: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - ปกติ : หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ และสิ่งที่ฝากไว้ [ 1 ] :
: ปกติ : หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ และสิ่งที่ฝากไว้ [ 1 ] :เรียบเรียง : กลุ่มเทียนสว่างธรรม
แม้ว่าหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ จะละสังขารมรณภาพไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 แต่หลักปฏิบัติและหัวข้อธรรมคำสอนของหลวงพ่อ ยังคงได้รับความนิยมจากผู้ปฏิบัติธรรมจำนวนมาก หนังสือเล่มนี้นับว่าได้รวบรวมประวัติและแนวคิดทางธรรมของท่านอย่างสมบูรณ์มากที่สุดเล่มหนึ่ง จัดทำโดยกลุ่มลูกศิษย์ใกล้ชิด ทำการสัมภาษณ์หลวงพ่อโดยตรง รวมทั้งมีการสัมภาษณ์ลูกศิษย์ของหลวงพ่อเทียนทั้งที่เป็นพระสงฆ์และฆราวาส
หลวงพ่อเทียนเป็นผู้มีจิตใจใฝ่ธรรมมาตั้งแต่เด็ก แม้ครองเรือนแล้วท่านก็ยังคงปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอ หลวงพ่อบรรลุธรรมก่อนจะอุปสมบท และยังสร้างสถานปฏิบัติธรรม เพื่อให้พระและชาวบ้านทั่วไปเข้ามาปฏิบัติธรรมในแนวทางที่ท่านสอน นั่นคือ การทำสมาธิแบบเคลื่อนไหว หรือ การเจริญสติแบบเคลื่อนไหวและสร้างจังหวะ
เมื่ออายุ 48 ปี ท่านจึงได้ปรึกษากับครอบครัว เพื่อสละทางโลกเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ท่านได้ใช้เวลาทั้งหมดที่เหลือในชีวิตปฏิบัติธรรมและช่วยเหลือผู้คนจำนวนมากให้มีโอกาสลิ้มรสธรรมด้วยตนเอง ดังที่ท่านได้กล่าวไว้ว่า
“ไม่ว่าพระพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นหรือไม่ก็ตาม พระธรรมนั้นมีอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นสิ่งนี้อย่างแท้จริง เราจะอยู่เหนือความเชื่อที่งมงายทั้งหลาย ตัวเราเท่านั้นที่จะนำชีวิตของเราเอง มิใช่ใดอื่น นี้คือ จุดเริ่มต้นของความสิ้นสุดแห่งทุกข์”
ท่านสอนให้ลูกศิษย์ปฏิบัติธรรมอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ ด้วยการเดินจงกรม ด้วยการเจริญสติแบบเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นรูปแบบเฉพาะที่ท่านได้คิดค้นขึ้น หลวงพ่อเทียนใช้เวลาอบรมสั่งสอนลูกศิษย์เป็นจำนวนมากจนพ้นทุกข์ ท่านสอนให้ศิษย์ไม่ยึดติดในตัวอาจารย์ ตำรา คัมภีร์ หรือพิธีกรรมใดใด
“ตำราเปรียบเสมือนแผนที่ เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ทางไป หรือยังไปไม่ถึงจุดหมาย ผู้ที่ไปถึงแล้ว ‘แผนที่’ ก็หมดความหมาย”
ท่านไม่เคยกลัวความเจ็บไข้ได้ป่วย ความชรา แม้ในวาระสุดท้ายหลวงพ่อเทียนก็ยังคงเจริญสติอยู่บนที่นอนด้วยการขยับมือไปเรื่อย ๆอย่างมีสมาธิ ก่อนจะละสังขารไปด้วยอาการเปี่ยมสติ สงบงาม เมื่อมีลูกศิษย์กล่าวถามหลวงพ่อว่าเมื่อสิ้นหลวงพ่อแล้วจะทำอย่างไร หลวงพ่อเทียนเมตตาตอบว่า
“คนที่รู้ธรรมนั้น เปรียบได้เหมือนกับตะเกียงที่จุดสว่างขึ้นในความมืด คนที่อยู่ใกล้จะเห็นชัด คนที่อยู่ไกลก็เห็นชัดน้อยลง สักพักหนึ่งตะเกียงจะดับไป และจะมีการจุดตะเกียงให้สว่างขึ้นอีกเป็นครั้งคราว”
ท่านไม่กลัวธรรมะจะขาดตอน ตราบใดที่ผู้ปฏิบัติธรรมยังคงเดินไปอย่างถูกทิศ ถูกทาง ถูกธรรม ธรรมะย่อมดำเนินไปตามวิถีทางแห่งธรรมชาติ
ผมใช้เวลาอ่านหนังสือเล่มนี้อยู่หลายวันกว่าจะจบ หนังสือหนา 400 กว่าหน้า ขณะอ่าน...เมื่อพบเจอประโยคคำสอนใดที่น่าสนใจ ก็เขียนบันทึกเก็บไว้ และนี่คือประโยคคำสอนของหลวงพ่อเทียนที่ผมชอบครับ
Create Date : 27 พฤศจิกายน 2567 |
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2567 4:53:29 น. |
|
16 comments
|
Counter : 442 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณmultiple, คุณปัญญา Dh, คุณtanjira, คุณหอมกร, คุณmcayenne94, คุณเนินน้ำ, คุณThe Kop Civil, คุณกะริโตะคุง, คุณnewyorknurse, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณปรศุราม, คุณสองแผ่นดิน, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณhaiku |
โดย: multiple วันที่: 27 พฤศจิกายน 2567 เวลา:5:36:23 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 27 พฤศจิกายน 2567 เวลา:6:18:29 น. |
|
|
|
โดย: ปัญญา Dh วันที่: 27 พฤศจิกายน 2567 เวลา:6:22:18 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 27 พฤศจิกายน 2567 เวลา:6:56:08 น. |
|
|
|
โดย: mcayenne94 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2567 เวลา:7:09:44 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 27 พฤศจิกายน 2567 เวลา:10:03:23 น. |
|
|
|
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 27 พฤศจิกายน 2567 เวลา:11:57:21 น. |
|
|
|
โดย: กะริโตะคุง วันที่: 27 พฤศจิกายน 2567 เวลา:15:13:50 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 27 พฤศจิกายน 2567 เวลา:22:51:16 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 28 พฤศจิกายน 2567 เวลา:21:47:37 น. |
|
|
|
| |
เรื่องจริงแท้แน่นอนก็คือ สมัยก่อน คิดว่าถ้ารวยมีเงินแล้วจะมีแต่ ความสุขไม่มีทุกข์แน่
แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว เงิน อาจจะซื้อความสุขได้ แต่ ซื้อความหมดทุกข์ ไม่ได้จริงๆครับ
เดี๋ยวเดือนหน้านี่ หมอนัดไปตรวจสุขภาพอีกแล้วครับ
พอเริ่มแก่ตัวนี่ มีลุ้นทุกนัดเลยเชียวครับ
ถ้าผ่านเดี๋ยวต้องฉลองกันใหญ่อีกแน่นอนครับ 555