Group Blog
All Blog
### รวยกับซวย ###















รวยกับซวย

.............


 เขียนเล่าเรื่อง พระไพศาล วิสาโล

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

เป็นพระมหาเถระที่มีลูกศิษย์ลูกหาทั่วประเทศ

 ไม่จำเพาะจังหวัดอยุธยา อันเป็นบ้านเกิด

และที่ตั้งของวัดสะแก

 อันเป็นสถานพำนักของท่านเท่านั้น

ตอนที่ท่านแรกบวช

ท่านมิได้ปรารถนามรรคผลนิพพานแต่อย่างใด

 หากต้องการเรียนรู้วิชาคงกระพันชาตรี

และเวทมนต์คาถา เพื่อสึกออกไปแก้แค้นโจร

ที่ปล้นบ้านโยมพ่อโยมแม่ของท่านถึง สองครั้งสองครา

แต่ต่อมาท่านได้คิด นึกสลดสังเวชใจ

ที่ปล่อยให้ความอาฆาตพยาบาท

ครอบงำจิตใจนานนับสิบปี

ในที่สุดท่านได้ตั้งจิตอโหสิกรรมแก่คนเหล่านั้น

แล้วมุ่งเจริญสมณธรรมอย่างจริงจัง

ในวัยฉกรรจ์ท่านได้เดินธุดงค์ติดต่อกัน

เป็นเวลาหลายปี

จนในที่สุดได้มาพำนักที่วัดสะแก

นับแต่นั้นก็ได้เป็นที่พึ่งทางใจแก่ญาติโยมมาโดยตลอด

ต่อมาราว ๆ ปี ๒๔๙๐ คือเมื่ออายุได้ ๔๓ ปี

ท่านตัดสินใจไม่รับกิจนิมนต์นอกวัด

ใครที่ตั้งใจกราบนมัสการหรือฟังธรรมจากท่าน

 แม้จะเดินทางไกลเพียงใด ก็ไม่ผิดหวังเลย

เพราะเมื่อมาถึงวัดสะแก จะเห็นท่านนั่งรับแขกหน้ากุฏิ

ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ แม้กระทั่งเมื่อท่านชราภาพมากแล้ว

มีลูกศิษย์จัดทำป้ายกำหนดเวลารับแขก

เพื่อถนอมสุขภาพของท่าน

แต่ไม่นานท่านก็ให้นำป้ายออกไป

ด้วยความเมตตาที่ท่านมีต่อญาติโยมทั้งหลายนั้นเอง

ท่านมีวิธีสอนธรรมะแก่ญาติโยมอย่างแยบคาย

คราวหนึ่งมีศิษย์มากราบท่าน

โดยพาเพื่อนซึ่งเป็นนักเลงเหล้าตามมาด้วย

 เมื่อสนทนากับหลวงปู่ได้พักหนึ่ง

 ศิษย์ผู้นั้นได้ชักชวนเพื่อนให้สมาทานศีลห้า

พร้อมกับทำสมาธิภาวนา

นักเลงเหล้าผู้นั้นแย้งต่อหน้าหลวงปู่ว่า

“จะให้ผมสมาทานศีลและปฏิบัติได้ยังไง

ก็ผมยังกินเหล้าเมายาอยู่นี่ครับ”

หลวงปู่ดู่แทนที่จะคาดคั้นหรือคะยั้นคะยอเขา

กลับตอบว่า

 “เอ็งจะกินก็กินไปซิ ข้าไม่ว่า

 แต่ให้เอ็งปฏิบัติให้ข้าวันละห้านาทีก็พอ”

