กรกฏาคม 2567
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
11 กรกฏาคม 2567

: ธรรมTrip 2 รวมมิตรรวมใจ :



: ธรรมTrip 2 รวมมิตรรวมใจ :








1. ผมมีโอกาสได้ไปเดินเทรลกับ ‘ธรรมTrip 2 รวมมิตรรวมใจ’ ครับ


2. ออกเดินทางจากบ้านตี 5 ครึ่ง ไปถึงวัดอุโมงค์ 6 โมงเช้า
เจอทีมงาน 2 คนของสวนโมกข์ฯกรุงเทพกำลังเริ่มบันทึกภาพ


3. ไม่นานทุกคนในทริปก็เดินทางมาครบ นั่งรถสี่ล้อแดงจากวัดฯไปที่ทางเข้าน้ำตกวังบัวบาน
จำนวนผู้ร่วมเดินเทรลทริปนี้เยอะพอสมควร ถ้าผมจำไม่ผิดทั้งหมด 35 คน
มีเด็ก 2 คน พระสงฆ์ 5 รูป อายุของผู้ร่วมเดินเทรลแตกต่างและมีทุกช่วงวัย


4. ระยะทางการเดินเท้าจากวังบัวบานถึงขุนช่างเคี่ยนประมาณ 6 กิโลเมตร
ฟังตัวเลขแล้วนึกใจว่า “น่าจะไหว” เพราะ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาผมซ้อมเดินเกือบทุกวัน
เดินได้ถึงระยะ 4.5 กิโลเมตรตอนซ้อม ที่เหลือใช้ใจเดินต่อในสนามจริงน่าจะได้
--- คำตอบคือ “ไม่ได้และเกือบจะไม่ไหว” 555


5. ระยะทาง 6 กิโลกว่า ๆ เริ่มเดินประมาณ 7 โมงเช้า จบทริปเกือบบ่ายโมง
เดิน ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ และเดิน เดินเยอะที่สุดในชีวิต ยิ่งเดินยิ่งต้องแหงนหน้า
เพราะมันเป็นเส้นทางซึ่งไต่ดอยไปเรื่อย ๆ
ก่อนเริ่มเดินพระอาจารย์มอบคำสอนไว้ว่า


“ค่อย ๆ เดิน ไม่ต้องรีบ ถึงเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น”


6. แต่พอลงสนามจริง มีหลายแวบมากที่ใจคิดว่า
“เมื่อไหร่จะถึงซะทีวะเนี่ย”
ยิ่งเจอเนินชัน ๆ ขาเริ่มสั่น ใจคิดตลอดว่า
“ตะคริวมึงอย่าเพิ่งมานะ” โชคดีที่ตะคริวไม่ใจร้าย
พอเดินไปถึงคนที่หยุดรอ ถามว่าอีกไกลไหมครับกว่าจะถึงขุนช่างเคี่ยน
แต่ละคนก็บอกว่า
“300 เมตรเอง”
“ใกล้แล้ว ๆ อีก 300 เมตร”

พอเดินจริง....ทำไมมันเป็น 300 เมตรที่โคตรไกลที่สุดในโลก
เดินเท่าไหร่ก็ไม่ถึงสักที


7. ในขณะเดินไปถึงกลางทางในสภาพร่อแร่ หายใจหอบแฮ่ก ๆ
มีวัยรุ่นสามสาวหน้าตาน่ารักเดินแซงผ่านไปแบบชิล ๆ
โดยไม่ต้องมีไม้ค้ำ ไม้โพล ทุกคนแข็งแรงราวกับเนินชัน ๆที่ผ่านมาไม่สร้างความบอบช้ำอะไรเลย
แถมไม่นานนักน้อง ๆ กับเพื่อน 6-7 คน ก็ย้อนกลับลงมาด้วยการวิ่งมาอย่างเร็ว
ไปถึงยอดดอยไม่ว่า ขากลับเหมือนวิ่งเย้ยกันให้เห็นจะ ๆ ว่าลุงแก่แล้วจริง ๆ 555


