Group Blog
All Blog
### ความสุขที่ยิ่งกว่าการให้ ###

















นิทานโดนใจเรื่อง

..........

 ความสุขที่ยิ่งกว่าการให้

มีชายหนุ่มคนหนึ่งมีชีวิตที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ

หน้าตาหล่อเหลา มีการศึกษาสูง มีงานการที่มั่นคง

 มีอนาคตที่สดใส และ มีสาวๆมาชอบมากมาย

 เรียกว่าใครเห็นเป็นต้องอิจฉา

วันหนึ่งชีวิตที่สมบูรณ์แบบของชายคนนี้

ยิ่งสุดยอดสมบูรณ์แบบมากขึ้น

เมื่อพี่ของเขายอมควักเงินก้อนโต

ซื้อรถสปอร์ตคนงามเป็นของขวัญวันเกิดให้กับน้องชาย

ไม่ต้องบอกว่าเจ้าตัวจะดีใจแค่ไหน

รถสปอร์ตสุดหรูคันนี้ชายหนุ่มฝันอยากเป็นเจ้าของมานานแล้ว

เมื่อความฝันเป็นจริง สิ่งที่เขาคิดทำอย่างแรกคือ

 ขับเจ้ารถสปอร์ตตระเวนไปตามที่ต่างๆให้สมอยาก

ใจหนึ่งต้องการทดสอบว่ารถจะแรงเต็มที่ขนาดไหน

อีกใจก็แน่นอนว่า ใครที่มีรถสวยและแรงขนาดนี้

คงไม่บ้าเก็บเอาไว้ดู ตามลำพังที่โรงรถในบ้านแน่

 หลังจากขับรถโฉบเฉี่ยวไปมาสักพัก

ก็จอดพักชมวิวข้างทางเพื่อพักผ่อน


ระหว่างที่กำลังพักผ่อนอยู่นั้น

มีเด็กคนหนึ่งเดินลูบๆคลำๆ รอบรถคันงาม

ด้วยกิริยาท่าทีชื่นชอบรถสปอร์ตอย่างเห็นได้ชัด

 ชายหนุ่มรู้สึกภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของ

สิ่งที่หลายต่อหลายคนใฝ่ฝัน

เขาเดินยืดอกมาที่รถ พร้อมพูดจาทักทายเด็กคนนั้น

ด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ และภูมิใจตัวเองมาก

“ระวังหน่อยน้อง เดี๋ยวเป็นรอย” เขาบอก

เด็กคนนั้นมองไปยังชายหนุ่มเจ้าของเสียง

 ก่อนจะพูดตอบ “รถของพี่เหรอ สุดยอดจริงๆ”

“แน่นอน” เขาตอบ

“พี่ซื้อมาราคาเท่าไหร่” เด็กถาม

“คนอื่นอาจต้องควักเงินซื้อเอง แต่พี่ไม่ต้อง

เพราะพี่ชายพี่ซื้อให้ เป็นของขวัญ” 

“โอ้โห! ดีจัง ผมอยาก….” เด็กพูดตะกุกตะกัก

ชะงักในตอนท้าย

ชายหนุ่มคิดในใจว่า เด็กคนนี้คงไม่กล้าพูดต่อ

 เพราะที่เด็กอยากจะพูดแต่ยั้งปากยั้งคำไว้นั้น

คงต้องการบอกว่า อิจฉาตัวเขาเอง

อยากจะเป็นอย่างเขาบ้าง…

มีพี่ที่แสนดีซื้อรถสุดหรูให้เป็นของขวัญ…

 แต่สิ่งที่ชายหนุ่มคิดกลับผิดถนัด

“โอ้โห ดีจัง ผมอยาก….เป็นอย่างพี่ชายของพี่จัง”

เด็กคนนั้นพูด“ผมจะได้ซื้อรถให้น้องชายผมนั่งบ้าง”

ชายหนุ่มถึงกับอึ้ง ในสังคมทุกวันนี้

ที่ใครๆ ตั้งหน้าตั้งตาแต่จะรับ หรือบางคนไม่ยอมรอ

 ใช้กำลังความได้เปรียบแย่งชิงของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง

