ทุกข์เพราะใจ
เรื่องเล่าเช้าวันพระ:
เขียนเล่าเรื่อง....
พระไพศาล วิสาโล
พระอาจารย์พรหมวังโส เป็นพระชาวอังกฤษ
ศิษย์หลวงพ่อชา สุภัทโท
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
จะมาใช้ชีวิตอย่างพระป่าในภาคอีสาน
ซึ่งมีวิถีชีวิตแตกต่างจากชาวตะวันตกมาก
มีประสบการณ์หลายอย่างที่นั่น
ซึ่งท่านไม่เคยเจอะเจอมาก่อนในอังกฤษ
ประสบการณ์อย่างหนึ่งที่ท่านจำได้ไม่ลืมเลย
เกิดขึ้นขณะที่ท่านบวชได้เพียงปีเดียว
มีงานฉลองในหมู่บ้าน ๓ วัน ๓ คืน
เป็นธรรมดาของชาวบ้านที่เมื่อมีมหรสพ ก็จะเปิดเสียงดังเต็มที่
ราวกับจะเผื่อแผ่ให้คนทั้งหมู่บ้านได้ร่วมสนุกสนานด้วย
ปรากฏว่าเสียงดนตรีดังกระหึ่มไปถึงวัด ซึ่งอยู่ห่างไป ๑ กิโลเมตร
ไม่มีมุมไหนของวัดที่เสียงดนตรีนั้นจะทะลวงไปไม่ถึง
กลางค่ำกลางคืน เสียงมหรสพก็ยังดังไม่หยุด
ยิ่งดึก เสียงก็ยิ่งดังจนถึงรุ่งเช้า พระทั้งวัดนอนแทบไม่ได้เอาเลย
วันรุ่งขึ้นพระในวัดจึงขอร้องผู้ใหญ่บ้านว่า
ถ้ามหรสพยุติราวตี ๑ จะได้ไหม เพื่อให้พระมีเวลาหลับสัก ๒ ชั่วโมง
ก่อนที่จะลุกขึ้นมาทำวัตรตอนตี ๓ แต่ผู้ใหญ่บ้านกลับปฏิเสธ
พระในวัดไม่มีที่พึ่งอื่นใดนอกจากหลวงพ่อชา
จึงพากันไปขอร้องท่านให้บอกชาวบ้านช่วยหรี่เสียงตอนตี ๑
เพราะเชื่อว่าผู้ใหญ่บ้านต้องเกรงใจหลวงพ่อแน่ ๆ
อีกทั้งหลวงพ่อคงไม่เห็นดีด้วยกับความสนุกสนาน
ที่ไม่รู้จักเวล่ำเวลาแถมส่งเสียงดังทำลายความสงบสงัดของวัดป่า
แต่แทนที่หลวงพ่อจะเห็นด้วยกับพระในวัด ท่านกลับบอกว่า
เสียงไม่ได้รบกวนท่าน ท่านต่างหากที่รบกวนเสียง
นี้เป็นสิ่งที่พระพรหมวังโสและเพื่อนพระไม่คาดคิด
แต่คำพูดของหลวงพ่อทำให้พระเหล่านั้นได้คิดว่า
เสียงก็เป็นสักว่าเสียง จะดังแค่ไหนก็ไม่ทำให้เราทุกข์ใจได้เลย
หากไม่ทะเลาะเบาะแว้งกับมัน หากวางใจเป็นกลางต่อเสียงนั้น
ก็ไม่รู้สึกเป็นทุกข์แต่อย่างใด
พระอาจารย์พรหมวังโสพูดถึงประสบการณ์ครั้งนั้นว่า
แม้เสียงมหรสพยังดังอยู่ในหู
แต่ไม่รบกวนจิตใจของพระในวัดอีกต่อไป
เพราะต่างทำใจยอมรับได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
จะว่าไปมันก็แค่ ๓ วันเท่านั้น ไม่นานมันก็ผ่านไป
ในยามทุกข์ใจ ผู้คนมักโทษสิ่งภายนอก
แต่กลับไม่ตระหนักว่าแท้จริงแล้วสาเหตุของความทุกข์นั้น
อยู่ที่ใจตนเองต่างหาก นั่นเป็นเพราะว่าเราชอบส่งจิตออกนอก
จนลืมกลับมาดูใจของตน
หลวงพ่อชาชี้ให้เห็นนิสัยของคนส่วนใหญ่อย่างชัดเจน
เมื่อท่านกล่าวว่า
คนตั้งร้อยพันคนโทษว่ารูมันลึกเพราะล้วงไปไม่ถึง
ที่จะว่าแขนของตนสั้นนั้นไม่ค่อยมี
ขอบคุณที่มา fb. วัดป่าสุคะโต ธรรมชาติที่พักใจ
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