: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - ร้อยพันธรรมคีตาของมิลาเรปะ :
: ร้อยพันธรรมคีตาของมิลาเรปะ :แปลและเรียบเรียง : สมเด็จพระพุทธชินวงศ์
“ร้อยพันธรรมคีตาของมิลาเรปะ”เป็นหนังสือชีวประวัติและธรรมคีตาหรือโศลกธรรมของท่านมิลาเรปะ ท่านเกิดในปี พ.ศ.1595 และดับขันธ์ในปี พ.ศ. 1698 ที่ประเทศธิเบต
ในวัยหนุ่มท่านสนใจศึกษาศาสตร์มืด และได้ใช้วิชาไสยศาสตร์ ทำร้ายทำลายศัตรูคู่แค้นซึ่งเป็นญาติพี่น้องจนล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ภายหลังท่านเกิดสำนึกผิดชอบชั่วดี ต้องการจะลบล้างบาปเวรที่ตนเคยก่อ จึงหันเหชีวิตเข้าสู่พุทธศาสนา โดยศึกษาที่สำนักของพระอาจารย์มาร์ปะ ท่านมิลาเรปะถูกอาจารย์มาร์ปะทดสอบความมุ่งมั่นตั้งใจเป็นเวลาหลายปี ด้วยบททดสอบอันยากยิ่งและลำบากตรากตรำ และในที่สุดท่านก็บรรลุธรรม และเลือกปลีกวิเวกโดยลำพังบนยอดเขาสูงชันและหนาวเหน็บ ใช้ชีวิตเยี่ยงฤาษีหรือโยคี นาน ๆ จึงจะลงมาจากยอดเขาเพื่อสอนธรรมแก่ชาวบ้านในแถบนั้น ในรูปแบบของการร่ายโศลก ขานขับบทกวี หรือธรรมคีตานั่นเอง
การอ่านหนังสือ “ร้อยพันธรรมคีตาของมิลาเรปะ” ให้ความรู้สึกคล้ายกับการอ่าน หนังสือประวัติของพระป่าในบ้านเราหลายรูป ซึ่งแต่ละองค์ต้องพากเพียรอย่างอุกฤษฏ์ จึงจะสามารถต่อสู้กับกิเลสและอวิชชาภายในใจตนเองได้ สิ่งที่คล้ายกันไปมากยิ่งกว่านั้น คือ การใช้ชีวิตบนยอดเขาหรือไพรกว้าง มักมีเรื่องราวเหนือธรรมชาติ มีบทสนทนาระหว่างปิศาจร้าย มารผจญ และเทวดา เทพธิดา ปรากฏในธรรมคีตาของธิเบต และเรื่องเล่าของพระป่าของไทยไม่ต่างกัน
ผมอ่านไปโดยไม่ได้รู้สึกว่าต้องเชื่อหรือไม่เชื่อ ผี ปิศาจจะมีจริงหรือไม่จริง สิ่งนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับสิ่งที่ผมสนใจ ผมชอบในธรรมคีตาบทหนึ่งซึ่งท่านมิลาเรปะสอนไว้ดังนี้“ช่างเป็นความโง่เสียนี่กระไรที่มากระทำชั่วโดยไม่ทันยั้งคิด ขณะที่พระธรรมอันบริสุทธิ์แพร่อยู่รอบตัวเจ้า ช่างเป็นความโง่เสียนี่กระไรที่พวกเจ้ามาใช้เวลาแห่งชีวิตให้หมดสิ้นไปอย่างไร้ความหมาย ในเมื่อร่างกายมนุษย์อันประเสริฐนี้เป็นของกำนัลที่ได้มายากแสน ช่างน่าผิดหวังเสียนี่กระไรที่มามัวยึดมั่นกันอยู่แต่ในเมืองซึ่งเสมือนหนึ่งคุกตะราง ช่างน่าขันเสียนี่กระไรที่มัวต่อสู้และทะเลาะกันกับสามี ภรรยา และญาติของพวกเจ้า ผู้เป็นเพียงแขกผู้มาเยือน ช่างเป็นสิ่งไร้สามัญสำนึกเสียนี่กระไรที่มามัวติดใจกับถ้อยคำอันไพเราะและอ่อนหวาน ซึ่งเป็นเพียงเสียงสะท้อนที่ว่างเปล่าในความฝัน ช่างเป็นความโง่เสียนี่กระไรที่ไม่นึกเสียดายชีวิต ด้วยการมาต่อสู้กับศัตรูผู้เป็นดังหนึ่งดอกไม้ที่อ่อนแอ ช่างเป็นความโง่เสียนี่กระไร จะตายอยู่แล้ว ยังทรมานตัวเอง ด้วยการคิดถึงครอบครัว ซึ่งผูกมัดนรชนให้ติดอยู่กับบ่วงมายา ช่างเป็นความโง่เสียนี่กระไร ที่พากันหวงแหนทรัพย์สินเงินทอง ซึ่งเป็นหนี้สินที่ยืมมาจากผู้อื่น ช่างน่าหัวร่อเสียนี่กระไร ที่พากันตบแต่งประดับประดาร่างกาย ซึ่งเป็นแจกันอันเต็มไปด้วยความโสโครก ช่างเป็นความโง่เสียนี่กระไร ที่พากันพากเพียรพยายามหาความมั่งคั่งและสิ่งของ โดยละเลยน้ำทิพย์แห่งคำสอนอันอยู่ภายในเสีย ท่ามกลางฝูงชนที่โง่เขลา คนฉลาดและมีสติ ย่อมสามารถประพฤติธรรมได้....ข้าเป็นเช่นนั้น”‘แก่นธรรม’ ที่ซ่อนอยู่ใน ‘ธรรมคีตา’ เป็นสิ่งที่ผมสนใจ ไม่ใช่อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์แห่งธรรมใดใด
