกกว่าที่คิด
- Wicker park( spoilแล้วจะบอก), ลุ่มหลง คลั่งไคล้ หลอกลวงและความรัก
- Eternal sunshine รอบ2, ความอภิรมย์ที่มากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
- EternalSunshineOfTheSpotlessMind, คุณเคยอยากจะลืมบางสิ่งในชีวิตคุณบ้างไหม
- Three Extreme, อึดอัด ขยะแขยง รุนแรง และผิดหวัง
- Man on fire (no spoil), คนจริงเผาแค้น เผานานจนผมเกือบหลับ
- Bourne Supremacy, มันต้องให้ได้ยังงี้ซิ ต้องยังงี้ซิ
- Collateral...., it started like any other night
- Windstruck, งานมือตกของกวัก แจ ยอง
- งานของ M. Night Shyamalan, 6th sense/Unbreakable/Sign/และTheVillage
|
|
|
|
|
|
|
|
เกลียดไอ้ตำรวจจั่ว ลามก
พอดีหนังขาดตอนยังดูไม่จบ เหอ ๆ ดูถึงตอนไอ้ตำรวจจั่วไปด่าหมอ..คะ