พฤศจิกายน 2567
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
10 พฤศจิกายน 2567

: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - แนะนำให้รู้จักพุทธศาสนาอย่างเซ็น โดยวิธีเล่านิทาน :


: แนะนำให้รู้จักพุทธศาสนาอย่างเซ็น โดยวิธีเล่านิทาน :
จัดทำโดย : กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชาวพุทธ เชียงใหม่







หนังสือเล่มนี้ราคา 10 บาท กระดาษกลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม เนื้อกระดาษเริ่มกรอบเกรียม
ตัวอักษรเริ่มจางเลือนไปตามกาลเวลา (ขณะอ่านผมก็ใช้ดินสอแก้ไขคำผิดไปด้วย)
ในเล่มมิได้บอกว่าใครเป็นผู้เขียนหรือแปลเนื้อหา
แต่อ่านแล้วผมนึกถึงรสถ้อยร้อยคำการเขียนของท่านพุทธทาสขึ้นมาในใจ
ในส่วนคำนำเพียงบอกว่า เนื้อหานิทานเซ็นภายในหนังสือเล่มนี้
เคยตีพิมพ์เผยแพร่ใน ‘หนังสือพิมพ์ชาวพุทธ’ ของพุทธนิคม เชียงใหม่
ในราวปี พ.ศ. 2506-2508 ลงเป็นตอน ๆ ไว้ตามวาระเหตุการณ์บ้านเมืองในสมัยนั้น
ก่อนรวมเล่มเป็นหนังสือชื่อ “แนะนำให้รู้จักพุทธศาสนาอย่างเซ็น โดยวิธีเล่านิทาน”
15 เรื่องเล่าซึ่งทำหน้าที่มากกว่าเป็นนิทานอ่านสนุก
15 เรื่องเล่าที่บอกเล่าความเป็น ‘เซ็น’ ได้อย่างลึกซึ้งถึงใจ


เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จนจบ ผมนึกถึงข่าวสารบ้านเมืองซึ่งปรากฏขึ้นในการรับรู้ของตนเองในช่วงนี้
เมืองไทยมีแต่ร่างทรงองค์เทพ มีแต่วิธีการรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยพลังประหลาด
มีการเชื่อมจิต เชื่อมวิญญาณ มีการตั้งตนเป็นครูบาอาจารย์ทางธรรมมากมายหลากหลายรูปแบบ
ดูเหมือนยิ่งมนุษย์ ยิ่งยากจนข้นแค้น ยิ่งลำบากขัดสน ยิ่งอยู่ยากขึ้นมากเท่าไหร่
อาจารย์ และองค์เทพต่าง ๆ เหล่านี้ ก็ยิ่งผุดขึ้นมามากขึ้นเท่านั้น
ราวกับอุปสงค์ อุปทาน เพื่อรองรับความกลัวในใจผู้คนซึ่งมากมายหลากหลายเรื่องราว

ยิ่งโลกโซเชียลเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้เร็วเท่าไหร่
ดูเหมือนคลิปของพระสงฆ์องค์เจ้าที่มีพฤติกรรมผิดแผกแปลกประหลาด
นับวันยิ่งทวีคูณความเสื่อม ทวีความสงสัย ให้เห็นมากมายขึ้นเท่านั้น

“การศึกษาธรรม” จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ว่าเราต้อง “คัดกรอง” และ “มองให้เห็นอย่างแจ้งชัด”
ว่าคนที่เรียกขานตนว่าเป็นครูบาอาจารย์ เป็นเทพ เป็นเจ้า เป็นผู้วิเศษ เป็นพระอรหันต์ เหล่านั้น
ได้ขายความคิด ความเชื่อ ที่ถูกต้องดีงามแล้วหรือ ?
เราแยกออกมองออกหรือไม่ว่านั่นคือ ‘การหลอกลวง’ นั่นคือความบิดเพี้ยนทางจิตของผู้สอน
นั่นคือความหลงตนแบบกู่ไม่กลับ แล้วเรายังจะไปรับความเชื่อแบบนั้นมาชื่นชมเชื่อถือทำไม ?