 ชายผู้นั้นเห็นว่านั่งสมาธิแค่วันละห้านาทีไม่ใช่เรื่องยาก

จึงรับคำหลวงปู่

นับแต่วันนั้นเขาก็นั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ

ตามที่รับปากเอาไว้ ไม่ขาดแม้แต่วันเดียว

บางวันถึงกับงดกินเหล้ากับเพื่อน ๆ

 เพราะได้เวลาปฏิบัติพอดี

 เมื่อได้สัมผัสกับความสงบจากสมาธิภาวนา

เขาก็มีความสุข จึงโหยหาเหล้าน้อยลง

จนในที่สุดก็เลิกเหล้าไปโดยไม่รู้ตัว

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ละชีวิตทางโลก

อุปสมบทเป็นพระภิกษุและมุ่งมั่นกับการปฏิบัติธรรม

หลวงปู่รู้ดีว่าการขอร้องให้เขาเลิกเหล้านั้นเป็นเรื่องยาก

ดังนั้นแทนที่ท่านจะห้ามเขากินเหล้า

ท่านกลับขอให้เขาทำสิ่งที่ง่ายกว่านั้นคือ

 นั่งสมาธิแค่วันละห้านาที

ท่านรู้ดีว่าใครที่ทำสมาธิภาวนาทุกวันแม้จะไม่กี่นาที

ไม่นานก็จะเห็นอานิสงส์ของการปฏิบัติ

และปฏิบัตินานขึ้นเอง จนเลิกเหล้าได้ในที่สุด

อีกคราวหนึ่งมีชาวบ้านซึ่งมีอาชีพหาปลามานมัสการท่าน

 ก่อนกลับท่านขอให้เขาสมาทานศีล ๕

 เขารู้สึกลำบากใจ จึงกราบเรียนท่านว่า

 “ผมไม่กล้าสมาทานศีลห้า เพราะรู้ว่า

ประเดี๋ยวต้องไปจับปลา จับกุ้ง

 มันเป็นอาชีพของผมครับ”

หลวงปู่ตอบเขาว่า

 “แกจะรู้หรือว่า แกจะตายเมื่อไหร่

ไม่แน่ว่าแกเดินออกไปจากกุฏิข้าแล้ว

 อาจถูกงูกัดตายเสียกลางทางก่อนไปจับปลา จับกุ้ง ก็ได้

เพราะฉะนั้นเมื่อตอนนี้แกยังไม่ได้ทำบาปกรรมอะไร

ยังไง ๆ ก็ให้มีศีลไว้ก่อน”

แล้วท่านก็พูดต่อว่า

 “ถึงจะมีศีลขาดก็ยังดีกว่าไม่มีศีล”

หลวงปู่ไม่ได้บอกให้เขาเลิกอาชีพหาปลา

แต่ให้มีศีลเป็นหลักของชีวิต

 แม้จะทำได้บ้างไม่ได้บ้างก็ยังดีกว่าไม่มีหลักไว้เลย

คำชี้แจงของท่านทำให้ชายผู้นั้นยอมสมาทานศีลห้าในที่สุด

ท่านมีวิธีติงหรือเตือนที่แยบคาย

คราวหนึ่งมีชายผู้หนึ่งมาขอเช่าพระอุปคุตที่วัด

เพื่อนำไปบูชา เขาให้เหตุผลว่า บูชาแล้วจะได้รวย

 เมื่อเขามากราบหลวงปู่ดู่ ท่านก็เปรยขึ้นมาว่า

 “รวยกับซวย มันใกล้ ๆ กันนะ”

เพื่อนของชายผู้นั้นจึงถามท่านว่า “ใกล้กันยังไงครับ”

“มันออกเสียงคล้ายกัน” ท่านตอบ

สักครู่ท่านก็ขยายความว่า

“จะเอารวยน่ะ จะหามายังไงก็ทุกข์ จะรักษามันก็ทุกข์

หมดไปก็ทุกข์อีก กลัวคนจะจี้จะปล้น

ไปคิดดูเถอะ มันไม่จบหรอก มีแต่เรื่องยุ่ง เอาดี ดีกว่า”

ถึงรวยก็ยังทุกข์ ความดีหรือธรรมะต่างหาก

ที่ช่วยให้พ้นทุกข์ได้






ขอบคุณที่มา fb. วัดป่าสุคะโต เพื่อธรรมะและธรรมชาติ








Create Date : 29 มีนาคม 2558
Last Update : 29 มีนาคม 2558 13:49:01 น.
Counter : 1137 Pageviews.

1 comment
### สมาธิของหลวงพ่อชา ###
















สมาธิของหลวงพ่อชา

เขียนเล่าเรื่อง พระไพศาล วิสาโล
.............................