แต่เด็กคนนี้กลับคิดสวนทางใครๆ …

เขาอยากเป็นผู้ให้มากกว่าเป็นผู้รับ…

ชายหนุ่มมองเด็กด้วยความรู้สึกทึ่ง

และพูดออกมาทันทีว่า “อยากนั่งรถเล่นกับฉันไหม”

“ครับ อยากมากเลย” หลังจากขับรถเล่นอยู่พักหนึ่ง

เด็กชายหันมาพูดด้วยดวงตาวาวแวว

“พี่จะกรุณาขับรถไปหน้าบ้านผมได้ไหมครับ”

ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ เขาคิดว่าเขารู้ดีว่า

เด็กหนุ่มต้องการอะไร เขาคงต้องการให้เพื่อนบ้านเห็นว่า

เขาได้นั่งรถหรูกลับบ้านแต่ชายหนุ่มคิดผิดอีกแล้ว ……

“พี่จอดตรงบันไดนั่นล่ะครับ” เขาวิ่งขึ้นบันได

 จากนั้นสักครู่จึงกลับมา………แต่เขาไม่ได้วิ่ง

เขาอุ้มน้องตัวเล็กๆที่ขาพิการมาด้วย

 และวางน้องลงที่บันไดล่าง กอดไว้และชี้ไปที่รถ

“นั่นไง บัดดี้ รถคันที่พี่เล่าให้ฟังพี่ชายของเขา

ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด เขาไม่ต้องเสียเงินเลย

สักวันหนึ่งพี่จะซื้อให้น้องบ้าง

น้องจะได้ดูของสวยๆงามๆด้วยตา ของน้องเอง

เหมือนที่พี่เคยเล่าให้ฟัง”

ชายหนุ่มลงจากรถ แล้วอุ้มเด็กน้อยขึ้นรถ

พี่ชายปีนตามขึ้นมานั่งใกล้

และแล้วทั้งสามก็เริ่มออกเดินทาง

ชายหนุ่มรู้แล้วว่า“ความสุขที่ยิ่งกว่าการให้” หมายถึงอะไร

( จิตที่คิดจะให้ ย่อมสุขกว่าจิตที่คิดจะเอา )



ขอขอบคุณที่มา fb. วัดป่าสุคะโต ธรรมชาติที่พักใจ







Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2558 12:46:50 น.
Counter : 1103 Pageviews.

0 comment
### น้ำมนต์หลวงพ่อเทียน ###
















น้ำมนต์ของหลวงพ่อเทียน

เขียนเล่าเรื่องพระไพศาล วิสาโล

ในช่วงเจ็ดปีสุดท้ายของหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ

 ท่านต้องเข้าโรงพยาบาลอยู่หลายครั้งเนื่องจากมีมะเร็งในลำไส้

 เป็นโอกาสให้นายแพทย์วัฒนา สุพรหมจักร

ได้รู้จักท่านอย่างใกล้ชิด

 ในขณะที่หมอวัฒนารักษากายของหลวงพ่อด้วยการให้ยา

หลวงพ่อก็ได้รักษาใจของหมอวัฒนาด้วยการให้ธรรม


หมอวัฒนาเล่าว่าตอนที่รู้จักหลวงพ่อเทียนใหม่ ๆ

กำลังสนใจพระเครื่องมาก

วันหนึ่งได้เอาพระนางพญาพิษณุโลกมาให้ท่านดู

พร้อมกับอวดว่าพระเครื่ององค์นี้เก่าแก่มาก

สร้างมาตั้ง 700 ปีแล้ว

“พระองค์นี้ทำจากอะไร” ท่านถาม

หมอวัฒนาอธิบายว่า “ทำจากเนื้อดินเผา

แกร่งสีเนื้อมะขามเปียกมีแร่ต่าง ๆ ปรากฏอยู่เต็ม”

ได้ยินเช่นนั้น ท่านก็พูดเรียบ ๆ ว่า

“ดินนั้นเกิดมาพร้อมกันตั้งแต่สร้างโลก

 พระองค์นี้ไม่ได้เก่าแก่ไปกว่าดินที่เราเหยียบ

ก่อนเข้ามาในบ้านนี้หรอก”