8. ผมเดินไปมองทาง มองวิว ดูต้นไม้ใบหญ้า ฟังเสียงนก
ฟังเสียงหอบของตัวเอง เหงื่อไหลเหมือนเปิดก๊อกน้ำเบอร์แรงสุด
แม้ตลอดเส้นทางจะมีร่มเงาของป่า ไม่มีแดด ไม่มีฝน อากาศเย็นสบาย
แต่ความร้อนเหมือนระอุอยู่ด้านในตลอดเวลา


9. ผมเตรียมน้ำไปสองขวด ก่อนถึงจุดหมายปลายทางประมาณ 500 เมตร
เหลือน้ำอยู่ครึ่งขวด เดินไปเจอนักวิ่งเทรลคนหนึ่งกำลังนั่งพัก
เลยชวนคุย น้องเขาหันมาบอกด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อนว่า
“พี่ครับพอดีน้ำผมหมด ขอแบ่งน้ำของพี่หน่อยได้ไหมครับ”
“ได้เลยครับน้อง” ผมหยิบน้ำออกมาจากเป้สะพาย แต่มันเหลืออยู่ครึ่งขวด
เมื่อน้องเห็น เขาบอกว่า “แบ่งมานิดเดียวก็พอครับพี่”
ผมเทน้ำให้ครึ่งหนึ่ง คิดในใจว่าอีกแค่ 500 เมตรน่าจะพอไหว
ปรากฏว่าผมคิดผิด 500 เมตรแบบขึ้นเนินไม่มีพัก
ทำให้น้ำหมดไปด้วยการกระดกไม่กี่ครั้ง
เมื่อไปถึงร้านอาหารผมดื่มน้ำเยอะมาก ชดเชยเหงื่อที่สูญเสียไปจากการเดิน


10. ตลอดระยะเส้นทางการเดินเทรล ผมคอยมองดูก้อนหินกับกิ่งไม้ที่อยู่บนถนน
หากก้อนไหนดูแล้วเกะกะและอาจทำให้คนที่เดินตามมาสะดุดหรือลื่นล้ม
ผมก็ค่อย ๆ ใช้ไม้เท้าซึ่งทำจากไม้ไผ่เขี่ยหรือหยิบมันเขวี้ยงลงข้างทาง
กิ่งไม้ที่หักร่วงหล่นก็ทำเช่นเดียวกัน
ผมพบว่าการทำแบบนั้นเหมือนเราได้พัก และไม่ต้องคิดถึงความเหนื่อยของตัวเอง
มันช่วยได้เยอะมากจริง ๆ


11. ทั้งหมด 30 กว่าคน แต่เมื่อเริ่มออกเดินจริง ๆ
กลายเป็นแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตามจังหวะความเร็วในการเดิน
ผมเดินเกาะกลุ่มในกลุ่มที่ 2 บางช่วงซึ่งแวะถ่ายภาพหรือเดินช้าลง
ผมพบว่าตัวเองแทบจะเดินอยู่คนเดียวกลางป่าใหญ่


12. ในความรู้สึกของผมไม่มีคำว่า
“ไหวหรือไม่ไหว”
“ถึงหรือไม่ถึง”

ผมคิดว่าคำภาวนาของพระอาจารย์นั้นดีมาก ๆ


“เดินไปเรื่อย ๆ เดินช้า ๆ เดี๋ยวก็ถึงเอง”



