Group Blog
All Blog
### ปล่อยวางอย่างรับผิดชอบ ###






















ปล่อยวางอย่างรับผิดชอบ

...............

“ปล่อยวาง กับปล่อยปละละเลย
นั้นไม่เหมือนกัน บางคนเข้าใจว่า
ปล่อยวางหมายถึงอยู่เฉยๆ งอมืองอเท้า
นี่เป็นความเข้าใจผิด ปล่อยวางแบบพุทธ
หมายถึง ปล่อยวางที่ใจ ไม่ยึดมั่นถือมั่น
ว่าเป็นของเรา หรือยึดมั่นให้มันเป็น
ไปตามใจเราก็จริง แต่ก็ต้องดูแล
เอาใจใส่ ด้วยความรับผิดชอบ”


พระไพศาล วิสาโล












ขอบคุณที่มาจาก fb. พระสุรินทร์ ก่อนการคิด วัดป่าสุคะโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 15 สิงหาคม 2558
Last Update : 15 สิงหาคม 2558 16:37:04 น.
Counter : 929 Pageviews.

0 comment
### เหตุใดพระภิกษุสงฆ์ต้องออกบิณฑบาตร ###




















การบิณฑบาตเป็นกิจวัตรของพระภิกษุ

ที่ต้องบำเพ็ญทุกเช้า

 ทั้งนี้เพราะพระพุทธองค์มีพระประสงค์ให้พระภิกษุ

มีชีวิตเกี่ยวเนื่องกับชาวบ้าน

 ในขณะที่พระภิกษุสอนธรรมแก่ชาวบ้าน

ชาวบ้านก็ถวายอาหารแก่พระด้วยศรัทธา

 ดังนั้นการบิณฑบาตทุกเช้า

จึงเป็นเครื่องเตือนใจพระภิกษุว่าควรทำตนให้น่าศรัทธา

 นั่นคือปฏิบัติตามพระธรรมวินัย

ขณะเดียวกันก็ควรทำตนให้เป็นคนเลี้ยงง่าย กล่าวคือ

 พอใจในสิ่งที่ได้รับ ไม่เรียกร้องขออะไรจากชาวบ้าน

ตระหนักอยู่เสมอว่า ฉันอาหารเพื่อมีกำลังในการปฏิบัติธรรม

มิใช่เพื่อปรนเปรอกิเลส

ส่วนญาติโยมก็ได้มีโอกาสทำบุญด้วยการให้ทาน

เพื่อลดละกิเลสและความยึดติดถือมั่นในทรัพย์

พระไพศาล วิสาโล

































ขอบคุณที่มา fb. วัดป่าสุคะโต ธรรมชาติที่พักใจ
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ




Create Date : 15 สิงหาคม 2558
Last Update : 15 สิงหาคม 2558 16:27:17 น.
Counter : 5067 Pageviews.

0 comment
### บุญที่มีอานิสงค์มาก ###




















บุญที่มีอานิสงค์มาก
.....................

“ชีวิตที่ไม่รู้จักให้คือชีวิตที่หม่นหมองไร้สุข 

ความสุขที่แท้มิได้เกิดจากการเสพหรือการมีมาก ๆ

แต่อยู่ที่การสละออกไป เริ่มจากสละวัตถุสิ่งของ

ไปจนถึงสละความยึดติดถือมั่นในตัวตน 

สละได้มากเท่าใด ก็ช่วยให้เราอยู่ในโลกนี้

อย่างผาสุกมากเท่านั้น อีกทั้ง

ยังทำให้เราจากโลกนี้ไปได้อย่างสงบสุขด้วย”

พระไพศาล วิสาโล














ขอบคุณที่มา fb. วัดป่าสุคะโต เพื่อธรรมะและธรรมชาติ




Create Date : 14 สิงหาคม 2558
Last Update : 14 สิงหาคม 2558 21:30:03 น.
Counter : 1191 Pageviews.

