ตุลาคม 2567
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
9 ตุลาคม 2567

: แสงลอดเมฆ 28 :


: แสงลอดเมฆ 28 :






85

ความโกรธ
ทำให้การสื่อสารล้มเหลว

ความหงุดหงิด
ทำให้การสื่อสารไม่ราบรื่น

ความโมโห
ทำให้การสื่อสารอึดอัด

ทุกอย่างติดขัด
เพราะเราต่างสื่อสารกันด้วยอารมณ์











86

ไม่ต้องคิดเหมือนฉัน
ไม่ต้องพยายามเป็นเหมือนฉัน

จงเป็นตัวของเธอเอง
จงคิด พูด ทำ
ในแบบของเธอ

ครูหรือต้นแบบ
มีไว้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ
ให้เธอค้นพบตัวเธอเอง
ไม่ใช่มีไว้เป็นแม่พิมพ์










87

ฉันทิ้งคำสอนไว้มากมาย
หาได้คิดสอนใคร
ฉันสอนใจตนเอง
ฉันเตือนตนเอง
ฉันบอกตัวเอง
ฉันพัฒนาตัวเอง

บางสิ่ง
ฉันไม่อาจสอน
เธอต้องค้นพบเจอมันเอง
ต้องทำเอง รู้เอง
ด้วยตัวเธอเอง













88

จงค้นหาความชอบของตัวเธอเอง
แล้วลงมือทำสิ่งนั้น

จงค้นหาความหลงใหลในสิ่งนั้น
แล้วทุ่มเทให้สุดกำลัง

จงค้นพบความรักในทุกสิ่งที่เธอทำ
แล้วมันจะกลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง
ในชีวิตของเธอ














89

ไม่ต้องเร่งร้อนที่จะเข้าใจชีวิต
แต่ควรพร้อมยอมรับความจริง
ที่จะเกิดขึ้นในชีวิตของเธออยู่เสมอ

ทุกความจริง
จะน้อมนำเธอเข้าสู่
ความเข้าใจที่ลึกซึ้ง
แม้ในขณะนั้น
เธออาจกำลังเจ็บปวดจากความสูญเสีย
ทุกข์อย่างหนักหนาสาหัส

แต่สิ่งนั้นจะทำให้เธอค้นพบ
ความเข้าใจชีวิตที่ถ่องแท้
ในตัวเธอเอง










90

พร่อง
จึงต้องเติม
ให้เต็ม

เต็ม
แล้วยังเติม
จะล้น

ไม่ขาด
ไม่เกิน
จึงพอดี













Create Date : 09 ตุลาคม 2567
Last Update : 9 ตุลาคม 2567 5:42:37 น. 10 comments
Counter : 630 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtanjira, คุณหอมกร, คุณmultiple, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณปัญญา Dh, คุณปรศุราม, คุณThe Kop Civil, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36


 
สวัสดียามเช้าค่ะก๋า

บางสิ่งบางอย่าง สอนกันไม่ได้จริงๆค่ะ
มันต้องมาจากจิตใจ และจิตใต้สำนึกของตัวคนคนนั้นเองนะคะ

โกรธหรือโมโหกันทำไมให้ใจร้อนรุ่มเปล่าๆนะคะ
เมื่อก่อนพี่เป็นแบบนี้เลยค่ะ นิ่งมากกับความโกรธและโมโห
แต่หลังๆมีอารมณ์ร่วมไปด้วยซะงั้น แต่ตอนนี้ก็เริ่มนิ่งๆเหมือนก่อนแล้วค่ะ
ก็ท่องไว้ล่ะค่ะ โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า


ดาริญเป็นเด็กพูดรู้เรื่องค่ะ พูดด้วยเหตุด้วยผลก็จะยอมฟังค่ะ
ตอนดาริญบอกแสบตานี่พี่ขำหนักมากค่ะ ทั้งขำทั้งรู้สึกผิด 5555


เช้านี้พี่มาก่อนคุณหอมกรนะคะ


โดย: tanjira วันที่: 9 ตุลาคม 2567 เวลา:6:40:06 น.  

 
หงุดหงิด มีตอนขับรถนี่แหละคุณก๋า
วันนี้มาหลังคุณธัญไม่ถึงสิบนาทีนะ



โดย: หอมกร วันที่: 9 ตุลาคม 2567 เวลา:6:47:58 น.  