13. แล้วในที่สุดผมก็เดินจนจบทริปได้ โดยไม่นั่งหลับกลางดอยไปซะก่อน 555
เป็นการเดินที่ยาวนานและยาวไกลมากที่สุดตั้งแต่ผมเดินมา
ถ้าถามว่า “เหนื่อยมั้ย ?”
บอกเลยว่า “เหนื่อยมาก”
แต่มันเป็น “
ความเหนื่อยที่มีความสุข”
ได้อยู่กับตัวเอง ได้เดินอยู่ในท่ามกลางธรรมชาติ ได้สูดอากาศสดชื่น
ได้ฟังเสียงนกร้อง ได้เพื่อนใหม่จากการเดินคุยกัน
ได้เรียนรู้ธรรมะโดยเรียนรู้จากครูที่ชื่อว่า
“ธรรมชาติ”


14. ขอบคุณพี่แอนมาก ๆ ครับที่ชวนผมมาเดินในทริปนี้
ขอบคุณน้อง ๆ ทีมงานสวนโมกข์ที่ช่วยดูแลทุกคนในทริปอย่างดีเยี่ยม
ขอบคุณพระอาจารย์ ขอบคุณพี่ๆ น้อง ๆ ทุกคนที่เดินด้วยกันในทริปนี้
จนกว่าจะพบกันใหม่ --- ขอบคุณครับ




























































หมายเหตุ

ขอบคุณภาพโปสเตอร์จากทีมงานสวนโมกข์ กรุงเทพฯ
และขอบคุณภาพตัวผมจากเพื่อนร่วมทริปด้วยครับ








 



Create Date : 11 กรกฎาคม 2567
Last Update : 11 กรกฎาคม 2567 5:53:00 น. 18 comments
Counter : 1619 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtanjira, คุณหอมกร, คุณmultiple, คุณkae+aoe, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณmcayenne94, คุณตะลีกีปัส, คุณปัญญา Dh, คุณอุ้มสี, คุณThe Kop Civil, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณปรศุราม, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณ**mp5**, คุณtoor36


 
สวัสดียามเช้าค่ะก๋า

พี่ได้อ่านในเฟซไปรอบนึงแล้วค่ะ
อ่านไปก็เหนื่อยไปด้วยนะคะ
แต่สุดท้ายก็ทำได้ เก่งมากเลยค่ะก๋า

ลากิจ เดินทางปลอดภัยนะคะ

วันนี้พี่มาเช้าเลยค่ะ พี่ตื่นเช้าและมาก่อนคุณหอมกรอีกวันนะคะ


โดย: tanjira วันที่: 11 กรกฎาคม 2567 เวลา:6:02:12 น.  

 
คุณก๋ามีเทคนิคการเล่าเรื่องที่ดีมากเลย
ขนาดตัวเองเหนื่อยยังมีน้ำใจ
ลุงแก่แล้วจริงๆ แต่ทางมันชันไง
ป.ล. มาช้ากว่าคุณธัญอีกวันจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 11 กรกฎาคม 2567 เวลา:7:33:41 น.  

 
สุดยอดมากๆ ค่ะ


โดย: kae+aoe วันที่: 11 กรกฎาคม 2567 เวลา:8:35:21 น.  

 
อุ๊ยๆ อุ๊ย ทำไมคุณก๋าไปคนเดียวละครับ
น่าจะชวน บอดี้การ์ด หมิงหมิงไปเป็นเพื่อน
เผลอพ่อเป็นลมไป หมิงหมิง จะได้เอาเข้าสะเอวแบกไปต่อได้นะครับ อิอิ

คุณก๋า บอก ข้าเอาเอ็งไปด้วยดีกว่า เอ็งตัวใหญ่
ข้าหมดเมื่อไหร่ จะได้ขี่คอเอ็งไปเลย เย้ย 555

นี่ขนาดซ้อมแล้วนะครับ
ถ้าเป็น อาจารย์เต๊ะ เดินขึ้นเขาแบบนี้ น่าจะเป็นลมตั้งแต่โลแรกแล้วละครับ แฮร่ 5555

