ตุลาคม 2567
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
23 ตุลาคม 2567

: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - สนทนานิกายเซ็น :



: สนทนานิกายเซ็น :
เขียน : เสถียร โพธินันทะและคณะ






“เซ็น” ยังคงเป็นปริศนาลึกลับซับซ้อน
ว่าตกลงแล้วคือการเรียนรู้ธรรมะแบบใด ?

เรียนรู้โดยไม่เรียนรู้ ?
เพราะปัญญาที่ได้มาจากการศึกษาธรรม ยังไม่ใช่ปัญญาที่แท้จริง
ยังเป็นความรู้ที่มาจากการรู้เห็นนึกคิด
เป็นความรู้ที่ได้มาจากการจำและการสะสมข้อมูล

การเห็นแจ้งในธรรม
จึงเป็นหัวใจสำคัญของการฝึกฝนตนในแนวทางเซ็น

“สัจธรรม” นั้น มีบทบาทต่อโลกนี้โดยตลอดมา
ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน กระทั่งอนาคตกาล
โดยไม่เกี่ยวกับว่าในขณะนั้น จะเป็นพุทธกาลหรือไม่
เป็นชีวิตของปรากฏการณ์ที่แท้จริง
หากเราไม่เห็นแจ้งในธรรม เราก็ไม่อาจเข้าถึงสัจธรรมนั้นได้

การบรรลุธรรม คือ การเห็นภาวะแห่งตน
การเห็นภาวะแห่งตน คือ ผลของการเห็นความทุกข์ในชีวิต
เมื่อเห็นความทุกข์ จึงค้นหาสาเหตุแห่งทุกข์
จนนำไปสู่การค้นพบวิธีดับทุกข์ได้ในที่สุด

และที่สุดแห่งทุกข์ซึ่งเราทุกคนต้องดับให้ได้
นั่นก็คือ ทุกข์จาก “ตัวกู - ของกู”

ทุกข์จาก “ตัวกู - ของกู”
เกิดขึ้นจาก “ความคิด” หรือ “จิต” ของเรา
ที่ไปยึดมั่นถือมั่น ว่านี่คือของฉัน นั่นคือของเขา ฯลฯ
พอยึดมากก็อยากมาก อยากมากก็โลภมาก
โลภมากก็โกรธมาก โกรธมากก็หลงมาก
หลงมากก็กอดก่ายกิเลสจนเห็นผิดเป็นชอบ
เห็นทุกข์เป็นสุข เห็นไม่ตรงกับความเป็นจริง

การฝึกฝนตน คือ การทำให้จิตเป็นปกติ
จิตปกติ คือ ความนึกคิดที่คลายความเป็นตัวกู-ของกูไปเรื่อย ๆ
จนถึงจุดที่ไร้ความเป็นตัวกู - ของกู
หรือ “จิตอันว่างเปล่า” นั่นเอง
หนังสือเซ็นไม่ได้บอกวิธีอันแจ้งชัด
ว่าทำอย่างไรจึงจะบรรลุธรรม
หากแต่บันทึก โกอาน ปริศนาธรรม นิทานธรรม ต่าง ๆ
ล้วนเป็นแนวทางให้เราได้ลองนำไปฝึกฝนตน

เพราะที่สุดแล้ว
ตนคือผู้เห็นตน
ตนคือผู้ปฏิบัติตน
จะพ้นทุกข์ พ้นธรรมได้หรือไม่
หรือพ้นไปได้อย่างไร
คำตอบก็อยู่ที่ “ตัวเรา” เท่านั้นเอง



















Create Date : 23 ตุลาคม 2567
Last Update : 23 ตุลาคม 2567 5:11:25 น. 11 comments
Counter : 544 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณtanjira, คุณmultiple, คุณkae+aoe, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณชีริว, คุณทนายอ้วน, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณปรศุราม, คุณtoor36, คุณThe Kop Civil, คุณสองแผ่นดิน, คุณนายแว่นขยันเที่ยว