 
ไม่ต้องรีบเข้าใจชีวิต เพราะชีวิตผ่านไปเร็วมากเลยเชียวครับ
แต่กว่าเราจะเข้าใจชีวิตได้ มันก็มาถึงช่วงท้ายของชีวิตแล้วนะครับ 555

เดี๋ยวนี้งานที่ต้องใช้แรงกาย อาจารย์เต๊ะ จ้างเค้าทำหมดเลยครับ
เหลือแต่งานที่ต้องใช้สมองและความเจ้าเล่ห์ เอ๊ย ความคิดวิเคราะห์ถึงจะทำเองคร้าบ 555



โดย: multiple วันที่: 9 ตุลาคม 2567 เวลา:9:11:42 น.  

 
สวัสดีครับ

ไม่ขาด ไม่เกิน จึงพอดี
เห็นด้วยครับ


โดย: ปัญญา Dh วันที่: 9 ตุลาคม 2567 เวลา:10:42:54 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

เรื่องของ ความโกรธ โมโห หงุดหงิด เป็นอารมณ์ที่บั่นทอน
สุขภาพทั้งกายและใจ จ้ะ ถ้าคนที่ฝึกจิตมาดี เมื่อเกิดอาราณ์เหล่านี้
ก็จะขจัดออกไปได้เร็ว จ้ะ
เรื่องของ การเป็นตัวของตัวเอง ก็เป็นเรื่องสำคัญมาก จ้ะ
เพราะการเป็นตัวของตัวเอง ไม่ถูกชักจูงได้ง่าย ตัดสินใจด้วยตัวของ
ตัวเอง เมื่อผิดพลาด เราจะยอมรับได้อย่างหน้าชื่นตาบาน นะ อิอิ
ว่า เราตัดสินใจเอง ไม่มีใครมาบังคับเรา เนาะ
การค้นพบตัวเอง คงต้องถามตัวเองอยู่เสมอ ว่า ชีวิตของเรา
เราต้องการอะไร ต้องการทำอะไรกันแน่ เมื่อรู้ใจตัวเอง ก็ทำในสิ่ง
ที่เราต้องการ แต่ต้องเป็นเรื่องไม่ทำให้ผู้อื่นหรือสังคมเดือดร้อนนะ
โหวดหมวด งานเขียนฯ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 9 ตุลาคม 2567 เวลา:11:19:40 น.  

 
สวัสดีครับพี่ก๋า

ผมเห็นด้วยมากครับที่ควาโมโห ความโกรธ ทำให้การสื่อสารล้มเหลวไปหมด บางทีแค่น้ำเสียง หรือคำสองสามคำ ก็ทำเอาพังได้เลยครับ
อย่างผม ผมไมใช่คนใจเย็น 55555 บางครั้งคุยโทรศัพท์กับแผนกอื่นงี้ แล้วไม่เข้าหูผมคำเดียว บางทีช่วงไม่ฮานี่ผมขึ้นเลยเหมือนกันนะครับ แล้วสวนเลย
แต่ถ้าช่วงจิตว่างๆ ต่อนยอนๆ ก็....ก็ขึ้นครับ 55555555 หงุดหงิดทันที

และผมเห็นด้วยว่าครูคือ guideline ให้ไม่ต้องสุ่มเดินมั่ว แต่มีแนวทางให้เดิน แต่จะเดินเมื่อไหร่ หยุดเมื่อไหร่ เจออุปสรรคจะข้ามหรือจะชนก็เป็นทางของคนคนนั้นตัดสินใจ
แต่ที่สำคัญ ครูคือคนที่ดึงและส่งเสริมข้อดีในตัวเราออกมา นั้นแหละครับครูที่ยอดเยี่ยม

เรื่องพร่องเรื่องเต็ม เนี้ย แผนกผม แต่ละคน ไม่ขาดก็เกิน ไม่เต็มก็ล้น ทุกคนเลยครับ 5555
หัวหน้าก็เข้าใจหาแต่ละคนมานะครับ 5555

จากบล๊อก
พวกผมก็ work hard, play harder อ่ะครับ 5555
ปกติแต่ละคนก็ไม่ดื่มกันพร่ำเพรื่อ งานใหญ่ทีก็เต็มทีซักครั้งครับ เลยร่วงหลับกันเป็นแถวๆ ผมก็ด้วย 5555

หลานงงมากครับ ทำไมมานอนตรงนี้ ทำไมไม่อาบน้ำ
ผมนี่ตอบไม่ได้เลยครับ เสียลุค!!!!

