: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - แนะนำให้รู้จักพุทธศาสนาอย่างเซ็น โดยวิธีเล่านิทาน :
: แนะนำให้รู้จักพุทธศาสนาอย่างเซ็น โดยวิธีเล่านิทาน :จัดทำโดย : กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชาวพุทธ เชียงใหม่
หนังสือเล่มนี้ราคา 10 บาท กระดาษกลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม เนื้อกระดาษเริ่มกรอบเกรียม ตัวอักษรเริ่มจางเลือนไปตามกาลเวลา (ขณะอ่านผมก็ใช้ดินสอแก้ไขคำผิดไปด้วย) ในเล่มมิได้บอกว่าใครเป็นผู้เขียนหรือแปลเนื้อหา แต่อ่านแล้วผมนึกถึงรสถ้อยร้อยคำการเขียนของท่านพุทธทาสขึ้นมาในใจ ในส่วนคำนำเพียงบอกว่า เนื้อหานิทานเซ็นภายในหนังสือเล่มนี้ เคยตีพิมพ์เผยแพร่ใน ‘หนังสือพิมพ์ชาวพุทธ’ ของพุทธนิคม เชียงใหม่ ในราวปี พ.ศ. 2506-2508 ลงเป็นตอน ๆ ไว้ตามวาระเหตุการณ์บ้านเมืองในสมัยนั้น ก่อนรวมเล่มเป็นหนังสือชื่อ “แนะนำให้รู้จักพุทธศาสนาอย่างเซ็น โดยวิธีเล่านิทาน” 15 เรื่องเล่าซึ่งทำหน้าที่มากกว่าเป็นนิทานอ่านสนุก 15 เรื่องเล่าที่บอกเล่าความเป็น ‘เซ็น’ ได้อย่างลึกซึ้งถึงใจ
เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จนจบ ผมนึกถึงข่าวสารบ้านเมืองซึ่งปรากฏขึ้นในการรับรู้ของตนเองในช่วงนี้ เมืองไทยมีแต่ร่างทรงองค์เทพ มีแต่วิธีการรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยพลังประหลาด มีการเชื่อมจิต เชื่อมวิญญาณ มีการตั้งตนเป็นครูบาอาจารย์ทางธรรมมากมายหลากหลายรูปแบบ ดูเหมือนยิ่งมนุษย์ ยิ่งยากจนข้นแค้น ยิ่งลำบากขัดสน ยิ่งอยู่ยากขึ้นมากเท่าไหร่ อาจารย์ และองค์เทพต่าง ๆ เหล่านี้ ก็ยิ่งผุดขึ้นมามากขึ้นเท่านั้น ราวกับอุปสงค์ อุปทาน เพื่อรองรับความกลัวในใจผู้คนซึ่งมากมายหลากหลายเรื่องราว
ยิ่งโลกโซเชียลเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้เร็วเท่าไหร่ ดูเหมือนคลิปของพระสงฆ์องค์เจ้าที่มีพฤติกรรมผิดแผกแปลกประหลาด นับวันยิ่งทวีคูณความเสื่อม ทวีความสงสัย ให้เห็นมากมายขึ้นเท่านั้น
“การศึกษาธรรม” จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ว่าเราต้อง “คัดกรอง” และ “มองให้เห็นอย่างแจ้งชัด” ว่าคนที่เรียกขานตนว่าเป็นครูบาอาจารย์ เป็นเทพ เป็นเจ้า เป็นผู้วิเศษ เป็นพระอรหันต์ เหล่านั้น ได้ขายความคิด ความเชื่อ ที่ถูกต้องดีงามแล้วหรือ ? เราแยกออกมองออกหรือไม่ว่านั่นคือ ‘การหลอกลวง’ นั่นคือความบิดเพี้ยนทางจิตของผู้สอน นั่นคือความหลงตนแบบกู่ไม่กลับ แล้วเรายังจะไปรับความเชื่อแบบนั้นมาชื่นชมเชื่อถือทำไม ?
เพราะ “ธรรมะที่แท้จริง” มิใช่เพียงธรรมะที่เอาไว้ท่อง เอาไว้เป็นชื่อเรียกขาน เอามาเป็นชื่อจำ นำมาอวด นำมาเอ่ย นำมาอ้าง
“ธรรมะ” มีแต่ต้องนำไปปฏิบัติให้อยู่ในเนื้อในตัวตลอดเวลา “ธรรมะที่แท้จริง” จึงไม่จำเป็นต้องปิดฉลากว่าเป็นอะไร ยังไง เพราะ “เนื้อแท้แห่งธรรม” นั้น หากเป็นธรรมะที่ถูกต้อง ย่อมมุ่งขจัด “ความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน” มุ่งขจัด “ความยึดมั่นถือมั่นในอุปทาน” ทั้งสิ้น
แล้วคนที่จะขจัดทุกข์ทั้งปวงเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นทุกข์ทางกาย หรือทุกข์ทางใจ ย่อมเป็น “ตัวเรา” ซึ่งต้องลงมือปฏิบัติขจัดทุกข์เหล่านั้นด้วยตัวเราเอง เพราะ “ธรรมะที่แท้จริง” ใครก็เสกสร้างหรือมอบให้กับเราไม่ได้ มีแต่เราต้องลงมือทำ ลงมือรู้ด้วยตนเอง พาตนพ้นทุกข์ด้วย ‘ปัญญา’ ของตนเอง
ไม่มีความจำเป็นใด ๆ เลยที่เราจะต้องเดินไปให้เขาหลอก เดินไปยึดถือความเชื่อที่ผิดเพี้ยน ไม่มีความจำเป็นใด ๆ เลยที่ต้องไปเสียเวลา เสียทรัพย์ นับญาติกับคนลวงโลกเหล่านั้นพ้นทุกข์ --- พ้นได้ด้วยตัวเอง เพราะ “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” “ธรรม” เป็นที่พึ่งแห่งใจ “ธรรมที่แท้” อยู่ในใจ อยู่ในจิตจิตของตน !!!
Create Date : 10 พฤศจิกายน 2567 |
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2567 5:26:09 น. |
|
12 comments
|
Counter : 474 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณnewyorknurse, คุณmultiple, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเนินน้ำ, คุณปัญญา Dh, คุณกะริโตะคุง, คุณปรศุราม, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณชีริว, คุณสองแผ่นดิน, คุณอุ้มสี, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณSweet_pills |
โดย: multiple วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:5:38:22 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:6:10:01 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:8:37:58 น. |
|
|
|
โดย: ปัญญา Dh วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:12:25:53 น. |
|
|
|
โดย: กะริโตะคุง วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:18:20:54 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:21:50:16 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:23:01:30 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:23:31:35 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 11 พฤศจิกายน 2567 เวลา:0:39:13 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 พฤศจิกายน 2567 เวลา:22:16:43 น. |
|
|
|
| |
น่าจะได้ แนวคิดและคติสอนใจอย่างดีเลยนะครับ
การหากินกับความเชื่อ ความกลัวนี่หากินได้ทุกยุคทุกสมัย
หลอกลวงชาวบ้าน ร่ำรวยไปตามๆกันเลยนะครับ
เรื่องทำสวนนี่ เอาแรงอย่างเดียวไม่ไหว ต้องใช้เครื่องทุ่นแรงช่วยด้วยครับ
ไม่งั้นโดน ค่าทำกายภาพ อานแน่นอนครับ 555