 
นกไม่เห็นฟ้าน่าจะไม่จริง
ต้องถามคนเขียนว่าเคย
รู้วาระจิตของนกหรือ 555
ชวนปวดหัวแต่เช้าเลยนะคุณก๋า
วันนี้เข้ามาก่อนคุณธัญแน่ๆ จ้า



โดย: หอมกร วันที่: 23 ตุลาคม 2567 เวลา:5:54:08 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะก๋า

ทุกข์จาก ตัวกูของกู นี่มีห้เห็นมากมายนะคะ
คนเรา ละวาง กันได้ยากนะคะ
คนเราจึงไม่ค่อยพบความสงบกันสักเท่าไหร่นะคะก๋า

......

เรื่องของตำรวจที่ก๋าเล่า เพื่อนพี่ก็จ่ายมาแล้วค่ะ
แต่จ่ายแล้วได้ย้ายกลับบ้านค่ะ

เรื่องของพี่ ไม่สามารถไปจ่ายกับใครได้
เพราะคนข้างบนใหญ่สุดแล้วค่ะ ลาออกสถานเดียวจริงๆค่ะ

คุณหอมกรวันนี้ได้หยุดเลยมาแต่เช้านะคะ


โดย: tanjira วันที่: 23 ตุลาคม 2567 เวลา:6:22:37 น.  

 
จิตที่ไม่สงบ ย่อมกลัวความสงบ นี่ท่าจะจริง
เพราะ อาจารย์เต๊ะ กลัวการไปนั่งสมาธิ วิปัสสนามากเลยเชียวครับ
หนีมาตลอกชีวิตเลยเชียว แฮร่ 555

ตั้งแต่เลิกทำงานออกแบบ อาจารย์เต๊ะ ก็เลิกสนใจ ฮวงจุ๊ยไปเหมือนกันละครับ ตอนนี้ งานอดิเรก กลายเป็น งานประจำที่ทำเพื่อความเพลิดเพลินแหละครับ แฮร่ 555



โดย: multiple วันที่: 23 ตุลาคม 2567 เวลา:8:01:43 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

ครูว่า เธอนี่เก่ง นะ ที่ชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับ เซน ครูคนหนึ่ง
ละ ที่อ่านแล้ว ไม่ค่อยจะเข้าใจ ทั้ง ๆ ที่เธอก็ได้อธิบายขยายความ
แล้ว นะเนี่ย ห้าห้า
บล็อกนี้ กล่าวถึงเรื่อง ทุกข์ กิเลส จิตที่สงบ ซึ่งครูเห็นด้วยนะ
ว่า เป็นเรื่องสำคัญต่อการดำรงรงชีวิต โดยเฉพาะเรื่อง กิเลสทั้งหมด
ที่มี ไม่ว่าเป็นเรื่อง รัก โลภ โกรธ หลง ล้วนเป็ต้นเหตุของทุกข์ นำไปสู่จิตไม่สงบ ลงท้ายนำไปสู่คำว่า "ทุกข์" เสมอ พระพุทธเจ้า
จึงสอนอริยสัจสี่ ธรรมะที่จะนำไปสู่ หนทางที่จะดับทุกข์ ใครที่
เข้าใจ หลักธรรมเรื่องนี้ ชีวิตของคนนั้น ครูเชื่อว่า ไม่มีความทุกข์
ถึงจะมี ก็สามารถแก้ไขให้ตัวเองได้ ไม่ปล่อยความทุกข์ติดตัวเอง
มากหรือนานนัก แน่นอน จ้ะ

โหวดหมวด แนะนำหนังสือ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 23 ตุลาคม 2567 เวลา:13:07:26 น.  

 
สวัสดียามบ่ายค่ะ พี่ก๋า

นัดเชลซีอึดอัดอยู่นะคะ ดีที่เก็บ3แต้มได้
คืนนี้เชียร์หงส์ต่อค่ะ


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 23 ตุลาคม 2567 เวลา:13:45:48 น.  