เพราะ “ธรรมะที่แท้จริง” มิใช่เพียงธรรมะที่เอาไว้ท่อง
เอาไว้เป็นชื่อเรียกขาน เอามาเป็นชื่อจำ นำมาอวด นำมาเอ่ย นำมาอ้าง

“ธรรมะ” มีแต่ต้องนำไปปฏิบัติให้อยู่ในเนื้อในตัวตลอดเวลา
“ธรรมะที่แท้จริง” จึงไม่จำเป็นต้องปิดฉลากว่าเป็นอะไร ยังไง
เพราะ “เนื้อแท้แห่งธรรม” นั้น หากเป็นธรรมะที่ถูกต้อง
ย่อมมุ่งขจัด “ความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน”
มุ่งขจัด “ความยึดมั่นถือมั่นในอุปทาน” ทั้งสิ้น

แล้วคนที่จะขจัดทุกข์ทั้งปวงเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นทุกข์ทางกาย หรือทุกข์ทางใจ
ย่อมเป็น “ตัวเรา” ซึ่งต้องลงมือปฏิบัติขจัดทุกข์เหล่านั้นด้วยตัวเราเอง
เพราะ “ธรรมะที่แท้จริง” ใครก็เสกสร้างหรือมอบให้กับเราไม่ได้
มีแต่เราต้องลงมือทำ ลงมือรู้ด้วยตนเอง พาตนพ้นทุกข์ด้วย ‘ปัญญา’ ของตนเอง


ไม่มีความจำเป็นใด ๆ เลยที่เราจะต้องเดินไปให้เขาหลอก เดินไปยึดถือความเชื่อที่ผิดเพี้ยน
ไม่มีความจำเป็นใด ๆ เลยที่ต้องไปเสียเวลา เสียทรัพย์ นับญาติกับคนลวงโลกเหล่านั้น



พ้นทุกข์ --- พ้นได้ด้วยตัวเอง
เพราะ “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน”
“ธรรม” เป็นที่พึ่งแห่งใจ
“ธรรมที่แท้” อยู่ในใจ อยู่ในจิต

จิตของตน !!!



Create Date : 10 พฤศจิกายน 2567
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2567 5:26:09 น. 12 comments
Counter : 474 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnewyorknurse, คุณmultiple, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเนินน้ำ, คุณปัญญา Dh, คุณกะริโตะคุง, คุณปรศุราม, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณชีริว, คุณสองแผ่นดิน, คุณอุ้มสี, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณSweet_pills


 
อาจารย์เต๊ะ ชอบอ่านนิทานมาก การสอนโดยเล่านิทานแบบเซน นี่
น่าจะได้ แนวคิดและคติสอนใจอย่างดีเลยนะครับ

การหากินกับความเชื่อ ความกลัวนี่หากินได้ทุกยุคทุกสมัย
หลอกลวงชาวบ้าน ร่ำรวยไปตามๆกันเลยนะครับ

เรื่องทำสวนนี่ เอาแรงอย่างเดียวไม่ไหว ต้องใช้เครื่องทุ่นแรงช่วยด้วยครับ
ไม่งั้นโดน ค่าทำกายภาพ อานแน่นอนครับ 555



โดย: multiple วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:5:38:22 น.  

 
พ้นทุกข์ได้ด้วยตนเองเพราะ
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนอันนี้จริงคุณก๋า



โดย: หอมกร วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:6:10:01 น.  

 
การสอนแบบเล่านิทาน ทำให้น่าสนใจไม่น่าเบื่อและง่ายต่อการจดจำด้วยนะคะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:8:37:58 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า

ผมไม่ค่อยจะได้อ่านนิทานเซ็นเลยครับ


โดย: ปัญญา Dh วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:12:25:53 น.  

 
สวัสดีครับ
ในความคิดผม "หลักธรรม" มันก็แสดงจุดประสงค์ในตัวของมันเองชัดเจนครับ (ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเข้าใจถูกหรือเปล่า)

ใครที่บิดเบือนแบบตอกไข่ใส่ มีทรงเจ้าหรือทำตัวผิดวินัย ผมก็ไม่ขอรับไว้ครับ


โดย: กะริโตะคุง วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:18:20:54 น.  

 
เห็นเอาเซนมาเชื่อมโยงกับพุทธศาสนาแล้วน่าสนใจ ตอนนี้พุทธศาสนาเรามีแต่ความเสื่อม พระซดเหล้างี้ พระโอนเงินเป็นล้านให้สีกา ที่ตลกสุดพระปีนเสา เห็นแล้วตลกจริงๆ ประเทศนี้


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:20:18:39 น.  