เพียงประโยคนี้ประโยคเดียว หมอวัฒนาก็ “ตาสว่าง”

 ตัดสินใจถอดพระเครื่องออกจากคออย่างไม่ลังเล

เคยมีคนถามท่านว่าแขวนพระดีหรือไม่

ท่านตอบว่า “ดี แต่มีสิ่งที่ดีกว่าแขวนพระจะเอาไหม”

อีกคราวหนึ่งมีคนถามท่านด้วยความสงสัยว่า

 เครื่องรางของขลังของเขามีอานุภาพตามที่เล่าลือหรือไม่

 ท่านไม่ตอบ แต่ถามกลับว่า “คนทำตายหรือยัง”

เมื่อได้คำตอบว่าคนที่ทำได้ตายแล้ว

เพราะเป็นของมรดกตกทอดกันมา

ท่านจึงตอบว่า “คนที่ทำยังตายเลย

แล้วเราจะหวังสิ่งนี้ ช่วยไม่ให้เราตายได้อย่างไร”

แม้หลวงพ่อเทียนเป็นหลวงตาที่พูดน้อย น้ำเสียงเบา

 แต่ถ้าพูดถึงการสอนธรรมแล้ว ท่านมั่นคง พูดตรง

 ไม่อ้อมค้อม และไม่ยอมประนีประนอมเลย

โดยเฉพาะเมื่อต้องเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมที่คนเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์

ท่านเห็นว่านั้นกลับทำให้คนมีความหลงงมงายมากขึ้น

 และเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงธรรม

ท่านเคยได้รับนิมนต์ไปสวดในงานบุญแห่งหนึ่ง

 เจ้าภาพอยากให้ท่านพรมน้ำมนต์ให้

 ท่านจึงขอให้เจ้าภาพเตรียมกาละมังขนาดใหญ่ใส่น้ำให้เต็ม

เพื่อทำน้ำมนต์แทนที่จะทำจากน้ำในในบาตร

เมื่อทำเสร็จแล้ว แทนที่จะประพรมน้ำมนต์

ท่านกลับเอาน้ำมนต์ในกาละมังสาดไปทั่วบ้านแล้วบอกว่า

“ช่วยกันเก็บช่วยกันถู อันนี้แหละเป็นมงคล

การที่เราใช้น้ำมนต์ประพรมตัวเรา อาจจะแพ้ลูกไม้ใบหญ้า

ที่ใส่ไว้ในน้ำมนต์ มีอาการผื่นคันขึ้นมา

ต้องเปลืองเงินทองซื้อหยูกยารักษาอีก

แล้วมันจะเป็นมงคลได้อย่างไร”



ขอบคุณข้อมูลจาก...fb. วัดป่าสุคะโตเพื่อธรรมะและธรรมชาติ





Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2558 14:56:16 น.
Counter : 1233 Pageviews.

0 comment
### ทุกข์เกิดจากการไม่พอ ###












ทุกข์จากการไม่พอ?

ปุจฉา - หมายความว่า ถึงจะมีวัตถุมากมาย

 แต่ถ้าไม่มีความพอ ยังไงก็ทุกข์อยู่ดี

วิสันชนา พระไพศาล วิสาโล

- คนสมัยนี้มีข้าวของเยอะแยะ มีเสื้อผ้าหลายตัว

รองเท้าหลายคู่ มีรถหลายคัน

 แต่ก็อยากได้เพิ่มอีกเรื่อย ๆ เพราะเขารู้สึกว่า

ของที่มีอยู่ยังไม่พอ ความสุขแบบนี้

มันไม่จีรังยั่งยืน ถึงแม้จะมีเงิน มีสิ่งของมากมาย

 แต่ถ้าสิ่งเหล่านั้นสูญหาย ถูกขโมย

หรือหมดไป ก็จะเกิดความทุกข์

ความสุขของคนสมัยนี้ ไม่ได้มาจาก ‘การมี’

 แต่มาจาก ‘การได้’