ดูในบล้อกคุณเศษเสี้ยว อุปกรณ์เดินเทรลนี่
จำเป็นที่สุดก็ต้องรองเท้า กับ เป้น้ำนี่แหละครับ
เอาแบบขวดไป น่าจะไม่พอแน่เลยครับ

แต่บรรยากาศดีมากเลย ภาพสวยด้วย
ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน ก็คุ้มครับ
แถมได้ความภูมิใจ และสุขภาพดีอีกต่างหาก
ไปบ่อยๆนี่ อีกหน่อย ลงรายการเทรลระยะสั้นๆ สบายๆเลยนะครับ

ไปเที่ยวบ้านมาดามที่เชียงราย ขอให้สนุกนะครับ
เดินทางปลอดภัยครับ





โดย: multiple วันที่: 11 กรกฎาคม 2567 เวลา:8:45:04 น.  

 
เป็นทริปวัดใจเลยค่ะ ผ่านมาได้อย่างราบรื่น
พอสูงวัยขึ้นมาดู ระบบ ช่วยกู้ชีพ การส่งตัวไม่พร้อม
ไม่ค่อยกล้าจะไปไหนค่ะ ถ้าปลอดภัยก็ โอเค
ถ้าฉุกเฉินเสี่ยงสูง นอกจากยอมสละตายได้แล้วก็ไปค่ะ
ทางยากๆแบบนี้ เย็นนึกถึง ทริปไปภูฏาณ ขึ้นเขาตั๊กซัง
ได้ภาวนาตลอดทาง ต้องทำสมาธิอยู่กับลมหายใจเข้าออก
เพราะถ้าจิตเคลื่อนไปจากความสงบแม้แต่นิดเดียว ทุกข์สาหัส
มันไกล มันสูง แต่ผ่านมาแล้วรู้สึกดี เป็นความสงบเงียบในใจ
ได้เห็นจิตใจ เห็นกิเลส ความอยากที่เริ่มก่อตัว แม้เป็นความอยากที่ไม่ผิด
แค่อยากไปถึงจุดหมาย อยากเดินให้เร็วขึ้น ความทุกข์ความร้อนก็มาในใจ
สาธุ ด้วยค่ะ Holy Path


โดย: mcayenne94 วันที่: 11 กรกฎาคม 2567 เวลา:12:24:10 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

"ธรรมTrip 2 รวมมิตรรวมใจ" อ่านแล้วรู้สึก งานเขียนชิ้นนี
ทำให้ครูอมยิ้มเลย เธอเล่าเรื่องได้ตามขั้นตอนตั้งแต่แรก ดำเนิน
เรื่องไปตามลำดับขั้น ชวนติดตามไป มีคำบอกความรู้สึกในใจด้วย
อ่านแล้วก็อมยิ้ม บางช่วงก็หัวเราะ เช่น ตอน หอบและถามในใจว่า
"เมื่อไรจะถึงนะ" ห้าห้าห้า คิดถึง สมัยที่ครูไปเดินที่เขาหวงซาน ออกตั้งแต่ ตี 4 เดินไปข้ามเขาไปกี่ลูกต่อกี่ลูกไม่รู้ แล้วก็คิดในใจเหมือนก๋าเลย ตอนนั้น ครูเกษียณหลายปีแล้วนะ จะถอยหลังกลับก็ไม่ได้เพราะเขานัดจุดนัดพบที่อีกทางหนึ่ง พูดง่าย ๆ ไม่เดินกลับที่เดิม นั่นเอง กลับมาขาบวมเลย ห้าห้า
ของก๋า มีกำลังใจจากคำพูดของพระอาจารย์ว่า "“ค่อย ๆ เดิน ไม่ต้องรีบ ถึงเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น” เป็นคาถาให้กำลังใจได้ดี
จริง ๆ จ้ะ อายุเธอคิดว่า คงประมาณ ไม่เกิน 50 ปี ยังมีโอกาส
ได้เดินเช่นนี้อีกหลายปี เดินแบบชมธรรมชาติ และศึกษาธรรม จาก
ธรรชาติได้อีกนานละ ขึ้นเลขเจ็ดแล้ว โอกาสที่จะเดินป่าเช่นนี้ แทบ
หมดสิทธิ์เลย นี่ครูประสบกับตัวเอง รู้เลยว่า สังขารมันไม่ให้จริง ๆ
ครูจัดว่าชอบเที่ยว ชอบเดินป่า เดินเที่ยว บ่อย ๆ นะ อิอิ
โหวดหมวด งานเขียนฯ