บ่อยครั้งที่ญาติโยมมากราบหลวงพ่อชา สุภัทโท

เพียงเพราะอยากได้ “ของดี” เช่น วัตถุมงคล

 หรือไม่ก็อยากฟังเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ ชาตินี้ชาติหน้า ฯลฯ

บางคนก็หวังเพียงแค่อยากได้ “บุญ”ที่มากราบท่าน

แต่หลวงพ่อมักให้ธรรมแก่เขาไป

 รวมทั้งชวนเขาทำสมาธิภาวนาด้วย แต่หลายคนก็ไม่สนใจ

 เหตุผลหนึ่งที่คนมักอ้างกันก็คือ “ไม่มีเวลา”


“แล้วมีเวลาหายใจหรือเปล่าล่ะ” ท่านถามเขากลับไป

 ถ้ามีเวลาหายใจก็ย่อมต้องมีเวลาทำสมาธิภาวนา

เพราะเป็นเรื่องเดียวกัน

อันที่จริงการหายใจนั้นไม่ใช่เรื่องเสียเวลาเลย

 เพราะเราทำตลอดเวลาที่ทำงานอื่นอยู่แล้ว

ฉันใดก็ฉันนั้นสมาธิภาวนา โดยเฉพาะการเจริญสติ

 ก็เป็นสิ่งที่เราสามารถทำพร้อมไปกับงานอื่นได้

ไม่จำเป็นต้องหาเวลาเฉพาะสำหรับกิจด้านนี้

นั่นเป็นเหตุผลข้อหนึ่งว่า

 แม้หลวงพ่อจะให้ความสำคัญกับสมาธิภาวนา

 แต่กิจวัตรอย่างหนึ่งของวัดหนองป่าพงก็คือ

การทำงานร่วมกัน ไม่เว้นแม้แต่การใช้แรงงาน

คราวหนึ่งขณะที่พระเณรทั้งวัดกำลังขนดิน

ขึ้นไปใส่สนามหญ้ารอบโบสถ์ โดยมีหลวงพ่อยืนสั่งงานอยู่

มีหนุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งเดินมาเห็นเข้า จึงมายืนดูอยู่ใกล้

แต่กิริยาท่าทางไม่ค่อยสุภาพอ่อนน้อมเท่าไรนัก

 มีคนหนึ่งถามท่านห้วน ๆว่า

“ทำไมท่านไม่พาพระเณรนั่งสมาธิ ชอบพาทำงานอยู่เรื่อย”

“นั่งมากมันขี้ไม่ออกว่ะ” คือคำตอบของหลวงพ่อ

วัยรุ่นกลุ่มนั้นรู้สึกงุนงงต่อคำตอบของท่าน

แล้วท่านก็ยกไม้เท้าชี้ไปยังชายหนุ่มผู้นั้นก่อนที่จะพูดต่อว่า

 “ที่ถูกนั้น นั่งอย่างเดียวก็ไม่ใช่ เดินอย่างเดียวก็ไม่ใช่

 ต้องนั่งบ้าง ทำประโยชน์บ้าง

 และทำความรู้ความเห็นให้ถูกต้องไปทุกเวลานาที

 อย่างนี้จึงจะถูก กลับไปเรียนมาใหม่ นี้ยังอ่อนอยู่มาก

เรื่องการปฏิบัตินี้ถ้าไม่รู้จริง อย่าพูด มันจะขายขี้หน้าตัวเอง”

สมาธิภาวนาไม่ได้หมายถึงการนั่งหลับตาอยู่คนเดียว

 แต่หมายถึงการฝึกอบรมจิตให้มีงอกงาม มีสติ สมาธิ

เมตตา และปัญญา เป็นต้น

ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ทำอะไร ก็ล้วนเป็นโอกาส

สำหรับการฝึกอบรมจิตทั้งสิ้น

หากไม่เข้าใจแก่นแท้ของสมาธิภาวนา

ก็ย่อมคิดไม่ต่างจากวัยรุ่นกลุ่มนี้




ขอบคุณที่มา fb. วัดป่าสุคะโต เพื่อธรรมะและธรรมชาติ







Create Date : 17 มีนาคม 2558
Last Update : 17 มีนาคม 2558 21:00:36 น.
Counter : 919 Pageviews.

0 comment
### แก้ไขตนเองก่อนดีกว่า ###
















แก้ไขตนเองก่อนดีกว่า

“คนที่ชอบเรียกร้องผู้อื่นให้
ปล่อยวางนั้น ตนเองมักทำใจ
ปล่อยวางไม่ค่อยได้ จะว่าไปแล้ว
สาเหตุที่ผู้คนชอบเรียกร้องผู้อื่นนั้น
มักเป็นเพราะลืมเรียกร้องตนเอง
ใครๆก็อยากเห็นคนอื่นเปลี่ยนแปลง
แต่ละเลยที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองก่อน
บ่อยครั้งเรามักมองว่าคนอื่นเป็นปัญหา
แต่ไม่เฉลียวใจว่าตนเองก็เป็นปัญหา
หรือมีส่วนทำให้เกิดปัญหานั้นด้วยเช่นกัน”


พระไพศาล วิสาโล





ขอบคุณที่มา fb.วัดป่าสุคะโต เพื่อธรรมะและธรรมชาติ








Create Date : 17 มีนาคม 2558
Last Update : 17 มีนาคม 2558 20:45:26 น.
Counter : 1167 Pageviews.