ถึงคุณจะมีเงินร้อยล้าน พันล้าน

แต่ถ้าคุณไม่ได้อะไรกลับมาเลย

 คุณก็จะเป็นทุกข์


แม้ว่าคุณจะมีของเยอะแยะ

แต่คุณก็ไม่มีความสุขจนกว่าจะได้ของใหม่

พอได้มาแล้ว ของนั้นก็กลายเป็นสิ่งที่เรามีแล้ว

ก็ไปอยากได้อีกอย่างอีกแล้ว

ปัญหานี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากค่านิยมแบบบริโภคนิยม

ที่ทำให้เกิดการเปรียบเทียบซึ่งกันและกัน

คนสมัยนี้ไม่ได้ต้องการแค่รวยนะ

 แต่ต้องการรวยกว่า เช่น ถ้าคุณมีรถ 10 คัน

 แต่เพื่อนบ้านมี 12 คัน แค่นี้คุณก็ทุกข์แล้ว


โดย  พระไพศาล วิศาโล

ขอบคุณที่มา  fb. วัดป่าสุคะโต เพื่อธรรมชาติและธรรมชาติ






Create Date : 22 มกราคม 2558
Last Update : 22 มกราคม 2558 14:42:16 น.
Counter : 988 Pageviews.

0 comment
### นิทานเซน เรื่อง เกลือสอนธรรม ###

 

 

 

10931214_656839497774908_8956155532333632862_n

นิทานเซนเรื่อง "เกลือสอนธรรม"

โดย  พระไพศาล วิสาโล

……………….

ณ ที่วัดเซน ยังมีศิษย์อยู่คนหนึ่ง

มักมีปัญหาชอบร้องทุกข์คร่ำครวญ

และจะมาบ่นให้อาจารย์เซนฟังอยู่เสมอ

และเนื่องจากทัศนะคติที่คับแคบนี้เอง

ทำให้ศิษย์ผู้นี้มักจะมีแต่ความทุกข์กังวล

จิตใจไม่เป็นสุข

วันหนึ่งอาจารย์เซนสั่งให้ศิษย์คนดังกล่าว

ไปตลาดซื้อเกลือมาถุงหนึ่ง

เมื่อศิษย์กลับมาจึงสั่งให้นำเกลือมาหยิบมือหนึ่ง

โปรยลงไปในแก้วบรรจุน้ำ แล้วให้ศิษย์ดื่มลงไป

พลางกล่าวถามว่า

“รสชาติของน้ำเป็นอย่างไร?”

“เค็มจนขม” ศิษย์ตอบด้วยใบหน้าเหยเก

จากนั้นอาจารย์เซนได้พาศิษย์ไปยังริมแม่น้ำ

และสั่งให้นำเกลือที่เหลือโปรยลงไป

ในแม่น้ำให้หมดสิ้น แล้วกล่าวว่า

“ลองดื่มน้ำจากแม่น้ำดูสิ”

ศิษย์จึงก้มตัวลงไปวักน้ำจากแม่น้ำขึ้นมาดื่ม

อาจารย์เซนถามอีกว่า

“คราวนี้รสชาติเป็นอย่างไรบ้าง?”

ศิษย์ตอบว่า “รสชาติหวานสะอาด บริสุทธิ์ยิ่ง”

“ยังมีรสเค็มหรือไม่?” อาจารย์ถามต่อ

“ไม่มี” ศิษย์ตอบ

อาจารย์เซนได้ฟังจึงผงกศีรษะเล็กน้อย

ยิ้มพลางเอ่ยสืบไปว่า

“ความทุกข์ในชีวิตคนเราก็เป็นดั่งเกลือ

มันจะมีรสเค็มหรือรสจืด

ล้วนขึ้นอยู่กับภาชนะที่รองรับ

ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะเป็นน้ำหนึ่งแก้ว

หรือเป็นแม่น้ำลำธารน้ำสายหนึ่ง”

ปัญญาเซน : คนเราหากต้องการใช้ชีวิต

บนโลกอย่างมีความสุข ทุกข์น้อย

วิธีการคือต้องลดความทุกข์

เปิดใจให้กว้าง เมตตาต่อตนเอง

อดกลั้นต่อผู้อื่น จึงจะมีชีวิตที่สุขสบาย

ดำเนินชีวิตด้วยความเยือกเย็น นิ่งสงบ ไม่เร่งร้อน

…………………………….
ขอบคุณที่มา  fb. วัดป่าสุคะโต  ธรรมชาติที่พักใจ

คัดลอกมาจาก.....ตังเก ศรีราชา

1538745_485224538272498_2477560010032727278_n




Create Date : 22 มกราคม 2558
Last Update : 22 มกราคม 2558 10:39:07 น.
Counter : 1632 Pageviews.