0 comment
### ความตายคือโอกาส ###





















อันที่จริงถ้ารู้จักความตายอยู่บ้าง 

ก็จะรู้ว่าความตายนั้นมิใช่เป็นแค่ “วิกฤต” เท่านั้น 

แต่ยังเป็น “โอกาส”อีกด้วย

กล่าวคือเป็นวิกฤตในทางกาย 

แต่เป็นโอกาสในทางจิตวิญญาณ


ในขณะที่ร่างกายกำลังแตกดับ ดิน น้ำ ลม ไฟ 

กำลังเสื่อมสลาย หากวางใจได้อย่างถูกต้อง 

ก็สามารถพบกับความสงบ 

ทุกขเวทนาทางกายมิอาจบีบคั้นบั่นทอนจิตใจได้

มีผู้คนเป็นจำนวนมากได้สัมผัสกับความสุข

และรู้สึกโปร่งเบาอย่างยิ่ง

เมื่อป่วยหนักในระยะสุดท้าย

เพราะความตายมาเตือน

ให้เขาปล่อยวางสิ่งต่าง ๆ ที่เคยแบกยึดเอาไว้

หลายคนหันเข้าหาธรรมะ

จนค้นพบความหมายของชีวิตและความสุขที่แท้ 

ขณะที่อีกหลายคนเมื่อรู้ว่า

เวลาเหลือน้อยแล้วก็หันมาคืนดีกับคนรักจนไม่ 

เหลือสิ่งค้างคาใจใด ๆ

และเมื่อความตายมาถึง

มีคนจำนวนไม่น้อยที่จากไปอย่างสงบ

โดยมีสติรู้ตัวกระทั่งนาทีสุดท้าย

ยิ่งไปกว่านั้นมีบางท่านที่เห็นแจ้งในสัจธรรม

จากทุกขเวทนาอันแรงกล้าที่ปรากฏเฉพาะหน้า

จนเกิดปัญญาสว่างไสว

และปล่อยวางจากความยึดติดถือมั่นในสิ่งทั้งปวง

บรรลุธรรมขั้นสูงได้ใน ขณะที่หมดลมนั้นเอง

พระไพศาล วิสาโล











Create Date : 14 สิงหาคม 2558
Last Update : 14 สิงหาคม 2558 12:51:55 น.
Counter : 2479 Pageviews.

0 comment
### กตัญญููต่อผู้มีพระคุณ ###



























 ·

.

เรื่องเล่าเช้าวันพระ:

กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ

..................