ภาพและรูปเคารพของท่านมิลาเรปะมักพบเห็นได้ในอิริยาบถ โยคีชราใช้มือป้องหูราวกับกำลังฟังเสียงกระซิบอะไรบางอย่าง และนั่นตรงกับคำสอนของท่านที่ว่า“ธรรมมีอยู่รอบตัวเราทุกทิศทาง มีอยู่ในธรรมชาติทุกหนทุกแห่ง บนดิน บนฟ้า ในป่าไม้ลำธาร เสียงลม เสียงสัตว์ร้อง ล้วนบ่งบอกธรรมทั้งสิ้น กระแสเสียงแห่งธรรมดังระงม บอกวิถีแห่งชีวิตของมนุษย์อันราบรื่น และสงบเยือกเย็นแก่เราตลอดเวลา แต่เราไม่สนใจ จึงไม่ได้ยิน ถ้าเราให้ความสนใจเพียงใช้มือป้องหูฟังให้ดี จะได้ยินเสียงธรรมกระซิบ”ใช่.... ‘ธรรมที่แท้จริง’ อยู่รอบตัว อยู่ในเนื้อในตัวของเรา ขอเพียงเห็น ได้ยิน ได้ฟัง น้อมนำมาปฏิบัติจนกว่าจะเปลี่ยนแปลงจิตของตนให้ดีขึ้น เจริญขึ้น จนนำไปสู่การละวางความทุกข์ทั้งปวงที่เคยมี‘ธรรมคีตา’ ซึ่งเป็นบทเพลงที่ไพเราะที่สุด จึงมิได้ดังมาจากคุรุองค์ใด ครูบาอาจารย์คนใดก็ส่งมอบสิ่งนี้ให้เรามิได้ มีแต่ตัวเราเท่านั้นซึ่งต้อง ‘ค้นพบ’ ให้เจอสิ่งนี้ ในตัวเราเอง










Create Date : 21 มีนาคม 2568 |
Last Update : 21 มีนาคม 2568 5:15:19 น. |
|
12 comments
|
Counter : 595 Pageviews. |
|
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณmultiple, คุณtanjira, คุณหอมกร, คุณnonnoiGiwGiw, คุณmcayenne94, คุณปัญญา Dh, คุณThe Kop Civil, คุณSleepless Sea, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณปรศุราม, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณtoor36, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณhaiku, คุณSweet_pills, คุณสองแผ่นดิน, คุณสมาชิกหมายเลข 3902534 |
โดย: tanjira วันที่: 21 มีนาคม 2568 เวลา:5:41:32 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 21 มีนาคม 2568 เวลา:5:48:00 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 21 มีนาคม 2568 เวลา:6:18:16 น. |
|
|
|
โดย: mcayenne94 วันที่: 21 มีนาคม 2568 เวลา:9:34:00 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มีนาคม 2568 เวลา:18:54:45 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 21 มีนาคม 2568 เวลา:22:08:28 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 21 มีนาคม 2568 เวลา:23:32:18 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 21 มีนาคม 2568 เวลา:23:41:39 น. |
|
|
|
| |
ธรรม อยู่ในตัวเรา อยู่ที่ว่าเราจะมองเห็น ธรรม นั้นหรือเปล่า
พี่ว่าทุกวันนี้คนเราหาเรื่องกับทุกเรื่องราวได้ตลอดเวลาล่ะค่ะ
เสียงและความสงบของธรรมชาติ เราเห็นหรือฟังสิ่งนั้นหรือเปล่า
หรือเราเห็นแล้วปล่อยให้แค่ผ่านไป ....
เช้านี้พี่มาก่อนคุณหอมกรนะคะ แต่น่าจะช้ากว่าอาจารย์เต๊ะค่ะ