1 comment
### ความเมตตาของหลวงพ่อคำเขียน ###













ความเมตตาของหลวงพ่อคำเขียน

หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ

มาจำพรรษาแรกที่วัดป่าสุคะโตเมื่อปี ๒๕๑๙

ความตั้งใจของท่านแต่เดิมคือ

เพื่อปักหลักที่ใดที่หนึ่งเพื่อสอนกรรมฐานอย่างต่อเนื่อง

 แต่มาอยู่ได้ไม่นาน ชาวบ้านจากบ้านท่ามะไฟหวาน

ก็นิมนต์ให้ท่านไปเป็นเจ้าอาวาสที่นั่น เพราะขาดพระ

ท่านรับปากเพราะคิดว่าจะไปเพียงชั่วคราว

ครั้นไปถึงก็พบว่าชาวบ้านที่นั่นมีปัญหาหลายอย่าง

หนึ่งในนั้นก็คือ เด็กเล็กที่เจ็บป่วย

เพราะตามพ่อแม่ไปทำไร่ในที่ไกล ๆ

บางคนถึงกับป่วยหนักจนตาย

ท่านเห็นแล้วก็ไม่สามารถนิ่งดูดายได้

จึงแก้ปัญหาด้วยการรับเด็กเล็กเหล่านั้นมาดูแลที่วัด

 จะได้ไม่ต้องไม่เจอโรคภัยในป่า

นั่นคือจุดเริ่มต้นของศูนย์เด็กเล็กแห่งแรก

ของจังหวัดชัยภูมิ

 ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางความหวาดระแวง

ของเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะภูโค้งเมื่อปี ๒๕๒๑

 เป็นเขต “สีชมพู” คือเป็นเขต

แทรกซึมของคอมมิวนิสต์

สิ่งที่หลวงพ่อทำเวลานั้นผิดแผกจากพระทั่วไป

 ทางการจึงสันนิษฐานว่าท่านอาจเป็น

แนวร่วมกับคอมมิวนิสต์

แต่ที่จริงหลวงพ่อทำเพราะเมตตาจิตล้วน ๆ

 อยากช่วยเหลือเด็กเล็ก ๆ และชาวบ้าน

เท่าที่ท่านจะทำได้

เป็นเพราะศูนย์เด็กนี้เอง

 ข้าพเจ้าจึงได้รู้จักกับหลวงพ่อคำเขียน ในปี ๒๕๒๓

ได้ปีนเขาขึ้นมาที่วัดภูเขาทอง

(สมัยนั้นยังไม่มีถนนจากแก้งคร้อขึ้นมา)