พระราชสุเมธาจารย์ (โรเบิร์ต สุเมโธ)
เขียนเล่าเรื่อง พระไพศาล วิสาโล

พระอาจารย์สุเมโธ เดิมชื่อโรเบิร์ต แจ๊กแมน

เป็นพระฝรั่งรูปแรกที่เป็นศิษย์ของหลวงพ่อชา สุภัทโท

 ภายหลังได้เป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดป่านานาชาติ

ต่อมาได้เป็นกำลังสำคัญในการก่อตั้งวัดป่าจิตวิเวก

และวัดอมราวดีในประเทศอังกฤษ

ตามมาด้วยวัดสาขาอีกมากมายในยุโรปและอเมริกา

ทำให้สมาธิภาวนาและวัตรปฏิบัติแบบพระป่า

เป็นที่รู้จักในโลกตะวันตก จนท่านได้รับเลื่อนสมณศักดิ์

เป็นพระราชสุเมธาจารย์

ท่านเดินทางมายังเมืองไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๐๙

เพราะมีความสนใจในพุทธศาสนาตั้งแต่อยู่ที่ประเทศมาเลเซีย

 เมื่อได้บำเพ็ญกรรมฐานที่วัดมหาธาตุ ฯ ท่าพระจันทร์

 ก็มีความสนใจอยากบวชพระ

ท่านเริ่มต้นชีวิตบรรพชิตด้วยการเป็นสามเณร

โดยมีพระราชปรีชาญาณมุนีเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย

เป็นอุปัชฌาย์ หลังจากที่ได้ทำกรรมฐานอย่างเข้มข้น

อย่างลำพังในกุฏิเป็นเวลาหนึ่งปี ท่านตระหนักถึงความสำคัญ

ของการมีครูบาอาจารย์เพื่อแนะนำการปฏิบัติให้ถูกทาง

 จึงเริ่มแสวงหาอาจารย์กรรมฐานที่พึ่งพาได้

ระหว่างอยู่ที่ประเทศลาวเพื่อต่อวีซ่าเข้าเมืองไทย

 ท่านได้พบพระไทยรูปหนึ่ง ชื่อพระสมหมาย มีกิริยาน่าเลื่อมใส

 พระสมหมายได้พรรณนาถึงอาจารย์ของท่าน

ที่จังหวัดอุบลราชธานี สามเณรสุเมโธฟังแล้วก็เกิดความสนใจ

อยากไปศึกษาปฏิบัติกับท่าน อาจารย์รูปนั้น

คือหลวงพ่อชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง

 เมื่อคิดว่าพบอาจารย์แล้ว ท่านได้ตัดสินใจบวชพระ

 โดยกลับไปอุปสมบทที่หนองคาย

 มีพระราชปรีชาญาณมุนีเป็นอุปัชฌาย์เช่นเคย

พระสมหมายเป็นทั้งผู้แนะนำ

และผู้พาพระสุเมโธไปกราบหลวงพ่อชาเป็นครั้งแรก

ท่านจึงรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณพระสมหมาย

แต่เมื่ออยู่ด้วยกันได้ไม่นาน ท่านก็เริ่มมีปัญหากับพระรูปนี้

 ทั้งนี้เพราะพระสมหมายป็นผู้ที่เคร่งครัดในพระวินัยมาก

แต่ด้วยความยึดติดถือมั่นในพระวินัย ท่านจึงจู้จี้ขี้บ่น

และเพ่งโทษจับผิดผู้อื่นเป็นประจำ

พระสุเมโธจึงรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจมาก

ในเวลาต่อมาพระสมหมายได้ลาสิกขาบท

กลับไปเป็นฆราวาสได้ไม่กี่ปี วิถีชีวิตก็เหวี่ยงไปในทางตรงข้าม

 จากพระที่เคร่งวินัย กลายเป็นคนขี้เหล้าเมายา

พระสุเมโธจึงรู้สึกผิดหวังและรังเกียจทิดสมหมายมาก

ไม่อยากให้ใครรู้ว่าทิดสมหมายเป็นผู้พาท่านมาวัดหนองป่าพง

 เมื่อเรื่องนี้ทราบถึงหูหลวงพ่อชา ท่านก็เตือนสติพระสุเมโธ

ให้สำนึกถึงบุญคุณของทิดสมหมาย

 และปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ

“นี่สุเมโธ เวลาเห็นสมหมาย ต้องเรียก “อาจารย์”ทุกครั้ง

ต้องเรียกว่า “อาจารย์สมหมาย”

 ต้องแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อสมหมาย

 เพราะสมหมายเป็นผู้ที่พาสุเมโธมาพบหลวงพ่อ

ถ้าไม่มีสมหมาย สุเมโธก็ไม่ได้มาที่วัดหนองป่าพง”

