อ ยู่ เ ป็ น สุ ข จ า ก ไ ป ไ ม่ ก่ อ ทุ ก ข์
.
พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต เป็นวิปัสสนาจารย์
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดรูปหนึ่งของเมืองไทยยุคปัจจุบัน
ท่านเป็นคนต้นรัชกาลที่ ๕(เกิด พ.ศ. ๒๔๑๓)
แต่กิตติศัพท์และแบบอย่างชีวิตของท่าน
ยังมีอิทธิพลอย่างยิ่งในทุกวันนี้
.
ชีวิตของท่านนับแต่เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
เป็นชีวิตที่แนบเนื่องกับการหลีกเร้นบำเพ็ญธรรมในป่าเขา
สมัยที่ยังเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์นานาชนิด
ท่านเป็นแบบอย่างของผู้สูงส่งด้วยภูมิปัญญา
หากเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ไม่เบียดเบียน
เต็มเปี่ยมด้วยเมตตาต่อสรรพชีวิต
แม้ในยามที่ท่านใกล้จะมรณภาพ
ก็ยังคำนึงถึงสัตว์น้อยใหญ่ที่อาจเดือดร้อน
เพราะการดับขันธ์ของท่าน
ท่านจึงเร่งรัดให้ลูกศิษย์พาท่านออกจากหมู่บ้านหนองผือ
ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดสกลนคร
จุดมุ่งหมายปลายทางคือตัวเมืองสกลนคร
อันเป็นสถานที่ที่สามารถรับการหลั่งไหลของผู้คน
ที่จะมาเคารพศพท่านได้
.
ในการกล่าวเตือนศิษย์หาของท่าน ท่านได้พูดตอนหนึ่งว่า
.
ผมน่ะต้องตายแน่นอนในคราวนี้
ดังที่เคยพูดไว้แล้วหลายครั้ง
แต่การตายของผมเป็นเรื่องใหญ่
ของสัตว์และประชาชนทั่วๆ ไปอยู่มาก
ด้วยเหตุนี้ผมจึงเผดียงให้ท่านทั้งหลาย
ให้ทราบว่าผมไม่อยากตายอยู่ที่นี่
ถ้าตายที่นี่จะเป็นการกระเทือน
และทำลายชีวิตสัตว์ไม่น้อยเลย
สำหรับผมตายเพียงคนเดียว
แต่สัตว์ที่พลอยตายเพราะผมเป็นเหตุนั้นมีจำนวนมากมาย
เพราะคนจะมามากทั้งที่นี่ไม่มีตลาดแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน
.
นับแต่บวชมา ไม่เคยคิดให้สัตว์ได้รับความลำบาก
โดยไม่ต้องพูดถึงการฆ่าเขาเลย มีแต่ความสงสาร
เป็นพื้นฐานของใจตลอดมา ทุกเวลาได้แผ่เมตตาจิต
อุทิศส่วนกุศลแก่สัตว์ไม่เลือกหน้า
โดยไม่มีประมาณตลอดมา
เวลาตายแล้วจะเป็นศัตรูคู่เวรแก่สัตว์ให้เขาล้มตายลง
จากชีวิตที่แสนรักสงวนของแต่ละตัว
เพราะผมเป็นเหตุเพียงคนเดียวนั้น ผมทำไม่ลง
อย่างไรขอให้นำผมออกไปตายที่สกลนคร
เพราะที่นั้นเขามีตลาดอยู่แล้ว
คงไม่กระเทือนชีวิตของสัตว์มากเหมือนที่นี่
.
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
........................
จากหนังสือลำธารริมลานธรรม
เรียบเรียงโดย พระไพศาล วิสาโล
ขอบคุณที่มา fb. วัดป่า
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