เพื่อดูว่าจะช่วยเหลืออะไรท่านได้บ้าง

เพราะตอนนั้นข้าพเจ้ายังเป็นฆราวาส

ทำงานสนับสนุนพระและชาวบ้าน

ที่ช่วยเหลือเด็กขาดอาหาร

อันเป็นปัญหาใหญ่ของเมืองไทยเมื่อ ๓๐ กว่าปีก่อน

 จำได้ว่าเมื่อมาพักแรมที่วัดภูเขาทอง

หลวงพ่อให้การดูแลอย่างอบอุ่น

จัดหาที่หลับที่นอนและหมอนมุ้งให้ด้วยตัวท่านเอง

 เมื่อข้าพเจ้ามาบวชอยู่กับท่านที่วัดป่าสุคะโต

 ก็ยังเห็นท่านดูแลเอาใจใส่อาคันตุกะอย่างดีเช่นเดิม

 ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังสาละวนกับกิจอื่นอยู่

หลวงพ่อก็จัดที่นอนให้แก่อาคันตุกะ

เสร็จเรียบร้อยแล้ว

 โดยที่ข้าพเจ้ายังไม่ทันได้ทำอะไรเลย

อาคันตุกวัตรของหลวงพ่อนั้น

เป็นที่น่าประทับใจมาก ท่านถือเป็นธุระของท่านเอง

 ไม่เคยปล่อยหรือสั่งให้ศิษย์หรือพระลูกวัด

อย่างข้าพเจ้าทำเลย เป็นเช่นนี้อยู่นาน

จนภายหลังท่านมีอายุมาก

 อีกทั้งมีพระและอุบาสกอุบาสิกา

อยู่ประจำวัดมากขึ้น ท่านจึงวางมือในเรื่องนี้

อย่างไรก็ตามความใส่ใจอาคันตุกะของท่าน

ก็ยังมีอยู่อย่างสม่ำเสมอ

เมื่อท่านย้ายมาจำพรรษาที่วัดป่าสุคะโต

ท่านมีโครงการหลายอย่างเพื่อช่วยชาวบ้าน

บางอย่างก็ได้ลงมือทำ เช่น พุทธเกษตร

เพื่อชักชวนชาวบ้านหันมาหา

การทำเกษตรเพื่อพึ่งตนเอง

แทนที่จะปลูกแต่มันหรืออ้อยเพื่อขาย

ซึ่งมีแต่จะทำให้เป็นหนี้มากขึ้น

 บางอย่างก็เป็นแค่ความคิดแต่ไม่ได้ลงมือ

เช่น การฝึกอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าให้แก่ชาวบ้าน

 ท่านตั้งใจจะหาทุนซื้อจักรเย็บผ้ามาไว้ที่ศาลานอก

ให้ชาวบ้านได้ฝึกมือ แต่โครงการนี้ก็ไม่ได้ทำ

 เพราะระยะหลังหลวงพ่อหันมาเน้นหนัก

การสอนกรรมฐานมากขึ้น

เนื่องจากมีคนเข้ามาฝึกสติกับท่านอย่างต่อเนื่อง

ความเมตตาของหลวงพ่อไม่ได้มีกับคนเท่านั้น

กับต้นไม้ ท่านก็มีมาก

ท่านรักป่าและใส่ใจต้นไม้มาก

เวลาเดินสำเร็จป่า หากเห็นต้นไม้ล้มแต่ยังไม่ถึงตาย

ท่านจะพยายามพยุงและช่วยชีวิตต้นไม้เหล่านั้น

ท่านเล่าว่า ตอนเป็นฆราวาสไม่เคยมีนิสัยเช่นนี้

 เห็นต้นไม้ก็คิดแต่จะตัด

 แต่กรรมฐานได้เปิดใจท่าน

ให้มีเมตตาต่อสรรพชีวิต

 ไม่ว่า คน สัตว์ หรือต้นไม้

ท่านจึงพยายามอนุรักษ์ป่าที่วัดป่าสุคะโต

อย่างเต็มที่แม้อุปสรรคจะมากมาย

ขณะเดียวกันก็ปลูกป่าที่วัดภูเขาทองจนร่มครึ้ม

 ทั้ง ๆ ที่ตอนท่านมานั้น วัดภูเขาทองโล่งเตียน

เพราะเจ้าอาวาสองค์เก่าตัดต้นไม้หมด

เนื่องจากเป็นอุปสรรคต่อการเล่นว่าว

แม้ทุกวันนี้หลวงพ่อชรามากแล้ว

เรี่ยวแรงก็ถดถอย แต่ภาพหลวงพ่อปลูกต้นไม้

 รดต้นไม้ ก็ยังเป็นภาพที่คนวัดเห็นคุ้นตา

ท่านไม่ได้สอนเท่านั้น แต่ท่านทำให้ดู

และทำด้วยใจรัก ธรรมชาติที่วัดป่าสุคะโต

จึงเจริญงอกงาม สร้างความรื่นรมย์แก่ผู้เยี่ยมเยือน

และผู้อาศัยจนทุกวันนี้

เขียนเล่าเรื่องพระไพศาล วิสาโล


ขอบคุณที่มา fb. วัดป่าสุคะโต เพื่อธรรมะและธรรมชาติ






Create Date : 21 มกราคม 2558
Last Update : 21 มกราคม 2558 21:44:16 น.
Counter : 1042 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