Group Blog
All Blog
### ยิ่งรีบยิ่งไม่ว่าง โดยพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ###












ยิ่งรีบ..ยิ่งไม่ว่าง
“คนสมัยนี้มีเครื่องทุ่นแรงทุ่นเวลามากมาย
เพื่อทำอะไรให้เร็วๆ ให้เสร็จเร็วๆ 
แต่สุดท้ายก็ไม่มีเวลาว่างเลย
ไม่มีเวลาแม้แต่จะพักผ่อน
หรือมีเวลาให้แก่พ่อแม่ลูกหลาน
ตรงกันข้ามกับชาวบ้าน
ชาวบ้านไม่ค่อยมีเครื่องทุ่นแรง
ทุ่นเวลา จะทำอะไรแต่ละอย่าง
ใช้เวลามาก ไม่ว่า การเดินทาง
การหุงหาอาหาร การตักน้ำ
แต่ทำไมเขามีเวลาว่างเยอะ
ลองสังเกตก็จะเห็นว่า เขามีเวลา
นอนเล่น กลับถึงบ้าน เขามีเวลา
อยู่กับลูกกับหลาน ส่วนคนเมือง
กลับไม่มีเวลาว่างทั้งๆ ที่รีบทุกอย่าง
แปลกไหม ยิ่งรีบ กลับไม่มีเวลาว่าง
ส่วนคนไม่รีบ กลับมีเวลาว่าง”


พระไพศาล วิสาโล



ขอบคุณที่มา fb. พระสุรินทร์ ก่อนการคิด วัดป่าสุคะโต




Create Date : 21 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2557 13:22:57 น.
Counter : 1599 Pageviews.

0 comment
### ความทุกข์ก็มีจุดอ่อน โดย พระไพศาล วิสาโล ###












ความทุกข์ก็มีจุดอ่อน

“คนเราจะพ้นทุกข์ได้ก็ต้องรู้จักทุกข์

ถ้าเรารู้จักทุกข์แล้วจะพ้นทุกข์ได้

แต่ถ้าเราไม่รู้จักทุกข์ก็ไม่มีทาง

ที่จะเกิดปัญญาพาใจให้พ้นทุกข์ได้เลย

แล้วเราจะรู้จักทุกข์ได้อย่างไร ก็ต้องเจอทุกข์บ่อยๆ

 เหมือนเราเล่นฟุตบอล เราเจอคู่ต่อสู้ที่เก่งและแกร่งมาก

วิธีที่เราจะเอาชนะทีมนี้ได้คือต้องเล่นกับเขาบ่อยๆ

 เล่นบ่อยๆ จนรู้ทางและรู้จุดอ่อนของเขา

ความทุกข์ไม่ว่าจะมีจุดแข็งแค่ไหนก็ต้องมีจุดอ่อน

ที่เราสามารถจะรู้ได้ หรือสามารถจะรู้ทางกันได้

เมื่อเรารู้ทางแล้วก็สามารถเอาชนะได้

อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้ปัญญา

ใหม่ๆ ก็ต้องยอมแพ้ สู้เขาไม่ได้ก็แพ้ไป

 เมื่อแพ้แล้วก็ไม่ได้คร่ำครวญ

 แต่มาใคร่ครวญว่าแพ้เพราะอะไร

จนกระทั่งรู้ว่าเป็นเพราะเรามีจุดอ่อนอย่างนี้ ๆ

และใคร่ครวญจนเห็นจุดอ่อนของเขาด้วย

 ความทุกข์ก็มีจุดอ่อน ถ้าเรารู้จักจุดอ่อนของมัน

 เราก็สามารถจัดการเป็นนายความทุกข์

 ไม่ใช่เป็นทาสของความทุกข์


หลวงพ่อคำเขียนอุปมาเหมือนกับช้างหรือควาย

ตัวมันใหญ่ แรงมันเยอะมาก

มนุษย์เราสู้ไม่ได้เลยถ้าพูดถึงพละกำลัง

แต่ทำไมมนุษย์เราถึงสามารถล่ามควายได้

ทำไมเราถึงสามารถควบคุมช้างได้

ช้างยอมให้เราขึ้นไปอยู่บนหลัง

และสามารถควบคุมมันได้เพราะเหตุใด

 ควายก็มีจุดอ่อนตรงจมูก

ถ้าเอาเชือกสนตะพายได้มันก็อยู่ในอำนาจของเรา

ช้างก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน

เพราะฉะนั้นสิ่งที่น่ากลัวล้วนมีจุดอ่อน

ความทุกข์ก็มีจุดอ่อน จุดอ่อนอยู่ที่ไหน

จุดอ่อนอยู่ตรงที่ว่าถ้าเรารู้ทุกข์เมื่อไหร่

มันก็หมดฤทธิ์พิษสงทันที”

พระไพศาล วิสาโล



ขอบคุณที่มา fb. วัดป่าสุคะโต เพื่อธรรมะและธรรมชาติ






Create Date : 18 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2557 11:50:05 น.
Counter : 1527 Pageviews.