0 comment
### ลูกศิษย์เทวดา หรือ ลูกศิษย์พระพุทธเจ้า ###















ลูกศิษย์เทวดา หรือ ลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้า

เห็นความคุกคามของความตายนี่แล้ว

ก็เกิดเคลื่อนไหวขึ้นมาทีเดียว

 เคลื่อนไหวในทางไหนก็แล้วแต่ความโง่หรือความฉลาด

 ความรู้หรือความไม่รู้ ความยึดมั่นมาก ยึดมั่นน้อย

 หรือไม่ยึดมั่นเลย

ฉะนั้นเราจึงอ่านพบเรื่องในพระไตรปิฎกว่า

 เมื่อมันมองเห็นความล่วงไปของเวลานี้แล้ว

พวกเทวดาบอกว่ารีบทำบุญเข้า รีบทำบุญเข้า

แต่พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า รีบละเหยื่อในโลกเสีย

 รีบละเหยื่อในโลกเสีย


นี่พระบาลีสังยุตตนิกายมีเรื่องอย่างนี้

 เทวดาก็มาพูดทำนองอวด อวดเก่งอวดรู้กับพระพุทธเจ้าว่า

 เขาคิดว่าถ้าเห็นภัยในการล่วงไปของเวลาแล้ว

ก็ต้องรีบทำบุญ รีบทำบุญ รีบทำบุญ

ทำนองทูลถามพระพุทธเจ้าว่าความคิดอย่างนี้มันถูกไหม

 พระพุทธเจ้าท่านเป็นพระพุทธเจ้านะ

ท่านไม่เคยว่าใครผิดนะ ท่านบอกว่าถูกอย่างของเธอ

 ถูกอย่างของท่าน แต่เราอยากจะพูดว่า

 ถ้าเห็นภัยอันนี้แล้วก็รีบคายเหยื่อในโลกเสีย

เทวดาจะฟังถูกหรือไม่ถูก หรือว่าทำอย่างไรต่อไป

 ก็ไม่เห็นมีเรื่องกล่าวไว้ในพระสูตรนั้น

ถ้าเอาเรื่องของเราเข้าไปวัด มันก็มองเห็นทันทีว่า

ให้รีบทำบุญเข้า รีบทำบุญเข้า นี่มันคงต่ออายุ

ทีนี้พระพุทธเจ้าตรัสว่าคายเหยื่อในโลกเสีย...

กินของสกปรกเข้าไปมากแล้ว รู้จักคายกันเสียบ้าง

 เรื่องกิน เรื่องกาม เรื่องเกียรติ

ที่พวกคุณหวังกันนักนั่นแหละ เขาเรียกว่า "โลกามิส"

คือเหยื่อในโลก

ถ้าใครรู้จักชีวิตพอจนถึงกับเห็นว่า

มีความตายคุกคามอยู่แล้ว ก็รีบคายเหยื่อในโลก

 รีบคายเหยื่อโลกนี้เสีย เมื่อเอามาเทียบกันดู

มันก็เป็นเรื่องตรงกันข้าม ตรงกันข้ามดิกกันเลย

 ร้อยเปอร์เซ็นต์เลย...ฉะนั้นใครจะไป

ใครจะเป็นลูกศิษย์ของเทวดา

 ใครจะเป็นลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้า มันก็ดูกันที่ตรงนี้

เพราะเรื่องในพระบาลีมันก็มีชัดอยู่แล้วอย่างนั้น

พุทธทาสภิกขุ

 

ที่มา แสดงธรรมล้ออายุ ปี พ.ศ. ๒๕๑๒
ขอขอบคุณที่มา fb. หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ









Create Date : 15 มีนาคม 2558
Last Update : 15 มีนาคม 2558 10:27:47 น.
Counter : 2345 Pageviews.

0 comment
### ความไม่เที่ยง ###













Create Date : 13 มีนาคม 2558
Last Update : 13 มีนาคม 2558 12:43:15 น.
Counter : 1641 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