 
คลาสสิคเชียวครับปก
นักเขียนดังๆ มารวมตัวกันเยอะเลย
หนังสือเกี่ยกวับเซ็นอ่านแล้วปลอดโปร่งดีครับ รู้สึกหัวมันโล่งๆ


โดย: ชีริว วันที่: 23 ตุลาคม 2567 เวลา:14:28:16 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า

บอลต้องกลับไปทำกายภาพอีกแล้วครับ ตึงต้นแขน ไหล่ บ่า สะบัก ลามไปถึงต้นคอ


นักกายภาพสอบสวนอาการแล้วน่าจะมาจากการที่ทำงานบ้าน + ทำสวนครับ


ช่วงนี้ฝนตกบ่อยมากๆ โรคกล้วยไม้รุมเร้า ไหนจะหอยทากก็มาคอยกินใบ แมลงกลางคืนชอบมากินดอกด้วย ก็เลยต้องพ่นปุ๋ย พ่นยากันถี่มากครับ คงจะเป็นเพราะใช้กระบอกฉีดแบบที่ต้องปั๊มๆครับ พ่นยา พ่นปุ๋ยที่นึงกว่าจะเสร็จก็กว่าครึ่งชั่วโมงครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 23 ตุลาคม 2567 เวลา:18:48:25 น.  

 
สวัสดีครับพี่ก๋า

เข้าใจเลยครับ ที่บอกว่า การดับกิเลสไม่ใช่การตรัสรู้
เพราะดับกิเลสได้ก็แค่ตัวเราเอง ไม่ได้รู้แจ้งเห็นจริง
ก็คงเหมือนพระอรหันต์อ่ะครับ ละกิเลสได้จาากคำสอนพระพุทธเจ้า

ผมนี่ยังน่าจะต้องเกิดอีกหลายชาติ เพราะบันเทิงเริงใจกับกิเลสมากครับ 55555


จากบล๊อก
ตลกเครื่องแชร์แครอทบ้านล้มมากครับ 555555 อ่านยังไงก็ขำ
แต่ก็สงสารพระ สงสารเจ้า ที่กะจะมีเงินทำทุนหลังจากสึก ดันบ้านล้มซะได้

พี่ก๋าเรื่องเปียโนมาด้วยหรอครับ จริงๆครับ บางอย่างมันไม่ใช่แนวของเราจริงๆ ผมเข้าใจเลย
พ่อให้ผมเรียนไวโอลิน ผมเรียนครับ เล่นได้ แต่เรียกว่าเป็นเครื่องดนตรีที่เล่นได้แย่ที่สุดเลยครับ ไม่ถนัดเลย
ขนาดตีขิม ผมยังตีได้ดีกว่าไวโอลินอีกครับ 55555

กีต้าร์จริงๆ อาจจะดีกว่าเปียโนนะครับ พกไปเล่นที่ไหนก็ได้
เปียโนนี่ใครจะแบก 55555
ถ้าสมัยเรียน เล่นกีต้าร์นี่สาวกรี๊ดเลย


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 23 ตุลาคม 2567 เวลา:19:04:40 น.  

 
แต่ละเรื่องที่ยกมามันใช่เลยจริงๆ ครับ

คนที่เห็นเราได้ดีที่สุดก็เรานั่นแหละ แต่บางครั้งก็ชอบที่จะโกหกตัวเองนะ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 23 ตุลาคม 2567 เวลา:21:07:40 น.  

 
ผมนี่อ่านเซนไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันครับ ต้องอ่านหลาย ๆ รอบเลย
คืนนี้เชียร์แชมป์เปี้ยนลีกกันต่อครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 23 ตุลาคม 2567 เวลา:22:12:50 น.  

 
เซ็นน่าสนใจทุกเล่มเลยนุะครับ
จะพ้นทุกข์ มีสุข ก็ตัวเราเองทั้งนั้น

ฝนตกหนักเมื่อคืน แต่กลางวันไม่มีฝนเลยครับ



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 23 ตุลาคม 2567 เวลา:22:42:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BlogGang Popular Award#20


 
กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 395 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]