0 comment
### นิทานธรรมะจากสวนโมกข์ เรื่อง "ไอ้ชาติคน"










นิทานจากสวนโมกข์ เรื่อง ไอ้ชาติคน

เมื่อมนุษย์ทั้งหลายเบื่อที่จะเข้าวัด

แม่หมาตัวหนึ่งก็ชวนลูกหมาไปฟังเทศน์.

 ทางที่จะไปวัดนั้นต้องผ่านป่าช้าที่ทิ้งศพมนุษย์,

 ด้วยความเคารพในธรรม

แม่หมาจึงเร่งลูก เพราะกลัวจะไปสาย.

ส่วนลูกหมานั้นกำลังหิวเป็นกำลัง

จึงอ้อนวอนขอกินศพก่อน

ผู้ชมลองฟังคำโต้ตอบของแม่ลูกคู่นี้ดู

แม่หมา ...........เจ้าจะกิน ตรงไหน ไวบอกแม่
ลูกหมา ...........รสเลิศแท้ ตาผี ไม่มีสอง
แม่หมา ...........อย่าเลยลูก ตามัน แส่แต่มอง
แม่หมา ...........ทั้งโขนหนัง นั่งจ้อง กระจกเงา

แม่หมา ............จะหาแล แต่สิ่ง ที่สวยงาม
แม่หมา ............อย่านะ! เจ้าจะทราม ขืนกินเข้า
ลูกหมา ............ถ้าอย่างนั้น ฉันกินหู ได้ไหมเล่า?
แม่หมา ............หูมันเฝ้า แต่จะฟัง เสียงสอพลอ

ลูกหมา ............หูมันคง ไม่ฟัง พระสั่งสอน
ลูกหมา ............ลูกขอวอน กินจมูก ได้ไหมหนอ?
แม่หมา ............อย่าเลย ถ้าเจ้าหยิ่ง ในเหล่ากอ
แม่หมา ............มันชอบพอ แต่จะดม กลิ่นดี ๆ

ลูกหมา ............ถ้าอย่างนั้น ลูกจะกิน ลิ้นมันนะ
แม่หมา ............ตายละ! สับปลับ ปล้อนปลิ้น ลิ้นคนนี่
แม่หมา ............ปากว่าชอบ นิพพาน อย่างโน้นนี้
แม่หมา ............แท้จริงซิ สังสารวัฎฎ์ เต็มอัตตา

ลูกหมา ............ถ้าอย่างนั้น ฉันกินมือ ได้ไหมแม่ ?
แม่หมา ............อัปรีย์แท้ เทียวลูก มือคนหนา
แม่หมา ............หน้าไหว้ หลังหลอก ต่อครูบา
แม่หมา ............ทั้งเข่นฆ่า เฆี่ยนตี พ่อแม่ตัว

ลูกหมา .............อย่างนั้นลูก จะขอกิน ตีนของมัน
แม่หมา .............ลูกเอ๋ยนั่น มันร้าย อยู่ใช่ชั่ว
แม่หมา .............ไม่ย่างเท้า เข้าฟังธรรม ประจำตัว
แม่หมา .............เดินไปทั่ว แต่ทาง แห่งอบาย

ลูกหมา ..............แม่จ๋า ลูกขอกิน หัวใจผี นะแม่นะ
แม่หมา ..............หยุดนะ, อย่านะ, นั่นกาลี น่าใจหาย
แม่หมา ..............ตัวกู-ของกู อยู่นั่น นะลูกชาย
แม่หมา ..............คนใจร้าย โสมม เสียสิ้นดี

ลูกหมาที่น่าสงสาร

 จึงได้รู้จักสัตว์ที่เรียกตนเองว่า "มนุษย์"

ซึ่งแปลว่า มีใจสูง
จึงจ้องมองดูศพ ด้วยดวงตาอันเหยียดหยาม

 ถ่มเขฬะรด "ถุย!" แล้วว่า:-

อ้ายชาติชั่ว เรียกตัว ว่ามนุษย์
ผลที่สุด ไม่มีดี อะไรนี่ .
อนิจจา หมาไม่กิน ขำสิ้นดี
เสียแรงที่ แสนฉลาด "อ้ายชาติคน"

พุทธทาสภิกษุ

ขอบคุณที่มา fb. วัดป่าสุคะโต เพื่อธรรมะและธรรมชาติ






Create Date : 13 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2557 15:56:33 น.
Counter : 1575 Pageviews.