กิจธุระ 4 วัน เยี่ยม พ่อแม่ของมาดาม ดีแล้วจะ มีโอกาส
หมั่นไปเยี่ยมผู้สูงอายุ พวกเขารอคอยลูกหลาน แน่นอน แล้วก็
จะดีใจมาก ๆ อย่างครู มีลูกศิษย์มาเยี่ยมมาหา เรายังดีใจเลย จ้ะ
เดินทางปลอดภัยทั้งไปและกลับจ้ะ



โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 11 กรกฎาคม 2567 เวลา:12:38:15 น.  

 
สวัสดีมีสุขค่ะ

เหนื่อย แต่ได้เพลิดเพลินเดินไปเรื่อยๆกับธรรมชาติแบบนี้
มีความสุขนะคะ ได้เพื่อนใหม่อีก
ดีเลยค่ะ


โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 11 กรกฎาคม 2567 เวลา:13:37:13 น.  

 
สวัสดีครับ


โดย: ปัญญา Dh วันที่: 11 กรกฎาคม 2567 เวลา:14:34:39 น.  

 
สุดยอดเลยน้องก๋า
ฟิลแบบนี้
พี่อุ้มนึกถึงเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว
ที่พี่ไปขึ้นเขาวงพระจันทร์ ลพบุรี
รอบสอง
คราวนั้นคิดว่าไม่ไหว
เดินขึ้นไหว้พระใหญ่ 500 ขั้น
นึกว่าสามารถเดินต่อ
ขึ้นเขาวงพระจันทร์ได้
ที่ไหนได้ต้องเดินกลับลงมา
สรูปเป็น 500x2 เป็น 1000
แล้วเดินขึ้นเขาวงพระจันทร์
3790x2 เหนื่อยมาก
แต่สิ่งที่ได้
ไม่รีบจ้ำเดินเหมือนคราวที่ 1
ใจไหวแต่ร่างก็ไหวอยู่
หมดกินน้ำระหว่างทางเยอะมาก


โดย: อุ้มสี วันที่: 11 กรกฎาคม 2567 เวลา:15:31:33 น.  

 
ผมว่าเหนื่อยแต่ก็สุขใจนะครับ ยิ่งวิ่งเทรล เดินเทรล พอเห็นวิวแล้วหายเหนื่อยเลยครับ
อังกฤษทำไปทำมาเข้าชิงเฉยเลยครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 11 กรกฎาคม 2567 เวลา:15:37:47 น.  

 
ระยะทางไกล ชัน ดิ่งน่าดูครับ

...
เหมือนที่ผมเดินธุดงค์ดอยอินทนนท์ก่อนเรียนสมาธิจบ... เราจะ
เดินเป็นแถว พักเมื่อใดจะสวดอิติปิโส หรืออะไรก็แล้วแต่ ตุ๊เจ้า
จะนำสวดเพื่อคงจะขยายปอด หายเหนื่อยได้เร็ว

เราไปค้างคืนในเต็นท์บุคคคลครับ จะแอบถ่ายภาพไม่ได้ พี่เลี้ยง
เดินประกบ ใครฝ่าฝืนส่งกลับครับ 555


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 11 กรกฎาคม 2567 เวลา:16:43:36 น.  