คนส่วนใหญ่ก็ยอมเลิกเพราะลูกกันนี่แหละครับ
คุณพ่อผมก็เลิกบุหรี่ตั้งแต่คุณแม่ท้องพี่สาวเหมือนกันครับ แล้วเลิกถาวรเลย
แต่ดื่มอยู่ตามงานตามโอกาส พอเกษียรมาก็ รีเจนซี่วันละแก้วบำรุงสมองครับ 55555


ผมก็อยากเสพความสุขง่ายๆ ในชีวิตบ้างครับ สงสัยต้อง mature มากกว่านี้หน้อยครับ
อยากเห็นพี่ก๋าในมุมการเป็นอาจารย์ธรรมะเหมือนกันครับ
แน่นอนว่าไม่เหมือนจารย์เบียร์คนตื่นธรรม แน่นอน 55555


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 9 ตุลาคม 2567 เวลา:11:50:25 น.  

 
ไม่ลงมือทำจริง ไม่ปฏิบัติจริง ไม่เจอกับตัวนี่ไม่รุ้จริง ๆ นะครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 9 ตุลาคม 2567 เวลา:16:09:18 น.  

 
จากบล๊อก
พี่ก๋าสมัยนั้นผมว่าพี่ก๋าสุดจัดมาก่อน เห็น รู้ รู้สึกมาทุกอย่าง ครบแล้ว
คุณพ่อก็คงคิดแบบนั้นนะครับ 555555
ถ้าพูดในตอนนี้ พี่ก๋าคงบอกว่า ก่อนจะหยุด พี่ก็สุดมากก่อน 5555

ผมก็เห็นมาเยอะมากครับ คนที่ดื่มจัดๆ แล้วตอนนี้พังไปแล้ว
ดีที่ผมไม่ใช่คนดื่มพร่ำเพรื่อ นั่งๆ ก็ตั้งวงแบบนั้น 55555
ผมดื่มเป็นอีเว้นท์ครับ 555 พูดเหมือนดีเลย เลยยังไม่พังไปกับพวก


จารย์เบียร์ผมดูแล้วปวดหัวครับ 55555 ผมชอบแบบซอฟๆ ครับพี่ ฮาร์ดคอร์มากก็ฟังไม่รู้เรื่อง


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 9 ตุลาคม 2567 เวลา:17:16:09 น.  

 
ไม่ว่าจะทำอะไรไม่ใช้อารมณ์จะดีที่สุดครับ แต่บางครั้งผมก็ชอบนะ บวกไปตรงๆ เลย

ประเทศไทยไม่เป็นแบบนั้นสิครับ ไม่เชื่อครูโดนไล่สิครับ เราไม่ได้โชคดีเหมือนโชเซ่ มูรินโญ่ ที่เจอครูที่เข้าใจในตัวแก ต่อให้เป็นโชเซ่ มูรินโญ่ถ้ามาเจอครูที่ไทยผมว่าแกก็ไปไม่รอดหรอก มาไม่ถึงแบบทุกวันนี้แน่นอน

หลายๆ เรื่องถ้าเราตระหนักได้ด้วยตนเองถือว่าดีครับ

สิ่งที่ชอบมีไว้ดีครับ แต่ถ้าเอามาใช้ประกอบอาชีพ หรือเอามาหาเงิน คงไม่ดีแน่ เราจะพาลทำให้ความชอบลดลงเลย

เอาเข้าจริงเมื่อเราเข้าใจความจริงขิงชีวิต มันเจ็บปวดมากทีเดียว

ความพอดีมันดีจริงๆ ครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 9 ตุลาคม 2567 เวลา:22:59:11 น.  

 
โกรธคือโง โมโหคือบ้า วันไหนเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อารมณ์ไม่ดีทั่งวัน
ต้องเรียก สติกลับมา บางคนถ้ามีโรคประจำตัวอยู่ เส้นเลือดในสมองแตกได้

ไม่มีฝนแล้วครับ ร้อนทั้งวัน วันนี้วิ่งไม่ถึง 4 โล ก็ต้องพาสว.ไปรพ.กลับมาเกือบสามทุ่ม



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 9 ตุลาคม 2567 เวลา:23:06:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 395 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]