0 comment
### ความหลงที่น่ากลัว ###













“ความหลงที่น่ากลัวคือเข้าไปเป็น
ความไม่หลงคือเห็นธรรมดา ๆ เป็นเช่นนั้นเอง
ทุกข์ในอริยสัจคือเข้าไปเป็น เวทนามีอยู่
ตามธรรมชาติ ร้อนหนาวมีอยู่ตามธรรมชาติ
แต่เมื่อเข้าไปเป็นนั้นจึงจะเรียกว่าทุกข์
ถ้าเห็นมันสุขเห็นมันทุกข์ นั่นก็ปลอดภัยแล้ว
แต่ถ้าเป็นผู้สุขเป็นผู้ทุกข์ นั่นอันตราย
จะเป็นภพเป็นชาติเวียนว่ายตายเกิดอยู่ร่ำไป
ถ้าเห็นตามธรรมชาติ ก็เรียกว่าเห็นธรรมก็ได้”


หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ




ขอบคุณที่มา fb. พระสุรินทร์ ก่อนการคิด

วัดป่าสุคะโต






Create Date : 13 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2557 11:32:13 น.
Counter : 1460 Pageviews.

0 comment
### สมเด็จโตกับหัวโขน ###
















สมเด็จโตกับหัวโขน

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)

ไม่เพียงเป็นพระที่รอบรู้ในทางปริยัติธรรมเท่านั้น

 หากยังเชี่ยวชาญด้านวิปัสสนาธุระ

จนเชื่อกันว่าท่านทรงคุณวิเศษทางวิทยาคม

คุณวิเศษของท่านมักถูกกล่าวถึงในแง่อภินิหาร

แต่อภินิหารนั้นยังเป็นเรื่องโลกียะ

ที่สูงขึ้นไปกว่านั้นคือโลกุตตระ

ได้แก่การอยู่เหนือโลก

อันโลกธรรมทั้งหลายไม่อาจฉาบย้อมได้

 องค์คุณประการหลังนี้ท่านได้บำเพ็ญ

และแสดงให้เห็นตลอดชีวิต

ตัวอย่างหนึ่งได้แก่การไม่ใส่ใจกับสมณศักดิ์พัดยศ

 ซึ่งท่านเห็นว่าเป็นแค่ “หัวโขน” เท่านั้นเอง


ตามธรรมเนียม พระที่ทรงสมณศักดิ์อย่างท่าน

ย่อมมีศิษย์วัดแจวเรือให้เวลาเดินทาง

แต่เนื่องจากท่านชอบประพฤติตนอย่างพระอนุจร

หรือพระลูกวัด ดังนั้นเมื่อใดที่เห็นศิษย์แจวเรือเหนื่อย

ท่านก็จะให้นั่งพักเสีย แล้วท่านก็แจวแทน

มีคราวหนึ่งท่านได้รับนิมนต์ไปในงานที่จังหวัดนนทบุรี

ขากลับเจ้าภาพได้ให้บ่าว ๒ คนผัวเมียแจวเรือมาส่ง

 ระหว่างทางผัวเมียคู่นี้เกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรง

 ท่านเห็นเช่นนั้นจึงขอให้ทั้งสองเลิกวิวาทกัน

และให้เข้ามานั่งพักในประทุน

 แล้วท่านก็แจวเรือมาเองจนถึงวัดระฆัง

แต่ที่กล่าวขานกันมากก็คือ

ตอนที่ท่านไปสวดมนต์ในสวนแห่งหนึ่ง

เขตราษฎร์บูรณะ ฝั่งธนบุรี

สวนแห่งนี้ต้องเข้าทางคลองเล็ก

 ท่านไปด้วยเรือสำปั้นกับศิษย์ โดยเอาพัดยศไปด้วย

 บังเอิญเวลานั้นน้ำแห้งเข้าคลองไม่ได้

ท่านจึงลงเข็นเรือกับศิษย์ท่าน

 ชาวบ้านก็ร้องบอกกันว่า “สมเด็จเข็นเรือโว้ย”

ท่านได้ยินก็ตอบไปว่า

 “ฉันไม่ใช่สมเด็จดอกจ้ะ ฉันชื่อขรัวโตจ้ะ

 สมเด็จท่านอยู่ในเรือน่ะจ้ะ”

ว่าแล้วก็ชี้มือไปที่พัดยศ

สักพักชาวบ้านก็ลงมาช่วยกันเข็นเรือไปจนถึงบ้านงาน

เรื่องนี้สอนว่า

หัวโขนนั้นพึงถอดวางเมื่อลงจากเวทีฉันใด

สมณศักดิ์ก็มิใช่สิ่งซึ่งพึงยึดถือเป็น “ตัวกู ของกู” ฉันนั้น

เขียนเล่าเรื่อง พระไพศาล วิสาโล


ขอบคุณที่มา...fb. วัดป่าสุคะโตเพื่อธรรมะและธรรมชาติ







Create Date : 07 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2557 10:07:44 น.
Counter : 1620 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