 
เทรลเดินน่าจะเหนื่อยน้อยกว่าเทรลวิ่ง อยากไปเดินบ้างครับ ท่ามกลางธรรมชาติสดชื่น
รายการวิ่งเทรลที่ผมสมัครไว้ เป้น้ำต้อง 1 ลิตร แต่เป้ที่ผมซื้อมา แค่ 600 มล.คงต้องบวกน้ำขนาด 350 มล.อีกขวด
แถวบ้านไม่มีภูเขา/ทางชัน ซ้อมวิ่งเทรล ได้แต่ซ้อมทางเรียบ หัดดื่มน้ำที่ระยะ 5 กิโลครับ ขึ้นเขาต้องเหนื่อยกว่าทางเรียบแน่ ต้องระวังเรื่องการลื่นล้มด้วย

เดินทางไปกลับปลอดภัยครับ





โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 11 กรกฎาคม 2567 เวลา:22:25:51 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะก๋า



โดย: tanjira วันที่: 12 กรกฎาคม 2567 เวลา:6:02:24 น.  

 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 13 กรกฎาคม 2567 เวลา:7:30:37 น.  

 
ระยะทางไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่การเดินขึ้นเขา กิโลเขา กับพื้นราบต่างกัน รวมไปถึงความสูงจากระดับน้ำทะเล พวกนี้มีผลกับร่างกายเราหมด

ปกติแล้วพื้นราบเดินแบบช้าๆ เลย 15 นาที 1 กิโลเมตร เดินสบายๆ ครับไม่เหนื่อยเลย แต่ถ้าเดินแบบสับๆ ขาเดิน 10 นาทีนิดๆ ก็เดินได้ครับ แต่บนเขามันต่างกันจริงๆ น่ะแหละ จริงๆ คำว่า "300 เมตร" อาจเป็นการมให้กำลังใจก็ได้ว่าไม่ไกล ทั้งที่จริงๆ แล้วมันมากกว่านั้น แต่ถ้าใจเราคิดว่ามันใกล้แล้ว มันจะฮึดขึ้นมาได้ น่าจะเป็นจิตวิทยาอย่างหนึ่ง

ถ้าผมไปเดินแบบนี้ น่าจะต้องพกน้ำเยอะหน่อย เพราะโดยส่วนตัวดื่มน้ำมาก

ช้าๆ เดี๋ยวก็ถึง น่าจะเหมือนกับภารกิจ หรือหน้าที่ หรือสิ่งที่เราต้องทำในแต่ละวัน ถ้าเราลิสต์มันออกมามันจะเยอะมาก ทำไม่ไหวหรอก แต่ค่อยๆ ทำ ทำไปเรื่อยๆ ไม่ต้องคิดว่ามันจะทำเสร็จทั้งหมด จะทำได้กี่มากน้อยก็ไม่เป็นไร ค่อยๆ ทำไปเดี๋ยวมันจะเห็นผลลัพท์เอง


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 13 กรกฎาคม 2567 เวลา:19:20:26 น.  

 
เป็นการปฏิบัติธรรมจริงๆ เราต้องสู้กับความต้องการที่จะล้มเลิกในจิตใจเราด้วย น้ำเป็นสิ่งสำคัญจริงๆ ไม่ว่าสถานการณ์ไหน ครั้งหน้าคุณกะว่าก๋า คงไม่พลาดเรื่องน้ำแล้วล่ะ ถือว่าครั้งนี้ได้เรียนรู้เรื่องสำคัญไปอีกเรื่องหนึ่ง


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 13 กรกฎาคม 2567 เวลา:21:18:37 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะก๋า



โดย: tanjira วันที่: 14 กรกฎาคม 2567 เวลา:6:41:44 น.  

 
ช่วงนี้ ฝึกวิ่งเทรลทางเรียบ+น้ำ 1 ลิตร อยู่ครับ 555
เตรียมขนมวิ่งไว้หลายอย่างครับ



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 14 กรกฎาคม 2567 เวลา:23:09:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 395 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]