 
เก่ามากเลยครับ 10 บาท หนังสือสมัยนั้นถูกจริงๆ หลายเล่มผมซื้อตอนมาขายที่โรงเรียน แล้วพวกนี้ส่วนใหญ่อ่านหลายรอบด้วยนะ คุ้มค่ามากๆ
เดี๋ยวนี้หนังสือเล่มหลายร้อย ซื้อมากองไว้ในตู้
ปี 2506-2508 ตอนนั้นสงครามคอมมิวนิสต์น่าจะเข้มข้นนะครับ
ปีนี้ร่างทรงประหลาดๆ ที่มีเยอะอยู่แล้วยิ่งเยอะขึ้นไปอีก
อันที่ดูแล้วไม่แน่ใจว่าเอาจริงหรือเอาปั่นอย่างครูบาหมูเด้งนี่ก็อย่างฮาเลยครับ


โดย: ชีริว วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:21:50:16 น.  

 
สวัสดี ยามดึก จ้ะ น้องก๋า

วันนี้ไปประชุมสมาคมนักเรียนเก่าฯ ต่อด้วยกฐินพระราชทาน
ที่วัดธาตุทอง หมดไป 1 วัน จ้ะ อิอิ

"แนะนำให้รู้จักพุทธศาสนาอย่างเซ็น โดยวิธีเล่านิทาน"โห!ชื่อเรื่องยาวแต่ก็ทำให้ทราบเนื้อหาหลักของหนังสือแสนถูกเล่มนี้ 10 บาทเท่านั้น เธอต้องลำบากในการอ่านเนาะ มีความพยายามมากเลย
การสอนโดยการใช้นิทาน เป็นการสอนที่จะทำให้เข้าใจได้
ง่ายขึ้น เป็นวิธีการสอนที่ดี วิธีหนึ่งในการสอนเรื่องราวต่าง ๆ รวม
ทั้งการสอนธรรมะ ซึ่งเป็นเรื่องยาก
ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาที่เป็นหลักแห่งวิทยาศาสตร์ สามารถ
พิสูจน์ได้ สอนด้วยเหตุด้วยผล คนที่จะเข้าใจหลักธรรมของพุทธ
ศาสนาอย่างแท้จริง คือ คนที่มี "ปัญญา" เท่านั้น แต่ปัจจุบัน
ศาสนาพุทธ ถูกบิดเบือน กลายเป็นสายมูเข้าไปทุกวัน อย่างที่เธอ
ยกตัวอย่างมานั่นแหละ อิอิ คงใกล้ถึงกลียุคเข้าไปทุกทีตามที่เรา
อ่านจากในไตรภูมิพระร่วง นั่นแหละ จ้ะ เฮ้อ !
โหวดหมวด แนะนำหนังสือ



โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:22:13:47 น.  

 
ยุคนี้ กลายเป็นยุคหลงตัวตนอาจารย์ เจออาจารย์ดีก็ดีไป เจออาจารย์ไม่ดีหมดเนื้อหมดตัวแถมเสียตัว
หนังสือ เซนว่าอย่างนี้ เข้าไปดูหลายที่ ขึ้น สินค้าหมด

อากาศยังไม่เย็นเท่าไรครับ แต่มืดเร็ว



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:23:01:30 น.  

 
อยากให้พระปีนเสา
มาอ่านหนังสือเล่มนี้จังเลยจ๊ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา:23:31:35 น.  

 
ขายความคิด ขายความเชื่อและการหลอกลวง
หากใครหลงเข้าไปในวังวนของสิ่งเหล่านี้
อาจนำพาชีวิตให้ดิ่งลงได้นะคะ

คุณก๋าเก็บรักษาหนังสืออย่างดี
คุณค่าของหนังสือเล่มนี้ตีเป็นราคาแทบไม่ได้เลยค่ะ

ขอบคุณคุณก๋าสำหรับกำลังใจนะคะ
ฝันดีคืนนี้ค่ะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 11 พฤศจิกายน 2567 เวลา:0:39:13 น.  

 
ผมสะดุดตรงคำวรรคที่ว่า

"คนที่เรียกขานตนว่าเป็นครูบาอาจารย์ เป็นเทพ เป็นเจ้า เป็นผู้วิเศษ เป็นพระอรหันต์ เหล่านั้น
ได้ขายความคิด ความเชื่อ ที่ถูกต้องดีงามแล้วหรือ ?"

มันทำให้ผมนึกไปถึงเรื่องหมอดูที่โดนจับที่กำลังเป็นข่าวในตอนนี้เลยครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 พฤศจิกายน 2567 เวลา:22:16:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BlogGang Popular Award#20


 
กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 395 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]