Group Blog
All Blog
### มรดกของสมเด็จพระสังฆราชคือคำสอนอันล้ำค่า ###















“มรดกของสมเด็จพระสังฆราช

คือคำสอนอันล้ำค่า”

ถาม : หลังจากที่สมเด็จพระสังฆราชสิ้นพระชนม์

ก็มีหลายคนเข้าไปศึกษาไปอ่านประวัติ

หรือแม้กระทั่ง ไปอ่านคำสอนของพระองค์ท่านแล้วก็รู้สึกเสียดาย

 แม้ตอนท่านยังมีพระชนชีพอยู่ไม่ได้ศึกษา ไม่ได้ปฏิบัติตาม

 ทั้งที่พระองค์ท่านเป็นพระที่งามพร้อม

พระอาจารย์ : ก็เป็นเรื่องของเขา เราไม่ได้เป็นตัวเขา

 เราจะไปรู้ได้อย่างไรว่าทำไมเขาถึงเป็นอย่างนั้น

 ก็เพราะว่าเขามีความสนใจในเรื่องอื่น เขาก็เลยไม่มาสนใจ

ต้องรอให้เป็นข่าวก่อน ถ้าเวลาเป็นข่าวแล้วทีนี้ มาทำข่าวกัน

 มีคนมาทำข่าวตั้ง ๒ - ๓ เจ้าแล้วทั้งปีทั้งชาติไม่เคยมีใครมาเลย

 พอมีเหตุการณ์ขึ้นมา มันก็เลยทำให้เกิดมีความสนใจ

 แต่มันก็เป็นความสนใจเพียงแค่ชั่วไฟไหม้ฟาง

 เดี๋ยวไม่นานมันก็จางหายไป แต่ก็ยังดี

ถ้าการจากของท่านไปนี้ทำให้เกิดมีความสนใจที่จะศึกษาร่ำเรียน

 ก็ยังสามารถทำได้ เพราะคำสอนของพระองค์ท่าน

ไม่ได้ตายไปกับท่าน

เหมือนกับคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็ไม่ได้ไปกับพระพุทธเจ้า

 อย่างที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า

พวกเธอจะไม่อยู่อย่างปราศจากเราศาสดา เพราะอะไร

 เพราะธรรมวินัยที่ตถาคตได้ตรัสไว้ชอบแล้วนีแล

จะเป็นศาสดาของพวกเธอต่อไป นี่แหละคือศาสดาที่แท้จริง

 ก็คือพระธรรมคำสอน และพระประวัติอันดีงามของพระพุทธเจ้า

 หรือของสมเด็จพระสังฆราช

ท่านทิ้งสมบัติอันล้ำค่าไว้ให้กับพวกเรา มรดกอันล้ำค่า

สิ่งที่ไปนั้นเป็นของไม่มีสาระไม่มีคุณประโยชน์อะไร

ร่างกายไม่มีคุณประโยชน์หลังจากที่ตายไปแล้ว

 เป็นซากศพไป ซากศพของสัตว์กลับมีคุณค่ามากกว่า

 ซากศพของมนุษย์เสียอีก เพราะยังขายได้

 ไก่ตาย เป็ดตาย วัวตาย หมูตายนี้เราไปขายที่ตลาดได้

แต่คนตายนี้เอาไปขายที่ตลาดไม่ได้

กลับต้องมีรายจ่ายต้องเสียค่าทำศพกัน

ร่างกายของมนุษย์จะมีคุณประโยชน์

 ก็เฉพาะตอนที่มีชีวิตอยู่นี้เท่านั้น

 ดังนั้นเราควรที่จะรีบตักตวงประโยชน์ของร่างกายนี้

ประโยชน์ที่เราจะได้ก็มี ๒ ทาง ทางโลกและทางธรรม

ทางโลกก็เป็นประโยชน์ชั่วคราว

 ถ้าทางธรรมก็จะเป็นประโยชน์ที่ถาวร

เพราะเป็นประโยชน์ที่จะติดไปกับใจ ใจที่ไม่มีวันตาย

 แต่ประโยชน์ทางโลกก็จะติดอยู่กับร่างกายไป

 เช่นลาภยศ สรรเสริญ พอตายไปแล้ว

เดี๋ยวก็มีคนนั่งรอรับตำแหน่งสังฆราชกันแล้ว

 นี่คือประโยชน์ทางโลก ประโยชน์ชั่วคราว

แต่มรรคผล นิพพานที่ติดอยู่กับใจนี้ไม่มีใครมาเอาไปได้

ของใครของมัน นี่คือประโยชน์ทางธรรม

พระพุทธเจ้าตายไปแล้วไม่มีใครมาเอามรรคผล นิพพาน

ของพระพุทธเจ้าไปได้

 สมเด็จพระสังฆราชตายไป ก็ไม่มีใครที่จะมาเอามรรคผล นิพพาน

ของท่านไปได้ เอาไปได้ก็คือตำแหน่งสังฆราช

 เดี๋ยวพอเสร็จงานพิธีต่างๆ ผ่านไปแล้ว

เดี๋ยวก็จะมีสังฆราชองค์ใหม่โผล่ขึ้นมา

นี่คือประโยชน์ทางโลกไม่สำคัญเท่ากับประโยชน์ทางใจ

ขอให้เราไม่ต้องไปหลงกับประโยชน์ทางโลกให้มากจนเกินไป

อย่าไปหลงไหลได้เลยจะดีกว่า ให้แค่เพียงหาปัจจัย ๔ ไว้

เพื่อมาดูแลรักษาร่างกายเพื่อให้เราได้เอาร่างกายนี้

มาสร้างประโยชน์ทางใจกันจะดีกว่า

ดังนั้นถ้ามีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นแล้ว

ทำให้เกิดมีความสนใจศึกษาก็ดี

เพียงแต่ขอให้ศึกษากันอย่างจริงๆ จังๆ เถิด

ศึกษาแล้วนำเอาไปปฏิบัติเถิด อย่าทำเป็นแบบเเฟชั่น

ทำแบบไฟไหม้ฟาง พอมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็เกิดการสนใจขึ้นมา

แล้วก็มาบ่นว่าเสียดายไม่ได้รู้กันมาก่อน มาศึกษากันก่อน

อันนี้ไม่เกิดประโยชน์อะไร

 เมื่อรู้แล้วว่าพระองค์ท่านมีความดี มีความรู้ที่ดีที่งามไว้สั่งสอนเรา

 เราก็ต้องรีบขวนขวายศึกษากัน ศึกษากันอย่างเอาจริงเอาจัง

ไม่ใช่ศึกษากันเป็นแบบเเฟชั่น

 เดี๋ยวพอมีเหตุการณ์อย่างอื่นปรากฏขึ้นมาก็ลืมเรื่องนี้แล้ว

ก็ไปยุ่งกับเหตุการณ์ใหม่อีก เข้าใจไหม.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

...........................

ธรรมะบนเขา วันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๖

“ฟังธรรมเพื่อเสริมสติปัญญา”












ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 16 ธันวาคม 2558
Last Update : 16 ธันวาคม 2558 11:56:31 น.
Counter : 1203 Pageviews.

1 comments
  
ขอบคุณข้อมูล
โดย: ชมพร วันที่: 16 ธันวาคม 2558 เวลา:17:14:34 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