คำพูดของหลวงพ่อชาทำให้ท่านเปลี่ยนทัศนคติ

ที่เคยมีกับทิดสมหมาย ความเกลียดชังหายไป

 มีแต่ความสำนึกในบุญคุณมาแทนที่

เวลาพบทิดสมหมาย ท่านจะเรียกว่า “อาจารย์สมหมาย”ทุกครั้ง

เมื่อท่านไปตั้งวัดที่ประเทศอังกฤษ ทุกครั้งที่กลับมาเมืองไทย

 ท่านจะหาโอกาสไปเยี่ยมอาจารย์สมหมาย

พร้อมของฝากเป็นประจำ

ส่วนทิดสมหมายนั้น ชีวิตมีแต่ตกต่ำย่ำแย่ลง

ปล่อยตัวปล่อยใจจนติดเหล้าอย่างหนัก กลายเป็นโรคสุราเรื้อรัง

 ถึงขั้นสติฟั่นเฟือน กลายเป็นคนเร่ร่อน

แต่ก็ได้รับการสงเคราะห์จากพระผู้ใหญ่ที่เคยรู้จักกัน

 สร้างกระต๊อบให้อยู่หลังวัด อาศัยข้าวก้นบาตร

และเก็บขยะขายไปวัน ๆ

แต่แล้ววันหนึ่งขณะที่เดินข้ามถนนเพื่อไปขอเศษอาหารในตลาด

ได้ถูกรถเมล์พุ่งชนอย่างแรงจนเสียชีวิต

หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

หลวงพ่อชาได้แนะให้พระอาจารย์สุเมโธอุทิศส่วนกุศล

จากการปฏิบัติให้แก่ทิดสมหมาย

ท่านได้น้อมรับและยินดีปฏิบัติตามจวบจนทุกวันนี้

พระอาจารย์สุเมโธเคยกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า

 “เพราะอาจารย์สมหมายพาเรามาพบหลวงพ่อชา

จึงทำให้มีพระสุเมโธในปัจจุบัน....

อาจารย์สมหมายจึงมีบุญคุณกับเรา มีคุณต่อพระพุทธศาสนา

 ส่วนอาจารย์สมหมายจะสึกแล้วไปติดเหล้า นั่นเป็นเรื่องของท่าน

 แต่เป็นหน้าที่ของพระสุเมโธที่ควรแสดงความกตัญญูกตเวที”

เรื่องราวของทิดสมหมายนั้นเป็นคติสอนใจได้หลายอย่าง

 นอกจากให้ข้อคิดเกี่ยวกับ

การมองผู้มีพระคุณอย่างรู้จักแยกแยะแล้ว

ยังสะท้อนถึงภูมิธรรมของหลวงพ่อชาอีกด้วย

 แม้ท่านเป็นผู้เคร่งครัดในวินัยและใฝ่ธรรมอย่างยิ่ง

แต่เมื่อศิษย์ของท่านกลายเป็นขี้เหล้าเมายา

 ประพฤติตนไม่สมกับเป็นชาวพุทธหรือศิษย์หนองป่าพง

ท่านก็ไม่ได้โกรธหรือรังเกียจแต่อย่างใด

หากยังมีความเมตตา และแนะนำให้ศิษย์ผู้น้อง

สำนึกในบุญคุณของเขา

และแสดงความกตัญญูเป็นการตอบแทน

ความดีนั้นหากยึดมั่นถือมั่นหรือ “ติดดี”เมื่อใด

ก็อาจทำให้เกิดความโกรธเกลียดผู้ที่ไม่ดีเหมือนตน

หรือไม่ดีอย่างที่ตนคาดหวังก็ได้

 แต่หลวงพ่อชานั้น ท่านทำดีโดยไม่ติดดี

จึงสามารถคงความดี

และมีความดีให้แม้กระทั่งผู้ที่พลัดตกจากความดีหรือผิดศีล

ชีวิตที่ผกผันของทิดสมหมายยังเป็นอนุสติเตือนใจว่า

 ผู้ที่เคร่งครัดในวินัย จนเห็นแต่ความผิดพลาดของผู้อื่นนั้น

 หากไม่ระมัดระวัง ก็อาจพลิกกลับเป็นตรงข้าม

ตกต่ำย่ำแย่ยิ่งกว่าคนที่ไม่เคยบวชพระหรือศึกษาธรรมวินัยเลยก็ได้

 จะว่าไปแล้วสองขั้วที่อยู่ตรงข้ามกันนั้น ไม่ได้ห่างกันเลย

 แต่อยู่ใกล้กันมาก หากประมาทเมื่อใดก็อาจพลั้งพลาด

สู่ทางสุดโต่งอีกด้านหนึ่งจนถึงแก่ความหายนะ















ขอบคุณที่มา fb. วัดป่าสุคะโตธรรมชาติที่พักใจ
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ




Create Date : 14 สิงหาคม 2558
Last Update : 14 สิงหาคม 2558 11:56:39 น.
Counter : 1332 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